ใช้คะแนนวัดคุณธรรมสอบเข้ามหาวิทยาลัย เริ่มปีหน้า
-
- Verified User
- โพสต์: 4596
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้คะแนนวัดคุณธรรมสอบเข้ามหาวิทยาลัย เริ่มปีหน้า
โพสต์ที่ 4
คุณธรรมนี่วัดเป็นคะแนนได้ด้วยหรือนี่ ไม่น่าเชื่อ
กระทู้เมื่อพี่ teetotal ก็พึ่งตก เลข ไป
มากระทู้พี่หมอ ผมตก อีกวิชา แล้วครับ
กระทู้เมื่อพี่ teetotal ก็พึ่งตก เลข ไป
มากระทู้พี่หมอ ผมตก อีกวิชา แล้วครับ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
-
- Verified User
- โพสต์: 391
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้คะแนนวัดคุณธรรมสอบเข้ามหาวิทยาลัย เริ่มปีหน้า
โพสต์ที่ 5
ผมเข้าใจนะครับว่าเขาเจตนาดี
แต่เป็นห่วงครับ
โลกเราซับซ้อนมากขึ้นทุกวัน
การแก้ปัญหาไม่ได้ง่ายเหมือนในอดีตที่ผ่านมา แบบ 1+1 = 2
ยกตัวอย่าง
ไม่อยากให้คนกินเหล้าเยอะก็เลยห้ามโฆษณาเสียเลย
ห้ามเบียร์ช้างเข้าตลาดเมืองไทยเสียเลย
ใครแย้งอย่างไรก็ไม่ฟัง
หาว่าพวกตรงกันข้ามเป็นพวกไม่มีศีล พวกคนบาป
เรื่องแบบนี้ต้องใช้หลักเศรษฐศาสตร์มาช่วย
การห้ามโฆษณาเหล้า ทำให้รายใหม่เข้าตลาดลำบาก
ครั้นจะสร้างชื่อให้ดังก็ถูกปิดหนทาง
พวกนี้ก็ต้องปรับตัว
โดยหันไปใช้ยุทธวิธี "ลดราคา" เข้ามาสู้
ถ้าบนดินสู้ยากก็ใช้ใต้ดินซะเลย
เจ้าตลาดเดิมเมื่อโดนหั่นราคาหนักๆ
ก็มีสิทธิ์เข้าไปร่วมวงไพบูลย์ด้วย
ผลก็คือ เหล้าราคาถูกกว่าเดิมเสียอีก
คนกินเหล้ามากกว่าเดิมเสียอีก
อัลคาโปนก็ร่ำรวยด้วยนโยบายห้ามกินเหล้านี่เอง
คนอเมริกันกินเหล้าในช่วงที่ห้ามขายเหล้าเยอะกว่าตอนเปิดเสรีด้วยซ้ำ
เรื่องยาม้าก็เช่นกัน
เมื่อก่อนก็มีแต่คนขับรถบรรทุกกินกัน
อาจจะมีนักศึกษาบ้างประปรายเฉพาะช่วงใกล้สอบ
แต่พอเปลี่ยนชื่อเป็นยาบ้า
หวังจะให้คนกลัวและเลิกซะ
ก็กลายเป็นติดกันงอมแงมทุกสาขาอาชีพ
อย่าว่าแต่ลามมาถึงนักเรียนมัฐยมเลยครับ
ประถมอนุบาลก็พลอยโดนหางเลขไปด้วย
ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น
อธิบายได้ด้วยเรื่องแรงจูงใจครับ
เมื่อก่อนยาม้าเม็ดละไม่กี่สตางค์
ไม่มีใครอยากเสี่ยง
พอเป็นยาบ้า
กลายเป็นเม็ดละร้อยสองร้อย
ทุนไม่ถึงบาท กำไรเหนาะๆเท่าไหร่แล้วครับ
แค่พันเม็ดก็ได้เป็นแสนๆ
ถ้าไม่โดนจับก็คือรวยไปเลย
มันน่าเสี่ยงไม่ใช่เล่นใช่ไหมครับสำหรับผู้ที่มองไม่เห็นทางออกด้วยวิธีสุจริต
ยาบ้าก็เลยระบาด
นี่เป็นวิธีแก้ปัญหาแบบมักง่าย
ซึ่งก่อให่เกิดผลร้ายต่อเมืองไทยมากกว่าผลดี
เรื่องคุณธรรมก็เช่นกัน
อยากให้คนมีคุณธรรมก็จัดการง่ายๆเอามาเป็นคะแนนเอ็นทรานซ์ด้วยซะเลย
นี่ยังไม่พูดถึงวิธีการให้คะแนนแบบไหนอย่างไรนะครับ
แต่เดาว่าในไม่ช้า คนดีที่ปิดทองหลังพระจะหายไป
คนดีที่ทำดีเพื่อหวังผลตอบแทนจะเฟื่องฟู
เราต้องการคนดีอย่างนั้นจริงๆหรือ
แต่เป็นห่วงครับ
โลกเราซับซ้อนมากขึ้นทุกวัน
การแก้ปัญหาไม่ได้ง่ายเหมือนในอดีตที่ผ่านมา แบบ 1+1 = 2
ยกตัวอย่าง
ไม่อยากให้คนกินเหล้าเยอะก็เลยห้ามโฆษณาเสียเลย
ห้ามเบียร์ช้างเข้าตลาดเมืองไทยเสียเลย
ใครแย้งอย่างไรก็ไม่ฟัง
หาว่าพวกตรงกันข้ามเป็นพวกไม่มีศีล พวกคนบาป
เรื่องแบบนี้ต้องใช้หลักเศรษฐศาสตร์มาช่วย
การห้ามโฆษณาเหล้า ทำให้รายใหม่เข้าตลาดลำบาก
ครั้นจะสร้างชื่อให้ดังก็ถูกปิดหนทาง
พวกนี้ก็ต้องปรับตัว
โดยหันไปใช้ยุทธวิธี "ลดราคา" เข้ามาสู้
ถ้าบนดินสู้ยากก็ใช้ใต้ดินซะเลย
เจ้าตลาดเดิมเมื่อโดนหั่นราคาหนักๆ
ก็มีสิทธิ์เข้าไปร่วมวงไพบูลย์ด้วย
ผลก็คือ เหล้าราคาถูกกว่าเดิมเสียอีก
คนกินเหล้ามากกว่าเดิมเสียอีก
อัลคาโปนก็ร่ำรวยด้วยนโยบายห้ามกินเหล้านี่เอง
คนอเมริกันกินเหล้าในช่วงที่ห้ามขายเหล้าเยอะกว่าตอนเปิดเสรีด้วยซ้ำ
เรื่องยาม้าก็เช่นกัน
เมื่อก่อนก็มีแต่คนขับรถบรรทุกกินกัน
อาจจะมีนักศึกษาบ้างประปรายเฉพาะช่วงใกล้สอบ
แต่พอเปลี่ยนชื่อเป็นยาบ้า
หวังจะให้คนกลัวและเลิกซะ
ก็กลายเป็นติดกันงอมแงมทุกสาขาอาชีพ
อย่าว่าแต่ลามมาถึงนักเรียนมัฐยมเลยครับ
ประถมอนุบาลก็พลอยโดนหางเลขไปด้วย
ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น
อธิบายได้ด้วยเรื่องแรงจูงใจครับ
เมื่อก่อนยาม้าเม็ดละไม่กี่สตางค์
ไม่มีใครอยากเสี่ยง
พอเป็นยาบ้า
กลายเป็นเม็ดละร้อยสองร้อย
ทุนไม่ถึงบาท กำไรเหนาะๆเท่าไหร่แล้วครับ
แค่พันเม็ดก็ได้เป็นแสนๆ
ถ้าไม่โดนจับก็คือรวยไปเลย
มันน่าเสี่ยงไม่ใช่เล่นใช่ไหมครับสำหรับผู้ที่มองไม่เห็นทางออกด้วยวิธีสุจริต
ยาบ้าก็เลยระบาด
นี่เป็นวิธีแก้ปัญหาแบบมักง่าย
ซึ่งก่อให่เกิดผลร้ายต่อเมืองไทยมากกว่าผลดี
เรื่องคุณธรรมก็เช่นกัน
อยากให้คนมีคุณธรรมก็จัดการง่ายๆเอามาเป็นคะแนนเอ็นทรานซ์ด้วยซะเลย
นี่ยังไม่พูดถึงวิธีการให้คะแนนแบบไหนอย่างไรนะครับ
แต่เดาว่าในไม่ช้า คนดีที่ปิดทองหลังพระจะหายไป
คนดีที่ทำดีเพื่อหวังผลตอบแทนจะเฟื่องฟู
เราต้องการคนดีอย่างนั้นจริงๆหรือ
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้คะแนนวัดคุณธรรมสอบเข้ามหาวิทยาลัย เริ่มปีหน้า
โพสต์ที่ 6
8) วันไหนเรานัดไปถกกันดีกว่าแผ่วเบา เขียน: แต่เดาว่าในไม่ช้า คนดีที่ปิดทองหลังพระจะหายไป
คนดีที่ทำดีเพื่อหวังผลตอบแทนจะเฟื่องฟู
เราต้องการคนดีอย่างนั้นจริงๆหรือ
คุยเรื่องนี้ทางเวบ
เรื่องมันยาวครับ ไม่จบง่ายๆ
เรื่องการศึกษาที่มั่วๆของบ้านเรานี่คุยกันได้ทั้งคืน
ทำอะไรไม่ได้ ด่าให้มันหายเครียดก็ยังดีครับ
ตั้งแต่ผมเด็กยันโต จนจะแก่ตายแล้ว
ที่เขาว่าพัฒนาไปโน่นไปนี่
ผมไม่เห็นมันพัฒนาไปไหนเลย จริง จิ๊ง...
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้คะแนนวัดคุณธรรมสอบเข้ามหาวิทยาลัย เริ่มปีหน้า
โพสต์ที่ 7
ผมเข้าใจเรื่องเจตนาครับ แต่มันจะกลายเป็นเรื่องคน 4 จำพวกที่เล่ากันมาตลอด
"คนโง่และขยัน" น่ากลัวที่สุด เพราะขยันทำแต่สิ่งโง่ ๆ
ระบบการศึกษาไทยที่ปฏิรูปใหญ่หลังสุด ที่ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง (แต่ก็ยังทำกันอยู่) คือระบบจับฉลาก
เป็นข้อเสนอที่ผมไม่เข้าใจว่า ทำกันไปได้ยังไง แทนที่จะยกระดับโรงเรียนให้สูงขึ้น โดยหวังว่าเด็กจะได้เรียนใกล้บ้าน ไม่ต้องถ่อไปแย่งกันเข้าเรียนในโรงเรียนที่มีชื่อเสียง
กลับทำลายโรงเรียนดี ๆ ให้มันตกต่ำลงเหมือน ๆ โรงเรียนอื่นเขา ให้มันดูแบนราบสม่ำเสมอกันดี
บ้านอื่นเมืองอื่นเขาเน้นสร้าง School for Gifted Children บ้านเรากลับพยายามกำจัด
นี่ก็พยายามสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ในการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยอีก หลังจากก่อนหน้านี้ก็ใช้ความคิดเน่า ๆ ในการยกเลิกระบบ Entrance อ้างว่าเด็กเครียดบ้าง, ตัดสินโดยการสอบเพียงครั้งเดียวบ้าง, ไม่สะท้อนความสามารถเด็กบ้าง, ฯลฯ
สุดท้าย ปรับไป ปรับมา การสอบ Admission มันต่างกับ Entrance ตรงไหน สอบหนเดียว ครั้งเดียว เหมือนกันแม้กระทั่งความหมาย (Admission exam = Entrance exam) แต่ไม่กล้าใช้ชื่อเดิม เพราะมันเป็นหนามยอกอก กลัวคนมาด่าว่าล้มเหลว ต้องกลับมาใช้ของเดิม
ขึ้นชื่อว่าการสอบ แสดงว่าต้องการวัดคุณสมบัติเด็กด้วย "สิ่งชี้วัดที่เป็นรูปธรรม" เช่น คะแนน เพื่อลดอคติในการตัดสิน
คะแนนคุณธรรม ทำให้สิ่งดี ๆ ที่เป็นนามธรรม ถูกดึงให้ต่ำลง ต่อไปนี้เด็กต้องทำทุกอย่างเอาหน้า (เหมือนพี่แผ่วว่า) หรือไม่ก็เลือกทำอะไรให้มันได้หน้า ได้ชื่อ อะไรเล็ก ๆ ไม่ แต่ใหญ่ ๆ ทำ และเน้นผลที่จับต้องได้อย่างเดียว เพื่อให้แปลงเป็นคะแนน
เรื่องการคิดคะแนน ก็ยังขึ้นกับผู้ประเมิน คนประเมินมีมาตรฐานคุณธรรมสูงแค่ไหนในการที่จะไปประเมินเขา
ในข่าวมีบางโรงเรียน เอาคะแนนกิจกรรมไปแทนคะแนนสอบ ทำกิจกรรมอย่างเดียว ก็ได้เกรด 4 ได้โดยไม่ต้องท่องหนังสือ... อย่างนี้ทำกิจกรรมอย่างเดียว มันจะเรียนวิศวะ, เรียนหมอ, เรียนเภสัช จบได้จริงหรือ ไม่นับที่ว่าถ้าจบได้ เป็นหมอรักษาคนโดยใช้ความรู้เรื่องกิจกรรม ถ้าเป็นคนไข้ซะเอง จะกล้าไปรักษาหรือเปล่า?
คิดแล้วเสียดายเงินเดือนเหล่าผู้บริหาร สพฐ เสียดายเงินที่ตัวเองจ่ายเป็นภาษี
"คนโง่และขยัน" น่ากลัวที่สุด เพราะขยันทำแต่สิ่งโง่ ๆ
ระบบการศึกษาไทยที่ปฏิรูปใหญ่หลังสุด ที่ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง (แต่ก็ยังทำกันอยู่) คือระบบจับฉลาก
เป็นข้อเสนอที่ผมไม่เข้าใจว่า ทำกันไปได้ยังไง แทนที่จะยกระดับโรงเรียนให้สูงขึ้น โดยหวังว่าเด็กจะได้เรียนใกล้บ้าน ไม่ต้องถ่อไปแย่งกันเข้าเรียนในโรงเรียนที่มีชื่อเสียง
กลับทำลายโรงเรียนดี ๆ ให้มันตกต่ำลงเหมือน ๆ โรงเรียนอื่นเขา ให้มันดูแบนราบสม่ำเสมอกันดี
บ้านอื่นเมืองอื่นเขาเน้นสร้าง School for Gifted Children บ้านเรากลับพยายามกำจัด
นี่ก็พยายามสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ในการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยอีก หลังจากก่อนหน้านี้ก็ใช้ความคิดเน่า ๆ ในการยกเลิกระบบ Entrance อ้างว่าเด็กเครียดบ้าง, ตัดสินโดยการสอบเพียงครั้งเดียวบ้าง, ไม่สะท้อนความสามารถเด็กบ้าง, ฯลฯ
สุดท้าย ปรับไป ปรับมา การสอบ Admission มันต่างกับ Entrance ตรงไหน สอบหนเดียว ครั้งเดียว เหมือนกันแม้กระทั่งความหมาย (Admission exam = Entrance exam) แต่ไม่กล้าใช้ชื่อเดิม เพราะมันเป็นหนามยอกอก กลัวคนมาด่าว่าล้มเหลว ต้องกลับมาใช้ของเดิม
ขึ้นชื่อว่าการสอบ แสดงว่าต้องการวัดคุณสมบัติเด็กด้วย "สิ่งชี้วัดที่เป็นรูปธรรม" เช่น คะแนน เพื่อลดอคติในการตัดสิน
คะแนนคุณธรรม ทำให้สิ่งดี ๆ ที่เป็นนามธรรม ถูกดึงให้ต่ำลง ต่อไปนี้เด็กต้องทำทุกอย่างเอาหน้า (เหมือนพี่แผ่วว่า) หรือไม่ก็เลือกทำอะไรให้มันได้หน้า ได้ชื่อ อะไรเล็ก ๆ ไม่ แต่ใหญ่ ๆ ทำ และเน้นผลที่จับต้องได้อย่างเดียว เพื่อให้แปลงเป็นคะแนน
เรื่องการคิดคะแนน ก็ยังขึ้นกับผู้ประเมิน คนประเมินมีมาตรฐานคุณธรรมสูงแค่ไหนในการที่จะไปประเมินเขา
ในข่าวมีบางโรงเรียน เอาคะแนนกิจกรรมไปแทนคะแนนสอบ ทำกิจกรรมอย่างเดียว ก็ได้เกรด 4 ได้โดยไม่ต้องท่องหนังสือ... อย่างนี้ทำกิจกรรมอย่างเดียว มันจะเรียนวิศวะ, เรียนหมอ, เรียนเภสัช จบได้จริงหรือ ไม่นับที่ว่าถ้าจบได้ เป็นหมอรักษาคนโดยใช้ความรู้เรื่องกิจกรรม ถ้าเป็นคนไข้ซะเอง จะกล้าไปรักษาหรือเปล่า?
คิดแล้วเสียดายเงินเดือนเหล่าผู้บริหาร สพฐ เสียดายเงินที่ตัวเองจ่ายเป็นภาษี
- energizer
- Verified User
- โพสต์: 505
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้คะแนนวัดคุณธรรมสอบเข้ามหาวิทยาลัย เริ่มปีหน้า
โพสต์ที่ 9
สำหรับระดับมหาลัย โหวตให้ใช้ระบบ Entrance อย่างเก่าหนะดีแล้วครับ ไม่ต้องไปเอา GPA อารายมารวมหรอก ไม่เจออาจารย์ในโรงเรียนมัธยมอย่างผมไม่รู้หรอกว่าเกรดมันได้มายังไงบ้าง (เรียนพิเศษกับฉันมะ ฉันออกข้อสอบ, เธอกำลังจะตกนะ แต่ฉันขายประกันชีวิต, มาช่วย(พิมพ์)งานวิจัยปริญญาโทฉันมะ เดี่ยวจะให้คะแนนพิเศษ...)ก้อนหิน เขียน:สมมตินะครับสมมติ
