เรียนถาม คุณ สุมาอี้และพี่พี่เพื่อนๆทุกคน

[boybbcom]

ถ้าเราจะต้องบอกข่าวร้ายแก่ใครซักคน เราจะเลือกบอกตอนไหนครับ

1) บอกตอนที่เค้ากำลังมีความสุข อารมณ์ดีดี  เพื่อให้ความสุขที่กำลังมีอยู่ หักลบกับความเศร้าจากข่าวร้าย  แต่วิธีนี้ จะเป็นการทำลายความสุขเค้ารึเปล่า (เค้ากำลังมีความสุขอยู่ดีดี ก็ไปทำลายอารมณ์เค้า)

2) บอกตอนที่เค้าอารมณ์ปกติ อารมณ์เค้าเฉยเฉย ไม่สุขไม่ทุกข์ แน่นอกบอกตอนนี้ เค้าต้องเปลี่ยนจากเฉยๆเป็นเศร้าแน่นอนเลี่ยงไม่ได้

3) บอกเค้าตอนเศร้าสุดสุด  เพราะว่าจะได้เศร้าครั้งเดียวแล้วจบเลย ดีกว่า
เพราะจะได้ไม่ต้องเศร้าหลายครั้ง (เหตุผลนี้มีจริงๆนะ บางคนก็ว่าให้เศร้าตูมเดียวไปเลย เพราะอีกอย่าง ถ้าเรารอให้เค้าหายเศร้าแล้วค่อยบอกก็เหมือน แผลเป็นสะเก็ดแล้วไปแกะมัน )
อีกอย่างเวลาเค้าเศร้าสุดสุด ก็อาจมองว่าเรื่องที่เราบอกเค้าไม่เท่าไหร่ก็ได้

4) ปล่อยไปเรื่อยๆให้เค้ารู้เองเราไม่ต้องบอก แต่วิธีนี้สุดท้ายเค้าก็ต้องเสียใจอยู่ดี ผมว่ารู้เร็วกว่าน่าจะดีกว่า

คำถามนี้ผมตั้งใจถามเพื่อนเพื่อนพี่พี่ทุกคนนะครับ  แต่ที่จั่วหัวถึงพี่สุมาอี้ เพราะว่าผมอยากถามความเห็นพี่สุมาอี้ว่า จะคิดแบบทฤษฎีเกมยังไงครับ


ฟังดูคล้ายๆเราสอบตกแล้วจะบอกพ่อแม่ตอนไหนมั้ยครับ  

                                                ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นนะครับ
                                                            ผมอยากทราบจริงๆ

[adi]

ตอนไหนก็ได้ที่เราสามารถอยู่ให้กำลังใจและปลอบใจเค้าได้

เกี่ยวมั้ยเนี่ย  8)

[boybbcom]

สารภาพเลยครับ ผมจะต้องบอกเลิกใครคนนึงน่ะครับ กลุ้มใจ เพราะไม่สามารถบอกเหตุผลจริงๆให้ได้เพราะว่ามันไม่ฟังไม่ขึ้นสำหรับเค้าหรอกครับ


ยิ่งพิมพ์มายิ่งเสียใจ ที่เอาเรื่องส่วนตัวมาถามในนี้  ยังไงก็ขอบคูณ สำหรับทุกความคิดเห็นนะครับ  และขอโทษด้วยที่ทำให้ทุกท่านต้องเสียเวลาอ่าน เสียเวลาโพส แถมยังเปลืองเนื้อที่อีก  ถ้า web master เห็นว่าควรลบกระทู้นี้ ก้ ลบ ได้นะครับ   ผมไม่ดีเองครับ

[jaychou]

ทำรกไม่ว่า แต่อย่าผิดห้องจ้ะ ย้ายมาแล้วนะครับ



บอกเลิกสาวน่ะ ถ้ายังไม่มีวี่แววมาก่อน ควรเกริ่นๆให้พอรู้ตัวก่อนครับ

อย่าให้เซอร์ไพรส์เกินไป เค้าว่ารักมากก็เกลียดแรง จะทำร้ายน้ำใจเกินไปครับ

[โอ@]

ตอนแรกผมก็นึกว่าจะเหมือนเรื่องจดหมายถึงคุณสุเกียงของเฮียคลายเครียด

[กระบี่อยู่ที่ใจ]

