ใครในนี้ที่มีครอบคัรวแล้ว เคยมีกิ๊กบ้างครับ

[san]

ไม่ได้กลับมานานแล้วครับ  อยากจะเขียนอะไรอีกหน่อยครับ    อะไรบางอย่างที่ได้ทำไปแล้ว  มีทั้งดี  แล้วก็ไม่ดี

ก่อนนี้ ไม่กี่วัน week ที่แล้ว    หลังจากไปทานข้าวกับน้องเขา   แฟนผมโทรมา   ผมไม่รับโทรเลย    แล้วไปดูหนังกับน้องเขาต่อ    ผมเองไม่ค่อยชอบความคลุมเคลือมากเท่าไร     เมื่อกลับมาบ้านผมเองเป็นคนเดินเข้าหาภรรยา   แล้วบอกเขาเองว่า ผมเองมีปัญหาเรื่องผู้หญิง   แล้วเอาเรื่องที่  post  ในเวบนี้  ให้ภรรยาอ่านอยู่เกือบ  ชั่วโมง    

เมื่อภรรยาอ่านแล้วก็เสียใจ  เขาเองไม่ได้นอน หลายวัน  โทรไปปรึกษาทางบ้าน   แต่ว่าข้อมูลที่เขาเล่าได้   ก็แค่ว่าผมมีใหม่ผมเองบอกญาติของภรรยาว่าเรื่องนี้มันแค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง  เรื่องใต้ภูเขาน้ำแข็งยังมีอีกเยอะมาก   ผมอยากคุยในครั้งเดียวกัน  ต่อหน้ากัน  ผมกับแฟน และผู้ใหญ่   ชีวิตคู่ถึงจะยังไปได้   เพราะว่าผมพยายามคุยกับภรรยามานานแล้ว  แต่คุยแล้วไม่ได้ผลเลย    ท้ายสุด    ผมเสนอตัวขอไปคุยกับภรรยา  ต่อหน้า  ผู้ใหญ่ทางฝ่ายภรรยาที่ ต่างจังหวัด    ผมเลยไปจัดการจองตั๋วเครื่องบิน

เมื่อเราทั้ง 2  คน  กลับไปต่างจังหวัด   ไปคุยกัน ต่อหน้าผู้ใหญ่  ถึงทุกเรื่องที่เกิดขึ้น  โดยเฉพาะในช่วง 3  ปี หลัง  ของการแต่งงาน    ก่อนคุยผมเพลียมาก   เนื่องจากก็นอนไม่หลับเหมือนกัน    ทางผู้ใหญ่ขอคุยเลย  ผมเองบอกขอนอนก่อน   เพื่อให้มีสติดีๆ    คุยกันได้ง่ายขึ้น  พอนอนจนพอ  แล้วมานั่งคุยกัน  ก็ดีขึ้น

สิ่งที่ผมได้  post  ในนี้   มันเป็นความผิดของผมล้วนๆที่ไปยุ่งกับน้องคนหนึ่ง   แต่มันก็เป็นแค่ยอดของภูเขาน้ำแข็งจริงๆ      ส่วนที่อยู่ใต้ภูเขาน้ำแข็งนั้นใหญ่เหลือเกินสำหรับชีวิตคู่    ยอมรับว่าเกินกว่าจะเยียวยากันเองแล้ว

ที่ผ่านมาใน  บอร์ด  ผมยังไม่ได้เล่าเรื่อง  ภรรยามากมาย  เพราะว่ารู้ตัวว่า  หลายคนอาจจะบอกว่า  เราหาเป็นข้ออ้าง  เพื่อมีกิ๊ก     ก็เลยไม่อยากจะพูดอะไรมากมาย    

จริงๆ  วันนี้ พร้อมเล่าแล้ว   เพื่อเป็นอุทาหรณ์  สำหรับคนอื่น

.. หลังจากที่ผมไปหาผู้ใหญ่ทางฝ่ายภรรยา  ให้ท่านเป็นคนให้คำแนะนำ   ผมเล่าว่าผมพยายามเป็นร้อยๆครั้ง   ที่บอกภรรยาถึงปัญหาชีวิตคู่    แล้วก็พยายามบอกมานานถึง  3  ปีหลัง   บอกภรรยาถึงสิ่งที่เรารู้สึกมาตลอด   รวมทั้ง  ขอให้ ภรรยาไปหาผู้ใหญ่ทางฝั่งของเขาเป็นที่ปรึกษาให้เขา   เขาก็เฉย     บอกปัญหา และขอร้อง หลายเรื่อง   จนเราควันขึ้นหู  หน้าตาแดงจัด  บอกขนาดที่ว่า  ต้องให้ภรรยาเจอคนเลวๆก่อนมั๊ง    เขาถึงสำนึกได้ว่าผมมีค่าพอ    แต่เขาไม่เคยสนใจเลย    เขาคิดเพียงแค่ว่า  เขาไม่อยากทำ  เขาไม่ผิด   ไม่กี่วันนี้เลยตกลงเล่าให้ผู้ใหญ่ทางฝ่ายภรรยาฟัง   เล่า  ระบาย  อยู่  1  ชั่วโมง     ผู้ใหญ่เลยถามภรรยาผมว่า  เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น  เป็นจริงหรือไม่   ภรรยาบอกว่าจริง  ผู้ใหญ่ท่านจึงบอกว่าถ้างั้น  ภรรยาผมทำไม่ถูกสำหรับชีวิตคู่

ก่อนคุยกัน     ภรรยาเขายังไม่ยอมรับเรื่องต่างๆว่าเขามีส่วนอยู่มาก  เขามองแต่ว่าเป็นเรื่องของเรา   เป็นความผิดของเราเท่านั้น  จนเมื่อผู้ใหญ่ท่านให้ความคิดเห็นในหลักใหญ่ๆก่อน  แล้วค่อยลงในรายละเอียด     ทางภรรยา  ถึงได้ยอมรับว่ามีส่วนอยู่มาก    เพราะว่าสิ่งที่เขาทำนั้น  ผิดต่อหลักใหญ่ๆ     รวมทั้งรับปากว่าจะแก้ไข     ทำให้ผมเองเห็นอนาคตมากขึ้น     รวมทั้งดีขึ้นด้วย  (  ก่อนจะไปคุยกันงวดนี้  ความรักของผมต่อภรรยาแทบจะไม่เหลือเลย  เพราะว่ามีความขัดแย้งกันมากตลอด 3 ปี หลัง  แต่งงานมา  5  ปี ครับ  มีแค่ความห่วงใยเท่านั้นที่มีเหลืออยู่ )

ผมเองขอเวลาประมาณ  3  เดือน  ในการปรับทุกอย่าง ให้เป็นไปตามปกติ ( ภรรยา เขาบอกว่านาน  ผมบอกว่า ถ้าผมมีค่าพอ    ก็ขอให้อดทน   ถ้าไม่มีค่า  ก็ตัดสินใจเอาเอง  )..เขาเองก็รู้ว่า  ผมเป็นคนยังไง   เขาบอกว่าผมดีที่สุด ปกติผมให้ใครผมให้สุดหัวใจ  ไม่ต้องเรียกร้อง    ผมให้เองตลอด    เหนื่อยแค่ไหนยังให้    แล้วให้มากด้วย    พอเราขออะไรบางอย่างจากภรรยาแล้วไม่ได้    ซึ่งมันไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย     แต่เขาเลือกที่จะไม่ให้  แม้ว่าเขารู้ว่าถ้าเขาให้เราแล้วเรามีความสุข    ถึงวันหนึ่งเราก็เลยเลือกที่จะไปหาคนอื่นที่สามารถทำให้เราสบายใจ    

พี่ที่ทำงานเคยบอกว่า  ระวังจะมีปัญหาเพราะว่าเราให้แฟนมากไป  พอวันนึง ถ้าเราไม่ให้หรือให้ไม่เหมือนเดิม  จะมีปัญหา  ผมเองก็ได้แต่หัวเราะ

หน้าตาผมธรรมดานะ     แต่มีบุคคลิกอะไรบางอย่างมั๊ง    ไม่รู้ครับ    ที่สาวๆ บางคนชอบ  . บางคนที่  สวย  ดูดี   คุยกันแป่บเดียว   ก่อนจากกัน  ก็เอากระดาษเขียนเบอร์โทรแล้วมา  ยื่นเบอร์ให้  บอกว่าว่างๆ โทรมาคุยกันสิ  อยากคุยด้วยหน้าตาผมธรรมดาจริงๆ  แต่.จีบใครมักไม่นาน    มันคล้ายๆว่าเราโตจนเข้าใจเรื่องจิตวิทยาเกี่ยวกับผู้หญิง  จับจุดผู้หญิงถูก  อาจจะเรื่องมีตำแหน่งการงานด้วยมั๊ง.อะไรมันก็เลยไม่ยากเท่าไร      แต่เลิกหมดครับ  หลังแต่งงาน  มีอะไรเข้ามา เลือกที่จะปัดออกไปหมดเลย     จนมาน้องคนนี้แหล่ะครับ  ที่ผมเปิดประตูออกไปอีกครั้ง

ตอนนี้   ปัญหากับภรรยาคลี่คลายแล้ว  
..วันที่คุยกันที่ต่างจังหวัดนั้น    ถึงได้รู้ว่า  ภรรยาผมนั้น  ก็เอาเรื่องเหมือนกัน    พึ่งรู้ว่า ภรรยาเองก็เคยมีกิ๊กทางใจ   ย้อนไป  ก่อนแต่งงาน ไม่นาน เมื่อ  6  ปีก่อน  เขาคิดจะไปเที่ยวที่  ตจว  มีการค้างคืน ที่ เชียงใหม่นะ  กับคนที่เขาปิ๊งใหม่   ( ตอนนั้นผมไม่รู้เรื่อง ผมมารู้เรื่องไม่กี่วันนี้เอง )  ซึ่งคนนั้นก็ปิ๊งเขาด้วย   ไปค้าง  ตจว    2  คืน      ตอนนั้นเราเองก็สงสัยแล้ว  เพราะว่า มันผิดปกติมาก  ทุกคนไปเป็นคู่ เป็นแฟนกัน  ยกเว้นแฟนเรา กับ หนุ่มกิ๊กคนนั้น   ที่ไปเดี่ยวๆ   ปกติ หนุ่มคนนี้  ชอบไปคาราโอเกะกับแฟนผม    ผมเองไม่ได้ว่าอะไร  ไว้ใจแฟน     ให้แฟนสามารถมีกิจกรรมส่วนตัวกับเพื่อนฝูงโดยที่เราไม่ห้ามเลย  สนับสนุนด้วยซ้ำ       แต่พอคิดดูแล้ว เอ..ค้างคืน  ตจว..    แล้วมันจะยังไงหว่า .. งง         ถ้าไปกับเพื่อนล้วนๆ ไม่ว่ากัน  แต่ถ้าไปเป็นคู่แบบนี้  ยอมรับว่า งง  มาก
..ก็เลยขอว่า  ไม่ไปได้ป่าว    เฮ้อภรรยาไม่ยอม  จะไปท่าเดียว  ..ตอนนั้นผมกับภรรยา  คุยกันถึง 2 เดือนว่า   ถ้าภรรยาผมทำอย่างนั้น    ผมไม่มีความสุข     อย่าทำได้มั๊ย     เขาไม่ยอม   ขัดแย้งกันหนักมาก   เขาจะไปให้ได้   เราบอกให้เขาไปปรึกษาผู้ใหญ่ทางฝั่งเขาก่อนดีมั๊ย     เขาก็ไปปรึกษา    ปรากฎว่าทุกคนบอกว่าให้สนใจความรู้สึกของผมคนที่จะมาเป็นคู่ชีวิตเขาเป็นหลัก     เขาเองก็ยังไม่เชื่อ     จะไปให้ได้   ดูแฟนผมสิ    เขาไม่ได้ทำเพื่อความสุขใจของเราเลย    
แปลกอีกอย่างด้วย  การท่องเที่ยว  trip  นั้น  พอแฟนผมไม่ไป  อ่ะ  ยกเลิกเฉยเลย   ทุกคนไม่ไป    อะไรจะขนาดนั้น    แฟนผมสำคัญมากขนาดนั้น  เลยเหรอ   พอไม่กี่วันนี้  ตอนอยู่  ต่างจังหวัด   ถึงได้รู้ว่าคนที่ไปด้วยคนนั้นเป็นกิ๊ก..  คนที่ไปในก๊วนนั้นเป็นเพื่อนกับกิ๊กของแฟนผมล้วนๆ         เอาเรื่องมั๊ย  ผู้หญิง    
ผมบอกได้ว่า  ถ้าเป็นผมไปเป็นคู่แบบนั้นนะ แล้ว ถ้าผมเจตนาไม่ดี   ไม่ยากหรอกครับ  ในการสร้างสภาพสิ่งแวดล้อมให้เอื้อต่อการทำอะไรบางอย่าง  ง่ายนิดเดียว  เมื่อบรรยากาศพาไป   อารมณ์ก็จะโดนพาไปเอง     อะไรก็ง่ายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก  ก่อนแต่งงานมีพี่คนนึงในเวบหมากฮอสเขาเตือนแล้วว่าระวัง  ให้คุยกันให้ดีก่อน   เพราะว่าตอนนนั้นก็ไปปรึกษาพี่เขาในเวบหมากฮอส  แต่เราเลือกที่จะคิดเอง

เฮ้อ  ส่วนที่ต่อมาได้แต่งงานนั้น    เพราะว่า  ผมบอกว่าถ้าไปก็ยกเลิกงานแต่งงาน    แฟนเลยไม่ไปเฮ้อ..   ตอนนั้น  ได้ข้อสรุปว่า  แฟนเราเป็นคนที่เราต้องหักเราถึงได้

ณ.วันนี้   ต้องบอกว่าภรรยาอยากรักษาและมีครอบครัวกับเราต่อ       ผมก็เลยขอเวลาเขาในการปรับตัว     แล้วเขายอมให้เวลาเรา  เพราะว่าถ้าไม่ให้ก็คงเลิก.เท่านั้นเอง     คงเพราะว่าภรรยาเขาเองยอมรับว่าขาดเราได้ยาก ด้วยมั๊ง      อาจจะเพราะว่าภรรยามีความรักต่อเรามาก    รวมทั้งเขาเองก็ยอมรับว่าเขาเองมีความผิดพลาดอยู่พอควร     ก็ขอไปปรับปรุงตัวเอง  ให้ดีขึ้น     ผมเองก็บอกได้ว่า ตัวผมเองก็ทำสิ่งที่ไม่เหมาะ     ก็กำลังแก้ไขอยู่    ก็เลยตกลงกับภรรยาแยกกันอยู่ซักพัก    โทรคุยกันทุกวัน     ได้แต่หวังว่าจะแก้ไขเหตุการณ์ให้ดีขึ้นได้   ตามที่หวังไว้

ถึงวันนี้  น้องเขาก็ยังเป็นคนที่ดีมาก   บางครั้งเข้ามาในบ้านดูแลทุกอย่างในบ้านให้เรา    ทำความสะอาดบ้านให้     จัดการบ้านให้เรียบร้อย    ถอนหญ้าให้ด้วย    ทำอาหารให้ทาน    จิปาถะ    บอกไม่หมด    เขามาดูที่ห้องนอน   ที่นอนเราเขาดูแลจัดการจนเรียบร้อย     อาหารที่น้องเขาทำอร่อยมาก  อย่างที่บอก      บ้านเขารวยกว่าผมอีก .บอกว่าไม่ต้องทำ    ก็ยังจะทำ  
เฮ้อเมียเราก็ยอมแก้ไขแล้ว      แต่ว่าแล้วตรูจะทำยังไงกะน้องคนนี้ว่ะเนี่ย.  น้องเขาเคยบอกว่า  ถ้าท้ายที่สุดแล้ว  เพื่อความสุขของผม   ถ้าผมอยากให้เขาทำอะไร  แม้ว่าต้องจากไปจริงๆ  ให้บอกเขาตรงๆ   เขาจะไปเอง        อ่า  ยังงงๆอยู่ ว่าตรู   จะบอกยังไง    บอกแล้วไปทำร้ายคนที่ดีกับเรามาตั้งแต่ต้น     จนวันนี้  ได้ยังไง   จริงๆมีคนมาชอบน้องเขาเยอะ   เขาเลือกที่จะคบทีละคน  วันลอยกระทงที่ผ่านมา  มีคนไปดักรอน้องเขาหลายคน     น้องเขาขอเกี่ยวแขนผมออกมาจากบ้านไปเที่ยวที่    สะพานซังฮี้     วันนั้นเกือบโดนหนุ่มๆคนอื่นตีหัวแล้ว