ถ้าพี่ๆได้มีส่วนในการออกกฏพวกนี้ นี่มันควรจะไปแก้อะไรก่อนครับ ขอแบบเป็นไปได้นะครับ อยากได้แนวคิดทำนองนี้ด้วยครับ
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้คะแนนวัดคุณธรรมสอบเข้ามหาวิทยาลัย เริ่มปีหน้า
โพสต์ที่ 10
เรื่องนี้ไม่รู้ว่าเกี่ยวด้วยหรือเปล่า
คือโรงเรียนมัธยม ที่ลูกชายผมเรียนมัธยม4
เป็นปีแรกที่แจกเข็มของโรงเรียนให้นักเรียนเพียง3คน
ด้วยความสงสัยที่ลูกชายผมได้รับแจกมากับเขา
เลยถามว่าทำอย่างไรถึงจะได้ล่ะ
ลูกตอบว่าต้องทำความดี มีการบันทึกธนาคารความดีเป็นข้อมูลของโรงเรียน
นี่เป็นปีแรก คงที่ได้รับเขาพิจารณาเวลาที่ผ่านมา ทำประโยชน์อะไรให้สังคม
ปีนำร่องก็เอาสถิติผ่านมาเป็นการกรอง
ผมก็คิดว่าแล้วปีต่อไป คงมีการแข่งกันทำความดีก็น่าจะดี
แล้วการทำความดีแบบเทียมเทียม คือทำไม่จริงล่ะจะมีเข้ามาหรือเปล่า
สมมุติต้องการได้เข็มที่ระลึกในการทำความดี
เพื่อนคนหนึ่งแกล้งทำกระเป๋าตังค์ตก
เพื่อนอีกคนที่ต้องการเข็มรู้กัน ก็เก็บได้นำส่งคุณครู
ก็จะได้รับการบันทึกเข้าธนาคารความดี และอื่นๆอีก
คิดและมองในแง่ดี ก็น่าจะดี มีเยาวชนตั้งใจทำความดีมากขึ้นครับ
คือโรงเรียนมัธยม ที่ลูกชายผมเรียนมัธยม4
เป็นปีแรกที่แจกเข็มของโรงเรียนให้นักเรียนเพียง3คน
ด้วยความสงสัยที่ลูกชายผมได้รับแจกมากับเขา
เลยถามว่าทำอย่างไรถึงจะได้ล่ะ
ลูกตอบว่าต้องทำความดี มีการบันทึกธนาคารความดีเป็นข้อมูลของโรงเรียน
นี่เป็นปีแรก คงที่ได้รับเขาพิจารณาเวลาที่ผ่านมา ทำประโยชน์อะไรให้สังคม
ปีนำร่องก็เอาสถิติผ่านมาเป็นการกรอง
ผมก็คิดว่าแล้วปีต่อไป คงมีการแข่งกันทำความดีก็น่าจะดี
แล้วการทำความดีแบบเทียมเทียม คือทำไม่จริงล่ะจะมีเข้ามาหรือเปล่า
สมมุติต้องการได้เข็มที่ระลึกในการทำความดี
เพื่อนคนหนึ่งแกล้งทำกระเป๋าตังค์ตก
เพื่อนอีกคนที่ต้องการเข็มรู้กัน ก็เก็บได้นำส่งคุณครู
ก็จะได้รับการบันทึกเข้าธนาคารความดี และอื่นๆอีก
คิดและมองในแง่ดี ก็น่าจะดี มีเยาวชนตั้งใจทำความดีมากขึ้นครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้คะแนนวัดคุณธรรมสอบเข้ามหาวิทยาลัย เริ่มปีหน้า
โพสต์ที่ 11
วัด นามธรรม ด้วยสิ่งที่เป็นรูปธรรม... คงยากน่าดูนะครับ
มี bias และเสียงบ่นตามมาแน่นอนครับ
ว่าแต่ ใครคิดน่ะ
มี bias และเสียงบ่นตามมาแน่นอนครับ
ว่าแต่ ใครคิดน่ะ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้คะแนนวัดคุณธรรมสอบเข้ามหาวิทยาลัย เริ่มปีหน้า
โพสต์ที่ 12
8) ความคิดพี่เอเนอไจเซ่อร์ตรงใจจริงๆenergizer เขียน: สำหรับระดับมหาลัย โหวตให้ใช้ระบบ Entrance อย่างเก่าหนะดีแล้วครับ ไม่ต้องไปเอา GPA อารายมารวมหรอก ไม่เจออาจารย์ในโรงเรียนมัธยมอย่างผมไม่รู้หรอกว่าเกรดมันได้มายังไงบ้าง (เรียนพิเศษกับฉันมะ ฉันออกข้อสอบ, เธอกำลังจะตกนะ แต่ฉันขายประกันชีวิต, มาช่วย(พิมพ์)งานวิจัยปริญญาโทฉันมะ เดี่ยวจะให้คะแนนพิเศษ...)
