เท่าที่สังเกตุ ปีนี้เล่นหุ้นแบบ VI ได้น้อยกว่าแบบ"เสี่ย

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

เท่าที่สังเกตุ ปีนี้เล่นหุ้นแบบ VI ได้น้อยกว่าแบบ"เสี่ย

โพสต์ที่ 31

โพสต์

[quote="ba_2l"][quote="ปรัชญา"]8) อย่าเปรียบเทียบ
akekarat
Verified User
โพสต์: 1746
ผู้ติดตาม: 0

เท่าที่สังเกตุ ปีนี้เล่นหุ้นแบบ VI ได้น้อยกว่าแบบ"เสี่ย

โพสต์ที่ 32

โพสต์

[quote="Hoonlover"]ผมก็เห็น
sunrise
Verified User
โพสต์: 2266
ผู้ติดตาม: 0

เท่าที่สังเกตุ ปีนี้เล่นหุ้นแบบ VI ได้น้อยกว่าแบบ"เสี่ย

โพสต์ที่ 33

โพสต์

[quote=".^O-O^"]
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
ภาพประจำตัวสมาชิก
Sumotin
Verified User
โพสต์: 1131
ผู้ติดตาม: 0

เท่าที่สังเกตุ ปีนี้เล่นหุ้นแบบ VI ได้น้อยกว่าแบบ"เสี่ย

โพสต์ที่ 34

โพสต์

ผมว่าถ้าคุณเก่งทาง เก็งกำไรก็เล่นทางนั้นไปเถอะครับ

ส่วนคนในนี้เค้าคิดว่าทาง VI นั้นดีกว่า คนหละทางกันครับ

แต่ผมว่าคนที่เล่นแนว VI แล้วต้องออกจากตลาดเพราะขาดทุนมีน้อยมากๆ

ส่วนคนเก็งกำไรแล้วขาดทุน จนต้องออกจากตลาดหรือฆ่าตัวตายมีเยอะแยะ

ลงทุนให้สบายใจ ไม่จำเป็นต้องรวยมาก ไม่งั้น ไป Casino ก็ได้เหมือนกัน นะครับ

:D
Timing is everything, no matter what you do.

CAGR of 34% in the past 15 years of investment
artvr4
Verified User
โพสต์: 767
ผู้ติดตาม: 0

เท่าที่สังเกตุ ปีนี้เล่นหุ้นแบบ VI ได้น้อยกว่าแบบ"เสี่ย

โพสต์ที่ 35

โพสต์

ทางใคร ทางมัน คนมันเชี่ยวผิดกัน หว่ะ ศร

 จำได้ ปู่คลายเครียด เคยพูดไว้ในหนังสือ หากว่า สามารถเล่นรอบแล้วกำไรก็ยินดีด้วยครับ คุณเจอแนวทางที่เหมาะกับตัวเองแล้ว

  ส่วนผมยังเชือว่า สำหรับผม แนวVI  แม้ว่าผมจะเป็นปลายแถว แต่ พอใจกับ ผลตอบแทนที่เติบโตทบต้นขึ้น เรื่อง ลงทุน มาเกือบ สองปี ยอมรับว่าพอจมาก

  ไม่มีแนวไหน ที่ดีกว่าอีกแนวหรอกครับ มันขึ้นกับเราว่า เหมาะกับอันไหนมากว่า  เป้าหมายก็  คือ ผลตอบแทน ด้วยกันทั้งนั้น
หุ้นนี่ เรียนรู้ได้ทั้งชีวิต จริงๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 0

เท่าที่สังเกตุ ปีนี้เล่นหุ้นแบบ VI ได้น้อยกว่าแบบ"เสี่ย

โพสต์ที่ 36

โพสต์

การที่เราไม่เห็น vi ที่โด่งดังประสบความสำเร็จเป็นหลักร้อนล้านพันล้านหลายคนนั้นผมว่า อาจจะเป็นเพราะว่าการลงทุนแนว vi นั้นในเมืองไทยเกิดมาไม่นานนัก

ไม่มีใครบันทึกไว้อย่างมีหลักฐานได้ว่า vi เกิดในเมืองไทยเมื่อไหร่ แต่ถ้าจะให้หาจุดเริ่มที่ดีที่สุดก็น่าจะเป็นวันที่หนังสือตีแตกออกวางขายวันแรก จนทำให้แนวทาง vi เริ่มมีคนสนใจและทำตามมากขึ้น ... หนังสือออกมาขายในช่วงปลายปี 41 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลาประมาณ 9 ปี จัดได้กว่าแนวทาง vi ยังเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น

เพราะงั้นคนแรกที่เป็น vi คือดร.นิเวศน์ ซึ่งท่านได้ให้เวลาและสะสมความมั่งคั่งมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งก็ไม่ได้นานมาก เริ่มต้นจากเงินประมาณ 10 ล้าน ปัจจุบันคงอยู่ในหลักหลายร้อยล้านกลางๆถึงปลาย.. (ผมไม่รู้ตัวเลขเป๊ะครับ)

ลองให้เวลากับการลงทุนแบบ vi อีกซัก 10-20 ปีดูซิครับ ... ผมว่าระดับพันล้านคงมีให้เห็นกันหลายคน (แต่เค้าจะเปิดตัวรึเปล่าไม่รู้นะ เพราะเท่าที่เจอ vi หลายๆคนที่ชอบ low profile) ส่วนระดับร้อยล้านนี่คงเดินชนกันให้ควักตามงาน meeting อีก 20 ปีข้างหน้า

เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
sunrise
Verified User
โพสต์: 2266
ผู้ติดตาม: 0

เท่าที่สังเกตุ ปีนี้เล่นหุ้นแบบ VI ได้น้อยกว่าแบบ"เสี่ย

โพสต์ที่ 37

โพสต์

^^

คนข้างบนคนนึงละ
น่าจะเป็นตำนานได้
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
pongto
Verified User
โพสต์: 179
ผู้ติดตาม: 0

เท่าที่สังเกตุ ปีนี้เล่นหุ้นแบบ VI ได้น้อยกว่าแบบ"เสี่ย

โพสต์ที่ 38

โพสต์

[quote="chatchai"]วิธีไหนจะสามารถทำกำไรเป็นจำนวนเงินมากกว่ากัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
ก้อนหิน
Verified User
โพสต์: 2344
ผู้ติดตาม: 0

เท่าที่สังเกตุ ปีนี้เล่นหุ้นแบบ VI ได้น้อยกว่าแบบ"เสี่ย

โพสต์ที่ 39

โพสต์

sunrise เขียน:^^

คนข้างบนคนนึงละ
น่าจะเป็นตำนานได้
แต่พี่ sunrise เป็นตำนานไปแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
SEHJU
Verified User
โพสต์: 1238
ผู้ติดตาม: 0

ครับๆ

โพสต์ที่ 40

โพสต์

Differential Opinion ครับ... นานาจิตตัง
ทางใครก็ทางมันสิครับ มาปรามาสกันทำไม...