ผมลองกรองแล้ว ได้อย่างนี้อ่ะครับ

[lastphenix]

สวัสดีทุกท่านครับ ผมเพิ่งจะเล่นหุ้นมาได้ 4 เดือนมั้ง เล่นแบบไร้หลักการ เล่นหุ้นปั่นบ้าง ตามกระแสบ้าง ไม่มีความรู้เลย ทุน 8 หมื่น ตอนนี้เหลือ 6 หมื่นนิดๆ แล้ว

คิดว่ามันไม่น่าจะเป็นวิธีที่ถูกต้อง เลยลองมาศึกษาตัวหุ้นก่อนที่จะซื้อดีกว่า (ที่ผ่านมาซื้อไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าเขาทำธุรกิจอะไร)

ทีนี้เลยเอาข้อมูลของเมื่อวันศุกร์จาก http://www.richerstock.net/ มาเรียงดู ดูจาก P/E, P/B, Yield แล้ว ผมว่า SETCONSU, SETINDUS กับ SETAGRO น่าจะดูโดยรวมดีสุด แล้วผมก็เลือกหมวดที่เด่นๆ ของแต่ละอันออกมาได้ HOME, PETRO และ AGRI

จากนั้นผมก็เลือกหุ้นตัวที่มันดูโดยรวมดีสุดในแต่ละหมวดอีก (ดูจาก EPS, P/E, P/B, DPS, Yield, สินทรัพย์, หนี้สิน และกำไร) ได้ออกมาดังนี้ครับ

MODERN
OGC
PATO
PTTCH
TPA
RANCH
STA
TRUBB

แบ่งเป็นหมวดละ 2 - 3 - 3 ตามลำดับ (เนื่องจากเลือกต่อไม่ถูกแล้ว เลยมีหมวดละหลายตัว แฮะ แฮะ)

ทีนี้ปัญหาก็คือ ผมจะเลือกหมวดละตัว ทุกท่านคิดว่าควรจะเลือกตัวไหนดีครับ

ผมทราบครับว่าวิธีเลือกของผมมันมั่วๆ ชอบกล เพราะมันไม่ได้รวมปัจจัยอื่นนอกจากตัวเลขเลย เช่น มูลค่าตลาด แนวโน้มของธุรกิจ ผู้บริหาร อะไรต่ออะไรอีกจิปาถะ เรียกว่าเอาตัวเลขดุ้นๆ มาดูกันอย่างเดียวเลย แต่ผมถือว่าเป็นพัฒนาการที่มีแนวโน้มดีของผมแล้ว ไว้ค่อยเป็นค่อยไปเรื่อยๆ

รบกวนช่วยเลือก หรือช่วยให้คำแนะนำกับเด็กหัดใหม่คนนี้ด้วยนะครับ ขอบพระคุณมากครับ

[Mon money]

เลือกแบบนี้เป็นแบบง่ายๆครับ ใครๆเขาก็เลือกได้ และคุณอาจจะไม่ได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ อาจจะได้พอๆกับตลาด

ผมขออนุญาติแนะ ให้คุณไปหาดูธุรกิจที่น่าสนใจก่อนดีไหม แล้วกลับมาดูที่ตัวเลขของคุณ

คุณว่าธุรกิจอะไรน่าจะดีในปีหน้าและเติบโตได้ขั้นต่ำอีกห้าปีต่อจากนี้ไป

หรือ

บริษัทอะไรที่โครตจะราคาถูก เพราะยังไม่มีใครเห็นมูลค่าของมัน

หรือ

บริษัทไหนจ่ายปันผลสูงๆ เงินสดมากๆ ทรัพย์สินมีราคาซ่อนอยู่มากๆ แต่ราคาต่ำๆ

ฯลฯ

[woody]

อ่านตอนแรกผมก็จะมาเน้นย้ำเรื่องของกับดักตัวเลข เห็นพี่มนสรุปใจความให้เสร็จสรรพแล้วก็คงไม่ต้องพูดต่อนะครับ

[lastphenix]

ขอบคุณมากครับ

แต่กว่าจะดูออกว่าธุรกิจอะไรจะมาในอนาคตนี่สงสัยต้องสั่งสมความรู้อีกมากทีเดียว

[setmaker]

ขอบคุณมากครับ

แต่กว่าจะดูออกว่าธุรกิจอะไรจะมาในอนาคตนี่สงสัยต้องสั่งสมความรู้อีกมากทีเดียว

ช่วงแรกอาจต้องอดทนมากหน่อย
แต่ถ้าคุณเชื่อพี่มน สักสองปีผ่านไป ก็จะรู้ว่า
ไม่เสียหลายกับที่อ่าน กับที่ศึกษาไปครับ

สำคัญว่าอย่าใจร้อนเกินไป

เป็นกำลังใจให้ครับ

[naris]

เป็นบันไดขั้นแรกของVIครับ

ขอแค่เปลี่ยนแนวคิด พฤติกรรมก็จะเปลี่ยน ผลงานในอนาคตเปลี่ยนตามคุณภาพของการศึกษาในปัจจุบันแน่นอนครับ

ปัจจัยของคุณนกฟีนิกซ์นั้นเขาเรียกปัจจัยเชิงปริมาณ ทางอาจารย์เกรแฮมชอบใช้ แต่ต้องเจาะลึกเข้าไปอีกชั้นในส่วนของงบการเงิน เพื่อความปลอดภัยของเราจากการตกแต่งงบ หรือ งบการเงินผิดเพี้ยนไปจากที่เห็นในค่าต่างๆ

ส่วนที่อาจารย์ผมบอกไปให้ดูธุรกิจนั้น เขาเรียกปัจจัยเชิงคุณภาพ โอกาสที่จะเจอเพรชในตรม มีสูงกว่า แต่อย่างที่คุณฟินิกซ์กล่าวไว้ว่ามันยาก นั่นก็ถูกครับ ต้องอาศัยประสบการณ์มากก็จริง แต่ถ้าเราเรียนรู้กลุ่มธุรกิจไหนไปแล้ว มันก็อยู่กับเราไม่ไปไหนนะครับ เรียนรู้ทีละบริษัทไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ครบเองแหละ
แล้วถ้าเจอหุ้นที่สองส่วนนี้มารวมกันได้หล่ะก็ ไม่อยากบอกว่า สุดยอดเลยแหละ

[เทียน]

ขอให้ความเห็นเพิ่มเติมครับ

ข้อแรกให้ดูเศรษฐกิจโดยรวมก่อนว่ากลุ่มไหนจะโตยิ่งมองได้ไกลยิ่งดี (ข้อนี้ต้องอ่านมากๆ ลองอ่านโพส์ของคุณ invisible hand)

ข้อสอง ศึกษาบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมนั้นๆ ที่จะโตเติบโตได้ในระยะยาว เลือกให้ได้สักหนึ่งหรือสองบริษัท ยิ่งน้อยๆ ยิ่งดี

ข้อสาม ก็คอยติดตาม

ผมคิดว่า ถ้าคุณศึกษาได้ดีแล้ว จะทำให้คุณมีความมั่นใจมากขึ้น และขงเป็นตัวของตัวเองครับ

หวังว่าจะมีประโยชน์ครับ

[Mon money]

ขอบคุณมากครับ

แต่กว่าจะดูออกว่าธุรกิจอะไรจะมาในอนาคตนี่สงสัยต้องสั่งสมความรู้อีกมากทีเดียว

แนะนำอย่างนี้ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี้ผมโดนด่าเละเลยนะนี่ มีบางคนด่ากลับมาว่าถ้าเป็นจะมาถามหรือ วิเคราะห์ไม่เป็นจึงมาถาม ไม่ตอบก็อย่ามาบอกให้ไปทำอย่างอื่นเลย

เดี๋ยวนี้ดี ไม่ด่ากัน

สำหรับเจ้าของกระทู้ ผมขออนุณาติแนะนำอีกว่า การซื้อหุ้นไม่สายหรอกครับ คุณวิบูลย์บอกว่าซื้อทางไปรษณียังทันเลย ถ้าไม่คิดอย่างนี้เท่าที่ทุนหายไปนั่นคิดว่าไม่พอหรือครับ ถ้าคิดว่าพอแล้วก็เริ่มต้นศึกษาหาความรู้ได้แล้ว ลองจากการจำลองดูก่อนก็ได้

หลายท่านในนี้เริ่มจากเงินทุนไม่มากครับ บัดนี้โตขึ้นมามาก ทุกท่านล้วนไม่รีบร้อน โดยเฉพาะนายนริศนั่นรวยเละเลย ท่าทางจะเป็นอภิชาตศิษย์ซะแล้ว ก็ทั้งขยัน ทั้งอดทน อยู่ตั้งจังหวัดเลย ข้อมูลก็หายาก ยังหาหุ้นที่หลายๆคนยังอิจฉา

เรียนรู้มีได้กับได้ ไม่มีเสีย ผมว่าหมื่นกว่าบาทก็น่าจะเป็นค่าวิชาเก็งกำไรพอแล้วนะครับ

[t_winyoo]

ข้อมูลเชิงปริมาณ จะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อมันถูกยืนยัน โดยข้อมูลเชิงคุณภาพของบริษัท

อย่างที่อาจารย์ หลายๆ ท่านข้างบนว่าไว้ครับ อย่าลืมข้อมูลเชิงคุณภาพ สำคัญมากนะครับ

[ply33]

สวัสดีครับพี่ๆเพื่อนๆนักลงทุนทุกท่าน

ส่วนตัวผมชอบและติดตามอ่าน ฟัง ดู ท่านๆมานานครับ ตั้งแต่ 2001 ได้ครับแต่ช่วงนั้นไปเรียนต่อพอดีครับเลยไม่ได้ลงทุนใน SET ครับ แต่ถึงมีโอกาสตอนนั้นก็คงเจ้งครับ ฮ่าๆ ได้อ่านหนังสือมาพอควรครับ ตอนนั้นชอบตีแตกของ ดร.นิเวศครับ อ่านง่ายสนุก ได้เนื้อๆ

ครับตั้งแต่ปีที่แล้วก็มาลงทุนเต็มตัวโดยแรกๆ ก็ตามๆเค้าไปครับ ไม่ได้เน้นอะไรมากเพราะงานเยอะ ก็แดงไปครับมาปีนี้เริ่ม"ลงทุน"จริงๆครับไม่ได้ซื้อตามคนอื่นๆ ก็เขียวครับ รวมๆแล้วตอนนี้ก็บวกนิดหน่อยครับ

ทีนี้อยากถามพี่มนน่ะครับ ว่าที่พี่บอกว่า ปีหน้าและปีต่อๆไปธุรกิจไหนจะดี คิดไม่ออกครับ บอกใบ้นิดนึงได้ไหมครับ หรือว่าเป็นความเห็นของพี่ก็ได้ครับ

ขอบคุณมากครับ

[nam]

เป็นบันไดขั้นแรกของVIครับ

ขอแค่เปลี่ยนแนวคิด พฤติกรรมก็จะเปลี่ยน ผลงานในอนาคตเปลี่ยนตามคุณภาพของการศึกษาในปัจจุบันแน่นอนครับ

ประโยคทอง นะครับนี่

[naris]

อาจารย์ก็ชมผมเกินไป ผมยังต้องเรียนรู้จากอาจารย์อีกหลายร้อยกระบุงทอง

ว่าแต่เมื่อไหร่พี่มน จะเปิดคอร์ส2 เอามาตรฐานการบัญชีใหม่ มาสอนด้วยนะครับ

รอบนี้จะขอไปค้างบ้านด้วยคน :lol:

[chatchai]

สำหรับผมแล้ว

เริ่มแรกก็คัดบริษัทที่มีผู้บริหาร  ผู้ถือหุ้นใหญ่  มีชื่อเสียงและพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจออก  ไม่ว่าธุรกิจจะดีแค่ไหน  ราคาหุ้นจะถูกเพียงใด  ก็ไม่ควรเสียเวลาไปวิเคราะห์ครับ

