...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 31

โพสต์

.การได้เห็นเพื่อนๆในกลุ่มที่มาด้วยกัน ทำให้ไม่เหนื่อย มีกำลังใจอย่างมาก
แม้ทางข้างหน้าจะยากลำบาก ก็ขอลุยให้ถึงที่สุด พอมีแรง พวกเราก็ลุยต่อ
น้องที่นำทางบอกอีก10กม.ก็ถึงตลาดน้ำฯแล้วล่ะ พอดีดูระยะทางที่มารวมแล้ว49กม.
หากรวม10กม. ก็คงไม่เท่าไหร่ ระหว่าปั่นก็ปั่นตามขบวนไปเรื่อยๆ ทางแยกไปตามทางถนนแยกโรงงานต่างๆ
ซึ่งก็แปลกตาดี เป็นครั้งแรกในชีวิตก็ว่าได้ที่ได้ลุยอยู่บนถนนแปลกๆ หากไม่เหนื่อยก็คงชื่นชมบรรยากาศที่แปลกใหม่นี้

ถึงยัง...จวนถึงแล้ว อาเฮียสุวิทย์ ตะโกนมาแต่ไกล พอถึงสะพานก็บอกขี่งี้นะ แสดงให้ดู โดยขี่ขึ้นสะนไม้สูงๆนำก่อน
ตามด้วยคุณเต่า และอีกหลายๆคน แต่...จ้างเราๆก็ไม่ขอฝ่าด่านอรหันต์นี้...จูงขึ้นสะพานทีละก้าวก็ดีใจตายล่ะ..
กว่าจะจูงเจ้าเพื่อนยากขึ้นเขา เอ้ยขึ้นสะพานและลงมาได้ เหนื่อยมากๆเลยค่ะ...

พอลงมาก็เจอร้านค้ามากมาย เพิงขายอาหารเป็นเรือนไทยตลอดริมน้ำ หกาไม่เหนื่อยคงเดินจนทั่ว
แต่นี่ แขนไม่เป็นแขน ขาสั่น ลำตัวแยกไม่เชื่อฟังคำสั่งแล้ว เจอม้านั่งไม้ไผ่ตัวยาว ซึ่งแรกๆพี่ๆชมรมฯดอนเมืองนั่งอยู่ก่อน
ลุกมาให้ดิฉันนั่ง ส่งยิ้มอย่างมีไมตรีจิตต้อนรับอย่างยินดี ขอบคุณมากๆเลยค่ะ

เพชร..ลงสะพานมาแล้ว ถอดหมวกทั้งสองใบออก..หน้าแดง นั่งหายใจระรวย ..ฮาๆๆ
พี่ผู้ชายชมรมฯดอนเมือง บอกที่เรือนขายอาหารมีอาหารมากมาย ไปทานอาหารให้อิ่มก่อนนะครับ
ค่ะ ..ขอบคุณค่ะ ตอนนี้ เหนื่อยจนเอาหูฉลามมาให้ทานก็ทานไม่ลง เพราะอยากสลบไม่ต้องไปไหนจะดีมากๆเลยค่ะ

ครับ..งั้นลองดื่มน้ำเฉาก๊วยเย็นๆนะครับ กำลังจะมาทันที แล้วเขาก็ไปเอาน้ำเฉาก๊วยมาให้สองถ้วย ซึ่งก็ทำให้เราสองคนมีกำลังขึ้นมาทันทีเลยค่ะ
พอหายเหนื่อยเลยลุกไปเติมพลังอีกคนละแก้ว คราวนี้เลยรู้สึกหิว ความหิวทำให้ลืมเหนื่อย



ยังไม่ทันหาอะไรทาน ก็กังวลว่าขณะนี้ไม่มีแรงขับกลับบ้านแหล่ว ทำไงดี เพชร เอ๊ย ทำไงดี
พอดีคุณป๋อง เฮียสุวิทย์ เฮียคากิ มาทักทายถามว่าเหนื่อยไหม? ขากลับๆไหวไหม?ไม่ไหวต้องบอกนะ
จะลองหารถที่พากลับให้ โอ...ดีใจจนบอกไม่ถูก เห็นคุณป๋องและเฮียแนะนำคืออาเจ็กสุนทร อายุ78ปีแล้ว ยังแข็งแรงและใจดีมากๆค่ะ
อาเจ็กสุนทร ขับรถกระบะปิ๊คอัพมา บอกรถเบอร์ ๓ ให้นำรถไปวางบนรถได้เลย ขอบคุณมากๆเลยค่ะ

อาเจ็กบอกให้ทานข้าวให้อิ่มๆแล้วค่อยกลับกัน ส่วนเด็กสาวสองคนที่มาด้วย ดิฉันบอกให้คนใดคนหนึ่งขึ้นรถกระบะไปกับเพชร
ส่วนดิฉันจะกลับพร้อมกับอีกคน จะไปโดยปั่นต่อหรือกลับรถรับจ้างก็ได้แล้วแต่จะเลือก
น้องสองคนเขาบอกเขามาด้วยกันกลับด้วยกัน ก็เลยไม่แยกทางกัน ก็เลยเป็นห่วงน้องเขามากว่าจะกลับอย่างไรดี
เพราะเค๊าบอกปั่นกลับไม่ไหวแล้ว..คงต้องหารถเท๊กซี่กลับ ป้าไม่ต้องห่วง ที่นี่ไม่ใช่ต่างจังหวัดซักหน่อย เมืองนนท์แค่นี้เอง

เออ..เด็กสมัยนี้เก่งกว่าคนแก่นะ คนแก่อย่างดิฉัน พอพระอาทิตย์ตกดินล่ะก็..กลับหลงทาง..จริงๆด้วย ..

ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 32

โพสต์

8) ผมตามอ่านที่พี่สุเกียงโพสในสินธร
แก้ไขล่าสุดโดย por_jai เมื่อ พุธ ต.ค. 03, 2007 9:50 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 33

โพสต์

น่าสนุกจัุงพี่สุเกียง
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 34

โพสต์

พอใจรู้ว่าได้กลับบ้าน ก็หิวข้าวเลยสั่งบะหมีเป็ดมาหนึ่งชาม เพชรก็สั่งเหมือนกัน
อร่อยดีค่ะ พอดีนั่งโต๊ะเดียวกับเฮียฉัตร ๆแอบจ่ายเงินค่าอาหารให้เราสองคน ได้ส่งซิกกับเด็กคิดเงินว่า ห้ามเฮียออกเด็กคงกลัวเฮียดุ
ขอบคุณเฮียฉัตร ที่เลี้ยงพวกเราสองคนซะอิ่ม เป็นอาหารที่อร่อยมากๆ

อาเจ็กสุนทร และอาซิ่ม ใจดีมากๆเลยค่ะ ระหว่างทางได้คุยกัน ได้รู้จักน้ำใจไมตรีที่อาเจ็กมีกิจกรรมร่วมกับชมรมฯมาหลายๆปี
ทั้งๆที่เพิ่งรู้จักกันเป็นครั้งแรก ดิฉันยังได้รับความเอื้อเฟื้อด้วยดีขนาดนี้
ขอกราบขอบพระคุณอาเจ็กสุนทร อาซิ่ม ชมรมฯจักรยาน และชมรมฯดอนเมือง ทุกๆท่านค่ะ

ใน .ไมล์บอกระยะทางขาไป 65.38กม. ขากลับๆอีกเส้นทางหนึ่ง ทางจะดีกว่านี้
ไม่กลับทางเก่า นั่งในรถมองเส้นทางตลอดทาง โอ..ยามมาๆด้วยใจคึกคะนอง
ยามกลับ หากเป็นคนแข็งแรง ก็คงจะดี คงสมใจอยาก ขับกลับถึงบ้านเหมือนเพื่อนๆในกลุ่มได้จะดีไม่น้อย

ก่อนกลับได้ร่ำลาเพื่อนๆที่มาด้วย แต่ละคนให้กำลังใจว่านี่เป็นครั้งแรก ต่อไปรับรองจะไปได้ทุกที่ เชื่อเถอะ รับรองทริปหน้าไปได้และดีกว่านี้

กลัวจะเป็นตัวถ่วง ทำให้เดือดร้อน ก่อนไปต้องรู้ตัวว่า กำลังมีมากน้อยแค่ไหน?
เพราะพอกลับถึงบ้าน อาบน้ำเสร็จทานยาคลายเส้น สลบจนตื่นเช้า หลับเป็นตาย

เพราะ ร่างกายนี้ เรียกได้ว่า มันไม่เชื่อฟังเราอีกแล้ว ยกขา ยกแขน ไม่ขึ้น มีแต่หัวเท่านั้นที่กระดกขึ้นลงได้...

(ปล.นี่คือทริปแรกที่ได้ไปกับชมราฯค่ะ )



สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 35

โพสต์

เมื่ออาทิตย์กลับมาอาบน้ำเสร็จก็รีบโทรหาน้องสองคนที่ยังอยู่กับชมรมฯด้วยความเป็นห่วงที่ทิ้งให้กลับกันเอง
น้องพลอย รับสาย(ครั้งนี้มีเพื่อนชื่อเพชรและพลอย ก็เลยเหมือนเราขนาบเพชรพลอยเคลื่อนที่ไปไหนด้วย)
ดีใจมากที่ได้ยินเสียงน้องพลอย เป็นไงบ้าง เป็นห่วงมาก ..อ๋อตอนนี้พลอยกำลังจะเข้าซอยแถวบ้านแล้ว..
หา..ทำไมโชคดีจัง มาได้ไงเนี่ย ..พลอย มาด้วยรถเท๊กซี่ ชาวบ้านแถวนั้นใจดีมาก หารถสองแถวให้มาส่งต่อเท๊กซี่
ป้า..ไม่ต้องห่วงถึงบ้านแล้ว ..ได้ยินเท่านี้ ก็โล่งอก ..พอใจผ่อนคลาย เห็นหมอน..ก็สลบทันที..

เมื่อสักครู่ใหญ่ๆ หนูพลอย ก็มาหา พอดีนั่งเล่นคอมฯโพสต์คุยกะเพื่อนๆในเน็ทอยู่
เพราะกิจกรรมส่วนตัวรัดตัว จนไม่มีเวลาเล่นเน็ทตอบกระทู้หลังไมค์
เรียกว่า เวลาในชีวิตประจำวันรัดตัว รัดใจ รวมทั้งลุ้นหุ้นสุดเลิฟ สุดโฮ อะไรต่อมิอะไร แบ่งเวลาให้ไม่ถูก
ไหนจะต้องเร่งดูวีดีโอเกาหลี เรื่องใหม่ ที่น้องชายคนโตเอามาจากเพื่อน คิวคนดูต่อไปรออยู่ มาถึงเราเขาก็เร่งซะงั้น
เลยเกือบๆจะเป็นมนุษย์ค้างคาวเข้าไปแล้ว นอนไม่ถูกเวลา บางทีดูจนทีวีดูเราหลับจน ตาโตดูทีวีต่อก็มี
บวกกับต้องซ้อมขี่เสือในบางคืน ก็เลยสับรางให้กับตัวเองไม่ถูกไปซะงั้น...

** น้องพลอย..โดดเข้ามากอด บ่นดีใจที่ได้เห็นป้านั่งเล่นเน็ท ฮาๆๆ ดีใจที่ได้เจอกันอีก..
ถามว่า เป็นไงบ้าง ..สนุกดีค่ะ ประทับใจและตื่นเต้นดี หนูกลับถึงบ้าน เอาจักรยานลงจากรถเท๊กซี่
เขาถอดล้อออกทั้งสองคัน ก็ใส่บรรทุกหลังรถได้ พอหนูลงรถ เดินขาลาก แม่หนูขำว่าเป็นไรล่ะ หมดรงล่ะสิ..
แล้วพวกเค๊าก็หัวเราะกันใหญ่ แล้วหนูก็หลับ สลบ ปวดเมื่อยไปทั้งตัว..เล่าไปก็ขำไปอ่ะนะ ..
เด็กสมัยนี้ร่าเริงดีค่ะ ...แหม..มากระซิบว่า ขนาดหนูยังขับต่อไม่ไหว เมื่อยชมัด ..ป้าฉองคน จาขนาดไหน ฮาๆๆ...
ไปอยุธยามั๊ยคะ ... ไ ป...

ตอนไปคึกคัก มีเรี่ยวแรง ขากลับก็คงหมดแรงตามฟอร์ม ก็เตรียมใจเกาะรถไฟกลับบ้านกัน
วางแผน..ไปตั้งแต่ หายปวดเมื่อย เพียงแค่วันเดียว อ่ะนะ...อิอิ..

ตอนเอาเสื้อฝนไปอวด เพชร ก็เซิฟๆ ว่าจะไปอยุธยา ด้วย
ไม่รู้ว่าพี่ทางชมรมฯ จาเข็ดพวกเราหรือป่าว...




.ตอนที่กำลังปั่นจักรยานขึ้นสะพานสูง
ก็เห็นเหมือนกันขณะปั่นอยู่กลางสะพานกำลังจะปั่นลง ก็เห็นที่บนสะพานมีเด็กชายวัยไล่เลี่ยกับหลานชายดิฉันซื่งอายุคง9-10ขวบ
ปั่นไล่หลังกำลังจะตามพวกเรามา ยังนึกในใจเลยว่า ตัวแค่เนี๊ยะ ขี่เสือภูเขามาปั่นกะผู้ใหญ่ด้วย

ใจกล้ามากๆ มากะใคร ผู้ปกครองอยู่ไหน ก็ไม่ทันสังเกตุ เพราะไม่กล้ามองแม้แต่วิวรอบๆข้าง
เก่งมากๆเลยค่ะ ขณะที่ลุยทางถนนผิวพระจันทร์อยู่ก็ จ๊ะเอ๋..กะหนูน้อยคนนี้อีก
แหน่..ขี่นำหน้าไปก่อนแล้วเลี้ยวโค้งหายไป แถบนั้นอันตรายเหมือนกัน เพราะมีรถขนดินผ่านไปมาฝุ่นตลบไปหมด

นึกในใจว่า ถ้าให้หลานชายมาด้วย มีหวังทั้งคู่ได้เป็นเพื่อนรักนักซิ่งเป็นแน่แท้ เพราะรายนี้ก็ขี่รถจักรยาน
กะเพื่อนๆที่พัทยา รวมแก๊งค์เพื่อนๆหลายสิบคนเหมือนกัน นี่ก็มาพักหยุดปิดเทอมใหญ่
ที่พ่อเขาให้มาค้างเพราะ อยากให้เขาลืม ฐานไปท้าหมาอัลเซเชี่ยนบ้านของฝรั่งซึ่งมีเกมส์เพลย์สเตชั่น 2
พรรคพวกชวนปั่นจักรยานต่อด้วยไปดูเขาเล่นเกมส์ที่บ้านฝาหรั่ง ซึ่งบ้านนี้หมาดุ เจ้าของใจดี