พวกนี้เขาจะได้กดเด็กให้อยู่ในอำนาจทั้งม.4 ม.5 ม.6
ที่ก้อนหิน ถามว่าถ้าผมมีอำนาจจะไปแก้อะไรก่อน
ก็คงตอบว่า
ไปยกเลิกที่มันทำยุ่งๆไว้ก่อน
แล้วนิมนต์ให้ไปเลี้ยงลูก-หลานตัวเองนะแหละดี
ที่อาจารย์หมอบอกว่าคนเก่งต้องเรียนกับคนเก่ง
เห็นด้วยครับ
ต้องสร้างบรรยากาศแข่งขันดีๆให้เขาครับ
เขาจึงจะเปล่งประกายออกมาได้
สมัยเอนท์วิชาที่ผมเก่งสุดคืออังกฤษ
ผมทำได้แปดสิบกว่าจาก100
ต้นตอความชอบวิชานี้มาจากรางวัลหนังสือเล่มนึง
ที่อ.ที่เก่งๆคนนึง(ผมยังจำชื่อได้เลย ชื่อธิดาวัลย์)
ใช้เป็นจิตวิทยาชมเชยเด็กๆนักเรียนกลุ่มนึงเมื่อตอนประถม4
ที่ทำคะแนนวิชาไหนได้สูงๆ
ผมจำมาตลอดว่าผมเก่งวิชานี้ ทั้งรักทั้งชอบ
เหมือนถูกสกดจิตมาตั้งแต่นั้น
ว่าผมไม่แพ้ใครแน่ๆ
ให้แข่งวิชานี้กับใครไม่เคยกลัว
ถ้าเราชอบการแข่งขัน ก็จะมีความทนทาน
จะอยู่ในโลกเบี้ยวๆใบนี้ได้เป็นอย่างดี
ทุกวันนี้เหมือนกติกามันแปลกๆ
มีแต้มต่อให้บางคนที่อยู่ในระบบ
คนที่ against ก็เรียบร้อย
แค่สอบเอนท์กันแฟร์ ไม่ต้องมีตัวช่วยก็พอแล้วครับ
เขาอ้างว่า วิธีเดิม ทำให้รร.กวดวิชารวย
เพราะเด็กและพ่อแม่ ที่มีมากกว่าก็ขยันไปกวดวิชา
เขามีมากกว่านี่มันผิดด้วยหรือครับ
ผมถึงว่าคุยเรื่องนี้มันยาว.....ไง.....
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้คะแนนวัดคุณธรรมสอบเข้ามหาวิทยาลัย เริ่มปีหน้า
โพสต์ที่ 14
8) จิ๊บพอดีลูกกำลังอยู่ในวัยต้องเริ่มแข่งกับชาวบ้านเขาแล้ว
ผมนึกได้เคสนึงพอดีสำหรับจิ๊บ
มีเพื่อนคนนึงพ่อฝากเข้าเตรียม ไปอยู่ห้องนักเรียนฝากในปีแรก
ปีต่อมาสอบหนีย้ายไปอยู่ห้องต้นๆได้
ไม่เคยเรียนกวดวิชาครับ
นอนหนึ่งทุ่ม ตื่นเที่ยงคืน
อ่านหนังสือ ทำการบ้าน ถีงเช้าค่อยไปเรียนต่อ
ข้อสอบสิบปี ทำมาหมดแล้ว ทุกวิชา
เข้าหมอเชียงใหม่ได้ครับ
ยอดไหม
คนที่ไม่ต้องกวดวิชาแล้วคุมตัวเองอ่านหนังสือได้
ไม่ต้องกวดวิชาก็ได้ครับ
แต่ถ้าคุมไม่ได้ การไปกวดวิชา ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ไม่ต้องนั่งอ่านเอง
มีคนเขาสรุปมาให้ฟัง ก็กระชับดี
แต่ถามจริงๆ วิชาคำนวณ ถ้าไม่ลงมือฝึกคำนวณเอง
ถึงเวลาจริงๆ จะคำนวณออกหรือครับ
ผมนึกได้เคสนึงพอดีสำหรับจิ๊บ
มีเพื่อนคนนึงพ่อฝากเข้าเตรียม ไปอยู่ห้องนักเรียนฝากในปีแรก
ปีต่อมาสอบหนีย้ายไปอยู่ห้องต้นๆได้
ไม่เคยเรียนกวดวิชาครับ
นอนหนึ่งทุ่ม ตื่นเที่ยงคืน
อ่านหนังสือ ทำการบ้าน ถีงเช้าค่อยไปเรียนต่อ
ข้อสอบสิบปี ทำมาหมดแล้ว ทุกวิชา
เข้าหมอเชียงใหม่ได้ครับ
ยอดไหม
คนที่ไม่ต้องกวดวิชาแล้วคุมตัวเองอ่านหนังสือได้
ไม่ต้องกวดวิชาก็ได้ครับ
แต่ถ้าคุมไม่ได้ การไปกวดวิชา ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ไม่ต้องนั่งอ่านเอง
มีคนเขาสรุปมาให้ฟัง ก็กระชับดี
แต่ถามจริงๆ วิชาคำนวณ ถ้าไม่ลงมือฝึกคำนวณเอง
ถึงเวลาจริงๆ จะคำนวณออกหรือครับ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- ก้อนหิน
