ดร.นิเวศน์" ทำนาย เทรนด์หุ้น 2550
-
- Verified User
- โพสต์: 44
- ผู้ติดตาม: 0
ดร.นิเวศน์" ทำนาย เทรนด์หุ้น 2550
โพสต์ที่ 1
"ดร.นิเวศน์" ทำนาย เทรนด์หุ้น 2550 เก็งหุ้น "โมเดิร์นเทรด-ฟาสต์ฟู้ด-โรงแรม"
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เปิดเผยกลวิธีการเล่นหุ้นปี 2550 บนเวทีสัมมนา "เซียนโซน" ซึ่งจัดขึ้นโดย นสพ.กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ร่วมกับ บล.บีฟิท และมหาวิทยาลัยศรีปทุม โดยเตือนให้นักลงทุน "ต้องระวัง" การลงทุนในหุ้นกลุ่ม "ธนาคารพาณิชย์" เอาไว้บ้าง
เนื่องจากตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป ธนาคารพาณิชย์จะเริ่มถูกเข้มงวดจากกฎเกณฑ์ใหม่ของแบงก์ชาติ โดยเฉพาะการกำหนดให้หนี้ค้างชำระตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป ต้องถูกจัดไว้ในส่วนของเอ็นพีแอล ซึ่งจะส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์จำเป็นต้องตั้งเงินสำรองเพิ่มขึ้น
ขณะที่ หุ้นใน "กลุ่มพลังงาน" หากเป็นไปได้...ควรหลีกเลี่ยง เพราะหุ้นในกลุ่มนี้จะเริ่มไม่ Growth
"เล่นหุ้นพลังงานตอนนี้ต้องหัวใจแข็งแรง โดยเฉพาะธุรกิจโรงกลั่น จะเหมือนรถที่วิ่งอยู่บนแกรนด์แคนยอน...ขึ้นแรง แต่ลงน่ากลัว
หุ้นในกลุ่ม "ที่อยู่อาศัย" ต้องถามตัวเองก่อนว่า ปีหน้ามันจะโตอีกหรือไม่...เพราะถึงโตก็โตช้า ไม่มีทางผิดแปลกไปจากนี้ ถ้า (กำไร) โตขึ้นไปได้สัก 4-5% ก็ดีมากแล้ว และหากกำไรโตได้เท่านี้...ราคาหุ้นคงไม่ไปไกลจากเดิม เนื่องจากสมัยนี้อัตราคนเกิดใหม่มันเริ่มที่จะลดลง ครอบครัวนิยมมีลูกแค่คนเดียว
และต้องยอมรับว่าตอนนี้ "เทรนด์หุ้น" กลุ่มที่อยู่อาศัยมันหมดความหวือหวา ขณะที่การแข่นขันก็ยังสูงมาก ไม่มีภาพของ "ผู้ชนะ" ที่ชัดเจน
เพราะการทำธุรกิจบ้านจัดสรร สิ่งสำคัญที่สุดคือ "ทำเล" ถ้าหากโครงการในทำเลนี้ขายหมดก็ต้องไปขึ้นอีกที่ทำเลใหม่ แต่ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าทั้งตลาดใครคือผู้ชนะ ต้องดูแต่ละทำเลไป
ส่วนหุ้นที่เน้นทำคอนโดมิเนียม แม้ธุรกิจจะโตขึ้นมามาก แต่ยังไม่มีผู้ชนะที่ชัดเจนเช่นกัน บางรายอาจจะพยายามทำภาพตัวเองไว้เด่นมาก แต่เราก็ไม่รู้แน่ว่า รายที่ 4-5 จะเด่นขึ้นมาเทียบชั้นเมื่อไรก็ได้
"เพราะฉะนั้น ถ้าจะเลือกลงทุนในยามนี้ต้องพยายามเลือกลงทุนในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบเพียงเล็กน้อย คือไม่ว่าตลาดจะเป็นยังไงสินค้าของธุรกิจนั้นก็ยังต้องขายได้"
ดร.นิเวศน์ ยกตัวอย่างหุ้นที่น่าลงทุนว่า อย่าง "หุ้นบะหมี่" (ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ หรือ TF) ตอนนี้ผมมีอยู่ 20,000 หุ้น เคยซื้อไว้ตั้งแต่ราคา 30-40 บาท แต่ตอนนี้ราคามันขึ้นมาตั้ง 436 บาท เป็นหุ้นที่อดทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดีมาก
แต่หากเปรียบกับสถานการณ์เศรษฐกิจในยามนี้ "ผมยังยืนยันว่า ยังคงสนใจหุ้นโมเดิร์นเทรด มากที่สุด เพราะมันเป็นหุ้นค้าขาย...ที่มีเครือข่ายจำนวนมาก เป็นธุรกิจที่มีระบบจากศูนย์กลาง มีความทันสมัย ลูกค้าเข้าไปแล้วได้ของครบ
...ซึ่งลักษณะค้าขายแบบนี้ ผมว่ามันเป็นอะไรที่เป็นฟิวเจอร์ของโลก"
นอกจากนี้ หุ้นโมเดิร์นเทรดยังถือเป็นหุ้นที่มี "ความเสี่ยงต่ำ" แถมกำไรยังมีความมั่นคงมาก เพราะเป็นธุรกิจประเภทซื้อมาขายไป และการเติบโตของมันก็ค่อนข้างที่จะแน่นอน อาจจะมีการเปิดสาขาใหม่ปีละ 10- 20 สาขา
ลองมองธุรกิจประเภทนี้ให้เป็น จะเห็นเลยว่า ยากมากที่สาขาแต่ละแห่งจะต้องปิดตัวลง เพราะเปิดไปแล้วมีแต่อยู่...ไม่ค่อยมีเลิก โอกาสที่แต่ละสาขาจะประสบความสำเร็จมีสูงมาก ยิ่งบ้านเรามันเมืองร้อน ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ต้องไปเดินห้างสรรพสินค้ากัน เพื่อต้องการอยู่ภายในห้องแอร์
ปัจจุบันหุ้นในกลุ่มโมเดิร์นเทรด ที่ ดร.นิเวศน์ ถือหุ้นรายใหญ่ก็คงมี "โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์" (HMPRO)
"ส่วน "ซีพี เซเว่นฯ" (CP7-11) นี่ก็น่าสนใจ ตอนนี้เขามีสาขาทั่วประเทศ และเพิ่มขึ้นตลอดเวลา"
รวมถึงหุ้น "ซีเอ็ด ยูเคชั่น" (SE-ED) ...ตัวนี้ผมก็ลงทุน และมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ก็ถือว่าอยู่ในกลุ่มของ "โมเดิร์นเทรด" เช่นเดียวกัน เพราะเป็นหุ้นที่มีเครือข่ายสาขา คนอ่านหนังสือก็มีแต่จะเพิ่มขึ้น และมันเป็นธุรกิจที่เก็บแคช (เงินสด) มีเงินไหลเข้ามาตลอดเวลา ก็เหมือนกับ CP 7-11 ...แม้ตอนนี้ตัวธุรกิจจะมีปัญหากับค่ายไทยรัฐ แต่ผมก็ถือเป็นแนเชอรัลเป็นเรื่องปกติของธุรกิจซึ่งกำลังเติบโต
เพราะเมื่อใดที่ธุรกิจของคุณใหญ่หรือเก่งขึ้นเท่าไร โอกาสพบกับปัญหามันก็ย่อมเข้ามาหามากขึ้นเป็นธรรมดา
โดยที่ ดร.นิเวศน์ ยังคงเชื่อว่าศึกระหว่าง "ซีเอ็ด" กับ "ไทยรัฐ" น่าจะได้ทางออกหรือข้อยุติในที่สุด ...และถึงยังไงเทรนด์ของธุรกิจก็จะคงอยู่ ไม่ใช่ว่ากิจการจะเจ๊งไป
"หุ้นโมเดิร์นเทรดซื้อไปเราไม่ต้องกังวลเลย เพราะเรารู้ว่ากิจการของเขามันดีตลอด ยอดขายมีแต่เพิ่มไม่มีลง เราต้องคิดว่าเราลงทุนระยะยาว คือไม่ต่ำกว่า 5 ปี เราซื้อแล้วทิ้งไว้เลยโดยที่ไม่ต้องทำอะไร"
หุ้นในกลุ่ม "โรงแรม" ก็ถือว่าอยู่ในมุมมองที่น่าลงทุน แต่ต้องเน้นลงทุนในหุ้นโรงแรมที่มี "เชน" ซึ่งหุ้นในกลุ่มนี้จะมีปันผลสม่ำเสมอ และการเติบโตของกำไรค่อนข้างต่อเนื่อง ...ไม่ค่อยสนใจกับดัชนีตลาดสักเท่าไร
นอกจากนี้ ดร.นิเวศน์ ยังแนะนำให้ลงทุนใน "หุ้นอาหาร" อีกเช่นกัน
หุ้นที่ผมชอบก็ต้องหุ้น "ฟาสต์ฟู้ด" เพราะผมคิดว่าตรงนี้มันเป็นเทรนด์ใหม่ของโลก แค่ถามว่าคุณจะเลือกกินอะไรระหว่างไก่ทอดเคเอฟซี กับไก่ย่างจีรพันธ์ ...เพราะเดี๋ยวนี้ราคากินในห้างกับกินข้างทางมันแทบไม่ต่างกันเลย เย็นกว่า สบายกว่า อร่อยกว่า
"ฟาสต์ฟู้ดมันเป็นเทรนด์ใหม่ที่จะเกิดขึ้น และคนรุ่นใหม่ๆ ก็จะต้องบริโภคมากขึ้นทุกๆ ปี เพราะคนรุ่นใหม่มันมีแต่จะเพิ่มขึ้นๆ แล้วคนก็มีรายได้มากขึ้น"
นักลงทุนบางกลุ่มที่กำลังมองว่า "หุ้นโรงพยาบาล" กำลังดี แต่ขอเตือนก่อนว่า "บังเอิญคุณอาจจะรู้ช้าไปนิด"
โดยเฉพาะบางตัวที่ราคาค่อนข้างจะหวือหวา แต่ตอนนี้ราคา (แพง) ไปมากแล้ว และเป็นหุ้นที่ผม "ไม่แนะนำ"
เพราะธุรกิจโรงพยาบาลมันเป็นสิ่งที่การเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องค่อนข้างมาก เพราะเป็นเรื่องของสุขภาพประชาชน รัฐบาลสามารถเข้าไปแทรกแซงได้ โดยเฉพาะในเรื่องของค่ายา
สรุปคือ การเลือกหุ้นที่ดีนั้นเราต้องดูว่า "หนึ่ง" ธุรกิจมันเติบโตหรือไม่ "สอง" เป็นผู้ชนะหรือไม่ และ "สาม" ราคาหุ้นเป็นอย่างไร ...ซึ่งถ้าราคาหุ้นยังถูกด้วย ตัวนี้สุดยอดเลย
หุ้นตัวที่ว่าเราจะดูผิดหรือดูถูก...สำหรับผมคือ ตัวนี้เมื่อเราดูมานาน สตอรี่ของมันคือเรื่องอะไร จนเมื่อเวลาผ่านไปสัก 1-2 ปี เราต้องรู้สึกแล้วว่าที่เราคิดไว้...มันผิดหรือถูก ถ้าผิดปุ๊บเราต้องขายทิ้ง
"พอร์ตหุ้นของผมต้องไม่มีหุ้นที่ขาดทุน เพราะถ้าตัวไหนที่ขาดทุน...ผมจะขายทิ้งทันที เพื่อไปหาตัวอื่นที่ดีกว่า"
หรือหากถ้าซื้อมาแล้ว ราคาหุ้นกลับขึ้นมา ทำให้เรามีกำไรเป็นเท่าตัว เราก็ต้องไม่ขาย แต่ยิ่งต้องซื้อเพิ่มอีก...เพราะว่าเราเลือกถูกตัวแล้ว ยกตัวอย่างหุ้น "ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า" (STANLY) แม้ตอนนี้ผมจะขายไปจนเกือบหมดแล้ว แต่ตอนที่ผมเข้ามาซื้อ ราคามัน 5-6 บาท พอขึ้นไปถึง 30-40 บาท ผมก็ยังซื้อเพิ่มต่อไป
เพราะถ้าเรารู้ว่าเราซื้อหุ้นถูกตัว แค่ตัวเดียวก็ทำให้เรารวยได้แล้ว แต่ตัวเดียวก็น้อยเกินไป ควรกระจายออกไป เอาอีกสัก 2-3 ตัวก็ได้
ดร.นิเวศน์ ยังฝากข้อคิดทิ้งท้ายว่า "การลงทุนในหุ้น...ถ้าเป็นไปในลักษณะว่ามันเหนื่อย แล้วก็น่าเบื่อ จะได้ตังค์...แต่ถ้าเหนื่อยด้วย แล้วสนุกด้วย เสียตังค์...ก็ต้องเลือกเอาว่า เราจะลงทุนแบบไหน"
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เปิดเผยกลวิธีการเล่นหุ้นปี 2550 บนเวทีสัมมนา "เซียนโซน" ซึ่งจัดขึ้นโดย นสพ.กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ร่วมกับ บล.บีฟิท และมหาวิทยาลัยศรีปทุม โดยเตือนให้นักลงทุน "ต้องระวัง" การลงทุนในหุ้นกลุ่ม "ธนาคารพาณิชย์" เอาไว้บ้าง
เนื่องจากตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป ธนาคารพาณิชย์จะเริ่มถูกเข้มงวดจากกฎเกณฑ์ใหม่ของแบงก์ชาติ โดยเฉพาะการกำหนดให้หนี้ค้างชำระตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป ต้องถูกจัดไว้ในส่วนของเอ็นพีแอล ซึ่งจะส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์จำเป็นต้องตั้งเงินสำรองเพิ่มขึ้น
ขณะที่ หุ้นใน "กลุ่มพลังงาน" หากเป็นไปได้...ควรหลีกเลี่ยง เพราะหุ้นในกลุ่มนี้จะเริ่มไม่ Growth
"เล่นหุ้นพลังงานตอนนี้ต้องหัวใจแข็งแรง โดยเฉพาะธุรกิจโรงกลั่น จะเหมือนรถที่วิ่งอยู่บนแกรนด์แคนยอน...ขึ้นแรง แต่ลงน่ากลัว
หุ้นในกลุ่ม "ที่อยู่อาศัย" ต้องถามตัวเองก่อนว่า ปีหน้ามันจะโตอีกหรือไม่...เพราะถึงโตก็โตช้า ไม่มีทางผิดแปลกไปจากนี้ ถ้า (กำไร) โตขึ้นไปได้สัก 4-5% ก็ดีมากแล้ว และหากกำไรโตได้เท่านี้...ราคาหุ้นคงไม่ไปไกลจากเดิม เนื่องจากสมัยนี้อัตราคนเกิดใหม่มันเริ่มที่จะลดลง ครอบครัวนิยมมีลูกแค่คนเดียว
และต้องยอมรับว่าตอนนี้ "เทรนด์หุ้น" กลุ่มที่อยู่อาศัยมันหมดความหวือหวา ขณะที่การแข่นขันก็ยังสูงมาก ไม่มีภาพของ "ผู้ชนะ" ที่ชัดเจน
เพราะการทำธุรกิจบ้านจัดสรร สิ่งสำคัญที่สุดคือ "ทำเล" ถ้าหากโครงการในทำเลนี้ขายหมดก็ต้องไปขึ้นอีกที่ทำเลใหม่ แต่ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าทั้งตลาดใครคือผู้ชนะ ต้องดูแต่ละทำเลไป
ส่วนหุ้นที่เน้นทำคอนโดมิเนียม แม้ธุรกิจจะโตขึ้นมามาก แต่ยังไม่มีผู้ชนะที่ชัดเจนเช่นกัน บางรายอาจจะพยายามทำภาพตัวเองไว้เด่นมาก แต่เราก็ไม่รู้แน่ว่า รายที่ 4-5 จะเด่นขึ้นมาเทียบชั้นเมื่อไรก็ได้
"เพราะฉะนั้น ถ้าจะเลือกลงทุนในยามนี้ต้องพยายามเลือกลงทุนในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบเพียงเล็กน้อย คือไม่ว่าตลาดจะเป็นยังไงสินค้าของธุรกิจนั้นก็ยังต้องขายได้"
ดร.นิเวศน์ ยกตัวอย่างหุ้นที่น่าลงทุนว่า อย่าง "หุ้นบะหมี่" (ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ หรือ TF) ตอนนี้ผมมีอยู่ 20,000 หุ้น เคยซื้อไว้ตั้งแต่ราคา 30-40 บาท แต่ตอนนี้ราคามันขึ้นมาตั้ง 436 บาท เป็นหุ้นที่อดทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดีมาก
แต่หากเปรียบกับสถานการณ์เศรษฐกิจในยามนี้ "ผมยังยืนยันว่า ยังคงสนใจหุ้นโมเดิร์นเทรด มากที่สุด เพราะมันเป็นหุ้นค้าขาย...ที่มีเครือข่ายจำนวนมาก เป็นธุรกิจที่มีระบบจากศูนย์กลาง มีความทันสมัย ลูกค้าเข้าไปแล้วได้ของครบ
...ซึ่งลักษณะค้าขายแบบนี้ ผมว่ามันเป็นอะไรที่เป็นฟิวเจอร์ของโลก"
นอกจากนี้ หุ้นโมเดิร์นเทรดยังถือเป็นหุ้นที่มี "ความเสี่ยงต่ำ" แถมกำไรยังมีความมั่นคงมาก เพราะเป็นธุรกิจประเภทซื้อมาขายไป และการเติบโตของมันก็ค่อนข้างที่จะแน่นอน อาจจะมีการเปิดสาขาใหม่ปีละ 10- 20 สาขา
ลองมองธุรกิจประเภทนี้ให้เป็น จะเห็นเลยว่า ยากมากที่สาขาแต่ละแห่งจะต้องปิดตัวลง เพราะเปิดไปแล้วมีแต่อยู่...ไม่ค่อยมีเลิก โอกาสที่แต่ละสาขาจะประสบความสำเร็จมีสูงมาก ยิ่งบ้านเรามันเมืองร้อน ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ต้องไปเดินห้างสรรพสินค้ากัน เพื่อต้องการอยู่ภายในห้องแอร์
ปัจจุบันหุ้นในกลุ่มโมเดิร์นเทรด ที่ ดร.นิเวศน์ ถือหุ้นรายใหญ่ก็คงมี "โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์" (HMPRO)
"ส่วน "ซีพี เซเว่นฯ" (CP7-11) นี่ก็น่าสนใจ ตอนนี้เขามีสาขาทั่วประเทศ และเพิ่มขึ้นตลอดเวลา"
รวมถึงหุ้น "ซีเอ็ด ยูเคชั่น" (SE-ED) ...ตัวนี้ผมก็ลงทุน และมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ก็ถือว่าอยู่ในกลุ่มของ "โมเดิร์นเทรด" เช่นเดียวกัน เพราะเป็นหุ้นที่มีเครือข่ายสาขา คนอ่านหนังสือก็มีแต่จะเพิ่มขึ้น และมันเป็นธุรกิจที่เก็บแคช (เงินสด) มีเงินไหลเข้ามาตลอดเวลา ก็เหมือนกับ CP 7-11 ...แม้ตอนนี้ตัวธุรกิจจะมีปัญหากับค่ายไทยรัฐ แต่ผมก็ถือเป็นแนเชอรัลเป็นเรื่องปกติของธุรกิจซึ่งกำลังเติบโต
เพราะเมื่อใดที่ธุรกิจของคุณใหญ่หรือเก่งขึ้นเท่าไร โอกาสพบกับปัญหามันก็ย่อมเข้ามาหามากขึ้นเป็นธรรมดา
โดยที่ ดร.นิเวศน์ ยังคงเชื่อว่าศึกระหว่าง "ซีเอ็ด" กับ "ไทยรัฐ" น่าจะได้ทางออกหรือข้อยุติในที่สุด ...และถึงยังไงเทรนด์ของธุรกิจก็จะคงอยู่ ไม่ใช่ว่ากิจการจะเจ๊งไป
"หุ้นโมเดิร์นเทรดซื้อไปเราไม่ต้องกังวลเลย เพราะเรารู้ว่ากิจการของเขามันดีตลอด ยอดขายมีแต่เพิ่มไม่มีลง เราต้องคิดว่าเราลงทุนระยะยาว คือไม่ต่ำกว่า 5 ปี เราซื้อแล้วทิ้งไว้เลยโดยที่ไม่ต้องทำอะไร"
หุ้นในกลุ่ม "โรงแรม" ก็ถือว่าอยู่ในมุมมองที่น่าลงทุน แต่ต้องเน้นลงทุนในหุ้นโรงแรมที่มี "เชน" ซึ่งหุ้นในกลุ่มนี้จะมีปันผลสม่ำเสมอ และการเติบโตของกำไรค่อนข้างต่อเนื่อง ...ไม่ค่อยสนใจกับดัชนีตลาดสักเท่าไร
นอกจากนี้ ดร.นิเวศน์ ยังแนะนำให้ลงทุนใน "หุ้นอาหาร" อีกเช่นกัน
หุ้นที่ผมชอบก็ต้องหุ้น "ฟาสต์ฟู้ด" เพราะผมคิดว่าตรงนี้มันเป็นเทรนด์ใหม่ของโลก แค่ถามว่าคุณจะเลือกกินอะไรระหว่างไก่ทอดเคเอฟซี กับไก่ย่างจีรพันธ์ ...เพราะเดี๋ยวนี้ราคากินในห้างกับกินข้างทางมันแทบไม่ต่างกันเลย เย็นกว่า สบายกว่า อร่อยกว่า
"ฟาสต์ฟู้ดมันเป็นเทรนด์ใหม่ที่จะเกิดขึ้น และคนรุ่นใหม่ๆ ก็จะต้องบริโภคมากขึ้นทุกๆ ปี เพราะคนรุ่นใหม่มันมีแต่จะเพิ่มขึ้นๆ แล้วคนก็มีรายได้มากขึ้น"
นักลงทุนบางกลุ่มที่กำลังมองว่า "หุ้นโรงพยาบาล" กำลังดี แต่ขอเตือนก่อนว่า "บังเอิญคุณอาจจะรู้ช้าไปนิด"
โดยเฉพาะบางตัวที่ราคาค่อนข้างจะหวือหวา แต่ตอนนี้ราคา (แพง) ไปมากแล้ว และเป็นหุ้นที่ผม "ไม่แนะนำ"
เพราะธุรกิจโรงพยาบาลมันเป็นสิ่งที่การเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องค่อนข้างมาก เพราะเป็นเรื่องของสุขภาพประชาชน รัฐบาลสามารถเข้าไปแทรกแซงได้ โดยเฉพาะในเรื่องของค่ายา
สรุปคือ การเลือกหุ้นที่ดีนั้นเราต้องดูว่า "หนึ่ง" ธุรกิจมันเติบโตหรือไม่ "สอง" เป็นผู้ชนะหรือไม่ และ "สาม" ราคาหุ้นเป็นอย่างไร ...ซึ่งถ้าราคาหุ้นยังถูกด้วย ตัวนี้สุดยอดเลย
หุ้นตัวที่ว่าเราจะดูผิดหรือดูถูก...สำหรับผมคือ ตัวนี้เมื่อเราดูมานาน สตอรี่ของมันคือเรื่องอะไร จนเมื่อเวลาผ่านไปสัก 1-2 ปี เราต้องรู้สึกแล้วว่าที่เราคิดไว้...มันผิดหรือถูก ถ้าผิดปุ๊บเราต้องขายทิ้ง
"พอร์ตหุ้นของผมต้องไม่มีหุ้นที่ขาดทุน เพราะถ้าตัวไหนที่ขาดทุน...ผมจะขายทิ้งทันที เพื่อไปหาตัวอื่นที่ดีกว่า"
หรือหากถ้าซื้อมาแล้ว ราคาหุ้นกลับขึ้นมา ทำให้เรามีกำไรเป็นเท่าตัว เราก็ต้องไม่ขาย แต่ยิ่งต้องซื้อเพิ่มอีก...เพราะว่าเราเลือกถูกตัวแล้ว ยกตัวอย่างหุ้น "ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า" (STANLY) แม้ตอนนี้ผมจะขายไปจนเกือบหมดแล้ว แต่ตอนที่ผมเข้ามาซื้อ ราคามัน 5-6 บาท พอขึ้นไปถึง 30-40 บาท ผมก็ยังซื้อเพิ่มต่อไป
เพราะถ้าเรารู้ว่าเราซื้อหุ้นถูกตัว แค่ตัวเดียวก็ทำให้เรารวยได้แล้ว แต่ตัวเดียวก็น้อยเกินไป ควรกระจายออกไป เอาอีกสัก 2-3 ตัวก็ได้
ดร.นิเวศน์ ยังฝากข้อคิดทิ้งท้ายว่า "การลงทุนในหุ้น...ถ้าเป็นไปในลักษณะว่ามันเหนื่อย แล้วก็น่าเบื่อ จะได้ตังค์...แต่ถ้าเหนื่อยด้วย แล้วสนุกด้วย เสียตังค์...ก็ต้องเลือกเอาว่า เราจะลงทุนแบบไหน"
-
- Verified User
- โพสต์: 1435
- ผู้ติดตาม: 0
ดร.นิเวศน์" ทำนาย เทรนด์หุ้น 2550
โพสต์ที่ 6
ผมจำได้เลาๆว่า สมัยก่อน ดร.นิเวศน์ ออกมาเขียนถึงว่า ให้ระวัง หุ้น เรือ ปิโตร ชาเขียว หรือ กองทุน (fund) ต่างๆ ที่ทำให้ภาพการเงินบิดเบือน ฯลฯ
ก็มีหลายคนออกมาแย้ง หรือให้ความเห็นต่างออกไป ผ่านมาเป็นปี พวกเราคงได้เห็นภาพอะไรชัดขึ้น
มาบทความนี้ ดร.ให้ระวัง "โรงกลั่น" และ "รพ." เรามาคอยดูอีกครั้งว่า กำไร และ ราคา ของหุ้นเหล่านี้จะเป็นอย่างไร
ปล. ใครได้ไปฟังที่งานจริงๆ Bizweek เค้าสรุปมาแบบนี้ ค่อนข้างตรงกับเนื้อหาที่ ดร.พูดจริงๆ ในงานป่าวครับ
ปล.2 หวังว่า หุ้นที่ ดร.ว่าดี คงไม่ขึ้นเร็วจี๋เพราะคนซื้อตามโดยไม่ได้ศึกษานะครับ อิอิ
ก็มีหลายคนออกมาแย้ง หรือให้ความเห็นต่างออกไป ผ่านมาเป็นปี พวกเราคงได้เห็นภาพอะไรชัดขึ้น
มาบทความนี้ ดร.ให้ระวัง "โรงกลั่น" และ "รพ." เรามาคอยดูอีกครั้งว่า กำไร และ ราคา ของหุ้นเหล่านี้จะเป็นอย่างไร
ปล. ใครได้ไปฟังที่งานจริงๆ Bizweek เค้าสรุปมาแบบนี้ ค่อนข้างตรงกับเนื้อหาที่ ดร.พูดจริงๆ ในงานป่าวครับ
ปล.2 หวังว่า หุ้นที่ ดร.ว่าดี คงไม่ขึ้นเร็วจี๋เพราะคนซื้อตามโดยไม่ได้ศึกษานะครับ อิอิ
กฎข้อที่1 อย่ายอมขาดทุน กฎข้อที่2 กลับไปดูกฎข้อที่ 1
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
ดร.นิเวศน์" ทำนาย เทรนด์หุ้น 2550
โพสต์ที่ 7
ในความคิดmodern tradeที่ยังน่าสนใจอยู่
เพราะการเปลี่ยนนิสัยในการบริโภคของสังคม
จากเมื่อก่อนซื้อของแต่ร้านขายของชำ
ตอนนี้เปลี่ยนแปลงเป็นซื้อเงินสดกับmodern trade
แต่ซื้อแบบสินเชื่อกับร้านชำแทน แบบนี้คือเงินสดจะวิ่งไปหาที่modern trade
ซึ่งmodern tradeตัวนี้จะไปกดเรื่องsuppllier อีกต่อหนึ่งว่า ใครต้องการตั้งบนชั้นก็ ต้องจ่ายค่าแรกเข้า จากนั้นก็ต้องทำกิจกรรมการลดแรกแจกแถมเป็นช่วงๆๆๆ
สามารถกดราคาจากsuppllierได้อีกต่างหาก
เรียกได้ว่าครบวงจร
แต่ที่มองไม่น่าสนใจเพราะอะไร
เพราะว่า มันไม่สามารถขยายสาขาได้ ทำให้ไม่เติบโตแบบก้าวกระโดดอีกแล้ว แบบสาขาที่1 ตั้งเอาเงินไปสร้างสาขาที่สอง 3 4 5 ... ไปเรื่อยๆๆๆไม่มีที่สิ้นสุด
เมืองไทยมี 76 จังหวัดแต่ทุกจังหวัดยังไม่มีModern tradeมันยังเจริญเติบโตได้อีก
ส่วนBankนั้น ปัจจัยที่จะมีผลกระทบปีหน้ามีเรื่องการเพิ่มทุน ที่ประกาศออกจากธปท. ไม่ได้มาแบบเล่นๆๆๆน่าครับมาแบบแรงเอาเรื่องเลย
ถ้าไม่อยากจะเพิ่มทุนตอนนี้คือ ควบกันเองก่อน แล้วเพิ่มทุนที่หลัง เพื่อต้อนรับการเปิดเสรีทางการเงินตามแผนบาเซิล2 เอาไว้
ส่วนกลุ่มโรงพยาบาล ปัจจัยคือ
ต้องมีสายธุรกิจเชื่อมต่อกับต่างชาติ ซึ่งแนวโน้มปีนี้คือคนไข้จะบินมาผ่าตัดที่เมืองไทย มาเลเซีย อินเดีย เพราะมีมาตรฐานดี ราคาถูกกว่าผ่าตัดที่ประเทศของเรา (ลดค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดได้กว่าครึ่งแถมเงินประกันสุขภาพที่ส่งไปครอบคลุมทั้งหมด) เดินทางมาก็เที่ยวไปในตัวด้วย ได้เรียนรู้คนประเทศนั้นอีกต่างหาก ต่างชาติชอบเที่ยวอยู่แล้ว
บ้านจัดสรรอันนี้ไม่รู้จริงๆๆๆ เพราะมองภาพไม่ออก
แต่ที่แน่นอนตอนนี้จะมีการไล่บี้เรื่องการเช่าที่ดินของจุฬาและรถไฟแห่งประเทศไทย งานนี้คนเช่าต้องจ่ายกันมากขึ้นแน่นอน เพราะที่ดินที่ให้เช่านั้นราคาถูกจริงๆๆๆ เมื่อเทียบกับค่าที่ดินตอนนี้
เรื่องอื่นๆๆๆต้องเสริมกันเอง
ส่งท้าย
ไม่มีหุ้นในกลุ่มbank ที่ดินและบ้านจัดสรร มีmodern tradeอยู่ตัวเดียวแต่มีปริมาณการถือครองน้อย
ส่วนโรงพยาบาลไม่มีกับเขาน่า
วิจารณ์แบบนี้พอเห็นภาพกันน่าครับว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป
ส่วนพวกที่ยังโตไปได้เรื่อยๆๆๆ คือประกันภัยที่มีช่องทางขายผ่านธนาคารพาณิชย์ถ้าให้ดีต้องเป็นบริษัทในเครือ
โตแบบก้าวกระโดดในช่วงนี้
เพราะการเปลี่ยนนิสัยในการบริโภคของสังคม
จากเมื่อก่อนซื้อของแต่ร้านขายของชำ
ตอนนี้เปลี่ยนแปลงเป็นซื้อเงินสดกับmodern trade
แต่ซื้อแบบสินเชื่อกับร้านชำแทน แบบนี้คือเงินสดจะวิ่งไปหาที่modern trade
ซึ่งmodern tradeตัวนี้จะไปกดเรื่องsuppllier อีกต่อหนึ่งว่า ใครต้องการตั้งบนชั้นก็ ต้องจ่ายค่าแรกเข้า จากนั้นก็ต้องทำกิจกรรมการลดแรกแจกแถมเป็นช่วงๆๆๆ
สามารถกดราคาจากsuppllierได้อีกต่างหาก
เรียกได้ว่าครบวงจร
แต่ที่มองไม่น่าสนใจเพราะอะไร
เพราะว่า มันไม่สามารถขยายสาขาได้ ทำให้ไม่เติบโตแบบก้าวกระโดดอีกแล้ว แบบสาขาที่1 ตั้งเอาเงินไปสร้างสาขาที่สอง 3 4 5 ... ไปเรื่อยๆๆๆไม่มีที่สิ้นสุด
เมืองไทยมี 76 จังหวัดแต่ทุกจังหวัดยังไม่มีModern tradeมันยังเจริญเติบโตได้อีก
ส่วนBankนั้น ปัจจัยที่จะมีผลกระทบปีหน้ามีเรื่องการเพิ่มทุน ที่ประกาศออกจากธปท. ไม่ได้มาแบบเล่นๆๆๆน่าครับมาแบบแรงเอาเรื่องเลย
ถ้าไม่อยากจะเพิ่มทุนตอนนี้คือ ควบกันเองก่อน แล้วเพิ่มทุนที่หลัง เพื่อต้อนรับการเปิดเสรีทางการเงินตามแผนบาเซิล2 เอาไว้
ส่วนกลุ่มโรงพยาบาล ปัจจัยคือ
ต้องมีสายธุรกิจเชื่อมต่อกับต่างชาติ ซึ่งแนวโน้มปีนี้คือคนไข้จะบินมาผ่าตัดที่เมืองไทย มาเลเซีย อินเดีย เพราะมีมาตรฐานดี ราคาถูกกว่าผ่าตัดที่ประเทศของเรา (ลดค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดได้กว่าครึ่งแถมเงินประกันสุขภาพที่ส่งไปครอบคลุมทั้งหมด) เดินทางมาก็เที่ยวไปในตัวด้วย ได้เรียนรู้คนประเทศนั้นอีกต่างหาก ต่างชาติชอบเที่ยวอยู่แล้ว
บ้านจัดสรรอันนี้ไม่รู้จริงๆๆๆ เพราะมองภาพไม่ออก
แต่ที่แน่นอนตอนนี้จะมีการไล่บี้เรื่องการเช่าที่ดินของจุฬาและรถไฟแห่งประเทศไทย งานนี้คนเช่าต้องจ่ายกันมากขึ้นแน่นอน เพราะที่ดินที่ให้เช่านั้นราคาถูกจริงๆๆๆ เมื่อเทียบกับค่าที่ดินตอนนี้
เรื่องอื่นๆๆๆต้องเสริมกันเอง
ส่งท้าย
ไม่มีหุ้นในกลุ่มbank ที่ดินและบ้านจัดสรร มีmodern tradeอยู่ตัวเดียวแต่มีปริมาณการถือครองน้อย
ส่วนโรงพยาบาลไม่มีกับเขาน่า
วิจารณ์แบบนี้พอเห็นภาพกันน่าครับว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป
ส่วนพวกที่ยังโตไปได้เรื่อยๆๆๆ คือประกันภัยที่มีช่องทางขายผ่านธนาคารพาณิชย์ถ้าให้ดีต้องเป็นบริษัทในเครือ
โตแบบก้าวกระโดดในช่วงนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 767
- ผู้ติดตาม: 0
ดร.นิเวศน์" ทำนาย เทรนด์หุ้น 2550
โพสต์ที่ 10
เพิ่งกลับจาก Hmpro สาขาบางใหญ่ครับ
คนเยอะพอสมควร คาดว่าจะขายดีนะครับ q4 นี้
เห็นคนไปซื้อ มอเตอร์ดูดน้ำ กับสายยางกันเยอะ น้ำท่วมครับ แถว บางบัวทอง ไทรน้อย
ผมก็ อุดหนุน มอเตอร์ดูดน้ำเหมือนกัน :lol:
แต่โดยส่วนตัวคิด เหมือนด็อกเตอร์นิเวศน์ครับ เรื่องhmpro คงยังโตได้อีกเยอะ พวกร้านขายก่อสร้างแบบเก่าเตรียมตัว ปิดกิจการอย่างเดียว
คนเยอะพอสมควร คาดว่าจะขายดีนะครับ q4 นี้
เห็นคนไปซื้อ มอเตอร์ดูดน้ำ กับสายยางกันเยอะ น้ำท่วมครับ แถว บางบัวทอง ไทรน้อย
ผมก็ อุดหนุน มอเตอร์ดูดน้ำเหมือนกัน :lol:
แต่โดยส่วนตัวคิด เหมือนด็อกเตอร์นิเวศน์ครับ เรื่องhmpro คงยังโตได้อีกเยอะ พวกร้านขายก่อสร้างแบบเก่าเตรียมตัว ปิดกิจการอย่างเดียว
-
- Verified User
- โพสต์: 1067
- ผู้ติดตาม: 0
ดร.นิเวศน์" ทำนาย เทรนด์หุ้น 2550
โพสต์ที่ 11
ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ครับ
ช่วงนี้มองอะไรก็เป็นว่าไม่กล้าซื้อ
ยึดติดอยู่กับต้นทุนระดับเดิม ๆ ที่ตัวเองถืออยู่
ซึ่งราคาปัจจุบันมันก็ต่างกันไปมากแล้ว
มาอ่านบทความนี้แล้ว
มันเหมือนถูกฉุดเข้ามาสู่การรับรู้ที่ถูกต้อง
Value is the KEY
ช่วงนี้มองอะไรก็เป็นว่าไม่กล้าซื้อ
ยึดติดอยู่กับต้นทุนระดับเดิม ๆ ที่ตัวเองถืออยู่
ซึ่งราคาปัจจุบันมันก็ต่างกันไปมากแล้ว
มาอ่านบทความนี้แล้ว
มันเหมือนถูกฉุดเข้ามาสู่การรับรู้ที่ถูกต้อง
Value is the KEY
... จุดเริ่มต้นของคนเราไม่สำคัญ
มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
-
- Verified User
- โพสต์: 426
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ดร.นิเวศน์" ทำนาย เทรนด์หุ้น 2550
โพสต์ที่ 12
"พอร์ตหุ้นของผมต้องไม่มีหุ้นที่ขาดทุน เพราะถ้าตัวไหนที่ขาดทุน...ผมจะขายทิ้งทันที เพื่อไปหาตัวอื่นที่ดีกว่า"
หรือหากถ้าซื้อมาแล้ว ราคาหุ้นกลับขึ้นมา ทำให้เรามีกำไรเป็นเท่าตัว เราก็ต้องไม่ขาย แต่ยิ่งต้องซื้อเพิ่มอีก...เพราะว่าเราเลือกถูกตัวแล้ว ยกตัวอย่างหุ้น "ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า" (STANLY) แม้ตอนนี้ผมจะขายไปจนเกือบหมดแล้ว แต่ตอนที่ผมเข้ามาซื้อ ราคามัน 5-6 บาท พอขึ้นไปถึง 30-40 บาท ผมก็ยังซื้อเพิ่มต่อไป
เพราะถ้าเรารู้ว่าเราซื้อหุ้นถูกตัว แค่ตัวเดียวก็ทำให้เรารวยได้แล้ว แต่ตัวเดียวก็น้อยเกินไป ควรกระจายออกไป เอาอีกสัก 2-3 ตัวก็ได้
เป็นอะไรที่ยากสำหรับคนส่วนใหญ๋ รวมทั้งผมด้วย
หรือหากถ้าซื้อมาแล้ว ราคาหุ้นกลับขึ้นมา ทำให้เรามีกำไรเป็นเท่าตัว เราก็ต้องไม่ขาย แต่ยิ่งต้องซื้อเพิ่มอีก...เพราะว่าเราเลือกถูกตัวแล้ว ยกตัวอย่างหุ้น "ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า" (STANLY) แม้ตอนนี้ผมจะขายไปจนเกือบหมดแล้ว แต่ตอนที่ผมเข้ามาซื้อ ราคามัน 5-6 บาท พอขึ้นไปถึง 30-40 บาท ผมก็ยังซื้อเพิ่มต่อไป
เพราะถ้าเรารู้ว่าเราซื้อหุ้นถูกตัว แค่ตัวเดียวก็ทำให้เรารวยได้แล้ว แต่ตัวเดียวก็น้อยเกินไป ควรกระจายออกไป เอาอีกสัก 2-3 ตัวก็ได้
เป็นอะไรที่ยากสำหรับคนส่วนใหญ๋ รวมทั้งผมด้วย
- LOSO
- Verified User
- โพสต์: 2512
- ผู้ติดตาม: 0
ดร.นิเวศน์" ทำนาย เทรนด์หุ้น 2550
โพสต์ที่ 13
"พอร์ตหุ้นของผมต้องไม่มีหุ้นที่ขาดทุน เพราะถ้าตัวไหนที่ขาดทุน...ผมจะขายทิ้งทันที เพื่อไปหาตัวอื่นที่ดีกว่า"
แปลกดีครับ ................................
ผมถือยาววววววววววววววววววววววววววววววววววววว .......................
อิอิ ล้อเล่นน่าจานนนนนนนนนนนนนน ........................
แปลกดีครับ ................................
ผมถือยาววววววววววววววววววววววววววววววววววววว .......................
อิอิ ล้อเล่นน่าจานนนนนนนนนนนนนน ........................
-
- Verified User
- โพสต์: 1667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ดร.นิเวศน์" ทำนาย เทรนด์หุ้น 2550
โพสต์ที่ 14
เห็นด้วยครับ ว่า ยากสำหรับคนปกติเทียน เขียน:"พอร์ตหุ้นของผมต้องไม่มีหุ้นที่ขาดทุน เพราะถ้าตัวไหนที่ขาดทุน...ผมจะขายทิ้งทันที เพื่อไปหาตัวอื่นที่ดีกว่า"
หรือหากถ้าซื้อมาแล้ว ราคาหุ้นกลับขึ้นมา ทำให้เรามีกำไรเป็นเท่าตัว เราก็ต้องไม่ขาย แต่ยิ่งต้องซื้อเพิ่มอีก...เพราะว่าเราเลือกถูกตัวแล้ว ยกตัวอย่างหุ้น "ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า" (STANLY) แม้ตอนนี้ผมจะขายไปจนเกือบหมดแล้ว แต่ตอนที่ผมเข้ามาซื้อ ราคามัน 5-6 บาท พอขึ้นไปถึง 30-40 บาท ผมก็ยังซื้อเพิ่มต่อไป
เพราะถ้าเรารู้ว่าเราซื้อหุ้นถูกตัว แค่ตัวเดียวก็ทำให้เรารวยได้แล้ว แต่ตัวเดียวก็น้อยเกินไป ควรกระจายออกไป เอาอีกสัก 2-3 ตัวก็ได้
เป็นอะไรที่ยากสำหรับคนส่วนใหญ๋ รวมทั้งผมด้วย
อย่างเช่น ตอนเราซื้อ PE มันแค่ 7 เท่า
พอมีคนสนใจมันเยอะๆ PE มันกลายไปเป็น 15 เท่า
ความน่าสนใจ มันก็ลดลง
คงไม่มีใคร หาเงินมากมาย ไว้ยัดใส่โลงศพตัวเอง
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
ดร.นิเวศน์" ทำนาย เทรนด์หุ้น 2550
โพสต์ที่ 15
สำหรับ snc ผมมีความรู้สึกเหมือน stanly ซักประมาณ 4-5 ปีก่อนครับ น่าจะโตได้อีกเยอะมากnaris เขียน:มองต่างมุมครับ
ส่วนผมยังหลงรัก TNH SNC อยู่ครับ 2ตัวนี้ผมยังว่ามีอะไรยังซ่อนอยู่อีกมาก
ใครใคร่รักๆ ใครใคร่เลือกๆ
hmpro ผมรอper 15 เท่าอยู่ครับ ขอต่อนิดหนึ่ง
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
ดร.นิเวศน์" ทำนาย เทรนด์หุ้น 2550
โพสต์ที่ 18
[quote="nearly_vi"]ขอบคุณอาจารย์ครับ
เห็นด้วยครับ
แต่บางอย่างไม่ค่อยเห็นด้วยครับ
แล้วทำไมผมอ่านบทความนี้แล้วรู้สึกแปลกๆ ก็ไม่รู้ครับ
ไม่รู้ว่ามีใครคิดเหมือนผมรึเปล่า...
เห็นด้วยครับ
แต่บางอย่างไม่ค่อยเห็นด้วยครับ
แล้วทำไมผมอ่านบทความนี้แล้วรู้สึกแปลกๆ ก็ไม่รู้ครับ
ไม่รู้ว่ามีใครคิดเหมือนผมรึเปล่า...
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
- Verified User
- โพสต์: 1255
- ผู้ติดตาม: 0
ดร.นิเวศน์" ทำนาย เทรนด์หุ้น 2550
โพสต์ที่ 19
ผมคิดว่าการซื้อหุ้นตามคนดังมักจะเจอกับคำว่า "รู้ช้าไปแล้ว" เหมือนกับที่ ดร พูด
ดร ไม่ได้บอกหุ้นว่าหุ้นตัวนี้ผมจะซื้อ แต่ท่านซื้อก่อนค่อยบอก อย่างนี้ก็รู้แล้วครับว่าคนละชั้นกัน
แต่เราก็ยังได้แนวทางการคิดของท่าน
เมื่อ 1-2 ปีก่อนราคาหุ้น modern trade ไม่สูงมากนัก หลังจากนั้น บทความ และการออกงานของ ดร ก็จะพูดเสมอว่า modern trade เป็นหุ้นที่น่าลงทุน แล้วหุ้นก็เริ่มสูงขึ้นจนแพง เพราะถ้าไม่แพง ท่านก็จะเพิ่มการลงทุนในหุ้นนั้นๆ
เมื่อท่านขาย ก็ไม่ได้บอกใครก่อน ถ้าในข่าวเป็นจริง stanly ที่ท่านขายเกือบหมดถึงมาบอก
ถ้าผมเป็นท่าน ผมก็ทำแบบเดียวกันครับ
ดังนั้นการจะตามใครต้องมีหลักการของตัวเอง
ดร ไม่ได้บอกหุ้นว่าหุ้นตัวนี้ผมจะซื้อ แต่ท่านซื้อก่อนค่อยบอก อย่างนี้ก็รู้แล้วครับว่าคนละชั้นกัน
แต่เราก็ยังได้แนวทางการคิดของท่าน
เมื่อ 1-2 ปีก่อนราคาหุ้น modern trade ไม่สูงมากนัก หลังจากนั้น บทความ และการออกงานของ ดร ก็จะพูดเสมอว่า modern trade เป็นหุ้นที่น่าลงทุน แล้วหุ้นก็เริ่มสูงขึ้นจนแพง เพราะถ้าไม่แพง ท่านก็จะเพิ่มการลงทุนในหุ้นนั้นๆ
เมื่อท่านขาย ก็ไม่ได้บอกใครก่อน ถ้าในข่าวเป็นจริง stanly ที่ท่านขายเกือบหมดถึงมาบอก
ถ้าผมเป็นท่าน ผมก็ทำแบบเดียวกันครับ
ดังนั้นการจะตามใครต้องมีหลักการของตัวเอง
-
- Verified User
- โพสต์: 1250
- ผู้ติดตาม: 0
ดร.นิเวศน์" ทำนาย เทรนด์หุ้น 2550
โพสต์ที่ 20
Snc เห็นดีด้วยครับ มีตอน 4 บาทกว่า ยังไม่ได้ขายเลยซักตัวyoyo เขียน: สำหรับ snc ผมมีความรู้สึกเหมือน stanly ซักประมาณ 4-5 ปีก่อนครับ น่าจะโตได้อีกเยอะมาก
กำลังหาเงิน รอจังหวะอยู่ครับ บางทีอยากได้อีกหน่อย แต่เงินยังไม่มี
ส่วน Hmpro ผมก็ขัดแย้งในตัวเองยังไงไม่รู้ เหมือนว่ามัน ไม่ค่อยมี loyalty มันก็ซื้อขายเหมือนๆกันแล้วยังไม่มีแบรนตัวเองเหมือนกับพวกซีเอ็ด แล้วพวกก่อสร้างเค้าไม่ยักกะซื้อที่ Hmpro เห็นแต่เค้าพูดถึง ซีเมนไทยโฮมมาร์ท
... แต่ผม คิด-มอง อะไรไม่ค่อยถูกซะด้วยสิ :oops:
-
- Verified User
- โพสต์: 210
- ผู้ติดตาม: 0
ดร.นิเวศน์" ทำนาย เทรนด์หุ้น 2550
โพสต์ที่ 21
ทำไมดอกเตอร์ถึงบอกให้ระวังหุ้นโรงกลั่นอ่ะครับ มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษรึป่าว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
ดร.นิเวศน์" ทำนาย เทรนด์หุ้น 2550
โพสต์ที่ 22
ค่าการกลั่นผันผวนมาก เดี๋ยวก็ 7-8 เหรียญ บางไตรมาสก็เหลือ 1-2 เหรียญ กำลังการกลั่นจากจีน อินเดีย จะเริ่มเข้ามาในปีหน้า รวมถึงการใช้พลังงานทดแทน เช่น เอทานอล ไบโอดีเซล เมื่อไม่นานมานี้ ไทยส่งออกน้ำมันดีเซลครั้งแรกในรอบหลายๆปีครับ เพราะปริมาณการใช้ลดลง แต่กำลังการผลิตเพิ่มNeocapritermes เขียน:ทำไมดอกเตอร์ถึงบอกให้ระวังหุ้นโรงกลั่นอ่ะครับ มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษรึป่าว
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- เพื่อน
- Verified User
- โพสต์: 1826
- ผู้ติดตาม: 0
ดร.นิเวศน์" ทำนาย เทรนด์หุ้น 2550
โพสต์ที่ 23
"พอร์ตหุ้นของผมต้องไม่มีหุ้นที่ขาดทุน เพราะถ้าตัวไหนที่ขาดทุน...ผมจะขายทิ้งทันที เพื่อไปหาตัวอื่นที่ดีกว่า"
ผมเข้าใจว่า ท่านคงหมายถึง หุ้นที่มีผลขาดทุนมั้งครับ คงไม่ได้หมายถึง ขาดทุนจากการถือไว้ในพอร์ตหรอกครับ
แต่ผมเห็นแย้งกับ ท่านดร. อยู่หน่อย ตรงเรื่องกลุ่มโรงแรมว่าควรเป็นโรงแรมที่มีเชน(คงหมายถึงเชนต่างชาติ) เท่าทีเห็นมา พวกเชนต่างชาติจะกินค่าบริหารไปค่อนข้างสูงรวมถึงการรั่วไหลของเงินลงทุนในการจัดซื้อสูงด้วยครับ....ผมสนใจโรงแรมที่เจ้าของมีส่วนร่วมดูแลในการบริหารด้วย หรือมีเชนของตัวเองมากกว่าครับ
- david
- Verified User
- โพสต์: 852
- ผู้ติดตาม: 0
ดร.นิเวศน์" ทำนาย เทรนด์หุ้น 2550
โพสต์ที่ 25
[quote="เฟยหง"]ขอบคุณครับ
1.My Facebook page, https://www.facebook.com/pages/Kitichai ... 5514051589.
2.U may follow my stock comment via http://twitter.com/value_talk
3.กระทู้ที่โพสท์นี้เป็นความเห็นส่วนตัว การซื้อขายหุ้นขึ้นอยู่กับการใช้วิจารณญาณของแต่ละคน
2.U may follow my stock comment via http://twitter.com/value_talk
3.กระทู้ที่โพสท์นี้เป็นความเห็นส่วนตัว การซื้อขายหุ้นขึ้นอยู่กับการใช้วิจารณญาณของแต่ละคน