สำนักข่าวรอยเตอร์ เขียน: คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติให้ออกมาตรการด้านภาษี เพื่อกระตุ้นการลงทุนในตลาดหุ้นในระยะยาว ตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง โดยบุคคลธรรมดาที่ลงทุนในกองทุนหุ้น สามารถนำเงินลงทุนไปลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15% ของรายได้ หรือไม่เกิน 3 แสนบาทต่อปี
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รมว.คลัง แถลงว่า หากผู้ลงทุนถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้น เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปี จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้จากผลประโยชน์ที่ได้รับจากการลงทุนดังกล่าวด้วย
ปัจจุบัน บุคคลธรรมดาที่ลงทุนกองทุนหุ้น ซึ่งมีการจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหน่วย จะต้องเสียภาษีเงินปันผลหัก ณ ที่จ่าย 10%
ครม.ยังมีมติยกเลิกกำหนดเรื่องอายุ ของผู้ลงทุนในกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF) ที่เดิมกำหนดว่า ต้องถือหน่วยลงทุนจนถึงอายุ 55 ปี โดยจะกำหนดเพียงให้ลงทุนต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อย 5 ปี
รวมทั้งผู้ที่ลงทุนในกองทุน RMF จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้จากผลประโยชน์ที่ได้รับ ในกรณีที่ลงทุนเกิน 5 ปีขึ้นไปด้วย
นายสมคิด กล่าวอีกว่า ครม.ยังมีมติให้ต่ออายุการลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ออกไปอีก 1 ปี สำหรับบริษัทรายใหม่ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยขยายให้ถึง 31 ธ.ค.2548
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 44 อนุมัติให้ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลแก่บริษัทในตลาดหลักทรัพย์(SET)ทั้งรายเก่าและรายใหม่เหลือ 25% จาก 30% ซึ่งสิทธินี้จะหมดอายุในเดือน ก.ย.ปีนี้--จบ--
ครม.มีมติออกมาตรการภาษีกระตุ้นตลาดหุ้น ตามที่คลังเสนอ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ครม.มีมติออกมาตรการภาษีกระตุ้นตลาดหุ้น ตามที่คลังเสนอ
โพสต์ที่ 1
- wpong
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1336
- ผู้ติดตาม: 0
ครม.มีมติออกมาตรการภาษีกระตุ้นตลาดหุ้น ตามที่คลังเสนอ
โพสต์ที่ 2
ขอถามความเห็นว่าหากเรามีความสามารถในการสร้างผลตอบแทนเงินทุนสูงกว่า Set Index ประมาณ 10% และเราสามารถใช้สิทธิของกองทุนในการลดหย่อนภาษีได้ 20 % เราควรลงทุนเองหรือ ให้ลงทุนในกองทุนนี้ดีครับ
ถ้าลงทุนในกองทุน RMF กองทุนบ.ใหนน่าจะสร้างผลตอบแทนได้ดีที่สุด
ที่พี่ CK นำมาโพสต์หมายถึงแค่ครม.อนุมัติก็พอใช่ใหมครับ ไม่ต้องรอสภาเห็นชอบอีกที
ถ้าลงทุนในกองทุน RMF กองทุนบ.ใหนน่าจะสร้างผลตอบแทนได้ดีที่สุด
ที่พี่ CK นำมาโพสต์หมายถึงแค่ครม.อนุมัติก็พอใช่ใหมครับ ไม่ต้องรอสภาเห็นชอบอีกที
-
- Verified User
- โพสต์: 2513
- ผู้ติดตาม: 0
ครม.มีมติออกมาตรการภาษีกระตุ้นตลาดหุ้น ตามที่คลังเสนอ
โพสต์ที่ 3
ถ้ารัฐบาลท่านเลิกสนใจ SET index หันมาสนใจกับผลประกอบการณ์ของบริษัทจดทะเบียนมากขึ้น บรรยากาศการลงทุนก็น่าจะมีเสถียรภาพมากขึ้น
การเอาเงินก้อนใหม่ไปรับซื้อหุ้นไว้แล้วไม่ขาย ก็ทำให้ตลาดนิ่งได้ในระดับหนึ่ง แต่พอผลประกอบการณ์ออกมาไม่ดี หรือมีการทำราคาหุ้น ก็กลับไปผันผวนอีก
สุดท้ายเจ้าของเงินขาดทุนตามฟอร์ม
การเอาเงินก้อนใหม่ไปรับซื้อหุ้นไว้แล้วไม่ขาย ก็ทำให้ตลาดนิ่งได้ในระดับหนึ่ง แต่พอผลประกอบการณ์ออกมาไม่ดี หรือมีการทำราคาหุ้น ก็กลับไปผันผวนอีก
สุดท้ายเจ้าของเงินขาดทุนตามฟอร์ม
เสรีภาพก็เหมือนอากาศที่เราไม่อาจมองเห็นด้วยตา แต่จะรู้สึกได้ในทันทีหากมีมันอยู่เบาบางหรือขาดหายไป
-จีรนุช เปรมชัยพร
-จีรนุช เปรมชัยพร
-
- Verified User
- โพสต์: 920
- ผู้ติดตาม: 0
ครม.มีมติออกมาตรการภาษีกระตุ้นตลาดหุ้น ตามที่คลังเสนอ
โพสต์ที่ 4
ผมว่ารัฐบาลก็สนใจผลประกอบการของบริษัทเป็นหลักอยู่แล้วแหละครับ เพราะนั่นคือแหล่งรายได้ทางภาษีของรัฐบบาลอยู่แล้ว แต่กองทุนตั้งขึ้นมาเสริมครับ เหมือนกับบ้านที่ต้องมีทั้งเสาและคานอยู่ด้วยกัน
-
- Verified User
- โพสต์: 63
- ผู้ติดตาม: 0
ครม.มีมติออกมาตรการภาษีกระตุ้นตลาดหุ้น ตามที่คลังเสนอ
โพสต์ที่ 5
ผมไม่ค่อยไว้ใจกองทุนแบบนี้ครับ เห็นชัดว่าจะมาเพื่อพยุงหุ้น ซึ่งพยุงหุ้นใคร หุ้นตัวไหน แล้วแต่ผู้จัดการกองทุน ผู้ลงทุนไม่ได้ตัดสินใจเลย ดังนั้นเป็นช่องทางอย่างดีที่จะเอาเงินของประชาชนผู้ลงทุน ไปพยุงหุ้น ที่เขาต้องการ แบบนี้กองทุนที่ว่าจะซื้อหุ้นที่ราคาแพง เพื่อเจตนาจะพยุงไว้ และจะขาดทุนในที่สุดเมื่อหุ้นตก กองทุนพยุงหุ้นในอดีตล้วนแต่ขาดทุน แต่นั่นไม่ได้เอาเงินของประชาชนนักลงทุนไปทำนะครับ สรุปแล้วผมเลือกจะเล่นเองดีกว่าครับ