การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
Solo
Verified User
โพสต์: 627
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ก.พ. 26, 2004 9:30 pm | 0 คอมเมนต์
XD....12.03.04 PD....29.04.04
ยินดีกับคุณลุงและทุกท่านที่มีครับ
ผมเองก็มีนิดนึงครับ
ควรลงทุนอย่างรอบคอบ ในหุ้นดีและราคาไม่แพง ครับ
ลุงขวด
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2431
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ก.พ. 26, 2004 9:37 pm | 0 คอมเมนต์
ผมยังซ้ำใจ กับ ราคา ที่มันลงมาอยู่เลยครับ..........จากเดิมแต่ก่อนหุ้นไม่ค่อยมีสภาพคล่อง ราคาไม่ค่อยขยับเท่าไหร่ แต่ ตอนนี้ กลายเป็นหุ้นมีสภาพคล่องไปเสียแล้ว..........ราคาก็ไหล ลง ไหล ลง ชุดที่ซื้อเพิ่มทุน 45 บาท เมื่อต้นปี 46นี่เท่ากับประมาณ 9 บาท..........ตอนนี้เหลือ แค่ 7.40 บาท.....ยังดีนะที่ได้ปันผลทุกไตรมาส ก็นับว่า พอ ถือ และ อดทนได้
Solo
Verified User
โพสต์: 627
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ก.พ. 26, 2004 9:47 pm | 0 คอมเมนต์
ลุงขวดครับ
ผมมองว่า หุ้นดีดี หลายตัว บ่อยครั้งนะครับ ราคาไหลลงมาจน นักลงทุนคิดว่า
งบไม่น่าจะดี แต่ การณ์กลับตรงกันข้าม คือ ดี
นี่แสดงว่า มีคนเก็บหุ้นกันมาก รายใหญ่หรือเจ้าของ จึง อาศัย technical มากดดัน นักลงทุน แบบ vi ที่เก็บยาวลูกเดียว นะครับ
ไม่ทราบความคิดของผมจะถูกต้องไหมครับ
ผมเอง ก็ เคยเก็บหุ้นตัวนึง ไว้มาก ตัวนั้น คือ cpi แต่ก็ถูกกดลงมา จน งง ไปเลยครับ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับ หุ้นตัวนี้ ครับ
แต่เวลาก็พิสูจน์ ว่า รายใหญ่ กดราคา ลง เพื่อ ทดสอบความมั่นใจ ของผู้ถือหุ้นครับ
ควรลงทุนอย่างรอบคอบ ในหุ้นดีและราคาไม่แพง ครับ
ayethebing
Verified User
โพสต์: 2125
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ ก.พ. 28, 2004 10:47 am | 0 คอมเมนต์
ตอนแรกก็ร่ำๆ จะขายแล้วครับ แต่ลองไปคิด dividend yield จากต้นทุนของผม อืมมันก็ได้ตั้ง 5% เหมือนกันนิ และผมก็เลยมานั่งคิดว่าปี 2546 น่าจะเป็นปีที่แย่ที่สุดของ fancy ที่โดนไปหลายดอกเลยครับ คือมันไม่น่ามีอะไรแย่กว่านี้แล้วแหละ ทั้งต้นทุนวัตถุดิบสูง ทั้งเปิดโรงงานใหม่ ทั้งค่าเงินบาทแข็ง ทั้งเจอคู่แข่งจากจีน
ในบรรดาปัญหาทั้งหลายมีแค่คู่แข่งจากจีนเท่านั้นที่น่ากลัว อย่างอื่นผมว่าน่าจะผ่านจุดที่แย่ที่สุดมาแล้ว
สรุปก็ถือต่อคร้าบบบบ ตามลุงขวดไว้ใจไม่หงอย อิอิ
ขอนไม้อันนิ่งสงบ
ลุงขวด
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2431
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ ก.พ. 28, 2004 11:48 am | 0 คอมเมนต์
ผมไม่ห่วงเรื่องการแข่งขันกับจีน ที่ เขา แข่งกันตอนนี้ ก็ แข่งกับมาเลเซีย เพราะ เขามีต้นยางเหมือนกับเรา แต่ที่ เขาชักจะได้เปรียบก็เพราะสกุลเงินของเขาผูกติดกับเป็น US $....... ส่วนของเราปล่อย float ตามสกุลเงินหลายประเทศที่เราคิดเอาไว้........ขอบคุณที่ยังถือร่วมกับผม ถึงแม้นราคามันจะถูกลงเรื่อย ๆ ผมก็คิดเหมือนกันว่า กำลังผ่านจุดต่ำสุดไป และ เริ่มต้นชีวิตใหม่กับโรงงานใหม่ เฝ้ารอการเติบโตนั่นเอง......แล้วใครจะถือร่วมกับผมอีกครับ????????
harry
Verified User
โพสต์: 4200
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ ก.พ. 28, 2004 1:26 pm | 0 คอมเมนต์
ถามลุงขวดครับ ว่าจะมีจดหมายมาเชิญประชุมผู้ถือหุ้นป่าวครับ จะได้เตรียมตัวไปประชุมมั่ง แล้วก็ผมคงเก็บหุ้นเพิ่มอีกหน่อย ราคายังต่ำกว่าที่คาดไว้พอดู
Expecto Patronum!!!!!!
ลุงขวด
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2431
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ ก.พ. 28, 2004 9:12 pm | 0 คอมเมนต์
เขากำหนดวันที่ประชุมมาแล้ว คือ วันที่ 31 มีนาคม เวลา 9.30 น.โรงแรม ควีนปาร์ค ที่ติดกับสวนเบญจสิริกิตย์......ถ้าไปรถไฟฟ้าสะดวกมาก ลงที่ สถานีพร้อมพงษ์ (emporium) และเข้าไปในสวนเบญจฯ มีทางด้านข้างไปที่โรงแรมดังกล่าวได้ครับ......ถ้าใครไปคงได้เจอกันครับ.....ถ้าใครถือหุ้นอยู่เขาก็จะมีจดหมายเชิญไปประชุมทุกคนเลยครับ
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0
อาทิตย์ ก.พ. 29, 2004 7:23 pm | 0 คอมเมนต์
ใครไปประชมฝากปัญหาไปถามด้วยนะครับ ปัญหาที่ผมเขียนในกระท้ถามลงขวดนะครับ
edd
Verified User
โพสต์: 325
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ มี.ค. 01, 2004 10:29 am | 0 คอมเมนต์
ผมเข้าใจคำถามพี่แล้ว หลังจากอ่านอยู่ 2 รอบ ถ้าไปได้จะถามให้ครับ อยากไปเจอลุงขวดด้วย
บุคคลทั่วไป
ผู้ติดตาม: 0
อังคาร มี.ค. 09, 2004 11:48 pm | 0 คอมเมนต์
มายกมือถือเป็นเพื่อนลุงขวดอีกคนค่ะ มานั่งคิดๆดู จากผลการดำเนินงานปี 46 อาจดูเหมือนว่ากำไรสุทธิลดลงค่อนข้างเยอะ แต่เมื่อดูรายละเอียดจริงๆแล้วกลับพบว่า กำไรที่ลดลงนั้นมาจาก
1.ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น (มีโอกาสอ่อนตัวได้เช่นกัน)
2.ราคาไม้ยางแพงขึ้น ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น (ในอนาตต ต้นทุนตรงนี้จะต่ำลงเนื่องจากมีการปลูกยางกันมากขึ้น)
3.การลงทุนขยายโรงงานใหม่ (ซึ่งมีโอกาสเติบโตได้ในอนาคต)
ซึ่งทั้งหมดไม่เกี่ยวกับการดำเนินงานจริงๆเท่าไรนัก เนื่องจากยอดขายยังคงเดิมหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อย (0.04%) ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขาย+บริหารนั้นยังคงเดิม เพียง 5% ของยอดขายเท่านั้น และยังคงมีปันผลอย่างสม่ำเสมอเช่นเดิม
.....กรณีแบบนี้พอจะเป็นตัวอย่างของการซื้อเมื่อมีข่าวร้าย โดยไม่เกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัท ในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงได้บ้างมั้ยคะเนี่ย อิ อิ
.....
ayethebing
Verified User
โพสต์: 2125
ผู้ติดตาม: 0
พุธ มี.ค. 10, 2004 11:07 am | 0 คอมเมนต์
ผมเองก็มีส่วนได้ส่วนเสียใน fancy แต่ต้องแย้งคุณ แขก (ไม่มีหนวด) เล็กน้อยครับ
แต่เมื่อดูรายละเอียดจริงๆแล้วกลับพบว่า กำไรที่ลดลงนั้นมาจาก
1.ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น (มีโอกาสอ่อนตัวได้เช่นกัน)
2.ราคาไม้ยางแพงขึ้น ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น (ในอนาตต ต้นทุนตรงนี้จะต่ำลงเนื่องจากมีการปลูกยางกันมากขึ้น)
3.การลงทุนขยายโรงงานใหม่ (ซึ่งมีโอกาสเติบโตได้ในอนาคต)
ซึ่งทั้งหมดไม่เกี่ยวกับการดำเนินงานจริงๆเท่าไรนัก
เฮ้อ ทั้งสามข้อเกี่ยวกับการดำเนินงานทางธุรกิจเต็มๆ ครับ แต่ต้องพูดว่าเป็นปัจจัยที่ทางผู้บริหารควบคุมไม่ได้ ได้แต่ลดความรุนแรงของปัญหาลงเท่านั้นเอง ยกเว้นในข้อที่ 3 ครับ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ต้องให้เวลากับมัน แต่ผ่านมากว่าครึ่งปีแล้วน่าจะอยู่ตัวแล้วนะ
.....กรณีแบบนี้พอจะเป็นตัวอย่างของการซื้อเมื่อมีข่าวร้าย โดยไม่เกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัท ในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงได้บ้างมั้ยคะเนี่ย อิ อิ .....
ข่าวร้ายที่ว่าตั้งมาจากพื้นฐานที่มีเหตุผลนะครับ ส่วนราคาปัจจุบันต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงรึเปล่า ผมไม่สามารถตอบได้ รู้แต่ว่าปันผลยัง 5 % กับราคาทุนของผม (ที่ 9 บาท แน่ะ) ถือต่อไปเรื่อยๆ ครับ
ขอนไม้อันนิ่งสงบ
แขก(ไม่มีหนวด)
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. มี.ค. 11, 2004 11:20 pm | 0 คอมเมนต์
อ้าว เป็นยังง้านเหยอคะ ข้าน้อยต้องขออภัยจริงๆที่เข้าใจผิด คิดว่าไม่เกี่ยวซะนี่ แฮ่ะๆ อ่อนหัดสมกับเป็นมือใหม่เลย แต่ด้วยเหตุผลเดียวกับพี่ ayethebing ค่ะ ที่รอรับปันผลที่ 6(ต้นทุน 8.4) ยังงัยก้อดีกว่าฝากธนาคารค่ะ (คิดเข้าข้างตัวเองสุดๆอีกแล้วครับท่าน)
อืม..ไม่ทราบว่าที่มาแห่งชื่อ ayethebing ของท่านพี่นี่ได้แต่ใดมาคะนี่ .......อยากรู้จัง....อยากรู้อ่ะ.....อยากรู้ ๆๆ
harry
Verified User
โพสต์: 4200
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ มี.ค. 12, 2004 1:24 pm | 0 คอมเมนต์
ผมมีต้นทุน 8.13 ครับ
Expecto Patronum!!!!!!