- Verified User
- โพสต์: 2344
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้คะแนนวัดคุณธรรมสอบเข้ามหาวิทยาลัย เริ่มปีหน้า
โพสต์ที่ 15
อ่อ เค้าคนนั้นนี่เอง นับถือครับpor_jai เขียน:8) จิ๊บพอดีลูกกำลังอยู่ในวัยต้องเริ่มแข่งกับชาวบ้านเขาแล้ว
ผมนึกได้เคสนึงพอดีสำหรับจิ๊บ
มีเพื่อนคนนึงพ่อฝากเข้าเตรียม ไปอยู่ห้องนักเรียนฝากในปีแรก
ปีต่อมาสอบหนีย้ายไปอยู่ห้องต้นๆได้
ไม่เคยเรียนกวดวิชาครับ
นอนหนึ่งทุ่ม ตื่นเที่ยงคืน
อ่านหนังสือ ทำการบ้าน ถีงเช้าค่อยไปเรียนต่อ
ข้อสอบสิบปี ทำมาหมดแล้ว ทุกวิชา
เข้าหมอเชียงใหม่ได้ครับ
ยอดไหม
คนที่ไม่ต้องกวดวิชาแล้วคุมตัวเองอ่านหนังสือได้
ไม่ต้องกวดวิชาก็ได้ครับ
แต่ถ้าคุมไม่ได้ การไปกวดวิชา ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ไม่ต้องนั่งอ่านเอง
มีคนเขาสรุปมาให้ฟัง ก็กระชับดี
แต่ถามจริงๆ วิชาคำนวณ ถ้าไม่ลงมือฝึกคำนวณเอง
ถึงเวลาจริงๆ จะคำนวณออกหรือครับ
- ก้อนหิน
- Verified User
- โพสต์: 2344
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้คะแนนวัดคุณธรรมสอบเข้ามหาวิทยาลัย เริ่มปีหน้า
โพสต์ที่ 16
ถ้าเรื่อง Entrance นี่เท่าที่ผมตามทันนะครับ
ผมว่าระบบ Ent สองครั้ง เอาคะแนนครั้งที่ดีที่สุดมายื่น ผมว่าดีที่สุดแล้วครับระบบนี้ อาจจะมี GPA นิดๆ แต่ไม่อยากให้มันมีผลมาก ความเครียดก็กำลังดีครับ
ผมว่ายิ่ง เค้าใช้เกรดมาเอ็นท์มากเท่าไหร่ เด็กยิ่งเครียดกว่าเดิม กวดวิชายิ่งได้เงินมากกว่าเดิม เพราะว่าต้องมาเรียนกับเค้าตลอดเวลา ตั้งแต่ ม 4 5 6 (แบบไม่ใช้เกรด อาจจะเรียนแค่ตอน ม 6)
ยิ่งคะแนนคุณธรรมยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เพื่อนผมเป็นลูกอจ คนนึงในโรงเรียน กระโดดต่อย คู่อริ
ในขณะ กำลัง ยำ เค้าอยู่ อจ. ปกครองคนนึง เดินมาห้าม
แล้วก็ถามเพื่อนผมว่า เป็นไงบ้างลูก
ผมยืนดูงงๆ ว่า มันเป็นคนกระทำนะนั่น
ถ้าคะแนนคุณธรรมมีผลจริงๆ ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะออกมายังไงดี
ผมว่าระบบ Ent สองครั้ง เอาคะแนนครั้งที่ดีที่สุดมายื่น ผมว่าดีที่สุดแล้วครับระบบนี้ อาจจะมี GPA นิดๆ แต่ไม่อยากให้มันมีผลมาก ความเครียดก็กำลังดีครับ
ผมว่ายิ่ง เค้าใช้เกรดมาเอ็นท์มากเท่าไหร่ เด็กยิ่งเครียดกว่าเดิม กวดวิชายิ่งได้เงินมากกว่าเดิม เพราะว่าต้องมาเรียนกับเค้าตลอดเวลา ตั้งแต่ ม 4 5 6 (แบบไม่ใช้เกรด อาจจะเรียนแค่ตอน ม 6)
ยิ่งคะแนนคุณธรรมยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เพื่อนผมเป็นลูกอจ คนนึงในโรงเรียน กระโดดต่อย คู่อริ
ในขณะ กำลัง ยำ เค้าอยู่ อจ. ปกครองคนนึง เดินมาห้าม
แล้วก็ถามเพื่อนผมว่า เป็นไงบ้างลูก
ผมยืนดูงงๆ ว่า มันเป็นคนกระทำนะนั่น
ถ้าคะแนนคุณธรรมมีผลจริงๆ ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะออกมายังไงดี
-
- Verified User
- โพสต์: 2266
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้คะแนนวัดคุณธรรมสอบเข้ามหาวิทยาลัย เริ่มปีหน้า
โพสต์ที่ 17
ผมคงแบ่งอย่างนี้ก้อนหิน เขียน:สมมตินะครับสมมติ
ถ้าพี่ๆได้มีส่วนในการออกกฏพวกนี้ นี่มันควรจะไปแก้อะไรก่อนครับ ขอแบบเป็นไปได้นะครับ อยากได้แนวคิดทำนองนี้ด้วยครับ
GPA 15%
Entrance Exam 2 times ( Take the best scores on each subjects ) 85%
GPA สำคัญ แต่ไม่ทั้งหมด ไม่อยากให้รู้แบบออกมาว่า ที่เรียนมา 3 ปี เอามาใช้ไม่ได้เลย ตั้งใจตอนเอนท์ปีเดียวก็พอ ไม่แฟร์สำหรับคนที่เรียนดีมาตลอด
Entrance เป็นสิ่งที่ง่ายที่สุด เห็นชัดที่สุด และ มาตราฐานเดียวกัน
ให้โอกาสสองครั้ง เพือให้คนที่พลาดได้แก้ตัว
เพือนผมเก่งมาก แต่แม่เค้าเสียตอนวันสอบ เหลืออีก 2 วิชา
เค้าทำได้แค่ประมาณ 25% เท่านั้นเองตัวข้อสอบที่เหลือ เพราะสมองมันไม่ไป คิดอะไรไม่ออก
ยังดีที่ติดวิศวะ เพราะสี่วิชาที่เหลือ มันเก็บไว้เยอะมาก
ถ้าเกิดเหตุการณ์ก่อนนั้น เค้าก็คงเอนท์ไม่ติดวิศวะ อย่างที่ควรแน่นอน
เราต้องคัดคนที่มีความสามารถใกล้เคียงที่สุด เพื่ออยุ่ในมหาลัยในระดับเดียวกัน มีคนเข้าเรียนที่เหมาะสมในรุ่นเดียวกัน
ไม่เช่นนั้นจับคนเก่งมากๆมาเรียนกับคนไม่เก่ง สุดท้าย คนเก่งก็รู้ว่าไม่ต้องดิ้นรน เพราะอย่างไรก็ได้เกรดดีๆ แต่ไม่ใช่เพราะเค้าตั้งใจเรียนแต่เป็นเพราะคนอื่นด้อยกว่า
แล้วคนเก่งนั้นก็จะไม่ได้พัฒนาต่อ เพราะไม่มีการแข่งขันที่เหมาะสม
แล้วประเทศเราจะก้าวหน้าได้ไง
เด็กมันจะเครียดก็เพราะว่า เค้าไม่ได้เตรียมตัวซะส่วนใหญ่
ถ้าเตรียมตัวมาดี ตั้งใจเรียน ผมเชือว่าทุกคนไปถึงมหาลัยได้แน่นอน.....
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
-
- Verified User
- โพสต์: 391
- ผู้ติดตาม: 0
ใช้คะแนนวัดคุณธรรมสอบเข้ามหาวิทยาลัย เริ่มปีหน้า
โพสต์ที่ 18
อีกหน่อยถ้าอยากให้คนไทยรักชาติ
ก็ออกกฏหมายว่า แปดโมงเช้าหกโมงเย็นต้องบังคับยืนตรงเคารพธงชาติเสียเลย
ไม่ว่าจะกำลังขับรถอยู่หรือไม่ก็ตาม อิอิ
ยกเว้นให้เฉพาะที่ขับบนทางด่วนเท่านั้น
ถ้ายังไม่ยอมรักชาติอีก
ก็สั่งเปิดไฟแดงทั้งประเทศซะเลย
ดูซิ...จะขับไปยังไงอีก
ถ้ายังไม่ยอมอีกก็สั่งปรับ สี่พันบาท
จำคุกอีกสองปีซะเลย
ดูซิ....จะยังไม่รักชาติอีกไหม
ฮ่า ๆ ๆ อีกหน่อยคนไทยก็คงรักชาติกันทั้งประเทศ
ซ้ายหัน.....ขวาหัน
http://www.senate.go.th/law_ftp/AP/index/ap260_50.pdf
ก็ออกกฏหมายว่า แปดโมงเช้าหกโมงเย็นต้องบังคับยืนตรงเคารพธงชาติเสียเลย
ไม่ว่าจะกำลังขับรถอยู่หรือไม่ก็ตาม อิอิ
ยกเว้นให้เฉพาะที่ขับบนทางด่วนเท่านั้น
ถ้ายังไม่ยอมรักชาติอีก
ก็สั่งเปิดไฟแดงทั้งประเทศซะเลย
ดูซิ...จะขับไปยังไงอีก
ถ้ายังไม่ยอมอีกก็สั่งปรับ สี่พันบาท
จำคุกอีกสองปีซะเลย
ดูซิ....จะยังไม่รักชาติอีกไหม
ฮ่า ๆ ๆ อีกหน่อยคนไทยก็คงรักชาติกันทั้งประเทศ
ซ้ายหัน.....ขวาหัน
http://www.senate.go.th/law_ftp/AP/index/ap260_50.pdf