แต่ด้วยความที่เจ้าแสบของบ้าน นึกว่า ม.หมา 4 ขาเหมียนกันหมดทุกตัว คงจะเหมือนเจ้าสามสีที่บ้านเคยเลี้ยงกระมัง
ซึ่งเจ้าสามสี ตัวดำปิ๊ดปี๋ทั้งตัว มีจุดขาวที่คิ้ว2จุด หางมีชุบสีน้ำตาลมาแบบช๊อคโกแล็คป๊อกกี้สีอ่อนหน่อย เลยเรียกสามสี
เจ้าตัวนี้เกิดมาพร้อมกับเจ้าหลานตัวแสบ มานไม่ยอมมีคู่ อยู่เป็นสาวทึนทึก หนุ่มไหนมาจีบมานจะเข่นเขี้ยวข่มจนหนุ่มหนีไปหมด

ใจดีก็แต่เจ้าหลานตัวแสบนี่แหละ ยอมให้ขี่เป็นม้าด้วยนะ แถมยอมให้จับหางแล้วเขย่งตัวเหมือนขี่ม้าในหนัง
ก็อยู่กันจนเป็นสาวแก่ไปวันๆ บังเอิญเห็บเข้าหูเลยเอาหัวไซ้ดินที่สนามหญ้า เพื่อนๆของเจ้าสามสีฉลาดมาก
มาเคาะประตูพี่เลี้ยง รายนี้ก็ผูกพันกะม.หมา ซะเหมือนลูกในไส้ ก็รู้ตามเพื่อนๆสามสีไปเพราะรู้ภาษาหมาว่าต้องมีเรื่อง
ก็เลยเจอเหตุการณ์ที่สนาม เจ้าสามสีจากไป ส่วนสาวน้อยร้อยชั่งนั่งฟูมฟายร้องไห้อยู่ตรงนั้น ร้องไปขุดหลลุมไปกลบเสร็จเรียบร้อย

กลัวเจ้าหลานตัวแสบถามหา เลยกลบฝังแล้วค่อยรายงานเจ้านาย ตอนหลังต้องปดว่าเจ้าสามสีมีแฟนหนีไปแล้วก็เชื่อแฮะ..
** พอไปบ้านฝาหรั่งเจอเจ้าอัลเซเชี่ยน เพื่อนๆที่ไปก็ไปแหย่ เพื่อนๆที่โตกว่าแหย่แล้วหัวเราะชอบใจ รายนี้ก็สนุกกะเขาๆหนีแต่เจ้าแสบยืนหัวเราะ
เลยโดนงับ ที่ตะโพก แผลไม่ลึก ยืนเฉ๊ย เป็นใบ้อยู่ตรงนั้น ฝาหรั่งเจ้าของเรียกเข้ามากอด ก็ให้กอด ว่านอนสอนง่ายดีแท้

กลับบ้านก็ไม่บอกพ่อแม่ จนเด็กๆที่เป็นเพื่อนมาเล่า เลยต้องถามเจ้าของว่าฉีดยากันมาหรือป่าว
ได้ความว่าสองปีก่อนมีฉีด ก็เลยต้องรีบพาไปหาหมอฉีดยา ๆ มาหลายเข็มแล้ว แต่ขวัญยังไม่กลับ
เลยมาค้างที่บ้านอาม่า พ่อเค๊าฝากเงินมาซื้อเพลย์ทู เลยพาไปซื้อที่สะพานเหล็ก ก็อยู่ค้าง5คืน เพื่อไปฉีดยาต่อให้ครบ

มีหลานอยู่คนเดียวก็ทั้งหวงและห่วง เห็นน้องหนูที่ไปกับทริปของชมรมฯก็อดคิดถึงหลานไม่ได้
แต่ก็ไม่กล้าให้มาขี่บนถนนอย่างนี้ เพราะกลัวเขานึกว่าขี่ได้ทุกเมื่อ พอเฮียคากิ พูดถึงก็เลยนึกออกว่า
จ๊ะเอ๋..กะหนูน้อยคนนี้ประจำ แรงปั่นของเด็กจะดีมากๆ เห็นปั่นอย่างสนุกสนาน อิจฉามากๆเลย...

การมาออกทริปที่ชมรมฯได้ความรู้มากมาย ซึ่งสิ่งที่เฮียสุวิทย์ เล่าและอธิบาย จะค่อยๆก้องอยู่ในความทรงจำ
เฮียบอกว่า ระหว่างขับรถไปทางข้างหน้า สายตาเราต้องมองไปไกลๆ ไม่ว่าคนที่ขี่นำไปก่อน ภาพคนข้างหน้าจะหายไป
อย่าตกใจ เพราะทางข้างหน้าเป็นทางโค้ง ขอให้ขี่ไปด้วยความมั่นใจ ถนนทุกสายจะมีจุดสิ้นสุดให้เราเห็น ไม่ต้องกลัว

ฮาๆๆ..แต่วันนั้น ทั้ง เพชร และดิฉัน กลัวเส้นทางตรงหน้า เพราะมีทางแยกออกไปหลายทาง...

เฮียสุวิทย์ บอกว่า หากระยะทางที่ขี่ไปไกล ยิ่งขี่ยิ่งไกล จะทำให้เราหมดแรง จงอย่าท้อ ให้ขับไปข้างหน้า ท่องในใจว่าจวนจะถึงเส้นชัย
พอมีกำลังใจ จะมีพลัง และแรง ก็จะตามมา จนในที่สุดก็ถึงเส้นชัยข้างหน้าจนได้

ลืมหมด...เพราะ เพชร เพื่อนรัก เค๊าหมดแรง...เจ๊ ชั้นเหนื่อย จาเป็นลม ชั้นเป็นโรคหัวใจ ..
เออ...พอฟัง ข้าพเจ้าก็พลอยเป็นโรคหัวใจไปด้วย แถมจาเป็นลมไปด้วย

ตอนนั้นไม่ได้คิดถึงคำพูดเฮียสุวิทย์แล้ว ลืมไปหมด
แถมขาอ่อนคออ่อนไปกะเพื่อนด้วย
ก็เป็นบทเรียนของการเห็นภาพข้างหน้าอ่ะนะ แทนที่จะเห็นภาพนักกีฬาจอมพลัง
กลับมาเห็นภาพคนอ่อนระโหยหมดแรง ก็เลยเป็นตามไปล่วย...

แต่ก็..มีการปลุกปลอบใจกันระหว่างทางอ่ะนะ ว๊า...ไหนๆก็หลงทาง จาลองขี่ไปข้างหน้าดู
เผื่อจามีรถอีแต๋น..ผ่านมาให้เราอาศัยเกาะไปด้วยก็ยังดี เพราะยิ่งปั่นยิ่งหมดแรง..
ไม่มีแม้แต่คนเดิน อ้อ..มีมอร์เตอร์ไซร์ผ่าน เราโบกจาถามทาง พวกเค๊านึกว่าเราแย้วๆทักทายเค๊าไปซะนี่

นี่ดีนะที่ เพชร ยังอึก ขี่ไปแบบสโลๆได้ ก็เลยทำใจขี่ตาม จนในที่สุดก็มาเจอ แม่พลอย ผิวเนียนนิลกะเพื่อนผิวขาวยืนส่งยิ้มมาแต่ไกล
ชาตินี้ เกิดมา ก็เพิ่งจะมาใช้ สำนวน ลูกผู้ชาย(เอ้ย..สาวใหญ่)ใจเกินร้อยกะเขาบ้างล่ะคราวนี้

เหนื่อยและสนุกจริงๆให้ดิ้นตาย...

สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 36

โพสต์

ความคิดเห็นที่ 35

พี่สุเกียงคะ
เข้ามาอ่านดูแล้ว โอ๋สงสัยว่าเราไปทริปเดียวกันหรือเปล่า เพราะเช้าวันอาทิตย์เราเจอกันที่สวนรถไฟ ทักทายกันเล็กน้อย แล้วก็ต่างคนต่างถีบ (รถของตัวเอง) เห็นพี่สุเกียงเล่าว่าเจอร่มไม้อย่างนั้น ร่มรื่นอย่างนี้ แต่ไหงโอ๋เห็นแค่ 3 อย่าง คือ พื้นถนน พื้นสะพาน และตู้แช่น้ำดื่มละคะ (โฮ) อย่าว่าแต่พี่ที่ปวดเมื่อย ถึงวันนี้แล้วหัวเข่าโอ๋ยังแกว่งอยู่เลยค่ะ
เจอกับทริปหน้านะคะ

โดย..โอ๋  [วันที่: 2/5/2007 - เวลา:11:12:27 น. ....IP: 203.144.204.161 ....: #9914]  



สวัสดีค่ะ คุณ สันติ คุณ โอ๋ ขอบคุณที่คุณ สันติ ให้กำลังใจค่ะ ทางชมรมฯดูแลสมาชิกดีมากๆเลยค่ะ
ทำให้ไม่กลัว กลายเป็นสนุกสนานไปอีกแบบหนึ่ง เพราะคิดว่าเรากำลังหยิบความคิดโลดโผนที่เราเคยแอบซ่อนอยู่ในใจสมัยเด็กๆ
ออกมาทีละอย่างๆเช่นเราชอบขี่จักรยาน ไม่เคยมีโอกาสได้ขี่กับเขา เวลานี้แม้กำลังจะพอมีเหลือเพียงครึ่งเมื่อเลยวัย ก็ยังดีที่มีกำลังใจสู้เพื่อสุขภาพค่ะ

จริงๆก็ลืมความปวดเมื่อยเมื่อผ่านไปแค่หนึ่งวันเพราะได้ทานยาไปหลายๆชุด หลับสนิทจนไม่รู้ว่านี่คือการหลับ คิดว่าสลบมากกว่า
พอตื่นก็ไม่เข็ด วางแผนในใจว่าจะไปอยุธยา เพราะอ่านในทริปว่าสามารถกลับบ้านด้วยรถไฟ
พอดีหนูพลอยมาหา รายนี้ก็หัวเราะคิกคัก หนูไปด้วย เออ..งั้นเราไปกันสองคน
รายนี้ผิวน้ำผึ้ง ขากลับดำจนเหมือนนิโกร ยิ่งยิงฟันก็ยิ่งดำ ตลกดี ทริปหน้าคงมีอุปกรณ์เสริมเพียบ..


ส่วนเพชร อ่ะ..สวัสดีจ่ะ เพชร ดีใจที่เข้ามาแจม เมื่อวานเห็นเพชรสบายดีก็ดีใจที่ไม่เป็นไรมาก
ไม่กล้าชวนเพชร ไปอยุธยา กลัวทางบ้านเป็นห่วงเหมือนกัน เพราะดูเธอจอดตั้งแต่อยู่ที่เรือนน้ำขายอาหาร ก็รู้ว่าไม่ไหวจริงๆ
รักษาสุขภาพให้แข็งแรงๆ แล้วค่อยว่ากันทีหลังนะ...

**ตอบคุณ โฮ๋ ตอนไปก็คิดว่าถนนที่ผ่านจะเรียบ ไปได้เหมือนตอนออกสตาร์ท ดิฉันปั่นใหญ่เลย สนุกดี เข็มไมล์บอกความเร็ว19กว่าๆ
แต่พอผ่านสะพานแขวนสวยๆหลายสะพานผ่านไป ถนนหนทางที่วิ่งบนถนนใหญ่ก็ยังสวยงามสะอาดตา

แต่พอเลยไปลงทางแยกของถนน ๆก็จะเปลี่ยนไปเป็นถนนผิวพระจันทร์
เหมือนเรามาเป็นนักแข่งรถที่ต้องฝ่าทางวิบากเพื่อจะให้ถึงเส้นชัยอย่างไรอย่างนั้นเลยล่ะ

พอขี่ไปเรื่อยๆถนนตลอดเส้นทาง ก็ยังเป็นถนนก่อสร้างเพื่อเตรียมเทปูน อิฐหินตลอดแนวทาง ทำให้ยากต่อการบังคับรถ
ยิ่งขี่ไม่แข็ง ก็ยิ่งบังคับล้อไปลงหลุมบ่อทุกๆบ่อก็ว่าได้ เพราะหลบไม่เป็นต้องลงหลุมขึ้นหลุมสำรวจความลึกไปซะงั้น

ที่ว่า ** ภาพที่เห็นในใจ...เขาว่า..มีดนตรีไทยโดยนักเรียนตัวน้อยๆ อาหาร ผลไม้หลากหลายให้เลือกอร่อยบรรยากาศร่มรื่น พักผ่อนตามสบาย ..ลอยอยู่ข้างหน้า..**

นั้นเป็นการอ่านจากที่คุณป๋อง บรรยายมา เลยจำขึ้นใจว่าจะได้เห็นภาพนั้น...

ค่ะ เป็นกำลังใจอย่างดีในการลุย...เพราะอยากเห็นจริงๆ คนที่อยู่แต่ในบ้านตลอดเวลา30กว่าปีก็อยากมีฝันก็เขา
เลยมีแรงขี่ จนมาเจอสะพานงูเลื้อย...ก็เลยได้มาอีกทางซึ่งก็เป็นทาง ถนนงูเลื้อย
เพราะเป็นทางมอร์เตอร์ไซด์มีรอยล้อเดียวที่วิ่งให้เห็นทาง
นี่ก็เป็นทัศนียภาพของถนน มีเงาไม้ประปราย ต้นหญ้าขึ้นหรอมแหรม ดนตรีลูกทุ่งได้ยินมาแต่ไกล
เพราะรั้วกำแพงอยู่ไม่ห่างชาวบ้านนัก ก็ทั้งลากทั้งจูงเจ้าจักรยานคู่ชีพไปจนตลอดรอดฝั่งจนได้

ดีใจที่ถึงเส้นชัยขาไป ขากลับแม้จะไม่ได้ลงแข่ง ใจยังสู้อยู่นะ ยังไม่ได้ทดสอบกำลัง แต่เมื่อมีที่ให้พักพิงก็ขอกลับอย่างใจครึ่งร้อยไว้ก่อน

ครั้งหน้าจะไปรบด้วย จะไปด้วยค่ะ..




ช่วงนี้หน้าฝน จะไปไหนก็กลัวฝนเหมือนกัน
หน้าฝนเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางจริงๆ

หลังจากกลับจากการลุยดินโคลน ก็คงต้องทำความสะอาดรถ
พอกลับมา ก็เหนื่อยหลับเป็นตาย คงไม่มีแรงมาทำความสะอาดรถได้เลยฝากไว้ก่อน
พอเลยวันถัดมา ดินโคลนที่ติดมากับตัวรถ แห้งจนแข็ง เลยเอาแปรงสีฟันที่ไม่ใช้มาค่อยๆแซะตามซอก
ก็หลุดซะส่วนมาก เลยยกรถทั้งคันกระแทกให้เศษดินทรายหลุดออกมา
ได้ผลหลุดง่ายดายกว่าที่คิด เศษดินทรายที่เกาะหลุดหมดเลย ที่ยางล้อ ก็พลอยสะอาด
ได้เตรียมน้ำเปล่ามาถังนึง ค่อยๆเช็ด อ่ะ..รักรถเหมือนลูก ก็เช็ดเบาๆมือหน่อย
ครือ..ก็รู้ตัวว่า ยังเสน่หาเจ้ารถคันนี้ยิ่งนักเพื่อให้รถเราใหม่อยู่เสมอ ต้องทำความสะอาดอย่างเบามือ

ก็คิดว่าคงอีกไม่นานที่รถคู่ชีพจะเก่าตามสภาพการใช้งาน ก็คงคล้ายๆรถเก่าขึ้นสนิมเข้าสักวัน
แต่ตอนนี้ทั้งเห่อและภาคภูมิ ดีใจที่มีรถคันโปรดกะเขาคันหนึ่ง

ตื่นเช้าขึ้นมาก็ขอให้ได้จับหรือแตะจับโน่นนี่สักนิดก็ยังดี
ปรับแต่งอะไรต่อมิอะไร จนจวนจะกลายเป็นรถมอร์เตอร์ไซด์เข้าไปทุกทีแล้วฮาๆๆ..

ไม่เป็นไร...มีความสุขกับการได้เติมโน่นนิด นี่หน่อย เป็นความสุขของคนที่มีของเล่นใหม่ก็อย่างนี้แหละ..

วันนั้นแบกเป้ใบใหญ่ไป เป็นครั้งแรกที่ได้ออกศึกไปทริปไกลๆ แหม..หากมีใครมาเปิดเป้ข้าพเจ้า
มีหวังได้ฮา ..ก๊อ..เขาให้เตรียม ยางใน อุปกรณ์ซ่อมประแจ ไขควง ของจักรยาน ก็เตรียมไป หนักจนสายรัดขาดเอาตอนจบ ดีใจมากที่ไม่ขาดเมื่อออกสตาร์ท
ขึ้นรถกระบะเป้ก็ขาดรับน้ำหนักไม่หวาย...ขืนขาดกลางทาง ร้องไห้เลย..

เฮียสุวิทย์ บอกว่า ทำไมไม่เอา เป้บางๆมา นี่ใบใหญ่ไปเดี๋ยวขับขี่รถกินแรง...
ใจเราอยากบอกว่า...เฮีย ไม่รู้หรอกข้างในเครื่องมือช่างฉันเอามาเพียบ...ตอนนี้อยากทิ้งเต็มแก่ หากไม่เสียดายคงทิ้งไปตั้งแต่เจอทางแยกวิบากแล้ว..

ขี่กลับบ้านด้วยความทุลักทุเล เพราะสายเป้ทั้งสองข้างขาด เลยเอาสายเป้ที่รัดพุงได้รัดแทน
แสนจะเขินเมื่อขี่มาถึงบ้าน เพราะท่าทางที่มีเป้ไปทางตัวไปทาง ดูไม่ได้เอาเสียเลยแต่ก็ไม่รู้จะแบกกลับอย่างไรหนักเหลือเกิน

บทเรียนข้อที่หนึ่งคราวหน้า ไม่แบกอุปกรณ์ที่เกินจำเป็นไป เห็นคนขี่เบาๆ แล้วอิจฉามาก
และเห็นเฮียคากิมีเป้ท้ายรถ คิดว่าคงเป็นอุปกรณ์ต่างๆในการซ่อมจักรยานเป็นแน่
หากรถมีปัญหา อย่างน้อยๆ ไปหลายๆคนก็คงมีหลายๆคนที่เอาช้อนส้อม ประแจ ไขควง ก้ามปู คีม ไปกันคนละชิ้นสองชิ้นหรอก

แล้วทริปหน้าจะลองดูว่า ไม่นำของหนักไป จะขี่ได้อย่างเบาๆนั้นเป็นอย่างไร

แต่ถ้าน้ำหนักตัวไม่ลง แล้วจะเบาได้อย่างไร ก็คงต้องลองใหม่ว่า เป็นความแตกต่างที่ไม่เหมือนนั้นเป็นอย่างไร?


สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 37

โพสต์

สวัสดีค่ะคุณ เจ๋ง ดีใจจัง ไม่ได้เจอคุณ เจ๋ง นานมากๆเลยนะคะ
ดีใจที่แวะมาอ่าน คุณ เจ๋ง ได้นั่งโต๊ะในงานเลี้ยงมีตติ้งห้องสินธรกับคุณซีเคและครอบครัว
ได้เห็นตัวจริงของคุณสองคนหล่อและใจดีมาก คุณ สุมาอี้ก็แวะมานั่งคุยพบปะทักทายเพื่อนๆ
ประทับใจและจำความสุขที่ได้พบเพื่อนๆในงานค่ะ
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 38

โพสต์

***ผมตามอ่านที่พี่สุเกียงโพสในสินธร
   ต้องมีประมาณอย่างน้อยก็3ปีกว่า ได้แล้วละครับ
   พี่พูดตรงๆ
  ได้ก็บอกว่าได้ เสียก็บอกว่าเสีย
   ไม่รู้ก็บอกไม่รู้
   กล้าก็บอกกล้า กลัวก็บอกกลัว
   ชอบอ่านที่โพสครับ จริงใจดี
   คนแบบพี่ ผมว่ามีเยอะ แต่ทีกล้าโพส นี่มีน้อยแน่ๆ
   ผมยังจำได้ว่าใหม่ๆ พี่พิมพ์ดีดยังไม่คล่องเลยไม่ใช่หรือครับ
   แต่สินธรผมไม่ได้เข้าบ่อยเหมือนที่นี
   ก็ได้แต่คุยกับพี่ตอนพี่มาโพส กระทู้ดีๆ เป็นระยะๆ นี่แหละ

   ดีนะครับที่ค้นเจอสิ่งที่เราชอบ
   อย่างการขี่จักรยานไปเที่ยวตามที่ต่างๆ
   ออกกำลังนี่รักษาสรรพโรคครับ
   ผมอ่านกระทู้นี้ ในตอนแรกด้วยความไม่แน่ใจครับ
   ว่าพี่ควบจักรยานเอง
   ไม่เชื่อสายตาไป ก็อ่านไปเรื่อยๆ
   แล้วพี่ก็เอารูปพี่มาลง ก็เลยอ้อ...พี่สุเกียงแน่มากครับ
   ผมเป็นนักกีฬาคนนึง
   อ่านแล้วยังรู้สึกว่าไม่ใช่ง่ายๆเลยที่จะทำได้อย่างนี้
   พี่คงฝึกมาได้พักใหญ่ๆทีเดียว...***




สวัสดีค่ะ คุณ por_jai ขอบคุณมากนะคะ ที่ติดตามอ่านกระทู้ที่ดิฉันโพสต์บ่อยๆ
เวลาผ่านไปเร็วมากๆ ช่วงที่พันทิพ ยังไม่มีห้องและไม่ต้องลงทะเบียน
ใหม่ๆก็ขี้กลัว ได้แต่อ่านอย่างเดียว แท่นพิมพ์ตัวอักษรก็ไม่กล้ากด
ได้แต่มองแป้นพิมพ์ แค่ให้หลานพิมพ์เว็บภาษาฝรั่งก็จะแย่อยู่แล้ว

เรียกหลานบ่อยๆเขาก็เบื่อๆ ไม่รู้วิธีพิมพ์อย่างไรจึงเจอเว็บพันทิพได้
อยากเข้าไปอ่านที่เขาคุยเรื่องหุ้น เพราะเล่นหุ้น เราจะไม่รู้ข่าวสารอะไรเลย
พอมาอ่านในกระทู้ เขาคุยกันสนุกดี  อ่านอย่างเดียว จับเม้าท์กลิ้งไปมาที่หัวข้อ
ได้เท่านี้จริงๆ ช่วงนั้นอึดอัดมากๆ เหมือนคนโง่คนหนึ่งที่ทำอะไรไม่ได้เลย

ความรู้ก็ไม่มี เรียนมาไม่สูง ยังจะมาคุยหรือพิมพ์อะไรลงไปในแป้นได้ล่ะคะ
หงุดหงิดมากๆ นั่งอยู่ในร้านอินเตอร์เน็ท ก็ถามเด็กนักเรียนที่ติดกัน ไม่คนซ้ายก็คนขวา
ทำเอาพวกเขาหมดเวลาไปหลาย พอเขาสอนก็พยายามจำ วิธีกดภาษาไทย
ภาษาฝรั่งไว้พิมพ์ช่องลิ้งค์

กดต๊อกๆแต๊กๆหนวกหูคนอื่น กดเบาไม่เป็นเพราะกดทีละตัว ใช้เวลาในการเรียนรู้เจ้าแป้นพิมพ์อย่างยากลำบาก
หุ้นเจ้าปัญหาไอเอฟซีที และไทยธนุ ถืออยู่นานปี มีกลิ่นตุๆ จะล้มละลาย หงุดหงิดและร้อนใจมากๆ
ให้เด็กในร้าน ช่วยเข้าข้อความช่องที่เขาคุยกัน บอกความในใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นว่าจะทำอย่างไร

ช่วงนั้นรู้สึกจะเจอคนใจดีตอบกันหลายๆคน บอกหุ้นสองตัวนี้ขายไปเถิด ไม่มีอนาคต
เท่าไหร่ก็ขาย ดีกว่ามันออกไป ไอเอฟซีที ทุนถืออยู่ 13 บาท เหลือ 6 บาท ก็หายไปครึ่งนึง
ถามแล้วก็ยังไม่อาจตัดใจขาย ช่วงนั้นต๊อกๆแต๊กๆกะตัวพิมพ์ ผิดๆถูกๆก็ไม่มีใครถือสา
เกิดความมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ โลกใบนี้มันโสภาและกว้างมาก ไม่รู้จักกันถามอะไรไปเขาก็ตอบเรามาหมด

ช่วงนั้นติดใจสำนวนคุณพิณไร้สาย ปลากดชอบกัด เหาฉลาม คุณคลายเครียด คุณ อ-ริน คุณเอี๋ยว เซียวลี้ปวยตอ คุณไล้ท์
คุณอ๊อฟชั่น คุณ หมอเจเอฟเค คุณเฟยหง คุณอาลาดิน และอีกหลายๆคน พวกเขาคุยไปเราก็ตามอ่านจนติด
บางครั้งเขาสนทนากันจนตี1ตี2 ก็ตามอ่านสนุกดี ช่วงนั้นใจกล้า ลงช่องข้อความไปถามปัญหาหุ้นกะคนไม่รู้จักกันได้ด้วย

สนุกและลืมทุกข์ในใจไปได้มาก บางครั้งพวกเขาก็ทะเลาะกันได้จนเป็นเรื่องราวใหญ่โต
คราวนี้เขาต้องเป็นสมาชิกแถมแยกห้องเป็นห้องๆ ชักว้าแหวะเพราะไม่รู้จะคุยกะใคร
คุณอ-ริน เป็นครูคนแรกที่น่ารักมากๆ ไม่ถือตัว สอนวิธีสมัครสมาชิก สอนวิธีโพสต์ตั้งกระทู้

ฮาๆๆทุกอย่างล้วนเป็นการเริ่มต้นที่ดีมากๆ มีความหมาย ช่วงนั้นคุณอาลาดีน โพสต์รูป ก็อยากโพสต์กะเขาบ้าง
คุณอาลาดีนก็สอนการโพสต์รูปให้ ทั้งๆที่เพิ่งจะฝึกการใช้แป้นพิมพ์กดตัวอักษรได้ไม่นานเอง

พอกล้า อะไรๆก็สนุกไปหมด นี่ก็ผ่านมาจนรู้สึกทุกคนเหมือนเพื่อนสนิทกันทุกๆคน
เวลาช่างผ่านไปเร็วมากๆ ธรรมชาติของคนเราเกิดจากการอยากรู้อยากเห็น ทุกอย่างจะสอนให้โดยไม่รู้ตัว
เป็นคนไม่มีความรู้อะไรเลย ที่ดีได้ทุกวันนี้เพราะเพื่อนๆทุกๆคนมีส่วนในการปั้นให้คนๆหนึ่งกลายเป็นอีกคนหนึ่งได้


คุณ คุณ por_jai  เชื่อหรือไม่ กาลเวลาเปลี่ยนแปลงคนค่ะ...



ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 39

โพสต์

สุเกียง เขียน:คุณ por_jai  เชื่อหรือไม่ กาลเวลาเปลี่ยนแปลงคนค่ะ...
8) คนยอมเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ
    จึงได้ความรู้ใหม่ๆ
    ไปหักล้างความเชื่อเก่าๆ
    ก็เปลี่ยนแปลงไปได้ แน่นอนครับ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
Dech
Verified User
โพสต์: 4596
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 40

โพสต์

สวัสดีครับพี่สุเกียง

มาตามอ่านครับแต่ยังอ่านไม่หมดหรอกครับ scan ผ่านๆ

เก่งมากๆครับ พี่ นึกถึงบรรยากาศ
ปั่นจักรยานหนีแม่เที่ยวตอนเด็กๆเลยครับ ผมหนีไปเที่ยวน้ำตกแถวบ้านบ่อยๆครั้ง มีบางครั้งแม่ต้องไปตามเลยครับ เป็นลูกที่แย่จริงๆ

เรื่องยูริค ออกกำลังกายแล้วได้ผลดีหรือครับ ผมต้องมาเริ่มออกใหม่แล้ว
ไม่ได้ออกกำลังหนักมาหลายปีแล้วครับ ได้แต่ผลัดและแก้ตัวไปวันๆ

เพราะผลตตรวจสุขภาพออกมา ยูริคผมสูงมาตลอดหลายปีครับ เฉลี่ยประมาณ 7 ตลอดเลยครับ เคยลดไปได้แค่ปีเดียวเอง

ปล. ที่บ้าน มีจักรยานเก่า ที่แม่เอาจักรยานเก่าที่บ้านมาซ่อมใหม่ เปลี่ยนล้อ ติดเบรก แล้วยกใส่รถ ขนมาจากต่างจังหวัด มาให้ตอนย้ายบ้านมาใหม่ เพราะกลัวว่าผมจะไม่มีอะไรกิน จะได้ไม่ต้องเดิน ไปซื้อของ ผมก็ใช้ปั่นอยู่นานหลายเดือน แต่พอช่วงหนึ่งไม่ได้ปั่น ยางมาซึมออก ตั้งแต่นั้นมาก็จอดร้างไม่ได้ปั่นมาเป็นปีแล้วครับ

ถ้าจะบริจาคให้กับชมรม เขาจะเอาเปล่าครับเอะหรือจะซ่อมแล้วมาซ้อมออกกำลังเองดีกว่า เพื่อสุขภาพ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 41

โพสต์

สวัสดีค่ะ คุณ por_jai คุณ CopyWriter
ขอบคุณที่ให้กำลังใจค่ะ
การออกกำลังกายทั่วๆไปเป็นสิ่งที่น่าเบื่อ
แต่การขับจักรยานจะไม่เหมือนกัน
จะสนุกกว่าตรงขับขี่ไปไหนๆได้ตามที่ใจคิดและพาเราไปได้ตามนั้น

กลายเป็นสนุก และใช้งานใช้ประโยชน์ได้ตลอดเวลา
ดิฉันซื้อจักรยานแม่บ้านมาขี่เมื่อปีที่แล้วก่อนปฏิวัติ 1 วัน
พอขี่ได้ก็ดีใจเลยสมัครสมาชิกที่ชมรมจักรยานวันที่24-11-49
สมัครปุ๊บก็ซื้อเสือภูเขา  trek 4300 ที่โปร์ไบ้ค์ เพื่อจะออกทริปกับชมรมฯ

ก็ไปทริปวันเดียวเสมอมา แต่ซ้อมปั่นที่บ้านน้อยมากๆ
เพราะปั่นได้เฉพาะตอน 2 ทุ่ม ปั่นถนนใหญ่รอบๆแถวบ้าน
อันตรายแม่เป็นห่วง แต่ก็แอบออกไปปั่นนานๆครั้ง
ออกทริปกับชมรมฯจะไม่อันตรายเพราะไปกันเป็นขบวน

ออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน จะช่วยให้ข้อเข่าหายจาก
เข่าเสื่อมได้ ข้อเข่าจะมีการยืดหด เอ็นเข่ามีการยืดตัว
เมื่อก่อนเดินทีปวดมากๆ  ที่หัวเข่าจะมีเสียงดังที่ข้อต่อหัวเข่า
เอ๊กซเรย์แล้ว คุณหมอบอกเข่าสึก กระดูกเสื่อม เพราะเริ่มเป็นโรคกระดูพรุน

กรดยูริคตามข้อนิ้วมีแป้งเกาะ ทำให้นิ้วห่างกันมาก
แถมงอลงจนนิ้วล๊อค ก็กลุ้มใจทรมานทุกๆเช้า
ที่เจอช่วงหน้าฝน หน้าหนาว และนอนแอร์เย็นๆ
จะปวดตามข้อ ยิ่งปวดหนักเข้าไปใหญ่ ก็ทานยาที่คุณหมอให้มาตลอด

พอขี่จักรยาน ทุกอย่างจะดีขึ้น ร่างกายแข็งแรงขึ้นมาก
แม้จะเป็นภูมิแพ้ๆอากาศ ก็ยังช่วยให้เรามีภูมิต้านทานได้มากขึ้น
เป็นหวัดน้อยลงเรื่อยๆ โรคปวดเข่าหาย นิ้วมือยืดตรงชิดกัน
สามารถกำมือได้โดยไม่ปวด เพราะขณะที่เราขี่จะกำเบรคตลอดเวลา

จักรยานเก่าๆสามารถนำไปบริจาคได้ที่ชมรมฯ
เขาจะนำมาซ่อมและเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่มาประกอบ
จนรถใช้งานได้เกือบเหมือนรถใหม่ พอมีรถหลายๆคัน เขาจะนำไปมอบให้โรงเรียนต่างจังหวัด ซึ่งมอบให้เด็กๆที่บ้านอยู่ห่างไกลโรงเรียน

เด็กๆจะมาโรงเรียนง่ายขึ้น ไม่มาโรงเรียนสาย
บางครั้งจะมีผู้ใจบุญ มอบเงินเพื่อสมทบทุนให้กับทางชมรมฯ
นำมาซื้อจักรยานใหม่เพิ่มเติมในการมอบจักรยานให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลน
บางครั้งก็จัดทริปอาสาสมัครจะไปช่วยซ่อมจักรยานตามโรงเรียนต่างๆ

เพราะเคยไปกับชมรมฯไปซ่อมจักรยานให้เด็กๆตามโรงเรียน
ชมรมฯจะนำรถกระบะไปมีอุปกรณ์ของจักรยานไปเต็มคันรถ
เป็นอุปกรณ์ใหม่ๆเอาไปแต่งเติมสิ่งที่เสีย และหายไป
มาประกอบใหม่ให้เด็กๆจนใช้ได้เหมือนรถใหม่อีกคันหนึ่ง
เห็นเด็กๆดีใจก็พลอยดีใจไปด้วย เป็นกิจกรรมที่น่าประทับใจมาก

ส่วนจักรยานของคุณ CopyWriter คุณแม่ท่านอุตส่าห์นำมาจากต่างจังหวัด
เพื่อให้ลูกชายได้ขี่ไปซื้อของที่หน้าปากซอย
ควรนำมาซ่อมแซมให้ทุกอย่างใช้งานได้
จะมีประโยชน์มาก ได้ซื้อของ ได้ไปตลาด และออกกำลังกายไปในตัว
อีกหน่อยจะกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย เพราะมันมีประโยชน์จริงๆค่ะ

อย่าทิ้งให้ลมยางแฟ๊บ ต้องเติมลมทุกๆอาทิตย์ ยางล้อจะได้ไม่เสื่อมง่าย
ซื้อไส้ยางใหม่มาใส่ก็ใช้งานได้อีกหลายปี หากดอกยางเสื่อมก็เปลี่ยนไปเลยทั้งสองอย่าง
สายเบรค ยางเบรคก็ควรเปลี่ยนใหม่ ค่าแรงจ่ายครั้งเดียวไปในตัว

จักรยานหนึ่งคัน หากเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้หมด ก็เหมือนได้จักรยานใหม่ทันที
แม้โครงจะเก่า หากเปลี่ยนอุปกรณืจำเป็นเหล่านี้แล้ว ก็เหมือนรถใหม่เราดีๆนี่เอง

ขอให้คุณ CopyWriter สนุกกับการได้ออกกำลังกายด้วยจักรยานนะคะ


Dech
Verified User
โพสต์: 4596
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 42

โพสต์

ขอบคุณครับพี่

แล้วผมจะเอาจักรยานแม่ไปซ่อม เอากลับมาปั่นใหม่
แต่มันเป็นแค่จักรยานแม่บ้านธรรมดาครับ

เห็นรูป เจ้า trek 4300 แล้วอยากได้นะครับ สวยดี

search ตามไปดูการซื้อจักรยานมา ไม่เคยนึกเลยว่ามันซื้อยาก
มีหลายรุ่น หลาย size มากเลย

ไว้มีโอกาส จะบุญวาสนาพาส่ง อาจมีโอกาสได้ไปปั่นทริปเดียวกับพี่ครับ

ช่วงนี้งานยุ่งมาก ...ว่าไปแล้วมันก็ยุ่งตลอดแหละครับ
คงต้องจัดสรรเวลาใหม่แล้ว
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 43

โพสต์

สวัสดีค่ะ คุณ CopyWriter

จักรยานแม่บ้าน มีประโยชน์นะคะ ปั่นไปไหนๆสบาย
เป็นการออกกำลังกายพร้อมกับการจับจ่ายซื้อของไปในตัว
ได้ออกกำลังกายแบบพึ่งพาอาศัยเอื้อประโยชน์ต่อกันไปในตัว
จะดี มีจุดมุ่งหมายในการเดินทาง เหมือนสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ไปซะแล้ว

บางครั้งแค่เดินไปปากซอย จะเหนื่อยมาก พอขี่จักรยานไป จะเร็วเซฟเวลา
แถมไปอีกนิด ก็ได้เพลิดเพลินกับสถานที่ๆไกลออกไป ใช้งานบ่อยๆจะติดใจ
เดี๋ยวนี้ดิฉันเดินทางไปไหนไกลๆด้วยจักรยานแม่บ้าน
เซฟค่ารถได้เงินหยอดกระปุกหลายพันบาทเลยค่ะ อย่างไปหาหมอก็ขี่จักรยานไป

ปกติค่ารถไปกลับ 100 บาท ก็หยอดกระป๋องรวมๆแล้วได้เงินหลายพันบาทก็นำไปทำบุญ
แค่ค่ารถไปหาหมอที่รพ.นะคะ ทำให้สุขภาพกายใจดีขึ้นมาก มีความสุขกับการออกกำลังกายแบบนี้ค่ะ

ส่วนจักรยานเสือภูเขา จะขี่ไปท่องเที่ยวกับชมรมฯ
ลักษณะและจุดประสงค์ของการใช้งานจะแตกต่างกับจักรยานแม่บ้าน
ซึ่งแรกๆพอจะซื้อก็คิดหนักเหมือนกัน ก่อนซื้อก็ดูกระทู้ของเว็บที่เพื่อนๆคุยกัน
เรื่องคุณภาพจักรยานที่เขาซื้อมา ก็มาติดใจเจ้า  trek 4300 ไปดูของจริงก็ชอบใจเลยเอาคันนี้แหละ

โครงร่างแข็งแรง และดูทนทานใช้งานได้หลายๆปี ล้อ 26 นิ้ว
แรกๆไม่กล้าขี่ กลัวความสูงของล้อ ล้อใหญ่กว่าแม่บ้านๆ 20 นิ้วเอง
คนขายเลือกไซด์ให้ตามลักษณะความสูงของเจ้าของ เฟรมต้องต่ำกว่าเป้า 2 นิ้วก็โอเคแล้วค่ะ
ก็คนตัวเตี้ยขาก็สั้นความสูงเฟรม 13 นิ้ว น้องชายคนเล็กเขาซื้อไซด์ขนาด 15 นิ้ว

วันแรกก็ไปทดลองขี่ที่สวนลุมเลย 4 รอบ ขี่ได้ทันที ดีใจมากๆเลยค่ะ
มีความมั่นใจว่าเราปราบเสือได้สำเร็จแล้ว ตั้งแต่นั้นมาก็ไปออกทริปกับชมรมฯเรื่อยมาค่ะ
คุณ  CopyWriter ขี่จักรยานบ่อยๆกำลังขาจะอยู่ตัว
กล้ามเนื้อขาจะเกิดความเคยชิน อีกหน่อยนึกจะซื้อจักรยานเสือภูเขา

ได้จังหวะซื้อ ก็คงขี่ได้สบายมาก สามารถออกทริปเดินทางกับชมรมฯจักรยานที่ใกล้บ้านที่สุด
จะมีความสุขกับการได้ขี่เสือภูเขา จะค้นพบสิ่งที่ทำให้ใจผ่อนคลายไปกับธรรมชาติ
จะมีมิตรสหายในการออกท่องเที่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ เรียกว่าพอเจอวันเสาร์อาทิตย์

ใจก็อยากออกเดินทางไปเรื่อยๆ ที่ไหนก็ได้ที่ชมรมฯพาไป
สนุกที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว หนีความจำเจ แม้กลับมาเหนื่อยมากๆ
แต่เป็นความสุขที่ท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ แรกๆว่าไม่เอาแล้ว ไม่ไหวแล้ว
พอร่างกายได้พักผ่อนเพียงแค่หนึ่งวัน ก็ลืมความเหนื่อยของเมือวานไปหมด

อยากไปอีกหลายๆทริปที่เขาจัด เพราะสนุกกับชีวิตที่เปลี่ยนแปลงนี้
คุณภาพชีวิตของคนเรามีความหมายมากขึ้น
ดิ้นรน อยากรู้ อยากเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ
จะตื่นเต้นกับสิ่งที่ท้าทาย มีความรู้สึกเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นค่ะ





สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 44

โพสต์

รูปภาพการขี่จักรยานชมวัดใกล้ชมรมของเรา เมื่อวันอาทิตย์ที่17ธันวาคม2549

สวัสดีค่ะ
วันอาทิตย์ที่17 ธ.คม49 ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย ร่วมกับกองการท่องเที่ยว สำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว จัดกิจกรรมขี่จักรยาน

ได้พา..คนกรุงที่อยู่แต่ในบ้านอย่างดิฉันและเพื่อนออกท่องเที่ยววัดต่างๆที่อยู่ใกล้ๆบ้าน
แต่ไม่เคยได้รู้จักความเก่าแก่ ความเป็นมาของสถานที่แต่ละแห่งว่าสวยงามอย่างไร
มีประวัติความเป็นมาอย่างไร พวกเราสามสามต่างวัยเลยนัดเจอกันที่หน้าบ้านก่อน
แล้วนัดเพื่อนสาวที่อยู่ไกลกรุงมาเจอกันที่หน้าปากซอย ก๊อเจอกันตอน7.30น. ตามที่นัดกันไว้

เพื่อนสาววัยละอ่อนนัดกันดิบดีคงมาถูก แต่ไหงซอย5 กลายเป็นซอย19 เล่นทั้งเท๊กซี่แลมอร์เตอร์ไซด์อ่อนใจ
สมแล้วที่อยู่นอกเมือง จึงต้องเสียตังค์ค่ารถเท่าตัวจึงถึงที่หมาย ทั้งๆที่เคยอาสามาส่งครั้งหนึ่งเมื่องานมีตติ้งสินธรฯพันทิพ

แต่ก็ขี้ลืมมาไม่ถูกทางสิน่า..ช่างน่าสงสารจริงๆ เห็นท่าทางเปิ่นๆเหนื่อยหอบเมื่อลงจากที่นั่งมอร์ฯก็สงสาร
พวกเราเจ้าถิ่นขี่เสือภูเขา2คัน ล้อใหญ่26นิ้ว เหมือนเสือติดปีก ส่วนเพื่อนที่คุยในเน็ทแทบทุกวันคนนี้ เพิ่งเจอหนนี้ก็2ครั้งพอดี
อยากมาทดลองเสือ แต่พอเห็นเจ้าเสือล้อใหญ่ก็ถอย ขอขี่จักรยานแม่บ้านแฮลโลคิทตี้แอลเอสีชมพูแป๊ดซึ่งเคยเป็นคันโปรดเดิมของเราแทน

กลัวไปพบกับเพื่อนๆที่สนามศุภฯไม่ทันก็เลยปั่นอย่างเร่งรีบ ขึ้นสะพานสูงพวกเราก็ไม่ย่อท้อออกแรงปั่นจนถึงห้างโลตัส
ฮาๆถึงแล้ว ได้เห็นชายหนุ่มผิวคมขำผู้หนึ่งกำลังอธิบายความเป็นมาของตราสัญญาลักษณ์ที่ติดอยู่หน้าตึกสนามกีฬา พวกเราก็มองตาม
จึงรู้ความเป็นมา ด้วยวัยชราตอนนี้นึกภาพไม่ออกว่าหน้าตาเป็นอย่างไรเลยอธิบายไม่ถูกอย่าว่ากันนะ..คะ
เพิ่งจะทราบทีหลังว่าผู้นำทริปและบรรยายคือคุณ หนึ่ง รณวัฒน์ เอมะสิทธิ์ ปริญญาโททางประวัติศาสตร์ศิลป์ ม.ศิลปากร
กองการท่องเที่ยว กทม. และทีมงาน (นับถือความรู้ความทรงจำของท่านผู้นี้จริงๆ บรรยายได้ละเอียดและน่าสนใจมากๆ)

ได้พบเพื่อนหลายคนที่เคยพบกันครั้งแรกเมื่อคราวทริปรณรงค์ขี่จักรยานเพื่อสุขภาพคราวนั้นหลายๆท่าน
คุณลุงปรีชา คุณลุงออน คุณลุงวิวัตน์ และคุณลุงที่ขี่ล้อเหมือนมาอร์เตอร์ไซด์ ทุกท่านแข็งแรงมากก็มาร่วมกิจกรรมท่องกรุงในครั้งนี้ด้วย

เห็นคุณแอมป์ คุณ ฉัตร คุณ จารุกัญญา และทีมงานซึ่งต้อนรับทักทายทุกคนที่มาร่วมงานอย่างอบอุ่น
นับถือความแข็งแรงของทุกคนที่อุตส่าห์จัดงานต่อเนื่องโดยไม่เหนื่อย ทั้งๆที่เพิ่งผ่านทริปไปท่องเมืองสุพรรณ10อำเภอมา


พอ8.20น.ก็เตรียมตัวออกเดินทาง แต่ด้วยความที่เร่งรีบขาข้ามล้อไม่พ้น ทำจักรยานอีกคันล้ม(ต้องขออภัยเจ้าของจักรยานด้วยนะคะ ตอนนั้นตกใจเลยลืมขอโทษน่ะค่ะ) ตัวเราก็ล้มทรุดลงเข่าซ้ายขวาและนั่งจ้ำเบ้าอยู่ในท่านั้น
จนเพื่อนสาวต้องมาฉุดจึงลุกได้ เออ..เอาชัยนั่งพักแต่ยกแรกก่อนออกเดินทาง แต่ด้วยวัยแก่เกินแกงต้องทำเป็นไม่เจ็บ ..ปัดฝุ่นกลัวกางเกงที่เข่ามันจะขาดน่ะ..เสียดายยังใหม่อยู่..

พวกเราปั่นออกถนนอย่างลิงโลด ดีใจเหมือนวันดีเดย์ครั้งที่ผ่านมา พี่ผู้ชายในชมรมฯคอยนำทาง ให้พวกเราผ่านถนนไปได้อย่างราบรื่น
ได้เข้าชมวัดเทพศิรินทราวาส สถานที่เงียบสงบสวยงาม มีศิลปะที่ออกแบบสิ่งปลูกสร้างตามยุคสมัยที่ผสมกลมกลืนกับของวัฒนธรรมที่มีทั้งของไทยและยุโรปจึงดูทันสมัยมาจนเดี๋ยวนี้ก็ยังสวยงามอยู่จนทุกวันนี้
ได้ฟังความเป็นมาของพระอารามหลวง จากคุณ หนึ่ง รณวัฒน์ ซึ่งบรรยายให้พวกเราฟัง
ใจคิดว่าพวกเราเหมือนได้มาเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่ง ซึ่งน้อยครั้งจะมีจัดรูปแบบนี้กัน เพราะมาด้วยจักรยานส่วนตัว..

พอออกจากชมวัดเทพศิรินทราวาส พวกเราก็ขี่ตามเส้นทางไปอีกไม่ไกลก็เเข้าเขตหน้าวัดชมวัดดวงแข แถวรองเมือง ปกติเคยมาแต่ไม่คิดว่าข้างในวัดจะมีโบสถ์อยู่อีกฟากหนึ่งของอาคาร ข้างในร่มรื่นสวยและเงียบสงบดี
หายเหนื่อยเมื่อได้เข้าไปนั่งฟังคุณหนึ่ง เล่าประวัติความเป็นมา พระพุทธรูปองค์ใหญ่ตั้งอยู่บนโบสถ์สีทองอร่ามตา
พวกเรากราบคารวะองค์พระประธานเมื่อการบรรยายจบลง
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 45

โพสต์

พวกเราปั่นจักรยานออกถนนใหญ่ ครั้งนี้ขบวนแม้จะไม่ยาวแต่ก็มีพี่ๆคอยโบกและบอกให้พวกเราปั่นมาได้
ความปลอดภัยต้องมาก่อน ออกพ้นถนนจอแจก็เข้าเขตถนนหน้าวัดบรมนิวาส ก็ได้ฟังคำบรรยายถึงการสร้างศาลาอุโบสถสมัยนั้น
ที่รัชกาลที่ 4 โปรดสร้างให้เป็นวัดอรัญวาสีของ ธรรมยุติกนิกาย ตามความเจริญของสมัยนั้นมาประยุกต์
เข้าไปนมัสการองค์พระพุทธรูปและชมภาพจิตรกรรมแบบขรัวอินโข่ง ซึ่งภาพบนฝาผนังได้บอกความเป็นไปของภาพที่มอง
หากเราตั้งใจมองอย่างลึกซึ้งก็จะรู้ว่าคนวาดเป็นอัจฉริยะบุคคลในการสื่อสิ่งต่างๆด้วยภาพที่เขาเขียนจริงๆ
ภายในโบสถ์เย็นสบาย ทำให้สงสัยว่าคนสมัยนั้นเข้าใจตกแต่งหลังคาสูงด้วยวัตถุประสงค์เพื่อให้อากาศภายในห้องมีอากาศถ่ายเทได้ดีตลอดฤดู
ขณะที่ข้างนอกแดดร้อนจัด พอเข้ามาในโบถ์กลับมีลมพัดโกรก อากาศสดชื่นชวนให้ใจพลอยสดชื่นไปด้วย

พอฟังคำบรรยายจบพวกเราก็จัดขบวนปั่นไปตามเส้นทาง รถบนถนนติดอีกแล้ว แต่ก็ผ่านไปสะดวกตลอดเส้นทางจนถึงตลาดนางเลิ้ง
เห็นถนนก่อนเข้าตลาดแคบมาก พอเข้าไปในบิรเวณตลาด กลับกลายเป็นอีกสถานที่หนึ่ง
เพราะเหมือนพวกเราหลงเข้ามาในตลาดของจังหวัดหนึ่ง เพราะคล้ายกับตลาดตามหัวเมืองทั่วๆไป
นับว่าตลาดนี้อยู่ใกล้บ้านแต่ไม่เคยคิดว่าจะมีในกทม. พอมาถึงก็เดินซะทั่ว แปลกดี ..เพราะเหมือนกับเดินอยู่ที่ตลาดต่างจังหวัดเลยค่ะ

บ้านเรือนยังเป็นเรือนไม้อยู่ ร้านอาหารมีแทบทุกครัวเรือน น่าทานหลายจ้าว พวกเรามาถึงก็เที่ยงแล้ว
อาหารสดก็คงเก็บกลับกันหมด คงขายเฉพาะช่วงเช้า ร้านขนมไทยต่างๆก็มีขายหลายร้าน
พวกเรา3สามมาสรุปที่ร้านขายเป็ดพะโล้กัน เลยอร่อยกันตามใจชอบ เกี๊ยวน้ำเป็ดพะโล้ก็อร่อย เกี๊ยวห่อด้วยกุ้งสดทั้งชาม
แรกๆว่าจะเบิ้ลแต่ก็ไม่ไหว อร่อยชามเดียวจะพอดี หาก2ชามก็เกินพอดี น้ำหนักที่ลดได้ก็คงแซงโค้งสุดท้าย

เพื่อนสาวแม่ลูกสองเบิ้ลสลิ่มหนึ่งถ้วยต่อ แอ ..ทำไมจักรยานที่จอดในคอกที่ตลาดหายไปไหนกัน ทำไมเหลือของเราสามสาว ชักงง
รอไปมาไมรู้เขาไปไหนกันแล้ว..เลยถามแม่ค้า เขาชี้ให้พวกหเราไปวัดโสมนัสวิหาร ริมคลองผดุงกรุงเกษม
ฮาๆรีบปั่นออกซอยก็มีคนขายของชี้บอกทางตามเคย เหมือนเขาจะรู้ว่ามาจากขบวนรถซิ่งชุดเดียวกันกระนั้นแหละ

ใจระทึกเมื่อจอดที่วัดโสมนัสวิหาร เห็นคุณแอมป์ยิ้มแป้นบอกพวกเขาเข้าโสถ์ไปฟังคำบรรยายเลยรีบขึ้นไป
บรรยากาศภายในโสถ์เย็นสบายอีกแล้ว พวกเราวันนั้นรู้สึกหัวใจพองโตสถชื่นจริงๆเลยค่ะ
มองภาพที่จิตกรฝาผนังวาดไว้ ช่างวิจิตรสวยงามจริงๆ ภาพลายเส้นสวยคม และสื่อความหมายของรูปเข้าใจง่าย
หากมองลึกๆภายในภาพจะเห็นชิวิตประจำวันของตัวละครภายในภาพได้ชัดว่ากำลังทำอะไรอยู่
และเคยไปวัดพระแก้ว ก็จะมีความรู้สึกว่า จิตกรฝาผนังท่านนี้เป็นคนๆเดียวกัน เพราะเหมือนมากและเหมือนจริงๆ ลายเส้นของโบสถ์
หลังคา และลีลาของตัวละครในรูปที่วาดไว้ ช่างเหมือนกันนัก และมีภาพตลกๆติดอยู่หลายรูป เหมือนภาพที่เพื่อนๆที่พันทิพลงในกระทู้

เขานำมาลงมีภาพทหารที่จะไปรบ ออกศึกร่ำลาคนรัก และมีภาพทันสมัยติดอยู่ในภาพด้วย ซึ่งคิดว่าเมื่อก่อนคงไม่มี
หรือมีก็แปลว่าคนยุคก่อนท่านทันสมัยมากๆ วัดนี้มีหลายโสถ์ที่กำลังบูรคณะใหม่หลายๆโบสถ์ แปลว่าได้รับการดูแลอย่างดีมาตลอด

นั่งฟังคำบรรยายอยู่ เพื่อนก็บอกคงไปทัวร์ที่อื่นต่อไม่ได้อีกแล้ว เพราะต้องไปทำกับข้าวเย็นเดี๋ยวจะกลับไม่ทัน
เลยร่ำลาลุงๆพี่ๆเพื่อนๆ และคุณแอมป์ ก่อนกลับก็สัญญากับคุณลุงปรีชา คุณลุงออน ว่าจะเจอกันใหม่ทริปดูไฟวันคริสมาสต์
เสียดายที่ต่อจากนั้นไม่ได้ท่องเที่ยวโปรแกรมท้าย แต่พวกเราสามคนหลงทางเมื่อออกจากวัดโสมนัสฯ
เพราะพอออกมาถนนใหญ่แล้ว ก็งงๆว่าที่นี่ที่ไหน ไปซ้ายหรือขวาดี ก็เลยเสี่ยงไปทางขวา ขี่ไปเลนซ้ายตลอดทาง
ก็เจอวัดบรมนิวาส ที่ผ่านมาใจเลยชื้นขี่ไปเรื่อยๆ ถามวินมอร์ฯ ว่าพวกเราจะไปทางโบ๊เบ๊ เขาให้ตรงไป
ก็ดีใจเจอสะพานยศเส ใกล้บ้านแล้ว ตัดทางไปเรื่อยๆ เจอสะพานขาวดีใจมาก ถีบด้วยแรงที่เหลือ แต่ขึ้นสะดานไม่ได้เลยจูงขึ้นลง

ถึงบ้านแล้ว..โคลีเซี่ยมอยู่ตรงหน้า แล้วก็แยกบ้านใครบ้านเผือก ..ไปทำหน้าที่ทำกับข้าวต่อ..

ขอบคุณทีมงานทุกท่านที่ ทำให้แม่บ้านได้เปิดหูเปิดตากับการท่องเที่ยวในครั้งนี้ค่ะ


สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 46

โพสต์


17 ธค.จักรยานท่องกรุงปทุมวันศึกษา พาไปถึงนางเลิ้ง คลองผดุง


http://www.thaicycling.com/messageboard ... axreply=30

http://www.thaicycling.com/messageboard ... axreply=30

"จักรยานเพื่อเมืองน่าอยู่ เพิ่มพลังกาย ลดใช้พลังงาน" อาทิตย์19 พ.ย.49

ติดตามชมภาพกิจกรรมได้ที่

http://www.thaicycling.com/messageboard ... ry=&id=303

http://www.thaicycling.com/messageboard ... ry=&id=302


ติดตามชมภาพกิจกรรมได้ที่

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=118457

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=118452

http://www.thaicycling.com/messageboard ... axreply=30

http://www.thaicycling.com/messageboard ... axreply=30

ดูไฟวันคริสตมาส 2006

http://www.thaicycling.com/messageboard ... axreply=30

http://www.thaicycling.com/messageboard ... axreply=30


http://www.thaicycling.com/messageboard ... axreply=30


(จบการสรุปทริปที่ไปเที่ยวกับชมรมฯทั้งปีค่ะ ปีนี้ผ่านไปเร็วมากๆ พอมีความสุข
รู้สึกเวลาที่ผ่านไปจะเร็วมากๆ จะมีความหมาย และ ตื่นเต้นสนุกสนาน
เป็นสิ่งที่ทุกๆคนสามารถทำได้ อยู่ที่จะค้นพบและมีเวลาให้กับตัวเอง
หน้าที่การงาน ทำให้ทุกๆคนเกิดความเครียด  ต้องพยายามหาเวลาพักผ่อนบ้าง

เปลี่ยนบรรยากาศให้กับชีวิตที่จำเจบ้าง  หันมาใส่ใจกับสุขภาพกายใจบ้างก็ดีนะคะ
ยังไม่สายที่จะนำสิ่งที่ฝากไว้ก่อน ออกมาสานให้สำเร็จ อย่าเก็บซ่อนไว้ในก้นบึ้งของหัวใจ
เวลาของคนเรามีไม่มาก ต้องเฉลี่ยเวลาให้กับสุขภาพใจบ้าง จะรู้ได้เลยว่า...

ได้ทำในสิ่งที่คิดนั้น มีความสุขมากมายขนาดไหน?...

ขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านนะคะ...





..(((((..".ประสบการณ์ของ..ลุงเนตร."..)))))..


http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=126135

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=142261

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=146706

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=160098

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=155645

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=156743

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=159485

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=141790

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=147164

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=110977

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=106601

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=145282

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=144125

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=141540

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=140461

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=134917

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=131911

Dech
Verified User
โพสต์: 4596
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 47

โพสต์

แหะๆ ตามอ่านไม่ไหวครับ เยอะเกินไป

เข้ามาบอกว่า เอาจักรยานไปซ่อมมาแล้วนะครับ
วันนี้เองครับ

ค่าซ่อมแพงมาก ตั้ง 20 บาท

สรุปแค่ ล้อแฟบ เพราะไม่ได้ขี่นาน เท่านั้นเองครับ

แต่คงมีอาการ ซึมเร็วตามมาแน่ๆ
ไม่เป็นไร ไว้ปั่นไปเติมลมบ่อยๆครับ

พี่สุเกียง ไปปั่นแถว สวนผึ้ง ราชบุรี หรือยังครับ
พึ่งพาแม่ไปเที่ยวมาครับ มีที่เที่ยวเยอะเลย
ระยะทางก็แต่ละที่ก็ห่างกัน พอปั่นไปไหวครับ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 48

โพสต์

สวัสดีค่ะ คุณ CopyWriter ค่ะ
ดีใจที่คุณนำจักรยานไปตรวจสภาพแล้ว
ใช้งานได้ก็ดีใจด้วยค่ะ ให้ลองสังเกตุเรื่องยางลม
หากสูบแล้ว ล้อแบเร็วเกิน แปลว่ามีรั่วซึมนิดหน่อย
ก็ต้องตรวจสภาพไส้ในยาง หาจุดรั่วซึมปะเอาก็จะดีมากๆ

เพราะหากเติมลมบ่อยนัก บางครั้งนำไปใช้ระยะทางไกลบ้านหน่อย เกิดยางแบนล่ะก็ต้องนำกลับบ้านด้วยรถเท๊กซี่ก็จะลำบากหน่อย
ยางในหากเก่าแล้ว ก็ควรซื้อยางในเปลี่ยนไปเลย คราวนี้จะใช้ได้อีกหลายๆปีเลยค่ะ

ฮาๆๆเห็นไหม? พอเราขี่จักรยานแล้ว
จะมีที่เที่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ ดีใจที่คุณ พาคุณแม่ไปเที่ยว
ที่สวนผึ้ง ราชบุรี ดีนะคะไปไหนไปด้วยกัน
เห็นด้วยค่ะที่พาคุณแม่ไปเดินเที่ยวออกกำลังกาย

สวนผึ้ง ราชบุรี ไม่เคยไปค่ะ คงไม่มีโอกาสไปที่นั่นแน่ๆ
ส่วนมากจะไปปั่นที่สวนลุม แต่เขามีเวลากำหนดให้คนปั่น
จักรยานที่นั่นในช่วงเวลา 10.00น. ถึงบ่าย 15.00น. ประมาณนี้
เกินกว่านี้เขาบอก เป็นช่วงที่คนเขามาเต้นแอโรบิด และวิ่งจ๊อกกิ้งกัน

