บริษัทยอดเยี่ยมของไทย 5 บริษัท จากการจัดอันดับของฟอร์บส์
-
- Verified User
- โพสต์: 464
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทยอดเยี่ยมของไทย 5 บริษัท จากการจัดอันดับของฟอร์บส์
โพสต์ที่ 1
เมื่อเช้าดูมันนี่ทอล์ค พูดถึงบริษัทยอดเยี่ยมของไทย 5 บริษัท
จากการจัดอันดับของฟอร์บส์ที่มีมูลค่าบริษัทไม่ถึงพันล้านเหรียญ
ท่านใดมีหุ้นเหล่านี้ ขอเสียงและความเห็นด้วยครับ
เรียงตามตัวอักษร
1. aprint
2. team
3. tcb
4. uec
5. จำไม่ได้ครับ ใครจำได้ช่วยบอกด้วยครับ
ตัวแรก ตอนนี้ผลประกอบการไม่ดี ราคาหุ้นตอนนี้ผมรู้สึกว่าแพงไป
ตัวที่สอง กำลังติดตามความเคลื่อนไหว
ตัวที่สาม ไม่เคยรู้จัก ขายถ่ายคาร์บอนมั้ง ครึ่งปีแรกต้นทุนวัตถุดิบลดลงมาก กำไรจึงออกมาสวยงาม
ต้นทุนที่ลดลงเป็นวัตถุดิบอะไรก้อไม่รู้ มีความผันผวนขนาดไหนก้อม่ายรู้
ถ้ากำไรดีเหมือนครึ่งปีแรก น่าจะร่วมลงทุน แต่ปันผลน้อยนิด ทั้งที่เงินสดแยะ
ตัวที่สี่ ไม่ต้องให้คำจำกัดความเนอะ :lol:
ตัวที่ห้า จำไม่ได้จริง ๆ ครับ วานท่านที่รู้ช่วยบอกด้วยครับ
จากการจัดอันดับของฟอร์บส์ที่มีมูลค่าบริษัทไม่ถึงพันล้านเหรียญ
ท่านใดมีหุ้นเหล่านี้ ขอเสียงและความเห็นด้วยครับ
เรียงตามตัวอักษร
1. aprint
2. team
3. tcb
4. uec
5. จำไม่ได้ครับ ใครจำได้ช่วยบอกด้วยครับ
ตัวแรก ตอนนี้ผลประกอบการไม่ดี ราคาหุ้นตอนนี้ผมรู้สึกว่าแพงไป
ตัวที่สอง กำลังติดตามความเคลื่อนไหว
ตัวที่สาม ไม่เคยรู้จัก ขายถ่ายคาร์บอนมั้ง ครึ่งปีแรกต้นทุนวัตถุดิบลดลงมาก กำไรจึงออกมาสวยงาม
ต้นทุนที่ลดลงเป็นวัตถุดิบอะไรก้อไม่รู้ มีความผันผวนขนาดไหนก้อม่ายรู้
ถ้ากำไรดีเหมือนครึ่งปีแรก น่าจะร่วมลงทุน แต่ปันผลน้อยนิด ทั้งที่เงินสดแยะ
ตัวที่สี่ ไม่ต้องให้คำจำกัดความเนอะ :lol:
ตัวที่ห้า จำไม่ได้จริง ๆ ครับ วานท่านที่รู้ช่วยบอกด้วยครับ
- hagrid
- Verified User
- โพสต์: 566
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทยอดเยี่ยมของไทย 5 บริษัท จากการจัดอันดับของฟอร์บส์
โพสต์ที่ 3
จริงๆ ถ้าอยากประสบความสำเร็จในการลงทุน
น่าจะต้องมองเห็นและซื้อก่อนที่จะติดอันดับสัก 2-3 ปี
เพราะพอได้รับการจัดอันดับเป็นบริษัทยอดเยี่่ยมแล้ว
มักแพงเกินไปเสียแล้ว
ปล.ตอนนี้มีใครเห็นบริษัทที่จะติดอันดับบริษัทยอดเยี่ยม
ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ช่วยบอกผมด้วย