ต่อมาก็ดูธุรกิจ  คัดธุรกิจที่เราไม่สามารถเข้าใจ  หรือวิเคราะห์ได้ออก   บริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีบริษัทย่อยและบริษัทร่วมมากมายในหลายอุตสาหกรรม  ผมคงตามไปดูไม่ไหว

แล้วก็มาถึงงบการเงิน  เราควรวิเคราะห์ถึงความถูกต้อง  ยากง่ายของงบการเงิน  และที่เน้นมากสุดก็งบกระแสเงินสด  ซึ่งจะแสดงภาพการดำเนินธุรกิจจริงของบริษัทมากที่สุด

สุดท้ายก็คำนวณราคาตามปัจจัยพื้นฐาน  โดยให้ Sensitivity หลายๆแบบ  แล้วเปรียบเทียบกับราคาหุ้น

[โอ@]

อาจารย์ก็ชมผมเกินไป ผมยังต้องเรียนรู้จากอาจารย์อีกหลายร้อยกระบุงทอง

ว่าแต่เมื่อไหร่พี่มน จะเปิดคอร์ส2 เอามาตรฐานการบัญชีใหม่ มาสอนด้วยนะครับ

รอบนี้จะขอไปค้างบ้านด้วยคน :lol:

เปิด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ครั้งที่แล้วผมไม่ได้เรียนอ่ะ พี่มนเปิดอีกทีละกันครับ
แอบเข้ามากดดัน  8)

[lastphenix]

ขอบคุณครับทุกคน สำหรับคำแนะนำ รู้สึกบอร์ดนี้จะอบอุ่นดีนะครับ บางบอร์ดถามมาก โดนเหน็บซะงั้น

จริงๆ ผมก็สนใจแนวทาง VI มาตั้งแต่ก่อนจะเล่นหุ้นแล้วหล่ะครับ แต่กิเลสมันหนาไปหน่อย เห็นล่อตาล่อใจเลยต้องไปเก็งกำไร ตอนแรกผมมีเงินเก็บประมาณ 2 แสน เอาเก็บไว้เผื่อฉุกเฉินแสนนึง อีก 8 หมื่นเอามาลงทุน ตอนนั้นมันอยากรวยเร็วครับ จะได้รีบแต่งเมียครับ ฮ่า ฮ่า ผมอายุ 27 ยังไม่เยอะ แต่แฟน 31 แล้ว ชักช้ากลัวจะไม่ทันการ ทีนี้เล่นมาเล่นไป แทนที่จะได้มันกลายเป็นลดลงเรื่อยๆ เลยชักไม่แน่ใจ

เอาเป็นว่ากระทู้นี้ขอเป็นกระทู้แนะนำตัวไปด้วยเลยแล้วกันนะครับ เพิ่งจะเข้ามาเล่น ยังงัยก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ

ตอนนี้เท่ากับว่าผมต้องอ่านข่าวมากๆ เอาหนังสือหลักเสดมหภาคในรังกลับมาอ่านอีกครั้งจะได้เห็นความสัมพันธ์ของดัชนีแต่ละตัว แล้วก็ไปหัดอ่านงบให้เป็น (ตอนเรียนดันหนีมัน)

อีกคำถามครับ ในกรณีที่ค่าเงินบาทมันแข็งขึ้นไปเรื่อยๆ มีสิทธิจะลดดอกเบี้ยมั้ยครับ ถ้าลดธุรกิจอะไรจะได้ประโยชน์เต็มๆ ครับ พวกบ้าน รถ พวกนี้ผมว่าได้แค่เฉียดๆ นะ ขอบคุณครับ

[woody]

ขอบคุณครับทุกคน สำหรับคำแนะนำ รู้สึกบอร์ดนี้จะอบอุ่นดีนะครับ บางบอร์ดถามมาก โดนเหน็บซะงั้น