ขอบคุณมากนะคะ


สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 49

โพสต์

ปีใหม่2550...วันพักผ่อนสบายที่เจียงใหม๋


http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkato ... 28720&st=1


เพื่อนคนนี้ชื่อคุณ ออย เป็นเพื่อนที่ไปปั่นจักรยานด้วยกันกับชมรมฯ
แทบทุกทริป จะได้เจอ คุณ ออย ไปร่วมทริปด้วยบ่อยๆ
เธอเป็นคนเก่ง เป็นสาวมั่น ที่มีความมั่นใจในตัวเองดีมากๆใจกล้าหาญ ปั่นไปท่องเที่ยวไกลๆด้วยจักรยานคนเดียว
ต้องยอมยกนิ้วให้จริงๆเลยค่ะ



http://www.thaicycling.com/messageboard ... axreply=30

ไต่ระห่ำวิบาก...กระชากฝันไว้ที่ Mt. Kinabalu ..(ภาคแรก)

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkato ... 63176&st=1

ไต่ระห่ำวิบาก...กระชากฝันไว้ที่ Mt. Kinabalu ..(ภาค 2 จบ)

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=164620

นับว่า การได้ออกกำลังกายด้วยจักรยาน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ที่ดีขึ้นกับทุกๆคนที่หันมาขี่จักรยานก็ว่าได้ เพราะทำให้มีความรู้สึก
ตื่นเต้น ใจโลดแล่นไปไกลเกินกว่าที่คิด  มีความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไปจาก
ความจำเจเดิมๆ มองอะไรๆก็กว้างขึ้น สภาพจิตใจได้ผ่อนคลายมากกว่าอดีตที่ผ่านไปแล้วมากๆเลยค่ะ

สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 50

โพสต์

เล่าเรื่องด้วยภาพ "เจาะลึกตามรอยกำแพงนครเวียงจันทน์"

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=125975



ภาพประจำตัวสมาชิก
bsk(มหาชน)
Verified User
โพสต์: 3206
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 51

โพสต์

ขอบคุณอีกคราป้าตะเกียงผู้แสนดี... :)
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 52

โพสต์

ขอบคุณเช่นกันค่ะ คุณ มหาชนฯ ที่แวะมาอ่านค่ะ

อีก 3 พันโล 2 เดือน "หมู-วรรณ" ใกล้บรรลุเส้นชัย

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=144542

วรรณกับหมู ปั่นรอบโลก 6 ปี 44 ประเทศ 60,000 กม. .... กลับเมืองไทย วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม 2550 ที่ด่านปอยเปต อรัญประเทศ

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkato ... 81358&st=1

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkato ... 1358&st=31

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkato ... 1358&st=61

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkato ... 1358&st=91

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkato ... 358&st=121

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=188238

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=187671

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=186915

http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=187662
ลุงทีม
Verified User
โพสต์: 689
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 53

โพสต์

มีแวะผ่านเข้าไปในวัดเทพด้วย... :D

ปกติถ้าอยู่กรุงเทพๆ ผมจะแวะเข้าไปทุกอาทิดเลยครับ
ไปเตะบอลกับเพื่อนกับพวกเด็กป5-ป6อะนะครับ :lol:  :lol:  :lol:

เตะเสดก็แวะไหว้ ท่านเจ้าคุณนร หลังจากนั้นก็ไปกินข้าวกันหลังวัด กินไปก็เหล่สาวไปตามประสาหนุ่มโสดครับ...มีความสุขดีครับ... :lol:  :lol:  :lol:
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 54

โพสต์

สวัสดีค่ะ คุณ ลุงทีม แปลว่าปัจจุบันนี้เป็นหนุ่มใหญ่แล้ว
คนเราหากนึกย้อนถึงอดีตอย่างมีความสุข แปลว่าสิ่งที่ผ่านมานั้นมีค่าอยู่ในความทรงจำจริงๆ
พอมีความสุข หรือมองเห็นภาพสิ่งที่เห็น จะคิดถึงวันคืนที่ผ่านไป
ดีค่ะ เก็บสิ่งดีๆให้คงอยู่ในความทรงจำ เพราะทุกๆคนมีเรื่องราวดีๆมากมายให้ระลึกถึงจริงๆ





รูปภาพ วันรณรงค์ขยะพิษ

http://www.thaicycling.com/messageboard ... axreply=30

[color=greenขอขอบคุณ เฮียโก๋สี่พระยา ที่นำรูปมาให้ชม

ดีใจที่ได้ไปร่วมรณรงค์ขยะอันตรายในวันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน 2550 ที่ผ่านมาค่ะ
เมื่อวานตื่นสายไปหน่อย ตื่นเอา7.00น. เพราะนอนเต็มอิ่ม เลยสบายตัวหน่อย ทานขนมปังและกาแฟให้อยู่ท้อง
แล้วออกเดินทางไปที่สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) ถึงที่โน่น7.45น. นึกว่าไปสายซะแล้ว

ยัง..ทันได้ทักทายเพื่อนๆ ได้ถ่ายรูปด้วยกัน รอจนเกือบ9.00น. เตรียมออกเดินทางไปกรมควบคุมมลพิษที่ซอยอารีย์
ระหว่างเดินทางก็ไปกันเป็นขบวน รวมแล้วก็ชื่นใจที่มากันมากกว่าที่คิด แต่ละคนดูสนุกสนานเฮฮาดี
ขี่ตามเส้นทางที่ลัดเลาะเป็นวงกว้าง เข้าซอยโน้นออกซอยนี้ ถนนหนทางสะอาดและร่มรื่นดี

ปั่นแบบสบายๆ ชิวๆๆเรื่อยๆไม่เร่งรีบ เพราะมีรถสวนไปมา แต่ปั่นแบบเรียงสองเลยมีระเบียบ
ทริปนี้ไม่มีเด็กเล็ก มีแต่เด็กโตหนุ่มน้อยเริ่มโตก็มากันหลายคน ใส่เสื้อยืดของชมรมฯมีชื่อก็มาร่วมปั่นกับชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพฯด้วย
เลยออกจะคึกคักมากขึ้น เพราะใส่เสื้อยืดสีน้ำเงินสะดุดตาดี มากันแบบครอบครัวก็มี

คุณฉัตร คุณแอมป์ ได้รวบรวมขยะหลายๆอย่างใส่ถุงรวมกัน บรรทุกท้ายรถที่คุณฉัตรเตรียมมาโดยเฉพาะ
พอไปถึงก็รวบรวมใส่ลังที่เจ้าหน้าที่กรมควบคุฒมลพิษเขาเตรียมไว้ให้ และพาพวกเราไปฟังการบรรยายที่ห้องประชุมฯ
ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญคอยบรรยายผลกระทบของสารพิษต่างๆ และสรุปงานวิจัยที่เป็นความรู้
ให้กับเพื่อนสมาชิกชมรมจักรยานฯ ได้รับรู้เพื่อเป็นแนวทางพื้นฐาน ทุกคนมีส่วนร่วมในการรณรงค์ขยะพิษด้วย

ขณะที่ฟังคำบรรยายก็มีภาพประกอบให้เห็น หลังจากนั้นก็มีเกมส์การละเล่นมาเรียกเสียงเฮฮาได้ตลอดเวลา
ฟังการบรรยายหลายชั่วโมง ท้องเริ่มร้อง หิว..ก็พอดีคุณแหม่คุณป๋อง รู้ใจ นำน้ำและเค๊กแยมโรมาแจก ก็แกะแล้วชิมอร่อยดี
จนได้เวลาพักเที่ยง อ้อ..เลยเที่ยงนิดหน่อย ก็เตรียมตัวปั่นจักรยานออกไปทานข้าวกัน คนเราพอหิวๆๆๆ T_T อะไรๆ..ก็อร่อยไปม๊ด...

อ่มท้องแล้วก็ปั่นไปสมทบกับเพื่อนๆ เห็นคุณแอมป์รอเพื่อนๆมากันพร้อมจะไปเที่ยวต่อ ก็นับได้20กว่าคน
ส่วนท่านอื่นๆก็คงมีธุระเลยกลับก่อน พวกเราออกเดินทาง ไปไหนฉันไปด้วย..สนุกไว้ก่อน ..
ก็ตามกันมาเรื่อยๆ ออกมาก็เจอสวนรถไฟ
3 ไปทางเส้นทางโรคัลโรส (เส้นทางนี้เริ่มคุ้นเคยแล้ว )เป็นเส้นทางที่เคยหลง แต่ ก็เริ่มคุ้นเคยและจำได้แล้ว..
อ่ะ..พรุ่งนี้มาเล่าต่อน๊า...ตอนนี้ขอตัวไปพักผ่อนก่อน เพราะวันนี้เหนื่อยมากๆ ไปทำความสะอาดบ้านน้องชายคนโตมาทั้งวัน

เมื่อเช้าปวดเมื่อยแทบลุกไม่ขึ้นนานๆไปออกทริปปั่นทีก็อย่างนี้แหละ เส้นสายไม่คงที่
เพราะเมื่อคืนกลับถึงบ้าน 18.15น. ระยะทางในการเดินทาง 45.45 กม.
ไหนว่า 15 หย่อนๆ จริงๆแล้วก็มันพะยะค่ะ คนที่ไม่ได้ไป เสียดายมากๆเลยนะ

][/color]
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 55

โพสต์

..ความสนุกที่ได้รับในการจากการออกทริปแต่ละครั้ง ทำให้เริ่มชินกับการออกเดินทาง

พอทุกคนที่รับประทานอาหารเสร็จมากันพร้อมก็ทักทายพูดคุยกันสนุกสนาน
เพราะตอนเช้ายังทักทายกันไม่ทั่ว หลังจากทราบทางชมรมฯจะพาพวกเราไปมหาลัยฯเกษตรฯ
เพื่อฟังการบรรยายความรู้เรื่องการนำขยะมารีไซเคิ้ลให้เป็นของใช้ทรี่มีประโยชน์เขาทำกันอย่างไร ก็เพราะอยากรู้จึงต้องตามไปดู...

ออกจากกรมควบคุมมลพิษที่ซอยอารีย์ ไปตามเส้นทางที่คุ้นเคย ถนนไม่ค่อยมีรถ ไปตามกันเป็นขบวน
ไม่รีบร้อน เพราะแดดไม่ร้อน ลมและอากาศเย็นสดชื่น คุณโอ๋ ก็ปั่นมาสมทบคุยกันเรื่องราวที่ไปเที่ยวนครนายกฯให้คุณโอ๋ฟัง
พวกเราปั่นไปเรื่อยๆจนเจอเส้นทางเรียบถนนโรคัลโร๊ด ซึ่งเป็นเส้นทางที่นักปั่นจักรยานคงชอบ เพราะเป็นเส้นทางที่วิวสวย

ถนนราบเรียบปั่นได้เรื่อยๆ ไม่อันตรายเลย ไม่มีหลุมบ่อให้ตกใจ และมาทีไรทางชมรมฯมักอาสัยเส้นทางนี้กันบ่อยๆ
แต่...ครั้งนี้..พอปั่นไปเรื่อยๆผู้นำขบวนก็นำกลุ่มเพื่อนๆขี่เข้าเส้นทางทุ่งหญ้า กลุ่มเพื่อนๆที่นำไปก่อน
พวกเขาก็ลุยโดยไม่บอกกล่าว แลทุกคนที่ขี่ตามขบวนก็ขี่ตามกัน เหมือนเชื่อใจในผู้นำกลุ่ม แบบลูกพี่ไปไหน พวกเราไปล่วย...

มัวแตมองเส้นทาง อ่ะ..เพื่อนๆเขาลุยไปแล้ว...
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 56

โพสต์

.พอถึงตาเรา ภาพที่เห็นเมื่อออกนอกเส้นทางถนนก็เป็นทางเดินลัดเลาะของคนในท้องถิ่นเดินผ่าน
เป็นเส้นทางของรถมอร์เตอร์ไซด์ลุยฝ่าไปได้...แต่พอเราลงจากรถเพื่อจะนำจักรยานลงเส้นทางที่เป็นทุ่งหญ้าแห้งๆ เป็นทุ่งรวงทองตลอดผืนเพราะหญ้าที่เห็นเป็นหญ้าแห้งตลอดแผง ดีที่เห็นเส้นทางเดินแคบๆ ไม่กว้างไม่แคบ 10นิ้วได้ ไม่ถึงฟุตหรอก

ก่อนลุยก็คิดในใจว่า เส้นทางตรงหน้าหญ้าที่เห็นมันแห้ง ดินก็แห้ง คนที่ลุยไปก่อนก็เริ่มขี่ตามๆกันไปเห็นหลังไหวๆ
คนที่ต่อจากเราก็รอเรา ด้วยความไม่กล้าขอคิดดูก่อนก็ให้พี่ๆผู้ชายสองคนนำไปก่อน เพิ่งเห็นและเพิ่งรู้จักมีอายุมากกว่าดิฉันแน่ๆ

ถ้าเขาลุยได้..เราก็..ต้องลุยได้เช่นกัน..อ่ะ..ไปได้จริงๆ เอามั่ง แหม..ไม่ยาก หากล้มก็ล้มไม่เจ็บ เพราะมันคือหย็แห้งๆไม่มีน้ำโคลนเฉอะแฉะอย่างที่คิด
โอ...มันมาก เป็นทางเดินของงูตัวใหญ่ๆเลื่อยผ่านเลยนะนี่ เห็นเส้นทางแล้ว มันยาวไกลมาก
ยิ่งเห็นกลุ่มที่นำขบวนเขาขี่ช้าๆ ขี่ผ่านทุ่งหญ้าที่มีหญ้าแห้งๆสูงเพียงหน้าแข้ง ผ่านฉลุยคันแล้วคันเล่า

เป็นภาพที่สวยงามไปอีกแบบหนึ่ง ดูออกจะแปลกตาและตื่นเต้นดีที่ในกทม.ก็มีเส้นทางที่น่ารักแบบนี้
เป็นทางลัดที่ท้าทายดี เหมือนทดลองฝีมือ ใครผ่านได้จะดีใจกัน เออ...ที่จริงเราก็หวั่นๆไปเองแหละ...ฮาๆๆ
ลุยป่าเขาที่เขาใหญ่มาแล้ว ทุ่งหญ้าแห่งนี้ ยังไม่ได้1ใน10 เลยด้วยซ้ำ แต่เป็นเพราะเราค่าดเดาเส้นทางที่เห็นไม่ได้ว่ามันชื้นแฉะอย่างไร
พอขี่ไป เป็นหญ้าแห้งดินแห้งที่ขี่ไปก็เริ่มสนุกสนาน กระหยิ่มยินดีไปซะงั้น มันส์ดีแท้ๆ...

โอ...สดชื่นที่ตลอดเส้นทางผ่านมาได้อย่างสบายๆๆๆ...



...ออกมารวมพลจนครบ ก็ขี่ไปเรื่อยตามเส้นทางที่ยังเป็นเส้นทางสายเคียงคู่ถนนรถไฟ
พอออกมาถนนใหญ่ ก็ต้องมารีเทรินกลับรถ เขาว่าต้องจูงจักรยานขึ้นสะพานกลับรถกัน
เพื่อนๆที่นำไปก่อนก็ขี่หายกันไปเหลือแต่เฮียฉัตร พี่ผู้ชาย และพี่ผู้ชายอีกคน รวม 4คนก็เกาะกลุ่มตามกันไป

พี่ผู้ชายบอกมีทางข้ามฟากที่ไม่ต้องจูงจักรยานข้ามฟากอยู่ตรงหน้า แต่มันเป็นสะพานลอย
จะไม่ต้องขี่จักรยานไกล ข้ามสะพานลอยเลย เราได้แต่ส่ายหน้า จักรยานมันหนักเกินกำลังแบก ไม่ไหวค่ะ สะพานมันสูงมาก

เพราะถนน4เลนจะมีความสูงมากกว่าสะพานลอยทั่วๆไป พี่ผู้ชายน่ารักมาก บอกจะแบกกจักรยานให้
คุณสุเกียงแค่เดินขึ้นไปก่อน ผมจะแบกจักรยานตามทีหลัง..โอ...ทำอย่างนี้ได้อย่างไร? เดี๋ยวขี่ตามกลุ่มเพื่อนๆที่ไปก่อนหน้านี้ดีกว่านะคะ
จักรยานคันนี้มันหนักนะคะ พี่เขาว่า ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมแบกไปสบายมาก..

ขนาดขึ้นสะพานตัวเปล่ายังเหนื่อยหอบ หากแบกจักรยานทั้งคันคงไม่ต้องพูดถึงแล้ว...แกรงใจพี่ชายท่านนี้จริงๆ..เลยค่ะ
พี่เขาชื่ออะไรก็ไม่ได้ถาม ขอบพระคุณมากๆเลยค่ะ...
พอลงจากสะพานพวกเรา 4 คน ก็มาถึงมหาวิทยาลัยฯเกษตร มาเจอคุณโอ๋..ที่เพิ่งลงจากกระไดจักรยาน เธอมีสีหน้าเหนื่อยและแปลกใจ

ว่าทำไมเราปั่นมาทันและเจอกันเร็ว แบบไม่เหนื่อยเหมือนเธอ...อิอิ...เป็นความลับ ...
เข้ามาที่มหาลัยฯแล้ว อากาศวันนั้นเย็นสบาย ไม่มีแดด ภายในบริเวณก็เต็มไปด้วยต้นไม้ที่ร่มคลื้ม
ก็รวมกลุ่มจอดจักรยานที่ห้องการบรรยาย มีอาจารย์มาบรรยาย 4 ท่าน ก็นั่งพร้อมกันฟังการบรรยายที่ห้องแอร์เย็นฉ่ำ

ได้เรียนรู้การนำสิ่งที่เหลือจากโรงงานต่างๆนำเศษของที่เขาทิ้งมาทำชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์บ้าง
และอื่นๆที่เป็นเศษๆ เขาก็นำมาปรกยุกต์เป็นของใช้หลายๆอย่าง นำมารีไซเคิ้ลให้เป็นประโยชน์ เป็นสินค้าที่ขายดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ

บนโต๊ะ มีแผ่นกระเบื้องปูพื้น พวกเราก็สงสัยว่าเขาวางแผ่นกระเบื้อง ก็คตือหินอ่อนธรรมดาๆที่เขานำมาปูพื้นนี่เอง
จากการอธิบาย ของอาจารย์ๆบอกว่า โรงงานทำกระดุม เขาเจาะเศษกระดุมต่างๆ ก็เป็นขยะไปทิ้ง ก็จะเป็นมลพิษที่ไม่มีประโยชน์

แต่คณาจารย์ผู้เป็นนักค้นคิดก็นำมารีไซเคิ้ลให้เป็นลายของหินอ่อนได้ หากไม่บอกก็คิดว่าเป็นลายของหินภูเขา หินแกรนิตทั่วๆไป
ลูบคลำอย่างไรก็คือหินอ่อนเราดีๆนี่เอง แต่...ส่วนผสมของแผ่นหินก็คือปูนหินอ่อนที่หล่อเองและโรยด้วยเศษกระดุม
ขัดหน้าหินจนเหมือนหินอ่อนที่เขาวางขายกัน ไม่บอกก็ไม่รู้ น่าทึ่งมากๆ

เมืองไทยมีผู้มีความรู้มากมาย แต่หาผู้สนับสนุนและหาหน่วยงานต่างๆที่จะผลักดันการคิดค้นของอาจารย์ให้สำเร็จลุล่วงนั้นหายากมากๆ
เห็นไอเดียความคิดที่มีประโยชน์เหล่านี้ของนักวิชาการแล้วเสียดายที่ไม่มีผู้ผลักดันโครงการที่ท่านคิด

ขอให้สักวันหนึ่งมีผู้วิเศษที่เข้าใจ มาช่วยพัฒนาโครงการที่ท่านคิดให้สำเร็จและยิ่งใหญ่ เพื่อประเทศชาติ
ขอเอาใจช่วยนะคะ...

พวกเราได้รับความเอื้อเฟื้อของอาจารย์ที่สละเวลามาบรรยายความรู้ให้กับพี่ๆน้องๆชาวจักรยานอย่างอบอุ่น
มีขนมอร่อยๆชิมขณะที่ฟังคำบรรยาย ได้ความรู้มากมาย แต่ละคนกลับมา จะพยายามลดใช้ของที่เป็นมลพิษให้น้อยลงเรื่อยๆ

จะพยายามแยกขยะพิษที่เป็นอันตรายออกมาเป็นถุงๆ ป้องกันตั้งแต่อยู่ในบ้าน ร่วมด้วยช่วยกันคนละนิดก็ยังดี

พวกเราปั่นจักรยานออกจากมหาลัยฯ ไปทางเส้นทางถนนใหญ่ ได้จูงจักรยานข้ามฟาก ได้เข็นขึ้นสะพานลอยอีกแหล่ว
ไม่เหนื่อย แต่พอลงสะพานที่สูง ก็เกือบชักกระแด่วๆ มันสูงจริงๆ ก็มีพี่ผู้ชายที่มาด้วยกัน 4 คน มาช่วยแบกลงไป
ขอบพระคุณมากๆ มาเพิ่มภาระให้กับเพื่อนสมาชิกแทบทุกครั้ง เกรงใจมากๆเลยค่ะ

พวกเราขี่ตามถนนไปเรื่อยๆไม่เร่งรีบ ไปด้วยกันจนถึงสวนรถไฟ ก็แยกย้ายกันเดินทางกลับบ้าน
ก็เดนทางกลับกับพี่ผู้ชายที่เป็นช่างภาพประจำชมรมฯ เพราะเจอกันทีไรพี่เขาจะถ่ายรูปเพื่อนๆทุกที ชื่ออะไรก็ลืมถาม
และน้องผุ้ชายผิวคมขำ อาเจ็กวิสุทธิ์ พวกเราขี่กันบนถนนซึ่งรถติดมาก ลัดเลาะไปตามถนนเรื่อยๆ

อาเจ็กวิสุทธิ์ ปั่นเร็วมาก ตอนหลังถึงถนนอยุทธยา ก็เหลือพวกเรา 3 คน เลยแยกทางกลับบ้านที่4 แยกไฟแดงนี้ กลับถึงบ้านแบบไม่ค่อยเหนื่อย
เป็นทริปที่สบายๆ ชอบใจตรงลุยทุ่ง สนุกและตื่นเต้นดีมากๆ
ฮาๆๆ เจกกันอีก

http://www.thaicycling.com/messageboard ... axreply=30

ทริป อาทิตย์ที่ 25 พ.ย.50 ชวนปั่นท่องสวนชมวัดเมืองนนท์ ร่วมบันทึกรายการทีวีช่อง 5..

น่าไปมากๆ หากไม่ติดธุระ ทริปนี้วันเดียว ต้องไปให้ได้ ไม่พลาดอยู่แล้ว...อิอิ..
สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 57

โพสต์

http://www.thaicycling.com/messageboard ... axreply=30


http://www.thaicycling.com/messageboard ... axreply=30

.อาทิตย์ที่ 25 พ.ย.50
ชวนปั่นท่องสวนชมวัดเมืองนนท์
ร่วมบันทึกรายการทีวีช่อง 5.. รายการ Blissful Day วันแสนสุข

ชวนปั่นสองล้อท่องสวนเมืองนนทบุรี เขตบางใหญ่ กับเส้นทางแบบอันซีน ชมวัดและไหว้พระ ตามเส้นทาง เป็นอีกวันหยุดหนึ่งที่พลาดไม่ได้ มาปั่นจักรยานออกกำลังกาย ได้สาระ ได้พบเพื่อนๆใจเดียวกัน แล้วจะพบว่าไม่มาคงเสียดาย

8:00 น. พบกันที่สนามหลวงฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กรุณารับประทานอาหารเช้าให้เรียบร้อยก่อน และกรุณาตรงเวลาด้วยครับ

8:30 น. ล้อหมุนออกเดินทางท่องธรรมชาติจากกรุงเทพฯ สู่นนทบุรี ตรงไปบางใหญ่ รับประทานอาหารกลางวันแบบใครกินใครจ่ายกันตามอัธยาศัย

13:00 น. ออกเดินทางปั่นท่องสวนเมืองนนท์ ในเส้นทางที่หลากหลาย ทั้งทางราดยาง ลูกรัง ทางปูนลอยน้ำ ทางสายเดี่ยวเลียบคลอง ชมวิถีชีวิตริมน้ำ ทางในสวนร่มรื่น เย็นสบาย ซึ่งนับวันจะเหลือน้อยเต็มที ไม่มาไม่รู้ มือใหม่ได้ฝึกทักษะการปั่นด้วย รับประกันความสนุก ชมวัดวาอารามต่างๆ ที่วิจิตรงดงามมากๆ สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านบางใหญ่ ชมและฟังเรื่องราวของเรือยางรูปแบบต่างๆ ซึ่งผลิตโดยฝีมือคนไทย ใครสนใจก็สั่งได้ แล้วปั่นกลับอีกเส้นทางหนึ่ง

17:00 น. ถึงสนามหลวง แยกย้ายกันกลับบ้าน

รายละเอียดทริป

ระยะทางไปกลับประมาณ 50 กม. อาจมากหรือน้อยกว่าได้ สะสมระยะทาง
มือใหม่มาได้ มือเก่ามาดี ฝึกทักษะการปั่นในเส้นทางหลากหลาย ปั่นสบายๆ แวะพักเป็นระยะๆ ใครยังใช้เกียร์ไม่เป็น กรุณาแจ้งผู้นำทริป
ทริปนี้ไม่ต้องสมัคร มาให้ตรงตามเวลาและสถานที่นัดได้เลย (ล้อหมุนตรงเวลา)
ทริปนี้มีรายการทีวีมาถ่ายทำกิจกรรมท่องสวนนนท์ด้วย ใครอยากออกทีวี อย่าพลาด !!!
พิเศษ.... มีรางวัลสำหรับสมาชิกที่บันทึกการปั่นท่องเที่ยวทริปนี้ ว่าเราได้เที่ยววัดทั้งหมดกี่วัด ชื่อวัดอะไรบ้าง และแต่ละวัดมีจุดเด่นอะไรในความคิดของท่าน ส่งข้อมูลให้ผู้นำทริปในวันนี้ หรือจะส่งมาที่ชมรมฯ ก็ได้ตามสะดวก รางวัลเป็นเสื้อชมรมฯสวยเก๋ เท่จริงๆ 3 รางวัลเท่านั้น
เตรียมยางในอะไหล่ ชุดปะยาง ครีมกันแดด และเงินไว้กินข้าว น้ำ ขนม
นำทริปโดย ลุงอู๊ด อาลิขิต และคุณเต่า พร้อมทีมงานดูแลอย่างประทับใจ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : โทร.02-612-4747
For English information, call BobTel. 081-555-2901


.ขอขอบคุณ คุณ ไวยมั่น ที่นำรูปมาลงให้ชมกัน

ทริปนี้สนุกจริงๆ ได้หลายรสชาติในทริปเดียวกัน ไม่เหนื่อย ไม่กินแรง แต่กินฝุ่นเข้าไปเต็มปอดอิอิ..

เช้าวันอาทิตย์ตื่นมา6.30น. เพราะเสียงตุ๊กๆแถวบ้านดังเนื่องจากแม่ค้านำผักปลามาขายแถวบ้านกันแล้ว
ก็เลยลุกมาแต่งตัว เพชรดีคืนวันเสาร์มาบอกว่า เจ๊..ชั้นไปไม่ได้ ติดสมัครเรียนลูกสาว (รายนี้ลมเพลมพัด เอาแน่อะไรไม่ได้)
ก็เลยต้องไปสนามหลวงคนเดียว น้องชายที่ชื่อไพศาล เขาไปจอดรถที่ธรรมศาสตร์นัดเจอกันที่โน่น

ก็ออกเดินทาง7.20น. ถนนไม่ค่อยมีรถ เดินทางสบายๆอากาศเย็นๆ ไปถึงสนามหลวงก็เห็นเพื่อนๆนั่งรอยืนรอกันเยอะแล้ว
น้องชายไปถึงก่อน ทางชมรมฯมีเสื้อสวยเก๋สีถูกใจมาจำหน่าย ซื้อใส่กันคนละตัวเท่ห์ดีไม่หยอก

รวมกลุ่มถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน อะไรจะสุขใจไปกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

ขออนุญาติ ยืมลิ้งค์รวมรูปของ คุณ โก๋สี่พระยา มาลงให้เพื่อนๆได้ชมกัน ขอบคุณมากนะคะ

.http://www.thaicycling.com/messageboard ... axreply=30


ขออนุญาต ยืมลิ้งค์ คุณ MT.Shasta ซึ่งมีรูปเพื่อนๆในทริปมาลงให้เพื่อนๆได้ดูชมกัน ขอบคุณมากนะคะ

http://www.thaicycling.com/messageboard ... axreply=30



เป็นทริปที่ทุกคนมากันเยอะมากๆทริปนึง เริ่มรู้จักและคุ้นเคยกับเพื่อนๆในชมรมฯมากยิ่งขึ้น
ไม่กลัวหลงทาง เพราะเริ่มใจแตกและใจกล้ามากกว่าตอนออกทริปใหม่ๆ เรียกว่าติดปีกบิน ชมรมฯจัดฉันขอตามไปด้วย..

ถ่ายรูปเสร็จก็ออกเดินทาง โห..ขบวนยาวเชียว หันไปมองท้ายๆเสื้อสีม่วงสะดุดตา ปั่นมาตามถนนตลอดทางอย่างสนุกสนาน
เส้นทางตรงหน้าที่เห็นต้องขึ้นสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า เฮียไวยมั่น บอกให้ใช้เกียร์ตามความรู้สึก
อ่ะ..ทดลองๆๆ เบอร์2-4 ล่ะกัน ดีใจที่ขึ้นสะพานถึงกลางสะพาน วิวสวยมากๆ บางคนถ่ายภาพและสูดอากาศยามเช้าเต็มปอด

ส่วนเราขึ้นมาได้ใจเริ่มเบิกบาน เวลาขี่ลงก็ง่ายดายไม่กลัวความสูง เพราะดิ่งเขื่อนสูงๆมาแล้ว แค่นี้จิ๊บจ๊อย



สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 58

โพสต์

.พอขี่ตามทางถนนเรียบๆก็มาเจอริมทางรถไฟ พวกเราก็จูงจักรยานข้ามทางรถไฟ
ก็เริ่มเจอถนนดินแดง เพราะพื้นถนนมีแต่ดินแดงๆ แต่ละคนต้องพยายามขี่ช้าๆเพื่อไม่ให้เกิดฝุ่นฟุ้งกระจาย
โชคดีที่มีหมวกผ้าปิดปากจมูกไว้ ไม่งั้นคงไม่ไหว แพ้ฝุ่นเอามากๆ แต่ทางข้างหน้าก็ท้าทายดี แต่ละคนปั่นไปตามเส้นทางข้างหน้า
ไม่พูดไม่จาปั่นลูกเดียว ถนนดินลูกรังกว้างใหญ่ อยากรู้ก็ต้องลุยกันให้ถึงจุดหมาย..อ่ะ สุดยอดจริงๆ



สุดปลายทางมีท่อน้ำคอนกรีตขวางไม่ให้รถใหญ่ผ่าน แต่รถจย.และมอร์ฯผ่านไม่พอยังเจอถนนอิฐขาวที่เตรียมเทปูนเพื่อทำทางถนนคอนกรีตยาวไกลสุดตา เฮ้อ..เจอพริกไทยอีกรอบ เมื่อกี้เจอพริกป่นเต็มรัก
ก๊อ..ไม่เห็นมีใครบ่น เขาปั่นกันไป เราบ่นในใจคนเดียว แล้วก็ไม่บอกจาได้เตรียมหน้ากากมาด้วย..

เห็นทุกคนขี่ไปเรื่อยๆตลอดทาง มีบ้านเรือนตั้งอยู่รอบๆบริเวณ พวกเขาอยู่กันได้อย่างไรนะ หลังคาเต็มไปด้วยฝุ่น
ชีวิตคนเราก็อย่างนี้..ต้องอดทนอดกลั้น และมองไปข้างหน้าทั้งนั้น


ความคิดเห็นที่ 66

ออกมาจากถนนสีพระอาทิตย์และถนนสีพระจันทร์ออกมาได้ก็โล่งอก..
เจอทางรถไฟต่างก็ทั้งจูงทั้งแบกรถคู่ชีพ ผ่านทางรถไฟออกมาได้ รู้สึกหายใจหายคอได้เต็มอิ่มอีกครั้ง
ขนาดชั่วเวลาสั้นๆยังทนฝุ่นที่ฟุ้งกระจายแทบไม่ได้ ชาวบ้านที่ตั้งบ้านเรือนอยู่แถบนั้นจะขนาดไหน
ที่จริงต้องมีการดูแลคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนแถบนั้นให้ปลอดภัยมากกว่านี้
ควรฉีดน้ำที่พื้นผิวถนนป้องกันฝุ่นละอองให้ เห็นแล้วได้แต่เป็นพัดลมส่ายหน้าไปมา..เฮ้อ


สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 59

โพสต์

.พวกเรารวมกลุ่มรออยู่ตรงพุ่มไม้ เฮียสุวิทย์ ได้อธิบายถึงทางเข้าเรียบหมู่บ้านริมน้ำ
บอกเส้นทางที่จะไปนั้นมีบ้านเรือนไม้ตลอดทางถนนคนเดินสัญจรไปมา พวกเราต้องพยายามขี่แบบนี้.ๆๆๆ
ขี่ขาเดียวเลี้ยงรถไปอย่างงี้ๆๆ อ่ะ ก็ทดลองทำบ้าง ไม่ไหว..ขืนแบบนี้ คงไม่ถึงไหน ท่าทางทางข้างหน้าคงวิบากเกินกว่าจะฝ่าด่านไปได้เป็นแน่

พวกเราได้แต่งงๆกะเส้นทางที่จะไป แล้วทำไมต้องห้าย..พวกเราขี่ท่าลิงขาเดียวอย่างงี้
ก็แปลกใจว่า เส้นทางข้างหน้ามันผากโผนขนาดไหนเชียว..

พอได้เวลา ก็เดินทางเข้าซอยทางเดินแคบๆ แรกๆก็มีบ้านเรือนสองฟากข้างก็ขี่ไป เลี้ยงตัวไปกันทุกๆคน
บางเส้นทางก็หักศอกทางซะ ผ่านมาได้ก็ดีใจ..แต่..พอพ้นบ้านเรือน ก็เจอทางริมน้ำริมคลองไม่มีราวเกาะ
ได้แต่ถอดใจหลายๆรอบ เอาไงล่ะเว๊ย..แค่เดินสองขาสองล้อ ขายังสั่น นี่เฮียสุวิทย์ จาให้เดินหนึ่งขาสองล้อ
มีหวัง..ตูม..กันเป็นแถวๆ..จาบ้าตาย..มองพี่ๆที่ใจกล้าขี่ฝ่าไปแล้ว...ขอหลับตาจูงสี่ขาไปด้วยกันดีก่า




แค่เราเดินไปตามทาง เท้าและล้อไม่หลุดพื้นกฌบุญโขนัก..จาให้ขึ้นขี่นั้น..ไม่สู้เจ้าค่ะ..
เป็นช่วงที่อยากผ่านเส้นทางนี้ให้เร็วที่สุดก็ว่าได้ อ่ะ พอเจอทางที่มีต้นหญ้าสองข้าง ก็อุ่นใจที่ไม่เห็นน้ำคลอง
แต่ถ้าตกลงไปก็คือคลองสองข้างเราดีๆนี่เอง เพียงแต่ใจคนเรา พอเห็นด้านข้างเป็นหญ้า มันดูแล้วอบอุ่นหัวใจ คิดอย่างนี้เลยไม่กลัว

บางช่วงบางตอนเป็นทั้งคูน้ำและเส้นทางหักมุมขณะที่ขี่ตามทางแยกแต่ละซอย เสียวๆหากหักมุมเลี้ยวล้อหน้าก่อนก็ตกลงคูน้ำได้
เล่นเอาเครียด...พอผ่านได้ ชักเริ่มคุ้นเคยกับการหักเส้นทางที่เจอ..

บางช่วงบางตอนเป็นทางเทลาดลง ล้อก็ต้องดิ่งลงมาอย่างเร็ว ท้าพิสูจน์ความสามารถของแต่ละคนจริงๆ..




หายใจคล่องเมื่อออกจากเส้นทางสองฝั่งคลอง แต่ละคนมีสีหน้าผ่อนคลาย
พักรอรวมพลกันที่หน้าซอย เห็นมีวัดจีนอยู่วัดนึง ก็พากันเลี้ยวเข้าไปนมัสการศาลเจ้าเห้งเจียฯ
ภายในศาลจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายให้ประชาชนมากราบไหว้กัน ต่างก็มาสักการะและรวมพลเดินทางไปรวมกลุ่มที่โรงงานทำเรือยาง
พอทุกคนมากันครบก็ออกเดินทางไปตามถนน ผ่านเส้นทางราบเรียบของทางลัด สองฝั่งเป็นสวนเส้นทางเล็กๆ
ต้นไม้เขียวๆร่มรื่นตลอดเส้นทางที่ผ่านไป พอพ้นเส้นทางนี้ก็ออกถนนใหญ่ ทุกคนดูจะมีความสุขเมื่อได้เจอทางราบเรียบ
ต่างปั่นด้วยกำลังขาที่เร็วขึ้น จนเจอที่หมายคือวัดสวนแก้ว..คุณแอมป์ บอกให้ทุกคนเจอกันที่วัดสวนแก้วเที่ยงครึ่ง

ต่างรับประทานอาหารจนอิ่มก็มาเจอกันที่ลานขายของของวัดสวนแก้ว ได้เห็นคณะผู้ถ่ายทำของกันตนามากันหลายๆคน
มีดาราวัยรุ่นรูปหล่อน่ารักใส่เสื้อของชมรมฯ มาเป็นพิธีกรถ่ายทำสารคดีชุดนี้ เขาจะถ่ายทอดทางช่อง5

เรียกความครึกครื้นสนุกสนานกับการไปออกทริปในครั้งนี้มากยิ่งขึ้น เรียกเสียงเฮฮาและมีความเพลิดเพลินเมื่อมีเพื่อนนักปั่นชาวต่างประเทศมาร่วมทริปด้วย
ฝรั่งเขาก็ชอบไหว้พระนะ เขามาแล้วประทับใจ บอก ถนนเมืองไทยมีรถเยอะมาก
อยากให้ทุกๆคนหันมาใช้จักรยานกันเยอะกว่านี้ ..ขนาดฝรั่งเขายังห่วงประเทศไทยเลย..

ดีใจที่สุด ตอนที่เขาจะไปวัดสะแกกัน คุณเต่าฯ บอก พี่สุเกียง ไปทางลัดนะ ..แอบกระซิบดังๆ
ทำไมล่ะคะ..เอาเหอะ..ไปตามถนนใหญ่ เฮียสุวิทย์นำทาง รับรองไม่เหนื่อย
พอได้ยินว่าไปปั่นถนนใหญ่ ทุกคนที่อยู่ในกลุ่มหูผึ่ง ไปด้วย พวกเราก็แยกทางกัน ฮาๆๆมองหาน้องชายตัวแสบไม่เจอ
ออกทริปทีไร พ่อหนุ่มแยกพวกทู๊กที...

ตลอดทางแดดร้อนจัดจ้า มองลอดแว่นดำ โห อะไรจะปานนั้น แสงจ้าจับตาเมื่อมองลอดแว่นดำ
แดดร้อนจริงๆ ถนนหนทางบนถนนราบเรียบและเดินทางสะดวก ยังคิดในใจว่าโชคดีที่หนีมาทางนี้
ไม่รู้เพื่อนๆไปฝ่าด่านอรหันต์ที่ทางชมรมฯให้ฝึกทักษะแบบโหดๆนั้น ผ่านไปด้วยดีหรือป่าว..


สุเกียง
Verified User
โพสต์: 891
ผู้ติดตาม: 0

...***ไปเที่ยวเขื่อนท่าด่าน นครนายก 30.กย.50 แบบโหด มัน ฮา

โพสต์ที่ 60

โพสต์

ปรากฏว่า พวกเราไปถึงก่อนนิดๆ เจอน้องชายนี่งี้ ผมเปียกแนบศีรษะ บอกเหนื่อยและหวาดเสียว
เจ๊..ไปไหนมา มองไปทางไหนก็ไม่เห็น อ่ะ..พวกเรามาทาง..ลัด ตรงดิ่งมาตามถนน
มีไรเหรอ..ผมกะเพื่อน เจอทางหวาดเสียว เส้นทางโหดๆมา ตอนขึ้นสะพาน ขึ้นก็ยาก ลงก็ยาก
ขึ้นเกือบตั้งฉาก ลงก็เกือบตั้งฉาก มัน 75 องศาเลยนะนั้น..เพราะเป็นสะพานให้คนเดินข้ามฟากอย่างเดียว
ฮาๆๆ..โชคดี..จริงวู๊ย..ไม่งั้นคงเป็นภาระกับหนุ่มๆที่มาช่วยแบกจักรยานให้ ป่านนี้ทุกคนคงกลัวมาปั่นใกล้กะเรา
เมื่อไหร่เมื่อนั้นที่เจอสะพานสูงๆ เสร็จเมื่อนั้น..
น้องบอกว่าสูงมากๆ มีแต่แบกจักรยานลงมาลูกเดียว ไม่มีหนทางอื่น แปลว่าทุกๆคนเก่งมากๆ สอบผ่านทุกรายการอิอิ



วัดสะแก มีพระพุทธรูปจำลองของหลายๆวัดมาประดิษฐานที่นี่ ภายในโบสถ์สงบร่มเย็นดีมากๆ

พวกเราปั่นไปชมวัดวัดบางไกร ก็มีพระจำลองของหลายๆวัดมาประดิษฐานที่นี่เช่นกัน ก็ไปกราบนมัสการหลวงพ่อสด
และออกเดินทางไปตัวเมืองจังหวัดนนท์ ปั่นไปเรื่อยๆก็รวมพลเจอเส้นทางรถไฟตลิ่งชันที่เก่าเมื่อตอนขามา
เจอเส้นทางที่ไม่อยากเจอเลยจริงๆ ฝุ่นทั้งนั้น แต่ก็ผ่านมาได้ ขากลับทุกคนปั่นเร็วมากๆ

อยากออกพ้นเส้นทางนี้กัน เจอถนนใหญ่ดีใจกันใหญ่ การเดินทางกลับปั่นกันสุดเหวี่ยงจนถึงสะพานปิ่นเกล้า
ชักไม่ไหว รอบขาไม่เรง ปั่นแล้วจาไหลลงข้างทาง จาไปเบียดรถคันหลัง..
ได้ยินคนข้างหลังร้อง " อย่าถอยมา ๆๆ เอ็ย ๆๆ"
พอดีเฮียฉัตร ซุปเปอร์แมน แม้จะปิดหน้า ก็จำได้ ว่าเป็นเฮียฉัตร มาช่วยผลักดันให้มีแรงปั่นขึ้นสะพาน จนถึงกลางสะพานพระปิ่นเกล้า

ขอบคุณมากๆค่ะ พอขึ้นสูง ยามดิ่งลงจะสนุกมากๆ โลกทั้งใบช่างดูสวยงามเมื่อได้เหาะเหิรดิ่งลงสะพานอย่างนี้ ชอบมากเริ่มชำนาญแล้วค่ะ
ถึงสนามหลวง คุณป๋อง ชวนไปเยี่ยมอาเจ็กสุนทร ก็ไปกัน กับอาเจ็กวิสิทธิ์ เฮียสุวิทย์ ลุงอู๊ด และกลุ่ม เฮียโก๋สีพระยา อาซ้อแมว
อาเจ็กสุนทร ดีใจมากๆที่พวกเราไปเยี่ยมกัน ขอให้หายไวๆและแข็งแรงๆเหมือนเดิม

เจอคุณออย เลยกลับพร้อมกัน ถึงบ้าน 1 ทุ่มพอดี ระยะทาง 69.93 กม.
ตื่นมาสบายดีไม่ปวดเมื่อย ทริปนี้สนุกมากๆค่ะ

อ้อ..ทริปนี้ไม่เหนื่อย แต่กลัวตกน้ำคลอง เกร็งกันสุดๆ
มีบดขยี้ขี้หมาเป็นของแถม คนนำเขาทำฝ่ามือดอกไม้บาน ส่งข้อความที่มือมีลูกระเบิดตรงนี้
เราก็ไม่เข้าใจว่าระเบิดตรงหน้าคือขี้หมากองโต เห็นคนข้างหน้าฝ่าเราก็นึกว่าดินโคลน
ดีที่ไม่เหม็น พวกเราหากองหญ้าไถไปไถมา แลเอาล้อและเท้าจุ่มน้ำจนรู้สึกสะอาดจึงพอ
เห็นคนอื่นกินก๋วยเตี๊ยวเรือกัน ทำให้นึกถึงน้ำในคลอง ไม่กล้ากินไม่กล้าคิ๊ด



ขอขอบคุณพื้นที่ของเว็บhttp://www.thaivi.com/และเพื่อนๆที่ติดตามอ่านค่ะ