ราคาหุ้นกับชาวVI

[chanchai_lee]

สวัสดีครับชาวVI เป็นสมาชิกมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว มีความสงสัยกับแนวทางการลงทุนแบบนี้อยู่ คือว่า เรื่องของราคาหุ้นนั้น ถ้าเกิดเราตัดสินใจเลือกหุ้นที่เราคิดว่าจะเข้าไปลงทุนได้แล้วนั้นและเราได้ตั้งราคาไว้ในใจแล้วที่ระดับราคาหนึ่ง แต่ราคาหุ้นไม่ได้ลงมาให้เราได้มีโอกาสซื้อเลย หรือแม้ระดับราคาที่ใกล้เคียง แล้วชาวVI ทั้งหลายจะทำอย่างไร จะรออย่างอดทนต่อไปหรือเปลี่ยนตัวเลือกดีกว่า ตัวผมคิดว่าการรอที่นานเกินไปก็เป็นการเสียโอกาสทางการลงทุนอย่างหนึ่ง อีกอย่างคิดว่าตลาดหุ้นไทยเรานั้นหุ้นที่เป็นหุ้นคุณค่ามีอยู่ให้เลือกไม่มากนัก  ขอความคิดเห็นด้วยครับ

[สุมาอี้]

ทำ wishlist ไว้สัก 5-7 ตัวสิครับ ถ้ารอซื้ออยู่แค่ตัวเดียว อาจจะต้องรอหลายปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นบริษัทที่ดีมากๆ มักไม่ค่อยมีโอกาสให้ซื้อครับ แต่ถ้ามีหลายตัวจะมีโอกาสให้ซื้อบ่อยขึ้น

[ต.หยวนเปียว]

ถ้าเราเดินหาซื้อของ
เรามีชนิด สเปค  ราคาที่เหมะสมอยู่
หากเรายังหาของไม่ได้  
เราจะหาต่อไป หรือ หรือ ลดสเปคลง หรือ ยอมจ่ายแพง

ของนั้นเราจำเป็นต้องใช้ เลยจำใจ  เอ๊ย เต็มใจซื้อ
หรือรีบซื้อเพราะเกรงว่าจะมีคนมากว้านซื้อไปในราคาที่ยอมจ่ายแพงกว่า

สำหรับผม
ทางสายกลาง
ซื้อเฉพาะที่ต้องการจริงๆ ในสเปคที่กำหนด(ค่อนข้างสูง)
ยอมจ่ายในราคาเหมาะสม อาจไม่ถูกนัก
และเผื่อเงินไว้บ้าง เกิดพบของดีราคาถูกในภายหลัง
:lol:

[สามัญชน]

วิธีที่คุณ chanchai_lee ใช้นั้น จริงๆก็เป็นวิธีที่ดีแล้วครับ เพียงแต่อาจจะมีปัญหาในทางปฏิบัติทำให้อึดอัดบ้าง  เพราะบางทีต้องรอนานแสนนานกว่าจะได้ซื้ออย่างที่ว่า

งั้นลองวิธีที่ดีรองลงมาหน่อย

ลองกลับความคิด180องศาดูครับ

เริ่มต้นเลย  แทนที่จะหาบริษัทก่อนแล้วค่อยดูราคา ก็ลองหาดูราคาที่ถูกๆก่อนแล้วค่อยดูบริษัท  หุ้นที่ราคาถูกๆก็มีเยอะแยะจะใช้เกณฑ์ที่ชาว VI ใช้บ่อยๆก็ได้ เช่นค่า p/e  p/b เป็นหลัก

เราก็จะได้หุ้นที่น่าสนใจมากลุ่มหนึ่ง  สมมติว่าได้มาห้าสิบตัว

หลังจากนั้นเราก็ดูคุณภาพบริษัทว่าตัวไหนน่าจะดีกว่ากัน อาจจะยอมจ่ายแพงขึ้นบ้างถ้าหุ้นน่าสนใจกว่า แต่ก็ยังอยู่ในกลุ่มราคาถูกอยู่ดี เพราะห้าสิบตัวที่ว่าก็มาจากกลุ่มราคาถูกอยู่แล้ว

วิธีนี้จะได้เล่นหุ้นแน่ๆ  ถึงตอนนี้ก็สบายแล้ว

ขั้นต่อไปเราก็ศึกษาหุ้นไว้อีกชุดหนึ่ง  เมื่อไหร่ที่คุณค่าและราคาหุ้นตัวใหม่น่าสนใจกว่าเดิมเราก็เปลี่ยนหุ้น  อย่างนี้เราก็ไม่ต้องรอให้หงุดหงิดหัวใจ

[jody4003]

[quote="สามัญชน"]วิธีที่คุณ chanchai_lee ใช้นั้น จริงๆก็เป็นวิธีที่ดีแล้วครับ เพียงแต่อาจจะมีปัญหาในทางปฏิบัติทำให้อึดอัดบ้าง

[007-s]

สำหรับดิฉันมีการจัดการในแบบนี้นะคะ ลองดู

คัดเลือกหาหุ้นตัวที่ชอบกองไว้ก่อน
ข้อนี้ดิฉันยังไม่ดูราคาใดใด แต่จะดูที่ตัวสินค้า,บริการ,หรือตัวโครงสร้างกิจการนั้นๆ ว่า"ชอบ"มั้ย (จะใช้คำว่ารักก็ย่อมได้ แล้วแต่ค่ะ)
คำว่าชอบในที่นี้คือ เอาใจเรา(เราถนัด,ใฝ่ฝัน,รักที่จะเป็น) สมองเรา(ความเข้าใจ,ช่ำชอง,คิดเห็น) รวมถึงจินตนาการ(วิเคราะห์ถึงได้,มองเป็นมโนภาพกว้างๆไกลๆไปยังวันหน้า) มาผสมกัน
แล้วมันจะประมวลออกมาเองคำว่าชอบเนี่ย

สอง คือ ประเมินค่าความชอบใส่ในตารางเป็นรายหุ้นเลย (คือการพยายามตีค่าความรู้สึก"ชอบ"นั้น แยกแยะออกมาให้เห็นชัดเจน เป็นระดับชั้น และประเภทของแต่ละความรู้สึกชอบ
แต่ละข้อนั้น แล้วแต่ว่าเราจะให้ข้อไหนคะแนนเต็มมากน้อย(หรือเท่ากันทุกข้อ) ขึ้นอยู่กะเรามองมันว่าสำคัญอย่างไร ...เช่น ชอบผู้บริหาร-คะแนนเต็มอาจจะ 10.. ชอบโครงสร้างธุรกิจ-คะแนนอาจจะเต็ม 15.. ชอบสินค้า-อาจจะเต็ม 20.. ก็ย่อมได้

จากข้อ 1-2 นี้ เราจะได้ความเข้าใจแล้วว่า อะไรคือที่เรารักมากหน่อย น้อยหน่อย ถัดไป ซึ่งมันควรถูกใช้สำหรับจัดการสัดส่วนในพอร์ท ที่เราจะต้องกันเงินไว้แยกเป็นกองๆไป
(บางกอง มันต้องตัวนี้เท่านั้น ก็ขีดเส้นเข้มๆไว้ ห้ามย้ายกอง ,แต่บางกองเราก็ว่า ไม่เป็นไร มีตัวอื่นลงเล่นแทนได้ ก็ไม่จำเป็นต้องรอแต่ตัวจริง ตัวสำรองก็ฝีมือดีพอๆกัน ก็ต้องวางตัวเล่นสำรองไว้ด้วย)

สาม คือ เข้าไปประเมินราคา
(จะไม่ลงรายละเอียดนะคะว่าวิธีคิดคำนวนใช้อะไรบ้าง เพราะแต่ละบริษัทแต่ละธุรกิจ ดิฉันอาจใช้วิธีคิดที่ไม่เหมือนกันอยู่บ้าง,แต่หลักปกติพื้นๆก็มักจะอิงกับการคาดการอัตตราเติบโตที่น่าจะเกิดที่จะส่งผลให้ราคาหุ้นอนาคตไปถึงเท่าไหร่-เมื่อไหร่ แล้วคิดผลตอบแทนมาที่ราคาลงทุน ,ก็ทั่วๆไปทำกัน)
จากนั้นใส่ในตารางไว้เลย ว่า หุ้นแต่ละตัว แต่ละช่วงราคาเท่าไหร่ ให้กี่ดาว(คะแนน)

จากเงินแต่ละกองที่แยกไว้ ดิฉันจะชอบแบ่งเป็น ไม้ๆไป จะกี่ไม้ก็แล้วแต่ ,พอราคามาถึงขั้นแรก อาจจะที่ ดาวเดียว=ซัด 1ไม้ ,สองดาว=2 ....

แต่...จังหวะการซัด ไม่ตายตัวนะคะ ขึ้นอยู่กับ....จังหวะ ณ เวลานั้นๆ และการคาดการไปยัง จังหวะหลังจากนั้นด้วย
เช่น บางทีคาดว่า ตลาดออกอาการจะลงหนัก พอราคามาถึงดาวเดียว ...ไม่ต้องซัดก็ได้ รอไปซัดรวมตรง สองดาวแทน ,หรือกลับกัน อ้าวมันออกข่าวนี้มา ไปแน่ๆ เบรคเทรนด์เป็นขาขึ้นแน่นอน มัดห้าไม้รวมกันเคาะขวาโลดไปเลย ก็ต้องทำ  :mrgreen:


ทั้งนี้ทั้งนั้น แผนที่วางไว้แล้วเนี่ย ....ดิฉันเปลี่ยนและปรับปรุงแผนตลอดเวลาค่ะ  :lol:

และสำคัญมากๆคือ ต้องไม่นั่งหลับในรอ คือ ต้องคัดหาไปเรื่อยๆ
ตรวจทานแผนเดิมด้วย ไม่นั่งรอไปเฉยๆ เช่น ไอ้ตัวนี้มันยังไงเนี่ย เท่าไหร่ๆ ก็ลงไม่ถึงที่ต้องการซักที ก็ต้องเค้นตัวเองล่ะ ว่า ...ราคานี้เป็นไงมั่ง ไหวมั้ย รักมากหรือไง  :?:

ก่อนลงมือซื้อหุ้น แม้ช่วงเวลาฉุกละหุกแค่ไหนก็ตาม ดิฉันจะต้องไม่ลืมที่จะคิดคำนึงเสมอว่า
....ไหวมั้ย ติดไหวมั้ย อ่ะ ไหวนะ เอานะ แน่นะ ติดไหวนะ เอาอยู่ป่ะ ใจเราน่ะ เอาอยู่แน่ป่ะ ราคาเนี้ยอ่ะ

:lol:

[woody]

....ไหวมั้ย ติดไหวมั้ย อ่ะ ไหวนะ เอานะ แน่นะ ติดไหวนะ เอาอยู่ป่ะ ใจเราน่ะ เอาอยู่แน่ป่ะ ราคาเนี้ยอ่ะ

:lol:

ชอบช่วงนี้จังครับ

[Accidental Hero]

เรื่องของราคาหุ้นนั้น ... ตัวผมคิดว่าการรอที่นานเกินไปก็เป็นการเสียโอกาสทางการลงทุนอย่างหนึ่ง

คุณ chanchai รอเท่าไรครับที่เรียกว่านาน 1 เดือน 2 เดือน 3 เดือน หรือกี่เดือน
ถ้าคุณซื้อได้ราคาที่มีส่วนลดมากพอ คุณจะได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ

[chatchai]

เกือบ 5 ปีแล้วครับ  

ที่ผมยังหาหุ้นที่น่าซื้อไม่ได้เลยครับ  

นอกจาก WG บริษัทเดียว

[Accidental Hero]

[quote="chatchai"]เกือบ 5 ปีแล้วครับ

[pongo]

สมมุตินะครับว่าถ้าเป็นตนจะขาย
ราคาเป้าหมายที่ตั้งไว้ มันมาถึงเร็วกว่าที่คิดล่ะครับ
เช่น กะว่าอีก 3 เดือนราคาน่าจะถึงที่ตั้งไว้
แต่เอาเข้าจริง ดันพรวดเดียวใน 1 เดือนล่ะครับ
โวลุ่มก็ยังเยอะอยู่เลย กราฟก็สวยมากๆ
เอาล่ะซิ ขายดี ไม่ขายดี
เพื่อนๆ พี่ ทำอย่างไรกันบ้างครับ
ขายตามเป้าหมายเดิม ทยอยขาย ปรับราคาเป้าหมายใหม่ ทบทวนพื้ฐานหุ้นใหม่

[Boring Stock Lover]

ผมก็ยังยอม

ซื้อถูกบริษัท แต่ผิดราคา

ซื้อแพงเกินแก้ได้

ซื้อผิดบริษัท ต้อง ขว้างทิ้งอย่างเดียว

[สุมาอี้]

[quote="Accidental Hero"][quote="chatchai"]เกือบ 5 ปีแล้วครับ

[Mon money]

เหมือนเลือกคู่นั่นแหละ ถ้าผมเป็นคนช่างเลือกป่านฉะนี้คงยังโสด บังเอิญเกิดมารูปหล่อ เลยได้แต่งงานตอนอายุสามสิบเอ็ดปี(เกือบไปแล้ว สมัยผมมีคนแอบนินทาว่าเป็นเกย์)

ผมมีหุ้นในใจอยู่บริษัทหนึ่ง เฝ้าแต่รอ ร๊อ รอมานานหลายปี นับวันราคาก็วิ่งหนีจนในที่สุดก็เพ่งซื้อเอาไว้ เอาน่าถ้ามั่นใจแล้วก็ลุยเลย

[miracle]

กลัวอย่างเดียวมันไม่มาตามราคาที่ต้องการอ่ะ
จะนั่งต้องง้อไหมเนี่ย

[007-s]

ชอบช่วงนี้จังครับ

มันสำคัญค่ะ เพราะโดยมากแล้ว ช่วงที่จำเป็นต้องมัดรวบทุกไม้รวมกันแล้วซัดเลย บ่อยครั้งที่มันเป็นจังหวะกำลังจะเบรคเทรนด์เพื่อจะกระทิง หรือกลับกันถ้ามันโหม่งแล้วไม่ผ่านจุดเบรคต้าน ก็อาจจะดอยเลยได้ (จะพบว่ามีหลายครั้งที่บางตัวทำท่าเหมือนจะผ่านแพลมๆต้านไป แต่สุดท้ายไม่รอด )

ช่วงนี้นั้นฝุ่นจะตลบ เกิดการนองเลือดระหว่างแรงซื้อกับแรงขาย

และในทางกลับกันเช่นกัน ที่เมื่อมันอาจจะลงวืดดดเลยแนวรับสำคัญ แล้วตีกลับมาปิดที่แนวรับได้ (ทำทีเหมือนว่าตายแน่แต่สุดท้ายกลับฟื้นมาได้ หลุดแน่แล้ว แต่ไม่หลุด)

ช่วงนี้เหมือนเครื่องบินตกหลุมอากาศ (หรืออาจคล้ายกับคนที่เล่นบันจี้จั๊ม )

เฉพาะสองช่วงเวลาที่ไม่ว่าจะทั้งซื้อหรือขายนี้ เป็นช่วงชุลมุน ฉุกละหุก
สำคัญมากที่ต้องตรึงสติไว้เสมอ ราคาที่จะจรดดาบ ต้องมั่นใจได้ว่า ควรจะแหยง หรือควรจะลุย

:lol:

[chanchai_lee]

สวัสดีครับ ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นที่ชาวเวบแสดงเข้ามาในกระทู้ ตอนนี้ทำลิสต์รายการชื่อหุ้นที่เข้าข่ายอยู่ แล้ว wait&see ไปเรื่อยๆ คิดว่าคงรอจังหวะแบบ Buffet ว่าไว้คือ รอลูกเข้าจุดโฟกัส แล้วหวดเต็มเหนี่ยวอย่างเดียว หรือภาษาฟุตบอลว่าลูกยิงเข้าข้อประมาณนั้นแล  แต่ขอแสดงความนับถือความทนอด(ไม่ซื้อหุ้น)ของคุณฉัตรชัย ว่ารอได้ไงตั้ง 5 ปี สงสัยคงต้องฝึกอีกนานนน
ขอบคุณอีกครั้ง

[chatchai]

[quote="สุมาอี้"][quote="Accidental Hero"][quote="chatchai"]เกือบ 5 ปีแล้วครับ