ถ้าที่ทำงานเก่า เรียกตัวกลับ

[teetotal]

ที่ทำงานที่แรกที่ผมเรียนจบ ผมทำงานอยู่ตั้ง 7 ปี กว่า
ตอนจาก ก็ทั้งรักทั้งอาลัย
แต่รู้สึกว่า ตอนนั้น อนาคตตัวเองในบริษัทไม่ชัดเจน กอปรกับ
มีงานส่วนตัว ที่บางเดือนได้เงินมากกว่าเงินเดือนอีก
เลยออกมา ตอนนี้ มาทำงานเป็น consult พบประสบการณ์ในโลกกว้าง
ได้เกือบปี
บริษัทยังจ้างผมทำงานบางอย่างอยู่ ประเภท สรุปประมวลผลข้อมูลแบสอบถาม จึงยังติดต่อกับ บริษัทเสมอๆ แม้ว่าจะออกมาแล้ว
ถามว่า ผมยังรัก บริษัทไหม ก็ตอบว่า ยังรัก
ขนาดผมไปวิ่งออกกำลังกาย ผมยังเอาเสื้อยืดที่บริษัทแจกให้ มาใส่วิ่งโฆษณาให้บริษัทอยู่เลยครับ
ผมรู้สึกว่า บริษัท มีบุญคุณกับผม ทำให้ผมมีเงินเก็บมาลงทุนในหุ้นได้
ทำให้ ภาษาอังกฤษผมดีขึ้น ทำให้ประวัติการทำงานผมดูน่าสนใจมากขึ้น จากชื่อเสียง ของบริษัท

แล้ว เย็นวันหนึ่งในสัปดาห์ที่แล้ว

อยู่ๆ ผู้บริหารระดับใหญ่ๆ คนหนึ่งขององค์กร ก็ ต่อสายตรง โทรมาคุย
ถามว่า อยากกลับมาไหม มีตำแหน่งใหม่เปิด

ตำแหน่งงาน ก็ดูน่าสนใจ และ อยู่ประจำที่ กทม ด้วย
บริษัทค่อนข้างใหญ่และมั่นคง กว่า งาน consult ที่ผมทำอยู่ในปัจจุบัน

ถามความเห็นคนในนี้ ว่า ถ้าเป็นพี่ๆ เพื่อนๆ เจอ แบบนี้
จะกลับไปไหมครับ

[...]

แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่กลับไปล่ะครับ?

[yoyo]

ถ้ามีข้อมูลให้เท่าที่เขียนมาผมว่า ผมก็คงกลับนะครับ
แต่คนที่จะรู้ดีที่สุดคือพี่ทีแหละครับ ว่าอยากกลับรึเปล่า
เท่าที่อ่านดูก็ไม่แปลกใจหรอกครับว่าทำไมบริษัทถึงอยากได้ตัวกลับ
คนที่รักงานรักบริษัทนี่ผมว่าบริษัทไหนบริษัทไหนก็รักครับ

[miracle]

ใจเป็นคนตัดสินครับ
ว่ากลับดีหรือไม่กลับดี

CASE ที่ฟังเหมือนคนใกล้ตัวของผมคนหนึ่งน่าครับ
ที่บริษัทเก่าเรียกตัวไปทำงานเหมือนกัน
แต่คนนี้เลือกที่ไปทำที่เดิม เพราะว่า ช่วงที่เขาเรียกนั้น
เป็นช่วงต้มยำกุ้งพอดี และเขากำลังขยายงานที่เมืองจีน

[Ano]

แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่กลับไปล่ะครับ?

เห็นด้วยค่ะที่มีคำถามว่ามีเหตุผลอะไรที่จะไม่กลับไป  เพราะข้อมูลที่ให้มาเหมือนว่าน่าจะกลับไปทำงานบริษัทเก่า (แต่ที่ทำงานใหม่,ตำแหน่งใหม่)

ถ้ามีเหตุผลอื่นๆมาค้านก็ต้องมาชั่งน้ำหนักอีกทีค่ะ

แต่ขอแสดงความยินดีล่วงหน้านะคะ  มีแต่คนอยากได้ตัวไปทำงานด้วย  แล้วอีกหน่อยจะว่างมาวิ่งกันอีกป่าว

[teetotal]

ผมคงไปลองคุยดูก่อนนะครับ

อายุผมไม่ใช่เด็กจบใหม่แล้ว
งานที่หาทำ นอกจากจะได้ประสบการณ์แล้ว
ต้องสามารถช่วยนำไปสู่เป้าหมายในชีวิตได้ด้วย

ที่ผมออกมาตอนนั้น
เพราะ เขาวางตัวผม ให้ดูกระบวนการผลิตเฉพาะกระบวนการหนึ่งแบบลึกซึ้ง
ผมมองว่า ถ้าผมทุ่มเทจนเก่ง ก็อาจทำได้ แต่ จะมีประโยชน์อะไรถ้าจะเก่งแค่เรื่องเดียว แต่ด้อยเรื่องอื่น เครื่องแบบที่ผมทำตอนนั้น ในไทย มีไม่กี่เครื่องครับ

พอจะออกเขาก็จะให้ไปดูงานเก่าที่ผมเคยทำมาก่อนหน้า ซึ่งผมก็เคยทำแล้ว

ช่วงที่ผมตัดสินใจ มี นักศึกษา ป โท ที่ผมไปสอนเสริมสถิติ
ชวนไปทำงานพิเศษกะเขาพอดี
ผมเลยอยากลองออกมาเจออะไรใหม่ๆ ดูบ้าง
เปลี่ยนงานนี่ก็ดี นะครับ กระตุ้นตัวเองดี

ต่อจากนั้น ผลจากรัฐประหารเริ่มออก
งานส่วนตัว เริ่มอัตคัต เลย ต้องหางานประจำใหม่เป็น consult
คราวนี้ รู้สึกว่า เจออะไรใหม่ๆ เยอะมาก แต่ บริษัทก็เล็กละอาจเลิกกิจการได้ทุกเมื่อ

อยู่ที่เก่า สบายมากๆ บริษัทใหญ่มั่นคง
อยู่ที่ใหม่นี่ อาจจะลำบกหน่อย แต่ระยะยาวก็อาจดีนะครับ
ลูกค้าที่ผ่านมา ไม่ซ้ำกันเลย เราต้องอ่านหนังสือตลอด จะอยูสบายๆ
แบบ บริษัทใหญ่ๆ ไม่ได้

ดีคนละแบบ
งานที่จะไปคุย อาจสนกกว่านี้ก็ได้ ต้องไปคุยดูก่อน