ไอ้เวลาโอง
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ไอ้เวลาโอง
โพสต์ที่ 1
8) เผื่อใครยังไม่ได้อ่านครับ
อ่านแล้ววังเวงพิลึกครับ
เมื่อวานเพื่อนพ่อค้าเหล็กรายใหญ่พอควรมาเล่นแบดด้วย
นั่งคุยกันนานเลย
เขาบอกเรื่องก่อสร้างเขารู้ดีที่สุดว่าเวลาไหนดี เวลาไหนแย่
เขาสังคายนาต่อว่า
ก่อสร้างต้องเริ่มจากเสาเข็มก่อนวัสดุอื่นใดทั้งสิ้น
ผมก็ว่าเอ็งขายเหล็ก ไปเกี่ยวไรด้วย
เขาว่าพี่ครับ ไส้เสาเข็มมันเป็นเหล็กนะพี่
เป็นที่เขาเรียก prestressed concrete wire
เขาว่าถ้าตลาดไม่มี demand เหล็กตัวนี้ละก็
ก่อสร้างอย่างอื่นก็คงจะต้องรอต่อไป
ฮ่า..ฮ่า..
ใครจะว่าเมืองไทยพอไปได้ หรือไปได้ดี ก็ว่าไป
เพื่อนมันประเมินจากวงการก่อสร้างว่า แย่แน่ครับ
วันนี้พอดีมาอ่านไทยรัฐ คอลัมน์เปิดฟ้าส่องโลก
ของเฮียนิติภูมิ นวรัตน์
เรื่อง logistic ของประเทศ
ก็เลยรู้ว่าที่ประเทศมันขยับไม่ค่อยไปไหน
ก็เพราะคำนี้นี่เอง
เอ้า "ไอ้เวลาโอง"
ฮ่าๆ Logistics Hub ของภูมิภาค ฮ่าๆๆๆ [21 พ.ย. 49 - 17:40]
สถาบันการบินพลเรือน ชวนนิติภูมิพูด Logistic และการขนส่งสินค้าทางอากาศ เวลา 13.00-15.00 น. อังคารวันนี้ที่หอประชุม 1 สถาบันฯ ถ.พหลโยธิน
ผมคันมือจะเขียนเรื่องการขนส่งทางอากาศหลายครั้ง แต่ไม่อำนวย วันนี้ ไหนๆก็จะไปพูดเรื่อง Logistics ก็เลยขอถือเป็นโอกาสนี้รับใช้ ท่านไปในตัวเลยนะครับ
บ้านเมืองใดที่ประสงค์ความสำเร็จด้านการส่งออก ผู้คนในประเทศนั้นจะต้องเกี่ยวดองหนองยุ่งและเอาจริงเรื่องการขนส่งสินค้าประเภทต่างๆ ทั้งขนส่งทางถนน ทางรถไฟ ทางอากาศ ทางน้ำ ภายในประเทศ และระหว่างประเทศ
การขนส่งระหว่างประเทศทั้งทางรถไฟ ทางทะเล และทางอากาศนั้น การขนส่งทางทะเลมีมากที่สุด ทางอากาศน้อยที่สุด พ.ศ. 2545 โลกขนส่งทางอากาศเพียง 1,370 ล้านตัน ก็ประมาณ 0.84% น้อยมากครับ ไม่ถึง 1% ของการขนส่งทุกด้านของโลก แต่สินค้าที่ถูกขนส่งทางอากาศเป็นพวกที่มีราคาแพง เมื่อมาดูในแง่ของราคา โอ้โฮ ต้องเผลออุทานว่าโอ้โฮจริงๆ เพราะมีมูลค่ามากถึง 40% ของมูลค่าการขนส่งโลก
ยิ่งเดี๋ยวนี้มีการส่งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าที่มีมูลค่าสูง สินค้าเน่าเสียง่าย อย่างพวกดอกไม้ ผลไม้ ขนส่งกันทางอากาศทั้งนั้น แต่การขนส่งทางอากาศของไทยมีเพียง 0.2% ของการขนส่งทุกประเภท พ.ศ. 2546 เราขนส่งสินค้าทางอากาศ 357,000 ตัน พ.ศ. 2547 มี 401,000 ตัน ถ้าจะเทียบในระดับโลก สิงคโปร์เป็นอันดับ 1 ในเรื่องการขนส่งทางอากาศ มาเลเซียลำดับ 9 ไทยลำดับ 20 เวียดนามลำดับที่ 71 ฯลฯ
เดิมนิติภูมิมีฝันอันบรรเจิด ผมฝากฝันทางการขนส่งทางอากาศแห่งราชอาณาจักรไทย ไว้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คิดว่า พ.ศ. 2549 ทันทีที่เราเปิดสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินแห่งนี้จะขนส่งสินค้าให้เราได้ทันที 3 ล้านตันต่อปีทีเดียว ฝันว่าเราจะมีการให้บริการแบบเขตปลอดพิธีการศุลกากรตลอด 24 ชั่วโมง และต่อไปในอนาคต ผมฝันว่า เมื่อสนามบิน สุวรรณภูมิขยายการให้บริการไปเรื่อยๆ จนถึง พ.ศ. 2553 ไทยก็น่าจะขนของทางอากาศได้ 6.4 ล้านตันต่อปี ถึงตอนนั้น ผมสามารถส่งเงาะ ทุเรียน ลำไย มังคุด และพืชผักนานาพันธุ์ ไปขายทั่วโลกได้ภายในเวลา 24 ชม.
ผม (เคยฝัน) อยากจะชนะสนามบินมาเลเซียที่ตอนนี้รองรับการขนส่งสินค้าได้ 1 ล้านตัน สนามบินชางซีของสิงคโปร์ได้ 2 ล้านตัน ถ้าสุวรรณภูมิของไทยได้ 3 ล้านตัน ผมก็จะแฮปปี้มีความสุขสนุกสนานสำราญใจ ถึงแม้ว่าเราจะยังแพ้สนามบินเซ็กแล็ปก๊กของฮ่องกงก็ไม่เป็นไร เรียนผู้อ่านท่านไว้เป็นข้อมูลครับ ว่าอีก 2 ปีข้างหน้า พ.ศ. 2551 แล็ปก๊กของฮ่องกงจะขนส่งได้บานเบอะเยอะแยะถึง 9 ล้านตันต่อปีทีเดียว
ยิ่งโลกเข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์มากขึ้น การแก้ไขกฎกติกาและข้อตกลงการเปิดน่านฟ้าเสรี เพื่อการบินเชิงพาณิชย์ก็มีมากขึ้น การขนส่งทางอากาศก็เยอะมากขึ้น แต่มี 2 อย่าง ที่ดับฝันอันบรรเจิดของพวกเราชาวไทยไชโยเกือบจะโดยสิ้นเชิง
อย่างแรกก็คือ การโกงกินอย่างมูมมามตะกรุมตะกรามขณะสร้างสุวรรณภูมิการโกงอย่างนี้ ไม่น่าจะเคยมีขึ้นมาก่อนในโลก จากสนามบินราคาแสนล้านกลายเป็นไอ้สนามบินกระจอกงอกง่อยกิ๊กก๊อกล้อกโล้ต โคตรสกปรก ประเมินด้วยสายตา ราคาที่ก่อสร้างจริงไม่น่าจะซักกี่หมื่นล้าน มีความเป็นห้างสรรพสินค้ามากกว่าเป็นสนามบินอันเป็นหน้าเป็นตาของชาติ โครงสร้างพื้นฐานสอบตกตั้งแต่ตอนเปิดทำการวันแรก ส่วนขีดความสามารถด้านเทคโนโลยี ด้านไอทีนั้น ถ้าเทียบเปรียบกับสนามบินอื่นในภูมิภาค เราอยู่เกือบบ๊วย ชนะก็ประเภทเขมร พม่า อะไรอย่างนี้
อย่างที่สอง คือสายการบินแห่งชาติของไทยครับ เท่าที่ติดตามดูการกระดิกพลิกตัวของการบินไทย ผมว่าบริษัทการบินสายนี้ไม่สนใจไยดี ที่จะพัฒนาตัวเองให้เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ อ้าวเฮ้ย การบินไทยยังใช้ใต้ท้องเครื่องบินเก็บสินค้ากันอีกหรือนี่ พัฒนากันยังไงถึงไม่มีเครื่องบินสำหรับขนส่ง ในขณะที่ สิงคโปร์แอร์คาร์โกมีเครื่องบิน B747
อ่านแล้ววังเวงพิลึกครับ
เมื่อวานเพื่อนพ่อค้าเหล็กรายใหญ่พอควรมาเล่นแบดด้วย
นั่งคุยกันนานเลย
เขาบอกเรื่องก่อสร้างเขารู้ดีที่สุดว่าเวลาไหนดี เวลาไหนแย่
เขาสังคายนาต่อว่า
ก่อสร้างต้องเริ่มจากเสาเข็มก่อนวัสดุอื่นใดทั้งสิ้น
ผมก็ว่าเอ็งขายเหล็ก ไปเกี่ยวไรด้วย
เขาว่าพี่ครับ ไส้เสาเข็มมันเป็นเหล็กนะพี่
เป็นที่เขาเรียก prestressed concrete wire
เขาว่าถ้าตลาดไม่มี demand เหล็กตัวนี้ละก็
ก่อสร้างอย่างอื่นก็คงจะต้องรอต่อไป
ฮ่า..ฮ่า..
