ลุงขวดสะเทือนละเปล่า ช่วย ปลอบขวัญน้องๆ หลานๆ หน่อย
มีลุงขวด กับพี่ครรชิต นะ ตอนนี้ ที่เป็นเสาหลัก แนว VI ที่ยอมเปิดเผย
ลุงขวดครับ หุ้นลงเยอะๆ
-
ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2431
- ผู้ติดตาม: 0
ลุงขวดครับ หุ้นลงเยอะๆ
โพสต์ที่ 2
สะเทือนซิครับ ลงกับเขาเหมือนกัน ตอนนี้ทะยอยได้รับเงินปันผล ก็ มาหาหุ้น โดย ยึดหลัก สำคัญ คือ
1. ให้ปันผลสม่ำเสมอ ทุกปี ตอนนี้หาหุ้นที่ให้ปันผล ระดับ 5-8% ได้ง่ายขึ้น เพราะ ราคาลงมาแล้ว
2. หาหุ้นที่ราคา ต่ำกว่า book value ชักเริ่มมีขึ้นแล้ว ตัวที่เกิน book value ไปเล็กน้อย ก็เริ่มต่ำกว่า book value แล้ว
3. เริ่มเห็น P/E แถว 6-8 เท่า หลายตัวแล้ว ทั้ง ๆ ที่ กิจการ โตขึ้นทุกปี ปีละเล็กน้อย
4. หากิจการที่เก่า ๆ แก่ ๆ โดยเฉพาะพวก ต่างชาติ เช่น ยุโรป และ ญี่ปุ่น ถือร่วมด้วย ส่วนไต้หวันต้องพิจารณาลึก ๆ ลงไปอีกทีหนึ่ง
5. หากิจการที่เข้าใจได้ง่าย ไม่มีการออก warrant หรือ esop
6. หากิจการที่ยอมรับ และ ทำตามกฎเกณฑ์ ที่ตั้งขึ้นโดย ตลาดหลักทรัพย์ เรื่อง รายการเกี่ยวโยง ในด้านจำหน่ายหรือโอนทรัพย์สิน
เมื่อต้นปีกำไรอยู่ 17.68% ตอนนี้เหลือ 5.64% แล้ว ลดลง 12.04% ในขณะที่ดัชนีตลาดลดลง 16.58% ยังชนะตลาดอยู่............ที่สำคัญ ผมไม่ได้สนใจเรื่องราคาเท่าไหร่ ลดลง ก็ ซื้อ (ถ้ามีเงิน)....แต่สนใจ เรื่องเงินปันผล ว่า ทุกปีจะต้องได้ กว่า 10% แต่ปีนี้ รู้สึกจะเหลือ แค่ 6% แต่จะพยายามเพิ่มในด้าน Trading port ให้มากขึ้น คือ ผมมีการแยก ส่วนรายได้ ของเงินลงทุนเป็น 2 ด้านใหญ่ ๆ คือ
1. ด้านรายได้จากเงินปันผล..... เงินรับจากปันผล
2. ด้านรายได้จาก ส่วน capital gain คือ ทำ trading ในหุ้นที่ถืออยู่ ปกติรายได้จากด้านนี้จะมีน้อย.......แต่ปีนี้คิดว่า จะหาทาง เพิ่มให้ได้ เพราะดัชนีคง sideway ให้มีโอกาสซื้อคืนได้บ้าง
นี่เป็นความคิดหนึ่ง ของผู้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ต้องเชื่อผมทุกเรื่อง หรอกครับ........เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเท่านั้นเอง.........ลองฟังความคิดเห็นของคุณครรชิต ร่วม ด้วย ผมอยากฟังเหมือนกัน
1. ให้ปันผลสม่ำเสมอ ทุกปี ตอนนี้หาหุ้นที่ให้ปันผล ระดับ 5-8% ได้ง่ายขึ้น เพราะ ราคาลงมาแล้ว
2. หาหุ้นที่ราคา ต่ำกว่า book value ชักเริ่มมีขึ้นแล้ว ตัวที่เกิน book value ไปเล็กน้อย ก็เริ่มต่ำกว่า book value แล้ว
3. เริ่มเห็น P/E แถว 6-8 เท่า หลายตัวแล้ว ทั้ง ๆ ที่ กิจการ โตขึ้นทุกปี ปีละเล็กน้อย
4. หากิจการที่เก่า ๆ แก่ ๆ โดยเฉพาะพวก ต่างชาติ เช่น ยุโรป และ ญี่ปุ่น ถือร่วมด้วย ส่วนไต้หวันต้องพิจารณาลึก ๆ ลงไปอีกทีหนึ่ง
5. หากิจการที่เข้าใจได้ง่าย ไม่มีการออก warrant หรือ esop
6. หากิจการที่ยอมรับ และ ทำตามกฎเกณฑ์ ที่ตั้งขึ้นโดย ตลาดหลักทรัพย์ เรื่อง รายการเกี่ยวโยง ในด้านจำหน่ายหรือโอนทรัพย์สิน
เมื่อต้นปีกำไรอยู่ 17.68% ตอนนี้เหลือ 5.64% แล้ว ลดลง 12.04% ในขณะที่ดัชนีตลาดลดลง 16.58% ยังชนะตลาดอยู่............ที่สำคัญ ผมไม่ได้สนใจเรื่องราคาเท่าไหร่ ลดลง ก็ ซื้อ (ถ้ามีเงิน)....แต่สนใจ เรื่องเงินปันผล ว่า ทุกปีจะต้องได้ กว่า 10% แต่ปีนี้ รู้สึกจะเหลือ แค่ 6% แต่จะพยายามเพิ่มในด้าน Trading port ให้มากขึ้น คือ ผมมีการแยก ส่วนรายได้ ของเงินลงทุนเป็น 2 ด้านใหญ่ ๆ คือ
1. ด้านรายได้จากเงินปันผล..... เงินรับจากปันผล
2. ด้านรายได้จาก ส่วน capital gain คือ ทำ trading ในหุ้นที่ถืออยู่ ปกติรายได้จากด้านนี้จะมีน้อย.......แต่ปีนี้คิดว่า จะหาทาง เพิ่มให้ได้ เพราะดัชนีคง sideway ให้มีโอกาสซื้อคืนได้บ้าง
นี่เป็นความคิดหนึ่ง ของผู้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ต้องเชื่อผมทุกเรื่อง หรอกครับ........เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเท่านั้นเอง.........ลองฟังความคิดเห็นของคุณครรชิต ร่วม ด้วย ผมอยากฟังเหมือนกัน
-
นักลงทุน
- ผู้ติดตาม: 0
ลุงขวดครับ หุ้นลงเยอะๆ
โพสต์ที่ 4
เวลาคิดว่าได้เงินปันผลกี่เปอร์เซนต์ ควรคิดจากทุนที่ซื้อหรือราคาปัจจุบัน ณ วันที่จ่ายปันผล ครับ
-
payonp
- Verified User
- โพสต์: 55
- ผู้ติดตาม: 0
ลุงขวดครับ หุ้นลงเยอะๆ
โพสต์ที่ 7
หากคิดผลตอบแทนจากเงินปันผลในราคาทุนของหุ้นจะทำให้มองภาพได้ผิดไปหรือไม่ครับ? ผมสงสัยเช่น สมมติว่าซื้อที่ปี 0 ราคา 100 ิบาท ได้ปันผล 10 บาท = ปันผล 10% แล้วสมมติอีกที่ว่า ณ สิ้นปีหุ้นขึ้นมาเป็น 200 บาท โดยปีนี้ปันผลเพิ่มขึ้น เป็น 12 บาท หากเป็นเช่นนี้ เราควรคิด Yield ที่ได้จากปันผลเป็น 12% (ทุน 100 ิ) หรือ 6% ตามราคาต้นปีครับ
โดยส่วนตัวผมคิดว่าน่าจะเป็นแค่ 6% ไม่ทราบว่าถูกหรือผิดครับ รบกวนช่วยแนะนำด้วยครับ
โดยส่วนตัวผมคิดว่าน่าจะเป็นแค่ 6% ไม่ทราบว่าถูกหรือผิดครับ รบกวนช่วยแนะนำด้วยครับ
-
harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
ลุงขวดครับ หุ้นลงเยอะๆ
โพสต์ที่ 8
ก็คำนวนจากราคาที่เราซื้อไว้ครับ
เช่น ซื้อมา 100 บาท/หุ้น ปันผล 10 บาท ก็เท่ากับ 10%
ปีต่อไป สำหรับผมเอง จะลบออกเหลือ 90 ด้วย เพราะผมคิดว่าเราได้เงินเราคืนมาหน่อยนึงแล้ว แต่บางคนอาจไม่ลบออก
ถ้าไม่มีการซื้อเพิ่มเลย จำนวนหุ้นเท่าเดิม ปีต่อไป ปันผลอีก 10 บาท
ถ้า 100 บาท ก็ 10% เท่าเดิม
ถ้า 90 บาท ก็ 11 กว่าๆ ไม่ได้กดเครื่องคิดเลข
เช่น ซื้อมา 100 บาท/หุ้น ปันผล 10 บาท ก็เท่ากับ 10%
ปีต่อไป สำหรับผมเอง จะลบออกเหลือ 90 ด้วย เพราะผมคิดว่าเราได้เงินเราคืนมาหน่อยนึงแล้ว แต่บางคนอาจไม่ลบออก
ถ้าไม่มีการซื้อเพิ่มเลย จำนวนหุ้นเท่าเดิม ปีต่อไป ปันผลอีก 10 บาท
ถ้า 100 บาท ก็ 10% เท่าเดิม
ถ้า 90 บาท ก็ 11 กว่าๆ ไม่ได้กดเครื่องคิดเลข
Expecto Patronum!!!!!!
บันทึกไม่สำเร็จ