น้องคนนี้  ถ้าว่างๆ ตอนอยู่บ้านเขาเอง  เขามักจะพา  อากง  อาม่า  ไปนั่งรถเข็นเล่น ตอนเย็นๆ  รอบหมู่บ้าน  เพื่อให้อากง  อาม่า   ได้รู้สึกสบาย  ได้สูดอากาศดีๆ    เพราะว่าอากง   อาม่า  เดินเองไม่ไหว     เขาปรนนิบัติผู้ใหญ่ดีมาก     ทำกับข้าว  อาหารให้อากง   อาม่า   หรือว่า พ่อแม่ ทานเสมอ     พี่น้องคนอื่นไม่ทำ    พออากงไม่สบาย  อยู่  รพ.  ก็เป็นคนที่ไปเฝ้าดูแลเสมอ..ไม่ได้ขาด     เมื่อทำหน้าที่  ที่ตัวเองควรทำเสร็จแล้ว  เขาก็จะทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำ   เช่นบางครั้งไปสังสรรค์กับเพื่อน  มีดื่มมั่ง  วันก่อน  ผมก็ต้องไปรับเขากลับ     เพราะว่าเขาขับกลับเองไม่ไหว   โทรมาบอกให้ไปขับรถให้ด้วย    เป็นคนที่มี  2  บุคลิกในตัว    คือไม่ใช่คนเรียบร้อย  ดูแบบสาวสมัยใหม่มากกว่า    ชอบแต่งตัวแต่ไม่เปลืองตัง      มีความเป็นตัวเองสูง    ดูแลตัวเองดี    เป็นสาวมั่น     แต่ว่าขณะเดียวกัน   จะดูแลคนที่เกี่ยวข้องรอบตัวได้ดีแบบไม่มีที่ติแบบสาวสมัยก่อนเลย      โดยเฉพาะคนที่อ่อนแอกว่า  จะดูแลเสมอ     แต่ถ้าบอกว่าเป็นแบบรักนวลสงวนตัวรึป่าว  น้องเขาก็ไม่ใช่คนอนุรักษ์นิยมถึงกับแบบนั้น  แต่เป้นแบบฝรั่งมากกว่า  คือ  อยู่ก่อนแต่งได้

วันนี้น้องเขาส่ง  ข้อความมาว่า  

Wouldn  it  be  nice  if  we  could  wake  up  in  the  morning  when  the  day  is  new.

เป็นเพลงจากในหนังเรื่องอะไรจำไม่ได้แล้วครับ  ที่ว่า นางเอกตื่นขึ้นมาวันใหม่   แล้วจะจำเรื่องวันก่อนไม่ได้ แล้วพระเอกตามจีบเสมอทุกวัน

แรกสุดน้องเขาไม่รู้ว่าเรามีภรรยา    แต่หลังจากรู้ว่าเรามีภรรยา     น้องเขารู้ว่าเรามีปัญหากับภรรยา   รวมทั้งรู้ว่าก่อนหน้านี้  ผมเองเคยแยกกันอยู่กับภรรยาจริงๆ  ซักพัก     แต่ไม่นานเท่าไร ก็สงสารภรรยา  ก็เลยไปเอาใจภรรยาตามเดิม  หลังจากรู้ว่าเรามีภรรยา  น้องเขาก็อึ้งไปพักใหญ่..

ภรรยา   ตอนนี้  ก็ยอมแก้ไขแล้ว..ว่าแต่จะบอกน้องเขาได้ป่าวหนอ  ทั้งๆที่น้องเขาบอกว่า  บอกมาเถอะเขารับได้เสมอ     ถ้าตกลงใจแล้ว   บอกด้วย .เขาให้เวลาเราเต็มที่    ไม่ได้เร่งเลย     เขาให้เวลาเสมอส่วนภรรยาก็บอกว่า  เขาให้โอกาสแล้ว  ก็รีบๆ  โทรบอกเขาสิ      แล้วก็ถามว่า  ทำไมเขาไม่ไปซักที      ไอเราก็บอกว่า  คนที่เหนี่ยวรั้งกันอยู่คือเรา     ไม่ใช่เขา   เพราะว่าถ้าเราบอก     เขาก็น่าจะไปทันที   น่าจะ.นะ  ภรรยาเลยเสนอว่า    ขอโทรไปบอกเองแล้วกัน    เราเองก็บอกภรรยาว่าขอเวลาอีกนิด

ไม่เจอจะไม่รู้ว่า  มันยากมากแค่ไหน  ในการตัดสินใจ

มาเล่าเรื่องราวให้ฟังเพื่อให้ครบถ้วนในหลายแง่มุมที่เกิดขึ้นจริง  เพื่อนสนิทที่เคยปรึกษาเขาเห็นเราอาการดีขึ้นแล้ว  เขาก็ดีใจ  หัวเราะเยอะเย้ยเสมอ  

ทำไงดีหว่า..

หรือว่า นี่คือ  โรค ของคนอายุ 40++  ครับ

[ลูกอิสาน]

นี่มั้งครับที่เรียกว่า ละครแห่งชีวิต ครับคุณซัง

ดูหนัง ดูละคร แล้วย้อนดูตัว
ยิ้มเยาะ เล่นหวัว เต้นยั่ว เหมือนฝัน..



เพื่อนๆในเวปนี้ก็หวังให้คุณซัง หาทางออกได้เร็วๆครับ

[por_jai]

คุณ san

ยินดีด้วยครับ อย่างน้อยคุณก็ก้าวเข้าใกล้ทางออกไปอีกก้าวหนึ่ง
ด้วยการยอมเผชิญหน้ากับภรรยาแล้ว

ขอเป็นกำลังใจให้ครับ

8) เห็นด้วยกับพี่โต้ทุกประการ
    มาเป็นกำลังใจให้ด้วยครับ
    เข้มแข็งและมองโลกบวกเข้าไว้ครับ

[nanchan]

ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปครับ

วันนึงเรานั่งเครื่องบินแล้วมองลงมาบนพื้นดิน
เราก็สิ่งต่างๆมากมายเป็นเพียงสิ่งเล็กๆ

วันนึงเมื่อเวลาผ่านไปเรื่องนี้ก็เป็นแค่เรื่องเล็กๆ
การตัดสินใจก็เป็นทางที่จะทำให้เป็นเรื่องเล็ก

[เพื่อน]

ขอมองต่างนะครับ

คุณSan เป็นคนมีศิลปะสูงในการเขียนอธิบายเรื่องราวต่างๆได้ดีมาก...แต่ผมกลับเห็นว่า คุณกำลังใช้มันในทางแปลกๆอยู่นะครับ โดยเฉพาะเรื่องราวเกี่ยวกับภรรยาคุณเอง

ภรรยาคุณไม่มีโอกาสชี้แจงตอบผ่านกระทู้นี้เลย เรื่องส่วนตัวเกี่ยวกับภรรยาของคุณ ผมว่าอย่านำมาวิจารณ์ผ่านสาธารณะเลยครับ ถึงจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ก็ตาม

สงสารเธอบ้างนะครับ แค่นี้เธอก็ชอกช้ำมากแล้ว ค่อยๆพูดคุยกันดีกว่าครับ

ผมขอเป็นกำลังใจให้ภรรยาคุณSan ผ่านกระทู้นี้ หากเธอเข้ามาอ่านอยู่นะครับ

ขอให้โชคดีทั้งคู่ครับ

[ปุย]

ผมอ่านแล้ว เห็นเหมือนพี่เพื่อนนะครับ

จริงๆไม่อยากวิจารณ์เรื่องพี่ san เพราะผมวัยวุฒิ ด้อยกว่า  ปสก.ก็ยังน้อย
แต่อ่านแล้ว ทำไมน้องเค้าดีจัง แทบทุกอย่าง แต่ภรรยาพี่กลับมีข้อติ