ท่านแม่ทัพฯ หักอกสาวมากี่คนแล้วครับเนี่ย
ถึงขนาดมีคนมาปรึกษาขอวิธีบอกเลิกสาว 555

[matrix]

วิธีบอกข่าวร้าย ให้อ้อมไป อ้อมมาก่อนดังนี้

ค่อยเป็นค่อยไป   จาก http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... 740#185740 โดย คุณ Ba_2l

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ชายหนุ่มคนหนึ่งจะต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด 2-3 สัปดาห์ จึงฝากน้องชายให้ดูแลไอ้แป้น สุนัขตัวโปรด 2-3 วันถัดมาก็โทร.มาที่บ้าน 
''ไง ไอ้แป้นเป็นไงบ้าง'' 
''มันตายแล้วพี่ มันปีนขึ้นไปบนหลังคาได้ยังไงไม่รู้ แล้วตกลงมาตาย'' น้องชายเล่าอย่างรวดเร็ว ' 
'หา!!! ไอ้แป้นตายแล้ว'' ชายหนุ่มช็อกหลังจากอึ้งไปซักพัก ชายหนุ่มก็โวยกับน้องชาย 
''แล้วแกทำงี้ได้ไงวะ ไอ้แป้นน่ะหมาตัวโปรดฉันนะเว้ย อยู่ๆ มาบอกกันดื้อๆ ว่ามันตาย ยังงี้ฉันช็อกตายทำไงวะ'' ชายหนุ่มโวย 
''แล้วจะให้พูดว่ายังไงล่ะพี่'' น้องชายถามซื่อๆ 
''ก็บอกฉันก่อนก็ได้ว่าไอ้แป้นติดอยู่บนหลังคา แต่คิดว่าเดี๋ยวมันคงลงมาได้ แล้วพอฉันโทร.มาคราวหน้าก็บอกฉันว่ามันตก ลงมาขาหัก แต่หมอรักษาอยู่ คิดว่าคงจะรักษาได้ เสร็จแล้วพอฉันโทร.มาอีกทีค่อยบอกว่ามันตาย ให้มันค่อยเป็นค่อยไป ยังงี้ จะได้มีเวลาทำใจกันหน่อย เข้าใจไหมวะ'' 
ชายหนุ่มร่ายยาว ''เข้าใจครับพี่'' น้องชายรับคำ 
''เออ แล้วย่าเป็นยังไงบ้าง'' ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่อง''เอ่อ...'' น้องชายอ้ำอึ้งว่า 
''ย่าติดอยู่บนหลังคา...''   :shock: 

ส่วนวิธีบอกเลิกกับแฟน  
สารภาพเลยว่าเป็นตุ๊ด  ชอบผู้ชาย ฮ่ะ  

ตัวอย่าง...     น้องจอย  จาก  http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... 340#202340  ของคุณ Ba_2L เช่นกาน ฮ่ะ

โค้ด: เลือกทั้งหมด

น้องจอยเป็นเด็กเรียบร้อยจากต่างจังหวัดเข้ามาอยู่กับน้าชายเพื่อมาเรียนหนังสือ 
ทุกคนคิดว่าทั้งคู่เป็น น้าหลานกันธรรมดา จนกระทั่งวันหนึ่ง วันที่น้องจอยกลับมาจากโรงเรียนอย่างปกติเหมือนทุกวัน แต่วันนี้เธอไม่ได้เดินไปที่ห้องของเธอแต่เธอเดินไปที่ หน้าห้องน้าและยืนอยู่เป็นเวลานาน เธอรวบรวมความกล้าและเคาะประตูห้องของน้า น้าเธอเปิดประตูออกมาเห็นน้องจอยยืนอยู่ด้วยแววตาที่ไม่เหมือนเคย 
น้องจอยพูดด้วยอารมณ์กล้าๆกลัวๆ..........ว่า 

"น้าถอดเสื้อของจอยได้ไหม" 

น้าของเธออึ้งอยู่ขณะหนึ่งแต่พอรู้สึกตัวว่าเราเป็นน้าทำอย่างนี้ไม่ได้จึงไม่ทำตามที่เธอบอก แต่ด้วยน้องจอยเป็นเด็กที่ดูสวยเกินเด็กและอวบอึ้มจึงทำให้น้าลืม ทุกอย่างและ ถอดเสื้อของน้องจอยออกอย่างช้าๆ และน้องจอยยังบอกต่ออีกว่า 

"น้าถอดกางเกงจอยด้วย" 

น้าชายรีบถอดกางเกงหลานสาวโดยทันที และน้องจอยยังพูดด้วยอาการอายต่อไปว่า 

"ยกทรงหนูด้วย" 

น้าชายปลดตะขอยกทรงน้องจอยออก ทันทีอย่างรวดเร็ว ต่อจากนั้นน้องจอยก็พูดด้วยอาการหน้าแดงว่า 

"กางเกงในหนูก็ถอดด้วยสิค่ะ" 

น้าชายถอดเสื้อผ้าของน้องจอยออกหมดจากนั้น น้องจอยก็รวบรวมความกล้าอีกครั้งและบอกว่า 
...................................... 
.................... 
.................................................. 
........................................ 
............................................... 
.................................................. 
.................................................................................... 

"คราวหน้าน้าอย่ามาเอาเสื้อผ้าของจอยไปใส่อีกนะ"

ขอให้โชคดี  มีชีวิตรอดกลับมารายงานให้ฟังนะฮะ  

[สุมาอี้]

เผอิญเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมอ่อนหัดซะด้วยสิครับ  :oops:

คงไม่เหมาะกับทฤษฏีเกม น่าจะใช้จิตวิทยามากกว่า

รอพี่ๆ มาตอบละกัน

ยังไงขอให้ลงเอยด้วยดีนะครับ เอาใจช่วย  :)

[ForrestGump]

ก่อนบอกเลิก ผมว่า พิจารณา ความเป็นจริง ด้วยใจเป็นกลาง

1. เค้ารักเราจริงไหม รักเรามากไหม (สังเกตได้จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่คำพูด)

2. เรารักเค้าจริงไหม รักเค้ามากไหม (สังเกตเช่นกัน)

3. อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขไหม ทั้งตอนเหตุการณ์ปกติ แล้วก็เวลาเผชิญทุกข์ร่วมกัน

4. เข้ากับที่บ้านได้มั้ย กับเพื่อนๆ เราเพื่อนเค้าได้มั้ย?

5. ถ้าถาม "ใจตัวเอง" และ "คุณสมบัติ" ที่คลิกกันได้หรือไม่ แล้ว ฟันธงได้แล้ว  ก็บอกเลิกได้

"ถ้าลงมืออย่าปรานี ถ้าปรานีอย่าลงมือ"

ผมเดาว่า คุณboybbcom จริงจังกับคนนี้มากพอควร ถึงลำบากใจที่จะบอกเลิก

ส่วนถ้าไม่จริงจัง หวังแค่หลอกฟัน ก็คงไม่มาโพสต์ถาม  แล้วก็รอรับกรรมแต่โดยดี

[javidol]

ตัดใจบอกตอนนี้เลยครับ


จะยื้อไว้ก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าสุดท้ายแล้วยังไงก็ต้องบอกไป





ถือว่าทำบุญด้วยกันมาแค่นี้ จดจำแต่สิ่งดีๆต่อกันไว้ดีกว่า


แล้วเวลา... จะช่วยให้เค้าและคุณเข้มแข็งขึ้นเองโดยไม่รู้ตัวครับ



ขอให้โชคดี  

[nearly_vi]

คงคล้ายๆ หลักการของ Breaking bad news มั้งครับ

จำไม่ได้ทั้งหมด (ขี้เกียจเปิดตำรา)

แต่สรุปว่า ให้ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป

บอกตอนที่เค้าสะดวก มีเวลา

อารมณ์เริ่มต้น คงไม่สำคัญเท่าการจับการเปลี่ยนแปลงไปของอารมณ์ของผู้รับข่าว ซึ่งเป็น reaction ต่อข่าวร้าย มีได้หลายแบบ เช่น เริ่มแรกอาจตกใจ โกรธ ไม่ยอมรับ จนค่อยๆทำให้เข้าสู่ อารมณ์รับได้   เราต้องเป็นคนจับอารมณ์ แล้วเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์

เรื่องนี้ยากมาก แต่งเป็นตำราได้ เป็นเล่มๆ เลย

แต่ต้องบอกความจริงนะครับ  :D

[jaychou]

บอกตรงๆ ว่ารอพี่ san อยู่คนเดียวจริงๆ :lovl:

[bsk(มหาชน)]

ป๋มเป็นคนไม่ดี เพราะเค้าก็ไม่ผิดอาไร

ผมจึงทำอุบายให้เค้าบอกเลิกเอง

ถือว่าให้เกียรติเค้า เราอาจจะเป็นคนเลวที่แสนดีก็ได้

ประโยชน์อันใด  ที่เธอจะคืนกลับมา ....

[ปุย]

ไม่เคยบอกเลิกสาว แต่เคยโดนสาวบอกเลิก
ที่มา ที่ไปยิ่งกว่าละคร น้ำเน่าอีกครับ

แต่ผมยังประทับใจ ผุ้หญิงคนนั้น จนถึงวันนี้

ตอนที่เค้าบอกผม คือไปกินข้าวกัน ๒ คน ตามธรรมดา
คุยไป คุยมา ตามปกติ สักพักกินเกือบเสร็จแล้ว
เค้าถึงบอก (เหมือนไม่ได้ตั้งใจมาบอก บังเอิญมีจังหวะ)

งงครับ แต่โวยวายไม่ได้มาก เพราะอยู่ในร้านอาหาร

ออกมานั่งคุยกันต่อ หน้าห้างเวิลด์เทรด ยาวครับ เกือบเที่ยงคืน
คุยเหตุผลกันจนเข้าใจ จากคนรักเลยกลายเป็นเพื่อนรัก

สรุปว่า ใช้ความจริงใจครับ แต่คุณไม่น่าเป็นคนตัดสินใจเลิกแต่ฝ่ายเดียว แล้วไปบอกให้เค้ารับรู้นะครับ มีปัญหาอะไรก็คุยกัน ว่ามันมีทางแก้มั้ย แยกจากกัน อาจจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดก็ได้ ถ้าทั้งสองฝ่าย เข้าใจและยอมรับ ไม่ได้เป็นแฟนกัน ก็เป็นเพื่อนกันได้ครับ ชีวิตมีทางเลือกเสมอ

เอาใจช่วยครับ

[miracle]

ถามว่ากระทบกับเป้าหมายของคุณที่ตั้งไว้หรือเปล่า
ถ้าไม่กระทบก็คือไม่ต้องใส่ใจมันมากก็ได้
ถ้ากระทบงานนี้ทำSWOTว่าควรจะทำอย่างไง

การที่บอกหรือไม่บอก ใช่ความรู้สึกจากใจว่าควรหรือไม่ควร หาจังหวะบอกดีๆๆครับ ถ้ามันรู้สึกอึดอัดก็ไม่ควรบอกครับ ถ้าโล่งโปร่งสบายก็บอกเลยครับ

อีกอย่างหนึ่งที่ต้องเตือนไว้ก่อน อย่าไปย้ำเรื่องที่ที่เราผิดพลาดมากๆๆ อาจจะทำให้คุณเป็นโรคอาการทางประสาทได้ จำไงล่ะก็มันคิด ก็คิดกลับอีกด้านไปเลย ว่าทุกคนก็มีความผิดหวังไม่ใช่คุณคนเดียวที่ผิดหวัง เอากำลังใจมาสู้กับมัน จะได้รับผลอีกตอบแทนครับ

[boybbcom]

ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ ขอบคุณจริงๆครับ

[apichai214]

ถ้าเป็นผม  ผมก็จะค่อยๆ ทำตัวออกจากเขา ไม่ค่อยโทรคุยเหมือนแต่ก่อน ไม่ค่อยไปหา  ไม่ค่อย.......... ไม่ค่อย..........ไม่ค่อย..........ไม่ค่อยทำอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้เขารู้สึกดีกับเรา

สรุปคือ เริ่มแสดงให้เขารู้ตัวก่อน แล้วค่อยบอกที่หลังครับ  เขาจะได้ไม่ค่อยเสียใจมากนัก    คลายๆกับวิธีของพี่ matrix ครับ

[Mon money]

หาเหตุผลให้ได้ก่อนเถอะครับ แล้วก็บอกกันไปตรงๆ (แต่ต้องแน่ใจนะว่า เธอไม่เสียใจมากจนไปผูกคอตาย)

[macarian]

บอกเวลาไหนก็ได้ครับ มานั่งคุยกันให้เป็นเรื่องเป็นราว
คบกันมันก็มีปัญหากันบ้าง เป็นธรรมดา
ก็นั่งคุยกัน จะปรับกันยังไง ถ้าไม่ไหวจริงๆก็เป็นเพื่อนกันไปครับ
ไม่มีอะไรหรอก

ถ้าคิดแง่เกมส์เตียรี่
ถ้าเห็นตรงกัน เลิกทั้งคู่หรือไปต่อทั้งคู่ก็เป็น dominant strategy ครับ
ถ้าไม่ตรงกัน เราจะเลิกเขาไม่เลิก อันนี้ dominated ครับ ต้องเลี่ยง
ต้องห้ามบอกเลิกเด็ดขาด แต่ให้ขอเป็นเพื่อนกัน  :lovl:  ไปต่อแบบเพื่อนๆ

ผมว่าคำถามที่ต้องตอบมันมีไม่กีเรื่องหรอกครับ
รักกันเปล่า
แล้วเข้าใจ (ในความต่าง) กันไหม
ถ้าเข้าใจแล้ว ยอมรับกันได้ไหม
ถ้าได้ก็จบ ถ้าไม่ได้แล้วจะปรับกันยังไง
จะลองกันอีกสักตั้ง หรือจะถอยไปฟังเพลง อยู่อย่างเหงาๆ ของ peace maker กันก่อน

พยายามดูเขาด้วยนะครับ ถ้ายังรักกันแล้วเขาอยากปรับ ก็ควรลองดูอีกสักตั้งครับ

ปล. รัก เข้าใจ ยอมรับ คอนเซปนี้ บางทีปวดกบาลครับ บางทีมัน รัก แต่ไม่เข้าใจ บางทีก็รัก เข้าใจ แต่รับไม่ด๊าย
สู้ ยอมรับ(ว่าเราต่าง) แล้วค่อยๆทำความเข้าใจ (ว่าต่างกันอย่างไร) แล้วถ้าดีก็ค่อยรักกัน ดูสบายใจกว่าเยอะครับ
แต่ระวังจะมีแต่เพื่อนนะครับ  :lovl:

[por_jai]

หาเหตุผลให้ได้ก่อนเถอะครับ แล้วก็บอกกันไปตรงๆ (แต่ต้องแน่ใจนะว่า เธอไม่เสียใจมากจนไปผูกคอตาย)

8) พี่เต๋อบอกว่า
    อกหักไม่ยักกะตาย ครับ

    อยากบอกก็หาโอกาสบอก
    (ยังมีโอกาสเป็นเพื่อนกันต่อได้)
    ไม่อยากบอกก็ห่างๆกันไป
    (อันนี้โอกาสที่จะกลับมาเป็นเพื่อนกันยาก)
    ตบมือข้างเดียวไม่ดังไปได้หรอกครับ

    ที่ถามว่าบอกตอนไหนดี
    ไม่มีประสบการณ์เรื่องนี้เลยครับ
     ชีวิตไม่เคยบอกเลิกใครเลย
     มีแต่รักเขาไปทั่ว
     แฮะ..
     อย่ากลุ้มใจไปเลยครับ
     เดี๋ยวมันก็ผ่านไป

[san]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

บอกตรงๆ ว่ารอพี่ san อยู่คนเดียวจริงๆ 

ฮ๊าดดด  เช้ยยยยย
ท่าน เจย์  ก็........จุ๊ๆๆ
.....
เอ.........
อ่า.........  ชักสงสาร   น้องคนนั้นเสียแล้ว สิ

อิอิอิ

เข็ดแล้วครับ  ม่ะอาวแล้ว

   

[san]

ท่าน เจย์     .......อ่า......บอกตรงๆ  

ช่วงนั้น  ผมไม่มีทางไป  หมดหนทาง  ก็เลย......

ผมตัดดอกใม้ที่ปลูกอยู่ในบ้าน    มาถวายพระพุทธรูปในบ้าน และ เจ้าที่ (ตี่จู่เอี้ย)   อย่างเดียว   .....ขอความสงบ สุข กับ ความสบายใจ ให้อยู่กับตัวเองและครอบครัว

ตั้งใจทำอยู่หลายวัน

ก็เลยมี....เหตุ....ทำให้ใจสงบ และมี....เหตุ....ที่ต้องเป็นไปตามธรรมชาติ ครับ  โดยไม่มีใครเสียใจ

[naris]

สุดยอดครับ....พี่san

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ท่าน เจย์     .......อ่า......บอกตรงๆ   

ช่วงนั้น  ผมไม่มีทางไป  หมดหนทาง  ก็เลย...... 

