ทำไมรู้สึกว่าพักหลังๆนี่ผมลงทุนในหุ้นแล้วผมเครียดล่ะครับ
- เจก
- Verified User
- โพสต์: 331
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมรู้สึกว่าพักหลังๆนี่ผมลงทุนในหุ้นแล้วผมเครียดล่ะครับ
โพสต์ที่ 1
สวัสดีครับ
ขอความเห็นเพื่อนๆพี่ๆหน่อยนะครับ คือช่วงประมาณปีหนึ่งที่ผ่านมานี่ ไม่ทราบผมเป็นไร รู้สึกว่าเครียดกับการลงทุนมาก ทั้งกังวลและกลัวไปหมด ทำให้ซื้อขายบ่อยและรู้สึกว่าตัวเองตกใจง่ายกับการเปลี่ยนแปลงของราคาเหลือเกิน ซึ่งปกติแล้วผมลงทุนก่อนหน้านี้มาหลายปีไม่เป็นอย่างนี้ ตอนนี้ผมก็เลยต้องลดพอร์ตลงก่อนทั้งๆที่ใจจริงก็ไม่อยากลด
ผมก็เลยลองมาคิดดูว่าสงสัยที่เกิดเครียดขึ้นมาเพราะหุ้นที่เราถืออยู่มันไม่ค่อยขยับ มีตัวที่ขยับก็คือพวกบลูชิพที่ถืออยู่ในสัดส่วนที่น้อยกว่า คิดไปคิดมามันก็ไม่เกี่ยว เพราะไอ้ตัวที่เรากลัวกังวล ไม่ใช่ตัวนี้ เพราะเรารู้จักตัวที่เราถือค่อนข้างดี และถ้ามันตกลงมาสัก ๒๐ เปอร์เซนต์ทเราก็ไม่กลัว เพราะเราตั้งใจจะเก็บเพิ่ม เพราะฉะนั้นก็ไม่ใช่เหตุผลที่ผมเครียด
ใครมีความเห็นอะไรก็ช่วยโพสหน่อยนะครับ อยากรู้ว่าจะสามารถจัดการกับความเครียดอย่างไร
ขอบคุณครับ
เจก
ขอความเห็นเพื่อนๆพี่ๆหน่อยนะครับ คือช่วงประมาณปีหนึ่งที่ผ่านมานี่ ไม่ทราบผมเป็นไร รู้สึกว่าเครียดกับการลงทุนมาก ทั้งกังวลและกลัวไปหมด ทำให้ซื้อขายบ่อยและรู้สึกว่าตัวเองตกใจง่ายกับการเปลี่ยนแปลงของราคาเหลือเกิน ซึ่งปกติแล้วผมลงทุนก่อนหน้านี้มาหลายปีไม่เป็นอย่างนี้ ตอนนี้ผมก็เลยต้องลดพอร์ตลงก่อนทั้งๆที่ใจจริงก็ไม่อยากลด
ผมก็เลยลองมาคิดดูว่าสงสัยที่เกิดเครียดขึ้นมาเพราะหุ้นที่เราถืออยู่มันไม่ค่อยขยับ มีตัวที่ขยับก็คือพวกบลูชิพที่ถืออยู่ในสัดส่วนที่น้อยกว่า คิดไปคิดมามันก็ไม่เกี่ยว เพราะไอ้ตัวที่เรากลัวกังวล ไม่ใช่ตัวนี้ เพราะเรารู้จักตัวที่เราถือค่อนข้างดี และถ้ามันตกลงมาสัก ๒๐ เปอร์เซนต์ทเราก็ไม่กลัว เพราะเราตั้งใจจะเก็บเพิ่ม เพราะฉะนั้นก็ไม่ใช่เหตุผลที่ผมเครียด
ใครมีความเห็นอะไรก็ช่วยโพสหน่อยนะครับ อยากรู้ว่าจะสามารถจัดการกับความเครียดอย่างไร
ขอบคุณครับ
เจก
-
- Verified User
- โพสต์: 1301
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมรู้สึกว่าพักหลังๆนี่ผมลงทุนในหุ้นแล้วผมเครียดล่ะครับ
โพสต์ที่ 2
เรื่องธรรมดาครับ คนเรากลัวกำไรหาย มากกว่ากลัวขาดทุน
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมรู้สึกว่าพักหลังๆนี่ผมลงทุนในหุ้นแล้วผมเครียดล่ะครับ
โพสต์ที่ 3
8) อ่านในzurich axioms
เห็นเขาว่าคนเราเครียดหน่อยๆก็ดีนะครับ
เขาว่ามันจะ alertดี
ถ้าสบายไปเหมือนกับว่ามันจะ inert ไม่ได้เรื่องได้ราวเท่าไหร่..
ผมเคยอ่านประวัติพี่ไม๊ค์ ไทสัน ตอนที่กะลังรุ่งๆที่น็อคใครต่อใครราพณาสูร
แกว่าตอนขึ้นเวที ไม่ใช่ไม่กลัวนะครับ
กลัวเจ็บกลัวตายกลัวคู่ต่อสู้เหมือนกัน
ลูกพี่บอกเราซ้อมมาเต็มที่แล้ว อะไรที่ควรทำก็ทำหมดแล้ว
ก็ได้แต่เดินหน้าต่อไปเท่านั้นเอง....
เห็นเขาว่าคนเราเครียดหน่อยๆก็ดีนะครับ
เขาว่ามันจะ alertดี
ถ้าสบายไปเหมือนกับว่ามันจะ inert ไม่ได้เรื่องได้ราวเท่าไหร่..
ผมเคยอ่านประวัติพี่ไม๊ค์ ไทสัน ตอนที่กะลังรุ่งๆที่น็อคใครต่อใครราพณาสูร
แกว่าตอนขึ้นเวที ไม่ใช่ไม่กลัวนะครับ
กลัวเจ็บกลัวตายกลัวคู่ต่อสู้เหมือนกัน
ลูกพี่บอกเราซ้อมมาเต็มที่แล้ว อะไรที่ควรทำก็ทำหมดแล้ว
ก็ได้แต่เดินหน้าต่อไปเท่านั้นเอง....
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมรู้สึกว่าพักหลังๆนี่ผมลงทุนในหุ้นแล้วผมเครียดล่ะครับ
โพสต์ที่ 4
ผมเดาสาเหตุนะ..
1.ใกล้ชิดนายตลาดมากเกินไป จนเราจะกลายเป็นนายตลาดไปซะแล้วโดยไม่รู้ตัว
2.ใกล้ชิดข่าวสารมากไป และต้องเข้าใจว่าข่าวร้อยละ 90 เป็นเรื่องที่จะทำให้คนเราไม่สบายใจ
3.เราพยายามแข่งกับตัวเองหรือแข่งกับคนอื่น ถ้าแข่งกับคนอื่นนี่เหนื่อยครับ
1.ใกล้ชิดนายตลาดมากเกินไป จนเราจะกลายเป็นนายตลาดไปซะแล้วโดยไม่รู้ตัว
2.ใกล้ชิดข่าวสารมากไป และต้องเข้าใจว่าข่าวร้อยละ 90 เป็นเรื่องที่จะทำให้คนเราไม่สบายใจ
3.เราพยายามแข่งกับตัวเองหรือแข่งกับคนอื่น ถ้าแข่งกับคนอื่นนี่เหนื่อยครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- Raphin Phraiwal
- Verified User
- โพสต์: 1342
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมรู้สึกว่าพักหลังๆนี่ผมลงทุนในหุ้นแล้วผมเครียดล่ะครับ
โพสต์ที่ 5
ขอบคุณครับพี่ลูกอิสาน เขียน:ผมเดาสาเหตุนะ..
