ต่อจากเรื่องนาฬิกา เป็นเรื่องสมการไม่สมดุล
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
ต่อจากเรื่องนาฬิกา เป็นเรื่องสมการไม่สมดุล
โพสต์ที่ 1
สมัยปี 2535 เกิดพฤษภาทมิฬ
ตอนนั้น หุ้นตก ฟลอเป็นแถบ
ผมเดินเข้าไปที่โบรกเกอร์ jf ธนาคม ซึ่งคุณมนตรี ศรไพศาล บริหารงานอยู่ ตรงตึกกสิกรสำนักงานใหญ่ ตึกเก่า
สภาพโกลาหลที่เห็นคือ บนกระดานแดงเถือก ทุกคนมองไปที่ tv แล้วตกใจกันหมด
ผมก็เห็นการถ่ายทอด cnn ซ้ำแล้วซ้ำอีก มีภาพทหารยิง ประชาชน ซึ่งผมไม่รู้ว่าเป็นเรืองจริงหรือไม่ แต่ถ่ายซ้ำแล้วซ้ำอีก ( กระทู้นี้ไม่ได้ว่าทหารนะครับ กำลังพูดเรื่องหุ้น และเล่าจากเหตุการณ์จริง )
ตอนนั้นผมคิดว่า
เงิน 1 ล้าน หากประเทศล่มเหลือเท่าไร คำตอบ 0
หุ้น 1 ล้าน หากประเทศล่มเหลือเท่าไร คำตอบ 0
เงิน 1 ล้าน หากประเทศไม่ล่มเหลือเท่าไร คำตอบ 1 ล้าน
หุ้น 1 ล้าน หากประเทศไม่ล่มเหลือเท่าไร คำตอบ มากกว่า 1 ล้าน
ผมคิดว่า แปลกดี สมการไม่สมดุล
ผมก็เลยซื้อ BBL เพราะเป็นแบงค์อันดับหนึ่ง ซื้อได้ ประมาณ 60 บาท ซื้อที่ฟลอร์
ผ่านไป 7 เดือนไม่ได้ ดูจอ ขายได้ที่ราคา 100 บาท
เพื่อนๆคิดอย่างไรเรื่องสมการไม่สมดุล
วิจารณ์กันหน่อย
อิอิ
ตอนนั้น หุ้นตก ฟลอเป็นแถบ
ผมเดินเข้าไปที่โบรกเกอร์ jf ธนาคม ซึ่งคุณมนตรี ศรไพศาล บริหารงานอยู่ ตรงตึกกสิกรสำนักงานใหญ่ ตึกเก่า
สภาพโกลาหลที่เห็นคือ บนกระดานแดงเถือก ทุกคนมองไปที่ tv แล้วตกใจกันหมด
ผมก็เห็นการถ่ายทอด cnn ซ้ำแล้วซ้ำอีก มีภาพทหารยิง ประชาชน ซึ่งผมไม่รู้ว่าเป็นเรืองจริงหรือไม่ แต่ถ่ายซ้ำแล้วซ้ำอีก ( กระทู้นี้ไม่ได้ว่าทหารนะครับ กำลังพูดเรื่องหุ้น และเล่าจากเหตุการณ์จริง )
ตอนนั้นผมคิดว่า
เงิน 1 ล้าน หากประเทศล่มเหลือเท่าไร คำตอบ 0
หุ้น 1 ล้าน หากประเทศล่มเหลือเท่าไร คำตอบ 0
เงิน 1 ล้าน หากประเทศไม่ล่มเหลือเท่าไร คำตอบ 1 ล้าน
หุ้น 1 ล้าน หากประเทศไม่ล่มเหลือเท่าไร คำตอบ มากกว่า 1 ล้าน
ผมคิดว่า แปลกดี สมการไม่สมดุล
ผมก็เลยซื้อ BBL เพราะเป็นแบงค์อันดับหนึ่ง ซื้อได้ ประมาณ 60 บาท ซื้อที่ฟลอร์
ผ่านไป 7 เดือนไม่ได้ ดูจอ ขายได้ที่ราคา 100 บาท
เพื่อนๆคิดอย่างไรเรื่องสมการไม่สมดุล
วิจารณ์กันหน่อย
อิอิ
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
ต่อจากเรื่องนาฬิกา เป็นเรื่องสมการไม่สมดุล
โพสต์ที่ 2
สมการที่ไม่สมดุลเขาเรียก อสมการหรือคือสองข้างไม่เท่ากัน เรื่องที่พี่เจ๋งในความเห็นไว้ผมไม่แย้งครับ แต่ผมก็มีอีกมุมที่เสนอฝากไว้
เงิน1ล้าน ประเทศล่มจม ก็อาจเหลือค่าเพียง10-20%
หุ้น1ล้าน ประเทศล่มจม ก็อาจเหลือค่าเพียง10-20% เช่นกัน
เงิน1ล้าน ประเทศไม่ล่มจม ก็มีค่า1.0-1.1ล้าน
หุ้น1ล้าน ประเทศไม่ล่มจม อาจมีค่า0-10ล้าน