ผมตัดดอกใม้ที่ปลูกอยู่ในบ้าน    มาถวายพระพุทธรูปในบ้าน และ เจ้าที่ (ตี่จู่เอี้ย)   อย่างเดียว   .....ขอความสงบ สุข กับ ความสบายใจ ให้อยู่กับตัวเองและครอบครัว 

ตั้งใจทำอยู่หลายวัน 

ก็เลยมี....เหตุ....ทำให้ใจสงบ และมี....เหตุ....ที่ต้องเป็นไปตามธรรมชาติ ครับ  โดยไม่มีใครเสียใจ
_________________

อ่าน 3 รอบ แล้ว ท่าน san

ไม่เข้าใจอะคับ

[san]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

อ่าน 3 รอบ แล้ว ท่าน san 

ไม่เข้าใจอะคับ

เล่าให้ท่าน.....เจ๋ง    ฟังครับ......ช้านิดนึงครับ ท่านเจ่ง  พอดีชั่งใจอยู่ว่าจะตอบดีมัยหนอ.........อิอิอิ  ตกลง  ตอบครับ  เรื่องมันแปลก.....ตรงจังหวะ.....

ตอนต้นเดือน ธค.  หลังจากภรรยาผมรู้เรื่องได้ประมาณ 1 เดือน
หลังจากที่ผมทนไม่ไหวกับความทุกข์ที่มีอยู่   ก็เลยไหว้พระขอพรได้ไม่กี่วัน
ปรากฎว่า.........
ช่วงนั้นมีฝรั่งมาจีบ น้องคนนั้น ................ น้องเขาเงียบ  ไม่บอกเรา  
มารู้อีกที   เพราะว่า  พอดีผมโทรไปหาน้อง    ฝรั่งรับ    ไอเราก็งง   ใครหว่า มารับโทรของน้องได้ไง
ก็คุยกับฝรั่ง   ปรากฏว่า  ฝรั่งบอกว่าน้องเป็นแฟนมัน.....แล้วมันกำลังขอน้องเขาแต่งงาน  

หา......อะไรวะเนี่ย !!!!!   เรื่องจริงเหรอว่ะ........แล้วตรูหล่ะ........เป็นใครไปแล้วว่ะเนี่ย

เอ๋อเลย....เรา  555     ตั้งสติอยู่พักใหญ่  ก็ขอฝรั่ง   ขอคุยกับน้องเขา

อิอิอิ......น้องเขาไม่กล้าคุยกับเรา    ไม่ยอมคุยด้วย

ไอ้เราก็เลย.................แกล้งโทรไปถี่ๆ  หลายสิบครั้ง   เป็นเวลาหลายชั่วโมง   โทรไปสร้างบรรยากาศให้มีความรู้สึกกดดัน ........
...............จนฝรั่งทนไม่ไหวบอกให้น้องเขาพูดกับเรา
OK  ก็เลยได้คุยกับน้อง   5  นาที  ฝรั่งมันให้คุยได้ไม่เกิน 5 นาที  ดูมัน    เฮ้อ.......
ก็บอกน้องเขาว่าไม่เป็นไร  ไปเถอะ  ถ้าไปดี  เห็นว่าจะไปนอกพร้อมกัน........ตอนคริสต์มาส

ตอนนั้นนึกอยากรู้เรื่องของน้องเขามากกว่าที่เรารู้จากการคบกันเอง
ก็......เลยไปหาวิธีที่จะติดต่อแฟนเก่าของน้องเขาให้ได้   ทั้งๆที่ไม่รู้จัก   ใช้เวลา 2 วัน ปรากฏว่าติดต่อได้    ก็เลยได้คุยอะไรหลายอย่างเกี่ยวกับชีวิตน้องเขา ที่เรายังไม่เคยรู้    สรุปว่า  ให้น้องเขาเดินไปตามชะตาเขาดีกว่า

หลังจากคุยกับแฟนเก่าน้องเขา  ผมเองตั้งหลักได้ทันที    ตั้งหลักได้ทุกอย่าง  
จบคือจบ.............ไม่ชอบยื้อ

ตอนนี้ไม่รู้ว่าน้องเขาเป็นไง   อยู่เมืองไทย หรือว่า เมืองนอก   เรื่องของเขา.....    
.......ไม่ได้สนใจที่จะติดต่ออีกเลย  แม้ว่าจะรู้จักบ้านน้องเขาก็ตาม

ก็เลยเรียกว่าพอดีเป๊ะ      กับสิ่งที่เราอยากได้ความสงบสุข  กลับมา    
สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเร็วมาก   มันเหมือนโชคชะตาพาไปมากกว่า

พอภรรยารู้เรื่องก็ดีใจ  บอกว่า ช่วงไม่กี่วันก่อนนี้   ไปไหว้รูปหลวงพ่อที่ผมไปบวชด้วย  ขอพรหลวงพ่อให้เรื่องทุกอย่างมันจบได้ด้วยดี    ภรรยาผมขออยู่หลายวัน  เพราะว่าช่วงนั้นภรรยาผมเองก็รู้สึกแย่มาก  ภรรยารู้ว่าผมเคารพหลวงพ่อมาก

พอไม่มีบุคคลที่ 3 แล้ว

ก็หันไปคุยกับภรรยาแบบที่ไม่มีบุคคลที่ 3  แล้ว  คุยถึงเรื่องของเรา  2  คน  ว่าจะเอาไง

เรื่องที่ผ่านมาเราเองผิดแน่นอนอยู่แล้ว     ส่วนภรรยานั้น สำหรับผมแล้ว  เค้าไม่ผิด  อย่างเก่งก็คงแค่บกพร่องบางอย่าง  แต่ว่ามันมีประเด็นตรงที่ว่า ตอนนั้น  เรา 2 คน  แก้ปัญหาความบกพร่องที่ว่าไม่เป็น    แม้ว่าจะมีความพยายามก็ตาม

สรุป
เรา 2  คน   ยังอยากอยู่ด้วยกัน  เริ่มกันใหม่    
ภรรยาเขาก็ปรับตัวได้ตามที่เราอยากได้   ตัวเราเองก็อยากกลับมาอยู่กับครอบครัวตามเดิม  

ภรรยาก็ยังรับเราได้อยู่......ก็ต้องขอบคุณภรรยาที่ยอมรับเราได้  อภัยให้เรา    อาจจะเพราะว่าเขารักเรามากมั๊ง.......
ก็ต้องขอบคุณภรรยามากๆที่ยอมปรับตัว

มันเหมือน  ไก่ กับ ไข่  อะไรเกิดก่อนกัน
พอภรรยาปรับตัวก่อนปั๊บ   ตัวเราเองก็ปรับตัวดีขึ้นด้วย   ภรรยาก็บอกว่าเราดีขึ้นเยอะ  OK  รับได้

เคยคุยกันว่า   สำหรับผมแล้ว......ทำไมภรรยาต้องปรับตัวก่อน  เราบอกว่าเพราะว่าตัวเราให้มามากพอแล้ว  มากจนรู้สึกว่าสำหรับเพศหญิงแล้ว นอกจากแม่  จะมีก็แค่ภรรยาเท่านั้นที่เราให้มากขนาดนี้

พอภรรยาเริ่มปรับปุ๊บ  เราสานต่อได้

ยังไงๆ ...... ก็ต้องขอบคุณภรรยามากที่ยังให้โอกาส.....รวมทั้งยอมปรับตัว  เพราะว่าถ้าไม่ปรับตัว มันก็เหมือนกับเชื้อไฟยังมีอยู่      เดี่ยว...... ซักวันมันจะมีเรื่องจนได้      พอปรับตัวซักหน่อยเราเองก็บอกว่าพอแล้ว  เป็นอบ่างที่เป็นเถอะ  ตัวผมเองก็ต้องปรับตัว
อนาคตถ้ามีเรื่องแบบนี้อีก     ภรรยาบอกว่าจะไม่รับกลับแล้วนะ  เค้าเน้น  เราเองก็ยืนยัน จะไม่มีบุคคลที่ 3 อีก  