1.ใกล้ชิดนายตลาดมากเกินไป จนเราจะกลายเป็นนายตลาดไปซะแล้วโดยไม่รู้ตัว
2.ใกล้ชิดข่าวสารมากไป และต้องเข้าใจว่าข่าวร้อยละ 90 เป็นเรื่องที่จะทำให้คนเราไม่สบายใจ
3.เราพยายามแข่งกับตัวเองหรือแข่งกับคนอื่น ถ้าแข่งกับคนอื่นนี่เหนื่อยครับ
ไม่ใช่ว่าตอนนี้ผมเครียดนะครับ แต่จะจำไปใช้ในลักษณะว่า ป้องกันไว้ก่อนครับ
รักในหลวงครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1598
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมรู้สึกว่าพักหลังๆนี่ผมลงทุนในหุ้นแล้วผมเครียดล่ะครับ
โพสต์ที่ 6
จงปล่อยวาง
อย่ามัวติดกับเรื่องในอดีต กังวลกับเรื่องในอนาคต จนลืมว่าปัจจุบันต้องทำอะไร
- Linzhi
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1464
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไมรู้สึกว่าพักหลังๆนี่ผมลงทุนในหุ้นแล้วผมเครียดล่ะครับ
โพสต์ที่ 7
ผมว่าหุ้นระยะหลังหวือหวาขึ้นเยอะครับ ผมเข้าตลาดมาสามสี่ปี
ก็จะมีช่วงนี้แหละ ที่มัน เป็นตลาดหุ้น เป็น Mr. Market จริง ๆ
ก่อนหน้านี้ผมว่าการเก็งกำไรถูกจำกัดอยู่ในหุ้นบางตัว และส่วนที่เหลือเป็นตลาดลงทุน
ปัจจุบัน หุ้นที่เรียกว่า VI ได้ ก็หวือหวา หลายตัว ทำให้ราคาหรือหุ้นในพอร์ตมันแกว่งตัวมาก อย่างที่ไม่เคยเป็น
วิธีแก้ตามพี่ลูกอิสานเลยครับ ผมว่าสารอาหารครบทุกหมวดหมู่ :D
ก็จะมีช่วงนี้แหละ ที่มัน เป็นตลาดหุ้น เป็น Mr. Market จริง ๆ
ก่อนหน้านี้ผมว่าการเก็งกำไรถูกจำกัดอยู่ในหุ้นบางตัว และส่วนที่เหลือเป็นตลาดลงทุน
ปัจจุบัน หุ้นที่เรียกว่า VI ได้ ก็หวือหวา หลายตัว ทำให้ราคาหรือหุ้นในพอร์ตมันแกว่งตัวมาก อย่างที่ไม่เคยเป็น
วิธีแก้ตามพี่ลูกอิสานเลยครับ ผมว่าสารอาหารครบทุกหมวดหมู่ :D
- เจก
- Verified User
- โพสต์: 331
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมรู้สึกว่าพักหลังๆนี่ผมลงทุนในหุ้นแล้วผมเครียดล่ะครับ
โพสต์ที่ 8
ขอบคุณมากคับ
ผมว่าผมคงติดตามข่าวหนักไปหน่อย แล้วพักนี้ผมว่าข่าวในเน็ตก็หาเป็นกลางไม่ค่อยจะได้ บางทีก็ใส่ไข่กัน พอเราอยู่ไกล ไม่ได้เห็นอะไรจริงๆ อ่านแล้วก็เลยยิ่งกังวล สงสัยคงต้องหาเรื่องไปเที่ยวซะหน่อย จะได้ลืมๆเรื่องหลายๆเรื่องไป
เจก
ผมว่าผมคงติดตามข่าวหนักไปหน่อย แล้วพักนี้ผมว่าข่าวในเน็ตก็หาเป็นกลางไม่ค่อยจะได้ บางทีก็ใส่ไข่กัน พอเราอยู่ไกล ไม่ได้เห็นอะไรจริงๆ อ่านแล้วก็เลยยิ่งกังวล สงสัยคงต้องหาเรื่องไปเที่ยวซะหน่อย จะได้ลืมๆเรื่องหลายๆเรื่องไป
เจก
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมรู้สึกว่าพักหลังๆนี่ผมลงทุนในหุ้นแล้วผมเครียดล่ะครับ
โพสต์ที่ 9
ความกลัวในการลงทุนคงมี 2 ประเภท
1. กลัวขาดทุน หรือกลัวกำไรลดลง เป็นประเภทกลัวราคาหุ้นที่เราถืออยู่ลดลง
2. กลัวอดกำไร แบบกลัวราคาหุ้นที่เราจ้องอยู่ แต่ยังไม่ซื้อ มีราคาวิ่งก่อนที่เราจะซื้อ หรือ แบบเห็นหุ้นอื่นวิ่ง แต่หุ้นเราไม่วิ่ง
ประสบการณ์ของผม ตั้งแต่เริ่มลงทุนแนว VI
ความกลัวประเภทแรกแทบไม่พบ เพราะกว่าที่เราจะซื้อหุ้นลงทุนซักบริษัท เราวิเคราะห์จนละเอียดแล้ว มั่นใจแล้ว และที่สำคัญเราซื้อในราคาที่มี Margin of Safety ที่มากพอ
ส่วนความกลัวประเภทที่สอง เป็นความกลัวที่ประสบหลายครั้ง ยิ่งครั้งที่ท่านอดีตนายกทักษิณชนะการเลือกตั้งครั้งแรก ราคาหุ้นสถาบันการเงินวิ่งกันอย่างมากมาย เป็นช่วงเวลาที่ผมถูกทดสอบด้านจิตใจอย่างมาก
แต่ยังนับว่าโชคดี ที่ผมเองมีประสบการณ์ในตลาดมานานพอควร อีกทั้งยังทำงานอยู่ในธนาคาร ทำให้พอจะวิเคราะห์ได้บ้างว่า ราคาขึ้นที่วิ่งไม่ยั่งยืน
สำหรับ VI แล้ว ความกลัวประเภทแรกคงไม่น่ากลัวเท่าไร ส่วนความกลัวประเภทที่สอง ประสบการณ์และสติ จะช่วยเราได้มากครับ
1. กลัวขาดทุน หรือกลัวกำไรลดลง เป็นประเภทกลัวราคาหุ้นที่เราถืออยู่ลดลง
2. กลัวอดกำไร แบบกลัวราคาหุ้นที่เราจ้องอยู่ แต่ยังไม่ซื้อ มีราคาวิ่งก่อนที่เราจะซื้อ หรือ แบบเห็นหุ้นอื่นวิ่ง แต่หุ้นเราไม่วิ่ง
ประสบการณ์ของผม ตั้งแต่เริ่มลงทุนแนว VI
ความกลัวประเภทแรกแทบไม่พบ เพราะกว่าที่เราจะซื้อหุ้นลงทุนซักบริษัท เราวิเคราะห์จนละเอียดแล้ว มั่นใจแล้ว และที่สำคัญเราซื้อในราคาที่มี Margin of Safety ที่มากพอ
ส่วนความกลัวประเภทที่สอง เป็นความกลัวที่ประสบหลายครั้ง ยิ่งครั้งที่ท่านอดีตนายกทักษิณชนะการเลือกตั้งครั้งแรก ราคาหุ้นสถาบันการเงินวิ่งกันอย่างมากมาย เป็นช่วงเวลาที่ผมถูกทดสอบด้านจิตใจอย่างมาก
แต่ยังนับว่าโชคดี ที่ผมเองมีประสบการณ์ในตลาดมานานพอควร อีกทั้งยังทำงานอยู่ในธนาคาร ทำให้พอจะวิเคราะห์ได้บ้างว่า ราคาขึ้นที่วิ่งไม่ยั่งยืน
สำหรับ VI แล้ว ความกลัวประเภทแรกคงไม่น่ากลัวเท่าไร ส่วนความกลัวประเภทที่สอง ประสบการณ์และสติ จะช่วยเราได้มากครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 933
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมรู้สึกว่าพักหลังๆนี่ผมลงทุนในหุ้นแล้วผมเครียดล่ะครับ
โพสต์ที่ 11
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ความกลัวในการลงทุนคงมี 2 ประเภท
1. กลัวขาดทุน หรือกลัวกำไรลดลง เป็นประเภทกลัวราคาหุ้นที่เราถืออยู่ลดลง
2. กลัวอดกำไร แบบกลัวราคาหุ้นที่เราจ้องอยู่ แต่ยังไม่ซื้อ มีราคาวิ่งก่อนที่เราจะซื้อ หรือ แบบเห็นหุ้นอื่นวิ่ง แต่หุ้นเราไม่วิ่ง
-
- Verified User
- โพสต์: 421
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมรู้สึกว่าพักหลังๆนี่ผมลงทุนในหุ้นแล้วผมเครียดล่ะครับ
โพสต์ที่ 12
อาจเป็นเพราะ บริบท (Context) ของการลงทุนมันเปลี่ยนไปด้วยมั้งครับ การลงทุนยุคปัจจุบันมีความเป็น globalization มากขึ้น ทำให้ได้รับผลกระทบจากหลายสิ่งหลายอย่างนอกประเทศได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงินทุนต่างประเทศมีการเคลื่อนไหวที่ไวขึ้น เอาง่ายๆแค่ดาวโจนส์ตกสองสามวันที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกก็ตกกันระนาวแล้ว
แต่สิ่งที่ว่าดูเหมือนจะกระทบเฉพาะอินเด็กซ์หรือแค่ทำให้ราคามันวูบไหวแต่ว่านักลงทุนแนวพืนฐานมักจะไม่ต้องคำนึงถึงตรงนั้นใช่ไหมครับ ซึ่งว่าไปผมว่ามันก็ไม่เชิงเลยทีเดียวนะเพราะระบบเศรษฐกิจของไทยไปผูกอยู่กับเศรษฐกิจของโลกด้วย ที่เรียกว่า Relative economics เช่นเรื่องค่าเงินบาท , หรือเอาแค่ว่าถ้าเศรษฐกิจสหรัฐมีปัญหา หรือเศรษฐกิจโลกมีปัญหา ก็โยงมาถึงปัญหาต่อเมืองไทยได้เหมือนกัน
นี่จึงเป็นเรื่องไม่น่าแปลกที่จะทำให้เรารู้สึกกลัว
แต่สิ่งที่ว่าดูเหมือนจะกระทบเฉพาะอินเด็กซ์หรือแค่ทำให้ราคามันวูบไหวแต่ว่านักลงทุนแนวพืนฐานมักจะไม่ต้องคำนึงถึงตรงนั้นใช่ไหมครับ ซึ่งว่าไปผมว่ามันก็ไม่เชิงเลยทีเดียวนะเพราะระบบเศรษฐกิจของไทยไปผูกอยู่กับเศรษฐกิจของโลกด้วย ที่เรียกว่า Relative economics เช่นเรื่องค่าเงินบาท , หรือเอาแค่ว่าถ้าเศรษฐกิจสหรัฐมีปัญหา หรือเศรษฐกิจโลกมีปัญหา ก็โยงมาถึงปัญหาต่อเมืองไทยได้เหมือนกัน
นี่จึงเป็นเรื่องไม่น่าแปลกที่จะทำให้เรารู้สึกกลัว
รู้สึกดีๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมรู้สึกว่าพักหลังๆนี่ผมลงทุนในหุ้นแล้วผมเครียดล่ะครับ
โพสต์ที่ 13
ส่วนตัวแล้วเหตุผลข้อนี้ของพี่ลูกอิสาน ทำให้ผมเครียดลูกอิสาน เขียน:2.ใกล้ชิดข่าวสารมากไป และต้องเข้าใจว่าข่าวร้อยละ 90 เป็นเรื่องที่จะทำให้คนเราไม่สบายใจ
ก่อนหน้านี้ เรารู้น้อย รู้ช้า ก็เครียด พอรู้มากขึ้น ก็เครียดอีก
ตอนนี้ก็พยายามไม่ค่อยสนใจข้อมูลหรือข่าว รายวัน รายชั่วโมง เท่าไหร่ ธรรมดาคนรู้มาก ยิ่งคิดมาก ฟุ้งซ่านเปล่า ๆ
ที่คุณลูกไม่ท้อว่ามาเรื่อง Globalization พอที่นึงแย่ อีกที่ก็ตามกันมา ผมว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเข้าถึงข่าวสารนี่แหละ พอไปดูจริง ๆ กิจการที่เราลงทุนมันเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังเท้าแค่เพราะตลาดหุ้นหนึ่งตกหรือเปล่า คำตอบคือ ไม่เกี่ยวกันเลย
พูดง่ายนะ แต่ทำยากจริง ๆ

-
- Verified User
- โพสต์: 435
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไมรู้สึกว่าพักหลังๆนี่ผมลงทุนในหุ้นแล้วผมเครียดล่ะครับ
โพสต์ที่ 14
ถ้าต้องการลงทุนแบบไม่ให้เครียดมาก ..โดยหลักการ ....ผมว่า เราต้องจัดแจงframworkของตัวเองให้เป็น frameworkของvalue investorที่แท้จริงให้ได้เสียก่อน คำนี้ผมได้ยินบรรดา VI ในต่างประเทศเอ่ยอ้างถึงบ่อยๆ Monish Pabrai ก็เอ่ยถึงคำนี้ ในการให้สัมภาษณ์แก่ Justin Fuller ตามที่ผมโพสต์ไว้ที่นี่เจก เขียน:...............................................................................
.....................................................................................................
.....................................................................................................
ใครมีความเห็นอะไรก็ช่วยโพสหน่อยนะครับ อยากรู้ว่าจะสามารถจัดการกับความเครียดอย่างไร
.........
....
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=27140
นั่นก็คือ จัดแจงวิธีตั้งสมมุติฐาน หลักการคิด ค่านิยม และวิธีปฏิบัติ ที่เป็นองค์ประกอบรวมทุกอย่างสำหรับใช้ในการมองและลงทุนตามแบบของ value invetsor โดยต้องศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับหลักคิดและปฏิบัติจริงที่บรรดา VI ชั้นแนวหน้าเขาทำกัน อย่างตัว Monish Pabrai เองก็สร้าง frameworkโดยการศึกษาค้นคว้าอย่างลึกซึ่งเกี่ยวกับวิธีการคิดวิธีลงทุนของ Warren Buffett จากนั้นต่อด้วยการลงลึกไปศึกษาหลักคิดและวิธีการลงทุนของ Benjamin Graham และ Charlie Munger ฯลฯ เป็นต้น
อนึ่ง Warren Buffett พูดไว้เสมอว่า A chain of habit is too light to be felt and too heavy to be broken. ถ้าให้ผมแปลน่าจะเป็นดังนี้ ... นิสัยของคนๆใดคนหนึ่งจะสิงสถิตย์อยู่กับตัวคนนั้นกระทั่งเคยชินจนยากที่จะรู้สึกถึงได้ และยากที่จะตัดทิ้งเลิกละนิสัยดังกล่าวออกไปได้ หรือ ถ้าเอาเป็นคำไทยเรา น่าจะเป็นกมลสันดานของแต่ละคนจะเป็นของคนๆนั้นยากจะเปลี่ยน ดังนั้น ถ้าปล่อยหรือเราหลวมตัวเคยชินกับวิธีคิด วิธีทำงาน วิธีมองปัญหา ฯลฯ อย่างใดอย่างหนึ่งจนเคยชิน มันก็จะติดอยู่กับตัวเราเช่นนั้นไปจนชีวิตจะหาไม่ เว้นแต่ว่าเราจะมีสติหยั่งรู้และพยามแก้ไข ก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงนิสัยที่ไม่ดีให้ดีขึ้นได้ (ข้อสังเกต ...คนเรายิ่งอายุมากจะยิ่งแก้นิสัยสันดานที่ตนครองอยู่ยากมาก - ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ตัดยาก)
สรุป: ต้องสร้าง framework ของ value investor ให้ได้ก่อน แล้วจะดีเอง ผมว่านะ (ไม่รู้อ่านแล้ว....วกวนหรือเปล่า :lol: :lol: :lol: )
ความหมายของ framework (จาก http://www.answers.com/framework?cat=biz-fin): A set of assumptions, concepts, values, and practices that constitutes a way of viewing reality.