สรุปว่า หุ้นมีช่วงความเสี่ยงสูงกว่าเงินสด แต่ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัยกว่าครับ ส่วนพี่เจ๋งซื้อหุ้นที่ดีในช่วงpanicที่มีmargins of safety สูงเท่านั้นเองครับ แต่ถ้าวันนั้นใครไปซื้อผิดตัว ตอนนี้เขาคงคิดตรงกันข้ามกับพี่เจ๋งครับ
เงิน1ล้าน ประเทศล่มจม ก็อาจเหลือค่าเพียง10-20%
หุ้น1ล้าน ประเทศล่มจม ก็อาจเหลือค่าเพียง10-20% เช่นกัน
เงิน1ล้าน ประเทศไม่ล่มจม ก็มีค่า1.0-1.1ล้าน
หุ้น1ล้าน ประเทศไม่ล่มจม อาจมีค่า0-10ล้าน
สรุปว่า หุ้นมีช่วงความเสี่ยงสูงกว่าเงินสด แต่ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัยกว่าครับ ส่วนพี่เจ๋งซื้อหุ้นที่ดีในช่วงpanicที่มีmargins of safety สูงเท่านั้นเองครับ แต่ถ้าวันนั้นใครไปซื้อผิดตัว ตอนนี้เขาคงคิดตรงกันข้ามกับพี่เจ๋งครับ

ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
ต่อจากเรื่องนาฬิกา เป็นเรื่องสมการไม่สมดุล
โพสต์ที่ 4
VI มักใช้เหตุการณ์อย่างนี้ที่เรียกว่า Market anomaly ให้เป็นประโยชน์เสมอ
เห็นด้วยกับทั้งเฮียเจ๋ง และเฮียนริศครับ เราไม่สามารถหุ้นซื้อดะไปหมดแบบสุ่มได้ ดังนั้น ค่า 0-10 ล้าน คงจะมีค่าได้ต่าง ๆ กัน อาจจะเป็น 0, 1, 5 หรือ 10 ขึ้นกับหุ้นแต่ละตัว แต่ความเห็นผมนั้น VI มากประสบการณ์ คงจะได้ range ไปทางกำไรแน่ ๆ และมีไม่น้อยที่ได้ทางกำไรมาก ๆ ด้วย
VI อย่างเรา ๆ แม้หุ้นจะตกลงมาทั้งกระดาน ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะซื้อหุ้นตัวไหนก็ได้ VI มักจะมองหุ้น และมีหุ้นในดวงใจไว้แล้ว แต่อาจจะยังไม่ได้ซื้อหรือซื้อเพิ่ม เพราะสถานะของราคายังไม่เหมาะสมที่จะซื้อ
พอมี market anomaly อย่างนี้ กระโจนเลยครับ..
Be greedy when others are fearful .. เป็นคำกล่าวของปรมาจารย์ Warren Buffett ที่ใช้ได้ดี
ตัวอย่างอื่นก็เช่น Black Monday ที่เป็นจังหวะให้ Warren เข้าซื้อหุ้น Coca-Cola แบบเน้น ๆ
หรือเหตุการณ์ อุ๋ย effect ที่เป็นจังหวะให้เฮียพอใจ ซื้อจนเหลือเงินแค่ 13 บาท (ถ้าจำไม่ผิด) 8)
เห็นด้วยกับทั้งเฮียเจ๋ง และเฮียนริศครับ เราไม่สามารถหุ้นซื้อดะไปหมดแบบสุ่มได้ ดังนั้น ค่า 0-10 ล้าน คงจะมีค่าได้ต่าง ๆ กัน อาจจะเป็น 0, 1, 5 หรือ 10 ขึ้นกับหุ้นแต่ละตัว แต่ความเห็นผมนั้น VI มากประสบการณ์ คงจะได้ range ไปทางกำไรแน่ ๆ และมีไม่น้อยที่ได้ทางกำไรมาก ๆ ด้วย
VI อย่างเรา ๆ แม้หุ้นจะตกลงมาทั้งกระดาน ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะซื้อหุ้นตัวไหนก็ได้ VI มักจะมองหุ้น และมีหุ้นในดวงใจไว้แล้ว แต่อาจจะยังไม่ได้ซื้อหรือซื้อเพิ่ม เพราะสถานะของราคายังไม่เหมาะสมที่จะซื้อ
พอมี market anomaly อย่างนี้ กระโจนเลยครับ..
Be greedy when others are fearful .. เป็นคำกล่าวของปรมาจารย์ Warren Buffett ที่ใช้ได้ดี
ตัวอย่างอื่นก็เช่น Black Monday ที่เป็นจังหวะให้ Warren เข้าซื้อหุ้น Coca-Cola แบบเน้น ๆ
หรือเหตุการณ์ อุ๋ย effect ที่เป็นจังหวะให้เฮียพอใจ ซื้อจนเหลือเงินแค่ 13 บาท (ถ้าจำไม่ผิด) 8)
-
- Verified User
- โพสต์: 1976
- ผู้ติดตาม: 0
ต่อจากเรื่องนาฬิกา เป็นเรื่องสมการไม่สมดุล
โพสต์ที่ 6
ตรงที่มันไม่เท่ากันน่าจะเกิดจากความน่าจะเป็นมากกว่าครับ
เหมือนความคาดหวัง ณ จุดนั้นไม่เหมือนกัน ราคาน่าจะสะท้อนออกมา ณ ข้อมูลขณะนั้น ลองตีความน่าจะเป็นที่คุณคิดขณะนั้นออกมาแล้วจะเห็นว่าราคาที่คุณซื้อ ณ ตอนนั้นคือราคาเหมาะสมต่อความเสี่ยงต่อประเทศที่คุณคิด ณ ขณะนั้นเช่นกัน
เวลาผ่านไป ความน่าจะเป็นที่ล่มสลายซึ่งอาจจะหมายถึงทั้งธนาคารและปะเทศด้วย เปลี่ยนไป ราคาหุ้นก็ย่อมแปลงตามไปด้วย
มั้ง
เหมือนความคาดหวัง ณ จุดนั้นไม่เหมือนกัน ราคาน่าจะสะท้อนออกมา ณ ข้อมูลขณะนั้น ลองตีความน่าจะเป็นที่คุณคิดขณะนั้นออกมาแล้วจะเห็นว่าราคาที่คุณซื้อ ณ ตอนนั้นคือราคาเหมาะสมต่อความเสี่ยงต่อประเทศที่คุณคิด ณ ขณะนั้นเช่นกัน
เวลาผ่านไป ความน่าจะเป็นที่ล่มสลายซึ่งอาจจะหมายถึงทั้งธนาคารและปะเทศด้วย เปลี่ยนไป ราคาหุ้นก็ย่อมแปลงตามไปด้วย
มั้ง
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
ต่อจากเรื่องนาฬิกา เป็นเรื่องสมการไม่สมดุล
โพสต์ที่ 10
อืม ตอนนั้นคิดว่าประเทศไม่มีทางล่มครับ และบรรยากาศตอนนั้นในตลาดหุ้น ทุกคนขายกันหมด ก็เลยคิดว่า ราคาน่าจะต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง เพราะไม่มีใครสนใจ มูลค่าที่แท้จริง
ณ เวลานั้น คนเล่นหุ้น ส่วนใหญ่ ไม่มีใครดูงบการเงิน อินเตอร์เน็ต อย่าง set.or.th ก็ม่ายมี หรือว่ามีแต่ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนั้น ปี 2535 ครับ
ณ เวลานั้น คนเล่นหุ้น ส่วนใหญ่ ไม่มีใครดูงบการเงิน อินเตอร์เน็ต อย่าง set.or.th ก็ม่ายมี หรือว่ามีแต่ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนั้น ปี 2535 ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
ต่อจากเรื่องนาฬิกา เป็นเรื่องสมการไม่สมดุล
โพสต์ที่ 11
เห็นด้วยครับnaris เขียน:สมการที่ไม่สมดุลเขาเรียก อสมการหรือคือสองข้างไม่เท่ากัน เรื่องที่พี่เจ๋งในความเห็นไว้ผมไม่แย้งครับ แต่ผมก็มีอีกมุมที่เสนอฝากไว้
เงิน1ล้าน ประเทศล่มจม ก็อาจเหลือค่าเพียง10-20%
หุ้น1ล้าน ประเทศล่มจม ก็อาจเหลือค่าเพียง10-20% เช่นกัน
เงิน1ล้าน ประเทศไม่ล่มจม ก็มีค่า1.0-1.1ล้าน
หุ้น1ล้าน ประเทศไม่ล่มจม อาจมีค่า0-10ล้าน
สรุปว่า หุ้นมีช่วงความเสี่ยงสูงกว่าเงินสด แต่ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัยกว่าครับ ส่วนพี่เจ๋งซื้อหุ้นที่ดีในช่วงpanicที่มีmargins of safety สูงเท่านั้นเองครับ แต่ถ้าวันนั้นใครไปซื้อผิดตัว ตอนนี้เขาคงคิดตรงกันข้ามกับพี่เจ๋งครับ
A Cynic Knows the Price of Everything and the Value of Nothing
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan