เสียดายแผ่นดินแผ่นฟ้า-ให้ฝึกทหารสิงคโปร์อยู่ไปก็หนักเปล่า-ไล่ไปเสีย!
โดย สปาย หมายเลขหก
เมื่อ สิงคโปร์ หอกข้างแคร่ของไทย หรืออาจจะเป็นมากกว่านั้น คือเป็น หนามยอกอก ของเราทีเดียว โดยหนามที่เข้ามายอกอกนี้ เกิดขึ้นในช่วงที่มหามิตรของเขา คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยู่ในอำนาจ โดยระบอบทักษิณนั้นเกื้อกูลต่อสิงคโปร์เหมือนกับเอาประเทศไปวางไว้ข้างหน้าอย่างข้าทาส หรือเป็นทรัพย์สินของสิงคโปร์ในหลายๆ ด้าน แต่วันนี้ ลึก-หกสิบ, ลับ-สี่สิบ จะกล่าวถึงแต่ทางด้านของความมั่นคง ซึ่งน่าจะเป็นอันตรายอย่างสุดขีด เพราะจะมีอะไรที่อยู่เหนือความมั่นคงของชาติได้อีกเล่า?
อย่างแรก-เทมาเส็ก ได้หุ้นจากชินวัตรไปหมด ก็เท่ากับว่า ดาวเทียม ไทยคม ทุกดวงก็เป็นของสิงคโปร์ด้วย โดยสิทธิวงโคจรของดาวเทียมนั้นเป็นของชาติ มิใช่ของส่วนตัวที่หน้าเหลี่ยมจะขายได้ วงจรของดาวเทียมถูกกำหนดมาให้เป็นของแต่ละชาติว่าจะอยู่จุดใดในอวกาศ ช่องสัญญาณดาวเทียมสำหรับการสื่อสารนั้นก็เป็นของเทมาเส็ก รวมทั้งช่องสัญญาณเฉพาะสำหรับการสื่อสารทหารที่กรมสื่อสารทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้ใช้และควบคุมเครือข่าย ก็ตกอยู่ในมือของเทมาเส็ก ชื่อเป็นของรัฐบาลสิงคโปร์ ศูนย์สื่อสารทหาร ที่ทุ่งสีกัน ดอนเมืองนั้น จะเหลืออะไรอีกที่เป็นความลับทางทหาร และการใช้สัญญาณผ่านดาวเทียมนั้น ก็หมิ่นเหม่มากในเวลาฉุกเฉิน ที่อาจจะถูกตัดสัญญาณ หรือเกิดการขัดข้องทางเทคนิค แล้วเมื่อนั้นการติดต่อสื่อสารสั่งการ/บัญชาการ ก็จะเป็นอัมพาตหมดไปทุกเหล่าทัพ เพราะการสื่อสารนี้เป็นการสื่อสารแบบรวมการ
แต่เรื่องนี้มีการพูดกันมามากแล้ว โดยแสดงความอุ่นใจว่า ถึงอย่างไรสถานีควบคุมสั่งการดาวเทียมก็ยังตั้งอยู่ในเมืองไทย ไม่ได้ย้ายไปสิงคโปร์
ในการปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 ที่ผ่านมา ทหารได้เข้าควบคุมการปฏิบัติงานที่ศูนย์ดาวเทียม นนทบุรีด้วย และสามารถใช้สื่อสารทางทหารสั่งการได้ตลอดเวลา ไม่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิวัติ ทักษิณ นั้น
สิงคโปร์-ผู้หักหลังไทยกรณี ทักษิณ ไปใช้สิงคโปร์เป็นเวทีสำหรับการกล่าวร้ายต่อรัฐบาลไทยอย่างชัดเจน เป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองและก่อให้เกิดผลทางการเมืองในไทย รวมทั้งการใช้สิงคโปร์เป็นเวทีสำหรับการล้างคราบโสมม โดยสิงคโปร์เป็นผู้ให้น้ำและสบู่, สิงคโปร์ทำเหมือนกับว่าหน้าเหลี่ยมผู้นี้ คือผู้ที่เขายอมรับ และเป็นผู้วางอำนาจอย่างชั่วคราว สิงคโปร์เหยียบเรือสองแคม จับปลาสองมือ และมีเล่ห์เหลี่ยมมากพอๆ กับ ทักษิณ จึงคบกันได้อย่างมหามิตร หรือถ้าไม่เป็นมหามิตร ก็ต้องเป็นผู้รับใช้ที่ว่านอนสอนง่าย ใช้ไทยเสมือนเป็นดินแดนหรือเมืองออกของสิงคโปร์
แทนที่สิงคโปร์จะเกลียดชัง หรือรังเกียจที่คนผู้นี้ขายหุ้นให้แล้วก็เกิดความเสียหายในหุ้นที่ซื้อไปนับแสนล้านบาท คือมากกว่าราคา 7 หมื่น 3 พันล้านที่ซื้อ (แต่ยังจ่ายไม่หมด) กลับให้การต้อนรับเป็นอย่างดี เหมือนกับว่าจะช่วยเหลือหรือให้โอกาสสำหรับการกลับมาสู่อำนาจ เพื่อที่จะแก้ตัวหรือแก้ไขปัญหานั้น สิงคโปร์มองว่า-ทักษิณยังมีประโยชน์อยู่สำหรับสิงคโปร์ในอนาคต จึงต้องขุนไว้ และให้เชื่องยิ่งกว่าเก่า
สิงคโปร์เป็นประเทศทะเยอทะยาน คิดอะไรเล็กๆ ไม่เป็น คือต้องคิดใหญ่ไว้ก่อนแบบ THE MAGIC OF THINKING BIG ทั้งๆ ที่เป็นประเทศเกาะเล็กๆ ขนาดนั้น ความคิดทางทหารของเขาในการป้องกันประเทศ เพื่อป้องกันเศรษฐกิจความมั่งคั่ง การสร้างเสริมความมั่นคงของเขาจึงทำอย่างเต็มที่ให้น่าเกรงขาม เป็นประเทศเดียวในย่านนี้ที่มีเครื่องบินลาดตระเวนระยะสูงในการตรวจจับเป้าหมายภาคพื้นดิน แบบที่เราเคยเห็นจากภาพในสงครามของสหรัฐฯ ที่ใช้เครื่องบินโบอิ้งทั้งลำติดอุปกรณ์ตรวจจับอิเล็กทรอนิกส์ไว้เต็มลำ มีจานเรดาร์ขนาดใหญ่ตรึงติดอยู่หลังเครื่องบิน ที่สามารถใช้ระบบ MULTI-SENSOR FUSION และ AUTOMATIC TAROET RECOGNITION (ATR) ที่ส่งภาพเป้าหมายที่เกิดขึ้นจริงไปยังศูนย์บัญชาการได้, รวมทั้งโครงการเฮลิคอปเตอร์ไร้นักบิน แต่สามารถใช้อาวุธโจมตีที่หมายได้ ซึ่งกองทัพสหรัฐฯ กำลังอยู่ในการดำเนินการขั้นที่ 3 สำหรับโครงการที่มีชื่อว่า UCAR ทางสิงคโปร์ก็เข้าประกบแล้วที่จะได้มาประจำการ
สิงคโปร์มีเรือดำน้ำ 3 ลำ มีกองเรือขนาดเล็กแต่เป็นเรือติดขีปนาวุธทั้งสิ้น เรือยามฝั่งของสิงคโปร์ติดอาวุธดีกว่ากองเรือตามฝั่งของสหรัฐฯ ด้วยซ้ำไป, สิงคโปร์มีกำลังทางบก คือทหารบกอยู่ 4 กองพล มีปืนใหญ่แต่ไม่มีรถถัง เพราะมาเลเซียที่เป็นเพื่อนบ้าน (ซึ่งเคยรวมเป็นประเทศเดียวกันด้วยซ้ำ เมื่อได้เอกราชจากอังกฤษใหม่ๆ) ได้ยื่นคำขาดว่า ปืนใหญ่นั้นคุณมีได้ เพราะใช้เป็นอาวุธรักษาฝั่ง แต่ถ้าหากว่ามีรถถัง มียานเกราะ ก็จะถือว่า เป็นการจัดอาวุธเชิงรุกต่อมาเลเซียโดยตรง
สิงคโปร์จึงหันไปหนักทางกองทัพอากาศ ถือว่าเป็นกองทัพใหญ่สุด และลงทุนมากที่สุด
ทั้งกองทัพบกและกองทัพอากาศนั้น สิงคโปร์เป็นผู้พึ่งพาประเทศไทยมากที่สุด (เพราะหันไปพึ่งพาคนอื่นไม่ได้แล้ว) เนื่องจากประเทศเป็นเกาะขนาดเล็ก พื้นที่สำหรับการฝึกของทหารบก และทหารอากาศไม่มีเพียงพอ สิงคโปร์ใช้แผ่นดินเพื่อการค้าโดยตัวเองเป็นประเทศนายหน้าค้ากำไร ต้องมาขอใช้ดินแดนประเทศไทย ที่เขาคิดว่าเป็นของ ทักษิณ ทั้งหมด สำหรับการทหาร
เป็นเวลานานแล้ว-ประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา กองทัพบกสิงคโปร์ได้ขอใช้พื้นที่การฝึกสำหรับทหารของเขาที่กาญจนบุรี พื้นที่ฝึกอยู่บริเวณชายแดนไทย-พม่า ซึ่งเป็นเขตยึดครองของกองทัพกะเหรี่ยงอิสระ ที่มี พล.ต.โอลิเวอร์ เป็นผู้บัญชาการ บริเวณนั้นเรียกว่า บ้านกะเหรี่ยงโตถะ บ้านหนองศรีมงคล บ้านห้วยน้ำขาว อยู่ในเขตอำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ใช้พื้นที่เดียวกับที่โรงเรียนสงครามพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษใช้ในการฝึกหลักสูตรจู่โจม (ภาคป่าภูเขา) และหลักสูตรการรบ การดำรงชีพในป่า โดยศูนย์สงครามพิเศษ มีค่ายฝึกชื่อ ค่ายเพ่งผล ตั้งอยู่ที่นั่น บริเวณริมแควน้อยใกล้กับปราสาทเมืองสิงห์ ค่ายของสิงคโปร์แยกออกต่างหาก ชาวบ้านเรียกกันว่า ค่ายสิงคโปร์ อาวุธกระสุนที่ใช้ในการฝึกเป็นของเขาทั้งหมดที่ส่งมาจากสิงคโปร์ ในปีหนึ่งๆ มีการฝึกรวม 3 รุ่น รุ่นหนึ่งใช้เวลา 2 เดือน หรือบางปีก็มีถึง 4 รุ่น
นายกรัฐมนตรีลีเซียนลุงของสิงคโปร์ มียศทางทหารเป็นพลจัตวา ผู้บัญชาการทหารบกสิงคโปร์ก่อนจะมาเป็นทายาททางการเมืองต่อจากลีกวนยูผู้พ่อ, เขาเป็นทหารผู้มีประสบการณ์สูง คือหลังจากที่จบมาจากโรงเรียนนายร้อยทหารบกอังกฤษ ที่เซ็นเฮิร์ส เขามียศร้อยโทได้เข้ารับการเรียนหลักสูตร จู่โจม ที่โรงเรียนสงครามพิเศษพร้อมกับเพื่อนนายทหารสิงคโปร์ อีกคนหนึ่งจนจบหลักสูตรครบทั้งภาคที่ตั้งภาคสนาม ภาคป่าภูเขา ภาคทะเล เมื่อ พ.ศ. 2509
เมื่อประมาณ พ.ศ. 2535 หลังจากที่กองบิน 2 โคกกระเทียม ลพบุรี ได้ปรับเปลี่ยนกำลังทางอากาศ โดยให้กองบิน 2 เป็นที่ตั้งของอากาศยานเฮลิคอปเตอร์ (ฮ.) โดยเฉพาะ กองทัพอากาศสิงคโปร์ได้ขอใช้กองบิน 2 เป็นที่ฝึกบินเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งสิงคโปร์ใช้ ฮ.ของพูม่า ฝรั่งเศส อย่างเต็มหลักสูตร ก่อนหน้านั้น ก็เคยขอใช้มาแล้วเป็นระยะสั้นๆ ในบางห้วงเวลา โดยจัด ฮ.และครูฝึกตลอดจนชุดซ่อมบำรุงมาเอง ไทยสนับสนุนเรื่องการใช้อาคารสถานที่ อุปกรณ์ช่วยฝึกบางประเภท หอบังคับการบิน และการกู้ภัย
สำหรับการใช้ไทยเป็นที่ฝึกทหารครั้งสำคัญ คือการขอร่วมใช้ กองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี และ สนามบินน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นสนามบินที่สหรัฐฯ สร้างไว้สมัยสงครามเวียดนามเป็นฐานฝึกของเครื่องบินขับไล่ F-16 แบบ AB และ CD การนำเครื่องบิน F-16 เข้ามานี้ เป็นไปตามข้อตกลงในสมัยระบอบทักษิณ เมื่อ 2 ปีก่อน
สิงคโปร์มี F-16 อยู่ 5 ฝูง และจะมีการจัดหาเพิ่มเติมอีก 2 ฝูงในปีหน้า เครื่องบินดังกล่าวได้สับเปลี่ยนกันเข้ามาอยู่ในไทยครั้งละฝูง โดยที่กองบิน 23 อุดรธานีนั้น กองทัพอากาศไทยมีแต่เครื่องบินรบแบบอัลฟ่า เจ็ต ที่ชาวอุดรธานี และขอนแก่นเห็น F-16 บินฉวัดเฉวียนอยู่นั้นเป็นของกองทัพอากาศสิงคโปร์ทั้งสิ้น แต่มาใช้น่านฟ้าไทย
นอกจากจะใช้ไทยเป็นที่ฝึกบินหาความชำนาญ หรือการบินทางยุทธวิธีแล้ว F-16 ของสิงคโปร์ยังใช้แผ่นดินของเราเป็นสนามใช้อาวุธทางอากาศอีกด้วย ในการใช้สนามใช้อาวุธทางอากาศที่น้ำพอง ขอนแก่น และที่บ้านม่วงค่อม อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี อาวุธที่ใช้แผ่นดินไทยเป็นสนามทดสอบฝีมือนั้น มีทั้งการใช้ปืนกลอากาศ จรวดแบบต่างๆ และลูกระเบิด
ตารางการบินและการใช้อาวุธทางอากาศของ F-16 สิงคโปร์นั้น เต็มแน่นตลอดทั้งปี มีความถี่ในการขึ้นบินมากกว่า F-16 ของไทย ที่นครราชสีมา (กองบิน 1) และตาคลี นครสวรรค์ (กองบิน 4 ด้วยซ้ำ)
สิงคโปร์ไม่มีพื้นที่พอสำหรับการฝึกบิน ทั้งการหาความชำนาญ และยุทธวิธี เมื่อเครื่องบินวิ่งขึ้นก็แทบจะพันเกาะแล้ว ทางด้านเหนือเป็นพื้นที่ปิดอย่างสิ้นเชิง เพราะเป็นน่านฟ้าของมาเลเซีย ส่วนทางตะวันตกก็เป็นพื้นที่แคบน่านฟ้าไม่มากนัก เพราะเป็นน่านฟ้าของอินโดนีเซีย
ด้วยข้อจำกัดดังกล่าวจึงต้องมาใช้พื้นที่การฝึกในประเทศไทย
สิงคโปร์มีการฝึกร่วมทางอากาศกับไทยปีละครั้ง คือการฝึกแอร์ไทย-ลิงค์ และสิงคโปร์ได้เข้าร่วมการฝึกคอบร้าโกลด์ ซึ่งเป็นการฝึกร่วมระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกา เมื่อไม่กี่ปีมานี้ ด้วยความยินยอมของไทย ที่ให้สิงคโปร์เข้าฝึกร่วมด้วยได้ สิงคโปร์ส่งทหารบกและอากาศเข้าร่วมฝึกทั้งในส่วนการฝึกการบังคับการ และการฝึกภาคสนาม โดยมี F-16 เข้าร่วมการฝึกทางยุทธวิธีกับกองทัพอากาศไทย-สหรัฐฯ
มีการฝึกเติมน้ำมันกลางอากาศ จากเครื่องบิน KC แทงเกอร์ ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ซึ่งโอกาสที่จะได้รับการฝึกเช่นนี้มีน้อยมาก สิงคโปร์ก็ได้รับการฝึกรับน้ำมันกลางอากาศโดย F-16 ด้วย
จะเห็นได้ว่าไทยเอื้ออารีต่อสิงคโปร์ และมีบุญคุณอยู่กับสิงคโปร์มิใช่น้อยทางด้านการทหาร การสร้างความมั่นคงให้กับประเทศสิงคโปร์
แต่สิงคโปร์ไม่ได้ตอบแทนอะไรแก่เราเลยในยามฉุกเฉิน หรือแม้แต่การแสดงน้ำใจ
เช่นครั้งหนึ่ง กองกำลังบูรพา ที่ผันการประชิดของทหารญวนและเขมรฝ่ายเฮงสัมรินไว้ เมื่อครั้งญวนส่งทหาร 7 กองพลมาจ่อที่ชายแดนด้านอรัญประเทศและตาพระยา กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 102 ของกองกำลังบูรพา เจ้าของชายา บูรพาพยัคฆ์ ได้ใช้อำนาจการยิงของปืนใหญ่ 155 มม. ข่มการเคลื่อนไหวของยานเกราะฝ่ายตรงข้ามไว้นานหลายชั่วโมง การศึกครั้งนั้น คาดว่าจะต้องใช้กระสุนปืนใหญ่มากเกินอัตราที่มีอยู่ในกองพัน ป. 102 จึงมีการขอสนับสนุนกระสุนปืนใหญ่จากหน่วยปืนใหญ่ต่างๆ ทั้งที่กรุงเทพฯ ปราจีนบุรี ลพบุรี แม้แต่นครราชสีมายังต้องขนกระสุนปืนใหญ่ 155 มม. มาสำรองไว้ ปรากฏว่าการใช้กระสุนปืนใหญ่ในครั้งนั้น ต้องยิงอย่างต่อเนื่องอยู่เป็นเวลาหลายชั่วโมง อัตราสำรองของกระสุนปืนใหญ่ที่มีเหลืออยู่ต่ำกว่าเกณฑ์แล้ว และหากว่ามีความจำเป็นตามสถานการณ์จะต้องใช้ปืนใหญ่อีก กระสุนปืนใหญ่ขาดแคลนแน่นอน ได้มีการติดต่อสายด่วนไปยังประเทศเพื่อนบ้านมี อินโดนีเซีย ตอบรับมาเป็นประเทศแรก ว่าจะลำเลียงกระสุนปืนใหญ่ 155 มม. มาเสริมให้ แต่ปรากฏว่า ปืนใหญ่ของกองทัพบกอินโดนีเซียเป็นอีกแบบหนึ่งใช้กับปืนใหญ่ของเราไม่ได้ อินโดนีเซียก็ตอบกลับมาว่า ถ้าหากมีปัญหาเช่นนั้น เขาจะส่งทั้งปืนใหญ่และกระสุนของเขาเต็มอัตรามาให้ ต่อมา, ทางไทยได้ขอขอบคุณไป เพราะ มาเลเซีย ได้แสดงน้ำใจตอบมาว่า กระสุนปืนใหญ่ของเขาที่มีอยู่ใช้กับของไทยได้เพราะเป็นปืนใหญ่แบบเดียวกัน ขอให้ไทยหาทางลำเรียงกระสุนปืนใหญ่มาทางมาเลเซียได้ นำออกจากคลังมารอไว้แล้ว กองทัพอากาศได้ใช้ เครื่องบินลำเลียงซี-130 บินไปมาเลเซีย และบรรทุกขนกระสุนปืนใหญ่มาลงที่สนามบินอู่ตะเภา แล้วลำเรียงต่อไปที่อรัญประเทศโดยรถยนต์ การขนกระสุนปืนใหญ่ทางอากาศเช่นนี้ ถือเป็นอันตรายมาก ไม่มีใครเขาทำกัน แต่ไทยต้องทำ โดยคิดว่ามีบินออกจากมาเลเซียก็อยู่เหนือทะเลอ่าวไทย มาที่สนามบินอู่ตะเภาก็อยู่ชายทะเล เส้นทางบินไม่ผ่านเมืองหรือบ้านเรือนผู้คน หากจะระเบิดกลางอากาศก็เป็นอันตรายเฉพาะทหาร ในขณะเดียวกัน ร.ล.ช้าง ซึ่งเป็นเรือลำเรียงของกองทัพเรือก็ออกเรือทันที ข้ามอ่าวไทยไปบรรทุกกระสุนปืนใหญ่กลับมา
สิงคโปร์ซึ่งใช้ปืนใหญ่แบบเดียวกับของไทย มีแต่ความเงียบ ในยามฉุกเฉินเช่นนั้น
การที่สิงคโปร์แสดงออกต่อไทยในกรณี ทักษิณ ครั้งนี้ ก็เหมือนกับจะเป็นการซ้ำเติมในช่วงที่ไทยอยู่ในภาวะไม่ปกติเช่นกัน
มาตรการตอบโต้ที่ว่า ไทยงดกรอบการประชุมในโครงการความร่วมมือระหว่างพลเรือนไทย-สิงคโปร์ ยกเลิกการประชุมในวันที่ 29-31 มกราคมนี้ และถอนคำเชิญที่เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ ที่จะมาประชุมดังกล่าว เป็นมาตรการที่อ่อนไปสำหรับสิงคโปร์
ควรจะต้องยกเลิกค่ายฝึกสิงคโปร์ที่กาญจนบุรี ยกเลิกการฝึกบินเฮลิคอปเตอร์ที่กองบิน-2 ลพบุรี และให้ถอนกำลังนำเครื่องบิน F-16 ออกไปจากกองบิน 23 อุดรธานี และสนามบินน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ทันทีจึงจะสาสมกับการกระทำครั้งนี้ หากว่าชาตินี้ ทักษิณ ได้กลับมามีอำนาจใหม่ค่อยกลับมาใหม่-แต่จะได้กลับมาหรือ?
เสียดายแผ่นดินแผ่นฟ้า
- bsk(มหาชน)
- Verified User
- โพสต์: 3206
- ผู้ติดตาม: 0
เสียดายแผ่นดินแผ่นฟ้า
โพสต์ที่ 1
- bsk(มหาชน)
- Verified User
- โพสต์: 3206
- ผู้ติดตาม: 0
เสียดายแผ่นดินแผ่นฟ้า
โพสต์ที่ 2
มีข้อมูลทางทหารและเรื่องราวในอดีตที่น่าสนใจ
จึงนำมาให้ได้อ่านกัน
ท่านที่สนใจใคร่รู้ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ตามแหล่งข้อมูลต่างๆ
ไม่มีวัตถุประสงค์ขับไล่ในขณะนี้
จึงเรียนมาให้ทราบบัดเดี๋ยวnow
********************************
เมากลับมาแล้วหลับ หลับแล้วก็ตื่น แล้วจาไปหลับต่อ...
อรุณสวัสดิ์นิทรา..มหาชน..
จึงนำมาให้ได้อ่านกัน
ท่านที่สนใจใคร่รู้ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ตามแหล่งข้อมูลต่างๆ
ไม่มีวัตถุประสงค์ขับไล่ในขณะนี้
จึงเรียนมาให้ทราบบัดเดี๋ยวnow
********************************
เมากลับมาแล้วหลับ หลับแล้วก็ตื่น แล้วจาไปหลับต่อ...
อรุณสวัสดิ์นิทรา..มหาชน..
- san
- Verified User
- โพสต์: 1675
- ผู้ติดตาม: 0
เสียดายแผ่นดินแผ่นฟ้า
โพสต์ที่ 3
โค้ด: เลือกทั้งหมด
เพราะมาเลเซียที่เป็นเพื่อนบ้าน (ซึ่งเคยรวมเป็นประเทศเดียวกันด้วยซ้ำ เมื่อได้เอกราชจากอังกฤษใหม่ๆ) ได้ยื่นคำขาดว่า ปืนใหญ่นั้นคุณมีได้ เพราะใช้เป็นอาวุธรักษาฝั่ง แต่ถ้าหากว่ามีรถถัง มียานเกราะ ก็จะถือว่า เป็นการจัดอาวุธเชิงรุกต่อมาเลเซียโดยตรง
ไม่หงิมๆครับ ไม่กลัวข้อครหา ว่า การยื่นคำขาดจะเป็นการกระทำแบบชาตินิยมด้วยครับ
สู้แม้กระทั่งตอนสมัยฤทธิ์ต้มยำกุ้ง สู้จนต่างชาติชม
เอ..... หรือว่าตอนมาเลย์ ยื่นคำขาดให้สิงคโปร์ จะโดนชาวบ้านตัวเองบางคนหาว่าชาตินิยมหว่า.......อันนี้ ม่ายรู้อ่ะ
หรือว่าคนมาเลย์ไม่เที่ยวกล่าวหารัฐบาลแบบนั้น เพราะว่าคนเขาคิดจะสู้....มากกว่าถอย
อิอิอิ ถ้าไม่มีชาติ จะมีแผ่นดินแม่.....ให้ยืนอยู่เหรอครับ
ว่าแต่เราจะสู้หรือว่า ถอยครับ
มหาเดร์.....พิสูจน์แล้วครับ ว่า สู้แล้ว ยืนได้
ที่เมือง นานกิง ทหารญี่ป่น ได้สรุปแล้วว่า ทหารจีนที่ไม่สู้ ยอมแพ้ ทั้งที่มีเป็นพันคน ....... ขณะที่ ญี่ป่น มีแค่ ไม่ถึง ร้อย ทหารญี่ปุ่นให้สัมภาษณ์แล้วว่า ตอนนั้น รู้สึกว่าคนจีน มีค่าไม่ต่างกับ หมา ฆ่าได้สบายๆ
ไปหาอ่านเอานะคัรบ เรื่องเกี่ยวกับ นานกิง ยังมีขายในร้าน หนังสือ
ว่าแต่ตอนนนี้ สิงคโปร์ มันคิดยังไงหว่า
ชาตินิยมเกินไปป่าวหว่า ตรู.......
อิอิอิ
ให้มันฝึกยิงจรวดจนชำนาญ ในพื้นที่เรา แลกกับอะไรไม่กี่ตัง
เราโลภมากขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่มีตังเลยเหรอครับ
หรือว่ามันเป็นเพื่อนที่ดีมากสำหรับเราเลยเหรอ ลองดูนิสัยมันดีๆ จริงอ่ะ ที่มันนิสัยดี
อยู่ดีๆ ไปใจดี แบบไม่มียุทธศาสตร์ระยะยาวแบบนี้เลยเหรอ
ได้อะไรมากี่ตังเชียว แลกกับยุทธศาสตร์อันนี้
ไม่เผื่อเลยเหรอว่า ซักวันนึงหรอก มันจะเอามายิงจริงๆ
แล้วจะเข้าใจว่า การมองการณ์ไกล เป็นอย่างไร
ดูที่เราช่วยมาเลย์ลุยโจรจีนเมื่อ 20 กว่าปีก่อนดิ
วันนี้เป็นไง เหลือแต่โจรแขก ไม่มีใจรจีนไว้ใช้ต้านโจรแขก แล้วเป้นไง ใต้..ตายเป็นเบือ เมื่อก่อนจะยันโจรแขก ให้เอาโจรจีนยัน
ก็คิดแบบคิดว่า มาเลย์...เขาคงเป็นคนดีมั๊ง แล้วเป็นไง ไม่มีไพ่เหลืออยู่ในมือด้วยซ้ำ
ระวังสิงคโปร์ซักวันมันจะคิดว่า แค่เอาเศษตังมาให้ก็ได้แล้ว อีกไม่นานมันจะเอามากว่านี้ จะขอขี่เครื่องบิน....ยิงจริงๆ ยุ่งตายห่.......
ผมชาตินิยมครับบบบบบบ
รักเธอประเทศไทย
- san
- Verified User
- โพสต์: 1675
- ผู้ติดตาม: 0
เสียดายแผ่นดินแผ่นฟ้า
โพสต์ที่ 4
นิสัย สิงคโปร์ มันไปขอนอนบ้านไหนมันก็ปล้ำลูกสาวบ้านนั้น
ถ้าเจ้าของบ้านมัวแต่คิดว่า เดี๋ยวมันก็มาขอ เดี๋ยวมันมายื่นสินสอด ดีๆๆ ......เราจะได้สินสอดจะเสี่ย เลยไปปลดกลอนเปิดประตู เพื่อให้มันปล้ำลูกสาว จะได้สินสอด อาเสี่ย
55555
ชิกหาย...อ่า......
ถ้าเจ้าของบ้านมัวแต่คิดว่า เดี๋ยวมันก็มาขอ เดี๋ยวมันมายื่นสินสอด ดีๆๆ ......เราจะได้สินสอดจะเสี่ย เลยไปปลดกลอนเปิดประตู เพื่อให้มันปล้ำลูกสาว จะได้สินสอด อาเสี่ย
55555
ชิกหาย...อ่า......
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
เสียดายแผ่นดินแผ่นฟ้า
โพสต์ที่ 7
มีเรื่องกันนิดนึง ขยายความ ให้ใหญ่ขึ้น แล้วบอกรักชาติ
ประเทศจะสงบได้อย่างไร ถ้าไม่รู้จัก นิ่งๆ ซะบ้าง
กัดกันไปกัดกันมาในประเทศ ยังไม่พอใจ
เดี๋ยวนี้หัดไปกัดกับต่างประเทศ
อีกหน่อย จะรู้จริง ว่าคนต่างประเทศนั้น เขาเก่งกว่าคนไทย ขนาดไหน
รักประเทศไทย ควรรู้ว่า คนไทยจริงๆ เป็นอย่างไร
แต่ไหนแต่ไร มีใครบ้างครับ รักชาติ ขนาดยอมตาย และทำทุกอย่างเพื่อชาติจริงๆ
นี่นับตั้งแต่ผมเกิดนะ
แต่สมัยก่อน ผมก็ไม่ทราบ เพราะเกิดไม่ทัน
ประเทศจะสงบได้อย่างไร ถ้าไม่รู้จัก นิ่งๆ ซะบ้าง
กัดกันไปกัดกันมาในประเทศ ยังไม่พอใจ
เดี๋ยวนี้หัดไปกัดกับต่างประเทศ
อีกหน่อย จะรู้จริง ว่าคนต่างประเทศนั้น เขาเก่งกว่าคนไทย ขนาดไหน
รักประเทศไทย ควรรู้ว่า คนไทยจริงๆ เป็นอย่างไร
แต่ไหนแต่ไร มีใครบ้างครับ รักชาติ ขนาดยอมตาย และทำทุกอย่างเพื่อชาติจริงๆ
นี่นับตั้งแต่ผมเกิดนะ
แต่สมัยก่อน ผมก็ไม่ทราบ เพราะเกิดไม่ทัน
-
- Verified User
- โพสต์: 1647
- ผู้ติดตาม: 0
เสียดายแผ่นดินแผ่นฟ้า
โพสต์ที่ 8
ทหารออกรบเพื่อชาติรวมมั้ยครับพี่เจ๋งแต่ไหนแต่ไร มีใครบ้างครับ รักชาติ ขนาดยอมตาย และทำทุกอย่างเพื่อชาติจริงๆ
ผมว่าเรื่องสิงคโปร์นี่ ถ้าเราให้แล้วได้ผลประโยชน์กลับที่น่าพอใจก็ไม่เห็นเป็นไร เราก็ตอบโต้แล้วแต่กรณี เรื่องที่บทความเขียนนี่ผมไม่เห็นด้วยเลยครับ[/code]
- san
- Verified User
- โพสต์: 1675
- ผู้ติดตาม: 0
เสียดายแผ่นดินแผ่นฟ้า
โพสต์ที่ 10
โค้ด: เลือกทั้งหมด
เอา F-16 ถล่มสิงค์โปร์เลยดีมั๊ย ท่าน san
เอาแบบกลางๆ ไม่แข็งสุดขั้ว ไม่อ่อนเกินไปสิครับ
แบบว่าไม่โต้ตอบอะไรเลย แบบนั้น มันหน่อมแน้ม อ่อนสุดขั้วหล่ะม๊างงงงงงง
ไอ้ที่เราตอบโต้ไปแล้วไม่เห็นแรงซะหน่อย กะลังดี
เท่าที่รัฐบาลทำแบบนั้น เท่านั้น ทำแค่นั้นอ่ะนะ
ตอบโต้แค่นั้นอ่ะนะ เรียกว่า ชาตินิยม งง....ไม่เข้าจายยยย เฮ้อ......
แต่ถ้าผมชาตินิยมสุดขั้วสิ จะลองให้ผูกคุณเจ๋ง นั่งมัดติด F-16 ไปกามิกาเซ่ ถล่มมันเลย อิอิอิ
เพื่อถล่มสิงคโปร์...... ผมขอเสียสละคุณ เจ๋ง ครับ
อิอิอิ
- san
- Verified User
- โพสต์: 1675
- ผู้ติดตาม: 0
เสียดายแผ่นดินแผ่นฟ้า
โพสต์ที่ 11
ว่าแต่ถ้า......คุณเจ๋ง เป็นนายก
จะสั่งการยังไงเหรอครับหลังจากปรึกษา กระทรวง ตปท แล้ว บอกสิงคโปร์ไปก็แล้ว รวมทั้ง ลีเซียนหลุง มันพูดอะไรบางอย่างที่ฟิลิบปินเกี่ยวกับเทมาเซก ด้วยนะ
หลังจากนั้นคุณ เจ๋ง ที่เป็นนายก จะทำยังไงบ้างครับ แนวทางคุณเจ๋ง นะ
ที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะบอกว่าสิ่งที่รัฐทำแบบนั้นไม่ดี อะไรแบบนั้น
งั้นขอ ฟังความคิดเห็นจากคุณเจ๋งบ้างดีกว่า เนอะ....อิอิอิ
จะสั่งการยังไงเหรอครับหลังจากปรึกษา กระทรวง ตปท แล้ว บอกสิงคโปร์ไปก็แล้ว รวมทั้ง ลีเซียนหลุง มันพูดอะไรบางอย่างที่ฟิลิบปินเกี่ยวกับเทมาเซก ด้วยนะ
หลังจากนั้นคุณ เจ๋ง ที่เป็นนายก จะทำยังไงบ้างครับ แนวทางคุณเจ๋ง นะ
ที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะบอกว่าสิ่งที่รัฐทำแบบนั้นไม่ดี อะไรแบบนั้น
งั้นขอ ฟังความคิดเห็นจากคุณเจ๋งบ้างดีกว่า เนอะ....อิอิอิ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
เสียดายแผ่นดินแผ่นฟ้า
โพสต์ที่ 13
บ้านเรานะ คุณ san ระบบการจัดการมันแย่มาทุกสมัยเลย
เอะอะไม่ว่าเรื่องอะไร วิ่งไปถามนายก หน่วยงานต่างๆ ต้อง ชงเรื่องทำตามผู้ใหญ่
ผมเห็นมาตั้งแต่สมัยพลเอกเปรม พลเอกชาติชาย นายบรรหาร ดร.ทักษิณ ก็เป็นอย่างนี้มาตลอด
สุดท้าย มันหลายเรื่องประเดประดัง เข้าไปถาม คนเป็นนายก หรือไม่ก็คนระดับใหญ่ๆ
เป็นการบริหาร แบบ top down ชัดเจน
แค่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวก็งงกันไปหมดแล้ว ไม่ว่าเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ก็ไปถามนายก
หน่วยงานต่างๆไม่ทราบมีไว้ทำอะไร
ให้หน่วยงานนั้นๆ ทำก่อน เสนอก่อน
ไปคุยกันก่อน ว่า ทำไมสิงค์โปทำแบบนี้ รู้ตัวหรือเปล่า ว่ารัฐบาลไทยไม่พอใจอย่างยิ่ง
สมมุติว่า หน่วยงานระดับล่าง อาจจะเป็นฑูต ประจำประเทศ คุยแล้ว สิงค์โปร์ยืนยัน ก็จะมีข่าวออกมาว่า ไทยเริ่มไม่พอใจ และเจ้าหน้าที่การฑูต มีการเจรจา กันสองฝ่าย เพื่อหากรอบ ที่ทำให้เกิดความร่วมมือกันในระดับประเทศ
ถ้าการเจรจายังไม่คืบหน้า สิงค์โปร์ท่าทีก้าวร้าว และไม่รับผิดชอบ ทำหน้าเซ่อ
ก็เล่นต่อซิ ถึงระดับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ มีการนัดเจรจา
ทำให้ สิงค์โปร์รู้ว่า ถ้าไม่ทำอะไรบางอย่าง เช่น สำนึกผิด หรือ ขอโทษ อย่างเป็นทางการ ไทยไม่ยอมนะ ทำแบบนี้ได้อย่างไร
และก็ต้องฟังเหตุผลของเขาด้วย
เช่นเขาบอกว่า เป็นการพบกันส่วนตัวอย่างเพื่อน และ ไทยไม่เคยตัดสินว่าทักษิณ ผิดอะไรนั้น เป็นเรื่องที่รับฟังได้หรือไม่
ถ้าไม่ได้ ไม่เพราะอะไร ก็ว่ากันไป
ข่าวก็ออกมาเป็นระยะ ว่ามีการจัดการกับปัญหานี้ แบบ อารยชน
ส่วนการผิด เรื่องหนึ่ง แล้ว ก็มาเอาอีกหลายๆเรื่อง เช่น เรื่องดาวเทียม มือถือ และหรือ เรื่องการเช่าสนามบินนั้น
การกระทำแบบนี้ ก็ต้องคิดให้รอบครอบ ว่า ทำได้หรือไม่อย่างไร
เราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก รัฐบาลมาแล้วก็ไป อีกไม่นาน ก็ต้องมีการเลือกตั้ง
ถ้าไม่มีการเลือกตั้ง ประชาชนก็ประท้วงอยู่ดี
เพราะฉะนั้น ควรหรือไม่ควรที่จะ ต้องรีบจัดการ ในเรื่อง ที่ให้เช่าสนามบิน หรือ มือถือ ดาวเทียม
ถ้าควรจะจัดการอย่างไร
ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการให้สัมภาษณ์ของ ดร.ทักษิณ
ถ้าเราเอาทุกเรื่องมาตลุมบอล สิงค์โปร์
ถามหน่อย ประเทศอื่น อย่างญี่ปุ่น ใต้หวัน แคนาดา อเมริกา จีน อินเดีย เขาจะมองประเทศไทยอย่างไร
หรือว่าไม่ต้องแคร์ ลุยเลย
เอะอะไม่ว่าเรื่องอะไร วิ่งไปถามนายก หน่วยงานต่างๆ ต้อง ชงเรื่องทำตามผู้ใหญ่
ผมเห็นมาตั้งแต่สมัยพลเอกเปรม พลเอกชาติชาย นายบรรหาร ดร.ทักษิณ ก็เป็นอย่างนี้มาตลอด
สุดท้าย มันหลายเรื่องประเดประดัง เข้าไปถาม คนเป็นนายก หรือไม่ก็คนระดับใหญ่ๆ
เป็นการบริหาร แบบ top down ชัดเจน
แค่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวก็งงกันไปหมดแล้ว ไม่ว่าเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ก็ไปถามนายก
หน่วยงานต่างๆไม่ทราบมีไว้ทำอะไร
ให้หน่วยงานนั้นๆ ทำก่อน เสนอก่อน
ไปคุยกันก่อน ว่า ทำไมสิงค์โปทำแบบนี้ รู้ตัวหรือเปล่า ว่ารัฐบาลไทยไม่พอใจอย่างยิ่ง
สมมุติว่า หน่วยงานระดับล่าง อาจจะเป็นฑูต ประจำประเทศ คุยแล้ว สิงค์โปร์ยืนยัน ก็จะมีข่าวออกมาว่า ไทยเริ่มไม่พอใจ และเจ้าหน้าที่การฑูต มีการเจรจา กันสองฝ่าย เพื่อหากรอบ ที่ทำให้เกิดความร่วมมือกันในระดับประเทศ
ถ้าการเจรจายังไม่คืบหน้า สิงค์โปร์ท่าทีก้าวร้าว และไม่รับผิดชอบ ทำหน้าเซ่อ
ก็เล่นต่อซิ ถึงระดับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ มีการนัดเจรจา
ทำให้ สิงค์โปร์รู้ว่า ถ้าไม่ทำอะไรบางอย่าง เช่น สำนึกผิด หรือ ขอโทษ อย่างเป็นทางการ ไทยไม่ยอมนะ ทำแบบนี้ได้อย่างไร
และก็ต้องฟังเหตุผลของเขาด้วย
เช่นเขาบอกว่า เป็นการพบกันส่วนตัวอย่างเพื่อน และ ไทยไม่เคยตัดสินว่าทักษิณ ผิดอะไรนั้น เป็นเรื่องที่รับฟังได้หรือไม่
ถ้าไม่ได้ ไม่เพราะอะไร ก็ว่ากันไป
ข่าวก็ออกมาเป็นระยะ ว่ามีการจัดการกับปัญหานี้ แบบ อารยชน
ส่วนการผิด เรื่องหนึ่ง แล้ว ก็มาเอาอีกหลายๆเรื่อง เช่น เรื่องดาวเทียม มือถือ และหรือ เรื่องการเช่าสนามบินนั้น
การกระทำแบบนี้ ก็ต้องคิดให้รอบครอบ ว่า ทำได้หรือไม่อย่างไร
เราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก รัฐบาลมาแล้วก็ไป อีกไม่นาน ก็ต้องมีการเลือกตั้ง
ถ้าไม่มีการเลือกตั้ง ประชาชนก็ประท้วงอยู่ดี
เพราะฉะนั้น ควรหรือไม่ควรที่จะ ต้องรีบจัดการ ในเรื่อง ที่ให้เช่าสนามบิน หรือ มือถือ ดาวเทียม
ถ้าควรจะจัดการอย่างไร
ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการให้สัมภาษณ์ของ ดร.ทักษิณ
ถ้าเราเอาทุกเรื่องมาตลุมบอล สิงค์โปร์
ถามหน่อย ประเทศอื่น อย่างญี่ปุ่น ใต้หวัน แคนาดา อเมริกา จีน อินเดีย เขาจะมองประเทศไทยอย่างไร
หรือว่าไม่ต้องแคร์ ลุยเลย
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
เสียดายแผ่นดินแผ่นฟ้า
โพสต์ที่ 15
หลายเหตุการณ์ในช่วงนี้ ผมมองว่าเป็นเรื่องการเมือง การดิ้นรนของ คมช. และรัฐบาลครับ
เพราะอะไรหรือครับ
เพราะช่วงก่อนหน้านี้ เราได้ทราบว่าคะแนนนิยมของรัฐบาลตกต่ำอย่างมากและรวดเร็ว ทั้งจาก มาตรการ 30% ระเบิดกลางกรุงเทพ และนอมินี รวมทั้งกลุ่มผู้ร่วมล้มทักษิณแต่ยังไม่ได้ผลประโยชน์ตามที่ต้องการออกมาเตือนถึงความเด็ดขาดเป็นระยะ
จนกระทั่งประธานคมช.ออกมาพูดว่า ตัวเองถูกกล่าวหาว่า หน่อมแน้ม
หลังจากนั้น ก็เหมือนจงใจที่จะใช้ความเด็ดขาด รุนแรงขึ้น
ตั้งแต่ออกคำสั่งห้ามสื่อออกข่าวทักษิณ ยกเลิกพาสปอร์ตของทักษิณ และสุดท้ายก็ไปถึงสิงคโปร์
ระวังหน้าตามืด หลงใหลในอำนาจ จนเสพติดนะครับ
เวลามีอำนาจ และใช้อำนาจโดยไม่สนใจความรู้สึกคนอื่น สามารถทำอะไรตามใจตนได้อย่างง่ายและรวดเร็ว แต่เสพติดแล้วเลิกอยากครับ
เพราะอะไรหรือครับ
เพราะช่วงก่อนหน้านี้ เราได้ทราบว่าคะแนนนิยมของรัฐบาลตกต่ำอย่างมากและรวดเร็ว ทั้งจาก มาตรการ 30% ระเบิดกลางกรุงเทพ และนอมินี รวมทั้งกลุ่มผู้ร่วมล้มทักษิณแต่ยังไม่ได้ผลประโยชน์ตามที่ต้องการออกมาเตือนถึงความเด็ดขาดเป็นระยะ
จนกระทั่งประธานคมช.ออกมาพูดว่า ตัวเองถูกกล่าวหาว่า หน่อมแน้ม
หลังจากนั้น ก็เหมือนจงใจที่จะใช้ความเด็ดขาด รุนแรงขึ้น
ตั้งแต่ออกคำสั่งห้ามสื่อออกข่าวทักษิณ ยกเลิกพาสปอร์ตของทักษิณ และสุดท้ายก็ไปถึงสิงคโปร์
ระวังหน้าตามืด หลงใหลในอำนาจ จนเสพติดนะครับ
เวลามีอำนาจ และใช้อำนาจโดยไม่สนใจความรู้สึกคนอื่น สามารถทำอะไรตามใจตนได้อย่างง่ายและรวดเร็ว แต่เสพติดแล้วเลิกอยากครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
- jody4003
- Verified User
- โพสต์: 372
- ผู้ติดตาม: 0
เสียดายแผ่นดินแผ่นฟ้า
โพสต์ที่ 16
บทความนี้เหมือนคนพาลพูดมากๆครับ ไม่เห็นด้วย
ทำไมอะไรๆก็มองว่าสิงคโปร์เป็นหน่วยๆเดียว
ถ้ามองว่ากระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ได้งบมาขนาดนี้ เค้าก็ต้องใช้ไห้เต็มเม็ดเต็มหน่วยเพื่อแสนยานุภาพของกองทัพแล้วมันผิดตรงไหนครับ ในเมื่อประเทศเค้ารวยมากมีปัญญาจะซื้อเทคโนโลยีขนาดนั้น จะฝึกก็ต้องหาที่ฝึก แล้วมันผิดด้วยหรือครับ กระทรวงกลาโหมแค่ทำตามหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้วมันเกี่ยวกับเรื่องทักษินยังไงครับ
มายืมที่ฝึกแล้วไงครับ เราให้ยืมฟรีๆเหรอ?? คงไม่มั้ง หรือว่ามายืมที่ฝึกแล้วต้องเป็นบุญคุณกันทั้งชาติ เรื่องทักษินก็ห้ามดำเนินนโยบายตัวเอง ต้องทำตามว่าไทยอยากให้ทำอะไรเท่านั้น?? สมเหตุสมผลหรือครับ
ส่วนเรื่องเฮงสำริน ไม่ทราบครับ ไม่มีความเห็น แต่มีความเห็นเพียงว่า เรื่องนี้มันมากกว่าน้ำใจครับ เพราะเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ เค้าช่วยคนนึงรบหมายถึงประกาศตัวเป็นศัตรูกับอีกฝั่งครับ อย่ามองแต่ด้านตัวเอง ควรเข้าอกเข้าใจคนอื่นด้วย
ไม่ได้เชียร์ใคร หรืออยู่ข้างใคร แต่บทความนี้มันไม่ได้เรื่องจริงๆครับ
ทำไมอะไรๆก็มองว่าสิงคโปร์เป็นหน่วยๆเดียว
ถ้ามองว่ากระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ได้งบมาขนาดนี้ เค้าก็ต้องใช้ไห้เต็มเม็ดเต็มหน่วยเพื่อแสนยานุภาพของกองทัพแล้วมันผิดตรงไหนครับ ในเมื่อประเทศเค้ารวยมากมีปัญญาจะซื้อเทคโนโลยีขนาดนั้น จะฝึกก็ต้องหาที่ฝึก แล้วมันผิดด้วยหรือครับ กระทรวงกลาโหมแค่ทำตามหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้วมันเกี่ยวกับเรื่องทักษินยังไงครับ
มายืมที่ฝึกแล้วไงครับ เราให้ยืมฟรีๆเหรอ?? คงไม่มั้ง หรือว่ามายืมที่ฝึกแล้วต้องเป็นบุญคุณกันทั้งชาติ เรื่องทักษินก็ห้ามดำเนินนโยบายตัวเอง ต้องทำตามว่าไทยอยากให้ทำอะไรเท่านั้น?? สมเหตุสมผลหรือครับ
ผมว่าเค้าไม่เหมือนแมงเม่าไทยมั้งครับ ซื้อหุ้นตามคนเชียร์ ติดดอยแล้วมาโทษเนี่ยแทนที่สิงคโปร์จะเกลียดชัง หรือรังเกียจที่คนผู้นี้ขายหุ้นให้แล้วก็เกิดความเสียหายในหุ้นที่ซื้อไปนับแสนล้านบาท คือมากกว่าราคา 7 หมื่น 3 พันล้านที่ซื้อ (แต่ยังจ่ายไม่หมด) กลับให้การต้อนรับเป็นอย่างดี เหมือนกับว่าจะช่วยเหลือหรือให้โอกาสสำหรับการกลับมาสู่อำนาจ เพื่อที่จะแก้ตัวหรือแก้ไขปัญหานั้น สิงคโปร์มองว่า-ทักษิณยังมีประโยชน์อยู่สำหรับสิงคโปร์ในอนาคต จึงต้องขุนไว้ และให้เชื่องยิ่งกว่าเก่า
ส่วนเรื่องเฮงสำริน ไม่ทราบครับ ไม่มีความเห็น แต่มีความเห็นเพียงว่า เรื่องนี้มันมากกว่าน้ำใจครับ เพราะเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ เค้าช่วยคนนึงรบหมายถึงประกาศตัวเป็นศัตรูกับอีกฝั่งครับ อย่ามองแต่ด้านตัวเอง ควรเข้าอกเข้าใจคนอื่นด้วย
ไม่ได้เชียร์ใคร หรืออยู่ข้างใคร แต่บทความนี้มันไม่ได้เรื่องจริงๆครับ
- bsk(มหาชน)
- Verified User
- โพสต์: 3206
- ผู้ติดตาม: 0
เสียดายแผ่นดินแผ่นฟ้า
โพสต์ที่ 18
หลากหลายมุมมองเป็นสิ่งที่ดีคับ ผมนับถือเสมอ..
ไม่แน่ใจว่าคนเขียนบทความนี้(เข้าใจว่าอยู่ในแวดวงทหาร)จะรู้อะไรลึกๆมากกว่าที่มองเห็นหรือเปล่า
บางทีถ้าไม่มีข้อมูลลึกซึ้ง บทความนี้ก็คืออคติดีๆนี่เอง
ซึ่งในความรู้สึกของคนไทยส่วนหนึ่งต่อสิงคโปร์ เป็นเช่นนั้นจริงๆด้วยสิ
ณ ขณะนี้เช่นกัน มองว่าความเคลื่อนไหวของทักษิณมีนัยยะทางการเมืองทั้งสิ้น
enough จึง is not enough
อำนาจเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์จริงๆ..
ไม่แน่ใจว่าคนเขียนบทความนี้(เข้าใจว่าอยู่ในแวดวงทหาร)จะรู้อะไรลึกๆมากกว่าที่มองเห็นหรือเปล่า
บางทีถ้าไม่มีข้อมูลลึกซึ้ง บทความนี้ก็คืออคติดีๆนี่เอง
ซึ่งในความรู้สึกของคนไทยส่วนหนึ่งต่อสิงคโปร์ เป็นเช่นนั้นจริงๆด้วยสิ
ณ ขณะนี้เช่นกัน มองว่าความเคลื่อนไหวของทักษิณมีนัยยะทางการเมืองทั้งสิ้น
enough จึง is not enough
อำนาจเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์จริงๆ..