จริงๆ ผมก็สนใจแนวทาง VI มาตั้งแต่ก่อนจะเล่นหุ้นแล้วหล่ะครับ แต่กิเลสมันหนาไปหน่อย เห็นล่อตาล่อใจเลยต้องไปเก็งกำไร ตอนแรกผมมีเงินเก็บประมาณ 2 แสน เอาเก็บไว้เผื่อฉุกเฉินแสนนึง อีก 8 หมื่นเอามาลงทุน ตอนนั้นมันอยากรวยเร็วครับ จะได้รีบแต่งเมียครับ ฮ่า ฮ่า ผมอายุ 27 ยังไม่เยอะ แต่แฟน 31 แล้ว ชักช้ากลัวจะไม่ทันการ ทีนี้เล่นมาเล่นไป แทนที่จะได้มันกลายเป็นลดลงเรื่อยๆ เลยชักไม่แน่ใจ

เอาเป็นว่ากระทู้นี้ขอเป็นกระทู้แนะนำตัวไปด้วยเลยแล้วกันนะครับ เพิ่งจะเข้ามาเล่น ยังงัยก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ

ตอนนี้เท่ากับว่าผมต้องอ่านข่าวมากๆ เอาหนังสือหลักเสดมหภาคในรังกลับมาอ่านอีกครั้งจะได้เห็นความสัมพันธ์ของดัชนีแต่ละตัว แล้วก็ไปหัดอ่านงบให้เป็น (ตอนเรียนดันหนีมัน)

อีกคำถามครับ ในกรณีที่ค่าเงินบาทมันแข็งขึ้นไปเรื่อยๆ มีสิทธิจะลดดอกเบี้ยมั้ยครับ ถ้าลดธุรกิจอะไรจะได้ประโยชน์เต็มๆ ครับ พวกบ้าน รถ พวกนี้ผมว่าได้แค่เฉียดๆ นะ ขอบคุณครับ

ผมว่า Microeconomics นี่ก็สำคัญไม่แพ้กันนะครับ เผลอๆ ผมให้ความสำคัญมากกว่า Macro ด้วยซ้ำครับ

[โอ@]

Peter lynch เคยบอกนะครับ ว่าตอนเขาไปนั่งโต๊ะประชุมกับนักลงทุนคนอื่น
ต่างคนต่างก็พูดเกี่ยวกับว่า ตลาดจะแย่ อย่างโน้นอย่างนี้ ประเทศจะแย่ ฯลฯ
แต่สุดท้าย Lynch ก็ยังคงรักษาระดับผลตอบแทนที่ดีเยี่ยมไว้ได้
Macro ผมว่าก็ต้องสนใจ เพราะถ้าประเทศมีปัญหาเหมือนตอนต้มยำกุ้ง
ยังไงมันลงพร้อมกันหมดอยู่แล้ว แต่ว่าผมเองให้ความสำคัญกับ Micro มากกว่าครับ
ยกเว้นปัจจัยจาก Macro มันจะดูมีผลมากถึงขนาดทำให้ set หล่นลงไปได้ซัก
40 - 50 % หนะถึงค่อยน่าสน

[Dr.T]

ผม,โดยส่วนตัว,จะไม่ซื้อหุ้นในลิสต์คุณสักตัวครับ
ซื้อ 2 ตัวพอครับ ทุนหกหมื่นเนีย

[jody4003]

[quote="chatchai"]สำหรับผมแล้ว

เริ่มแรกก็คัดบริษัทที่มีผู้บริหาร

[miracle]

ต้องอดทนครับ
คำนี้ต้องท่องไว้ในใจ

ถ้าคุณเลือกแล้ว กิจการยังไม่แสดงผลของธุรกิจอย่าท้อแท้ไปเสียก่อน
ของผมก็เป็นเหมือนกัน
แต่ตอนนี้เริ่มจะสบายใจเพราะมันเริ่มใส่เกียร์เดินหน้าเต็มที่
เหมือนจรวดที่กำลังปล่อยจากฐานปล่อยจรวด ซึ่งเมื่อโดนปล่อยจรวด
จะมีความเร่งมากกว่าค่าgหลายสิบเท่าเพื่อที่จะหนีแรงดึงดูดของโลก
เมื่อพ้นแล้วก็สบายใจ
จะอยู่ในสภาพไร้น้ำหนัก