โตน้อยไปหรือเปล่าครับ สำหรับ BIGC

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0

โตน้อยไปหรือเปล่าครับ สำหรับ BIGC

โพสต์ที่ 1

โพสต์

จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ  ฉบับวันที่ 8 ก.ย. 49

ผู้สื่อข่าวรายงาน  ตัวเลขการขยายสาขาของผู้ประกอบการค้าปลีก

เทสโก้ โลตัส  ปี 44  มี 33 สาขา   ปี 48 เพิ่มเป็น 72 สาขา  และปี 51  เป็น  85 สาขา

บิ๊กซี ปี 44 มี 29 สาขา   ปี 48 เพิ่มเป็น 49 สาขา  และปี 51 เป็น  55 สาขา

จากปี 48  จะเพิ่มอีกเพียง 6 สาขาเองหรือ  หรือว่าจะเป็นตัวเลขหรอก

ถ้าขยายสาขาได้เพียงแค่นี้  กำไรสุทธิจะเติบโตปีละเท่าไรเนี่ย  เทียบกับความคาดหวังของนักลงทุนจะพอไหม
MisterK
Verified User
โพสต์: 857
ผู้ติดตาม: 0

โตน้อยไปหรือเปล่าครับ สำหรับ BIGC

โพสต์ที่ 2

โพสต์

เห็นมีข่าวโดนกระทรวงพาณิชย์จับเซ็น MOU  ที่จะไม่ขยายสาขาจนกว่ากฏหมายใหม่จะออกไม่ใช่เหรอครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
worapong
Verified User
โพสต์: 929
ผู้ติดตาม: 0

โตน้อยไปหรือเปล่าครับ สำหรับ BIGC

โพสต์ที่ 3

โพสต์

[quote="MisterK"]เห็นมีข่าวโดนกระทรวงพาณิชย์จับเซ็น MOU
margin of safety
circle of competence
waiting for the perfect pitch
artvr4
Verified User
โพสต์: 767
ผู้ติดตาม: 0

โตน้อยไปหรือเปล่าครับ สำหรับ BIGC

โพสต์ที่ 4

โพสต์

[quote="MisterK"]เห็นมีข่าวโดนกระทรวงพาณิชย์จับเซ็น MOU
หุ้นนี่ เรียนรู้ได้ทั้งชีวิต จริงๆ
MisterK
Verified User
โพสต์: 857
ผู้ติดตาม: 0

โตน้อยไปหรือเปล่าครับ สำหรับ BIGC

โพสต์ที่ 5

โพสต์

พาณิชย์จับค้าปลีกลงนาม"เอ็มโอยู" เบรกขยายสาขา
Source - เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ (Th)

Friday, September 08, 2006  10:16
34328 XTHAI XFRONT XECON FRNT/P V%NETNEWS P%WKT

         พาณิชย์คุมกำเนิดค้าปลีก ดึงห้างยักษ์ลงนามเอ็มโอยูสัปดาห์หน้า ชะลอขยายสาขาจนกว่ามีกฎหมายชัดเจน ขู่ใช้พ.ร.บ.ควบคุมโภคภัณฑ์ลงโทษหากไม่ร่วมมือ ด้านเอกชนค้าปลีกชี้รัฐต้องมีกฎหมายเฉพาะมาดูแลหวังปิดช่องโหว่ และแก้ปัญหาระยะยาว

         หัวรับ : โชห่วยทั่วประเทศนัดรวมพล 20 ก.ย.

         นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังประชุมปัญหาค้าปลีก โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ร่วมประชุม ซึ่งประเด็นการประชุมหลักคือ การแก้ปัญหากรณีที่สมาคมต่อต้านการค้าปลีกข้ามชาติร้องเรียนว่า ได้รับผลกระทบจากการขยายสาขาของห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ข้ามชาติ

         สำหรับผลการประชุมได้กำหนดแนวทางแก้ไขในระยะสั้น จะขอความร่วมมือให้ห้างต่างๆ ที่มีแผนขยายสาขาในแหล่งชุมชนระงับโครงการไว้ก่อนทุกกรณีรวมถึงห้างที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างก็จะขอความร่วมมือให้ชะลอออกไปด้วยเช่นกัน โดยให้กระทรวงมหาดไทยไปดำเนินการชะลอแผนการขยายสาขาแต่ละห้างได้ เพราะในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ไม่มีกฎหมายบังคับใช้

         สัปดาห์หน้าเรียกค้าปลีกเซ็นเอ็มโอยู

         นายปรีชา กล่าวอีกว่า ในสัปดาห์หน้าจะเชิญผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ทั้งหมดมาลงนามข้อตกลงร่วมกัน (เอ็มโอยู) ว่า ในการก่อสร้างห้างต่างๆ จะต้องได้รับการเห็นชอบผ่านการทำประชาพิจารณ์จากคนในพื้นที่ เช่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) หรือเทศบาล รวมถึงผู้เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าของพื้นที่หรือร้านค้าที่ได้รับผลกระทบว่าจะสามารถก่อสร้างได้หรือไม่

         นอกจากนี้ จะประสานกระทรวงมหาดไทย ให้เข้มงวดในการยื่นขอใบอนุญาตก่อสร้างในพื้นที่ชุมชน โดยนำกฎหมายผังเมืองมาใช้ ขณะเดียวกัน ให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ลงพื้นที่อบรมผู้ประกอบการรายย่อยปรับปรุงการทำธุรกิจให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

         รอรัฐบาลใหม่คลอดกฎหมาย

         ส่วนแนวทางแก้ปัญหาระยะยาวกรมการค้าภายในจะไปปรับปรุงพระราชบัญญัติการค้าปลีกที่เคยร่างไว้เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา โดยให้ร่างหลักเกณฑ์กฎหมายใหม่ให้มีความทันสมัยกับระบบการค้าในปัจจุบันก่อนเสนอให้ครม.ใหม่พิจารณาต่อไป

         "ขณะนี้ คงต้องใช้อำนาจบริหารในการควบคุมการขยายสาขาของห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ก่อน ทั้งการขอความร่วมมือและการทำประชาพิจารณ์ แต่หากมีห้างขนาดใหญ่รายใดฝ่าฝืนและเปิดสาขาใหม่จะใช้อำนาจกฎหมายควบคุมโภคภัณฑ์บังคับใช้ลงโทษไปก่อน" นายปรีชากล่าว

         สำหรับการขยายสาขาของแต่ละห้าง โดยตัวเลขในปี 2548 มีห้างค้าปลีกและมินิมาร์ททั่วประเทศจำนวน 3,709 แห่ง และคาดว่าในปี 2551 จะเพิ่มขึ้นเป็น 4,629 แห่งด้วยกันสำหรับหน่วยงานที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ อาทิเช่น กรมโยธาธิการและผังเมืองกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมการปกครอง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

         ขู่ใช้ก.ม.โภคภัณฑ์ลงโทษหากไม่ร่วมมือ

         รายงานข่าวแจ้งว่าหากค้าปลีกใดเพิกเฉยและไม่ให้ความร่วมมือต่อความร่วมมือชะลอแผนขยายสาขาก็จะใช้พ.ร.บ.ควบคุมโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2495 มากำกับดูแลและควบคุมการขยายสาขาของค้าปลีกขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นกฎหมายควบคุมการวางระเบียบการค้าวางระเบียบการจำหน่าย และคุมควบสถานที่จำหน่ายกำหนดเวลาจำหน่ายและกำหนดกิจกรรม ซึ่งผู้ฝ่าฝืนจะมีความผิดจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและในกรณีที่กระทำความผิดซ้ำจะมีโทษทวีคูณ

         สำหรับความคืบหน้าการจัดทำกฎหมายค้าปลีกนี้ ในส่วนของกรมการค้าภายในจะดำเนินการ 2 ส่วนคือ 1.แนวทางปฏิบัติสำหรับร้านค้าปลีก (ไกด์ไลน์) ที่อยู่ระหว่างการปรับปรุง ซึ่งคาดว่าจะเสนอคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าภายใน 2 สัปดาห์นี้ เพื่อให้มีผลบังคับใช้และจะเร่งผลักดันดำเนินการกฎหมายค้าปลีก

         หอการค้าจี้รัฐแก้กฎหมายมีผลโดยเร็ว

         ด้านนายบุญชัย โชควัฒนา รองประธานและกรรมการฝ่ายค้าปลีกสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ได้ขอให้กระทรวงพาณิชย์เร่งดำเนินการแก้ไขและเร่งรัดกฎหมายที่มีอยู่เดิม หรือจัดทำให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว จะทำให้เกิดผลโดยตรงต่อการชะลอตัวและคุมกรอบของการขยายสาขาของค้าปลีกขนาดใหญ่ไม่ให้เข้าถึงชุมชมได้อย่างดี เพราะกฎหมายที่มีอยู่นั้นหลายประเด็นมีช่องโหว่และไม่ได้คุมกรอบการค้าปลีกต่างชาติจริง เช่น พ.ร.บ.ผังเมืองแม้จะมีการกำหนดข้อปฏิบัติห้ามขนาดหรือรัศมีการเปิดสาขาแต่ก็ยกเว้นได้ทั้งหมด ซึ่งหากอบต.หรืออบจ.ของจังหวัดนั้นๆ พิจารณาแล้วเห็นควรเปิดสาขาได้ หรือพ.ร.บ.การประกอบการของธุรกิจต่างด้าวเปิดช่องให้ก็สามารถลงทุนได้เลย

         "ควรดูว่ากฎหมายที่มีอยู่ตรงใดซ่อนเร้นก็ให้เร่งแก้ไขและปิดช่องโหว่นั้นเพิ่มกติกาไกด์ไลน์คุมอีกส่วนหนึ่งก็สามารถระงับการเปิดสาขาถี่ของห้างยักษ์ใหญ่ได้มากแล้วค่อยมีการเร่งการออกกฎหมายค้าปลีกมาดูแลในระยะยาวอีกครั้ง ซึ่งไกด์ไลน์ก็ควรเร่งออกโดยเร็วและเชื่อว่าจะช่วยลดปัญหาแรงกดดันของห้างขนาดใหญ่ต่อร้านค้าและผู้ผลิตสินค้าได้อย่างมาก" นายบุญชัยกล่าว

         รัฐในฐานะกรรมการต้องเป็นธรรม

         นายธนภณ ตังคณานันท์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า รัฐในฐานะกรรมการต้องเป็นธรรมต่อคู่กรณีในปัญหาต่างๆ อย่างเช่น การขยายตัวของร้านขนาดเล็กของผู้ค้าปลีกรายใหญ่นั้นเป็นผลมาจากกฎหมายซึ่งระบุให้เปิดได้ ขณะที่มาตรา 10 (2) ที่เป็นปัญหาว่าเปิดช่องว่างให้รายใหญ่เข้าเปิดบริการในท้องถิ่นได้นั้น ขึ้นอยู่กับรัฐท้องถิ่นเช่นกัน

         "ในกรณีที่มีข้อขัดแย้ง 2 ฝ่าย ก็ต้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายมีส่วนชี้แจง เพื่อให้แฟร์ แต่นี่กลายเป็นฟังความข้างเดียวโดยไม่มีโอกาสชี้แจงแต่อย่างใด เหมือนคนก็มี 2 ด้าน ทั้งดีและเสียต่างกันแต่จะบาลานซ์ให้เกิดประโยชน์อย่างไร" นายธนภณกล่าว

         เซเว่นอีเลฟเว่น-เอ็กซ์เพรส ตัวการบุกชุมชน

         แหล่งข่าวจากผู้บริหารระดับสูงในธุรกิจค้าปลีก กล่าวกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า หากพิจารณาในข้อเท็จจริงของธุรกิจค้าปลีกที่ส่งผลกระทบต่อร้านขนาดย่อยในระดับรากหญ้ามากที่สุดน่าจะเป็นรูปแบบร้านสะดวกซื้อ "เซเว่นอีเลฟเว่น" และ "เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส" มากกว่าร้านขนาดใหญ่ จากนี้ไปโชห่วยหรือผู้ค้ารายย่อยสามารถใช้ประโยชน์จากการเข้ามาของร้านโมเดิร์นเทรดขนาดใหญ่สร้างประสิทธิภาพให้กับกิจการได้

         ทั้งการเลือกซื้อสินค้าที่หลากหลายนำมาขายต่อในส่วนต่างจากราคาที่บางรายการต่ำกว่าซื้อจากยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว ทั้งนี้ รูปแบบร้านเซเว่นอีเลฟเว่น หรือเอ็กซ์เพรส ก็คือโชห่วยติดแอร์ที่เป็นคู่แข่งทางตรงในการช่วงชิงลูกค้าในชุมชนบริเวณนั้น ที่มีโชห่วยเปิดบริการอยู่ เพราะเน้นจำหน่ายสินค้าประเภทเดียวกัน

         โชห่วยทั่วประเทศนัดรวมพล 20 ก.ย.

         นายสุรพงษ์ วิริยานนท์ แกนนำต่อต้านค้าปลีกข้ามชาติที่เกาะสมุย กล่าวว่า วันที่ 20 กันยายนนี้ จะมีการนัดแกนนำทั้งหมดหารือการเคลื่อนไหวต่อต้านค้าปลีกข้ามชาติ โดยเป้าหมายที่จะนัดรวมตัวกับผู้ประกอบการค้าปลีกท้องถิ่นทั่วประเทศ ที่หน้ากระทรวงพาณิชย์ โดยสาเหตุที่ต้องไปรวมตัวกัน เนื่องจากที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวในพื้นที่ไม่ได้รับความสนใจจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

         ด้านนายจุมพล ไลยโฆษิต ประธานหอการค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การที่เทสโก้ โลตัส จะเปิดเพิ่มอีก 2 สาขา จากที่มีอยู่แล้ว 1 สาขาบนเกาะสมุยนั้นถือว่าไม่เหมาะสม เพราะจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจค้าปลีกท้องถิ่น และขณะนี้ หอการค้าได้ประสานให้ทางแกนนำและตัวแทนชาวบ้าน ทำหนังสือแจ้งไปยังหอการค้าจังหวัด เพื่อนำเสนอต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้หาทางช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง

         ขอนแก่นยื่นค้านเทศบาลเมืองพล

         นางสาวอรุณวรรณ ธีรอำพล แกนนำชมรมผู้ประกอบการค้า อ.พล จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ชมรมได้ยื่นหนังสือไปยังเทศบาล เพื่อขอให้เปิดประชุมสมัยวิสามัญ พิจารณาปรับลดขนาดการก่อสร้างอาคารจำหน่ายสินค้าและพื้นที่ขายของเทสโก้ โลตัส ที่จะสร้างใน อ.พล ลดลงจากเดิม 1,000 ตารางเมตร เหลือ 500 ตารางเมตร เพราะเชื่อว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะชะลอการเปิดกิจการของเทสโก้ โลตัส

         นอกจากนี้ ตัวแทนชมรมได้หารือกับนายนิรุตธ์ วัชรพิชาติ ตัวแทนสมาพันธ์ต้านค้าปลีกข้ามชาติ  เพื่อกำหนดแนวทางการจัดกิจกรรม กระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าจากท้องถิ่น รวมทั้งประสานงานกัน เพื่อที่จะนำผู้ประกอบการในอ.พล ไปรวมตัวกันที่กระทรวงพาณิชย์ในวันที่ 20 กันยายนนี้ด้วย

         ดิสเคาท์สโตร์จ่อเปิดที่ลพบุรีเพิ่มอีก 3 จุด

         ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดลพบุรี ว่า ขณะนี้ มีข่าวว่าค้าปลีกข้ามชาติเตรียมที่จะเปิดสาขาที่จังหวัดลพบุรี อีก 3 จุด โดยเทสโก้ โลตัส ได้ติดต่อของเช่าอาคารห้างสรรพสินค้าลพบุรีอินน์ พลาซ่า ของนายยงยุทธ์ กิจวัฒนานุสนธ์ เจ้าของโรงแรมลพบุรีอินน์ สัญญาเช่ารวม 30 ปี นอกจากนี้ คาร์ฟูร์ก็ได้ติดต่อขอเช่าที่ดินบริเวณเขต ต.ท่าศาลา จากนายจาตุรงค์ เจริญทรัพย์ ประชาสัมพันธ์สภาอุตสาหกรรมจังหวัดลพบุรี ขณะเดียวกัน ก็มีข่าวกระจายออกมาว่า แม็คโครก็กำลังจะเปิดสาขาในเขต อ.เมือง--จบ--



         ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com
jidapa
Verified User
โพสต์: 67
ผู้ติดตาม: 0

โชห่วย

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ลูกค้า มีสิทธิ เลือก ว่าจะซื้อที่ไหน  ทำไม โชห่วย ไม่มองตัวเองว่า ทำไมลูกค้าจึงชอบไป โลตัส หรือ อื่นๆ  มากกว่าโชห่วยใกล้บ้าน ทำไมไม่แก้ไขตัวเอง  เคย เจอมั้ย
- ซื้อของจากร้านโชห่วยใกล้บ้าน เป็นของเก่าเก็บ  หมดอายุ  เลือกก็ไม่ได้ อาหมวย มองอย่างไม่พอใจ
-  ขายแพงมากๆ  นำมันพืช เคยเจอมา โลตัส ขวดละ 38  โชห่วย 44
-  เคยซื้อข้อต่อ ท่อ จาก ร้าน hard ware ใกล้บ้าน ซื้อมาแล้ว ใช้ไม่ได้ นำไป เปลี่ยน ไม่ยอมให้ เปลี่ยน โลตัส หรือ จะเปลี่ยน จะคืน ได้ ทั้งนั้น
-  โลตัส หรือ อื่นๆ มีของให้ เลือก เยอะ เปรีบบเทียบราคา คุณภาพ แต่ละ ยี่ห้อได้  โชห่วย ไม่สามารถ ค่ะ  แล้วแต่ อาแป๊ะ อาม่า อาหมวยหยิบให้

เป็นคุณคุณ จะซื้อ ที่ไหน ค่ะ
โชห่วย ควรปรับปรุงร้าน และ วิธี การขายของ ของตัวเอง และ ราคาที่ไม่ขูดรีด มากไป  แทนที่จะออกมาประท้วงสิ่งดีๆ สำหรับผู้บริโภค  หน่วยงานรัฐ ก็ไม่ควรเอาใจ บ้าจี้ ตามโชห่วย มากไป
 เรา คนหนึ่งที่มี ประสบการณืที่ไม่ดี กับร้านโชห่วย ปัจจุบัน ซื้อของ 2-3 ชิ้น เราก็ไปโลตัส สบายใจกว่า มีความรู้สึกว่าไม่โดน โก่งราคาดหมือนที่เคยซื้อโชห่วยใกล้บ้าน
hot
Verified User
โพสต์: 6853
ผู้ติดตาม: 0

โตน้อยไปหรือเปล่าครับ สำหรับ BIGC

โพสต์ที่ 7

โพสต์

เห็นว่าจะขยายสาขาต้องส่งเรื่องไปให้กรมพาณิชย์
ก่อนนี่คับ  ทั้งที่กำลังสร้าง หรือมีแผนงานจะขยาย

ไม่รู้ต่างชาติจะเป็นไงกัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

โตน้อยไปหรือเปล่าครับ สำหรับ BIGC

โพสต์ที่ 8

โพสต์

[quote="hot"]เห็นว่าจะขยายสาขาต้องส่งเรื่องไปให้กรมพาณิชย์
ก่อนนี่คับ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
Onokung
Verified User
โพสต์: 1250
ผู้ติดตาม: 0

โตน้อยไปหรือเปล่าครับ สำหรับ BIGC

โพสต์ที่ 9

โพสต์

[quote="artvr4"][quote="MisterK"]เห็นมีข่าวโดนกระทรวงพาณิชย์จับเซ็น MOU
1.ถูกหรือแพง
2.มั่นคงหรือชั่วครู่
3.ขยายตัวหรือหดตัว
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
worapong
Verified User
โพสต์: 929
ผู้ติดตาม: 0

โตน้อยไปหรือเปล่าครับ สำหรับ BIGC

โพสต์ที่ 10

โพสต์

มันไม่สนุกหรอกสำหรับม้า เมื่อมีรถแทร็กเตอร์เข้ามาแทนที่ หรือการที่จะเป็นช่างใส่เกือกม้า เมื่อรถยนต์กำลังมาทดแทน
ผมเองเห็นใจร้านเล็กๆนะครับ แต่ก็มองไม่เห็นทางแก้ปัญหาว่าจะเป็นอย่างไร ทั้งโลตัส โลตัสเอ็กเพรส เซเว่น ซีพีอาหารสด
margin of safety
circle of competence
waiting for the perfect pitch
teetotal
Verified User
โพสต์: 1667
ผู้ติดตาม: 0

โตน้อยไปหรือเปล่าครับ สำหรับ BIGC

โพสต์ที่ 11

โพสต์

เพราะกฎหมาย จำกัดการขยายสาขา นะสิ

ไม้ขีดไฟ เทียน รถลาก การสื่อสารแบบม้าเร็ว นกพิราบแบบปล่อยสื่อสารนำสาร ตะเกียงเจ้าพายุ โทรเลข เจ๊งไปฉันใด  
โชว์ห่วย ก็ต้องเจ๊งไปฉันนั้น
ระบบกระจายสินค้าแบบเก่า สินค้าจากโรงงานผ่านตั้งกี่ทอดต่อกี่ทอด  
กว่าจะถึงผู้บริโภค ก็เก่าเก็บ ใกล้เน่า เต็มที
ระบบกระจายสินค้าแบบใหม่ ทอดเดียวถึง  
ประหยัดค่าใช้จ่ายให้ผู้บริโภคไปได้ตั้งเท่าไหร่ ใช้ของถูก คุณภาพดี จากโรงงาน

ถ้าไปสนับสนุนให้เอากฎหมายไปบีบบังคับ ความเจริญก้าวหน้า
ผู้บริโภคก็ต้องเสียเปรียบอยู่ต่อไปนะสิ ซื้อของเฮงซวย (ระบบวัดดวง เจอ คนขายดี ก็เฮงไป เจอคนขายเลว ก็ ซวยไป)
ภาพประจำตัวสมาชิก
metro
Verified User
โพสต์: 861
ผู้ติดตาม: 0

โตน้อยไปหรือเปล่าครับ สำหรับ BIGC

โพสต์ที่ 12

โพสต์

สิ่งที่เห็นได้ชัดคืออำนาจการต่อรองของยักษ์ใหญ่อย่าง Tesco Lotus, Carrefour, BigC และ Makro มากกว่าโชวห่วยแน่นอน

ทำไมรัฐบาลไม่เสนอตัวเข้ามาเป็น Supplier จัดหาของให้กับร้านโชวห่วยทั่วไปเพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรองให้กับร้านโชวห่วยต่างๆ เพื่อปกป้องร้านโชวห่วยละ ถ้าโชวห่วยสามารถซื้อสินค้าในราคาที่อาศัยอำนาจการต่อรองได้ ราคาสินค้าก็จะถูกไปในระดับหนึ่งแล้ว ต่อให้ไม่ต้องถูกเท่ากัน แต่ความสะดวกสบายก็น่าจะช่วยร้านโชวห่วยได้เยอะนะครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องพัฒนาคุณภาพสินค้าไปควบคู่กับการบริการด้วยนะครับ

อาจจะจัดตั้งขึ้นมาคล้ายๆกับ Seven Eleven แต่เป็นของภาครัฐไปผมว่าก็น่าสนใจนะครับ
New Analyst
Verified User
โพสต์: 86
ผู้ติดตาม: 0

โตน้อยไปหรือเปล่าครับ สำหรับ BIGC

โพสต์ที่ 13

โพสต์

เรียน คุณ Metro

รัฐได้ตั้งบริษัทขึ้นมาแห่งหนึ่ง  เพื่อประสานงานกับซัพพลายเออร์ในการจัดส่งสินค้าให้กับรานโชห่วยทั่วประเทศ  โดยมีผู้บริหารของกลุ่มสหพัฒน์ อาสามาเป็นประธานบริษัทนี้  ผลปรากฎว่า บริษัทนี้มีผลการดำเนินงานขาดทุน  และมีปัญหาการเติบโตอยู่ทุกวันนี้  จนไม่แน่ว่าจะอยู่รอดได้อีกนานเพียงใด
ภาพประจำตัวสมาชิก
Eyore
Verified User
โพสต์: 606
ผู้ติดตาม: 0

โตน้อยไปหรือเปล่าครับ สำหรับ BIGC

โพสต์ที่ 14

โพสต์

New Analyst เขียน:เรียน คุณ Metro

รัฐได้ตั้งบริษัทขึ้นมาแห่งหนึ่ง  เพื่อประสานงานกับซัพพลายเออร์ในการจัดส่งสินค้าให้กับรานโชห่วยทั่วประเทศ  โดยมีผู้บริหารของกลุ่มสหพัฒน์ อาสามาเป็นประธานบริษัทนี้  ผลปรากฎว่า บริษัทนี้มีผลการดำเนินงานขาดทุน  และมีปัญหาการเติบโตอยู่ทุกวันนี้  จนไม่แน่ว่าจะอยู่รอดได้อีกนานเพียงใด
ผมว่าปัญหามันอยู่ที่ภาครัฐไม่มีความจริงใจ + ตั้งใจจะแก้ปัญหามากกว่า
ความจริงการทำแบบนี้เป็นหนทางที่ถูกต้องแล้ว
แต่รัฐต้องทุ่มเททรัพยากรมากกว่านี้
- ให้งบลงทุนมากขึ้น
- หาผู้บริหารเก่งๆมาดูแล
- แทนที่จะยุบ รสพ. ก็เอามาปั้นให้เป็นบริษัท Logistics ครบวงจร
- กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรม.. อะไรต่างๆ เหล่านี้ ต้องเข้ามาช่วยให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการมากขึ้น ไม่ใช่จะปล่อยให้ขายของไปวันๆ ไม่มีการพัฒนาร้านค้า ไม่มี service mind แล้วใครมันจะอยากเข้าไปซื้อ
- งบโฆษณาตัวเองของหน่วยงานต่างๆ ไม่มีประโยชน์ เอามาโฆษณาให้หน่วยงานนี้ดีกว่า
jidapa
Verified User
โพสต์: 67
ผู้ติดตาม: 0

โตน้อยไปหรือเปล่าครับ สำหรับ BIGC

โพสต์ที่ 15

โพสต์

พฤติกรรมผู้บริโภค เปลี่ยนไป ทุกอย่างเปลี่ยน ร้านโชห่วยก็ต้องเปลี่ยน

1. ในอดีต  เราไม่สนใจ ไม่ รู้ เรื่องของหมด อายุ โดยเฉพาะ ของที่ใช้รับประทาน  จะมีอายุประมาณ 3-6 เดือน การเสียเวลา ขนส่ง และ เก็บ stock หลายๆ ที่ ก็ เกือบ Expire  แล้ว

2. การใช้ชีวิต เปลี่ยนไป ปัจจุบันทุกคนทำงาน การ ซื้อของ จะซื้ออาทิตย์ละครั้ง หรือ เดือน ละ ครั้ง เก็บไว้ การไป ซื้อ ที่ ห้าง ทำให้ ได้ เลือก ของ มากกว่า และ หลาก หลาย ชนิด ให้ เลือก  ในอดีต ส่วนใหญ่ แม่ บ้าน มีเวลาอยู่ที่บ้าน จะไป ซื้อ ของ ทุก วัน จากร้านโชห่วยใกล้บ้าน

3. พฤติกรรม การซื้อของ  เปลี่ยนไป ปัจจุบัน คนชอบเลือกด้วยตัวเอง  ไม่ชอบให้ใครมาเดินตามดู  ทำให้ไม่มีอิสสระในการเลือกซื้อของ
โพสต์โพสต์