รบกวนขอถามพี่ๆ เกี่ยวกับทฤษฏี CAPM ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 320
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนขอถามพี่ๆ เกี่ยวกับทฤษฏี CAPM ครับ
โพสต์ที่ 2
เบต้า คือ โควาเรียนระหว่างพอร์ตกับตลาดเทียบต่อหนึ่งหน่วยของวาเรียนของตลาด
5555 งงไหมครับ แต่ท่องแบบนี้จะช่วยให้เราจำที่มาของมันได้ครับ
มันเป็นมาตรวัดความผันผวนในราคาหรือผลตอบแทนจากหุ้นหรือพอร์ตโฟลิโอเมื่อเทียบกับตลาดรวม
5555 งงไหมครับ แต่ท่องแบบนี้จะช่วยให้เราจำที่มาของมันได้ครับ
มันเป็นมาตรวัดความผันผวนในราคาหรือผลตอบแทนจากหุ้นหรือพอร์ตโฟลิโอเมื่อเทียบกับตลาดรวม
-
- Verified User
- โพสต์: 2
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนขอถามพี่ๆ เกี่ยวกับทฤษฏี CAPM ครับ
โพสต์ที่ 3
สูตรของ CAPM คือ ra = rf + B (rm-rf)
B คือค่าความเสี่ยงที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุนในหุ้นเมื่อเทียบการตลาด หากหุ้นที่จะลงทุนไม่เสี่ยงเลย แสดงว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปพร้อมๆ กับตลาด หรือ B = 1 นั่นเอง หากหุ้นนั้นๆ มีความเสี่ยงมาก B จะมีค่ามากกว่า 1 เพื่อแสดงว่าเราคาดหวังจะได้ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นนั้นมากกว่าปกติ (high risk high return) เพราะหุ้นมันเสี่ยงต่อการเสียเงินลงทุนแต่อาจขาดทุน อาจมีคู่แข่งเข้ามาเยอะ อาจถูกเพิกถอนกิจการ
ปกติการหาค่า beta ต้องดูจากค่าเฉลี่ยทุกบริษัทในอุตสาหกรรมนั้นๆ เทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆ แล้วประเมินความเสี่ยงเอาเป็นรายบริษัท
rm คือผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับจากตลาดโดยเฉลี่ย เช่น 7%
rf คือผลตอบแทนที่ไม่มีความเสียง risk free rate เช่น การซื่อพันธบัตรแล้วได้ดอกเบี้ยคงที่ ตลอด 10 ปี ดอกเบี้ยนั้นคือ rf เช่น 5%
B คือค่าความเสี่ยงที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุนในหุ้นเมื่อเทียบการตลาด หากหุ้นที่จะลงทุนไม่เสี่ยงเลย แสดงว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปพร้อมๆ กับตลาด หรือ B = 1 นั่นเอง หากหุ้นนั้นๆ มีความเสี่ยงมาก B จะมีค่ามากกว่า 1 เพื่อแสดงว่าเราคาดหวังจะได้ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นนั้นมากกว่าปกติ (high risk high return) เพราะหุ้นมันเสี่ยงต่อการเสียเงินลงทุนแต่อาจขาดทุน อาจมีคู่แข่งเข้ามาเยอะ อาจถูกเพิกถอนกิจการ
ปกติการหาค่า beta ต้องดูจากค่าเฉลี่ยทุกบริษัทในอุตสาหกรรมนั้นๆ เทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆ แล้วประเมินความเสี่ยงเอาเป็นรายบริษัท
rm คือผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับจากตลาดโดยเฉลี่ย เช่น 7%
rf คือผลตอบแทนที่ไม่มีความเสียง risk free rate เช่น การซื่อพันธบัตรแล้วได้ดอกเบี้ยคงที่ ตลอด 10 ปี ดอกเบี้ยนั้นคือ rf เช่น 5%
-
- Verified User
- โพสต์: 320
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนขอถามพี่ๆ เกี่ยวกับทฤษฏี CAPM ครับ
โพสต์ที่ 4
--นอกประเด็นคำถาม
อ้างอิง capm least-square regression :
risk adjusted return = alpha + beta (equity risk premium) + error
beta return เป็นผลตอบแทนที่ตลาดมอบให้แก่ผู้ลงทุนแบบ long-run passive เป็นวิธีอนุรักษ์นิยมที่ผูกผลตอบแทนตนเข้ากับผลตอบแทนตลาด ได้แก่ index fund เหมาะกับผู้มีเวลาศึกษาน้อย และได้รับข้อมูลข่าวสารไม่เพียงพอ
alpha return ผู้ลงทุนบางคนเห็นว่าผลตอบแทนจากตลาดไม่เพียงพอ จึงหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาด แลกกับการยอมเพิ่มความเสี่ยงส่วนที่ไม่สัมพันธ์กับตลาด จึงเป็นการลงทุนที่ active ได้แก่ hedge fund
นักลงทุนแนววีไอ ก็เป็นพวกหนึ่งที่พยายามใช้ข้อมูลข่าวสาร เพื่อแสวงหา positive alpha ในตลาด Trend การลงทุนสมัยใหม่จึงเน้น alpha มากกว่า beta
นักลงทุนจึงควรประเมินตัวเอง ระหว่างการเป็น good stock picker กับ good asset allocator อย่างไหนเหมาะสมกับตนเอง
อ้างอิง capm least-square regression :
risk adjusted return = alpha + beta (equity risk premium) + error
beta return เป็นผลตอบแทนที่ตลาดมอบให้แก่ผู้ลงทุนแบบ long-run passive เป็นวิธีอนุรักษ์นิยมที่ผูกผลตอบแทนตนเข้ากับผลตอบแทนตลาด ได้แก่ index fund เหมาะกับผู้มีเวลาศึกษาน้อย และได้รับข้อมูลข่าวสารไม่เพียงพอ
alpha return ผู้ลงทุนบางคนเห็นว่าผลตอบแทนจากตลาดไม่เพียงพอ จึงหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาด แลกกับการยอมเพิ่มความเสี่ยงส่วนที่ไม่สัมพันธ์กับตลาด จึงเป็นการลงทุนที่ active ได้แก่ hedge fund
นักลงทุนแนววีไอ ก็เป็นพวกหนึ่งที่พยายามใช้ข้อมูลข่าวสาร เพื่อแสวงหา positive alpha ในตลาด Trend การลงทุนสมัยใหม่จึงเน้น alpha มากกว่า beta
นักลงทุนจึงควรประเมินตัวเอง ระหว่างการเป็น good stock picker กับ good asset allocator อย่างไหนเหมาะสมกับตนเอง
-
- Verified User
- โพสต์: 2266
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนขอถามพี่ๆ เกี่ยวกับทฤษฏี CAPM ครับ
โพสต์ที่ 5
ตอบแบบทุบดิน
เป็นตัวบอกว่า ราคาหุ้น มีผลจาก ดัชนีวัดผลเท่าไหร่
เช่น
beta =1 , index increase 1%, stock price increase 1 %
beta =0.5 , index increase 1%, stock price increate 0.5%
beta = 2, index increase 1%, stock price increase 2%
beta = -1, index increase 1%, stock price Decrease 1%
beta = -0.5, index increase 1%, stock price Decrease 0.5%
beta = -2, index increase 1% , stock price Decrease 2%
ถ้าindex ลดลงก็เปลี่ยนเครื่องหมาย
ถามว่าได้ใช้เปล่า ตอบได้เลย
ว่าใช้ในการทำ asset allocation แต่ไม่ได้ใช้เวลาเลือกหุ้นครับ
เป็นตัวบอกว่า ราคาหุ้น มีผลจาก ดัชนีวัดผลเท่าไหร่
เช่น
beta =1 , index increase 1%, stock price increase 1 %
beta =0.5 , index increase 1%, stock price increate 0.5%
beta = 2, index increase 1%, stock price increase 2%
beta = -1, index increase 1%, stock price Decrease 1%
beta = -0.5, index increase 1%, stock price Decrease 0.5%
beta = -2, index increase 1% , stock price Decrease 2%
ถ้าindex ลดลงก็เปลี่ยนเครื่องหมาย
ถามว่าได้ใช้เปล่า ตอบได้เลย
ว่าใช้ในการทำ asset allocation แต่ไม่ได้ใช้เวลาเลือกหุ้นครับ
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่