"The man who doesn't read has no advantage over the man who cannot read." Mark Twain
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมรู้สึกว่าพักหลังๆนี่ผมลงทุนในหุ้นแล้วผมเครียดล่ะครับ
โพสต์ที่ 15
ดิฉันไม่ทราบว่า พี่เจกเครียดเนื่องจากอะไรกันแน่
และคนที่จะสามารถตอบได้ดีที่สุดก็ตือตัวพี่เจกเอง แต่ต้องหลังจากพี่หายเครียดแล้ว สติพี่จะกลับมาแล้วพี่ค่อยๆเรียบเรียงตัวเองดูก็จะทราบว่า ที่ผ่านมาตามลำดับนั้น อะไรเอ่ยที่เริ่มขึ้น 1 2 3 4 5 6 ...จนมาถึงว่ามันทำให้พี่เครียดได้
ทีนี้ มาถึง...ข้อใหญ่แล้ว คือ พี่เจกต้องการทราบว่า
เหมือนหมอ กะคนไข้คุยกัน ต่างคนต่างยังไม่ทราบว่าโรคนี้คืออะไร เกิดจากอะไรกันแน่ แต่พอจะทราบเลาๆว่า อาการทำนองนี้ น่าจะจ่ายยาอะไรเข้าไประงับได้ก่อนบ้าง
ในที่นี้ก็คือ สยบความเครียดให้ลดอำนาจลงเสียก่อน
ดิฉันก็พอจะมีวิธีมานำเสนอ (แต่จะใช้ได้ผลมั้ยอันนี้ก็ไม่แน่กะทุกคนไป)
คือ เวลาที่ดิฉันเครียด หรือรมณ์บ่จอย หรือเป็นทุกข์ วกวน หรือครั่นเนื้อครั่นใจ สับสน เซ็ง เหนื่อยหน่าย วิตก กลัว โกรธเกลียด ....อะไรทั้งหลายแหล่ พวกโรคจิตในเชิงลบ
ไม้เด็ดสำหรับสยบจิตที่ฟุ้งกระจาย สำหรับดิฉันคือ วิธีเอาเกลือจิ้มเกลือ
คือ จิตมันคิดมากนักใช่มั้ย มาเลย มานี่เลยแม่ตัวดี อยากถกนักใช่มะ มา มาถกกัน
....กองปัญหาของแกไว้ก่อนนะ แล้วเรามาคุยกัน
...ฉันเริ่มก่อนนะ
....ที่นี่ที่ไหน
....บ้าน
....บ้านอยู่ที่ไหน
....ในกรุงเทพ
....กรุงเทพอยู่ไหน
....ในประเทศไทย
....ไทยนี่ที่ไหน
....ก็เอเชียไง
....แล้วเอเชียตั้งอยู่ในไหน
....บนแผ่นดิน
....แผ่นดินอยู่ในอะไร
....อยู่ในเขตที่เป็นดินที่มีน้ำล้อมลอบ
....ทั้งน้ำและดินที่ว่าอยู่ในไหน
....ในโลก
....โลกอยู่ไหน
....อยู่ในระบบสุริยะ
....สุริยะอยู่ไหน
....อยู่ตรงกลางของระบบทั้งหมด
....แล้วระบบทั้งหมดอยู่ในอะไร
....จักรวาลมั้ง เห็นอ่านในพวกหนังสือ เขาว่า มีตั้งหลายกาแล็คซี่นะ
....อยู่รวมๆกันเหรอ
....งั้นมั้ง
....เคยไปมะ
....ไม่เคย
....ไปกันมะ
....ไปทำไมอ่า
....ไปดูว่ารูปร่างขอบเขตมันเป็นไง
....อย่าเลย ท่าทางไกลนะ
....อ้าว ไปดิ่ เราจะได้รู้ว่าเขตของมันอยู่แค่ไหนไง แล้วนอกเขตมันเป็นอะไร
....อืม เราจะได้รู้ต่อไปชะมะว่า จักรวาลเราอยู่ในอะไร
....เฮ้ย บางเล่มบอกว่า มันไม่มีขอบเขตนะ มันขยายตัวไปเรื่อยๆอ่า
....เฮ้ย ไม่มีขอบเขตหรอ งั้นก็ไม่มีรูปร่างที่แน่ชัดดิ่
....นั่นดิ่ สงสัยนะ
....อะไรกัน ไร้รุปหรอ แต่มันแย้งกะกฏที่เราพบนี่นา ทุกอย่างมันเป็นรูปหมดนะ เช่น แกอ้วน ฉันผอมไง
....อืมม หรือ จักรวาลน่าจะมีเขตหว่า อืม หรือเราเองที่ไร้รูปหว่า
....เฮ้ย งั้นแกก็ไม่มีจริงดิ่ 8)
....อ่า ถ้าฉันไม่จริง งั้นแกก็ไม่จริงด้วยล่ะว้า มาดิ่มา :lol:
....ง่า
....งึมม
....อ่า..
....ครือ
:oops: :lol: :?
นี่เราอยู่ไหนแล้วเนี่ย ไหนแก ไหนฉัน
ไหนบ้านเรา
นู่นนนน ลิบๆจิ๋วๆนั่นไง
อ้าวเอ้ย ฉันทำปัญหาหายไปแล้ว มองไม่เห็นเลย หาไม่เจอแล้ว จิ๋วมาก จิ๊จจิ๋ว กระจ้อยร่อย กระจุ๋ง จุ๊ดจุ๋ม จิ๋วจิ้ว หาย หายหมด
ตัวฉันเองก็เล็กนิดสสสเดีย
อ่ะโด่ เจ้าเปี๊ยกเอ้ย นึกว่าจะซักท่ะไร

และคนที่จะสามารถตอบได้ดีที่สุดก็ตือตัวพี่เจกเอง แต่ต้องหลังจากพี่หายเครียดแล้ว สติพี่จะกลับมาแล้วพี่ค่อยๆเรียบเรียงตัวเองดูก็จะทราบว่า ที่ผ่านมาตามลำดับนั้น อะไรเอ่ยที่เริ่มขึ้น 1 2 3 4 5 6 ...จนมาถึงว่ามันทำให้พี่เครียดได้
ทีนี้ มาถึง...ข้อใหญ่แล้ว คือ พี่เจกต้องการทราบว่า
ดิฉันขออนุญาติตีความเลยว่า พี่เจกเริ่มตะหงิดๆ พอจะรู้ตัวแล้ว ว่าน่าจะต้องเริ่มจากตรงนี้ก่อน...คือจัดการความเครียดให้สงบลงอยากรู้ว่าจะสามารถจัดการกับความเครียดอย่างไร
เหมือนหมอ กะคนไข้คุยกัน ต่างคนต่างยังไม่ทราบว่าโรคนี้คืออะไร เกิดจากอะไรกันแน่ แต่พอจะทราบเลาๆว่า อาการทำนองนี้ น่าจะจ่ายยาอะไรเข้าไประงับได้ก่อนบ้าง
ในที่นี้ก็คือ สยบความเครียดให้ลดอำนาจลงเสียก่อน
ดิฉันก็พอจะมีวิธีมานำเสนอ (แต่จะใช้ได้ผลมั้ยอันนี้ก็ไม่แน่กะทุกคนไป)
คือ เวลาที่ดิฉันเครียด หรือรมณ์บ่จอย หรือเป็นทุกข์ วกวน หรือครั่นเนื้อครั่นใจ สับสน เซ็ง เหนื่อยหน่าย วิตก กลัว โกรธเกลียด ....อะไรทั้งหลายแหล่ พวกโรคจิตในเชิงลบ
ไม้เด็ดสำหรับสยบจิตที่ฟุ้งกระจาย สำหรับดิฉันคือ วิธีเอาเกลือจิ้มเกลือ
คือ จิตมันคิดมากนักใช่มั้ย มาเลย มานี่เลยแม่ตัวดี อยากถกนักใช่มะ มา มาถกกัน
....กองปัญหาของแกไว้ก่อนนะ แล้วเรามาคุยกัน
...ฉันเริ่มก่อนนะ
....ที่นี่ที่ไหน
....บ้าน
....บ้านอยู่ที่ไหน
....ในกรุงเทพ
....กรุงเทพอยู่ไหน
....ในประเทศไทย
....ไทยนี่ที่ไหน
....ก็เอเชียไง
....แล้วเอเชียตั้งอยู่ในไหน
....บนแผ่นดิน
....แผ่นดินอยู่ในอะไร
....อยู่ในเขตที่เป็นดินที่มีน้ำล้อมลอบ
....ทั้งน้ำและดินที่ว่าอยู่ในไหน
....ในโลก
....โลกอยู่ไหน
....อยู่ในระบบสุริยะ
....สุริยะอยู่ไหน
....อยู่ตรงกลางของระบบทั้งหมด
....แล้วระบบทั้งหมดอยู่ในอะไร
....จักรวาลมั้ง เห็นอ่านในพวกหนังสือ เขาว่า มีตั้งหลายกาแล็คซี่นะ
....อยู่รวมๆกันเหรอ
....งั้นมั้ง
....เคยไปมะ
....ไม่เคย
....ไปกันมะ
....ไปทำไมอ่า
....ไปดูว่ารูปร่างขอบเขตมันเป็นไง
....อย่าเลย ท่าทางไกลนะ
....อ้าว ไปดิ่ เราจะได้รู้ว่าเขตของมันอยู่แค่ไหนไง แล้วนอกเขตมันเป็นอะไร
....อืม เราจะได้รู้ต่อไปชะมะว่า จักรวาลเราอยู่ในอะไร
....เฮ้ย บางเล่มบอกว่า มันไม่มีขอบเขตนะ มันขยายตัวไปเรื่อยๆอ่า
....เฮ้ย ไม่มีขอบเขตหรอ งั้นก็ไม่มีรูปร่างที่แน่ชัดดิ่
....นั่นดิ่ สงสัยนะ
....อะไรกัน ไร้รุปหรอ แต่มันแย้งกะกฏที่เราพบนี่นา ทุกอย่างมันเป็นรูปหมดนะ เช่น แกอ้วน ฉันผอมไง
....อืมม หรือ จักรวาลน่าจะมีเขตหว่า อืม หรือเราเองที่ไร้รูปหว่า
....เฮ้ย งั้นแกก็ไม่มีจริงดิ่ 8)
....อ่า ถ้าฉันไม่จริง งั้นแกก็ไม่จริงด้วยล่ะว้า มาดิ่มา :lol:
....ง่า
....งึมม
....อ่า..
....ครือ

นี่เราอยู่ไหนแล้วเนี่ย ไหนแก ไหนฉัน
ไหนบ้านเรา
นู่นนนน ลิบๆจิ๋วๆนั่นไง
อ้าวเอ้ย ฉันทำปัญหาหายไปแล้ว มองไม่เห็นเลย หาไม่เจอแล้ว จิ๋วมาก จิ๊จจิ๋ว กระจ้อยร่อย กระจุ๋ง จุ๊ดจุ๋ม จิ๋วจิ้ว หาย หายหมด
ตัวฉันเองก็เล็กนิดสสสเดีย
อ่ะโด่ เจ้าเปี๊ยกเอ้ย นึกว่าจะซักท่ะไร

-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมรู้สึกว่าพักหลังๆนี่ผมลงทุนในหุ้นแล้วผมเครียดล่ะครับ
โพสต์ที่ 16
ผมไม่เห็นด้วยกับความคิดของคุณลูกอิสานนะครับ
ในข้อที่ว่า เราใกล้ชิดนายตลาดมากไป และเราใกล้ชิดข่าวสารมากไป
หรือที่คุณ กุหลาบงามหลังฝน บอกให้ปล่อยวาง
เพราะถ้าเราคิดว่าปัญหาเกิดจากความใกล้ชิดข่าวสารมากไป ก็เลยไม่สนใจข่าวสาร อาจทำให้เราผิดพลาดได้
ผมว่าปัญหาไม่ใช่ว่าใกล้ชิดมากไป
แต่ปัญหาก็คือ เราอาจขาดความรู้ในการวิเคราะห์ หรืออาจจะขาดสติ ถูกความกลัว หรือความโลภเข้าครอบงำ
ถ้าเราวิเคราะห์ได้ และมีสติ ถึงแม้เราจะใกล้ชิดนายตลาดมากเท่าไร รู้ข่าวสารทั่วทุกสารทิศ เราก็ลงทุนอย่างสบายใจได้ครับ เพราะเราจะมั่นใจในการกระทำของเรา ไม่ว่า จะถือต่อ ขายทิ้ง หรือซื้อบริษัทใหม่
ในข้อที่ว่า เราใกล้ชิดนายตลาดมากไป และเราใกล้ชิดข่าวสารมากไป
หรือที่คุณ กุหลาบงามหลังฝน บอกให้ปล่อยวาง
เพราะถ้าเราคิดว่าปัญหาเกิดจากความใกล้ชิดข่าวสารมากไป ก็เลยไม่สนใจข่าวสาร อาจทำให้เราผิดพลาดได้
ผมว่าปัญหาไม่ใช่ว่าใกล้ชิดมากไป
แต่ปัญหาก็คือ เราอาจขาดความรู้ในการวิเคราะห์ หรืออาจจะขาดสติ ถูกความกลัว หรือความโลภเข้าครอบงำ
ถ้าเราวิเคราะห์ได้ และมีสติ ถึงแม้เราจะใกล้ชิดนายตลาดมากเท่าไร รู้ข่าวสารทั่วทุกสารทิศ เราก็ลงทุนอย่างสบายใจได้ครับ เพราะเราจะมั่นใจในการกระทำของเรา ไม่ว่า จะถือต่อ ขายทิ้ง หรือซื้อบริษัทใหม่
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 1746
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมรู้สึกว่าพักหลังๆนี่ผมลงทุนในหุ้นแล้วผมเครียดล่ะครับ
โพสต์ที่ 17
คุณลงทุนในหุ้น คำว่าลงทุน ถ้าเปรียบกับการสร้างกิจการ มันหมายความว่า เมื่อคุณซื้อหุ้น คุณเพิ่งก็เริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งอย่างน้อยก็ 1-2 ปี
แต่ในเมื่อคุณตั้งเป้าหมายไว้ในระยะยาว ไว้กับสิ่งที่คุณคิดว่าคุณซื้อด้วยความมั่งคงและยั่งยืนในความสามารถของกิจการ แต่คุณกลับมานั่งปวดหัวหรือเครียดเมื่อเวลาผ่านไปได้แค่วันสองวัน หรือมาเครียดกับการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้น ซึ่งมีสาเหตุมาจากความคาดหวังและอารมณ์ของตลาดที่มีต่อหุ้นตัวนั้นในระยะสั้น ๆ ทั้ง ๆ ที่การเคลื่อนไหวของราคาไม่ได้เกี่ยวกับผลการดำเนินงานหรือกิจการเลย
แล้วมันจะเรียก การลงทุนได้อย่างไรครับ ?
เมื่อไม่นานมานี้ผมคุยกับนักลงทุนหน้าใหม่ท่านหนึ่ง ซื้อ SNC ที่ราคา 12 บาท แล้วมันตกไป 11 บาทกว่า ก็พูดกับผมในเชิงว่า ไม่น่ารีบร้อนเลย/ติดดอย อะไรทำนองนี้ ผมก็บอกไปว่า ถ้าคิดจะลงทุน อย่ามานั่งวิตกกังวลกับการผันผวนระยะสั้น .... ยังดีครับที่คุยกันครั้งล่าสุดเค้ายังไม่ขายทิ้งไป
ลองเอาไปคิดเล่น ๆ ครับ
แต่ในเมื่อคุณตั้งเป้าหมายไว้ในระยะยาว ไว้กับสิ่งที่คุณคิดว่าคุณซื้อด้วยความมั่งคงและยั่งยืนในความสามารถของกิจการ แต่คุณกลับมานั่งปวดหัวหรือเครียดเมื่อเวลาผ่านไปได้แค่วันสองวัน หรือมาเครียดกับการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้น ซึ่งมีสาเหตุมาจากความคาดหวังและอารมณ์ของตลาดที่มีต่อหุ้นตัวนั้นในระยะสั้น ๆ ทั้ง ๆ ที่การเคลื่อนไหวของราคาไม่ได้เกี่ยวกับผลการดำเนินงานหรือกิจการเลย
แล้วมันจะเรียก การลงทุนได้อย่างไรครับ ?
เมื่อไม่นานมานี้ผมคุยกับนักลงทุนหน้าใหม่ท่านหนึ่ง ซื้อ SNC ที่ราคา 12 บาท แล้วมันตกไป 11 บาทกว่า ก็พูดกับผมในเชิงว่า ไม่น่ารีบร้อนเลย/ติดดอย อะไรทำนองนี้ ผมก็บอกไปว่า ถ้าคิดจะลงทุน อย่ามานั่งวิตกกังวลกับการผันผวนระยะสั้น .... ยังดีครับที่คุยกันครั้งล่าสุดเค้ายังไม่ขายทิ้งไป
ลองเอาไปคิดเล่น ๆ ครับ
- Luty97
- Verified User
- โพสต์: 1520
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมรู้สึกว่าพักหลังๆนี่ผมลงทุนในหุ้นแล้วผมเครียดล่ะครับ
โพสต์ที่ 18
ผมว่ามันยากนะ ที่เราจะแบ่งว่าเราควรบริโภคข้อมูลข่าวสาร หรือเลือกรับข้อมูลเพียงใด
ถ้าเราต้องการผลตอบแทนสูงปี้ด (สูงพิเศษ) ผมว่าเราอาจต้องพยายามขยายขอบเขตการบริโภคข้อมูลของเราให้กว้างมากขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาศหรือเพิ่มศักยภาพในการลงทุนให้มากขึ้น------> แต่สิ่งที่เราต้องแลกเปลี่ยนคือความเครียดที่บริโภคข้อมูลที่มากขึ้น
และที่สำคัญ การเฝ้าจอย่อมทำให้เกิดความเครียดได้ เพราะการดูราคาหุ้น ก็คือการบริโภคข้อมูลอย่างหนึ่งนั้นเอง :)
ทางแก้ของผม คือ เล่นเกม กับ เล่นกีฬา ครับ หายสนิท :twisted:
ถ้าเราต้องการผลตอบแทนสูงปี้ด (สูงพิเศษ) ผมว่าเราอาจต้องพยายามขยายขอบเขตการบริโภคข้อมูลของเราให้กว้างมากขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาศหรือเพิ่มศักยภาพในการลงทุนให้มากขึ้น------> แต่สิ่งที่เราต้องแลกเปลี่ยนคือความเครียดที่บริโภคข้อมูลที่มากขึ้น
และที่สำคัญ การเฝ้าจอย่อมทำให้เกิดความเครียดได้ เพราะการดูราคาหุ้น ก็คือการบริโภคข้อมูลอย่างหนึ่งนั้นเอง :)
ทางแก้ของผม คือ เล่นเกม กับ เล่นกีฬา ครับ หายสนิท :twisted:
หลักของความสมดุล
- chaiyos
- Verified User
- โพสต์: 177
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมรู้สึกว่าพักหลังๆนี่ผมลงทุนในหุ้นแล้วผมเครียดล่ะครับ
โพสต์ที่ 19
เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
รู้ว่าทุกสิ่งเป็นสมมุติ
ตื่นในปัจจุบัน
เบิกบานในทุกลมหายใจ
อันข้างล่างนี้นี้ลอกมาจากของเฮียสุมาอี้
...
ท่าน ติช นัท ฮันห์ พระสงฆ์ในพุทธศาสนานิกายเซ็นชาวเวียดนาม เป็นผู้หนึ่งที่มีวิธีการอธิบายธรรมะที่ร่วมสมัยและเข้าใจได้ง่าย มีคนเคยถามท่านว่า การมีสติตื่นรู้อยู่กับปัจจุบันขณะตลอดเวลานี่มันเป็นความรู้สึกแบบไหน ท่านเปรียบเทียบไว้ได้น่าฟังทีเดียวครับ ท่านบอกว่า
สมมติว่า คุณคือมนุษย์อวกาศที่นั่งจรวดไปยังดวงจันทร์ เมื่อไปถึงดวงจันทร์เครื่องยนต์เกิดขัดข้องเกินจะซ่อมแซม ทำให้คุณไม่มีทางกลับโลกได้ ออกซิเจนที่เหลืออยู่ก็ไม่มากพอที่จะรอให้โลกส่งจรวดมารับตัวคุณกลับไป คุณจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงสองวันเท่านั้นก่อนที่ออกซิเจนจะหมด คุณได้แต่มองกลับไปยังโลกสีเขียวใบนั้น และเริ่มเห็นคุณค่าของมันและการมีชีวิตอยู่เป็นครั้งแรก
ด้วยเหตุอะไรก็ไม่ทราบ จรวดของคุณก็เกิดใช้การได้ขึ้นมา คุณรีบออกเดินทางกลับสู่โลกในทันที ตลอดทางที่จรวดกำลังพุ่งไปสู่โลกอีกครั้ง คุณได้แต่จ้องมองโลกสีเขียวใบนั้นด้วยความใจจดใจจ่อที่จะได้กลับไปอีกครั้ง มันช่างเหมือนปาฏิหารย์ ทันทีที่จรวดของคุณลงจอดบนพื้นโลก คุณก็ค่อยๆ ก้าวออกจากยานอย่างช้าๆ และวินาทีแรกที่คุณก้าวออกมาจากยาน คุณก็ได้สัมผัสโลกสีเขียวใบนี้อีกครั้งในแบบที่คุณคิดไม่ถึงว่าคุณจะมีโอกาสได้สัมผัสกับมันอีก
ความรู้สึกก้าวแรกที่คุณออกมาจากยานนี่แหละ คือ ความรู้สึกของคนที่กำลังอยู่กับปัจจุบันขณะ จงรู้สึกอย่างนั้นให้ได้ตลอดเวลาที่เรามีชีวิตอยู่บนโลก
ตอนนี้ขอให้ท่านผู้อ่านลองละสายตาออกจากจอคอมพิวเตอร์สักพัก หยุดคิดถึงเรื่องต่างๆ นานาสักพัก หายใจลึกๆ แล้วกวาดสายตาไปรอบๆ สัก 10 วินาทีเพื่อสังเกตสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัว ตอนนี้รู้แล้วหรือยังว่า ทุกวันนี้คุณแทบจะไม่เคยอยู่กับปัจจุบันเลย
http://1001ii.wordpress.com/2007/05/31/ ... nhat-hanh/
รู้ว่าทุกสิ่งเป็นสมมุติ
ตื่นในปัจจุบัน
เบิกบานในทุกลมหายใจ
อันข้างล่างนี้นี้ลอกมาจากของเฮียสุมาอี้
...
ท่าน ติช นัท ฮันห์ พระสงฆ์ในพุทธศาสนานิกายเซ็นชาวเวียดนาม เป็นผู้หนึ่งที่มีวิธีการอธิบายธรรมะที่ร่วมสมัยและเข้าใจได้ง่าย มีคนเคยถามท่านว่า การมีสติตื่นรู้อยู่กับปัจจุบันขณะตลอดเวลานี่มันเป็นความรู้สึกแบบไหน ท่านเปรียบเทียบไว้ได้น่าฟังทีเดียวครับ ท่านบอกว่า
สมมติว่า คุณคือมนุษย์อวกาศที่นั่งจรวดไปยังดวงจันทร์ เมื่อไปถึงดวงจันทร์เครื่องยนต์เกิดขัดข้องเกินจะซ่อมแซม ทำให้คุณไม่มีทางกลับโลกได้ ออกซิเจนที่เหลืออยู่ก็ไม่มากพอที่จะรอให้โลกส่งจรวดมารับตัวคุณกลับไป คุณจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงสองวันเท่านั้นก่อนที่ออกซิเจนจะหมด คุณได้แต่มองกลับไปยังโลกสีเขียวใบนั้น และเริ่มเห็นคุณค่าของมันและการมีชีวิตอยู่เป็นครั้งแรก
ด้วยเหตุอะไรก็ไม่ทราบ จรวดของคุณก็เกิดใช้การได้ขึ้นมา คุณรีบออกเดินทางกลับสู่โลกในทันที ตลอดทางที่จรวดกำลังพุ่งไปสู่โลกอีกครั้ง คุณได้แต่จ้องมองโลกสีเขียวใบนั้นด้วยความใจจดใจจ่อที่จะได้กลับไปอีกครั้ง มันช่างเหมือนปาฏิหารย์ ทันทีที่จรวดของคุณลงจอดบนพื้นโลก คุณก็ค่อยๆ ก้าวออกจากยานอย่างช้าๆ และวินาทีแรกที่คุณก้าวออกมาจากยาน คุณก็ได้สัมผัสโลกสีเขียวใบนี้อีกครั้งในแบบที่คุณคิดไม่ถึงว่าคุณจะมีโอกาสได้สัมผัสกับมันอีก
ความรู้สึกก้าวแรกที่คุณออกมาจากยานนี่แหละ คือ ความรู้สึกของคนที่กำลังอยู่กับปัจจุบันขณะ จงรู้สึกอย่างนั้นให้ได้ตลอดเวลาที่เรามีชีวิตอยู่บนโลก
ตอนนี้ขอให้ท่านผู้อ่านลองละสายตาออกจากจอคอมพิวเตอร์สักพัก หยุดคิดถึงเรื่องต่างๆ นานาสักพัก หายใจลึกๆ แล้วกวาดสายตาไปรอบๆ สัก 10 วินาทีเพื่อสังเกตสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัว ตอนนี้รู้แล้วหรือยังว่า ทุกวันนี้คุณแทบจะไม่เคยอยู่กับปัจจุบันเลย
http://1001ii.wordpress.com/2007/05/31/ ... nhat-hanh/
^.^
Tick...Tick...Tick...Tick...Tick
Tick...Tick...Tick...Tick...Tick
- เจก
- Verified User
- โพสต์: 331
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมรู้สึกว่าพักหลังๆนี่ผมลงทุนในหุ้นแล้วผมเครียดล่ะครับ
โพสต์ที่ 20
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นอีกครั้งนะครับ
ตัวผมจริงๆแล้วก็ไม่ได้เฝ้าจอหรอกครับ ส่วนมากจะเช็คตอนบ่ายๆคือประมาณ ๑๑ โมงที่เมืองไทยที กับตอนเย็นคือตอนใกล้ปิดตลาดจนปิดตลาด แต่ระยะหลังที่เครียดนี่คือ พอมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น หรือราคาหวือหวาขึ้นมา ผมเนี่ยจะเครียดต้องพยายามหาเหตุผล หาข่าว มาประกอบ ซึ่งก็รู้อยู่แก่ใจว่าบางทีไม่ก็ไม่ได้มีข่าวอะไรเสมอไป ไปๆมาๆสรุปคือเหมือนกับพักนี้มีความสุขกับการลงทุนน้อยลงกว่าแต่ก่อนคับ
