เปิดโผเงินเดือนซีอีโอปี49 ใครค่าตัวแพง-ต่ำสุด

[ปรัชญา]

เคยเห็นใครตั้งกระทู้  ถามไว้  เลยตัดมาแ่ป่ะ


จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2221 27 พ.ค. - 30 พ.ค. 2550



เปิดโผเงินเดือนซีอีโอปี49 ใครค่าตัวแพง-ต่ำสุด
   แม้ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.)ในตลาดหลักทรัพย์ 519 แห่งใน

       ปี 2549 จะมีกำไรรวมกัน 469,354 ล้านบาท แต่ก็ขาดทุนถึงร้อยละ 12 หรือ 66,063 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2548 กลายเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผลตอบแทนในรูปของตัวเงินของบรรดาผู้บริหาร ซีอีโอ กรรมการในบอร์ดปรับลดลง โดยเฉพาะโบนัส /บำเหน็จ ที่แปรผันตามผลประกอบการของบริษัท แต่กระนั้นก็ยังมีบจ.อีกหลายแห่งที่สวนทาง ด้วยผลตอบแทนที่จ่ายให้ทีมบริหารเพิ่มหลายสิบเปอร์เซ็นต์

       **มนตรี ศรไพศาล ครองแชมป์ซีอีโอค่าตัวแพงสุด

       จากการสำรวจของ "ฐานเศรษฐกิจ " ผลตอบแทนที่จ่ายให้กรรมการบริหารและผู้บริหาร เฉลี่ยต่อรายต่อคนต่อปีที่เป็นตัวเงิน (ไม่ได้นับรวมการให้ ESOP : โครงการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ์ที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ซึ่งบริษัทชั้นนำปัจจุบัน มักจะให้กับกรรมการ และระดับผู้บริหาร)

       พบว่านายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ( บล.) กิมเอ็งฯ จัดเป็นซีอีโอที่มีค่าตัวเฉลี่ยแพงสุดในรอบปี 49 ไม่ต่ำกว่า 26 ล้านบาท โดยบริษัทได้จ่ายผลตอบแทนในรูปเงินเดือน โบนัส เงินสำรองเลี้ยงชีพรวมให้กับผู้บริหาร 5 ท่าน

ประกอบด้วยนายมนตรี ศรไพศาล ,
นายภูษิต แก้วมงคลศรี ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ,
กรรมการผู้จัดการ 2 ท่านคือนายศุภชัย เอกกุล
และนางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ ,
รองกรรมการผู้จัดการอีก 1 นายโฆษิต บุญเรืองขาว
เป็นเงินรวมกัน 130.31 ล้านบาท

       เทียบกับกำไรของบริษัท 532.80 ล้านบาท ซึ่งเป็นอัตราที่ลดลงถึงร้อยละ 25.48 จากปี 48 ที่ทำกำไรได้ถึง 714.98 ล้านบาท และในปี 48 ผู้บริหาร 5 ท่านของบริษัทก็มีรายรับรวมกันที่ 166.55 ล้านบาท เฉลี่ยแล้วผลตอบแทนเฉลี่ยต่อคนในปี 49 ลดลงร้อยละ 21.76

       ที่มีรายได้ลดหลั่นลงมา ยังเกาะกลุ่ม บริษัทขนาดใหญ่อย่างชินคอร์ป บุญคลี ปลั่งศิริ
....ในปีที่แล้ว มีผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 18.21 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 49.52 เมื่อเทียบค่าตัวเฉลี่ย 12.18 ล้านบาทในปี 2548
(สวนทางบริษัทลูกอย่างเอไอเอส (แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ) ที่ได้รับต่อรายเฉลี่ยที่ 8.44 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 30 จากปี 48 ชินแซทเทลไลท์ ดร.นงลักษณ์ พินัยนิติศาสตร์ (ลาออกเมื่อ 15 ก.ย. 49) ประมาณ 3.24 ล้านบาทต่อปี จากปี 48 ที่ 3.40 ล้านบาท)

       ธนาคารไทยพาณิชย์ บริษัทในเครือสนง.ทรัพย์สินฯ

ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย
และคุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม (เกษียณงานเมื่อ 1 ก.พ. 50)

