น้ำยาแอร์COLD22 ช่วยประหยัดไฟจากเครื่องปรับอากาศจริงหรือคับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1260
- ผู้ติดตาม: 0
น้ำยาแอร์COLD22 ช่วยประหยัดไฟจากเครื่องปรับอากาศจริงหรือคับ
โพสต์ที่ 2
http://www.wisetair.com/center/board/in ... 71.0;id=66
http://www.wisetair.com/center/board/in ... 71.0;id=67
ข้อมูลเพิ่มเติม แต่ไม่รู้หมกเม็ดเปล่า :lol:
http://www.wisetair.com/center/board/in ... 71.0;id=67
ข้อมูลเพิ่มเติม แต่ไม่รู้หมกเม็ดเปล่า :lol:
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
น้ำยาแอร์COLD22 ช่วยประหยัดไฟจากเครื่องปรับอากาศจริงหรือคับ
โพสต์ที่ 3
ไม่น่าจะจริงครับ
เครื่องปรับอากาศแต่ละรุ่นทำมาสำหรับน้ำยาแอร์ เฉพาะเท่านั้น
มีพวกมิตซูที่ใช้น้ำยาต่างจากชาวบ้านเขา (เพื่อสิ่งแวดล้อม)
ลองไปใช้น้ำยาธรรมดาเครื่องอาจพัง
เครื่องปรับอากาศแต่ละรุ่นทำมาสำหรับน้ำยาแอร์ เฉพาะเท่านั้น
มีพวกมิตซูที่ใช้น้ำยาต่างจากชาวบ้านเขา (เพื่อสิ่งแวดล้อม)
ลองไปใช้น้ำยาธรรมดาเครื่องอาจพัง
-
- Verified User
- โพสต์: 2
- ผู้ติดตาม: 0
ความจริงของ cold22
โพสต์ที่ 5
น้ำยา cold22 เป็นสารทดแทน น้ำยาแอร์ตัวเก่าคือ r22 ที่มีสาร CFC ; HCFC ที่ทำลายสิ่งแวดล้อม
ทางยุโรป ได้พัฒนา สารทดแทน ขึ้นมาใช้ ตั้งแต่ปี 1995 ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามสนธิสัญญา montreal และ สันธิสัญญา kyoto ทำให้ cold22 นิยมใช้ในยุโรป ญี่ปุ่น และแถบอาหรับ เพราะไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และยังสามารถช่วยในการประหยัดพลังได้อีกด้วย
หากถามว่าเรื่องติดไฟ น้ำยา r22 ก็ติดไฟ เหมือนกัน แต่การติดไฟนั้นจะสามารถติดได้ โดยต้องมีเปลวไฟ เข้มข้นถึง 450 องศา ถึงจะสามารถติดไฟได้
หากเปรียบให้เห็นภาพชัดๆ r22 เหมือน น้ำมันเบนซิน ส่วน cold22 เหมือนกับ แก๊สโซฮอล์
ทำให้สามารถใช้แทนกันได้ เพราะเป็นตระกูลเดียวกัน นะจ๊ะคุณ MO101
หากได้ข้อมูลมากกว่านี้ เข้าไปดูที่ www.smartcool.co.th
หรือโทร. 02-526-9282
ทางยุโรป ได้พัฒนา สารทดแทน ขึ้นมาใช้ ตั้งแต่ปี 1995 ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามสนธิสัญญา montreal และ สันธิสัญญา kyoto ทำให้ cold22 นิยมใช้ในยุโรป ญี่ปุ่น และแถบอาหรับ เพราะไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และยังสามารถช่วยในการประหยัดพลังได้อีกด้วย
หากถามว่าเรื่องติดไฟ น้ำยา r22 ก็ติดไฟ เหมือนกัน แต่การติดไฟนั้นจะสามารถติดได้ โดยต้องมีเปลวไฟ เข้มข้นถึง 450 องศา ถึงจะสามารถติดไฟได้
หากเปรียบให้เห็นภาพชัดๆ r22 เหมือน น้ำมันเบนซิน ส่วน cold22 เหมือนกับ แก๊สโซฮอล์
ทำให้สามารถใช้แทนกันได้ เพราะเป็นตระกูลเดียวกัน นะจ๊ะคุณ MO101
หากได้ข้อมูลมากกว่านี้ เข้าไปดูที่ www.smartcool.co.th
หรือโทร. 02-526-9282
- PrasertsakK
- Verified User
- โพสต์: 286
- ผู้ติดตาม: 0
น้ำยาแอร์COLD22 ช่วยประหยัดไฟจากเครื่องปรับอากาศจริงหรือคับ
โพสต์ที่ 6
พอดีเคยทำงานในบริษัทผลิตแอร์มาก่อน ทำtestเรื่องนี้พอสมควรครับก็เลยขอแสดงความเห็นหน่อย
ผมไม่แน่ใจว่า น้ำยา cold22 นี้มีประสิทธิภาพดีกว่า R22แค่ไหน แต่ตามที่โฆษณาแล้วน่าจะคล้าย ๆ กับ R123 หรือ น้ำยาทดแทนอื่น ๆ ซึ่งเป็นน้ำยาที่พยายามใช้ทดแทน R22 (จริง ๆ ถ้าจำไม่ผิด น้ำยาแอร์รุ่นใหม่ส่วนมาก จะออกแบบเพื่อทดแทน R12 ซึ่งประสิทธิภาพสูงมาก ๆ แต่ก็ทำลายสิ่งแวดล้อมสุดยอด และ R22 จริง ๆ ก็คือ สารทดแทน R12 ที่ทำลายสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า) โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมแต่ มีคุณสมบัติที่themodinamic ที่คล้าย ๆ กัน (มั่ง กราฟที่ www.smartcool.co.th ดูไม่รู้เรื่องเพราะเล็กขนาดเล็กมาก ๆ ) แต่ปัญหาจริง ๆ ที่ผมสังเกตมันคงไม่ใช่เรื่องคุณสมบัติของน้ำยา แต่มันเป็นเรื่องของปริมาณน้ำยาที่เติมลงไปต่างหาก
ผมเคยส่ง air ไป test เบอร์ 5 จึงรู้ว่าปริมาณน้ำยาในการเติมนั้นสำคัญมาก ๆ ปริมาณน้ำยาที่ผิดไป 10 กรัม มีผลกับประสิทธิภาพ(ERR)มาก บางครั้งหายไปเป็น 10% ผมจึงคิดว่าการเติม cold22 เข้าไปแทนน้ำยาเก่านั้นไม่น่าจะช่วยประหยัดไฟได้ เพราะว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่าควรเติมเท่าไรถึงได้ค่าประสิทธิภาพสูงสุด
ถ้าคนที่เคยดูช่าง(บ้าน ๆ) เติมน้ำยาแอร์ จะเห็นว่า โดยทั่วไป เขาจะกะเอา โดยการเติมน้ำยาจงกระทั่งให้ คอยล็เย็น(Evaporator)มีความเย็นเต็มแผง แล้วหยุดเติม ซึ่งวิธีการนี้ไม่สามารถได้ค่าประสิทธิภาพสุงสุดได้ ผมเลยงงมาก ๆ ว่า ถ้าผมจะเติม cold22 แล้วจะรู้ได้ไงว่ามันประหยัผดไฟจริง ๆ (อันนี้ผู้อยู่วงการนี้ช่วยกันcomment หน่อยนะครับ ผมออกจากวงการนี้มามากกว่า 4 ปีแล้ว ความรู้ก็คืนอาจารย์ไปหมดแล้ว)
ผมไม่แน่ใจว่า น้ำยา cold22 นี้มีประสิทธิภาพดีกว่า R22แค่ไหน แต่ตามที่โฆษณาแล้วน่าจะคล้าย ๆ กับ R123 หรือ น้ำยาทดแทนอื่น ๆ ซึ่งเป็นน้ำยาที่พยายามใช้ทดแทน R22 (จริง ๆ ถ้าจำไม่ผิด น้ำยาแอร์รุ่นใหม่ส่วนมาก จะออกแบบเพื่อทดแทน R12 ซึ่งประสิทธิภาพสูงมาก ๆ แต่ก็ทำลายสิ่งแวดล้อมสุดยอด และ R22 จริง ๆ ก็คือ สารทดแทน R12 ที่ทำลายสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า) โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมแต่ มีคุณสมบัติที่themodinamic ที่คล้าย ๆ กัน (มั่ง กราฟที่ www.smartcool.co.th ดูไม่รู้เรื่องเพราะเล็กขนาดเล็กมาก ๆ ) แต่ปัญหาจริง ๆ ที่ผมสังเกตมันคงไม่ใช่เรื่องคุณสมบัติของน้ำยา แต่มันเป็นเรื่องของปริมาณน้ำยาที่เติมลงไปต่างหาก
ผมเคยส่ง air ไป test เบอร์ 5 จึงรู้ว่าปริมาณน้ำยาในการเติมนั้นสำคัญมาก ๆ ปริมาณน้ำยาที่ผิดไป 10 กรัม มีผลกับประสิทธิภาพ(ERR)มาก บางครั้งหายไปเป็น 10% ผมจึงคิดว่าการเติม cold22 เข้าไปแทนน้ำยาเก่านั้นไม่น่าจะช่วยประหยัดไฟได้ เพราะว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่าควรเติมเท่าไรถึงได้ค่าประสิทธิภาพสูงสุด
ถ้าคนที่เคยดูช่าง(บ้าน ๆ) เติมน้ำยาแอร์ จะเห็นว่า โดยทั่วไป เขาจะกะเอา โดยการเติมน้ำยาจงกระทั่งให้ คอยล็เย็น(Evaporator)มีความเย็นเต็มแผง แล้วหยุดเติม ซึ่งวิธีการนี้ไม่สามารถได้ค่าประสิทธิภาพสุงสุดได้ ผมเลยงงมาก ๆ ว่า ถ้าผมจะเติม cold22 แล้วจะรู้ได้ไงว่ามันประหยัผดไฟจริง ๆ (อันนี้ผู้อยู่วงการนี้ช่วยกันcomment หน่อยนะครับ ผมออกจากวงการนี้มามากกว่า 4 ปีแล้ว ความรู้ก็คืนอาจารย์ไปหมดแล้ว)
-
- Verified User
- โพสต์: 150
- ผู้ติดตาม: 0
น้ำยาแอร์COLD22 ช่วยประหยัดไฟจากเครื่องปรับอากาศจริงหรือคับ
โพสต์ที่ 7
-
- Verified User
- โพสต์: 2
- ผู้ติดตาม: 0
ปริมาณที่ได้ผลดีที่สุดของ cold22 ง่ายๆ ใช้ปริมาณเพียง 40% ข
โพสต์ที่ 8
ปริมาณที่ได้ผลดีที่สุดของ cold22 ง่ายๆ ใช้ปริมาณเพียง 40% ของR22
ส่วนในเรื่องการทำความเย็น ไม่ต้องห่วง cold22 จุดเดือดอยู่ที่ -42 องศา
ส่วน R22 จุดเดือดอยู่ที่ -36 องศา
ส่วนเรื่องในการทำความเย็นและช่วยประหยัดพลังงานได้นั้น ไม่ได้ซับซ้อนอะไร เพียงแค่ cold22 เป็นมวลสารที่มีความหนืดน้อยกว่า R22 จึงสามารถทำงานได้เร็วกว่า ลดการใช้พลังงานลงกว่าเดิม
[quote="PrasertsakK"]พอดีเคยทำงานในบริษัทผลิตแอร์มาก่อน ทำtestเรื่องนี้พอสมควรครับก็เลยขอแสดงความเห็นหน่อย
ผมไม่แน่ใจว่า น้ำยา cold22 นี้มีประสิทธิภาพดีกว่า R22แค่ไหน แต่ตามที่โฆษณาแล้วน่าจะคล้าย ๆ กับ R123 หรือ น้ำยาทดแทนอื่น ๆ ซึ่งเป็นน้ำยาที่พยายามใช้ทดแทน R22 (จริง ๆ ถ้าจำไม่ผิด น้ำยาแอร์รุ่นใหม่ส่วนมาก จะออกแบบเพื่อทดแทน R12 ซึ่งประสิทธิภาพสูงมาก ๆ แต่ก็ทำลายสิ่งแวดล้อมสุดยอด และ R22 จริง ๆ ก็คือ สารทดแทน R12 ที่ทำลายสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า) โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมแต่ มีคุณสมบัติที่themodinamic ที่คล้าย ๆ กัน (มั่ง กราฟที่ www.smartcool.co.th ดูไม่รู้เรื่องเพราะเล็กขนาดเล็กมาก ๆ ) แต่ปัญหาจริง ๆ ที่ผมสังเกตมันคงไม่ใช่เรื่องคุณสมบัติของน้ำยา แต่มันเป็นเรื่องของปริมาณน้ำยาที่เติมลงไปต่างหาก
ส่วนในเรื่องการทำความเย็น ไม่ต้องห่วง cold22 จุดเดือดอยู่ที่ -42 องศา
ส่วน R22 จุดเดือดอยู่ที่ -36 องศา
ส่วนเรื่องในการทำความเย็นและช่วยประหยัดพลังงานได้นั้น ไม่ได้ซับซ้อนอะไร เพียงแค่ cold22 เป็นมวลสารที่มีความหนืดน้อยกว่า R22 จึงสามารถทำงานได้เร็วกว่า ลดการใช้พลังงานลงกว่าเดิม
[quote="PrasertsakK"]พอดีเคยทำงานในบริษัทผลิตแอร์มาก่อน ทำtestเรื่องนี้พอสมควรครับก็เลยขอแสดงความเห็นหน่อย
ผมไม่แน่ใจว่า น้ำยา cold22 นี้มีประสิทธิภาพดีกว่า R22แค่ไหน แต่ตามที่โฆษณาแล้วน่าจะคล้าย ๆ กับ R123 หรือ น้ำยาทดแทนอื่น ๆ ซึ่งเป็นน้ำยาที่พยายามใช้ทดแทน R22 (จริง ๆ ถ้าจำไม่ผิด น้ำยาแอร์รุ่นใหม่ส่วนมาก จะออกแบบเพื่อทดแทน R12 ซึ่งประสิทธิภาพสูงมาก ๆ แต่ก็ทำลายสิ่งแวดล้อมสุดยอด และ R22 จริง ๆ ก็คือ สารทดแทน R12 ที่ทำลายสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า) โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมแต่ มีคุณสมบัติที่themodinamic ที่คล้าย ๆ กัน (มั่ง กราฟที่ www.smartcool.co.th ดูไม่รู้เรื่องเพราะเล็กขนาดเล็กมาก ๆ ) แต่ปัญหาจริง ๆ ที่ผมสังเกตมันคงไม่ใช่เรื่องคุณสมบัติของน้ำยา แต่มันเป็นเรื่องของปริมาณน้ำยาที่เติมลงไปต่างหาก
-
- Verified User
- โพสต์: 24
- ผู้ติดตาม: 0
น้ำยาแอร์COLD22 ช่วยประหยัดไฟจากเครื่องปรับอากาศจริงหรือคับ
โพสต์ที่ 9
ผมอาจจะคิดมากไปหรือเปล่าไม่รู้ แต่ที่ทำให้ไม่มั่นใจก็คือการโพสของคุณที่มาจาก smartcool เนี่ยล่ะครับ เพราะอ่านดูแล้วเผลอนึกๆไปว่าคล้ายรายการโฆษณาสินค้าในทีวีตอนดึกๆ ผมว่าสินค้าถ้าดีจริงผู้บริโภคจะช่วยกันตอบคำถามนี้เองล่ะ บริษัทไม่ต้องเหนื่อยหรอกครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1980
- ผู้ติดตาม: 0
น้ำยาแอร์COLD22 ช่วยประหยัดไฟจากเครื่องปรับอากาศจริงหรือคับ
โพสต์ที่ 10
ไร้สาระ
ผมบอกได้แค่ว่า
คอมเพรสเซอร์ของแอร์แต่ละตัว
ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในเเรงอัดที่แตกต่างกัน
คุณต้องใช้น้ำยาแอร์(Refrigerant)ในค่าคุณสมบัติทางเทอร์โมไดนามิกส์ที่กำหนดให้
แต่ถ้าคุณไม่รู้เรื่องนี้
ขอให้ใช้น้ำยาแอร์ตัวเดิม ดีที่สุดครับ
ประหยัดค่าไฟเดือนละร้อยบาท
แต่อีกหกเดือน คุณอาจจะต้องซื้อคอมเพรสเซอร์ใหม่อีกในหลักพัน เพราะมันทำงานหนักเกินไป
ไม่คุ้มครับ
ผมบอกได้แค่ว่า
คอมเพรสเซอร์ของแอร์แต่ละตัว
ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในเเรงอัดที่แตกต่างกัน
คุณต้องใช้น้ำยาแอร์(Refrigerant)ในค่าคุณสมบัติทางเทอร์โมไดนามิกส์ที่กำหนดให้
แต่ถ้าคุณไม่รู้เรื่องนี้
ขอให้ใช้น้ำยาแอร์ตัวเดิม ดีที่สุดครับ
ประหยัดค่าไฟเดือนละร้อยบาท
แต่อีกหกเดือน คุณอาจจะต้องซื้อคอมเพรสเซอร์ใหม่อีกในหลักพัน เพราะมันทำงานหนักเกินไป
ไม่คุ้มครับ