ผมเชื่ออย่างว่า nobody perfect ครับ แล้วแต่เราจะเปิดใจมองเค้าด้านไหน
เลวมากกว่าดี หรือ ดีมากกว่าเลว

แต่ผมก็ยังดีใจแทนภรรยาพี่ ที่พี่เลือกเธอ  ทำผิดแล้วกล้ารับผิดและพร้อมที่จะแก้ไข น่าภูมิใจครับ

[pairojtw]

ลองมองไกลแบบ value investor:
    ข้อ 1 คนที่ซื้อ value stocks มานานๆ บางทีอาจนึกเบื่็อ
อยากจะมีชีวิตที่สนุก ตื่นเต้น เร้าใจและเสี่ยงอันตรายบ้างเป็นครั้งคราว
ลองเป็น speculator มั่ง อันนี้เจอได้พอสมควร แต่มักกลับตัวทัน
    ข้อ 2 อย่าปฏิเสธตัวเองว่าที่ชอบสาวน้อยคนนี้ไม่เกี่ยวกับเซ็กส์.....
...เหตุเพราะ...เซ็กส......100%.....อย่าเถียง     ส่วนไอ้เรื่องน้องเค้า
บุคคลิกดี...มาดมั่น...ทันสมัย...อัธยาศัยดี...มีอารมณ์ขัน  เป็นเพียงข้ออ้าง
เพื่อบรรเทาโทษให้กับตัวเองเนื่องรู้ตัวว่าผิดเท่านั้นแหละ  จำได้ไหม  
เมื่อ15 ปีก่อน ใครคนหนึ่งเคยใจละลายเมื่อดันใจกล้าไปจับมือกับภรรยาคน
ปัจจุบันเป็นครั้งแรก........ผมเองเวลาทำงานต้องจับมือคนเป็นประจำ
และส่วนใหญ่ต้องจับมากกว่ามือด้วย.....ไม่เห็นรู้สึกอะไร  แถมเสร็จ
งานแล้วต้องล้างมือทุกครั้งเพื่อความสะอาด  แต่พอสัมผัสภรรยา
ทีไรรู้สึกจั๊กจี๋  เลือดฉีดพร่านทุกที...........
     ข้อ 3 น้องคนใหม่หน้าตาจุ๋มจิ๋มน่าเอ็นดูเปรียบไปก็เหมือนหุ้น ipo
ที่มีประวัติสั้นมาก แต่โหมกระพือกันว่าดีนักดีหนา และพากันคาดหวัง
อย่างหน้ามืดว่าจะปันผลปีละ 15 % คาดหวังอย่างตามัวว่าราคาจะพุ่ง
อย่างน้อย 2 เท่า ใน 2 สัปดาห์ แถมมีโบนัสเป็น HIV อีกต่างหาก
      ข้อ 4 ภรรยาคุณนี่สิ real value stock แถมอยู่ในกลุ่มบลูชิพ
เสียด้วย ต้องยอมรับว่าหุ้นประเภทนี้ราคาเคลื่อนไหวอืดอาดจนน่าเบื่อ
แต่ระยะยาวราคาสูงขึ้นแน่นอน ปันผลก็ 4.5 % ทุกปี ไม่เคยผิดหวัง
หากเผลอขายทิ้งไป จะกลับมาซื้อใหม่ต้องซื้อในราคาแพงขึ้น อาจจะ
ซื้อคืนไม่ได้อีก เพราะเคยขายไปแบบถูกๆ
       ข้อ 5 หากคุณตัดสินใจไปอยู่กับน้องคนใหม่จริงๆ จะเกิดปัญหา
ตามมามากมาย ต้องทะเลาะกับภรรยา+ลูก ต้องลดความมั่งคั่งลงไป
เหลือเพียงครึ่งเดียว  ต้องย้ายที่อยู่ใหม่ที่เล็กลง ต้องทนกับสายตาที่
แสดงความตำหนิของญาติพี่น้องเพื่อนฝูง ต้องปรับตัวเองให้เข้ากับ
ภรรยาคนใหม่ที่เกิดช้ากว่าถึง 10+ปี และอีกประมาณ 10 ปีข้างหน้า
คุณก็แก่ตัวลง(เหมือนผมในขณะนี้) ภรรยาใหม่คุณยังคงสาวพราวเสน่ห์
ไฟแรง อาจจะประพฤติตัวลอกเลียนแบบคุณมั่ง ไปคว้าหนุ่มอายุ 26 หล่อ
+ล่ำ+บึ๊ก เป็นกิ๊ก ครั้นคุณระแคะระคายเข้าก็เกิดความหึงหวงแบบตาแก่
หวงก้าง ตามไปราวีไอ้หนุ่มและถูกไอ้หนุ่มชายชู้จับทุ่มหักคอแบบนัก
มวยปล้ำ คุณก็เป็นอัมพาต นอนอยู่โรงพยาบาลห้องคนไข้อนาถา ไม่มี
ญาติไปเยี่ยมเลย ในที่สุดค่อยๆตรอมใจตายอย่างอ้างว้าง
        ขอโทษครับที่ใช้ถ้อยคำรุนแรงเพ้อเจ้อไปหน่อย แต่ก็หวังเตือน
สติคนที่คิดจะมีเมียมากให้ตระหนักถึงความเดือดร้อนมากมายที่จะเกิดขึ้น
ซึ่งอาจถึงขั้นหายนะ .....เพียงเพื่อแลกกับกระสันสวาทที่เกิดขึ้นเพียง
ครั้งละ 30-60 วิ......สัปดาห์ละ 2 ครั้ง(สำหรับคนรุ่นผม.....แฮ่ะ แฮ่ะ)
        ผมไม่มีประสบการณ์ด้วยตนเองแต่ได้รับฟังข่าวคราวทำนองนี้
จากการที่ต้องสัมผัสผู้คนในหน้าที่การงานมากมาย เลยเอามาสรุปให้ฟัง
หากยังยับยั้งหักห้ามใจตัวเองไม่ได้ก็ลองดู...แล้วจะรู้ว่า นรกในใจ มีจริง
มีสวรรค์ในอกมานานจนเบื่อแล้วนี่
       ขอตัวไปอ้อนเมียคนเดียวของผมก่อนนะ.....นี่ก็ครบรอบสามวันแล้ว
บาย........

[san]

ขอบคุณทุกท่านครับ

เรื่องภรรยา ตอนแรกไม่ตั้งใจจะเล่า  เพราะว่าคิดว่าอย่างที่คุณเพื่อนบอก  มันเหมือนกับภรรยาผมไม่มีโอกาส โต้แย้ง  

ตอนนี้ภรรยาผม  เธอ ดีกับผมมากๆ   ดีจริงๆ

มีแต่เรา 2 คนเท่านั้น ที่จะเลือกว่าเราอนาคตเราจะเดินไปทางใด   กำลังศึกษากันใหม่

ในชีวิตจริง     ไม่มีใครรู้หรอกครับว่าผมเป็นใคร  หรือว่า ภรรยาผมเป็นใคร  เพราะว่าไม่ค่อยปรากฏกายให้ใครเห็น

ที่ยังมา post  ต่อก่อนหน้านี้ทั้งๆที่เรื่องทุกอย่างมีทางออกแล้ว    มีความประสงค์เพียงแค่ว่า

อยากให้ผู้หญิงทั้งหลาย มาอ่าน หรือว่า ผู้ชายที่มีครอบครัวแล้วแนะนำให้ภรรยาได้อ่าน    เพื่อว่าสามารถเอาไปปรับใช้กับชีวิตครอบครัวที่อาจจะเกิดสิ่งต่างๆในอนาคตที่คล้ายๆกันกับกรณีของผม    

เพราะว่าในสิ่งต่างๆที่ผมเล่ามานั้น  มันมีข้อคิดอยู่  หลายข้อ  ที่เกี่ยวกับ ครอบครัว  อารมณ์  ความถูก  ความผิด  การประณีประนอม  การปรับตัวเข้าหากัน  การเลือก  แล้วก็ ดวง.....

สิ่งหลายๆสิ่งเหล่านี้มีค่าเสมอ  โดยเฉพาะบทเรียน

ส่วนจะมีค่าสำหรับใคร  ก้ต้องเรียนรู้กันเอา  แต่ผมเองนั้นมีค่ามาก

ปกติผมไม่ค่อยหักใคร  ประณีประนอมได้  จะประนีประนอม

ทุกวันนี้ ภรรยาผมอ่อนหวานมาก    

ขอบคุณทุกๆท่านนะครับ   และขอขอบคุณท่านเจ้าของเวบและผู้ดูแลเวบจริงๆครับ  ที่มีที่ให้ระบายยามสับสน

คงเป็นครั้งสุดท้ายในหัวข้อนี้จริงๆแล้วหล่ะครับ

ต่อไปคงเจอกันในกระทู้อื่นๆกันดีกว่าครับ

[por_jai]

อย่าลืมยกโทษให้ตัวเองด้วยนะครับ ในท้ายที่สุด

8) ยอดจริงๆ พี่โต้
    อย่าให้ตัวเองถูกทำร้ายด้วยความรู้สึกผิดเกาะกินใจ
    นี่เป็นการมองล่วงหน้าไปอีกสเต็ปเลยนะครับ
    รักใครก็ดี แต่อย่าลืมรักและให้กำลังใจตัวเองบ่อยๆ
    ชีวิตจะได้เดินหน้าต่อไปได้อย่างมีสติเสมอๆครับ

[เพื่อน]

ผมยินดีกับคุณSan ด้วยนะครับ ที่ทุกอย่างกลับมาลงเอยด้วยดีในที่สุด

แต่ผมยังอดห่วงไม่ได้(ทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องของผม... :lol: )อยู่เรื่องหนึ่ง

เท่าที่ผมอ่านมา ผมเห็นว่าคุณกล่าวโทษว่าภรรยาคุณเป็นสาเหตุใหญ่ของเรื่องนี้ และต้องการให้ภรรยาเป็นฝ่ายปรับตัวเข้ามาหาคุณ มากกว่าจะยอมรับว่าเป็นความผิดของตัวเองเสียอีก(ซึ่งเกิดจากภรรยาไม่อ่อนหวานพอ)...ถ้าเข้าใจผิดก็ขออภัยด้วยครับ อยากให้คุณสังเกตุจุดนี้ของตัวเองให้ดีๆด้วยครับ

ผมขอเป็นกำลังใจ หวังว่าการใช้ชีวิตคู่ของคุณจะกลับมาสดชื่นเหมือนเดิม และหวังให้คุณเห็นความดีของภรรยาคุณให้มากๆด้วย เธอพร้อมที่จะเป็นฝ่ายปรับตัวเข้ามาหาคุณด้วยความเต็มใจแล้วและไม่อยากจะเสียคุณไป ก็หว้งว่าคุณคงเห็นใจเธอและรู้สึกอย่างเดียวกับเธอด้วยเหมือนกันนะครับอย่าลืมที่จะปรับตัวเข้าหาเธอด้วย การกลับมาใช้ชีวิตคู่ร่วมกันครั้งนี้คงเป็นไปอย่างถาวรนะครับ

แล้วก็อย่าลืมที่จะให้อภัยตัวเอง (ตามท่านetoว่าไว้ด้วย)

Happy ending....ยินดีด้วยอีกครั้งครับ.... :lol:

[san]

ขอระบายต่อนะครับ  เพราะว่าวันนี้ทำงานไม่ได้เลยครับ
ช่วงนี้ผมแยกกันอยู่กับภรรยา  มีเจอกันบ้างส่วนกับกิ๊กเจอกันบ้างไม่บ่อยเท่าไร    กำลังพยายามห่างอยู่
เมื่อวานผมส่ง  SMS  สิ่งที่อยู่ในใจผมมานานแล้วถามภรรยาผมว่าเมื่อไม่มีความรักจริงกับผมแล้วแต่งงานกับผมทำไม
เพราะว่าผมเป็น  คนเอาใจ ดูแลดี  หรือเพราะว่า  ผมเป็นคนใจดี  หรือว่า เค้าต้องการคนที่เป็นคนรับใช้ดูแลเธอตลอดชีวิต  
หรือว่า เธอรักผมกันแน่
ผมถามเค้าว่า  แต่งงานกับผมทำไมถ้าไม่ได้รักจริง

เค้าถึงได้บอกรายละเอียดว่า  ก่อนแต่งงานเค้ามีกิ๊กจริงๆ  คบกันซักพักได้มั๊ง   ซ้อนกันกับผม   เค้าไม่บอกว่านานเท่าไร  ช่วงนั้นสายโทรของผมจะโดนควบคุมเวลาตลอด    แต่สายของคนคนนั้นคุยกันแล้วคุยกันอีก  ภรรยาบอกเอง   ที่สำคัญคนคนนั้นผมรู้จักด้วย  เฮ้อ.

ทรัพย์สินจากแรงผมเกือบทุกอย่างเป็นชื่อภรรยาผมแทบหมด  ทั้งๆที่ไม่ได้จดทะเบียน  บ้านผมอยู่    คอนโดในเมืองก็ซื้อเพื่อเธอแทนที่จะเช่า    รถยนต์ชื่อเธอแต่ว่าผมใช้เอาไว้ดูแลเธอเสมอ

ตลอด  9  ปีแรก  ผมดูแลเค้าอย่างดีเท่าที่เราทำได้    ทั้งเรื่องการเงิน  ความเป็นอยู่  กำลังใจในการทำงาน   จน 3 ปี หลังนี่ผมไม่ไหวแล้ว    ผมไม่ไหวในเรื่องการใส่ใจ    จนมีคำถามในใจเราว่า  หรือว่าภรรยาเรามีคนอื่นแทรกอยู่ในใจ    เมื่อวานคิดอีกก็เลย  ส่ง  sms  ไปถาม

ถามเค้าต่อว่าช่วงที่คบกันนี่  เราดูแลขาดตกอะไรไปเหรอ    เราเองก็ไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ดี    เรื่องนอกใจไม่มี    เพราะว่าเข้าใจ  ถึงกับบอกภรรยาว่า  ถ้าสงสัยว่าเรามีคนไหน  ให้ถาม แล้วเราจะเรียกให้มาถามได้เลยต่อหน้า    เรื่องผู้หญิงผลักออกตลอด    ไม่เคยรับเข้ามาจนกระทั่งน้องกิ๊กคนที่ว่าเมื่อไม่นานมานี้

ถามว่าเมื่อเราทำตัวดีมาตลอดแล้วทำไมมาทำกับเราอย่างนั้น  ภรรยาได้แต่เงียบแล้วบอกว่ามันผ่านไปแล้ว

หญิงหนอหญิง


แล้วเมื่อผมมีกิ๊กแล้วมายื้อผมทำไม  พอมีไม่รักษา   พอขาดหน่อยจะเอาคืน

วันนี้ผมเลยทำงานไม่ได้เลย  เฮ้อ.

ฟังเพลงดีกว่าครับ  ชื่อเพลง อดีต    ครับ

ไม่มีความหมายจากใจอีกแล้วแคล้วกัน
คิดว่าหลับฝันแล้วต้องจากกันเมื่อตื่น
ในฝันเราอาจเปรมปรีด์   สุขสันต์ยินดียิ้มชื่น
ไม่เคยต้องฝืนใจของตน

อดีตที่หวานให้มันผ่านลอยลับไป
จวบถึงวันใหม่  ไม่มีเสียใจหมองหม่น  
วันนี้วันสิ้นสุดกัน  ถ้านับจากวันเริ่มต้น
แค่เพียงผ่านพ้นไม่กี่ราตรี

วันแรกฉันยังจำได้  จำได้ไม่ลืม
ยังปลาบยังปลื้มจวบจนถึงวันนี้
และเป็นวันนี้เช่นกัน  คืนความผูกพันธ์ใยดี
ความรักที่มีเธอกลับเป็นผู้ทำลาย

ไม่มีเหตุผลต่างคนต่างไปหรือเธอ
เสียดายที่เผลอหลวมตัวรักเธอโดยง่าย
ฉากรักคงปิดม่านลง  คงคิดว่าเราแพ้พ่าย
แต่เธอ

[คนเรือ VI]

Wouldn  it  be  nice  if  we  could  wake  up  in  the  morning  when  the  day  is  new.

เพลง wouldnt it be nice ของ the beachboys ครับ

[lekjong]

ขอเป็นกำลังใจครับ  
ผมเพิ่งเข้ามาอ่าน เห็นเป็นประสบการณ์ของคนคนหนึ่งที่น่าศึกษา
ไม่โดนคงไม่รู้  ไม่เข้าใจ จนคิดว่าไร้สาระ
สำหรับผม แม้ว่ายังไม่เคยมีกิ๊ก  แต่อายุเริ่มใกล้ ๆ กับพี่ San แล้ว คงต้องศึกษาบ้าง
ข้อมูลที่พี่ให้มาทีหลังผมว่า ทำให้ผมเห็นใจพี่ San มากกว่าภรรยาพี่
ทั้งที่รู้ว่าภรรยาพี่เคยมีกิ๊ก ทั้งยังดูแลเอาใจมาตลอด เสมอมา
พี่มาฟิวส์ขาดเมื่อเริ่มรู้ถึงการมีกิ๊กบ้าง  ผมว่าตอนนี้ภรรยาพี่เริ่มรู้ค่าถึงสิ่งที่เขามี  แต่ไม่เห็นค่า  (บางครั้งผมก้อเป็น ผมว่าเป็นธรรมดา แต่ถ้าเราคิดว่า เราอยู่ได้ไม่นานนัก วันนี้ วันพรุ่งก้ออาจทำให้ตระหนักถึงสิ่งที่มีค่านั้นมากขึ้น)
ปกติ ผมไม่ค่อยอยากออกความเห็น เพราะในเว็ปนี้มีคนเก่ง ๆ กันเยอะ  แถมยังออกอาการแอบจิต คือ ชอบมาอ่านคนอื่นมากกว่า  แต่กระทู้นี้ทำให้ผมนึกถึงเพื่อนผม  ที่เป็นคนค่อนข้างมีกิ๊กเยอะ และชอบมาปรึกษาผม  ทั้ง ๆ ที่ผมไม่เคยมีประสบการณ์ เลยด่ามันไปเยอะ  ทำนองว่า รู้ว่าไม่ดีแล้วมีทำไม...ว่ะ
มันบอกไม่โดนกับตัว ไม่รู้หรอก    คำ ๆ นี้ ทำให้ผมอ่านกระทู้นี้แล้วอดเข้ามาไม่ได้  (คิดถึงเพื่อนครับ แต่มีปัญหากัน และติดต่อไม่ได้ อ้าวไหงเข้าเรื่องของตัวเอง)

สุดท้าย ยืนยันว่าขอเป็นกำลังใจ  ให้สู้กับปัญหา  แม้หนักหนา  ผ่านไป มันจะเป็นเรื่องตลก  ไว้เล่าสืบขานต่อไป

(เพื่อน ๆ พี่ ๆ ลองสังเกตดูสิครับ  ตอนเผชิญปัญหาเรากลุ้มแทบตาย  ผ่านไปได้มาคุยกันใหม่  เป็นเรื่องตลกขบขันไปได้)

[ด๊กดิงด่าง]

คุณค่าของคนไม่อยู่ที่คุณเป็นใคร  แต่อยู่ที่คุณทำเพื่อใคร

จงมั่นใจในการตัดสินใจของตัวเอง

เลือกครับเลือก  ทำอย่างที่เลือก ....      ถูกต้องนะคร้าบบบบบ

[อาฮุย]

พี่ san ครับ
ผมว่าหากจะแก้ปัญหา ควรเปลี่ยนมุมมองบ้างนะครับ
หามุมที่เป็นความดีบ้าง ก็จะได้คิดดีครับ
ผมชอบคำพูดของ พี่ Eto มากเลยครับ
"ความผิดของภรรยา ไม่ได้ทำให้คุณผิดน้อยลง"
ลึกซึ้งจริง ๆ ครับ
น่าจะนำไปใช้ขบคิดในการแก้ปัญหาได้ดีทีเดียว ในทุก ๆ เรื่อง
ขอเป็นกำลังใจให้ พี่ san ต่อไปนะครับ

[por_jai]

8) ผมว่าความเห็นในการแก้ปัญหาของพี่ อาฮุย
    เชื่อยากครับ
    ไม่ใช่ความเห็นไม่ถูกต้องนะครับ

    แต่ผมอ่านในฤทธิ์มีดสั้น
    อาฮุยเจอลิ่มเซียนยี้เข้าไป
    ไปไม่เป็นเหมือนกันครับ
    ดังนั้นความเห็นของอาฮุยเชื่อได้ยากครับ

    แฮ่..ผมมาแซวเล่นนะครับ
    ไม่อยากให้พี่ san เครียดมาก

    ที่พี่โต้พูด ทำให้ฉุกคิดได้ดีครับ
    ออกแนวเซ็นนะ
    คือให้ฉุกคิดแล้วสว่างเลย

    แต่ปัญหามันอยู่ตรง ค คน นี่แหละครับ
    จริงๆแล้วเรื่องราวใต้หล้าเนี่ย
    เรารู้นะครับ อะไรดี อะไรไม่ดี
    กินเหล้า เล่นหวย สูบบุหรี่ มีกิ๊ก
    รู้ก็ส่วนรู้ จะแก้หรือไม่ ก็อีกเรื่องหนึ่ง
 
    เรา มักจะรอให้ปัญหามันเริ่มจากน้อยๆ
    สะสมไปเรื่อยๆ จากปริมาณไปสู่คุณภาพ
    พอมันได้คุณภาพ ทีนี้จะยากละครับ
    frame of reference ทั้งหนาทั้งหนักทีเดียว

    จากประสบการณ์ผมที่เห็นมา
    คนที่จะฉุกคิดแล้วทำได้ทันที
    ต้องสะสมบารมีมาพอควรที่เดียวเชียว

    ที่คุณ san ทำมาได้ขนาดนี้
    แบบเปิดกระทู้นี่ให้แฟนอ่าน
    สำหรับผมถือว่าแก็ปัญหาได้ถูกทางแล้วนะครับ
    ทางพุทธว่าแก้ปัญหาให้แก้ที่เหตุนะ

    ผมเคยถามตัวเองนะว่าทำไมชอบมาโพสจริ๊งกระทู้เนี๊ย
    หรือผมอยากมีกิ๊ก
    ฮ่า..ไม่ช่าย
    ผมว่าเพราะความเปิดเผยของพี่ san นี่แหละ น่ารักดี
    เรามีความรู้สึกว่า เอ่อ ดูแล้วยังสอนได้ พูดได้ ไม่อวดดี
    ผมถือว่าคนแบบนี้มีเสน่ห์นะครับ
    แต่พี่ san ใช้จุดเด่นตรงนี้บริหารเสน่ห์กับแฟนพี่นะครับ
    ถ้าพี่ไปบริหารที่อื่นก็จะมีกิ๊กเช่นนี้แหละครับ...........

