เอาธรรมะ มาฝากครับ มีการวิเคราะห์ถึงวอร์เรน บัตเฟตต์ ด้วย

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
nyeb
Verified User
โพสต์: 20
ผู้ติดตาม: 0

เอาธรรมะ มาฝากครับ มีการวิเคราะห์ถึงวอร์เรน บัตเฟตต์ ด้วย

โพสต์ที่ 1

โพสต์

จากบทสุดท้าย ของเดอะท็อปซีเคร็ต

  ถ้านักวิทยาศาสตร์ค้นพบวิธี ที่จะทำให้มนุษย์สามารถสังเคราะห์แสงได้ ดูดซึมคาร์บอนจากอากาศมาสร้างเป็นอาหารได้เองเหมือนกับพืช มนุษย์ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานกับความหิว ความอยากอีกต่อไป  แต่มีข้อแม้ว่า มนุษย์คนนั้นจะต้องเลิกกินอาหารทางปากตลอดชีวิต เพราะถ้าเผลอกินเข้าไป ปฏิกิริยาเคมีของการย่อยจะสวนทางกับปฏิกิริยาเคมีของการสร้างในกระบวนการสังเคราะห์แสง คนๆนั้นจะเสียชีวิตทันที

     ถามว่า เราจะเอาไหม เราจะยอมแลกรสชาติ เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม อร่อยลิ้น กับ ความที่ไม่ต้องอยากอาหารอีกต่อไปเลยไหม

    เช่นเดียวกัน ถ้าวงการแพทย์ค้นพบยาวิเศษ ที่กินเข้าไปเพียงเม็ดเดียว แล้วทำให้กิเลส ตัณหา ในเรื่องเพศ หายไปหมดสิ้น ตัดกาเมบรรลุโสดาบันได้ง่ายๆ  ถามว่า เราจะยอมกินยาเม็ดนั้นไหม

    9 ใน 10 คนของมนุษย์ปุถุชน ไม่ยอมแน่นอน ที่เหลืออีกหนึ่งคน ยังลังเล  มิฉะนั้น ไวอากร้า คงไม่ขายดี จนสร้างผลกำไรให้บริษัทที่ผลิตยาอย่างถล่มทลายมากกว่ายาทุกชนิดที่บริษัทนั้นเคยผลิตมา  

    ไม่เฉพาะทวารลิ้นกับกาย อีกสี่ทวารที่เหลืออานุภาพรุนแรงกว่าสองทวารนี้หลายเท่า  ทั้งตา หู จมูก ใจ  ทวารทั้งหกนี่เอง ที่ดึงดูดมนุษย์ไว้ ให้ไม่สามารถหลุดจากวังวนแห่งสังสารวัฏได้  

      เรามักยึดติดกับ สุขเวทนา ตัณหา ที่ได้จากทวารทั้งหก จนลืมไปว่า ความว่างต่างหาก คือความสุขที่แท้จริง ในขณะที่สิ่งเร้าต่างๆเข้ากระทบทางทวารหกอย่างต่อเนื่องมาทั้งวัน ช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดกลับเป็น ตอนที่ได้นอนอย่างสงบ เงียบ สบาย และหลับลึกปิดทวาร ไปจนถึงเช้า

      ความทุกข์ที่มนุษย์ได้รับจากกิเลส ตัณหา ส่งผลรุนแรงมากมายนัก ทุกๆวันผู้คนเกือบห้าสิบล้านคน บนโลกนี้ จะต้องกินยานอนหลับก่อนนอน ยากล่อมประสาทกว่าหนึ่งหมื่นล้านเม็ดถูกผลิตขึ้นในแต่ละปี  ยังไม่นับยาลดความอ้วน ยาอี ยาไอ๊ซ ทั้งหลาย ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อช่วยสกัดทุกขเวทนาของมนุษย์

      ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ใช่เพราะอิทธิฤทธิ์ของทวารเหล่านี้ดอกหรือ ที่ทำให้เกิดโลภะ โทสะ โมหะ  จี้ปล้น ทะเลาะวิวาท ข่มขืน ทำร้ายร่างกาย หรือเล็กๆน้อยๆอย่าง การดูถูก เอารัดเอาเปรียบ อิจฉาริษยา ฯลฯ ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้จะฝังอยู่ในภวังคจิต เหนี่ยวนำให้มีการเกิดใหม่ เพื่อชดใช้กรรมที่เคยทำไว้กับคนอื่นๆ อันเนื่องมาจากแรงขับแห่ง ราคะ โลภะ โทสะ โมหะ

    การหลงในสุขเวทนาของผัสสะแห่งทวารเหล่านี้ก็ไม่ต่างไปจากการติดยาเสพติด ที่ต้องเพิ่มขนาดความถี่และความเข้มของสิ่งเร้ามากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเมื่อเกิดสุขเวทนาครั้งแรก จะเกิดสัญญา สังขาร วิญญาณ มารับรู้และมีอาการชิน ถ้าผัสสะในครั้งต่อไปไม่รุนแรงขึ้น สุขเวทนาที่ได้จะลดลง ก่อให้เกิดกิเลส ตัณหา ความต้องการอยากจะได้รับมากขึ้นเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด กิเลสของมนุษย์พองตัวเร็วกว่าอะไรทั้งหมด และเมื่อใดก็ตาม ผัสสะที่เคยได้รับให้เกิดสุขเวทนา ขาดหายไปกระทันหัน จะมีอาการ ลงแดง การลงแดงในผู้ติดยาเสพติดเป็นปฏิกิริยาทางกาย แต่การลงแดงในกรณีขาดผัสสะเป็นปฏิกิริยาทางใจ  

    เมื่อเกิดปัญญาหยั่งรู้ เห็นโทษของกิเลสตัณหา ที่ได้รับจากผัสสะแห่งทวาร จะรู้ว่ามันก็คือยาพิษดีๆนี่เอง ดังนั้นถ้า นักวิทยาศาสตร์ค้นพบวิธีที่จะสกัดชิวหาตัณหาได้ หรือ แพทย์สามารถคิดยาที่สกัดกามตัณหาได้อย่างชะงัดร้อยเปอร์เซ็นต์ ความคิดเราจะตรงกันข้าม คือ รีบคว้ายาเม็ดนั้นกินเข้าไปทันที

    แต่ในความเป็นจริงแล้ว การจะสกัดตัณหา ไม่ง่ายอย่างนั้น สิ่งที่จะสกัดกิเลส ตัณหาได้ มีเพียงสิ่งเดียว คือ สติสัมปชัญญะ  
   
     และสติสัมปชัญญะนี่เอง ที่ใช้เป็นตัวจับความรู้สึกลบจากกรรมเก่าได้ แล้วใช้ความคิดบวกซึ่งเป็นกรรมปัจจุบันเข้าไปปิดทับ ค่อยๆใช้จิตสำนึกเปลี่ยนความรู้สึกจากลบให้เป็นบวก จะพบว่าวิถีชีวิตเราเปลี่ยนไปตามความรู้สึกใหม่นั้น

    เมื่อมีสติสัมปชัญญะในระดับที่จับความรู้สึกได้ จะสามารถตัด ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน ได้โดยอัตโนมัติ ผู้ที่ค้นพบความลับของเดอะซีเคร็ต  ในระยะเริ่มแรก อาจจะตื่นเต้น และแสดงอิทธิฤทธิ์อันได้มาจากความลับนั้นอย่างเต็มที่ ดังเช่นที่เราพบในศิลปินระดับอัจฉริยะ นักวิทยาศาสตร์เก่งๆ  นักแสดงมืออาชีพ  นักแต่งเพลงชั้นนำ  นักเขียนชั้นเลิศ  ฯลฯ  แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งที่เริ่มเข้าใจในสัจจธรรม เขากลับหยุดการสร้างสรรค์ งานต่างๆโดยสิ้นเชิง บางคนทุ่มเงินทั้งหมดไปกับการสร้างวัดในจินตนาการ ไม่ใช่เพราะฝีมือตก หรือสร้างภาพแห่งความรู้สึกไม่ได้อีก แต่เพราะเกิดความรู้สึกพอแล้ว  วอร์เรน บัฟเฟตต์  มหาเศรษฐีอันดับต้นๆของสหรัฐอเมริกา ถึงขนาดบริจาคเงินเกือบทั้งหมดที่เขามีนับหมื่นล้านดอลล่าร์ เข้ามูลนิธิการกุศล และตัวเขาก็กลับไปอยู่บ้านเล็กๆ ขับรถเก่าๆ ใส่เสื้อผ้าที่ซื้อมาเมื่อหลายปีก่อน  แน่นอนว่า สมัยที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เริ่มเข้าวงการค้าหุ้น เขาต้องเคยใช้ความลับของเดอะซีเคร็ตมาก่อนจนประสบความสำเร็จ แต่เมื่อเกิดสติสัมปชัญญะ เกิดปัญญา เขากลับมองว่า สิ่งที่เขาได้มา จนมีทรัพย์สินเป็นแสนๆล้านบาท ไม่ได้ให้ความสุขที่แท้จริงแก่เขา

       เช่นเดียวกับ บิล เกตต์  ที่ได้อธิบายไว้ในบทที่สองแล้วว่า ระบบปฎิบัติการวินโดว์ ของเขา ก็มาจากพรสวรรค์ทางด้านการสร้างภาพแห่งความรู้สึก แล้วคิดย้อนกลับ  หลังจากนั้นเขาได้นำความลับนี้มาพัฒนาให้กับระบบต่างๆของไมโครซอฟท์อีกนับไม่ถ้วน จนรู้สึกเบื่อ  เขาวางแผนในอนาคตไว้ว่าจะบริจาคเงินส่วนใหญ่เข้ามูลนิธิการกุศล เหลือเพียงส่วนหนึ่งไว้ให้กับคนใกล้ชิด  ส่วนตัวเขาเอง จะเลิกทำงานด้านคอมพิวเตอร์ หันไปทุ่มเทอุทิศกายและใจให้กับการสำรวจโครงกระดูกไดโนเสาร์

