จ๊อกกิ้ง
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
จ๊อกกิ้ง
โพสต์ที่ 121
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- Verified User
- โพสต์: 1067
- ผู้ติดตาม: 0
จ๊อกกิ้ง
โพสต์ที่ 122
ผมวิ่งประจำที่สวนสราญรมย์ครับพี่หวี
รอบมัน Mini ดีครับ ประมาณ 500 เมตร
ผมว่ามันเสริมสร้างกำลังใจดีครับ :lol:
ไปวิ่งสวนลุมรอบละสองโลครึ่ง
กำลังใจผมคงห่อเหี่ยวครับ
แต่ เอ๊ะ....สวนลุมน่าจะสาว ๆ เยอะ
คงพอชดเชยกันได้ครับ :oops:
รอบมัน Mini ดีครับ ประมาณ 500 เมตร
ผมว่ามันเสริมสร้างกำลังใจดีครับ :lol:
ไปวิ่งสวนลุมรอบละสองโลครึ่ง
กำลังใจผมคงห่อเหี่ยวครับ
แต่ เอ๊ะ....สวนลุมน่าจะสาว ๆ เยอะ
คงพอชดเชยกันได้ครับ :oops:
... จุดเริ่มต้นของคนเราไม่สำคัญ
มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
จ๊อกกิ้ง
โพสต์ที่ 123
[quote="Capo"]ผมวิ่งประจำที่สวนสราญรมย์ครับพี่หวี
รอบมัน Mini ดีครับ ประมาณ 500 เมตร
ผมว่ามันเสริมสร้างกำลังใจดีครับ
รอบมัน Mini ดีครับ ประมาณ 500 เมตร
ผมว่ามันเสริมสร้างกำลังใจดีครับ
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
จ๊อกกิ้ง
โพสต์ที่ 125
[quote="Capo"]พี่สุมาอี้เคยอยู่ตรงแถวไหนครับ
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2032
- ผู้ติดตาม: 0
จ๊อกกิ้ง
โพสต์ที่ 127
ช่วงนี้ ไปวิ่ง วันเว้นวัน ครับ แฮปปี้ดี
เอาเคล็ดลับ จากกระทู้นี้ ไปใช้ได้เยอะเลย
วิ่งช้าลง แต่วิ่งได้นาน กับ ได้ระยะมากขึ้น อย่างที่นักวิ่งมืออาชีพ คุณ triathlon บอกจริงๆ
ไป เคแอล เมื่อไหร่ครับ ผมมีรุ่นน้อง ๒ คน ต้นปีนี้เพิ่งไปทำงานบ. shell
office อยู่ในตึก petronas เลย ถ้ามีอะไรให้ช่วย เดี๋ยวจะลองถามให้ครับ
(อย่างจองที่พัก ไม่รู้เรียบร้อยหรือยัง)
เรื่องลดพุง instructor แนะนำว่า หลังจากวิ่งเสร็จ ให้ซิทอัพ ครับ
และผมคงจะลอง ลดอาหารอย่างที่พี่พอใจแนะนำด้วย
ว่าแต่ว่า ๒-๓ วันนี้ พี่พอใจหายไปไหนครับเนี่ย ใครไปตีแบดเจอแกบ้างครับ
เอาเคล็ดลับ จากกระทู้นี้ ไปใช้ได้เยอะเลย
วิ่งช้าลง แต่วิ่งได้นาน กับ ได้ระยะมากขึ้น อย่างที่นักวิ่งมืออาชีพ คุณ triathlon บอกจริงๆ
ไป เคแอล เมื่อไหร่ครับ ผมมีรุ่นน้อง ๒ คน ต้นปีนี้เพิ่งไปทำงานบ. shell
office อยู่ในตึก petronas เลย ถ้ามีอะไรให้ช่วย เดี๋ยวจะลองถามให้ครับ
(อย่างจองที่พัก ไม่รู้เรียบร้อยหรือยัง)
เรื่องลดพุง instructor แนะนำว่า หลังจากวิ่งเสร็จ ให้ซิทอัพ ครับ
และผมคงจะลอง ลดอาหารอย่างที่พี่พอใจแนะนำด้วย
ว่าแต่ว่า ๒-๓ วันนี้ พี่พอใจหายไปไหนครับเนี่ย ใครไปตีแบดเจอแกบ้างครับ
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
จ๊อกกิ้ง
โพสต์ที่ 128
คุยเรื่องเทคนิคการวิ่งแล้วนึกถึงหนังเกาหลีเรื่อง the running boy ครับ :D เป็นหนังเกี่ยวกับการวิ่งที่ดูแล้วทำให้รู้สึกชื่นชมคนที่เป็นแม่ของเด็กพิเศษว่าต้องมีความอดทนสูงมากจริงๆ
มายืนยันเทคนิคของคุณไตรกรีธา สมัยก่อนนี้ผมเป็นพวกว่ายน้ำอึดครับ ว่ายช้าลดอีกนิดจะว่ายได้นานกว่ากันมาก (non-linear scale)
มายืนยันเทคนิคของคุณไตรกรีธา สมัยก่อนนี้ผมเป็นพวกว่ายน้ำอึดครับ ว่ายช้าลดอีกนิดจะว่ายได้นานกว่ากันมาก (non-linear scale)
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
จ๊อกกิ้ง
โพสต์ที่ 129
ปากบอกจะลดพุง กลับมาปุ๊บชงเครื่องดื่มปั๊บ แล้วนั่งดูเว็บไปจิบไป
-
- Verified User
- โพสต์: 551
- ผู้ติดตาม: 0
จ๊อกกิ้ง
โพสต์ที่ 130
เพิ่งกลับจากเคแอลมาเมื่อคืนวันเสาร์คะ ขอบคุณคุณปุยมากคะ พอดีจองโรงแรมที่เป็นสปอนเซอร์งานวิ่ง ใกล้จุดปล่อยตัว ไม่แพงด้วย แค่พันห้าร้อยเอง
เมื่อวันอาทิตย์มีงานวิ่ง AmBank KL International Marathon คะ มีนักวิ่งแนวหน้าเมืองไทยไปร่วมด้วย เข้าใจว่าคุณสุนิสา สายลมเย็น นักวิ่งมาราธอนมือหนึ่งของไทยเข้ามาเป็นที่สอง ที่หนึ่งนี่ เคนย่า ตามระเบียบคะ
ส่วนนักวิ่งชาย ก็เคนย่า เข้าใจว่าฟาดไปทั้งที่หนึ่งถึงที่ห้า
สำหรับตัวเอง ก็วิ่งครบระยะ เวลาดีกว่าที่ทำได้ที่จอมบึงสิบนาที ออกมา ห้าชั่วโมงส่ามสิบสี่นาที มาเดินช่วงกิโลที่ สามสิบแปด เพราะดันมีเนินเขามาทิ้งท้าย วิ่งไม่ไหวแล้ว
ถือว่าเที่ยวด้วย วิ่งด้วยสนุกดีคะ เห็นอะไรที่แตกต่างออกไป แล้วก็ได้แต่ฝันว่าสักวันคนไทยจะเล่นกีฬากันเยอะขึ้น รักษาสุขภาพมากขึ้น
เมื่อวันอาทิตย์มีงานวิ่ง AmBank KL International Marathon คะ มีนักวิ่งแนวหน้าเมืองไทยไปร่วมด้วย เข้าใจว่าคุณสุนิสา สายลมเย็น นักวิ่งมาราธอนมือหนึ่งของไทยเข้ามาเป็นที่สอง ที่หนึ่งนี่ เคนย่า ตามระเบียบคะ
ส่วนนักวิ่งชาย ก็เคนย่า เข้าใจว่าฟาดไปทั้งที่หนึ่งถึงที่ห้า
สำหรับตัวเอง ก็วิ่งครบระยะ เวลาดีกว่าที่ทำได้ที่จอมบึงสิบนาที ออกมา ห้าชั่วโมงส่ามสิบสี่นาที มาเดินช่วงกิโลที่ สามสิบแปด เพราะดันมีเนินเขามาทิ้งท้าย วิ่งไม่ไหวแล้ว
ถือว่าเที่ยวด้วย วิ่งด้วยสนุกดีคะ เห็นอะไรที่แตกต่างออกไป แล้วก็ได้แต่ฝันว่าสักวันคนไทยจะเล่นกีฬากันเยอะขึ้น รักษาสุขภาพมากขึ้น
just one life, use it!
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
จ๊อกกิ้ง
โพสต์ที่ 131
spot reduction ไม่มีจริงครับ ซิตอัพกับการลดพุงไม่เกี่ยวกัน เราทำได้แค่ลด overall fat ทั่วร่างกายเท่านั้น ร่างกายจะนำไขมันส่วนไหนไปใช้ก่อนหลังขึ้นกับลักษณะเฉพาะของแต่ละคนMr.Dreamer เขียน:อยากถามว่า ถ้าจะลดพุงเนี่ยะ เค้าบอกว่าวิ่งนี่ดีสุดเหรอพี่ เห็นบอกว่าดีกว่าซิตอัพอีก ยังไม่ได้ลองเลยลองถามผู้รู้ก่อน
ซิตอัพ เป็นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ซึ่งกล้ามเนื้อจะสามารถเพิ่มการเผาผลาญพลังงานในแต่ละวัน
วิ่งนี่นอกจากจะเผาผลาญไขมันระหว่างวิ่งแล้ว ยังเพิ่มเมตาโบลิซึ่มหลังจากวิ่งอีกเกือบวัน ดังนั้นจึงนิยมให้วิ่งช่วงเช้ามากกว่าช่วงเย็นเพื่อเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน
ส่วนตัวคิดว่า วิ่ง ดีกว่า ซิตอัพ ชัวร์ แต่ diet สำคัญกว่า วิ่ง อีก
A Cynic Knows the Price of Everything and the Value of Nothing
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
จ๊อกกิ้ง
โพสต์ที่ 132
เรื่อง fat burning zone เนี่ย ผมแนะนำให้ลองอ่าน article ข้างล่างดูครับ ส่วนตัวเชื่อว่า high intensity ได้ผลกว่า low intensity ครับtriathlon เขียน:แอบมาตอบก่อนพี่พอใจคะ
วิ่งน่าจะเป็นการลดน้ำหนักตัวที่ดีที่สุด แต่ถ้าอยากผอม ห้ามวิ่งเร็วนะคะ ให้วิ่งช้าๆ นานๆ เพราะร่างกายใช้พลังงานจากไขมันเป็นหลักถ้าออกกำลังกายไม่เกิน 70% ของ heart rate
ถ้าวิ่งแล้วลดมื้อเย็น โดยเฉพาะงดแป้ง (กินเกาเหลาแทนก๊วยเตี๋ยว) เดือนนึงๆ ลดได้สองสามกิโลสบายๆคะ
Myths Under The Microscope: The Low Intensity Fat Burning Zone & Fasted Cardio
--------------------------------------------------------------------------------
Myths Under The Microscope: The Low Intensity Fat Burning Zone & Fasted Cardio
By Alan Aragon, © 2006
INTRODUCTION
Why do natural bodybuilding contests for the most part look like swim meets minus the pool?
The obvious answer is the relative absence of anabolic and androgenic drugs that enable enhanced athletes to hold on to considerably more muscle under prolonged metabolic stress than natural pre-contest trainees. The other part of the answer is that naturals as a group tend to undermine their efforts by copying the training and nutritional practices of their pharmacologically advantaged brethren.
I wrote this review in the hopes of slowly but surely prying open some minds (including my own) by bringing the facts to light. Sometimes concepts cant be sufficiently conveyed through cyber debates, where emotionally-driven flexing and posturing for the public take priority over honest, objective, and thorough examination of the evidence. Ill take a look at the hard data, as well as the theoretical extrapolations involved with this highly misunderstood topic.
Warning: This is gonna be lengthy, so save this reading for when you can really sit down and buckle up. I highly encourage you to tread slowly and carefully through the material. For you skimmers out there, I provided summaries of the key research points.
THE FAT BURNING ZONE ON TRIAL
Substrate Utilization 101: Origin of the myth
Dietary variables aside, the bodys proportional use of fat for fuel during exercise is dependent upon training intensity. The lower the intensity, the greater the proportion of stored fat is used for fuel. The higher the intensity, the greater proportional use of glycogen and/or the phosphagen system. But this is where the misunderstanding begins. Common sense should make it obvious that although Im burning a greater proportion of stored fat typing this sentence, Getting up and sprinting would have a greater impact on fat reduction despite its lesser proportional use of fat to power the increased intensity. Alas, sufficient investigation of the intensity threshold of maximal net fat oxidation has been done. In whats perhaps the best designed trial of its kind, Achten & Jeukendrup found peak fat oxidation to occur during exercise at 63% VO2 max. This peak level got progressively less beyond that point, and was minimal at 82% VO2 max, near the lactate threshold of 87% [1].
Misunderstanding is perpetuated in fitness circles
It has been widely misconstrued that a greater net amount of fat is burned through lower to moderate intensity work, regardless of study duration and endpoints assessed. In addition the confusion of net fat oxidation with proportional fat oxidation, the postexercise period is critically overlooked. No distinction is ever made between during-exercise fat oxidation, recovery period fat oxidation, total fat oxidation by the end of a 24-hr period, and most importantly, a longer term of several weeks.. Thus, the superiority of lower intensity cardio continues to be touted over the more rigorous stuff that takes half the time to do. Fortunately, we have enough research data to gain a clear understanding. Lets dig in.
DISSECTING THE RESEARCH
Mixed study protocols + mixed results = plenty of mixed-up bodybuilders
As with all research involving applied physiology, the highly mixed set of results is due to a wide variation of study designs in terms subject profile, dietary manipulation, energetic balance, and actual intensities used. Nevertheless, the body of exercise-induced fat oxidation research can be easily deciphered by stratifying it into 3 subgroups: Acute effect (during exercise & immediately after), 24-hr effect, & chronic effect (results over several weeks).
Acute effects spawn ideas for further research
In addition to measuring fat oxidation during exercise, most acute effect trials look at fat oxidation at the 3 to 6 hr mark postexercise [2]. Fat oxidation during exercise tends to be higher in low-intensity treatments, but postexercise fat oxidation tends to be higher in high-intensity treatments. For example, Phelains team compared fat oxidation in at 3hrs postexercise of 75% VO2 max versus the same kcals burned at 50% [3]. Fat oxidation was insignificantly higher during exercise for the 50% group, but was significantly higher for the 75% group 3 hours postexercise. Lees team compared, in college males, the thermogenic and lipolytic effects of exercise pre-fueled with milk + glucose on high versus low-intensity training [4]. Predictably, pre-exercise intake of the milk/glucose solution increased excess postexercise oxygen consumption (EPOC, aka residual thermogenesis) significantly more than the fasted control group in both cases. The high-intensity treatment had more fat oxidation during the recovery period than the low intensity treatment. This implicates pre-fueled high-intensity trainings potential role in optimizing fat reduction while simultaneously setting the stage for quicker recovery.
24-hr effects come closer to reality
You can call it Murphys Law, but the promise of greater fat oxidation seen during and in the early postexercise periods of lower intensity cardio disappears when the effects are measured over 24 hours. Melansons research team was perhaps the first to break the redundancy of studies that only compared effects within a few hours postexercise [5]. In a design involving an even mix of lean, healthy men & women aged 20-45, identical caloric expenditures of 40% VO2 max was compared with 70% VO2 max. Result? No difference in net fat oxidation between the low & high-intensity groups at the 24 hr mark.
Saris & Schrauwen conducted a similar study on obese males using a high-intensity interval protocol versus a low-intensity linear one [6]. There was no difference in fat oxidation between high & low intensity treatments at 24 hrs. In addition, the high-intensity group actually maintained a lower respiratory quotient in postexercise. This means that their fat oxidation was higher than the low-intensity group the rest of the day following the training bout, thus the evening out the end results at 24 hrs.
Chronic effects come even closer
Long-term/Chronic effect studies are the true tests of whatever hints and clues we might get from acute studies. The results of trials carried out over several weeks have obvious validity advantages over shorter ones. They also afford the opportunity to measure changes in body composition, versus mere substrate use proximal to exercise. The common thread running through these trials is that when caloric expenditure during exercise is matched, negligible fat loss differences are seen. The fact relevant to bodybuilding is that high-intensity groups either gain or maintain LBM, whereas the low-intensity groups tend to lose lean mass, hence the high intensity groups experience less net losses in weight [7-9].
The body of research strongly favors high-intensity interval training (HIIT) for both fat loss and lean mass gain/maintenance, even across a broad range of study populations [9-12]. A memorable example of this is work by Tremblays team, observing the effect of 20 weeks of HIIT versus endurance training (ET) on young adults [9]. When energy expenditure between groups was corrected, HIIT group showed a whopping 9 times the fat loss as the ET group. In the HIIT group, biopsies showed an increase of glycolytic enzymes, as well as an increase of 3-hydroxyacyl coenzyme A dehydrogenase (HADH) activity, a marker of fat oxidation. Researchers concluded that the metabolic adaptations in muscle in response to HIIT favor the process of fat oxidation. The mechanisms for these results are still under investigation, but theyre centered around residual thermic and lipolytic effects mediated by enzymatic, morphologic, and beta-adrenergic adaptations in muscle. Linear/steady state comparisons of the 2 types tends to find no difference, except for better cardiovascular fitness gains in the high-intensity groups [13].
Summing up the research findings
In acute trials, fat oxidation during exercise tends to be higher in low-intensity treatments, but postexercise fat oxidation and/or energy expenditure tends to be higher in high-intensity treatments.
Fed subjects consistently experience a greater thermic effect postexercise in both intensity ranges.
In 24-hr trials, there is no difference in fat oxidation between the 2 types, pointing to a delayed rise in fat oxidation in the high-intensity groups which evens out the field.
In long-term studies, both linear high-intensity and HIIT training is superior to lower intensities on the whole for maintaining and/or increasing cardiovascular fitness & lean mass, and are at least as effective, and according to some research, far better at reducing bodyfat.
A Cynic Knows the Price of Everything and the Value of Nothing
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
จ๊อกกิ้ง
โพสต์ที่ 133
FALSE HOPES FOR FASTED CARDIO
The bandwagon is lead by blind horses
Many trainees pigeonhole weight training as an activity exclusively for building muscle, and cardio exclusively for burning fat. On the contrary, weight training can yield very similar results to cardio of similar intensity when 24-hr energy expenditure and macronutrient oxidation is measured [14]. The obvious advantage of weight training is the higher potential for lean mass and strength gains. In the bodybuilding context, cardio should be viewed as merely an adjunctive training mode to further energy expenditure and cross-complement the adaptations specific to weight training. As far as cardio being absolutely necessary for cardiovascular health, well, that depends upon the overall volume and magnitude of your weight training - another topic for another time.
Chaos theory strikes again
On the surface, it seems logical to separate carbs from cardio if you want a maximal degree of fat oxidation to occur during training. But, theres the underlying mistake - focusing on stored fuel usage during training instead of focusing on optimally partitioning exogenous fuel for maximal lipolytic effect around the clock. Put another way, its a better objective to coincide your carb intake with your days thermic peaks, where insulin sensitivity & lean tissue reception to carbs is highest. For some reason, this logic is not easily accepted, nor understood. As we know, human physiology doesnt always cooperate with logic or popular opinion, so lets scrutinize the science behind the claims.
LET THE RESEARCH SPEAK
Carbohydrate ingestion during low-intensity exercise reduces fat oxidation
As far as 3 decades back, Ahlborgs team observed that carb ingestion during low-intensity exercise (25-45% VO2 max) reduced fat oxidation compared to fasted levels [15]. More recently, De Glisezinskis team observed similar results in trained men at 50% VO2 max [16]. Efforts to determine the mechanism behind this phenomenon have been made. Coyles team observed that at 50% VO2 max, carbohydrate availability can directly regulate fat oxidation by coordinating hyperinsulinemia to inhibit long-chain fatty acid transport into mitochondria [17].
Carbohydrates effect on fat oxidation during moderate-intensity exercise depends on conditioning level
Civitareses team found glucose ingestion during exercise to blunt lipolysis via decreasing the gene expression involved in fat oxidation in untrained men [18]. Wallis team saw suppressed fat oxidation in moderately trained men & women when glucose was ingested during exercise [19].
In contrast to the above trials on beginning and intermediate trainees, Coyles team repeatedly showed that carb ingestion during moderate-intensity (65-75% VO2 max) does not reduce fat oxidation during the first 120 min of exercise in trained men [20,21]. Interestingly, the intensity margin proximal to where fat oxidation is highest was unaffected by carb ingestion, and remained so for the first 2 hours of exercise.
Horowitz team examined the effect of a during-training solution of high-glycemic carbs on moderately trained men undergoing either low intensity exercise (25% VO2 max) or high-moderate intensity (68% VO2 max) [22]. Similar results to Coyles work were seen. Subjects completed a 2-hr cycling bout, and ingested the carb solution at 30, 60, and 90 minutes in. In the low-intensity treatment, fat oxidation was not reduced below fasted-state control groups levels until 80-90 min of exercise. In the 68% group, no difference in fat oxidation was seen whether subjects were fasted or fed throughout the trial.
Further supporting the evidence in favor of fed cardio in trained men, Febbraios team investigated the effects of carb ingestion pre & during training in easily one of the best-designed trials on this topic [23]. Subjects exercised for 2 hrs at an intensity level of 63% VO2 max, which is now known as the point of maximal fat oxidation during exercise [1]. Result? Pre & during-training carbs increased performance - and there was no difference in total fat oxidation between the fasted and fed subjects. Despite the elevated insulin levels in the carb-fueled groups, there was no difference in fat availability or fat utilization.
Summing up the research findings
At low intensities (25-50% VO2 max), carbs during exercise reduce fat oxidation compared to fasted trainees.
At moderate intensities (63-68% VO2 max) carbs during exercise may reduce fat oxidation in untrained subjects, but do not reduce fat oxidation in trained subjects for at least the first 80-120 minutes of exercise.
Carbohydrate during exercise spares liver glycogen, which is among the most critical factors for anticatabolism during hypocaloric & other conditions of metabolic stress. This protective hepatic effect is absent in fasted cardio.
At the established intensity level of peak fat oxidation (~63% VO2 max), carbohydrate increases performance without any suppression of fat oxidation in trained subjects.
The bandwagon is lead by blind horses
Many trainees pigeonhole weight training as an activity exclusively for building muscle, and cardio exclusively for burning fat. On the contrary, weight training can yield very similar results to cardio of similar intensity when 24-hr energy expenditure and macronutrient oxidation is measured [14]. The obvious advantage of weight training is the higher potential for lean mass and strength gains. In the bodybuilding context, cardio should be viewed as merely an adjunctive training mode to further energy expenditure and cross-complement the adaptations specific to weight training. As far as cardio being absolutely necessary for cardiovascular health, well, that depends upon the overall volume and magnitude of your weight training - another topic for another time.
Chaos theory strikes again
On the surface, it seems logical to separate carbs from cardio if you want a maximal degree of fat oxidation to occur during training. But, theres the underlying mistake - focusing on stored fuel usage during training instead of focusing on optimally partitioning exogenous fuel for maximal lipolytic effect around the clock. Put another way, its a better objective to coincide your carb intake with your days thermic peaks, where insulin sensitivity & lean tissue reception to carbs is highest. For some reason, this logic is not easily accepted, nor understood. As we know, human physiology doesnt always cooperate with logic or popular opinion, so lets scrutinize the science behind the claims.
LET THE RESEARCH SPEAK
Carbohydrate ingestion during low-intensity exercise reduces fat oxidation
As far as 3 decades back, Ahlborgs team observed that carb ingestion during low-intensity exercise (25-45% VO2 max) reduced fat oxidation compared to fasted levels [15]. More recently, De Glisezinskis team observed similar results in trained men at 50% VO2 max [16]. Efforts to determine the mechanism behind this phenomenon have been made. Coyles team observed that at 50% VO2 max, carbohydrate availability can directly regulate fat oxidation by coordinating hyperinsulinemia to inhibit long-chain fatty acid transport into mitochondria [17].
Carbohydrates effect on fat oxidation during moderate-intensity exercise depends on conditioning level
Civitareses team found glucose ingestion during exercise to blunt lipolysis via decreasing the gene expression involved in fat oxidation in untrained men [18]. Wallis team saw suppressed fat oxidation in moderately trained men & women when glucose was ingested during exercise [19].
In contrast to the above trials on beginning and intermediate trainees, Coyles team repeatedly showed that carb ingestion during moderate-intensity (65-75% VO2 max) does not reduce fat oxidation during the first 120 min of exercise in trained men [20,21]. Interestingly, the intensity margin proximal to where fat oxidation is highest was unaffected by carb ingestion, and remained so for the first 2 hours of exercise.
Horowitz team examined the effect of a during-training solution of high-glycemic carbs on moderately trained men undergoing either low intensity exercise (25% VO2 max) or high-moderate intensity (68% VO2 max) [22]. Similar results to Coyles work were seen. Subjects completed a 2-hr cycling bout, and ingested the carb solution at 30, 60, and 90 minutes in. In the low-intensity treatment, fat oxidation was not reduced below fasted-state control groups levels until 80-90 min of exercise. In the 68% group, no difference in fat oxidation was seen whether subjects were fasted or fed throughout the trial.
Further supporting the evidence in favor of fed cardio in trained men, Febbraios team investigated the effects of carb ingestion pre & during training in easily one of the best-designed trials on this topic [23]. Subjects exercised for 2 hrs at an intensity level of 63% VO2 max, which is now known as the point of maximal fat oxidation during exercise [1]. Result? Pre & during-training carbs increased performance - and there was no difference in total fat oxidation between the fasted and fed subjects. Despite the elevated insulin levels in the carb-fueled groups, there was no difference in fat availability or fat utilization.
Summing up the research findings
At low intensities (25-50% VO2 max), carbs during exercise reduce fat oxidation compared to fasted trainees.
At moderate intensities (63-68% VO2 max) carbs during exercise may reduce fat oxidation in untrained subjects, but do not reduce fat oxidation in trained subjects for at least the first 80-120 minutes of exercise.
Carbohydrate during exercise spares liver glycogen, which is among the most critical factors for anticatabolism during hypocaloric & other conditions of metabolic stress. This protective hepatic effect is absent in fasted cardio.
At the established intensity level of peak fat oxidation (~63% VO2 max), carbohydrate increases performance without any suppression of fat oxidation in trained subjects.
A Cynic Knows the Price of Everything and the Value of Nothing
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
จ๊อกกิ้ง
โพสต์ที่ 134
DISCUSSION
The current facts have been presented, and the bases for conclusion should be self-evident. Let me clarify that HIIT and linear high-intensity cardio are not the best and only ways to go. Many folks have perfectly legitimate orthopedic, cardiac, and even psychological reasons to avoid them. Not only that, I sincerely believe that both low and high-intensity cardio have unique benefits unto themselves. Optimally, both types should be done on either a phasic or rotational basis. Saying that one is bottom-line superior to the other for improvement in body composition is as false as blanketly saying 5 reps per set is superior to 15. On the contrary, there is well-established benefit in periodizing training variables, or as they say in the trenches, âœmixing it upâ
The current facts have been presented, and the bases for conclusion should be self-evident. Let me clarify that HIIT and linear high-intensity cardio are not the best and only ways to go. Many folks have perfectly legitimate orthopedic, cardiac, and even psychological reasons to avoid them. Not only that, I sincerely believe that both low and high-intensity cardio have unique benefits unto themselves. Optimally, both types should be done on either a phasic or rotational basis. Saying that one is bottom-line superior to the other for improvement in body composition is as false as blanketly saying 5 reps per set is superior to 15. On the contrary, there is well-established benefit in periodizing training variables, or as they say in the trenches, âœmixing it upâ
A Cynic Knows the Price of Everything and the Value of Nothing
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
จ๊อกกิ้ง
โพสต์ที่ 135
เยี่ยมจริงๆครับ ...triathlon เขียน:เพิ่งกลับจากเคแอลมาเมื่อคืนวันเสาร์คะ ขอบคุณคุณปุยมากคะ พอดีจองโรงแรมที่เป็นสปอนเซอร์งานวิ่ง ใกล้จุดปล่อยตัว ไม่แพงด้วย แค่พันห้าร้อยเอง
เมื่อวันอาทิตย์มีงานวิ่ง AmBank KL International Marathon คะ มีนักวิ่งแนวหน้าเมืองไทยไปร่วมด้วย เข้าใจว่าคุณสุนิสา สายลมเย็น นักวิ่งมาราธอนมือหนึ่งของไทยเข้ามาเป็นที่สอง ที่หนึ่งนี่ เคนย่า ตามระเบียบคะ
ส่วนนักวิ่งชาย ก็เคนย่า เข้าใจว่าฟาดไปทั้งที่หนึ่งถึงที่ห้า
สำหรับตัวเอง ก็วิ่งครบระยะ เวลาดีกว่าที่ทำได้ที่จอมบึงสิบนาที ออกมา ห้าชั่วโมงส่ามสิบสี่นาที มาเดินช่วงกิโลที่ สามสิบแปด เพราะดันมีเนินเขามาทิ้งท้าย วิ่งไม่ไหวแล้ว
ถือว่าเที่ยวด้วย วิ่งด้วยสนุกดีคะ เห็นอะไรที่แตกต่างออกไป แล้วก็ได้แต่ฝันว่าสักวันคนไทยจะเล่นกีฬากันเยอะขึ้น รักษาสุขภาพมากขึ้น
อยากฟังด้วยครับว่า เตรียมตัวอย่างไร
ระหว่างวิ่งรู้สึกอย่างไร และหลังจากวิ่งแล้วร่างกายเป็นอย่างไร
วิ่ง 40 กว่าโลแบบนี้ยิ่งวิ่งยิ่งแข็งแรง หรือว่าเป็นการฝืนร่างกายมากเกินไป
อยากทราบมากเลยครับ
ปล. พอจะแย้มๆ อายุได้มั้ยครับ ... :oops:
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- Verified User
- โพสต์: 551
- ผู้ติดตาม: 0
จ๊อกกิ้ง
โพสต์ที่ 136
วิ่งมาราธอนเป็นเรื่องของการเตรียมตัว และรู้จักตัวเองคะ ไม่ยากอย่างที่คิด แต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้จะวิ่งไปทำไมมั้ง
อายุสี่สิบแล้วคะ แต่ทุกวันนี้ ไปงานวิ่งเจอผู้อาวุโสอายุหกสิบกว่านะคะ ชื่อป้าสมพิศ แกวิ่งมาราธอนปีหนึ่งๆ เป็นสิบครั้ง ถ้าเจอ จะไม่เชื่อเลยว่าเธอหกสิบกว่าแล้ว ดูเหมือนแค่ห้าสิบเอง :lol:
ปรกติ ตามตำราฝรั่ง ตารางซ้อมวิ่งมาราธอนแบบแค่ให้ครบระยะ ไม่เน้นทำเวลา ซ้อมสี่เดือนก็พอ แต่ความเห็นส่วนตัวนะคะ ถ้าไม่ใช่คนที่เล่นกีฬาสม่ำเสมออยู่แล้ว น่าจะวิ่งสักสองปีก่อนค่อยลงวิ่งมาราธอน
เพราะถ้าลงมาราธอนแรกแล้วบอบช้ำ หรือบาดเจ็บ อาจเลิกวิ่งไปเลยก็ได้
โดยส่วนตัว เชื่อว่าการวิ่งมาราธอนเปลี่ยนวิถีชีวิตตัวเองเลยคะ :lol: จากคนที่วิ่งหาความสุขที่อยู่นอกตัว คิดว่าความสุขคือการมีวัตถุเยอะๆ มีเงิน มีตำแหน่ง กลับพบว่าจริงๆแล้ววิ่งไปเรื่อยๆคนเดียว สงบดี เงียบดี วิ่งเสร็จหิวจัด ข้าวไข่เจียวก้อร่อย กลับบ้านนอนหลับสบาย ความสุขในชีวิตกลายเป็นมาอยู่ที่ใจ :lol:
ก่อนวิ่งก็ซ้อมนะคะ แต่คราวนี้กินบุญเก่า เพราะมกรา วิ่งมาราธอนไปสองงาน ที่จอมบึงกับขอนแก่น คราวนี้ ไม่ซ้อมหนักมาก ก็จบได้ด้วยดี
วิ่งเสร็จ เหนื่อยมากคะ แดดก็ร้อน ย่องกับเพื่อนอีกสองคนกลับโรงแรม แท็กซี่พาไปส่งผิดที่อีก ตัวเราก็เหม็นเพราะเหงื่อโทรม แท็กซี่ไม่อยากให้ขึ้นรถ ฮิๆๆๆ เป็นการผจญภัยไปอีกแบบ ลงจากแท็กซี่ เลย "ถีบ" ไปอีกห้าริงกิต วันหลังเจอนักวิ่งจะได้รีบๆรับขึ้นรถ 8)
อาบน้ำ สระผม อัดก๊วยเตี๋ยวหนึ่งชาม อัดยาแก้ปวดสองเม็ด แล้วนอนไปสามชั่วโมง
ตื่นขึ้นมา เช็คเอ้าท์ ไปหาข้าวกินที่ทวินทาวเวอร์ คราวนี้ กินดะแบบไม่เกรงใจความอ้วน สเต็ก หอยนางรมสด หอยนางรมอบชีส เบียร์สองแก้ว 8)
ก็เดินได้นะคะ แต่เวลาขึ้นลงบันไดจะมีครางนิดๆ เซ็กซี่หน่อยๆ
ขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพ ดันไม่หลับ เลยเล่นเกมคอมพิวเตอร์จนแบตหมด ถึงบ้านสลบเหมือด เช้าวันจันทร์มาทำงาน มีอาการเจ็บหน้าขา เจ็บนิ้วเท้า เมื่อคืนตื่นมากลางดึก ระบบหน้าขา เลยอัดยาอีกสองเม็ด
วันนี้สบายคะ พรุ่งนี้ค่อยเข้ายิม ปั่นจักรยานเล่น
อาทิตย์หน้าค่อยกลับมาวิ่งใหม่ :lol:
ลองดูสักครั้งไหมคะ
มีคนบอกว่า วิ่งมาราธอนหนึ่งครั้ง ลดการเกิดหัวใจวายไปเจ็ดปี
ตัวเองถือว่าอ้วน นะคะ แต่ความดันต่ำ น้ำตาลและไขมันในเลือดต่ำ จนหมอทักว่าดูเป็นคนที่ overweight แต่ตรวจสุขภาพผ่านกระจุย เรียกว่าฟิตกว่าคนผอมๆที่ไม่เล่นกีฬา
เชียร์หุ้นไม่ได้ แต่เชียร์การวิ่งนี่ สุดยอดคะ รับประกันซ่อมฟรี :lol:
อายุสี่สิบแล้วคะ แต่ทุกวันนี้ ไปงานวิ่งเจอผู้อาวุโสอายุหกสิบกว่านะคะ ชื่อป้าสมพิศ แกวิ่งมาราธอนปีหนึ่งๆ เป็นสิบครั้ง ถ้าเจอ จะไม่เชื่อเลยว่าเธอหกสิบกว่าแล้ว ดูเหมือนแค่ห้าสิบเอง :lol:
ปรกติ ตามตำราฝรั่ง ตารางซ้อมวิ่งมาราธอนแบบแค่ให้ครบระยะ ไม่เน้นทำเวลา ซ้อมสี่เดือนก็พอ แต่ความเห็นส่วนตัวนะคะ ถ้าไม่ใช่คนที่เล่นกีฬาสม่ำเสมออยู่แล้ว น่าจะวิ่งสักสองปีก่อนค่อยลงวิ่งมาราธอน
เพราะถ้าลงมาราธอนแรกแล้วบอบช้ำ หรือบาดเจ็บ อาจเลิกวิ่งไปเลยก็ได้
โดยส่วนตัว เชื่อว่าการวิ่งมาราธอนเปลี่ยนวิถีชีวิตตัวเองเลยคะ :lol: จากคนที่วิ่งหาความสุขที่อยู่นอกตัว คิดว่าความสุขคือการมีวัตถุเยอะๆ มีเงิน มีตำแหน่ง กลับพบว่าจริงๆแล้ววิ่งไปเรื่อยๆคนเดียว สงบดี เงียบดี วิ่งเสร็จหิวจัด ข้าวไข่เจียวก้อร่อย กลับบ้านนอนหลับสบาย ความสุขในชีวิตกลายเป็นมาอยู่ที่ใจ :lol:
ก่อนวิ่งก็ซ้อมนะคะ แต่คราวนี้กินบุญเก่า เพราะมกรา วิ่งมาราธอนไปสองงาน ที่จอมบึงกับขอนแก่น คราวนี้ ไม่ซ้อมหนักมาก ก็จบได้ด้วยดี
วิ่งเสร็จ เหนื่อยมากคะ แดดก็ร้อน ย่องกับเพื่อนอีกสองคนกลับโรงแรม แท็กซี่พาไปส่งผิดที่อีก ตัวเราก็เหม็นเพราะเหงื่อโทรม แท็กซี่ไม่อยากให้ขึ้นรถ ฮิๆๆๆ เป็นการผจญภัยไปอีกแบบ ลงจากแท็กซี่ เลย "ถีบ" ไปอีกห้าริงกิต วันหลังเจอนักวิ่งจะได้รีบๆรับขึ้นรถ 8)
อาบน้ำ สระผม อัดก๊วยเตี๋ยวหนึ่งชาม อัดยาแก้ปวดสองเม็ด แล้วนอนไปสามชั่วโมง
ตื่นขึ้นมา เช็คเอ้าท์ ไปหาข้าวกินที่ทวินทาวเวอร์ คราวนี้ กินดะแบบไม่เกรงใจความอ้วน สเต็ก หอยนางรมสด หอยนางรมอบชีส เบียร์สองแก้ว 8)
ก็เดินได้นะคะ แต่เวลาขึ้นลงบันไดจะมีครางนิดๆ เซ็กซี่หน่อยๆ
ขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพ ดันไม่หลับ เลยเล่นเกมคอมพิวเตอร์จนแบตหมด ถึงบ้านสลบเหมือด เช้าวันจันทร์มาทำงาน มีอาการเจ็บหน้าขา เจ็บนิ้วเท้า เมื่อคืนตื่นมากลางดึก ระบบหน้าขา เลยอัดยาอีกสองเม็ด
วันนี้สบายคะ พรุ่งนี้ค่อยเข้ายิม ปั่นจักรยานเล่น
อาทิตย์หน้าค่อยกลับมาวิ่งใหม่ :lol:
ลองดูสักครั้งไหมคะ
มีคนบอกว่า วิ่งมาราธอนหนึ่งครั้ง ลดการเกิดหัวใจวายไปเจ็ดปี
ตัวเองถือว่าอ้วน นะคะ แต่ความดันต่ำ น้ำตาลและไขมันในเลือดต่ำ จนหมอทักว่าดูเป็นคนที่ overweight แต่ตรวจสุขภาพผ่านกระจุย เรียกว่าฟิตกว่าคนผอมๆที่ไม่เล่นกีฬา
เชียร์หุ้นไม่ได้ แต่เชียร์การวิ่งนี่ สุดยอดคะ รับประกันซ่อมฟรี :lol:
just one life, use it!
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
จ๊อกกิ้ง
โพสต์ที่ 137
ขอบคุณพี่ triathlon มากครับ
อ่านสนุกได้ความรู้ ได้รับฟังประสบการณ์ตรงจากนักวิ่งมาราธอน
มีประโยชน์มากครับ
ถ้าให้ผมไปวิ่ง มาราธอน ตอนนี้ ผลลัพธ์คงไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่งระหว่าง
1. หัวใจวายตาย หรือ
2. เค้าเลิกงานเก็บของกันเรียบร้อยแล้ว ผมก็ยังไม่เข้าเส้นชัย ... :lol:
เรื่องการวิ่งทำให้ชีวิตเปลี่ยน และเป็นความสุขที่ใครๆก็เป็นเจ้าของได้
อ่านแล้วเข้าใจ และเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเลยครับ
ผมต้องขอขอบคุณพี่พอใจที่ตั้งกระทู้นี้ ชอบกระทู้นี้มาก
ผมไม่ได้จ๊อกมาหลายปี พอมาอ่านก็อยากวิ่งบ้าง
ไปหารองเท้าวิ่ง จนได้วิ่งเก้าแรกจนได้
ในระหว่างการวิ่งครั้งแรกๆ ผมสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงเลยครับ
คิดในใจว่า เรามัวไปทำอะไรอยู่ตั้งนาน
ได้วิ่งไปท่ามกลางความร่มรื่นของต้นไม้ 2 ข้างทาง
รู้สึกมีความสุขและอิ่มเอมใจ สดชื่นบอกไม่ถูก
ตอนนี้รู้สึกว่าชักจะติดการวิ่งเหมือนเมื่อก่อนแล้วครับ ...
หลังจากวิ่งครั้งแรกผ่านไป ผมก็มีอาการเหมือนกันเปี๊ยบ
ขึ้นบันไดไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าลงบันไดล่ะก็ อยากจะครางจริงๆ
แต่กลัวคนรอบข้างเค้าจะว่าเราว่า ไอ้นี่ ... โรคจิต :shock:
ปกติผมวิ่งเพื่อสุขภาพ ไม่เคยไปวิ่งงานต่างๆเลย (ยกเว้นตอนเด็กๆ)
เลยวิ่งอย่างมากก็ไม่เกิน 1 ชม. แต่ถ้าจะลงวิ่งตามงานจริงๆ
ผมขอ Mini ก่อนแล้วกัน ถ้าอยู่ตัวแล้วค่อยมาเป็น Half แบบพี่พอใจ
ส่วนมาราธอน ขอสักครั้งในชีวิต ก็น่าจะดีเหมือนกันครับ ... :D
อ่านสนุกได้ความรู้ ได้รับฟังประสบการณ์ตรงจากนักวิ่งมาราธอน
มีประโยชน์มากครับ
ถ้าให้ผมไปวิ่ง มาราธอน ตอนนี้ ผลลัพธ์คงไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่งระหว่าง
1. หัวใจวายตาย หรือ
2. เค้าเลิกงานเก็บของกันเรียบร้อยแล้ว ผมก็ยังไม่เข้าเส้นชัย ... :lol:
เรื่องการวิ่งทำให้ชีวิตเปลี่ยน และเป็นความสุขที่ใครๆก็เป็นเจ้าของได้
อ่านแล้วเข้าใจ และเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเลยครับ
ผมต้องขอขอบคุณพี่พอใจที่ตั้งกระทู้นี้ ชอบกระทู้นี้มาก
ผมไม่ได้จ๊อกมาหลายปี พอมาอ่านก็อยากวิ่งบ้าง
ไปหารองเท้าวิ่ง จนได้วิ่งเก้าแรกจนได้
ในระหว่างการวิ่งครั้งแรกๆ ผมสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงเลยครับ
คิดในใจว่า เรามัวไปทำอะไรอยู่ตั้งนาน
ได้วิ่งไปท่ามกลางความร่มรื่นของต้นไม้ 2 ข้างทาง
รู้สึกมีความสุขและอิ่มเอมใจ สดชื่นบอกไม่ถูก
ตอนนี้รู้สึกว่าชักจะติดการวิ่งเหมือนเมื่อก่อนแล้วครับ ...
หลังจากวิ่งครั้งแรกผ่านไป ผมก็มีอาการเหมือนกันเปี๊ยบ
ขึ้นบันไดไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าลงบันไดล่ะก็ อยากจะครางจริงๆ
แต่กลัวคนรอบข้างเค้าจะว่าเราว่า ไอ้นี่ ... โรคจิต :shock:
ปกติผมวิ่งเพื่อสุขภาพ ไม่เคยไปวิ่งงานต่างๆเลย (ยกเว้นตอนเด็กๆ)
เลยวิ่งอย่างมากก็ไม่เกิน 1 ชม. แต่ถ้าจะลงวิ่งตามงานจริงๆ
ผมขอ Mini ก่อนแล้วกัน ถ้าอยู่ตัวแล้วค่อยมาเป็น Half แบบพี่พอใจ
ส่วนมาราธอน ขอสักครั้งในชีวิต ก็น่าจะดีเหมือนกันครับ ... :D
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- Verified User
- โพสต์: 341
- ผู้ติดตาม: 0
จ๊อกกิ้ง
โพสต์ที่ 138
ขอบคุณพี่ triathlon มากครับ อ่านแล้วรู้สึกมีกำลังใจขึ้นเยอะเลย เมื่อก่อนสมัยเรียนผมจะวิ่งทุกเย็น วันละ 1 ชั่วโมง ระยะทางไม่รู้เหมือนกัน (คิดว่าประมาณ 10 กม.) แต่พอทำงานแล้วก็ไม่ได้ออกกำลังกายเลย หลายปีผ่านไป ตอนนี้มีเวลาเยอะขึ้น กลับมาวิ่งอีกที แค่เหยาะๆ 10 นาทีก็ระบมไปหมดทั้งตัว เลยต้องเริ่มจากการเดินก่อน กว่าร่างกายจะเข้าที่เข้าทางผมต้องเดินอยู่ 2 อาทิตย์ เดินทุกวันๆ ละ 1 ชั่วโมง ทุกวันนี้วิ่งทำเวลาได้ 1 ชั่วโมงเหมือนเดิมแล้ว แต่ความเร็วไม่ถึงครึ่งของที่เคยวิ่งได้ คงต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าจะเข้าที่
เมื่อก่อนผมเห็นมีรายการวิ่งมาราธอนทีไรก็อยากจะเข้าร่วมเหมือนกัน อยากรู้ขีดจำกัดของตัวเอง แต่ไม่เคยได้ไปเพราะอยู่ต่างจังหวัด
เห็นด้วยกับพี่ครับ ว่าวิ่งแล้วมีความสุขดีจริงๆ รู้สึกสงบ เงียบ บอกไม่ถูก ตอนนี้ยังกลับไปไม่ถึงจุดนั้น แต่กำลังพยายามอยู่
เมื่อก่อนผมเห็นมีรายการวิ่งมาราธอนทีไรก็อยากจะเข้าร่วมเหมือนกัน อยากรู้ขีดจำกัดของตัวเอง แต่ไม่เคยได้ไปเพราะอยู่ต่างจังหวัด
เห็นด้วยกับพี่ครับ ว่าวิ่งแล้วมีความสุขดีจริงๆ รู้สึกสงบ เงียบ บอกไม่ถูก ตอนนี้ยังกลับไปไม่ถึงจุดนั้น แต่กำลังพยายามอยู่
-
- Verified User
- โพสต์: 551
- ผู้ติดตาม: 0
จ๊อกกิ้ง
โพสต์ที่ 139
พวกเราชาววีไอ มาเตรียมไปวิ่งเก้ากิโลงานยูเอ็นกันดีกว่า
มีเวลาเตรียมตัวอีกหลายเดือน คนวิ่งเป็นหมื่นๆ ปิดถนนราชดำเนินให้วิ่งด้วยนะคะ สมัครไม่กี่ร้อย ได้เสื้อวิ่งไนกี้หนึ่งตัวคุ้ม
ที่สำคัญสุขภาพเราจะดีขึ้นมากๆ อันนี้ เงินทองมีมาก แต่ถ้าสุขภาพไม่ดีก้ไม่ไหวนะคะ
พี่พอใจช่วยเป็นหัวขบวนนำน้องๆหน่อยดีไหมคะ :lol:
มีเวลาเตรียมตัวอีกหลายเดือน คนวิ่งเป็นหมื่นๆ ปิดถนนราชดำเนินให้วิ่งด้วยนะคะ สมัครไม่กี่ร้อย ได้เสื้อวิ่งไนกี้หนึ่งตัวคุ้ม
ที่สำคัญสุขภาพเราจะดีขึ้นมากๆ อันนี้ เงินทองมีมาก แต่ถ้าสุขภาพไม่ดีก้ไม่ไหวนะคะ
พี่พอใจช่วยเป็นหัวขบวนนำน้องๆหน่อยดีไหมคะ :lol:
just one life, use it!
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
จ๊อกกิ้ง
โพสต์ที่ 140
ดีเลยครับ ไหนๆก็มีก๊วนแบด แล้วtriathlon เขียน:พวกเราชาววีไอ มาเตรียมไปวิ่งเก้ากิโลงานยูเอ็นกันดีกว่า
มีเวลาเตรียมตัวอีกหลายเดือน คนวิ่งเป็นหมื่นๆ ปิดถนนราชดำเนินให้วิ่งด้วยนะคะ สมัครไม่กี่ร้อย ได้เสื้อวิ่งไนกี้หนึ่งตัวคุ้ม
ที่สำคัญสุขภาพเราจะดีขึ้นมากๆ อันนี้ เงินทองมีมาก แต่ถ้าสุขภาพไม่ดีก้ไม่ไหวนะคะ
พี่พอใจช่วยเป็นหัวขบวนนำน้องๆหน่อยดีไหมคะ :lol:
มีก๊วนวิ่งวีไออีกก๊วน ก็เข้าท่าดีเหมือนกัน
ดูซิ ... ใครจะเข้าเส้นชัยคนแรก ... :D
งานจัดขึ้นในเดือน ต.ค.
http://www.thailandmarathon.org/undayrun.shtml
มีเวลาเตรียมตัวเหลือเฟือครับ ...
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- Verified User
- โพสต์: 1067
- ผู้ติดตาม: 0
จ๊อกกิ้ง
โพสต์ที่ 141
triathlon เขียน:พวกเราชาววีไอ มาเตรียมไปวิ่งเก้ากิโลงานยูเอ็นกันดีกว่า
มีเวลาเตรียมตัวอีกหลายเดือน คนวิ่งเป็นหมื่นๆ ปิดถนนราชดำเนินให้วิ่งด้วยนะคะ สมัครไม่กี่ร้อย ได้เสื้อวิ่งไนกี้หนึ่งตัวคุ้ม
ที่สำคัญสุขภาพเราจะดีขึ้นมากๆ อันนี้ เงินทองมีมาก แต่ถ้าสุขภาพไม่ดีก้ไม่ไหวนะคะ
พี่พอใจช่วยเป็นหัวขบวนนำน้องๆหน่อยดีไหมคะ :lol:
อ่านพี่ triathlon เขียนแล้วเริ่มอยากลองตะหงิด ๆ
เก้าโลก็เก้าโลครับ ตายเป็นตาย
พรุ่งนี้ผมเริ่มด้วยข้าวขาหมูเลยละกัน :lol:
... จุดเริ่มต้นของคนเราไม่สำคัญ
มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
จ๊อกกิ้ง
โพสต์ที่ 143
[quote="ปุย"]
link คุณหวี มันของปีที่แล้วนี่ oct 06 และ 10 km ด้วย ไม่มีเก้าโลเลย
link คุณหวี มันของปีที่แล้วนี่ oct 06 และ 10 km ด้วย ไม่มีเก้าโลเลย
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- Verified User
- โพสต์: 551
- ผู้ติดตาม: 0
จ๊อกกิ้ง
โพสต์ที่ 145
งานวิ่งยูเอ็นนี่เขาเรียกว่า 10 K run แต่ระยะที่วิ่งจริงๆวัดจากนาฬิกา GPS เนี่ยเก้ากิโลกว่าๆคะ
คุณโอ วิ่งสามโลไม่ไหวเนี่ย วิ่งเร็วไปรึเปล่าคะ ถ้าวิ่งช้าลง พี่ว่าระดับคุณนี่ สิบกิโลหมูๆนะ เล่นกีฬาอย่างอื่นอยู่แล้วด้วย
จริงๆ งานวิ่งเขามีจัดกันทุกอาทิตย์นะคะ อย่างกระทรวงสาธาณสุขที่นนทบุรี อาทิตย์นี้ก็มีวิ่ง เป็นวิ่งการกุศลด้วย ค่าสมัครสองร้อยบาท ได้เสื้อหนึ่งตัว วิ่งครบระยะได้เหรียญกลับบ้านไปโม้กับคนรอบข้าง :lol:
แถมค่าสมัครนี่ คนจัดเอาไปบริจาคให้สมคนโรคข้อและกระดูก (หมายถึงงานอาทิตย์นี้นะคะ)
แต่ต้องตื่นเช้านิดนึง เพราะปล่อยตัวหกโมงเช้า
แต่ตัวเอง ขอเบี้ยวนะคะ กะไปปั่นจักรยานที่มอเตอร์เวย์
คุณโอ วิ่งสามโลไม่ไหวเนี่ย วิ่งเร็วไปรึเปล่าคะ ถ้าวิ่งช้าลง พี่ว่าระดับคุณนี่ สิบกิโลหมูๆนะ เล่นกีฬาอย่างอื่นอยู่แล้วด้วย
จริงๆ งานวิ่งเขามีจัดกันทุกอาทิตย์นะคะ อย่างกระทรวงสาธาณสุขที่นนทบุรี อาทิตย์นี้ก็มีวิ่ง เป็นวิ่งการกุศลด้วย ค่าสมัครสองร้อยบาท ได้เสื้อหนึ่งตัว วิ่งครบระยะได้เหรียญกลับบ้านไปโม้กับคนรอบข้าง :lol:
แถมค่าสมัครนี่ คนจัดเอาไปบริจาคให้สมคนโรคข้อและกระดูก (หมายถึงงานอาทิตย์นี้นะคะ)
แต่ต้องตื่นเช้านิดนึง เพราะปล่อยตัวหกโมงเช้า
แต่ตัวเอง ขอเบี้ยวนะคะ กะไปปั่นจักรยานที่มอเตอร์เวย์
just one life, use it!
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
จ๊อกกิ้ง
โพสต์ที่ 146
[quote="triathlon"]
แต่ตัวเอง ขอเบี้ยวนะคะ กะไปปั่นจักรยานที่มอเตอร์เวย์
แต่ตัวเอง ขอเบี้ยวนะคะ กะไปปั่นจักรยานที่มอเตอร์เวย์
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- Verified User
- โพสต์: 307
- ผู้ติดตาม: 0
จ๊อกกิ้ง
โพสต์ที่ 147
เพิ่งรู้ครับว่าคุณtriathlon รุ่นเดียวกับผม แต่เล่นไตรกีฬา วิ่งมาราธอน โอสุดยอด ผู้ชายชิดซ้ายเลย
ดีครับเชียร์หุ้นไม่ได้ เชียร์วิ่งออกกำลังกายดีกว่า
ช่วงนี้ผมก็ขอเว้นวรรคคุยเรื่องหุ้น เหมือนกัน
ว่าแต่พี่พอใจ แกหายเงียบไป สงสัยพักร้อน
เมื่อวานลองทดสอบอีก 10 กม. เวลาดีขึ้นนิดหน่อย 48 นาที 22 วิ
รุ่นพี่บอกยังไม่ดี ต้องเฉลี่ยไม่เกิน 4 นาที/กม. โอ้จอร์จ คงต้องฝึกอีกนาน เหอ เหอ
หัวหินเที่ยวนี้ คุณtriathlon ลงด้วยหรือเปล่าครับ ผมอาจจะไป ดูก่อน
_________________
จงอย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่เห็น
ดีครับเชียร์หุ้นไม่ได้ เชียร์วิ่งออกกำลังกายดีกว่า
ช่วงนี้ผมก็ขอเว้นวรรคคุยเรื่องหุ้น เหมือนกัน
ว่าแต่พี่พอใจ แกหายเงียบไป สงสัยพักร้อน
เมื่อวานลองทดสอบอีก 10 กม. เวลาดีขึ้นนิดหน่อย 48 นาที 22 วิ
รุ่นพี่บอกยังไม่ดี ต้องเฉลี่ยไม่เกิน 4 นาที/กม. โอ้จอร์จ คงต้องฝึกอีกนาน เหอ เหอ
หัวหินเที่ยวนี้ คุณtriathlon ลงด้วยหรือเปล่าครับ ผมอาจจะไป ดูก่อน
_________________
จงอย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่เห็น
-
- Verified User
- โพสต์: 307
- ผู้ติดตาม: 0
จ๊อกกิ้ง
โพสต์ที่ 148
อ่านแล้วหิวเลย ขาหมูๆๆๆๆๆๆ เที่ยงพอดี :ep:capo เขียน:อ่านพี่ triathlon เขียนแล้วเริ่มอยากลองตะหงิด ๆ
เก้าโลก็เก้าโลครับ ตายเป็นตาย
พรุ่งนี้ผมเริ่มด้วยข้าวขาหมูเลยละกัน
-
- Verified User
- โพสต์: 551
- ผู้ติดตาม: 0
จ๊อกกิ้ง
โพสต์ที่ 149
กลางวันนี้ ขออนุญาตหรู พาน้องที่เคยทำงานด้วยกันไปเรียนบะหมี่ญี่ปุ่นร้านชิบูย่า :o เส้นบะหมี่สด อร่อยมาก
ตามด้วยโรตีทิชชู บางกรอบราดนมข้นหวาน แถมด้วยโอวัลตินเย็นอีกถ้วย
หนึ่งสัปดาห์หลังวิ่งมาราธอน จะขอบคุณตัวเองด้วยการกินไม่ยั้งคะ อาทิตยืหน้าค่อยห้ามใจ 8)
งานหัวหิน ไม่ไปแน่ๆคะ ไปวิ่งปีที่แล้ว เจอเด็กเทน้ำทิ้งต่อหน้า มีคนตามหลังมาอีกเป็นสิบ แดดก็ร้อน จะฆ่ากันหรือไง
งานนี้ ความตั้งใจของเจ้าของชีวาศรมคงมี แต่คนจัดไม่ไหว ทุกงานที่จัดจะโดนด่าตลอด แต่อาศัยว่าเป็นเจ้าแรกที่จัดในเมืองไทย เลยได้ผูกงานใหญ่ๆไปเยอะ
ปีนี้ ที่หัวหิน เส้นทางวิ่งขึ้นเขาหินเหล็กไฟ ข้างทาง ไม่มีร้านขายน้ำให้ซื้อกินเองนะคะ แต่ถ้าวิ่งเร็ว หรือวิ่งระยะสั้น อาจไม่เดือดร้อนเท่าไหร่
คุณกระบี่ วิ่งเร็วกว่าดิฉันเยอะเลย สิบกิโลนี่ หนึ่งชั่วโมงสิบนาทีเห็นๆเลยคะ :lol:
ตามด้วยโรตีทิชชู บางกรอบราดนมข้นหวาน แถมด้วยโอวัลตินเย็นอีกถ้วย
หนึ่งสัปดาห์หลังวิ่งมาราธอน จะขอบคุณตัวเองด้วยการกินไม่ยั้งคะ อาทิตยืหน้าค่อยห้ามใจ 8)
งานหัวหิน ไม่ไปแน่ๆคะ ไปวิ่งปีที่แล้ว เจอเด็กเทน้ำทิ้งต่อหน้า มีคนตามหลังมาอีกเป็นสิบ แดดก็ร้อน จะฆ่ากันหรือไง
งานนี้ ความตั้งใจของเจ้าของชีวาศรมคงมี แต่คนจัดไม่ไหว ทุกงานที่จัดจะโดนด่าตลอด แต่อาศัยว่าเป็นเจ้าแรกที่จัดในเมืองไทย เลยได้ผูกงานใหญ่ๆไปเยอะ
ปีนี้ ที่หัวหิน เส้นทางวิ่งขึ้นเขาหินเหล็กไฟ ข้างทาง ไม่มีร้านขายน้ำให้ซื้อกินเองนะคะ แต่ถ้าวิ่งเร็ว หรือวิ่งระยะสั้น อาจไม่เดือดร้อนเท่าไหร่
คุณกระบี่ วิ่งเร็วกว่าดิฉันเยอะเลย สิบกิโลนี่ หนึ่งชั่วโมงสิบนาทีเห็นๆเลยคะ :lol:
just one life, use it!
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
จ๊อกกิ้ง
โพสต์ที่ 150
เดี๋ยวไว้วิ่งรอบสวนลุมได้ 3 รอบ (~ 7.5 km)
แล้วจะมาฝอยกระทู้นี้ใหม่ครับ ... :D
เมื่อวานโซ้ยเบียร์กับเพื่อนสมัยเรียนมหาลัย หนักไปหน่อย
วันนี้หมดสภาพ ... :lol:
แล้วจะมาฝอยกระทู้นี้ใหม่ครับ ... :D
เมื่อวานโซ้ยเบียร์กับเพื่อนสมัยเรียนมหาลัย หนักไปหน่อย
วันนี้หมดสภาพ ... :lol:
"Winners never quit, and quitters never win."