ใครจะว่าเมืองไทยพอไปได้ หรือไปได้ดี ก็ว่าไป
เพื่อนมันประเมินจากวงการก่อสร้างว่า แย่แน่ครับ
วันนี้พอดีมาอ่านไทยรัฐ คอลัมน์เปิดฟ้าส่องโลก
ของเฮียนิติภูมิ นวรัตน์
เรื่อง logistic ของประเทศ
ก็เลยรู้ว่าที่ประเทศมันขยับไม่ค่อยไปไหน
ก็เพราะคำนี้นี่เอง
เอ้า "ไอ้เวลาโอง"
ฮ่าๆ Logistics Hub ของภูมิภาค ฮ่าๆๆๆ [21 พ.ย. 49 - 17:40]
สถาบันการบินพลเรือน ชวนนิติภูมิพูด Logistic และการขนส่งสินค้าทางอากาศ เวลา 13.00-15.00 น. อังคารวันนี้ที่หอประชุม 1 สถาบันฯ ถ.พหลโยธิน
ผมคันมือจะเขียนเรื่องการขนส่งทางอากาศหลายครั้ง แต่ไม่อำนวย วันนี้ ไหนๆก็จะไปพูดเรื่อง Logistics ก็เลยขอถือเป็นโอกาสนี้รับใช้ ท่านไปในตัวเลยนะครับ
บ้านเมืองใดที่ประสงค์ความสำเร็จด้านการส่งออก ผู้คนในประเทศนั้นจะต้องเกี่ยวดองหนองยุ่งและเอาจริงเรื่องการขนส่งสินค้าประเภทต่างๆ ทั้งขนส่งทางถนน ทางรถไฟ ทางอากาศ ทางน้ำ ภายในประเทศ และระหว่างประเทศ
การขนส่งระหว่างประเทศทั้งทางรถไฟ ทางทะเล และทางอากาศนั้น การขนส่งทางทะเลมีมากที่สุด ทางอากาศน้อยที่สุด พ.ศ. 2545 โลกขนส่งทางอากาศเพียง 1,370 ล้านตัน ก็ประมาณ 0.84% น้อยมากครับ ไม่ถึง 1% ของการขนส่งทุกด้านของโลก แต่สินค้าที่ถูกขนส่งทางอากาศเป็นพวกที่มีราคาแพง เมื่อมาดูในแง่ของราคา โอ้โฮ ต้องเผลออุทานว่าโอ้โฮจริงๆ เพราะมีมูลค่ามากถึง 40% ของมูลค่าการขนส่งโลก
ยิ่งเดี๋ยวนี้มีการส่งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าที่มีมูลค่าสูง สินค้าเน่าเสียง่าย อย่างพวกดอกไม้ ผลไม้ ขนส่งกันทางอากาศทั้งนั้น แต่การขนส่งทางอากาศของไทยมีเพียง 0.2% ของการขนส่งทุกประเภท พ.ศ. 2546 เราขนส่งสินค้าทางอากาศ 357,000 ตัน พ.ศ. 2547 มี 401,000 ตัน ถ้าจะเทียบในระดับโลก สิงคโปร์เป็นอันดับ 1 ในเรื่องการขนส่งทางอากาศ มาเลเซียลำดับ 9 ไทยลำดับ 20 เวียดนามลำดับที่ 71 ฯลฯ
เดิมนิติภูมิมีฝันอันบรรเจิด ผมฝากฝันทางการขนส่งทางอากาศแห่งราชอาณาจักรไทย ไว้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คิดว่า พ.ศ. 2549 ทันทีที่เราเปิดสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินแห่งนี้จะขนส่งสินค้าให้เราได้ทันที 3 ล้านตันต่อปีทีเดียว ฝันว่าเราจะมีการให้บริการแบบเขตปลอดพิธีการศุลกากรตลอด 24 ชั่วโมง และต่อไปในอนาคต ผมฝันว่า เมื่อสนามบิน สุวรรณภูมิขยายการให้บริการไปเรื่อยๆ จนถึง พ.ศ. 2553 ไทยก็น่าจะขนของทางอากาศได้ 6.4 ล้านตันต่อปี ถึงตอนนั้น ผมสามารถส่งเงาะ ทุเรียน ลำไย มังคุด และพืชผักนานาพันธุ์ ไปขายทั่วโลกได้ภายในเวลา 24 ชม.
ผม (เคยฝัน) อยากจะชนะสนามบินมาเลเซียที่ตอนนี้รองรับการขนส่งสินค้าได้ 1 ล้านตัน สนามบินชางซีของสิงคโปร์ได้ 2 ล้านตัน ถ้าสุวรรณภูมิของไทยได้ 3 ล้านตัน ผมก็จะแฮปปี้มีความสุขสนุกสนานสำราญใจ ถึงแม้ว่าเราจะยังแพ้สนามบินเซ็กแล็ปก๊กของฮ่องกงก็ไม่เป็นไร เรียนผู้อ่านท่านไว้เป็นข้อมูลครับ ว่าอีก 2 ปีข้างหน้า พ.ศ. 2551 แล็ปก๊กของฮ่องกงจะขนส่งได้บานเบอะเยอะแยะถึง 9 ล้านตันต่อปีทีเดียว
ยิ่งโลกเข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์มากขึ้น การแก้ไขกฎกติกาและข้อตกลงการเปิดน่านฟ้าเสรี เพื่อการบินเชิงพาณิชย์ก็มีมากขึ้น การขนส่งทางอากาศก็เยอะมากขึ้น แต่มี 2 อย่าง ที่ดับฝันอันบรรเจิดของพวกเราชาวไทยไชโยเกือบจะโดยสิ้นเชิง
อย่างแรกก็คือ การโกงกินอย่างมูมมามตะกรุมตะกรามขณะสร้างสุวรรณภูมิการโกงอย่างนี้ ไม่น่าจะเคยมีขึ้นมาก่อนในโลก จากสนามบินราคาแสนล้านกลายเป็นไอ้สนามบินกระจอกงอกง่อยกิ๊กก๊อกล้อกโล้ต โคตรสกปรก ประเมินด้วยสายตา ราคาที่ก่อสร้างจริงไม่น่าจะซักกี่หมื่นล้าน มีความเป็นห้างสรรพสินค้ามากกว่าเป็นสนามบินอันเป็นหน้าเป็นตาของชาติ โครงสร้างพื้นฐานสอบตกตั้งแต่ตอนเปิดทำการวันแรก ส่วนขีดความสามารถด้านเทคโนโลยี ด้านไอทีนั้น ถ้าเทียบเปรียบกับสนามบินอื่นในภูมิภาค เราอยู่เกือบบ๊วย ชนะก็ประเภทเขมร พม่า อะไรอย่างนี้
อย่างที่สอง คือสายการบินแห่งชาติของไทยครับ เท่าที่ติดตามดูการกระดิกพลิกตัวของการบินไทย ผมว่าบริษัทการบินสายนี้ไม่สนใจไยดี ที่จะพัฒนาตัวเองให้เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ อ้าวเฮ้ย การบินไทยยังใช้ใต้ท้องเครื่องบินเก็บสินค้ากันอีกหรือนี่ พัฒนากันยังไงถึงไม่มีเครื่องบินสำหรับขนส่ง ในขณะที่ สิงคโปร์แอร์คาร์โกมีเครื่องบิน B747
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 1717
- ผู้ติดตาม: 0
ไอ้เวลาโอง
โพสต์ที่ 3
por_jai เขียน:8) ผิดครับ" ไอ้เออาโอง "ครับ
.... อัน อม ไอ อน อด แอ้ว .....
.... อ๋ง อ๋าน อะ เอ้ด ไอย อะ ..... :'O
-
- Verified User
- โพสต์: 1717
- ผู้ติดตาม: 0
ไอ้เวลาโอง
โพสต์ที่ 5
Eto Demerzel เขียน:
ไอ้ อี ไอ อู่ อ๊ำ อ๊า
ไอ้ เอ อา เอ๊ก อิล
" เสี่ยวเอ้อ .... เอ๊กอิล อี้ อุน อี โอ้ "
" อำ อวด อา "

" เอ่น เออะ โอม "
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
พืดสวนโรค
โพสต์ที่ 6
8) เห็นเพื่อนที่ไปมาว่าง้าน
มานว่า ปาหี่ อีกแล้วฟ่ะ
ชื่อกระทู้ก็มานตั้ง ผมป่าว
ผมไม่เคยชอบเลย
ต้องไปแย่งกันกิน แย่งกันใช้เนี่ย
ผมไปเซิร์จรูปดูในบลูแพลนเน็ต พันทิพ
ดูรูปแล้วรู้สึกว่าคำวิจารณ์ของเพื่อนเข้าเค้าเหมือนกัน
ใครไปเที่ยวมารู้สึกยังไงกันมั่งครับ
มานว่า ปาหี่ อีกแล้วฟ่ะ
ชื่อกระทู้ก็มานตั้ง ผมป่าว
ผมไม่เคยชอบเลย
ต้องไปแย่งกันกิน แย่งกันใช้เนี่ย
ผมไปเซิร์จรูปดูในบลูแพลนเน็ต พันทิพ
ดูรูปแล้วรู้สึกว่าคำวิจารณ์ของเพื่อนเข้าเค้าเหมือนกัน
ใครไปเที่ยวมารู้สึกยังไงกันมั่งครับ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า