ayethebing
Verified User
โพสต์: 2125
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ มี.ค. 12, 2004 2:34 pm | 0 คอมเมนต์
คุณน้องแขกสาวน้อย (ไม่มีหนวด) รู้จัก Elizabeth Hurley มั้ยครับที่เป็นนางแบบชาวอังกฤษ เคยเป็นแฟนกับฮิวจ์ แกรนท์นะ ผมชอบมากเลย
เป็นที่มาของชื่อผมครับ เพราะมหาเศรษฐีที่ชื่อ Steve Bing แกทำ Elizabeth Hurley ท้องจนฟ้องร้องกันเป็นเรื่องใหญ่โตเรื่องค่าเลี้ยงดู สุดท้ายนางเอกก็ชนะไปครับ
aye ชื่อเล่นผมครับ
ขอนไม้อันนิ่งสงบ
บุคคลทั่วไป
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ มี.ค. 12, 2004 6:52 pm | 0 คอมเมนต์
เชื่อเลยค่ะ ว่าพี่ aye เป็นแฟนพันธุ์แท้ Elizabeth Hurley รู้ประวัติละเอียดยิบขนาดนี้ ยังงี้ตอนมีข่าว"ท้องไม่รับ" พี่ aye มิช้ำใจแย่เหรอคะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
สรุปว่า ayethebing =Steve Bing + Elizabeth Hurley ถูกต้องมั้ยคะ
...หาเรื่องแซว พี่ aye แก้เครียดที่ fancy หัวทิ่มบ่อค่ะ....
enokwan
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ มี.ค. 12, 2004 6:54 pm | 0 คอมเมนต์
ข้างบนนั่น คนที่แอบแซว พี่ aye คือน้องแขก (ไม่มีหนวด) คนเดิมค่ะ
ayethebing
Verified User
โพสต์: 2125
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ มี.ค. 12, 2004 6:58 pm | 0 คอมเมนต์
อิอิ อย่าไปเครียดกับมันครับ เรื่องหุ้นนะ เอาแบบพี่สิ ไม่ได้ดูหุ้นเอาแต่นั่งทำงานกับ post ไทยแวลูอินเวสเตอร์แก้เครียด (จากการทำงาน) สะบายใจกว่า
เอาไว้รอ 600 หรือ 800 แล้วค่อยกลับมาดูใหม่ น้องขวัญอีโน
ขอนไม้อันนิ่งสงบ
bob
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ มี.ค. 12, 2004 8:42 pm | 0 คอมเมนต์
2.ราคาไม้ยางแพงขึ้น ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น (ในอนาตต ต้นทุนตรงนี้จะต่ำลงเนื่องจากมีการปลูกยางกันมากขึ้น)
ขอแสดงความเห็นหน่อยน่ะครับ
ราคาไม้คงแพงอยู่ต่อไป ตราบใดที่ราคายางยังอยู่ในระดับ 30-40 บาท/กก.
เนื่องจากยางพารามีอายุการปลูกอยู่ที่ 7ปี กรีดยางได้ปีที่ 7-21 (ให้นำยางเต็มที่ ปีที่ 15 หลังจากนั้นเริ่มลดลง) ราคาขายไม้ยางอยู่ที่ 10000-15000 ต่อไร่ที่อายุยาง 15 ปี 20000-30000 ที่อายุ 21ปี ดังนั้นชาวสวนคงไม่ยอมตัดไม้เพื่อขายได้ง่าย
หมายเหตุ ยาง 100 ไร่ให้นำยาง 150 กก ต่อวัน ตอนที่น้ำยางราคาถูก ต่ำหว่า 30 มักตัดยางที่อายุเกิน 15ปี
harry
Verified User
โพสต์: 4200
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ มี.ค. 12, 2004 8:51 pm | 0 คอมเมนต์
งั้นธุรกิจอะไรในตลาดฯที่มีไร่ยางพาราเป็นของตัวเอง กรีดน้ำยางขายให้บริษัทในเครือตัวเอง ขายต้นไม้ให้กับบริษัทในเครือตัวเอง และส่งออกด้วย มีป่าวครับ
Expecto Patronum!!!!!!