แม่ยายท่านเคยถามหลังมีเรื่องว่า  ทำไมพอคุยกับภรรยาไม่รู้เรื่องแล้วทำไมไม่มาบอกท่านหล่ะ    ทำไมเก็บปัญหาเอาไว้     เราก็บอกว่า   บอกให้ภรรยาไปปรึกษาท่าน  หลายครั้งมาก   แต่ว่าภรรยาบอกว่าไม่จำเป็นทุกครั้งหรือไม่ก็เงียบไป  ทำไม่สนใจ      ท่านเลยบอกว่าวันหลังให้เราไปคุยกับท่านเลยแล้วท่านจะจัดการให้เอง

คุยกับภรรยาว่า
ถ้ามีอะไรทิ่ผมคิดว่าภรรยาคุยไม่รู้เรื่อง    ผม ก็จะบอกไปที่แม่ยายให้แม่ยายคุยกับภรรยาแทน  
ส่วนตัวผมนั้น  ถ้าภรรยาคิดว่าผมมีอะไรที่คุยไม่รู้เรื่อง   ก็ให้ไปบอกผู้ใหญ่ฝ่ายผมท่านนึงแล้วให้ท่านบอกมาที่ผม

ตอนนี้กำลังปลูกต้นรักใหม่กับภรรยาครับ

เมื่อไม่กี่วันมานี้  พึ่งไปคลินิกนิรนามมา  200  บาท ครับ  1 ชม รู้ผล    แถวตรงข้ามสวนลุม  บนถนนราชดำริ     ก็ไปตรวจให้ภรรยาสบายใจ  เพราะว่าเราเองนั้นสบายใจ  มั่นใจอยู่แล้ว ( ครบ  3   เดือนแล้ว   นับจากที่ไปมีอะไรครั้งสุดท้ายกับน้องคนนั้น  )

ปกติผมเองแน่ใจในตัวเองว่าเป็นคนที่ดีพอควร  ไม่นอกลู่นอกทาง  แต่เมื่อเจอเรื่องนี้แล้ว  ก็รู้ว่ายังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ไม่แน่นอน  ถ้าใครจะเอาเป็น  case  study  ก็ลองเอาไป ประยุกต์ใช้เองนะครับ  ว่าต้องระวังอะไร  ที่ต้องระวังมากๆคือ   มีสติ  ระวังอย่าให้ น้ำมันกับไฟ อย่ใกล้กัน
จบแล้วครับ  เหนื่อยพอควร  ทั้งกับตัวเองกับภรรยา  เป็นสิ่งที่เราทำขึ้นมาเองล้วนๆ

โชคชะตา  ม้วนพาชีวิต  เรา  เข้าไปสู่มหาสมุทรที่กำลังคลั่ง    
แล้วก็พากลับคืนมาสู่ฝั่ง   ถึงจะมีแผลถลอกไปทั้งตัว   แต่ว่า.....กลับมาได้ก็โชคดีแล้วครับ      
มหาสมุทรที่ว่านี่มัน.....มหาสมุทรแห่งกิเลส.....ครับ

[Jeng]

อืม เข้าใจแล้วครับท่าน san

ขอบคุณครับ ขอให้ชีวิตคู่มีความสุข สดชื่น สมหวัง ทุกประการ

อะไรที่คิดไว้ แล้วเป็นเรื่องที่ถูกที่ควร ขอให้สมปรารถนาครับ

เพิ่งเดินจงกรม นั่งสมาธิมาครับ อวยพรซะเลย อิอิ

[san]

ขอบคุณมากครับ สำหรับคำอวยพร

   :)    :)

[jaychou]

ยินดีด้วยครับพี่ ได้เรียนรู้เยอะจริงๆ

[boybbcom]

ขอให้โชคดี ครับพี่ san ครูคนหนึ่งของผมเคยพูดกับผมว่า ชีวิตคือการเปลี่ยนแปลงและเริ่มต้นใหม่ ผมเข้าใจว่า ความหมายของมันน่าจะหมายถึง ถึงแม้ว่าเราพลาดไปแล้ว ก็สามารถแก้ไข และเริ่มต้นใหม่ได้ มั้งครับ ผมเองก็จะเรียนรู้ไว้เป็นบทเรียนครับ    ขอให้โชคดีครับ

[javidol]

ขอบคุณครับพี่ san

ขอให้สุขสมหวังในชีวิตคู่ทุกประการครับ




ว่าแต่มีภาคก่อนหน้านี้ไว้เป็นคติเตือนใจน้องๆมั๊ยครับ  :oops:  :oops:  :oops: