หุ้นแพง - หุ้นถูก

[ปรัชญา]

ตอนนี้ก็อย่าคุณเจ๋งว่า...
ไม่มีหาค่า คำนวนว่า...อะไร ต่อมีอะไรกี่เท่าต่อกี่เท่ากันแล้ว
2-3วันที่ผ่านมานี้เห็นรถด่วน.......
รีบ ป่ายปีนกันขึ้นรถ และที่น่ามีข้อสังเกต

เริ่มมีข่าวลง ตามหนังสือพิมพ์เชียร์แบ๊งก์
กันอย่างแบบมีเหตุผล


BBL จะจ่ายปันผลประมาณ1.50บาท
(อย่างนี้ละลูกค้าเงินฝากถึงถอนเงินมาซื้อหุ้นเพิ่มทุน ที่บังคับซื้อขั้นต่ำที่5ล้านบาท)


KBANK จะจ่ายปันผล 1บาทถึง1.50บาท
(อ่านมาจากหนังสือพิมพ์นะครับ)

SCB จะจ่ายปันผล 1.28บาท

KTB จะจ่าย 0.30 บาท

ผมอ่านแล้วก็คิดว่าท่านบรรดานักวิเคราะห์ทั้งหลาย เดาลูกเดียว

ผลประกอบการยังเหลืออีก3ไตรมาสและจะมีเหตุการไม่คาดฝันเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ไม่รู้ ก็อยากจะเตือนว่า.....มันอาจไม่เป็นไปตามเขาวิเคราะห์นะครับ แต่ผมซื้อหุ้นแบ๊งก์แล้วกับขายไฟออกไปบางส่วนเพื่อรอเวลารับกลับ
ข่าวต่างๆ ต้องไตร่ตรองก่อนเชื่อถือนะครับ กลัวว่า....จะเป็นคนปล่อยข่าว

แต่ผมอยากทำหน้าที่เพียงรายงานข่าวแบบ....มีข้อสังเกต

[Solo]

ขอบคุณครับพี่
SCB Sec. เขา ก็ เชียร์ กลุ่ม Bank มา นาน ครับ แต่ ก็ มีขึ้น และลงสลับมาตลอด

จนกระทั่ง ช่วงสองอาทิตย์ นี้ เท่านั้น ที่ขึ้นทางเดียว ครับ

แต่สัญญาณ บางตัว ก็ บอกว่า แพง เหมือนกันครับ

ผมเองไม่ชอบหุ้นกลุ่มนี้นัก มีนิดเดียวเองครับ

โปรดใช้วิจารณาญาณของตนเองดีดีนะครับ

[sirivajj]

พอดีผมไม่ถนัดแบงค์กับไม่มีด้วย ก็เลยไม่ได้กำไรกับเขา
และก็ไม่สามารถคอมเมนท์อะไรได้มากนัก เพื่อนๆ ที่ได้กำไร กับหุ้นแบงค์ก็ยินดีด้วยครับ

[edd]

ผมก็ไม่มีเลยครับ แต่ตอนนี้โบรกเชียร์มากว่าผลประกอบการปีหน้าจะดีมาก ตามสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ก็คงต้องลุ้นกันไป งบ BANK ดูยากมากครับ อ่านแล้วเข้าใจยากจริงๆ

[Jeng]

ถ้าเล่นยาว แบงค์ไม่ดีแน่นอน ไม่นับเก็งกำไรนะครับ

ข้อแรกคือ เพิ่มทุน แต่จ่ายปันผล โดย BBL อันนี้แปลกดีครับ ในมุมมองของนักลงทุนแบบผม คนที่ถือหุ้น ส่วนใหญ่ก็ต้องเพิ่มทุน แล้วเอามาแจกปันผล แสดงว่า ปันผล ไม่ได้มาจากการดำเนินงานซิ

อีกเรื่องคือ KBANK ปล่อยสินเชื่อ ปี 46 โต กว่า 45 แค่ 5 % แสดงว่า เศรษฐกิจ ดีจริงหรือ คนกู้น้อย ดอกต่ำ

และที่สำคัญคือ ได้ยินมาว่า Kbank ออกหุ้นกู้ มาจ่ายปันผล

อืม รายหนึ่ง เพิ่มทุน จ่ายปันผล อีกราย กู้มาจ่ายปันผล

สรุปคือผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องแบงค์ ขอเล่นแบงค์แบบเก็งกำไรดีกว่า

ปี 46 ผมเกร็งกำไร เลยไม่กำไร

แต่ปี 47 รับรอง จะเก็งกำไร แบบกำไร อิอิ

นับถอยหลัง

บรึ้ม

[Solo]

กลุ่มอื่นก็ใช้โอกาสนี้เพิ่มทุน ออกวอร์ ด้วยครับ

เช่น Lee....Paf...Ck....zmico....thai เป็นต้น ครับ

[Jeng]

ถ้าเพิ่มทุน ออกวอร์ เพราะมีการขยายงาน แล้วกำลังเงินทุนที่มี มันไม่พอ ก็อีกเรื่อง แต่แบงค์ เพิ่มทุน เพราะ เงินกองทุน ขั้นที่ 1 ไม่พอ ต้องเอาเงินกองทุนขั้นที่ 2 มาสำรอง แสดงว่าเพิ่มทุนเพราะมีปัญหาทางการเงิน

เงินล้นแบงค์ ปล่อยกู้ไม่ได้ สินเชื่อโตขึ้นไม่มาก แสดงว่างานไม่ได้ขยาย แต่เพิ่มทุน

ลองคิดดู

[Stock Broker]

ไม่ชอบแบงค์เหมือนกันครับ การไถ่ถอนตราสารต้นทุนสูงมันก็เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว (ต่างอะไรกับกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ ไม่เข้าใจพวกนักวิเคราะห์จริงๆ ทีบจ.ที่กำไรจากปรับโครงสร้างหนี้บอกว่าไม่ควรนำมาคิด เพราะเป็นรายการพิเศษ แต่ทีเป็นแบงค์ดันมองเป็นไฮไลท์เลย)

ผมไม่เห็นแบงค์จะมีรายได้เติบโตจากการปล่อยสินเชื่อมากมายอะไร ไม่งั้นจะมาบีบคนฝากเงิน โดยการคิดค่าธรรมเนียมสารพัดแบบทำไม

[Solo]

ไม่ชอบกลุ่มธนาคารเช่นกันครับ

รอบก่อนก่อน ต่างชาติ ถ้าจะซื้อ ก็ ต้องมี กลุ่มนี้ ครับ

แต่ทำไมรอบนี้ ต่างชาติ ขายมาตลอด แต่กลุ่มนี้ขึ้น งงมากครับ

รายใหญ่ลากออกของ ก็ต้องให้ โบรกต่างต่าง จุดประเด็น ว่า เป็นปีทองของธนาคาร


ปันผลก็ไม่ได้ มากมายอะไร เลยครับ

มีแต่ขึ้นค่าธรรมเนียม สินเชื่อ ก็ งั้นงั้น เช่น ที่ พี่ Jeng, K. FE กล่าไว้ครับ

[CEO]

ไม่ชอบแบงค์เหมือนกันครับ การไถ่ถอนตราสารต้นทุนสูงมันก็เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว (ต่างอะไรกับกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ ไม่เข้าใจพวกนักวิเคราะห์จริงๆ ทีบจ.ที่กำไรจากปรับโครงสร้างหนี้บอกว่าไม่ควรนำมาคิด เพราะเป็นรายการพิเศษ แต่ทีเป็นแบงค์ดันมองเป็นไฮไลท์เลย)

ผมไม่เห็นแบงค์จะมีรายได้เติบโตจากการปล่อยสินเชื่อมากมายอะไร ไม่งั้นจะมาบีบคนฝากเงิน โดยการคิดค่าธรรมเนียมสารพัดแบบทำไม

เพราะแบงค์บีบพวกเราได้อย่างนี้หรือเปล่าครับ ที่นักวิเคราะห์มองว่าแบงค์นั้นดี เพราะดูเหมือนๆกับมีอำนาจกำหนดราคาได้แต่ฝ่ายเดียว

[คนเรือ VI]

ผมก็ตลกพวกนักวิเคราะห์นะครับ พอ volume เข้า ราคาหุ้นไป ก็ออกมาขยับราคา target กันใหญ่ SCB สัก 2 สัปดาห์ที่แล้ว target ที่ 48 บาท มาวันนี้ 63 บาท พื้นฐานมันเปลี่ยนภายใน 2 สัปดาห์หรือครับ ?? บทวิเคราะห์ก็เหตุผลเดิมแต่ไฉน ราคาtargetวิ่งไป วิ่งไป ล่ะครับ

THAI เค้าจะเอาเงินไปปรับปรุงที่นั่ง และระบบ entertainment on board ครับ รวมทั้งขยายเส้นทางเดิน ตรงไป new york + ซื้อเครื่องใหม่ครับ แบบนี้เพิ่มทุนผมรับได้นะ

[บุคคลทั่วไป]

โปรดใช้ความคิดท่านเองนะครับ ใครจะซื้อ ต้องค้นคว้าหน่อยราคาตอนนี้อาจมองว่าต่ำเกินไป ผมเห้นด้วยในระยะยาว 10 ปีขึ้นไป แต่่ถ้าจะหวังกำไรในช่วงสัั้นๆ 1 ปี ก็คงต้องคิดกันให้มากๆหน่อยนะครับ เพราะมันอาจสะท้อนความเป้นจริงก็ได้ อย่างไรก็ตามซื้อกันเยอะๆก็ดีครับ เพราะผมก็มีกับเค้าบ้างเหมือนกัน แต่ผมจะลงทุน 10 ปีนะครับ

[guest]

เข้าใจผิดแล้ว

[guest]

การไถ่ถอน slip-cap เป็นการเปล่ยนแปลงทางปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของ แบงค์ในรอบ 5 ปี bbl kbank bay tmb คุณทราบหรือไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยตั้งแต่ปี 41 จนถึง 46 สำหรับ slip กับ cap เป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ เมื่อไถ่ถอนได้ ต่อจากนี่ไปทุกปีๆๆๆๆ แบงค์จะมีกำไรเนื่องจากไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 11- 13 % ต่อปี เป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ พวกคุณที่บอกว่าเป็นนักลงทุนคุณค่า นั้น ทราบคุณค่าของแบงค์ในตอนนี้หรือไม่ว่ามันควรเป็นเท่าไหร่ อันนี้คุณต้องไปทำการบ้านกันเอาเองนะครับ

[Stock Broker]

การไถ่ถอน slip-cap เป็นการเปล่ยนแปลงทางปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของ แบงค์ในรอบ 5 ปี bbl kbank bay tmb คุณทราบหรือไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยตั้งแต่ปี 41 จนถึง 46 สำหรับ slip กับ cap เป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ เมื่อไถ่ถอนได้ ต่อจากนี่ไปทุกปีๆๆๆๆ แบงค์จะมีกำไรเนื่องจากไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 11- 13 % ต่อปี เป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ พวกคุณที่บอกว่าเป็นนักลงทุนคุณค่า นั้น ทราบคุณค่าของแบงค์ในตอนนี้หรือไม่ว่ามันควรเป็นเท่าไหร่ อันนี้คุณต้องไปทำการบ้านกันเอาเองนะครับ

แล้วตกลงมันต่างยังไงกับกำไรจากปรับโครงสร้างหนี้ ดอกเบี้ยจ่ายลดลงเหมือนกัน ส่วนทุนเพิ่มขึ้นเหมือนกัน กรณีบริษัททั่วไปบอกว่าเป็นรายการพิเศษ แต่กับแบงค์บอกว่าเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ

อยากถามหน่อยว่า การบริหารสินเชื่อ การจัดการหนี้เสีย ไปถึงไหนบ้างแล้ว

[pae2020]

ผมเข้าใจว่าเป็นอย่างนี้นะครับ ไม่ทราบถูกหรือเปล่า

ความแตกต่างระหว่างการไถ่ถอน SLIP-CAP กับการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัทอื่นน่าจะอยู่ที่ Core Business น่ะครับ คือการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัทอื่นๆ ไม่มีผลต่อ Core Business ดังนั้นกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้จะทำให้รายจ่ายดอกเบี้ยลดลงเท่านั้น แต่ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆอีก เขาเลยมองว่ากำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัทอื่นๆเป็นรายการพิเศษ

แต่สำหรับ BANK แล้ว การไถ่ถอน SLIP-CAP มีผลโดยตรงต่อ Core Business ของ BANK เพราะไม่เพียงแต่ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลงเท่านั้น แต่ยังทำให้ BANK มีเงินเหลือพอไปต่อยอดหมุนกู้ได้อีก ธุรกรรมของ BANK นี่ไม่เหมือนกับบริษัททั่วไปครับ คือเงินหนึ่งร้อยบาทที่ BANK เก็บคืนมาเป็นเงินทุนได้จะหมุนเวียนสร้างรายได้ให้ BANK ได้หลายรอบ (จำไม่ได้ชัดเจนว่าเท่าไร เอาเป็นประมาณว่า 100 บาทหมุนสร้างรายได้ 1000 บาทอะไรทำนองนั้น คล้ายๆกับมีเงินทุน 100 บาทปล่อยกู้ได้ 1000 บาท -ตัวเลขสมมตินะครับ )

ดังนั้นถ้า BANK ปลด SLIP-CAP ได้ ยกดอกเบี้ยจาก SLIP-CAP ปีละ สอง-สามพันล้านบาท มาหมุนสร้างรายได้มหาศาล เขาจึงมองกันว่า BANK จะมีกำไรเพิ่มขึ้นได้ทุกปีๆจึงไม่ถือเป็นรายการพิเศษเหมือนบริษัทอื่นๆ

นี่เป็นความเข้าใจของผมนะครับ

ผมเก็บหุ้น BANK ใหญ่ๆ ไว้บ้างเหมือนกัน ผมไม่เห็นเหตุผลว่าทำไม VI จึงไม่เก็บหุ้น BANK ถ้าเราประเมินแล้วว่า ราคาที่ลงทุนยังห่างจากปัจจัยพื้นฐานอยู่อีกเยอะ

[V อาย]

คุณ pae2020 เยี่ยม


-----------------------------------------

สิ่งที่เราไม่รู้ ไม่ใช่สิ่งไม่ดี

จงออกไปสู่โลกกว้างแล้วทำความรู้จักกับมัน

เมื่อนั้นเราจะเห็นคุนค่าของมัน

[guest]

ความแคกต่างระหว่างกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้กับการไถ่ถอน slip caps ที่เห็นง่ายๆๆคือ บริษัท ทั่วไปคุณไม่ปรับโครงสร้างหนี้ ยังไงเขาก็ไม่จ่ายดอกเบี้ยหรือเงินต้นขึ้นกับเจ้าหนี้ ดังนั้นเลือกเอาระหว่างเอาน้อยแล้วได้เลย หรือไปฟ้องเอาและรออีกสัก 5-10 ปี ส่วนแบงค็นั้น ยังไงก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยอย่างเที่ยงตรง และเบี้ยวไม่ได้ เข้าใจยัง

[sirivajj]

ในความคิดของผมว่า มี 2 เรื่องในที่นี้นะครับ
1. หุ้น Bank ดีหรือไม่ดี
2. ราคาหุ้น Bank เหมาะสมแล้วกับราคาปัจจุบันหรือไม่

ผมคิดว่า หุ้น Bank เป็นหุ้นที่ดี และคงดีขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจ
ถ้าไม่มีอะไรมาสะดุด เศรษฐกิจเมืองไทยเสียก่อน
แต่ราคาหุ้นที่ขึ้นมานั้น ผมก็เห็นว่า น่าสนใจเหมือนกันนะครับว่า
ใครจะซื้อไปเพื่อรอปันผล กับหวังผลต่างของราคา
โดยที่ ราคาปัจจุบัน ก็ได้ขึ้นไปรอผลการดำเนินงานในอนาคตระดับหนึ่งแล้ว
แต่ไม่ว่า อะไรก็ตาม ผมก็ขอให้เพื่อนๆ ที่มีอยู่มีกำไรกันตามที่คาดหวังไว้ครับ

[pae2020]

ผมเห็นว่า BANK ยังเ็ป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ที่ผ่านมาเศรษฐกิจเติบโตจากการกระตุ้นของรัฐบาลโดยใช้นโยบายการคลังเป็นหลัก ซึ่งจำเป็นต้องหากลไกทางการเงินมารับช่วงต่อ ผมจึงไม่แปลกใจที่รัฐบาลออกมาให้ข่าวเรื่องการควบรวมกิจการ BANK เพื่อหวังให้ BANK เข้มแข็งขึ้น ซึ่งจะมีพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปได้อย่างมีเสถียรภาพ

ณ. วันนี้ผมมีมุมมองเป็นบวกต่อ BANK มากๆ (อันที่จริงตั้งแต่ไตรมาสสามของปีที่แล้วแล้วล่ะครับ) ดังนั้นคำถามว่าหุ้น BANK ดีหรือไม่ ผมเชื่อว่า BANK ใหญ่ๆดีแน่นอนครับ

แต่เรื่องราคานี่ ผมว่าแล้วแต่มุมมองและความต้องการผลตอบแทนของแต่ละคนนะครับ ถ้าต้องการผลตอบแทนมาก ก็อาศัยช่วงจังหวะทีราคาอ่อนตัวทยอยรับไว้เรื่อยๆ ไม่ต้องรีบร้อน สำหรับผมคงไม่ขายทำกำไรอย่างที่หลายๆโบรกแนะนำ และถ้าหาเงินเย็นๆมาลงทุนต่อได้ก็จะพยายามสะสมเพิ่ม

ความเห็นส่วนตัวผมนะครับ BANK อนาคตยังไกลครับ และจะเติบโตคู่กับการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยไปได้เรื่อยๆ

การลงทุนมีความเสี่ยง พิจารณาให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้งด้วยครับ