เจก
ตัวผมจริงๆแล้วก็ไม่ได้เฝ้าจอหรอกครับ ส่วนมากจะเช็คตอนบ่ายๆคือประมาณ ๑๑ โมงที่เมืองไทยที กับตอนเย็นคือตอนใกล้ปิดตลาดจนปิดตลาด แต่ระยะหลังที่เครียดนี่คือ พอมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น หรือราคาหวือหวาขึ้นมา ผมเนี่ยจะเครียดต้องพยายามหาเหตุผล หาข่าว มาประกอบ ซึ่งก็รู้อยู่แก่ใจว่าบางทีไม่ก็ไม่ได้มีข่าวอะไรเสมอไป ไปๆมาๆสรุปคือเหมือนกับพักนี้มีความสุขกับการลงทุนน้อยลงกว่าแต่ก่อนคับ
เจก
-
- Verified User
- โพสต์: 1150
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมรู้สึกว่าพักหลังๆนี่ผมลงทุนในหุ้นแล้วผมเครียดล่ะครับ
โพสต์ที่ 21
ผมว่าส่วนใหญ่เราเคลียดเพราะเราเปรียบเทียบกับคนอื่นมากกว่า
เช่น เดิมเราตั้งเป้าว่าขอปีละ 12 % ก็พอ แต่พอตลาดหุ้นขึ้นเอา ขึ้นเอา
30-40% จริงๆเราก็ได้ 12% ตามที่เราตั้งไว้แล้ว โดยใช้เวลาแค่ครึ่งปี
แต่เราก็เคลียด เพราะเราก็จะไปคิดว่า ทำไมเราไม่มี SNC ว้า ทำไมเราไม่มี
UEC ไม่มี UMS ตรงกันข้าม ถ้าเราขาดทุน 10% แต่ถ้าตลาดลง 20% เราจะรู้สึกดีกว่า ทั้งๆที่เราขาดทุน เราก็จะไปคิดว่า โชคดีที่เราไม่ซื้อ ITV ไม่ซื้อ FANCY อะไรทำนองนี้ ดังนั้นยังไงก็เคลียด
อีกอย่างคือบางทีตอนเงินน้อยเราได้ผลตอบแทนเป็นเปอร์เซนต์เยอะ
แต่ตอนนี้เราเงินเยอะ ได้ผลตอบแทนคิดเป็นเปอร์เซนต์น้อย เราก็เคลียดอีกว่าทำไมเราฝีมือสู้เขาไม่ได้
สรุปก็คืออย่าคิดเรื่องพวกนี้คิดเฉพาะเราคนเดียว ที่ไม่ควรดูคือผลตอบแทนของคนอื่นว่าได้เท่าไร เพราะมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย
เช่น เดิมเราตั้งเป้าว่าขอปีละ 12 % ก็พอ แต่พอตลาดหุ้นขึ้นเอา ขึ้นเอา
30-40% จริงๆเราก็ได้ 12% ตามที่เราตั้งไว้แล้ว โดยใช้เวลาแค่ครึ่งปี
แต่เราก็เคลียด เพราะเราก็จะไปคิดว่า ทำไมเราไม่มี SNC ว้า ทำไมเราไม่มี
UEC ไม่มี UMS ตรงกันข้าม ถ้าเราขาดทุน 10% แต่ถ้าตลาดลง 20% เราจะรู้สึกดีกว่า ทั้งๆที่เราขาดทุน เราก็จะไปคิดว่า โชคดีที่เราไม่ซื้อ ITV ไม่ซื้อ FANCY อะไรทำนองนี้ ดังนั้นยังไงก็เคลียด
อีกอย่างคือบางทีตอนเงินน้อยเราได้ผลตอบแทนเป็นเปอร์เซนต์เยอะ
แต่ตอนนี้เราเงินเยอะ ได้ผลตอบแทนคิดเป็นเปอร์เซนต์น้อย เราก็เคลียดอีกว่าทำไมเราฝีมือสู้เขาไม่ได้
สรุปก็คืออย่าคิดเรื่องพวกนี้คิดเฉพาะเราคนเดียว ที่ไม่ควรดูคือผลตอบแทนของคนอื่นว่าได้เท่าไร เพราะมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมรู้สึกว่าพักหลังๆนี่ผมลงทุนในหุ้นแล้วผมเครียดล่ะครับ
โพสต์ที่ 23
พี่เจกเคยย้อนสังเกตุมะคะว่าเจก เขียน:ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นอีกครั้งนะครับ
ตัวผมจริงๆแล้วก็ไม่ได้เฝ้าจอหรอกครับ ส่วนมากจะเช็คตอนบ่ายๆคือประมาณ ๑๑ โมงที่เมืองไทยที กับตอนเย็นคือตอนใกล้ปิดตลาดจนปิดตลาด แต่ระยะหลังที่เครียดนี่คือ พอมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น หรือราคาหวือหวาขึ้นมา ผมเนี่ยจะเครียดต้องพยายามหาเหตุผล หาข่าว มาประกอบ ซึ่งก็รู้อยู่แก่ใจว่าบางทีไม่ก็ไม่ได้มีข่าวอะไรเสมอไป ไปๆมาๆสรุปคือเหมือนกับพักนี้มีความสุขกับการลงทุนน้อยลงกว่าแต่ก่อนคับ
เจก
บางช่วงเราตากฝนได้ทั้งวัน ไม่เป็นหวัด
บางช่วงเจอละอองฝนนิดเดียว เป็นหวัดงอมทั้งเดือน
ทำไมบางคนไม่เคยเจอผี แต่กลัวผีขนหัวลุกเลย
ทำไมบางคนเจอผีบ่อยๆ แต่ไม่เห็นกลัวผี
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ ผี แต่อยู่ที่ คน ที่จะกลัวมันมั้ยมากกว่า
ท่านพุทธทาสอธิบายว่า ไม่จำเป็นต้องรอให้เจอผีก่อนแล้วค่อยทำความเข้าใจ ก็มีวิธีพิจารณาให้เข้าใจได้ ดังนี้...
ถ้าสมมติมีผีจริงนะ
ทำไมเวลามีศพต่างๆ คือแบบมีสิ่งมีชีวิตตัวนึงตายลง เราเรียกว่าผี แล้วคือเราจะไปกลัวมัน
แล้วทำไม เวลามีศพวางอยู่ กลางป่าอันวังเวงเวิ้งว้าง แล้วทำไมพอมี นกกา นกแร้ง หมาไน หรือสัตว์ที่ยังมีชีวิตตัวอื่น มารุมกัดกินมัน
.......ทำไมผีไม่หลอกพวกสัตว์อื่นเหล่านั้น.......
.......ทำไมสัตว์อื่นเหล่านั้นไม่เห็นต้องกลัวผี......
.......เพราะสัตว์เหล่านั้น ทราบแล้วว่า ไม่เคยมีผีใดใดของศพนั้นๆ มาทำอะไรมันได้........
......ปัญหาของสัตว์ที่เข้าไปรุม มันก็แค่ว่า ส่วนไหนของศพกินได้ ส่วนไหนกระเดือกเข้าไปไม่ลง เช่นมันแข็ง มันไม่ย่อย มันกินแล้วท้องเสีย......
มันไม่จำเป็นต้องเครียด เมื่อมีศพเกิดขึ้น มันก็แค่เข้าไปรุม และทำไปตามหน้าที่ ทำไปตามกฏของการดำรงอยู่ เมื่อมันยังคงดำรงอยู่
ในกรณีพี่เจก ดิฉันเห็นด้วยกะ พี่ฉัตร ว่าอย่าไปหนีข่าว อย่าไปวิ่งหนีจอหุ้น
เฝ้าอยู่ดูมัน เอาให้หนำใจไปเลยค่ะ แล้วก็ไม่หลบการรับรู้ที่เห็นคนอื่นมีผลตอบแทนชนะเราด้วย
ดูมัน ดูมันเข้าไป เอาใช้ชิน เอาจนเข้าใจ เอาให้ถนัดถนี่
อย่างเฮียเจ๋งหรือไงนะ ที่ว่า ฝึกฝนไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ทำได้เอง
มีดจะคม มันต้องลับ ถ้าพี่กลัวผี แล้วไปวิ่งหนีผี มันก็ไม่หายกลัว
พี่เดินปะทะดาหน้าเข้าหามัน ตราบใดพี่ยังเครียดอยู่ คือยังไม่หายกลัวผี
ถ้าพี่ไม่ทำให้ร่างกายพี่แข็งแรง อย่าว่าแต่ตากฝนเลย เอาแค่ฟ้าร้องคำราม พี่ก็คงจามฮัดเช้ย ๆ แล้ว
พี่ควรจะต้องฟิตที่ตัวพี่ ไม่ใช่ไปห้ามฟ้าฝน ....ชิมะคะ อิอิ
อารมณ์ทั้งหลายเหล่นั้น คือสิ่งที่เราสร้างขึ้นเอง

-
- Verified User
- โพสต์: 2266
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมรู้สึกว่าพักหลังๆนี่ผมลงทุนในหุ้นแล้วผมเครียดล่ะครับ
โพสต์ที่ 24
เป็นเหมือนกันครับ
มีกำไรก็กังวลเพราะหุ้นวิ่งเลยราคาเป้าหมาย หาหุ้นตัวใหม่ยังไม่ได้
กำไรไม่เยอะก็กังวล เพราะเทียบกับคนอื่นเค้า
ไม่มีกำไรยิ่งกังวล แล้วปีนี้จะกินอะไรล่ะเนี่ยะ
ขาดทุน......... ใครไม่กังวลก็ใจหินผา :!:
ทั้งหมดเราปรุงแต่งขึ้นเองทั้งนั้น
จริงๆ มีใช้จ่ายวันละ 200 ก็พอ
ผมว่าคุณเจกอาจประสบความสำเร็จมาเรื่อยๆ เลยตั้งความหวังสูงนั้นเองครับ :D
ลดๆ ลงมาหน่อยจะได้สบายใจ
มีกำไรก็กังวลเพราะหุ้นวิ่งเลยราคาเป้าหมาย หาหุ้นตัวใหม่ยังไม่ได้
กำไรไม่เยอะก็กังวล เพราะเทียบกับคนอื่นเค้า
ไม่มีกำไรยิ่งกังวล แล้วปีนี้จะกินอะไรล่ะเนี่ยะ
ขาดทุน......... ใครไม่กังวลก็ใจหินผา :!:
ทั้งหมดเราปรุงแต่งขึ้นเองทั้งนั้น
จริงๆ มีใช้จ่ายวันละ 200 ก็พอ
ผมว่าคุณเจกอาจประสบความสำเร็จมาเรื่อยๆ เลยตั้งความหวังสูงนั้นเองครับ :D
ลดๆ ลงมาหน่อยจะได้สบายใจ
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
- maeteeb
- Verified User
- โพสต์: 783
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมรู้สึกว่าพักหลังๆนี่ผมลงทุนในหุ้นแล้วผมเครียดล่ะครับ
โพสต์ที่ 27
ขอแจมครับ ผมว่า เครียดเพราะขายหมูนี่ สุดยอดมากครับ แต่แก้ง่ายครับแค่ทำใจ
ผมเป็นบ่อยมากๆ
แต่ถ้าลงทุนแล้วเครียดไป ผมว่าอาจจะเพราะเราคาดหวังมากแล้วราคาหุ้นไม่เป็นไปตามความคาดหวังหรือเปล่าครับ ยิ่งมีข่าวร้ายกระทบนายตลาดของเราบ่อยๆอยู่แล้วอาจยิ่งสับสนไปใหญ่
ผมเห็นด้วยกับพี่ฉัตรชัยครับ สติ สัมปชัญญะ บวกกับปัญญาจะทำให้เราพลาดน้อยที่สุดครับ ถ้าเครียดไป ยังไม่พร้อม ถือเงินสดก่อนน่าจะดีสุดนะครับ
แต่ถ้าลงทุนแล้วเครียดไป ผมว่าอาจจะเพราะเราคาดหวังมากแล้วราคาหุ้นไม่เป็นไปตามความคาดหวังหรือเปล่าครับ ยิ่งมีข่าวร้ายกระทบนายตลาดของเราบ่อยๆอยู่แล้วอาจยิ่งสับสนไปใหญ่
ผมเห็นด้วยกับพี่ฉัตรชัยครับ สติ สัมปชัญญะ บวกกับปัญญาจะทำให้เราพลาดน้อยที่สุดครับ ถ้าเครียดไป ยังไม่พร้อม ถือเงินสดก่อนน่าจะดีสุดนะครับ
การเป็นนักลงทุนไม่ต้องการอะไรเลยคุณต้องการแค่ความคิด ความกล้าและอารมณ์ (ดร. นิเวศน์ 2552)
-
- Verified User
- โพสต์: 1231
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมรู้สึกว่าพักหลังๆนี่ผมลงทุนในหุ้นแล้วผมเครียดล่ะครับ
โพสต์ที่ 28
เจก wrote:
ไตรลักษณ์
อนิจจังใดๆในโลกล้วนอนิจจัง แปรเปลี่ยตลอดเวลา วันนึงขึ้นลงตั้งหลายรอบครับ ปีนึงยิ่งขึ้นลงเป็นร้อยรอบ
ทุกขัง ไม่สามารถคงทนอยู่ได้ ขึ้นไปเดี๋ยวก็ต้องลง ลงไปเดี๋ยวก็ต้องขึ้น เพียงแต่คุณเครียดกับไอ้ เดี๋ยวที่มันนานหน่อย เท่านั้นแหละ
อนัตตา ความไม่มีตัวตน; เราไม่มีตัวตน พอเราตายไปเราก็ไม่เครียดกับตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นก็ไม่มีตัวตน พอคุณขายแล้วไม่หวนกลับมาอีก คุณก็ไม่เครียดกับมัน (จะไปเครียดกับอย่างอื่นแทน)
จะเครียดไปทำไมล่ะ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รู้สึกว่าหุ้นจะตก หรือหุ้นกำลังตก และก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่หุ้นกำลังจะขึ้น หรือหุ้นกำลังขึ้น
อย่างเช่น ตอนนี้อเมริกาเพิ่มกองเรือเข้าไปในอ่าวเปอร์เซีย มันก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
ทำให้ดีที่สุด ไม่ก่อบาปเพิ่ม ก็พอแล้วครับ
มนุษย์ไม่ได้เจ็บปวดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่มักจะปวดร้าวเป็นทุกข์ เพราะเก็บเอามาคิดมาปรุงแต่งต่างหาก
แถมอีกอัน
อย่ากระวนกระวายถึงพรุ่งนี้ ความทุกข์ของวันใดก็เพียงพอแล้วสำหรับวันนั้น
เอานี่ไปเลยครับ แจกฟรีมา สองพันห้าร้อยกว่าปีแล้วใครมีความเห็นอะไรก็ช่วยโพสหน่อยนะครับ อยากรู้ว่าจะสามารถจัดการกับความเครียดอย่างไร
ไตรลักษณ์
อนิจจังใดๆในโลกล้วนอนิจจัง แปรเปลี่ยตลอดเวลา วันนึงขึ้นลงตั้งหลายรอบครับ ปีนึงยิ่งขึ้นลงเป็นร้อยรอบ
ทุกขัง ไม่สามารถคงทนอยู่ได้ ขึ้นไปเดี๋ยวก็ต้องลง ลงไปเดี๋ยวก็ต้องขึ้น เพียงแต่คุณเครียดกับไอ้ เดี๋ยวที่มันนานหน่อย เท่านั้นแหละ
อนัตตา ความไม่มีตัวตน; เราไม่มีตัวตน พอเราตายไปเราก็ไม่เครียดกับตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นก็ไม่มีตัวตน พอคุณขายแล้วไม่หวนกลับมาอีก คุณก็ไม่เครียดกับมัน (จะไปเครียดกับอย่างอื่นแทน)
จะเครียดไปทำไมล่ะ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รู้สึกว่าหุ้นจะตก หรือหุ้นกำลังตก และก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่หุ้นกำลังจะขึ้น หรือหุ้นกำลังขึ้น
อย่างเช่น ตอนนี้อเมริกาเพิ่มกองเรือเข้าไปในอ่าวเปอร์เซีย มันก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
ทำให้ดีที่สุด ไม่ก่อบาปเพิ่ม ก็พอแล้วครับ
มนุษย์ไม่ได้เจ็บปวดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่มักจะปวดร้าวเป็นทุกข์ เพราะเก็บเอามาคิดมาปรุงแต่งต่างหาก
แถมอีกอัน
อย่ากระวนกระวายถึงพรุ่งนี้ ความทุกข์ของวันใดก็เพียงพอแล้วสำหรับวันนั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมรู้สึกว่าพักหลังๆนี่ผมลงทุนในหุ้นแล้วผมเครียดล่ะครับ
โพสต์ที่ 30
ถ้าเครียดมาก ลองทำสิ่งอื่นๆที่เราชอบและเป็นประโยชน์ต่อเรา เช่นออกกำลังกายสิครับ
เพราะผมก็เป็นๆหายๆอ่ะ ก็ลองไปออกกำลังกายดู ก็ช่วยผมได้มากนะครับ
ปล.ฝากคติข้างล่างด้วยนะครับ
โชคดีในการลงทุนนะครับ
เพราะผมก็เป็นๆหายๆอ่ะ ก็ลองไปออกกำลังกายดู ก็ช่วยผมได้มากนะครับ
ปล.ฝากคติข้างล่างด้วยนะครับ
โชคดีในการลงทุนนะครับ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