น่าจะต้องมองเห็นและซื้อก่อนที่จะติดอันดับสัก 2-3 ปี
เพราะพอได้รับการจัดอันดับเป็นบริษัทยอดเยี่่ยมแล้ว
มักแพงเกินไปเสียแล้ว
ปล.ตอนนี้มีใครเห็นบริษัทที่จะติดอันดับบริษัทยอดเยี่ยม
ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ช่วยบอกผมด้วย
- cryptonian_man
- Verified User
- โพสต์: 585
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทยอดเยี่ยมของไทย 5 บริษัท จากการจัดอันดับของฟอร์บส์
โพสต์ที่ 4
hagrid เขียน:จริงๆ ถ้าอยากประสบความสำเร็จในการลงทุน
น่าจะต้องมองเห็นและซื้อก่อนที่จะติดอันดับสัก 2-3 ปี
เพราะพอได้รับการจัดอันดับเป็นบริษัทยอดเยี่่ยมแล้ว
มักแพงเกินไปเสียแล้ว
ปล.ตอนนี้มีใครเห็นบริษัทที่จะติดอันดับบริษัทยอดเยี่ยม
ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ช่วยบอกผมด้วย
บอกด้วยนะคร้าบบบ
3 ใน 5 เป็นตัวที่เคยมองไว้ตอนกลางปีนี้ที่ผมเริ่มลงทุน ตอนนั้นมัวแต่ต่อราคาเลยไม่ได้เก็บไว้เลย เฮ้อ
สงสัยต้องทำตามอย่างที่คุณ hagrid ว่าอ่ะครับ
เขาว่า "หลังจากปากพองจากการดื่มนมร้อน เราจะเป่าโยเกิร์ตให้เย็นก่อนตักเข้าปาก"
แต่ทำไมตรูไม่เข็ด เคาะขวาไวตลอดเนี่ย
แต่ทำไมตรูไม่เข็ด เคาะขวาไวตลอดเนี่ย
- ก้อนหิน
- Verified User
- โพสต์: 2344
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทยอดเยี่ยมของไทย 5 บริษัท จากการจัดอันดับของฟอร์บส์
โพสต์ที่ 6
อาจจะมีบางบริษัทได้รับเลือก สองปีซ้อน ก็เป็นไปได้นะึครับPn3um0n1a เขียน:ผมเห็นด้วยกับพี่ jun นะครับ
ณ ขณะนี้ คงไม่ได้สำคัญแล้ว ว่า บริษัทใด ได้เป็น
แต่ควรจะมา discuss กันว่า เหตุใด จึงได้รับเลือก
และ บริษัทใด กำลังจะได้บเลือกต่อไป
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทยอดเยี่ยมของไทย 5 บริษัท จากการจัดอันดับของฟอร์บส์
โพสต์ที่ 7
วกเข้าประเด็นที่เจ้าของกระทู้ถามดีกว่า
ผมมีหุ้นอยู่ตัวเดียวครับคือ APRINT
ทำไมถึงได้รับเลือก อันนี้ผมไม่ทราบเหมือนกันเพราะผมไม่ได้เป็นคนจัด
แต่เหตุผลที่ผมเลือกซื้อหุ้นตัวนี้ มีสามสี่อย่าง
1. เป็นบริษัทสำนักพิมพ์ที่พิมพ์หนังสือและนิตยสารหลายเล่ม นิตยสารในบ้านเรามีไม่น้อย (ดูผ่าน ๆ ตามแผงหนังสือน่าจะหลายร้อยอยู่) แต่นิตยสารในเครือนี้ล้วนแต่เป็นนิตยสารเจ้าตลาดใน segment ของตัวเอง, อยู่มานาน, แฟนประจำเยอะและมีเศรษฐานะค่อนข้างดี