ที่เฉลี่ยรายได้ต่อคนไม่น้อยกว่า 17.52 ล้านบาท ยังไม่นับรวมผลตอบแทนจากการนั่งในบอร์ดกรรมการและกรรมการบริหาร อาทิ ดร.วิชิต ใน 2 บอร์ดอีก 8.2 ล้านบาท เครือทรัพย์สินฯอีกแห่ง ปูนซิเมนต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กานต์ ตระกูลฮุน เฉลี่ยรายได้ต่อปีอยู่ที่ 13.78 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้าร้อยละ 8.53

       ส่วนด้านปูนซิเมนต์ไทย ผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ ... โดยทำกำไรได้ถึง...... ล้านบาทในปี 49 ก็ส่งผลให้ผลตอบแทนที่ผู้บริหารรับ เพิ่มขึ้นไม่น้อยทีเดียวเฉลี่ยกว่าร้อยละ 30.43 จากที่ได้รับเฉลี่ยต่อคนที่ 8.85 ล้านบาทในปี 48 ซีอีโอใหญ่ "ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ " รับเหนาะๆในปี 49 ไม่น้อยกว่า 11 ล้านบาท เช่นเดียวกับค่ายบางจากที่จ่ายผลตอบแทนให้ผู้บริหารเพิ่มขึ้นเฉลี่ยถึงร้อยละ 23.37 จากที่ได้รับกันประมาณ 4.167 ล้านบาทปี 48 เพิ่มมาเป็น 5.142 ในปี 49

       *เครือเจียรวนนท์ รับกัน 12.5-13.6 ล้านบาท.

       ยักษ์ใหญ่ ทรู คอร์ปอเรชั่น "ศุภชัย เจียรวนนท์ " รับค่าตัวไม่น้อยกว่า 13.64 ล้านบาทต่อปี ยังไม่นับรวมผลตอบแทนในเก้าอี้บอร์ดบริษัทในเครืออีกหลายแห่ง,
7 - อีเลฟเว่น "ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ " และ " ดิเรก ศรีประทักษ์ " ไม่น้อยไปกว่ากัน 12.59 ล้านบาท และ 12.55 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งเป็นอัตราจ่ายที่เพิ่มขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 14-16.5

       **เศรษฐีหุ้นเงินเดือนจิ๊บจ๊อย

       ส่วนเศรษฐีหุ้นอันดับหนึ่งของไทย แลนด์แอนด์เฮ้าส์
"อนันต์ อัศวโภคิน "
แจงผลตอบแทนผู้บริหารรับกันเฉลี่ย 7.536 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจากปี 48 ร้อยละ 8.71 และ

ทองมา วิจิตรพงศ์พันธ
ุ์ บมจ.พฤกษา เศรษฐีหุ้นอันดับ 2 มีรายได้ในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัท
ประมาณ 4.09 ล้านบาท (ไม่รวมรายได้จากการเป็นบอร์ด )
เพิ่มขึ้นจากปี 48 ที่รับอยู่ 3.66 ล้านบาทใกล้เคียงยักษ์ใหญ่อสังหา "แสนสิริ
" เศรษฐา ทวีสิน ,
อิตัลไทย เปรมชัย กรรณสูต ,
เซ็นทรัลพัฒนา กอบชัย จิราธิวัฒน์
ที่เพียวๆรับรายได้เฉลี่ยต่อปี 4 ล้านบาท, 4.18 ล้านบาทและ 4.72 ล้านบาทตามลำดับ

       ภาคสถาบันการเงิน ผลประกอบการที่ไม่สู้ดีจากปี 48 ที่ต่อเนื่องมากก็ส่งผลต่อการจ่ายโบนัสในปี 2549 ทำให้รายได้เฉลี่ยผู้บริหารในกลุ่มธุรกิจนี้ลดลงหรือเพิ่มไม่มากนัก อาทิ ทหารไทย ,กรุงศรีอยุธยา ด้านธนาคารกสิกรไทย ที่เคยได้ผลตอบแทนเฉลี่ยรายละประมาณ 15.88 ล้านบาทต่อปี แต่ในปี 2549 เหลือ 13.11 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 17 ,ธนาคารกรุงเทพ บอสใหญ่ ชาติศิริ โสภณพนิช กับรายได้เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 12.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 48 เพียงร้อยละ 1.74

       ขณะที่ธนาคารกรุงไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ มีผลตอบแทนเฉลี่ยปี 49ไม่น้อยกว่า 10.89 ล้านบาท แต่เมื่อรวมเบี้ยประชุมในฐานะบอร์ดใหญ่-บอร์ดบริหารอีก 2.85 ล้านบาท บวกกับบำเหน็จตามผลงานปี 48 ที่จ่ายในปี 49 จำนวน 2.021 ล้านบาท รวมแล้วไม่น้อยกว่า 15.36 ล้านบาท ถือว่าไม่น้อยหน้ากว่าผลตอบแทนในตำแหน่งเดียวกันของ
ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล กสิกรไทย
และชาติศิริ โสภณพนิช ธนาคารกรุงเทพ
ที่เมื่อรวมเบี้ยประชุมและบำเหน็จในฐานะบอร์ดเช่นกัน

       ธุรกิจหลักทรัพย์ (บล.) สุวิทย์ มาไพศาลสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารรับผลตอบแทนปีที่ผ่านมาไม่น้อยกว่า 12 ล้านบาท เทียบรายจ่ายที่เป็นตัวรายได้ของผู้บริหารเพิ่มขึ้นจากปี 48 ถึงร้อยละ 34.85

       ค่ายบล.ธนชาติฯ ศุภเดช พูนพิพัฒน์ รับรายได้ไปไม่น้อย 4.72 ล้านบาท ใกล้เคียงกับนางบี เล็ง ออย กรรมการบริหาร บล.เคจีไอฯ อยู่ที่ 4.5 ล้านบาทในปี 49

       *กลุ่มท่องเที่ยว-บันเทิงเฉลี่ยไม่เกิน 3 ล้านบาท

       สำหรับกลุ่มธุรกิจสันทนาการอาทิ ทีมผู้บริหารบีอีซีเวิลด์ มีรายได้เฉลี่ยรายละ 2.77 ล้านบาท ,โรงแรมเซ็นทรัลเฉลี่ยรายละ 2.6 ล้านบาท และเมเจอร์กรุ๊ป นายวีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ พร้อมด้วยทีมผู้บริหารต่างมีรายได้เฉลี่ย 2.15 ล้านบาท เพิ่มจากปี 48 เฉลี่ยร้อยละ 13.31 ค่ายเทปใหญ่ของเสี่ยไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม จ่ายทีมบริหาร บุษบา ดาวเรือง เฉลี่ยรายละ 7.14 ล้านบาท ลดลงจากปี 48 ที่เคยจ่ายกันประมาณ 9.16 ล้านบาทต่อราย

       ด้านการบินไทย แม้ผู้บริหารจะมีรายได้ค่อนข้างต่ำเฉลี่ยเพียงรายละ 3.41 ล้านบาท และลดลงจากปี 48 ที่จ่ายเฉลี่ยรายละ 3.81 ล้านบาท แต่ทว่าสวัสดิการถือว่าไม่เป็นรองใคร อาทิ สวัสดิการบัตรโดยสาร เจ้าหน้าที่ผู้บริหารของบริษัท รวมทั้งคู่สมรสและบุตร จะได้รับบัตรโดยสารแบบสำรองที่นั่งได้โดยไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียม ส่วนบิดา-มารดาจะได้รับส่วนลดโดยสารเช่นเดียวกับพนักงานทั่วไป

       ทั้งนี้ผลตอบแทนของบรรดาซีอีโอและบอร์ดกรรมการ เพิ่มหรือลด ปัจจัยหลักมาจากบำเหน็จหรือเงินโบนัสที่ผันแปรตามผลประกอบการ ดังกรณีของ บล.ภัทรฯ จ่ายผลตอบแทนให้ผู้บริหาร 12 ท่านปี 49 จำนวน 143 .21 ล้านบาท เกือบร้อยละ60 หรือ 85.10 ล้านบาท เป็นรายจ่ายด้านโบนัสเป็นหลัก ,กรณีของสุนทร ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ บ้านปู ที่มีค่าตอบแทนปี 2549 ที่ 3,176,000 บาท แต่เป็นบำเหน็จถึง 2.48 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 78 ของรายได้ทั้งหมดหรือ ผู้บริหาร (5 คน ) ที่มีรายได้รวมกัน 43.41 ล้านบาท แต่เป็นสัดส่วนที่มาจากเงินโบนัสถึงร้อยละ 25.72 ,บริษัทสามารถคอร์ปอเรชั่นฯ ที่จ่ายผลตอบแทน 18.83 ล้านบาทให้กับผู้บรริหาร 6 ท่าน ในจำนวนนี้เป็นโบนัสร้อยละ 16.31