       ขนาดระดับมหาเศรษฐีหลายแสนล้านบาทจนถึงล้านล้านบาท อย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ กับ บิล เกตต์ ยังพยายามไขว่คว้าหาความสุขที่แท้จริง คงจะสรุปได้เสียทีว่า เงิน ซื้อความสุขที่จริงแท้ไม่ได้

       สิ่งที่เดอะท็อปซีเคร็ต พยายามเปิดเผยสุดยอดความลับ ที่เหนือกว่า เดอะซีเคร็ต ก็คือ ความสุขที่ได้จากเดอะท็อปซีเคร็ต สามารถเป็นได้ถึงความสุขในระดับโลกุตระ อยู่คนระดับกับ เดอะซีเคร็ต ที่เป็นความสุขในระดับโลกียะ

        และที่บิลเกตต์ พยายามค้นหาอยู่ก็คือ ความสุขในระดับโลกุตระ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีโอกาสได้พบกับพระพุทธศาสนา มิฉะนั้น เป้าหมายของเขาต้องไม่ใช่การไปสำรวจ ค้นหา โครงกระดูกไดโนเสาร์ อย่างแน่นอน

    การจะเข้าถึงความสุขทางธรรม ไม่ต้องมีเงินถึงแสนล้านบาท ไม่มีสักบาทก็เข้าถึงได้  ตรงกันข้ามกับคนที่มีเงินถึงล้านล้านบาท ถ้าไม่มีโอกาสก็เข้าไม่ถึง

   เป็นความโชคดีมหาศาลที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ เพราะมนุษย์เท่านั้นที่สามารถฝึกสติให้ถึงระดับที่ตัดกรรมได้ และโชคดีเป็นครั้งที่สองที่ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา เพราะหนทางแห่งการฝึกเจริญสติ เพื่อบรรลุมรรคผลนิพพาน มีเพียงทางเดียวและพระพุทธองค์ก็ทรงตรัสบอกหนทางนั้นไว้อย่างชัดเจนที่สุด เราไม่ควรพลาดโอกาสอันสำคัญนี้ โอกาสที่จะพบสิ่งมีค่าที่สุดในจักรวาล และควรเริ่มตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
doodeemak
Verified User
โพสต์: 411
ผู้ติดตาม: 0

เอาธรรมะ มาฝากครับ มีการวิเคราะห์ถึงวอร์เรน บัตเฟตต์ ด้วย

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณนะครับ  :D

ไว้ว่างๆจะลองไปหาที่นั่งอ่านดูใน B2S ... ซัก 3 ชั่วโมงน่าจะจะจบน๊า  :lol:
Inactive investor
...
Verified User
โพสต์: 1817
ผู้ติดตาม: 0

เอาธรรมะ มาฝากครับ มีการวิเคราะห์ถึงวอร์เรน บัตเฟตต์ ด้วย

โพสต์ที่ 3

โพสต์

doodeemak เขียน:ไว้ว่างๆจะลองไปหาที่นั่งอ่านดูใน B2S ... ซัก 3 ชั่วโมงน่าจะจะจบน๊า  :lol:
สมกับเป็นนักลงทุนเน้นคุณค่าจริงๆคับ  :roll:
แมงเม่าบินเข้ากลางใจ
ฟังหมดแต่เชื่อตัวเอง
Verified User
โพสต์: 117
ผู้ติดตาม: 0

เอาธรรมะ มาฝากครับ มีการวิเคราะห์ถึงวอร์เรน บัตเฟตต์ ด้วย

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ใยรักยังตัดไม่ขาด
ประหลาดใจมาจนทุกวันนี้
จะให้ตัดผัสสะทั้งหมด
แฮ่...คงไม่ไหวละคร้าบ
สุขๆทุกข์ๆแบบทุกวันนี้ก็ขำ ขำ ดีออก...

จาก...บัวใต้น้ำ
ไม่ฟังก็โง่ เชื่อมากก็โง่
Vangogh
Verified User
โพสต์: 170
ผู้ติดตาม: 0

เอาธรรมะ มาฝากครับ มีการวิเคราะห์ถึงวอร์เรน บัตเฟตต์ ด้วย

โพสต์ที่ 5

โพสต์

[quote="..."][quote="doodeemak"]ไว้ว่างๆจะลองไปหาที่นั่งอ่านดูใน B2S ... ซัก 3 ชั่วโมงน่าจะจะจบน๊า
Dare to win...
f.escape
Verified User
โพสต์: 439
ผู้ติดตาม: 0

เอาธรรมะ มาฝากครับ มีการวิเคราะห์ถึงวอร์เรน บัตเฟตต์ ด้วย

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ถ้ามียาเม็ดกินแล้ว ตัดความอยากลงทุนในหุ้นได้  ขอซักเม็ดหนึ่งนะ อยากได้จริงๆ เพราะปีสองปีนี้ที่กลับเข้ามาซื้อหุ้นอีก ก็เข้าแต่เวบ thaiVI จนละเลยเวบธรรมะไป
โพสต์โพสต์