[อาฮุย]

555
จริงของพี่พอใจครับ
 

[เพื่อน]

ผมเคยรู้จัก คนคู่หนึ่ง ที่เคยรักกันมาก
โดยเฉพาะฝ่ายชาย เป็นคนใกล้ชิดกับครอบครัวผม

ในสมัยที่ยังไม่แต่งงานกัน ฝ่ายหญิงก็มีคนมาจีบเยอะ และก็ดูเหมือนมีกิ๊กอยู่คนหนึ่ง(ซึ่งผมดูออกว่าเจ้ากิ๊กคนนี้เป็นคนโคตรกะล่อน หลอกผู้หญิงเก่งมาก) ไปไหนมาไหนด้วยกันพอสมควร ทั้งๆที่เป็นแฟนกับฝ่ายชาย(และผ่ายชายทั้ง2คนก็รู้จักกันด้วย เหมือนคุณsanเลย)

....สมัยนั้นฝ่ายชายอดทนกับความรู้สึกมากเลยครับ ทั้งพบเองและได้ยินมาจากที่อื่น พร้อมกับความอายอยู่ลึกๆ แต่ก็ด้วยความดีและอดทน เลยสามารถชนะใจเธอได้ในที่สุด จนได้แต่งงานกัน

เวลาผ่านมาประมาณ9-10ปี(เหมือนคุณsan) ฝ่ายชายเป็นคนทำงานหนักพร้อมกับเรียนไปด้วย มีลูกด้วยกันแล้ว2คน  พอลูกเริ่มโตเข้าโรงเรียนแล้วฝ่ายหญิงเริ่มออกไปทำงาน ได้พบปะผู้คน และก็มีมือที่3เข้ามาอีก(ผมก็ดูออกอีกว่าไอ้มือที่3นี่ก็โคตรกะล่อนเหมือนกัน) เข้ามาจีบเธอ จนในที่สุดเธอเริ่มบรรยายว่าคนนี้นี่แหละที่เธอรอคอยมาตลอดชีวิต ที่ผ่ามมาเธอแต่งงานกับสามีเพราะความสงสารเท่านั้น ไม่ใช่ความรัก เธอสรรหาคำมาต่อว่าสามีสารพัดต่างๆนาๆ
ผู้ชายคนใหม่นี้ต่างหากเป็นคนที่เธอรักมาก....ถ้าคุณได้มีโอกาสอ่านสิ่งที่เธอเขียนบรรยายโดยไม่รู้จักสามีเธอมาก่อน คุณจะคล้อยตามได้ง่ายๆเลยครับ เธอเป็นคนบรรยายภาษาตัวหนังสือได้เก่งมาก

ที่เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ผมไม่ได้ตำหนิเธอหรือคุณsanนะครับ แต่จะบอกว่าในช่วงเวลาหนึ่งที่เรากำลังหลงไหลอะไรบางอย่างอยู่ เรามักจะเข้าข้างตัวเองจนเหลือเชื่อ สิ่งที่เราเคยเห็นเคยรู้สึกเคยรัก มันสามารถเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้เลยครับ  ขอให้ระวังการตัดสินใจในเวลานี้ให้ดีๆ เพราะมันกำลังถูกเคลือบทับด้วยความหลงไหลและพร้อมที่จะเข้าข้างตัวเองเพื่อให้ได้สิ่งที่กำลังหลงไหลมาอยู่กับเราในทุกวิถีทาง....ความรู้สึกนี้จะผุดขึ้นมาบ่อยๆ

....คุณsanเองเท่านั้นที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่อย่าเพิ่งรีบเชื่อความคิดของตัวเองในช่วงนี้มากจนเกินไป ขอให้พิจารณาโดยสติ ปราศจากความหลงไหลให้ได้ก่อนนะครับ

ขอเป็นกำลังใจให้ทั้ง3คน

[san]

อยากบอกเพียงว่า

ขอบคุณมากครับ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ  ทุกคนในบอร์ด  
ความคิดเห็นที่แสดงมานั้น มีประโยชน์มากครับ

ขอบคุณอีกครั้งครับ  จากใจครับ

[ด๊กดิงด่าง]

ทบทวนดูอีกที รู้สึกว่าอาการของท่านแซนนี่น่าจะเป็นแผ่นเสียงตกร่องนาครับ  ผมเองก็เคยเป็น  แต่ไม่ใช่เรื่องหัวใจหรอกเพราะเสริมใยเหล็กไร้สนิม(ไม่ใช่ของไอนอคแน่นอน)  ชีวิตคนเราพอเป็นผู้ใหญ่มันไม่ง่ายเหมือนเด็กๆ  คิดอยากจะทำก็ทำคิดจะเลิกก็เลิก  ไม่ง่ายอย่างนั้น ท่านแซนอาจมีปัญหาตั้งแต่ปลูกต้นรักแล้ว  ประเภทว่าสามเส้าเคล้าน้ำตาผมมาสะกิดใจตรงที่ว่าท่านแซนอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับหญิงชายอื่นๆอะไรทำนองนี้  แต่ผมรู้สึกว่าท่านแซนกำลังบอกว่าชีวิตคู่มีปัญหาตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว  คือมีรายการรักเผื่อเลือกของฝ่ายใดฝายหนึ่งซึ่งมันย่อมส่งผลต่อจิตใจของอีกฝ่ายแน่นอน การเริ่มต้นชีวิตคู่ของท่านแซนจึงเป็นลักษณะไม่เต็มร้อยด้วยกันทั้งสองฝ่าย  เมื่อเวลาผ่านไปการอยู่ร่วมกันจึงไม่สนิทแนบแน่นเหมือนมีการเฝ้ามองท่าทีของอีกฝ่ายตลอดเวลา  อาการเย็นชากาแฟชักจึงเกิดขึ้น  เมื่อมีใครคนหนึ่งเข้ามาเป็นทางเลือกใหม่ท่านแซนจึงออกอาการดี้ด้าพาสุขขึ้นมาแต่ก็ไม่สามารถถึงสวรรค์ดาวดึงค์ได้เพราะท่านแซนยังคงหวาดหวั่นอะไรบางอย่างแบบเดิมๆเกี่ยวกับเพศตรงข้ามอยู่  

แต่อย่างไรก็ตามผมเห็นใจทุกฝ่าย  เรื่องอย่างนี้มันก็ผงเข้าตาดีๆนี่เอง  ไม่เป็นไม่รู้คนอื่นพูดอย่างไรก็ได้  แต่อยากแนะนำท่านแซนว่าแผ่นเสียงตกร่องนี่เสียเวลานาครับ ชีวิตเราไม่ยืนยาวซักเท่าไร ความรักเป็นเรื่องของอารมณ์เกิดแล้วก็คลายลดลงเหลือแต่ความจริงว่าเราจะอยู่กันอย่างไร  ถ้าไม่เหลืออะไรต่อกันหรือมีแต่ข้องใจกันคงต้องตัดสินใจละครับ  ยกหัวเข็มขึ้นจากแผ่นเสียงเลยดีมั้ย  หรือยกไม่ไหวเพราะแรงกระตุ้นกับความรับผิดชอบมันต่อสู้กันอยู่โดยเฉพาะการที่มีผู้ใหญ่(สังคม)เข้ามารับรู้  ก็คงต้องเลือกละครับ

แนะนำเพลง คาใจ ของเจ เจตริน

อีกเพลง FRAGILE  ของ STING

เพี้ยงขอให้วิเคราะห์ถูกเหมือนวิเคราะห์หุ้น(บางตัว)

ไม่มีเจตนาจะล่วงเกินท่านแซนแต่อย่างใดนาครับ

[MarginofSafety]

เข้ามาอ่านครับ
ได้ข้อคิดดีๆมากมาย

ผมเคยดูหนังเรื่องนึงชื่อว่า Unfaithful
นักแสดงนำชาย ริชาร์ด เกียร์ นักแสดงหญิงจำชื่อไม่ได้

ในเรื่องนี้แทนที่จะเป็นผู้ชายมีกิ๊ก กลับกลายเป็นผู้หญิงมีกิ๊ก
และไม่สามารถหักห้ามใจกับอารมณ์เหล่านี้ (อารมณ์ประมาณพี่ San)
จนเลยเถิดไปมีความสัมพันธ์กับกิ๊ก
ทั้งๆที่มีครอบครัวที่น่ารักและสามีที่แสนดี
ผู้หญิงคนนี้ก็ต้องอยู่กับความรู้สึกผิดและกลัวสามีจะรู้
แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธ อารมณ์ถวิลหากิ๊กได้
ตอนจบของเรื่องเป็นอย่างไร ลองไปหามาดูครับ
หนังทำออกมาสะท้อนอารมณ์ต่างๆได้ดี

ผมได้ข้อคิดว่า

1. การมีชู้ (กิ๊ก) มักจะเป็นความสัมพันธ์ที่นำไปสู่หายนะ (disaster) เสมอ
หากไม่รู้จักยุติหรือหักห้ามใจ

2. การที่เราจะตกหลุมรักใครนั้นอาจจะไม่ยากนัก
แต่การที่เรารักและได้รับความรักตอบเป็นสิ่งที่ยากกว่า
แต่สิ่งที่ยากที่สุดคือการที่เราสามารถประคองความรักให้ตลอดรอดฝั่ง
โดยปราศจากความรู้สึกในแง่ จำยอม เนื่องจากไม่อยากทำสิ่งที่ผิด
แต่เป็นความสดชื่น สดใส ที่ตื่นขึ้นมาในแต่ละวัน พร้อมกับสิ่งที่ดีๆ
ที่ต่างฝ่ายต่างต้องการหยิบยื่นให้อีกฝ่าย ด้วยความรักอย่างบริสุทธิ์ใจ
ซึ่งไม่ใช่การเรียกร้อง

และสุดท้าย
เหตุการณ์เหล่านี้พร้อมที่จะเกิดได้กับคนทุกคน
ขึ้นอยู่กับสติ ว่าเราพร้อมที่จะรับมือมันได้มากน้อยแค่ไหน
เพราะอารมณ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยากที่สุดสำหรับมนุษย์

[phobenius]

กลัวเป็นเหมือนกันครับตอนนี้

[por_jai]

ผมเคยดูหนังเรื่องนึงชื่อว่า Unfaithful
นักแสดงนำชาย ริชาร์ด เกียร์ นักแสดงหญิงจำชื่อไม่ได้



ผมได้ข้อคิดว่า


2. การที่เราจะตกหลุมรักใครนั้นอาจจะไม่ยากนัก
แต่การที่เรารักและได้รับความรักตอบเป็นสิ่งที่ยากกว่า
แต่สิ่งที่ยากที่สุดคือการที่เราสามารถประคองความรักให้ตลอดรอดฝั่ง
โดยปราศจากความรู้สึกในแง่ จำยอม เนื่องจากไม่อยากทำสิ่งที่ผิด
แต่เป็นความสดชื่น สดใส ที่ตื่นขึ้นมาในแต่ละวัน พร้อมกับสิ่งที่ดีๆ
ที่ต่างฝ่ายต่างต้องการหยิบยื่นให้อีกฝ่าย ด้วยความรักอย่างบริสุทธิ์ใจ
ซึ่งไม่ใช่การเรียกร้อง

8) เรารักเขาก็เรื่องนึง
    เขารักเราหรือเปล่าก็อีกเรื่องนึง
    อย่าเอามาปนกันนะครับ
    ยุ่งขิงยิงกันตายมาเยอะแล้ว

    ประคองก็คงยากศัพท์ก็บอกอยู่แล้ว
    อย่าประคองสิครับ วางลงก็ไม่ต้องประคองแล้ว
    เบาสบาย ทั้ง2ฝ่ายด้วย

    โอ้น้องหวี นอกจาก ประคอง แล้วมี จำยอม  มี เรียกร้อง ด้วย
     เวียนหัวครับ

และสุดท้าย
เหตุการณ์เหล่านี้พร้อมที่จะเกิดได้กับคนทุกคน
ขึ้นอยู่กับสติ ว่าเราพร้อมที่จะรับมือมันได้มากน้อยแค่ไหน
เพราะอารมณ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยากที่สุดสำหรับมนุษย์

8) ไม่ได้มาป่วนนะ ผมว่าจิตคุมยากกว่าอารมณ์อีก

[MarginofSafety]

2. การที่เราจะตกหลุมรักใครนั้นอาจจะไม่ยากนัก
แต่การที่เรารักและได้รับความรักตอบเป็นสิ่งที่ยากกว่า

What I would like to say is:

To love is to risk not being loved in return. To hope is to risk pain.
To try is to risk failure, but risk must be taken
because the greatest hazard in life is to risk nothing.  8)

แต่สิ่งที่ยากที่สุดคือการที่เราสามารถประคองความรักให้ตลอดรอดฝั่ง
โดยปราศจากความรู้สึกในแง่ จำยอม เนื่องจากไม่อยากทำสิ่งที่ผิด
แต่เป็นความสดชื่น สดใส ที่ตื่นขึ้นมาในแต่ละวัน พร้อมกับสิ่งที่ดีๆ
ที่ต่างฝ่ายต่างต้องการหยิบยื่นให้อีกฝ่าย ด้วยความรักอย่างบริสุทธิ์ใจ
ซึ่งไม่ใช่การเรียกร้อง

To love is to give, to understand, to respect each other and be happy to do so.
That is truely love in my opinion.  8)

[por_jai]

What I would like to say is:

To love is to risk not being loved in return. To hope is to risk pain.
To try is to risk failure, but risk must be taken
because the greatest hazard in life is to risk nothing.

8) การพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ย่อมเป็นทุกข์



To love is to give, to understand, to respect each other and be happy to do so.
That is truely love in my opinion.

[MarginofSafety]

What I would like to say is:

To love is to risk not being loved in return. To hope is to risk pain.
To try is to risk failure, but risk must be taken
because the greatest hazard in life is to risk nothing.

8) การพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ย่อมเป็นทุกข์

ข้อนี้ผมเคยสงสัย
บ้างก็ว่า...ความรักคือทุกข์
บ้างก็ว่า...ความรักคือสิ่งที่สวยงาม
บ้างก็ว่า...ความรักทำให้คนตาบอด
ฯลฯ
เอ๊ะ... แล้วตกลงความรักเนี่ย มันดีหรือไม่ดี

ผมค้นพบคำตอบ และเข้าใจว่า
ความรัก ในข้อความข้างต้นนั้น มันไม่ใช่ความรักชนิดเดียวกัน

รักในทางพุทธ น่าจะใกล้เคียงกับคำว่า "เมตตา"

ต่างกันกับความรักแบบหนุ่มสาวที่บอกว่า "เราเป็นของกันและกัน"
ที่มันทำให้เกิดทุกข์ เพราะว่าแม้แต่ตัวเราใจเรา มันยังไม่ใช่ของเราเลย
จะสั่งให้มันหันซ้าย หันขวา บางทีมันก็ไม่ยอมทำเอาซะดื้อๆ
แล้วจะไปยึดถือว่าเราเป็นเจ้าของคนอื่นด้วยเนี่ย
จะไม่ให้ทุกข์ยังไงไหว

รักแบบหนุ่มสาว มักจะมีคำว่า "ใคร่" ต่อท้าย กลายเป็น "รักใคร่"
รักชนิดนี้ อานุภาพเร่าร้อน รุนแรงนัก
จนทำให้หนุ่มสาวบางคนก็เลือกที่จะทำร้ายตัวเอง หรือแม้แต่จบชีวิต
หากสูญเสียมันไป ...

พูดมาทั้งหมดตามความเข้าใจนะครับ
ตัวผมเองก็ถูก อาการ "รักใคร่" เล่นงานหลายต่อหลายครั้งเหมือนกัน
หากทำได้ อย่างที่เข้าใจ คงมีดวงตาเห็นธรรมแล้ว

"ความรักก็เหมือนหวัด ติดง่าย หายง่าย"   8)

[MarginofSafety]

[MarginofSafety]

ขอเปลี่ยนเป็น

[quote="HVI"]
"อกหักก็เหมือนเป็นหวัด ติดง่าย หายง่าย"

[por_jai]

ข้อนี้ผมเคยสงสัย
บ้างก็ว่า...ความรักคือทุกข์
บ้างก็ว่า...ความรักคือสิ่งที่สวยงาม
บ้างก็ว่า...ความรักทำให้คนตาบอด
ฯลฯ
เอ๊ะ... แล้วตกลงความรักเนี่ย มันดีหรือไม่ดี

ผมค้นพบคำตอบ และเข้าใจว่า
ความรัก ในข้อความข้างต้นนั้น มันไม่ใช่ความรักชนิดเดียวกัน

รักในทางพุทธ น่าจะใกล้เคียงกับคำว่า "เมตตา"

[Mr. Boo]

ผมเคยดูหนังเรื่องนึงชื่อว่า Unfaithful
นักแสดงนำชาย ริชาร์ด เกียร์ นักแสดงหญิงจำชื่อไม่ได้

Dianne Lane ครับพี่พอใจ  แฟนผมครับ
แต่ผมไม่รู้เป็นแฟนเค้าหรือปล่าว
ชอบหล่อนตั้งแต่เรื่อง Street of  Fire แสดงเป็นนักร้อง