       นอกจากนี้ยังมีหลายท่านที่นั่งบริหารในบอร์ดหลายที่ อาทิ
นายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ซึ่งเป็นประธานกรรมการตรวจสอบและประธานกรรมการสรรหา บริษัทการท่าอากาศยานไทยฯ รับเบี้ยประชุมในปี 2549 วงเงิน 1.75 ล้านบาท, กรรมการอิสระการบินไทยช่วง 27 ต.ค.47-30 ก.ย. 49 ด้วยผลตอบแทน 1.70 ล้านบาท ฯลฯ

       ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร
ธนาคารไทยพาณิชย์ ที่เป็นกรรมการการบินไทย
ช่วงปี 17 ธ.ค.47-4 เม.ย.49 รับค่าตอบแทนปี 49 วงเงิน 1.15 ล้านบาท

และกลุ่มชินคอร์ป ฯลฯ, ศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นรองประธานกรรมการการบินไทย (ช่วง 17 ธ.ค.-30 ก.ย.49) รับไป 1.4 ล้านบาท และนายสมใจนึก เองตระกูล ซึ่งเป็นบอร์ดในการบินไทย และธนาคารทหารไทย เป็นต้น

       อนึ่ง ศูนย์พัฒนาการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน หรือ CG Center ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เคยจัดทำข้อมูลสรุปค่าตอบแทนกรรมการและบริหารจดทะเบียน ในปี 48 พบว่า บจ.ส่วนใหญ่จ่ายค่าตอบแทนสอดคล้องกับความสามารถในการทำรายได้และผลกำไรของกิจการ โดยการจ่ายค่าตอบแทนกรรมการเริ่มตั้งแต่ไม่มีค่าตอบแทนจนถึงกำหนดไว้ที่สูง 9.43 ล้านบาทต่อคนต่อปี (มีขนาดรายได้ของธุรกิจอยู่ระหว่าง 1,000-5,000 ล้านบาท), ขณะที่ผลตอบแทนกรรมการบจ.เฉลี่ยปี 48 อยู่ที่ระดับ 5.04 ล้านบาทต่อคนต่อปี

       ในขณะที่ผู้บริหารของบจ.ในทุกอุตสาหกรรม ปี 2548 มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดต่อคนต่อปีที่ 200,000 บาท(มีขนาดรายได้ธุรกิจไม่เกิน 1,000 ล้านบาท) และสูงสุดที่ 27.76 ล้านบาทต่อคนต่อปี (ขนาดรายได้ของธุรกิจอยู่ระหว่าง 1,000 -5,000 ล้านบาท) ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของผู้บริหารทั้งหมดในบจ.เมื่อปี 48 อยู่ระดับ 3.23 ล้านบาทต่อคนต่อปี และเมื่อพิจารณาค่าเฉลี่ยในช่วง 4 ปี ( 2544-2548 ) ที่ผ่านมา พบว่ากรรมการจะได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีสูงกว่าผู้บริหารเล็กน้อย คือค่าตอบแทนต่อปีเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 11 ในขณะที่ค่าตอบแทนผู้บริหารเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 8 ต่อปี

       และหมวดธุรกิจที่จ่ายผลตอบแทนกรรมการต่อคนสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่หมวดธนาคารพาณิชย์ ,พลังงานและสาธารณูปโภค และหมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ในขณะที่ค่าเฉลี่ยตอบแทนของผู้บริหารสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หมวดธนาคาร , พาณิชย์ และเหมืองแร่ ในขณะที่หมวดเงินทุนและหลักทรัพย์ จัดเป็นหมวดที่จ่ายค่าตอบแทนให้กับกรรมการ/ผู้บริหารที่มีช่วงห่างค่อนข้างกว้าง โดยเป็นมาตั้งแต่ปี 2546 ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทในหมวดธุรกิจดังกล่าวมีจำนวนมากขึ้น

[sarayuth007]

ผมหาเช้ากินค่ำ มีแฟนดีๆ สวยๆ ไม่อดตายก็พอใจในชีวิตครับ (ยังหาแฟนไม่ได้เลย)

[miracle]

ขอบคุณครับพี่ปรัชญา
เอ๋ ยังเหลือพวก กรรมการตรวจสอบ ว่าใครได้มากที่สุด
ฮิฮิ

[Khun-Egg*]

มีชื่อนายเก่าผมด้วยครับ คุณศุภเดช พูนพิพัฒน์ แต่ความจริงแก
คงได้มีกว่านี้เยอะเยะ เพราะเป็นกรรมการบริษัทในเครืออีกมาก