เล่นหุ้นด้วยใจ ไม่มีทางเครียด ท่านเห็นด้วยหรือไม่

[Jeng]

กระทู้นี้ไม่มีอะไรหรอก พอดีกำลังฟังดร.สนอง ท่านบอกว่า ทำงานให้ทำงานด้วยใจ แล้วไม่เครียด อย่าทำงานเพื่อเงิน ประมาณนั้น

ก็เลยนึกๆว่า ถ้าเล่นหุ้นหละ เล่นด้วยใจเป็นไง

ตอนนี้ก็เริ่มๆกลับมาเล่นแล้ว ซื้อไปแล้ว 5 ตัว

อิอิ

กำลังเล่นเพื่อให้ผ่านปริญญาโท กำไร 100 % ในปีที่ดีเคยมาแล้ว ไม่มากก็จริง แต่ให้ความมั่นใจตัวเองว่าผ่านปริญญาตรี

มาปีนี้ ตั้งเป้ากำไร 100 % ถ้าทำได้ ก็คิดว่าจะผ่านปริญญาโท

เพราะปีนี้ ปีหมูไฟ อะไรๆก็แย่ไปหมด

เมื่อกี้คุยกับข้างบ้านขายรถเก่า มา 20 ปี เฮียเขาบอกว่า แย่ ใครกู้เกิน 70 % เจ๊งแน่ๆ

ใครกู้เงิน 50 % อาจจะรอด

[คลายเครียด]

เพราะปีนี้ ปีหมูไฟ อะไรๆก็แย่ไปหมด  

ผมกำลังลุ้นให้มันเป็นปีหมูทองครับ
ได้ข่าวว่า  กำลังทำเรื่องขอกลับเข้ามาซื้อขายในตลาด

http://www.set.or.th/set/newsdetails.do ... country=TH

               

[คลายเครียด]

ลืมไปครับ

มันกลายเป็นหุ้น  ๓ B  อย่างชัดเจนแล้วครับ

:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

[Linzhi]

ควรลงทุนด้วยเหตุผล และรอรับผลด้วยใจที่ไม่ยึดติด

และผมคิดว่าไม่มีอะไรในโลกที่เกี่ยวข้องกับเงินและจะไม่วุ่นวาย (แต่ทั้งชีวิตเราต้องยังไงเกี่ยวข้องกับเงิน ดังนั้นก็ก้มหน้าก้มตาลงทุนต่อไป  :lol:  )

[naris]

กระทู้นี้ไม่มีอะไรหรอก พอดีกำลังฟังดร.สนอง ท่านบอกว่า ทำงานให้ทำงานด้วยใจ แล้วไม่เครียด อย่าทำงานเพื่อเงิน ประมาณนั้น

ก็เลยนึกๆว่า ถ้าเล่นหุ้นหละ เล่นด้วยใจเป็นไง

ตอนนี้ก็เริ่มๆกลับมาเล่นแล้ว ซื้อไปแล้ว 5 ตัว

อิอิ

กำลังเล่นเพื่อให้ผ่านปริญญาโท กำไร 100 % ในปีที่ดีเคยมาแล้ว ไม่มากก็จริง แต่ให้ความมั่นใจตัวเองว่าผ่านปริญญาตรี

มาปีนี้ ตั้งเป้ากำไร 100 % ถ้าทำได้ ก็คิดว่าจะผ่านปริญญาโท

เพราะปีนี้ ปีหมูไฟ อะไรๆก็แย่ไปหมด

เมื่อกี้คุยกับข้างบ้านขายรถเก่า มา 20 ปี เฮียเขาบอกว่า แย่ ใครกู้เกิน 70 % เจ๊งแน่ๆ

ใครกู้เงิน 50 % อาจจะรอด

หวัง100เลยเหรอพี่เจ๋ง ผมหวังปีนี้แค่ซัก30ก็okแล้วนะครับ

[phobenius]

เล่นหุ้นด้วยใจ ส่วนต่างกำไรขาดทุนก็อยู่ที่ใจครับ
ส่วนตัวผมก็เล่นบ่อยครับ โดยเฉพาะกับหุ้นปั่น เล่นเพลินๆ
สนุกดีครับ ไม่เครียด กำไร ก็ดีใจ ขาดทุนก็โชคดีไปครับเพราะไม่ได้เล่น

[tt]

จริงๆแล้วเล่นหุ้นจะไม่เครียดเลยถ้าไม่เทียบกับคนอื่น เช่น ถือ WG มาตั้งแต่ 27 บาท ได้ผลตอบแทน 60 กว่า % น่าจะพอใจมีความสุข พอเข้ามาใน web เห็นคนอื่นกำไร 2-3 เด้ง (ไม่รู้มีมากน้อยแค่ไหน) ก็รู้สึกว่าเราจะถือทำไม
นะ WG ไม่เห็นไปไหนเลย น่าจะไปถือตัวอื่น คือ คนเราเล่นหุ้นแล้วเครียดก็เพราะว่าเวลาขึ้นก็อยากให้ของเราขึ้นมากกว่าเพื่อน เวลาลงก็อยากให้เราขึ้นหรือลงน้อยกว่าเพื่อน ยังไงมันก็หาเรื่องเครียดจนได้ เลิกเล่นหุ้นก็ยังเครียดอีกเพราะเห็นคนอื่นเล่นแล้วได้กำไร

[Reminiscence of 3 Dogs]

จริงๆแล้วเล่นหุ้นจะไม่เครียดเลยถ้าไม่เทียบกับคนอื่น เช่น ถือ WG มาตั้งแต่ 27 บาท ได้ผลตอบแทน 60 กว่า % น่าจะพอใจมีความสุข พอเข้ามาใน web เห็นคนอื่นกำไร 2-3 เด้ง (ไม่รู้มีมากน้อยแค่ไหน) ก็รู้สึกว่าเราจะถือทำไม
นะ WG ไม่เห็นไปไหนเลย น่าจะไปถือตัวอื่น คือ คนเราเล่นหุ้นแล้วเครียดก็เพราะว่าเวลาขึ้นก็อยากให้ของเราขึ้นมากกว่าเพื่อน เวลาลงก็อยากให้เราขึ้นหรือลงน้อยกว่าเพื่อน ยังไงมันก็หาเรื่องเครียดจนได้ เลิกเล่นหุ้นก็ยังเครียดอีกเพราะเห็นคนอื่นเล่นแล้วได้กำไร

คนอื่นน่าจะหัดทำให้ได้น้อยๆนะ เราจะได้ไม่เครียด
เพราะคนอื่นทำให้ชีวิตเราเศร้า  คนอื่นมันไม่ดี   เราเก่งสุดไม่มีใครเทียบ
คิดแบบนี้แล้วหายเครียดแฮะ
หลอกตัวเองเสร็จแล้ว  กลับไปลุยหุ้นต่อได้  :P

[gnomeller]

เล่นหุ้นปั่นใช้อะไรเล่นก็เครียดเหมือนกันหมด  :lol:

[สุมาอี้]

ที่จริง ผมก็สนับสนุนแนวคิดเล่นหุ้นด้วยใจนะครับ  :lol:  

ถ้าอยากพบความสุขที่แท้จริงในทุกๆ เรื่อง ลองถือคตินี้ดูสิครับ

Work like you don't need money.
Love like you've never been hurt.
Dance like noone is watching.

[PP]

............. ท่านบอกว่า ทำงานให้ทำงานด้วยใจ แล้วไม่เครียด อย่าทำงานเพื่อเงิน ประมาณนั้น...............................

ก็เลยนึกๆว่า ถ้าเล่นหุ้นหละ เล่นด้วยใจเป็นไง

.................  

ผมว่ามันหมายถึง passion ในสิ่งที่ทำ  ....อย่างที่ ท่าน Buffett พูดบ่อยๆ นั่นคือ ต้องมีความหลงไหลคลั่งไคล้ในสิ่งที่ทำ ในเนื้อแท้ของสิ่งนั้นๆ   ส่วนการมี passion คลั่งไคล้หุ้น ก็หมายถึง การศึกษาค้นคว้าแนวคิด ปรัชญาการลงทุน แนวทางการหาข้อมูลเพื่อประเมินราคาหุ้น ว่าน่าจะเป็นเท่าใด  แล้วพอได้แนวทางการประเมินราคา  ได้ราคาที่คาดว่าถูกต้อง  มีกันชนสำหรับความปลอดภัย (margin of safety)สูงพอ แล้วจัดการซื้อ แล้วรอดูผลงาน  ถ้าผลเป็นไปตามที่ประเมินในระยะยาวก็เป็นที่อิ่มเอมใจ หากผิดก็ต้องศึกษาค้นคว้าพัฒนาตนต่อไปเรื่อยๆ  ผมน่าจะเป็นอย่างนี้    .....ส่วนเงินที่มันงอกเงยเป็นแค่ผลพลอยได้ของ passion ที่ทำอยู่

ผมชอบกระทู้นี้ "A paradox about creating wealth from scratch" ซึ่งเขาพูดคุยกันถึง การเริ่มต้นจากไม่มีอะไรของผู้ประกอบการจะรวยกว่า(ถ้าทำแล้วประสบผลสำเร็จ .....ในเมืองไทย น่าจะเป็น คุณตัน โออิชิ)  เมื่อเทียบกับการเล่นหุ้นถ้าผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้น 20%ต่อปี  สมมุติเริ่ม 1 ล้าน ใน 20 ปีจะได้แค่ 38 ล้าน เมื่อเทียบกับผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ จะทำได้ดีกว่านี้
http://groups.msn.com/BerkshireHathaway ... 4364855064

โดยเฉพาะความเห็นของคุณ Sanjeev Parsad (ผู้ริเริ่ม BerkshireHathawayShareholders และปัจจุบันตั้งกองทุนหุ้นส่วนเพื่อบริหารคล้าย Buffett )พูดไว้ดีมาก  ตรงที่เขาพูดถึง ท่าน Buffett ว่าถึงยังไงก็หลงไหลคลั่งไคล้การลงทุนในตลาดหุ้นเพราะเป็นความชอบส่วนตัวแบบถอนตัวไม่ขึ้น แค่ขอให้มีบ้านซุกหัวนอน มีเงินจุนเจือครอบครัว เป็นพอ   ส่วนผลงานความมั่งที่เกิดขึ้นอย่างมากมายมหาศาลเป็นเพียงแค่ผลพลอยได้.....แค่นั้นเอง    คนตั้งกระทู้มุ่งถามหาความมั่งคั่งร่ำรวย  แต่ความเห็นของ Sanjeev Parsad เห็นว่าความมั่งคั่งร่ำรวยเป็นผลพลอยได้ของความคลั่งไคล้ใจรักในงานที่ทำ การได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักและชอบ  เงินเท่าไหร่ก็ไม่ค่อยสำคัญ  ต่างจากคนที่มุ่งหาแต่เงิน เงิน เงิน ........ เครียดแน่นอน  :lol:

Even if you start with say 1 million, at 20%, you are still lookin at (only) 38 million in 20 years. Nothing shabby, but still a far cry from the massive business fortunes created by entrepreneurs starting their own business.
Should businesspeople strive to own businesses that have return potentials much greater than anything possible in public markets?

You're assuming that there is no leverage involved.  Yes, if you start with $1M and add no capital, with 20% annual returns, you would be at $38M in 20 years.  What if you start with $1M, but you have access to capital markets and raise another $4M, and you would retain 25% of profits from the new capital?  Now at 20% per annum, the total value is $191M in twenty years.  $38M is your original capital, but you have own another $38M of the remaining capital...your net worth is now $76M!  All this assumes that you don't utilize leverage or "other peoples money" ever again.

But this whole discussion reminds me of what Charlie Munger said..."People always ask us how we made our wealth, but they just want to get there faster!"  The irony of that comment never seems to strike the individuals who ask it.  If you love what you are doing, does it really make a difference if you are worth $38M or $76M or more?  I think as long as Buffett could have a roof over his head and feed his family, he would be happy doing what he did for peanuts.  Being worth $50B was just a byproduct of this love for his work and the fact that he was wired to be very good at it.  Cheers

[Noonino]

เห็นด้วย 100% กะคุณ PP ครับ

ชนะก็อย่าดีใจ หลงระเริง ไปกับกำไรที่ได้มา  อย่าคิดว่าได้ 10 จะเอา 100
แพ้ก็อย่าเศร้าเสียใจ หดหู่ กลับไปศึกษาใหม่ หาวิธีที่ถูกต้อง
ชนะอย่างยั่งยืน กำไรพอประมาณแต่สม่ำเสมอ เงินต้นรักษาไว้ให้ดี
แล้วเราก็จะมีความสุขครับ

ความรู้เรียนไม่มีวันหมด ผมชอบตลาดหุ้นก็ตรงนี้แหละ

[moonkiss]

ผมก็เล่นหุ้นด้วยใจครับ ใจล้วนๆ เพราะกำไรขาดทุนผมก็ใช้เงินเท่าๆเดิม
เงินในบัญชีมีแค่ตัวเลข ไม่เคยจับ
....
...
..
.
พูดมาพูดไป สรุปว่าเล่นตามใจ ครับ
และใจผมชอบความเสี่ยง
วัดใจกับ inox ไปเรียบร้อย
เกมวัดใจนี่ช้อบ ชอบ

[chatchai]

ผมลงทุนตามความเป็นจริงครับ  

ผมพิจารณาการลงทุนจากการคาดหมายผลการดำเนินงาน และหวังผลตอบแทนจากผลการดำเนินงานของบริษัทเป็นหลัก

ไม่ใช่ราคาตลาด

ราคาตลาดมีปัจจัยอื่นๆอีกมากมายที่จะส่งผลกระทบ  เช่น  Mr.Market

และปัจจัยเหล่านี้  เราคาดการณ์ได้ลำบากมาก

[กล้วยทอด]

อย่างกรณี inox เคยดูตอน 1.00 บาท ว่าผลประกอบการดี และพวกเราก็ เคยโพสว่า ธรรมาภิบาลแย่มาก

อืม วันนี้ก็ 1.26 งบก็สวย

ถ้างบยังสวยไปเรือยๆ หมายถึงกำไรยังดี ปันผลยังดี หนี้ไม่มี แบบนี้ไปเรื่อยๆ หุ้นก็ขึ้นอยู่ดี จริงมั๊ย

ไม่เข้าใจหลักการเล่นหุ้นด้วยใจค่ะ
จิ้มซื้อ แล้วถือไปเรื่อยยยยๆ หรือคะพี่

ไม่ได้หมายความว่า inox ไม่ดีนะคะ
เพราะมีเคยมีคนมาเชียร์ก่อนหน้านี้อยู่บ้าง

อีกอย่างที่พี่เจ๋งบอกว่า งบยังสวยไปเรื่อยๆ  
ราคาหุ้นก็ขึ้นอยู่ดีนี่ อันนี้พี่ดูยังไงคะ  
ว่างบมันจะดีไปเรื่อยๆ
แบบนี้เรียกว่า ใช้สมองคิดไม่ใช่หรือคะ
อ่านไป งงไปค่ะ

[bajjo]

เล่นด้วยใจ นี่จะคล้ายๆเล่นโดยใช้อารมณ์ด้วยรึเปล่าครับ
ไม่ได้เล่นด้วยเหตุผล และสติ เหรอครับ

[Jeng]

อืม กล้วยทอดเดี๋ยวนี้หน้าแดงดีนะ

ตอนนี้กำลังขุด inox เจอเรื่องประหลาดคือ กิมเอ็งถือหุ้นอยู่ 738,149,635 9.23 %

โห กิมเองนี่มี่ส่วนผู้ถือหุ้น 4,013.49 แต่มาถือ inox มูลค่า 1.27*738 = 937.26 ล้าน

อืม ผมไม่เคยเจอ กิมเอ็งถือหุ้นอะไรเยอะแยะขนาดนี้เลยครับ

นี่ผมคิดว่าผมจะทบทวนเรื่องธรรมาภิบาลของ inox อีกสัก 2-3 รอบ เพราะระดับกิมเอ็ง เรื่องธรรมาภิบาลไม่น่าจะพลาดครับ

และยังมี posco มาถืออีก โห

ใครเห็นแย้งก็เชิญนะคร๊าบบบบ

[Jeng]

inox ราคาหุ้น 1.27 เงินสด 4798 ล้าน เท่ากับ .60 บาทต่อหุ้น book 1.59 หนี้ที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยไม่มี กำไร .26 pe 4.88

แล้วถ้าปีนี้ หละ กำไรจะเป็นอย่างไร ใครทราบ

ส่วนเรื่องธรรมาภิบาลก็ระวังด้วยนะ กิมเอ็งก็ยังระวังเลย ซื้อไปแค่ 738 ล้านหุ้น posco ที่วอเรนไปลงทุนก็ระวังไม่น้อย ซื้อไป 800 ล้านหุ้น

อืม ธรรมาภิบาล

เรื่องน่าคิดจริงๆ

[javidol]

พี่ Jeng กลับมาแล้วววววว