ความได้เปรียบเหล่านี้ทำให้นิตยสารเครือ APRINT มีความแข็งแกร่งทั้งยอดจำหน่ายและยอดโฆษณา แม้ว่าจะมีผลกระทบในภาวะเศรษฐกิจไม่ดีอยู่บ้าง แต่ก็มีผลน้อยกว่านิตยสารอื่นในหมู่เดียวกัน
2. เป็นกิจการที่ใช้ต้นทุนไม่มาก มี ROI และ ROE สูง โมเดลธุรกิจไม่ซับซ้อนซ่อน เข้าใจง่าย ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ยี่สิบปีที่แล้ว เขาก็ทำนิตยสารและหนังสือแบบนี้ และอีกยี่สิบปีต่อจากนี้ ก็ยังคงทำเหมือนเดิม อและคนก็ยังต้องอ่านหนังสือ และนิตยสารนี้อยู่ดี
3. ฐานะการเงินของบริษัทแข็งแกร่ง หนี้น้อยเพราะไม่มีความจำเป็นต้องก่อหนี้มากมาย เพราะธุรกิจไม่ซับซ้อน บัญชีจึงดูง่าย และไม่มีอะไรหมกเม็ดให้น่าสงสัย
4. ผู้บริหารดี โปร่งใส มีธรรมาภิบาล ไม่เคยให้ข่าวมากมาย แค่ทำงานของตัวเองให้ดีที่สุด
เรื่องราคาหุ้นนี่ต่างจิตต่างใจครับ ผมเองไม่ชอบหุ้นที่ราคาขึ้นพรวดพราด เพราะกิจการมันไม่ได้ขยายตัวกันรวดเร็วขนาดนั้น ผู้บริหารไม่ต้องออกมาให้ข่าว วาดภาพฝันให้ตลาดหรือผู้ลงทุน ขอให้ผู้บริหารทำงานบริหารกิจการให้ดีที่สุดก็พอ ผลงานมันจะสะท้อนออกมาในแง่ผลประกอบการเอง และราคาหุ้นมันก็จะต้องเพิ่มขึ้นตามผลประกอบการไปด้วย
ยิ่งราคาหุ้นต่ำ ๆ ไม่มีคนสนใจ ไม่มีนักวิเคราะห์เข้ามายุ่มย่ามนี่แหละดีนัก จะได้มีเวลาทะยอยเก็บไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องรีบร้อน สำหรับผลประกอบการผมเห็นว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ (อาจจะดีมากด้วยซ้ำ ถ้ามีกิจการอื่นที่ประกอบธุรกิจนิตยสารเหมือน ๆ กันมาเปรียบเทียบ) เพียงแต่มันมีการขึ้นลงตามสภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งไม่น่าแปลกอะไร โดยเฉพาะเมื่อเอาไปเทียบกับปีก่อนที่มีการพิมพ์หนังสือยอดฮิต เช่น Da Vinci Code ออกมา
ผมมีหุ้นอยู่ตัวเดียวครับคือ APRINT
ทำไมถึงได้รับเลือก อันนี้ผมไม่ทราบเหมือนกันเพราะผมไม่ได้เป็นคนจัด
แต่เหตุผลที่ผมเลือกซื้อหุ้นตัวนี้ มีสามสี่อย่าง
1. เป็นบริษัทสำนักพิมพ์ที่พิมพ์หนังสือและนิตยสารหลายเล่ม นิตยสารในบ้านเรามีไม่น้อย (ดูผ่าน ๆ ตามแผงหนังสือน่าจะหลายร้อยอยู่) แต่นิตยสารในเครือนี้ล้วนแต่เป็นนิตยสารเจ้าตลาดใน segment ของตัวเอง, อยู่มานาน, แฟนประจำเยอะและมีเศรษฐานะค่อนข้างดี
ความได้เปรียบเหล่านี้ทำให้นิตยสารเครือ APRINT มีความแข็งแกร่งทั้งยอดจำหน่ายและยอดโฆษณา แม้ว่าจะมีผลกระทบในภาวะเศรษฐกิจไม่ดีอยู่บ้าง แต่ก็มีผลน้อยกว่านิตยสารอื่นในหมู่เดียวกัน
2. เป็นกิจการที่ใช้ต้นทุนไม่มาก มี ROI และ ROE สูง โมเดลธุรกิจไม่ซับซ้อนซ่อน เข้าใจง่าย ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ยี่สิบปีที่แล้ว เขาก็ทำนิตยสารและหนังสือแบบนี้ และอีกยี่สิบปีต่อจากนี้ ก็ยังคงทำเหมือนเดิม อและคนก็ยังต้องอ่านหนังสือ และนิตยสารนี้อยู่ดี
3. ฐานะการเงินของบริษัทแข็งแกร่ง หนี้น้อยเพราะไม่มีความจำเป็นต้องก่อหนี้มากมาย เพราะธุรกิจไม่ซับซ้อน บัญชีจึงดูง่าย และไม่มีอะไรหมกเม็ดให้น่าสงสัย
4. ผู้บริหารดี โปร่งใส มีธรรมาภิบาล ไม่เคยให้ข่าวมากมาย แค่ทำงานของตัวเองให้ดีที่สุด
เรื่องราคาหุ้นนี่ต่างจิตต่างใจครับ ผมเองไม่ชอบหุ้นที่ราคาขึ้นพรวดพราด เพราะกิจการมันไม่ได้ขยายตัวกันรวดเร็วขนาดนั้น ผู้บริหารไม่ต้องออกมาให้ข่าว วาดภาพฝันให้ตลาดหรือผู้ลงทุน ขอให้ผู้บริหารทำงานบริหารกิจการให้ดีที่สุดก็พอ ผลงานมันจะสะท้อนออกมาในแง่ผลประกอบการเอง และราคาหุ้นมันก็จะต้องเพิ่มขึ้นตามผลประกอบการไปด้วย
ยิ่งราคาหุ้นต่ำ ๆ ไม่มีคนสนใจ ไม่มีนักวิเคราะห์เข้ามายุ่มย่ามนี่แหละดีนัก จะได้มีเวลาทะยอยเก็บไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องรีบร้อน สำหรับผลประกอบการผมเห็นว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ (อาจจะดีมากด้วยซ้ำ ถ้ามีกิจการอื่นที่ประกอบธุรกิจนิตยสารเหมือน ๆ กันมาเปรียบเทียบ) เพียงแต่มันมีการขึ้นลงตามสภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งไม่น่าแปลกอะไร โดยเฉพาะเมื่อเอาไปเทียบกับปีก่อนที่มีการพิมพ์หนังสือยอดฮิต เช่น Da Vinci Code ออกมา
-
- Verified User
- โพสต์: 464
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทยอดเยี่ยมของไทย 5 บริษัท จากการจัดอันดับของฟอร์บส์
โพสต์ที่ 8
ขอบคุณความเห็น mr prandy ครับ
ทุกคนค้นหาหุ้นที่ คิดว่าบริษัทใดที่จะเป็นโกรทสต๊อก
แต่ว่าตอนนี้โกรทสต๊อกในเว็บวีไอ เริ่มไม่ถูก และมีมอสน้อยลง
ดังที่พี่มนตรี เคยกล่าวไว้ หุ้นที่ดี แต่อาจไม่ใช้การลงทุนที่ดี ในบางขณะ :lol:
ทุกคนค้นหาหุ้นที่ คิดว่าบริษัทใดที่จะเป็นโกรทสต๊อก
แต่ว่าตอนนี้โกรทสต๊อกในเว็บวีไอ เริ่มไม่ถูก และมีมอสน้อยลง
ดังที่พี่มนตรี เคยกล่าวไว้ หุ้นที่ดี แต่อาจไม่ใช้การลงทุนที่ดี ในบางขณะ :lol: