ถ้าค่าเงินบาทเป็น 36 บาทต่อดอลล์ หุ้นตัวไหนจะกระทบบ้างครับ ?
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าค่าเงินบาทเป็น 36 บาทต่อดอลล์ หุ้นตัวไหนจะกระทบบ้างครับ ?
โพสต์ที่ 1
ถ้าค่าเงินบาทเป็น 36 บาทต่อดอลล์จริงตามการคาดคะเนของกสิกร หุ้นตัวไหนจะกระทบหนักๆบ้างครับ?
เรื่องค่าเงินนี่น่าจะเกี่ยวข้องในปีหน้า หรือ พี่ๆว่ายังไงครับ
http://www.bangkokbiznews.com/2003/12/2 ... 17422.html
กสิกรไทย ทำนาย "สหรัฐขาดดุล" ทำค่าเงินแข็ง 36 บาทต่อดอลล์
บริษัท ศูนย์วิจัย กสิกรไทย มองว่าปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐ เป็นความเสี่ยงสำคัญต่อเสถียรภาพทั้งของเศรษฐกิจสหรัฐ และเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ เป็นที่คาดหมายว่าในปี 2546 นี้ มูลค่าการขาดดุลดังกล่าวของสหรัฐจะสูงถึงประมาณ 5.8-6.0 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นประมาณ 5.3% ของจีดีพีสหรัฐ เมื่อเทียบกับมูลค่าการขาดดุล 4.8 แสนล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 4.6% ของจีดีพีในปีก่อนหน้า นอกจากนี้ สัดส่วนกว่า 5% ของจีดีพี ดังกล่าวยังนับว่าเป็นสัดส่วนการขาดดุลฯ ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของสหรัฐอีกด้วย
ทั้งนี้ประเด็นสำคัญที่นักลงทุน และตลาดเงินมีความกังวลก็คือ การที่ประเทศพัฒนาแล้วเช่นสหรัฐ มีการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างต่อเนื่องนั้น อาจจะนำมาสู่ปัญหาเสถียรภาพ และวิกฤติความเชื่อมั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากนักลงทุนคาดการณ์ว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ อาจจะต้องอ่อนตัวลงไปอีก เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ เพื่อที่จะปรับให้ฐานะดุลบัญชีเดินสะพัดมีความสมดุลมากขึ้น
โดยเมื่อเทียบกับค่า ณ สิ้นปี 2545 จะพบว่า ในขณะนี้เงินดอลลาร์สหรัฐได้อ่อนตัวลงไปแล้วประมาณ 17.9% เมื่อเทียบกับเงินยูโร, 10.1% เมื่อเทียบกับเงินเยน และประมาณ 8.7% เมื่อเทียบกับเงินบาทของไทย
ดังนั้น หากปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐ ยังไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้น นักลงทุนและตลาดเงิน ก็อาจจะยังคงคาดการณ์การอ่อนตัวของเงินดอลลาร์ต่อเนื่องไปอีก ทั้งนี้ จากการคำนวณในเบื้องต้นภายใต้สมมติฐานค่าความยืดหยุ่น (elasticity) ของการค้าระหว่างประเทศต่ออัตราแลกเปลี่ยน ศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า เงินดอลลาร์อาจจะต้องอ่อนตัวลงอีกประมาณ 20% จากระดับในขณะนี้ เพื่อที่จะรักษาสมดุลของบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐ
ทั้งนี้ นักลงทุน และตลาดเงินส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เงินดอลลาร์อาจจะไม่อ่อนตัวลงไปรุนแรงมากขนาดนั้น โดยอาจจะอ่อนตัวลงไปอีกประมาณ 5-10% จากระดับปัจจุบัน ซึ่งจะส่งผลให้เงินเยนแข็งค่าขึ้นไปที่ระดับ 98.0-102.6 เยน/ดอลลาร์ เงินยูโรที่ระดับ 1.30-1.36 และเงินบาทที่ 36.0-37.7 บาท/ดอลลาร์
การคาดการณ์การอ่อนตัวของเงินดอลลาร์ อาจกระทบต่อการจัดสรรเงินลงทุน (portfolio allocation) ในหลักทรัพย์สกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งจะมีผลต่อกระแสการไหลเข้าของเงินทุนสู่ตลาดทุนสหรัฐ ทั้งในตลาดหุ้น และตลาดตราสารหนี้ แม้ว่าการอ่อนตัวของเงินดอลลาร์ น่าที่จะเป็นผลดีต่อการดำเนินธุรกิจของสหรัฐ โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องมีการกำหนดราคาแข่งขันกับบริษัทต่างประเทศ แต่ผลดีดังกล่าวอาจถูกหักล้างจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนทางการเงินและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากโดยสุทธิแล้ว เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเป็นเศรษฐกิจที่การบริโภคภายในประเทศมีความสำคัญมากกว่าการส่งออก
การสูญเสียความเชื่อมั่นในค่าเงินดอลลาร์ และการปรับเพิ่มของต้นทุนทางการเงินในตลาดสหรัฐ ที่อาจส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐนั้น ย่อมจะมีผลต่อเนื่องไปยังการส่งออกของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย ที่ยังคงมีสหรัฐเป็นตลาดส่งออกหลักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กล่าวคือ คงจะเป็นการยากที่ประเทศในเอเชียจะมีอัตราการขยายตัวออกมาดีกว่าที่คาด หากเศรษฐกิจสหรัฐต้องประสบกับการชะลอตัว จากกระบวนการปรับตัวเพื่อแก้ไขการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดดังที่กล่าวไปแล้วในข้างต้น
เรื่องค่าเงินนี่น่าจะเกี่ยวข้องในปีหน้า หรือ พี่ๆว่ายังไงครับ
http://www.bangkokbiznews.com/2003/12/2 ... 17422.html
กสิกรไทย ทำนาย "สหรัฐขาดดุล" ทำค่าเงินแข็ง 36 บาทต่อดอลล์
บริษัท ศูนย์วิจัย กสิกรไทย มองว่าปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐ เป็นความเสี่ยงสำคัญต่อเสถียรภาพทั้งของเศรษฐกิจสหรัฐ และเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ เป็นที่คาดหมายว่าในปี 2546 นี้ มูลค่าการขาดดุลดังกล่าวของสหรัฐจะสูงถึงประมาณ 5.8-6.0 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นประมาณ 5.3% ของจีดีพีสหรัฐ เมื่อเทียบกับมูลค่าการขาดดุล 4.8 แสนล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 4.6% ของจีดีพีในปีก่อนหน้า นอกจากนี้ สัดส่วนกว่า 5% ของจีดีพี ดังกล่าวยังนับว่าเป็นสัดส่วนการขาดดุลฯ ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของสหรัฐอีกด้วย
ทั้งนี้ประเด็นสำคัญที่นักลงทุน และตลาดเงินมีความกังวลก็คือ การที่ประเทศพัฒนาแล้วเช่นสหรัฐ มีการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างต่อเนื่องนั้น อาจจะนำมาสู่ปัญหาเสถียรภาพ และวิกฤติความเชื่อมั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากนักลงทุนคาดการณ์ว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ อาจจะต้องอ่อนตัวลงไปอีก เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ เพื่อที่จะปรับให้ฐานะดุลบัญชีเดินสะพัดมีความสมดุลมากขึ้น
โดยเมื่อเทียบกับค่า ณ สิ้นปี 2545 จะพบว่า ในขณะนี้เงินดอลลาร์สหรัฐได้อ่อนตัวลงไปแล้วประมาณ 17.9% เมื่อเทียบกับเงินยูโร, 10.1% เมื่อเทียบกับเงินเยน และประมาณ 8.7% เมื่อเทียบกับเงินบาทของไทย
ดังนั้น หากปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐ ยังไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้น นักลงทุนและตลาดเงิน ก็อาจจะยังคงคาดการณ์การอ่อนตัวของเงินดอลลาร์ต่อเนื่องไปอีก ทั้งนี้ จากการคำนวณในเบื้องต้นภายใต้สมมติฐานค่าความยืดหยุ่น (elasticity) ของการค้าระหว่างประเทศต่ออัตราแลกเปลี่ยน ศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า เงินดอลลาร์อาจจะต้องอ่อนตัวลงอีกประมาณ 20% จากระดับในขณะนี้ เพื่อที่จะรักษาสมดุลของบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐ
ทั้งนี้ นักลงทุน และตลาดเงินส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เงินดอลลาร์อาจจะไม่อ่อนตัวลงไปรุนแรงมากขนาดนั้น โดยอาจจะอ่อนตัวลงไปอีกประมาณ 5-10% จากระดับปัจจุบัน ซึ่งจะส่งผลให้เงินเยนแข็งค่าขึ้นไปที่ระดับ 98.0-102.6 เยน/ดอลลาร์ เงินยูโรที่ระดับ 1.30-1.36 และเงินบาทที่ 36.0-37.7 บาท/ดอลลาร์
การคาดการณ์การอ่อนตัวของเงินดอลลาร์ อาจกระทบต่อการจัดสรรเงินลงทุน (portfolio allocation) ในหลักทรัพย์สกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งจะมีผลต่อกระแสการไหลเข้าของเงินทุนสู่ตลาดทุนสหรัฐ ทั้งในตลาดหุ้น และตลาดตราสารหนี้ แม้ว่าการอ่อนตัวของเงินดอลลาร์ น่าที่จะเป็นผลดีต่อการดำเนินธุรกิจของสหรัฐ โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องมีการกำหนดราคาแข่งขันกับบริษัทต่างประเทศ แต่ผลดีดังกล่าวอาจถูกหักล้างจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนทางการเงินและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากโดยสุทธิแล้ว เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเป็นเศรษฐกิจที่การบริโภคภายในประเทศมีความสำคัญมากกว่าการส่งออก
การสูญเสียความเชื่อมั่นในค่าเงินดอลลาร์ และการปรับเพิ่มของต้นทุนทางการเงินในตลาดสหรัฐ ที่อาจส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐนั้น ย่อมจะมีผลต่อเนื่องไปยังการส่งออกของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย ที่ยังคงมีสหรัฐเป็นตลาดส่งออกหลักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กล่าวคือ คงจะเป็นการยากที่ประเทศในเอเชียจะมีอัตราการขยายตัวออกมาดีกว่าที่คาด หากเศรษฐกิจสหรัฐต้องประสบกับการชะลอตัว จากกระบวนการปรับตัวเพื่อแก้ไขการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดดังที่กล่าวไปแล้วในข้างต้น
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าค่าเงินบาทเป็น 36 บาทต่อดอลล์ หุ้นตัวไหนจะกระทบบ้างครับ ?
โพสต์ที่ 2
เห็นหายไปนานนะครับคุณคัดท้าย
เจอโจทก์ตามมาเล่นงานถึงนี่หรือว่ามัวแต่ไป
พายเรือแขกครับ
กระทบหลายบริษัทเลยครับ แต่ไม่มากหรอกครับถ้า
รู้ล่วงหน้า อย่างตอน 3 ปีที่แล้วที่บาทแข็ง(โป๊ก)ที่
35 บาทต่อดอลล่าร์ ส่งออกก็ยังกำไรกันถ้วนหน้าครับ
ที่สำคัญ ดอลล่าร์อ่อนลงต่างหากครับ ไม่ใช่บาทแข็ง
เพราะ Euro และเยนก็แข็งตามไปด้วย ลองไปดูชาร์ต
THB/YEN กับ THB/EUR ดูสิครับ
ได้ยินมาว่า TA fix ค่าเงินกู้สกุล US ของตัวเองไว้ที่
42 บาทต่อดอลล่าร์ครับ ทำให้เที่ยวนี้ แทนที่จะหนี้
จะลดลง กลับไม่ลดเลยครับ
เจอโจทก์ตามมาเล่นงานถึงนี่หรือว่ามัวแต่ไป
พายเรือแขกครับ

กระทบหลายบริษัทเลยครับ แต่ไม่มากหรอกครับถ้า
รู้ล่วงหน้า อย่างตอน 3 ปีที่แล้วที่บาทแข็ง(โป๊ก)ที่
35 บาทต่อดอลล่าร์ ส่งออกก็ยังกำไรกันถ้วนหน้าครับ
ที่สำคัญ ดอลล่าร์อ่อนลงต่างหากครับ ไม่ใช่บาทแข็ง
เพราะ Euro และเยนก็แข็งตามไปด้วย ลองไปดูชาร์ต
THB/YEN กับ THB/EUR ดูสิครับ
ได้ยินมาว่า TA fix ค่าเงินกู้สกุล US ของตัวเองไว้ที่
42 บาทต่อดอลล่าร์ครับ ทำให้เที่ยวนี้ แทนที่จะหนี้
จะลดลง กลับไม่ลดเลยครับ
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าค่าเงินบาทเป็น 36 บาทต่อดอลล์ หุ้นตัวไหนจะกระทบบ้างครับ ?
โพสต์ที่ 3
สวัสดีครับคุณพี่ CK
ผมไปพายเรือมาครับ ช่วงนี้เบื่อๆไม่มีอะไรจะทำครับ เลยไปเชียร์เรือกับเค้าหน่อย หนุกดี
ว่างๆก็ไปนั่งพิมพ์ Form56-1 ออกมาดูทีละบริษัท ถ้าคนทำอย่างผมเยอะๆนี่ AA รวยแน่ๆเลยครับ 5555
วันนี้ดู CVD ครับ วันนี้พิมพ์ตัวนี้ออกมาดูเพราะว่าช่วงนี้ เค้ามีการลดราคาพวก VCD ลิขสิทธิ์ครับ แถมยังกวาดล้างพวก VCD เถื่อนมากกว่าแต่ก่อน ผมว่ามันน่าจะทำให้ยอดขายดีขึ้นนะครับ
เพราะอย่างตัวผมเองช่วงนี้ผมซื้อ VCD ลิขสิทธิ์มาดูตลอดเลยครับเพราะว่าราคามันรับได้มากขึ้นเยอะ ภาพก็ชัดดี และพวกหีบห่อก็ดูดีมีชาติตระกูล อันนี้วัดจากพฤติกรรมของตัวผมเองนะครับ
ไม่ทราบว่าพี่ CK เคยดูตัวนี้บ้างมั้ยครับ ถ้าเคย ขอความเห็นด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
ผมไปพายเรือมาครับ ช่วงนี้เบื่อๆไม่มีอะไรจะทำครับ เลยไปเชียร์เรือกับเค้าหน่อย หนุกดี
ว่างๆก็ไปนั่งพิมพ์ Form56-1 ออกมาดูทีละบริษัท ถ้าคนทำอย่างผมเยอะๆนี่ AA รวยแน่ๆเลยครับ 5555
วันนี้ดู CVD ครับ วันนี้พิมพ์ตัวนี้ออกมาดูเพราะว่าช่วงนี้ เค้ามีการลดราคาพวก VCD ลิขสิทธิ์ครับ แถมยังกวาดล้างพวก VCD เถื่อนมากกว่าแต่ก่อน ผมว่ามันน่าจะทำให้ยอดขายดีขึ้นนะครับ
เพราะอย่างตัวผมเองช่วงนี้ผมซื้อ VCD ลิขสิทธิ์มาดูตลอดเลยครับเพราะว่าราคามันรับได้มากขึ้นเยอะ ภาพก็ชัดดี และพวกหีบห่อก็ดูดีมีชาติตระกูล อันนี้วัดจากพฤติกรรมของตัวผมเองนะครับ
ไม่ทราบว่าพี่ CK เคยดูตัวนี้บ้างมั้ยครับ ถ้าเคย ขอความเห็นด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าค่าเงินบาทเป็น 36 บาทต่อดอลล์ หุ้นตัวไหนจะกระทบบ้างครับ ?
โพสต์ที่ 4
ไม่เกี่ยวด้วยครับ แค่บอกว่าผมก็พิมพ์มาดูเหมือนกัน แต่เป็นกระดาษฟรีของสำนักงาน และเป็นยี่ห้ออะไรไม่รู้
ผมคิดว่าถ้าค่าเงินบาทแข็งขึ้นจริง ธุรกิจนำเข้าจะยิ้มเลย แล้วของหลายๆอย่างที่นำเข้าน่าจะมีราคาถูกลง แต่คงไม่มากเพราะเงินเยน และเงินอื่นๆไม่ได้อ่อนตัวตาม แต่ธุรกิจที่ส่งออกไปอเมริกานี่คงโดนกันมากน่าดู ก็ภาวนาให้ทางอเมริกาดีขึ้นครับ ว่าแต่ไว้ลองเมล์ไปถามเพื่อนที่อยู่เมกาดีกว่าว่าสภาพเศรษฐกิจเป็นยังงัยบ้าง
ผมคิดว่าถ้าค่าเงินบาทแข็งขึ้นจริง ธุรกิจนำเข้าจะยิ้มเลย แล้วของหลายๆอย่างที่นำเข้าน่าจะมีราคาถูกลง แต่คงไม่มากเพราะเงินเยน และเงินอื่นๆไม่ได้อ่อนตัวตาม แต่ธุรกิจที่ส่งออกไปอเมริกานี่คงโดนกันมากน่าดู ก็ภาวนาให้ทางอเมริกาดีขึ้นครับ ว่าแต่ไว้ลองเมล์ไปถามเพื่อนที่อยู่เมกาดีกว่าว่าสภาพเศรษฐกิจเป็นยังงัยบ้าง
Expecto Patronum!!!!!!
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าค่าเงินบาทเป็น 36 บาทต่อดอลล์ หุ้นตัวไหนจะกระทบบ้างครับ ?
โพสต์ที่ 5
เรื่อง CVD เคยเมียงมองบ้างครับ แต่อย่างที่เคยพูดไว้
หลายครั้งว่า พวก entertainment ไม่ถนัดจริงๆ ครับ
เลยไม่ได้ซื้อไว้สักตัว ถ้ามองในภาพรวม คือไม่ดูราคา
ไม่ดูงบก็น่าจะดีครับ ตลาด entertainment เป็นตลาด
ใหญ่มาก แต่พี่รู้สึกเหมือนเป็นธุรกิจที่ความผันผวนสูง
ครับ แต่ถ้ามองยาวๆไปเลยก็ OK
ใน 3 ปี ยอดขาย DVD น่าจะแซง VCD นะครับ ไม่ทราบ
ว่า CVD เขาผลิตเป็น DVD ด้วยหรือเปล่า
หลายครั้งว่า พวก entertainment ไม่ถนัดจริงๆ ครับ
เลยไม่ได้ซื้อไว้สักตัว ถ้ามองในภาพรวม คือไม่ดูราคา
ไม่ดูงบก็น่าจะดีครับ ตลาด entertainment เป็นตลาด
ใหญ่มาก แต่พี่รู้สึกเหมือนเป็นธุรกิจที่ความผันผวนสูง
ครับ แต่ถ้ามองยาวๆไปเลยก็ OK
ใน 3 ปี ยอดขาย DVD น่าจะแซง VCD นะครับ ไม่ทราบ
ว่า CVD เขาผลิตเป็น DVD ด้วยหรือเปล่า
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2431
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าค่าเงินบาทเป็น 36 บาทต่อดอลล์ หุ้นตัวไหนจะกระทบบ้างครับ ?
โพสต์ที่ 6
หุ้น fancy ผมคงแย่ ถ้าเงินบาทแข็ง หุ้นส่งออก ที่ใช้วัตถุดิบภายในประเทศ จะประสบปัญหา ส่วนหุ้นส่งออก ที่ นำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศก็มีปัญหาน้อยลง.........ส่วนหุ้นที่ได้ประโยชน์ก็หุ้นที่มีเงินกู้ในสกุลเงินเหรียญ และบริษัทนำเข้าสินค้าและวัตถุดิบจากต่างประเทศ
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าค่าเงินบาทเป็น 36 บาทต่อดอลล์ หุ้นตัวไหนจะกระทบบ้างครับ ?
โพสต์ที่ 7
อันนี้ข่าววันนี้ครับ สงสัยเรื่องบาทแข็งนี่ท่าทางจะเป็นจริงมั้งครับ
แต่อ่านข่าวนี้แล้ว อาจจะเบาใจขึ้น เพราะอาจแข็งขึ้นไม่รุนแรงนัก
http://www.bangkokbiznews.com/2003/12/2 ... 27013.html
นายกฯ ทำนายบาทแข็งต่อถึงปีหน้า
ธปท.ส่งสัญญาณเกินดุลบัญชีฯ ลดลง
"ปรีดิยาธร" พอใจเงินบาทนิ่ง หลังจากติดตามดูการเคลื่อนไหวมา 3 เดือนแล้ว ส่วนปีหน้าดุลบัญชีเดินสะพัดมีแนวโน้มเกินดุลลดลง ตามการเติบโตของเศรษฐกิจ ส่งผลให้แรงกดดันที่จะทำให้เงินบาทแข็งขึ้นลดลง "นายกฯ" ประเมินเงินทุนไหลเข้าเพิ่มบาทแข็งต่อปีหน้า
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า จากการติดตามดูการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทมา 3 เดือน เห็นว่าทุกอย่างปกติดี เป็นไปอย่างที่ตนทำ ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คนอื่นพูด และกรณีที่บอกว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกมาพูดว่าเงินบาทจะแข็งขึ้นถึง 38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในปีหน้านั้น เชื่อว่ารัฐมนตรีไม่ได้พูด เพราะท่านจะไม่พูดเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน
สำหรับแนวโน้มเงินบาทในปีหน้าจะแข็งขึ้นไปถึง 38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐหรือไม่นั้น ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า "ดูมา 3-4 เดือนแล้ว ก็น่าจะรู้ว่าเงินบาทอยู่ที่ไหน และตอนนี้ก็ยังอยู่ที่เดิม"
ทั้งนี้หลังจาก ธปท.ออกมาตรการป้องกันการเก็งกำไรเงินบาทเมื่อวันที่ 12 ก.ย.และ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทค่อนข้างนิ่ง เคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ ประมาณ 39.85-39.90 บาทต่อดอลลาร์
โดยวานนี้ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวที่ระดับ 39.60-39.62 บาทต่อดอลลาร์ ใกล้เคียงกับวันก่อน ซึ่งอยู่ระดับแข็งค่าต่อเนื่อง จากแรงซื้อเงินบาทในตลาดเงินเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันมีแรงขายเงินดอลลาร์สหรัฐในตลาดเงิน ส่วนหนึ่งเพราะเป็นช่วงใกล้วันหยุดทำการ
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวอีกว่า ในปีหน้าแนวโน้มดุลบัญชีเดินสะพัดจะเกินดุลลดลง เนื่องจากเมื่อประเทศเจริญเติบโต มีการพัฒนา ก็ต้องมีการนำเข้าเครื่องมือเครื่องจักรเพิ่มขึ้น แต่ดุลบัญชีเดินสะพัดที่คาดว่าจะเกินดุลลดลง ถือว่ายังดีอยู่ไม่แปลกอะไร เพราะการที่เศรษฐกิจโต 6-7% ดุลบัญชีเดินสะพัดยังเป็นบวกน่าประหลาดมากกว่า
"ดุลบัญชีเดินสะพัดที่มีแนวโน้มเกินดุลลดลงในปีหน้า จะทำให้แรงกดดันเงินบาทที่จะแข็งขึ้นลดลง" ผู้ว่าการ ธปท.กล่าว
ผู้สื่อข่าวยังถาม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า รมว.คลังระบุว่าค่าเงินบาทคงไม่แข็งค่าเกิน 38 บาทต่อดอลลาร์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไปกำหนดอย่างนั้นไม่ได้ ทุกอย่างมีธรรมชาติของตัวเอง เราก็ต้องจัดการเพื่อให้เกิดความเหมาะสม ถ้าเราไปจัดการมากเกินไปก็จะถูกโจมตี เพราะฉะนั้นก็ต้องทำให้ได้ในระดับหนึ่ง
เมื่อถามว่า รมว.คลัง ประกาศเป้าหมายล่วงหน้าจะทำให้เกิดความคาดหวังมากเกินไปหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไปประกาศไม่ได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องของ ธปท. แต่ความคาดหวังตามหลักวิชาการนั้นมีอยู่แล้ว เพราะเศรษฐกิจของประเทศแข็งแรง ตัวเลขการเงินการคลังของประเทศดี และยังมีแนวโน้มเงินไหลเข้าก็สามารถคาดเดาได้ โดยใช้หลักวิชาการ
ต่อข้อถามว่า ในมุมมองของนายกรัฐมนตีค่าเงินบาทจะมีโอกาสแข็งค่าไปอยู่ที่ 38 บาทต่อดอลลาร์หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนพูดไม่ได้ เพราะถ้าพูดไปก็จะยิ่งกลายเป็นตัวเปรียบเทียบ แต่ตนพูดได้ว่าหลักวิชาการมันดี และแนวโน้มบาทแข็งค่าขึ้นแน่นอน เพราะโดยหลักการตัวเลขและฐานข้อมูลทางเศรษฐกิจที่มี เมื่อถามว่าในปีหน้าจะต้องมีการจัดการเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ความจริงทุกคนต้องทำงานหนัก เพราะเศรษฐกิจและสังคมมีพลวัตสูงมาก ทุกคนอยู่นิ่งไม่ได้ต้องทำงานหนัก
ต่อข้อถามว่า กระทรวงการคลังแสดงความเป็นห่วงเรื่องการลงทุนที่จะมีเงินไหลเข้าประเทศมากซึ่งอาจกระทบต่อเงินบาท พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า คงไม่ถึงขั้นนั้น แต่ปีหน้าเงินไหลเข้าประเทศแน่นอน และแนวโน้มบาทของไทยจะแข็งค่าอย่างแน่นอน แต่เราจะพยายามระมัดระวังและเรามีระบบค่าเงินลอยตัวแบบจัดการ ก็ต้องดูให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด
แต่อ่านข่าวนี้แล้ว อาจจะเบาใจขึ้น เพราะอาจแข็งขึ้นไม่รุนแรงนัก
http://www.bangkokbiznews.com/2003/12/2 ... 27013.html
นายกฯ ทำนายบาทแข็งต่อถึงปีหน้า
ธปท.ส่งสัญญาณเกินดุลบัญชีฯ ลดลง
"ปรีดิยาธร" พอใจเงินบาทนิ่ง หลังจากติดตามดูการเคลื่อนไหวมา 3 เดือนแล้ว ส่วนปีหน้าดุลบัญชีเดินสะพัดมีแนวโน้มเกินดุลลดลง ตามการเติบโตของเศรษฐกิจ ส่งผลให้แรงกดดันที่จะทำให้เงินบาทแข็งขึ้นลดลง "นายกฯ" ประเมินเงินทุนไหลเข้าเพิ่มบาทแข็งต่อปีหน้า
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า จากการติดตามดูการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทมา 3 เดือน เห็นว่าทุกอย่างปกติดี เป็นไปอย่างที่ตนทำ ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คนอื่นพูด และกรณีที่บอกว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกมาพูดว่าเงินบาทจะแข็งขึ้นถึง 38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในปีหน้านั้น เชื่อว่ารัฐมนตรีไม่ได้พูด เพราะท่านจะไม่พูดเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน
สำหรับแนวโน้มเงินบาทในปีหน้าจะแข็งขึ้นไปถึง 38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐหรือไม่นั้น ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า "ดูมา 3-4 เดือนแล้ว ก็น่าจะรู้ว่าเงินบาทอยู่ที่ไหน และตอนนี้ก็ยังอยู่ที่เดิม"
ทั้งนี้หลังจาก ธปท.ออกมาตรการป้องกันการเก็งกำไรเงินบาทเมื่อวันที่ 12 ก.ย.และ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทค่อนข้างนิ่ง เคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ ประมาณ 39.85-39.90 บาทต่อดอลลาร์
โดยวานนี้ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวที่ระดับ 39.60-39.62 บาทต่อดอลลาร์ ใกล้เคียงกับวันก่อน ซึ่งอยู่ระดับแข็งค่าต่อเนื่อง จากแรงซื้อเงินบาทในตลาดเงินเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันมีแรงขายเงินดอลลาร์สหรัฐในตลาดเงิน ส่วนหนึ่งเพราะเป็นช่วงใกล้วันหยุดทำการ
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวอีกว่า ในปีหน้าแนวโน้มดุลบัญชีเดินสะพัดจะเกินดุลลดลง เนื่องจากเมื่อประเทศเจริญเติบโต มีการพัฒนา ก็ต้องมีการนำเข้าเครื่องมือเครื่องจักรเพิ่มขึ้น แต่ดุลบัญชีเดินสะพัดที่คาดว่าจะเกินดุลลดลง ถือว่ายังดีอยู่ไม่แปลกอะไร เพราะการที่เศรษฐกิจโต 6-7% ดุลบัญชีเดินสะพัดยังเป็นบวกน่าประหลาดมากกว่า
"ดุลบัญชีเดินสะพัดที่มีแนวโน้มเกินดุลลดลงในปีหน้า จะทำให้แรงกดดันเงินบาทที่จะแข็งขึ้นลดลง" ผู้ว่าการ ธปท.กล่าว
ผู้สื่อข่าวยังถาม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า รมว.คลังระบุว่าค่าเงินบาทคงไม่แข็งค่าเกิน 38 บาทต่อดอลลาร์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไปกำหนดอย่างนั้นไม่ได้ ทุกอย่างมีธรรมชาติของตัวเอง เราก็ต้องจัดการเพื่อให้เกิดความเหมาะสม ถ้าเราไปจัดการมากเกินไปก็จะถูกโจมตี เพราะฉะนั้นก็ต้องทำให้ได้ในระดับหนึ่ง
เมื่อถามว่า รมว.คลัง ประกาศเป้าหมายล่วงหน้าจะทำให้เกิดความคาดหวังมากเกินไปหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไปประกาศไม่ได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องของ ธปท. แต่ความคาดหวังตามหลักวิชาการนั้นมีอยู่แล้ว เพราะเศรษฐกิจของประเทศแข็งแรง ตัวเลขการเงินการคลังของประเทศดี และยังมีแนวโน้มเงินไหลเข้าก็สามารถคาดเดาได้ โดยใช้หลักวิชาการ
ต่อข้อถามว่า ในมุมมองของนายกรัฐมนตีค่าเงินบาทจะมีโอกาสแข็งค่าไปอยู่ที่ 38 บาทต่อดอลลาร์หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนพูดไม่ได้ เพราะถ้าพูดไปก็จะยิ่งกลายเป็นตัวเปรียบเทียบ แต่ตนพูดได้ว่าหลักวิชาการมันดี และแนวโน้มบาทแข็งค่าขึ้นแน่นอน เพราะโดยหลักการตัวเลขและฐานข้อมูลทางเศรษฐกิจที่มี เมื่อถามว่าในปีหน้าจะต้องมีการจัดการเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ความจริงทุกคนต้องทำงานหนัก เพราะเศรษฐกิจและสังคมมีพลวัตสูงมาก ทุกคนอยู่นิ่งไม่ได้ต้องทำงานหนัก
ต่อข้อถามว่า กระทรวงการคลังแสดงความเป็นห่วงเรื่องการลงทุนที่จะมีเงินไหลเข้าประเทศมากซึ่งอาจกระทบต่อเงินบาท พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า คงไม่ถึงขั้นนั้น แต่ปีหน้าเงินไหลเข้าประเทศแน่นอน และแนวโน้มบาทของไทยจะแข็งค่าอย่างแน่นอน แต่เราจะพยายามระมัดระวังและเรามีระบบค่าเงินลอยตัวแบบจัดการ ก็ต้องดูให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าค่าเงินบาทเป็น 36 บาทต่อดอลล์ หุ้นตัวไหนจะกระทบบ้างครับ ?
โพสต์ที่ 8
คิดว่าคงจะแตะ 35 บาทแน่ๆครับ หุ้นส่งออกคงจะแตะเบรกไป
ตามๆกัน ยกเว้นพวกที่ตลาดใหญ่ไม่ใช่ US แต่เป็นญี่ปุ่นกับ
ยุโรป แต่ก็จะได้รับผลกระทบในระยะสั้นด้วย
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังเป็นไปอย่างต่อเนื่องแบบ
ช้าๆ คิดว่าบุชคงจะพยายามกดดัน USD ให้อ่อนตัวลงเมื่อเทียบ
กับ EU ครับ ซึ่งจะทำให้ trade deficit ของสหรัฐฯกับชาติ EU
ดูดีขึ้นเล็กน้อย เมื่อไหร่ก็ตามที่อิรักเริ่มผลิตน้ำมันและส่งออกได้
สหรัฐฯคงจะยิ้มกริ่มแหละครับ
ก้างขวางคออันใหญ่ของบุชคือจีน ซึ่งผูกติดกับ USD เป็นแตงเม
ทำให้นโยบาย USD อ่อนของสหรัฐฯไม่สามารถสกัดสินค้าราคา
ถูกจากจีนได้
ทางออกของสหรัฐฯอันหนึ่งคือจำกัดโควต้าการนำเข้าสิ่งทอ
จากจีน หรือไม่ก็ up ภาษีขึ้นไปอีก น่าจะดีกับไทยนะครับ
ตามๆกัน ยกเว้นพวกที่ตลาดใหญ่ไม่ใช่ US แต่เป็นญี่ปุ่นกับ
ยุโรป แต่ก็จะได้รับผลกระทบในระยะสั้นด้วย
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังเป็นไปอย่างต่อเนื่องแบบ
ช้าๆ คิดว่าบุชคงจะพยายามกดดัน USD ให้อ่อนตัวลงเมื่อเทียบ
กับ EU ครับ ซึ่งจะทำให้ trade deficit ของสหรัฐฯกับชาติ EU
ดูดีขึ้นเล็กน้อย เมื่อไหร่ก็ตามที่อิรักเริ่มผลิตน้ำมันและส่งออกได้
สหรัฐฯคงจะยิ้มกริ่มแหละครับ
ก้างขวางคออันใหญ่ของบุชคือจีน ซึ่งผูกติดกับ USD เป็นแตงเม
ทำให้นโยบาย USD อ่อนของสหรัฐฯไม่สามารถสกัดสินค้าราคา
ถูกจากจีนได้
ทางออกของสหรัฐฯอันหนึ่งคือจำกัดโควต้าการนำเข้าสิ่งทอ
จากจีน หรือไม่ก็ up ภาษีขึ้นไปอีก น่าจะดีกับไทยนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 9
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าค่าเงินบาทเป็น 36 บาทต่อดอลล์ หุ้นตัวไหนจะกระทบบ้างครับ ?
โพสต์ที่ 9
พี่ CK
WACOAL น่าจะได้ประโยชน์นะครับ quotaสื่งทอ ของท่านบุช มีชั้นในสตรีซะด้วย
ส่งออกของwacoal ถ้าจำไม่ผิด (เพิ่งไปเมียงมองมา)ก็ 20+ ถึง 30 % ไปอเมริกา กับ ญี่ปุ่น
ส่วนบาทแข็ง ผมว่า SVI ที่มีต้นทุนเป็นดอลลาร์คงยิ้มน่าดู ผมคิดว่ามีอีก 2-3 บมจ ที่มีต้นทุนหลักเป็น ดอลลาร์ รวมทั้งพวกเหล็กครับ
WACOAL น่าจะได้ประโยชน์นะครับ quotaสื่งทอ ของท่านบุช มีชั้นในสตรีซะด้วย
ส่งออกของwacoal ถ้าจำไม่ผิด (เพิ่งไปเมียงมองมา)ก็ 20+ ถึง 30 % ไปอเมริกา กับ ญี่ปุ่น
ส่วนบาทแข็ง ผมว่า SVI ที่มีต้นทุนเป็นดอลลาร์คงยิ้มน่าดู ผมคิดว่ามีอีก 2-3 บมจ ที่มีต้นทุนหลักเป็น ดอลลาร์ รวมทั้งพวกเหล็กครับ
----------------------------------------
"Life is full of surprises, you cannot trust the time, Life is a way of achievement, and we are trapped in a life game"
"Life is full of surprises, you cannot trust the time, Life is a way of achievement, and we are trapped in a life game"
-
- Verified User
- โพสต์: 91
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าค่าเงินบาทเป็น 36 บาทต่อดอลล์ หุ้นตัวไหนจะกระทบบ้างครับ ?
โพสต์ที่ 10
สงสัยว่าถ้าเงินบาทแข็งขึ้นจริงเมือ่เทียบกับดอลล่า
ผมเข้าใจว่าไม่ใช่เพราะเราแข็งขึ้นมากเป็นปัจจัยหลักอันเดียว
แต่เป็นจากเกือบทุกประเทศที่ค้าขายกับ us ไม่ยอมให้เงินตัวเองแข็ง
(คล้ายๆ ไทย)
usก็เลยขาดดุลต่อเนี่อง ผมเห็นด้วยว่าน่าจะแข็งขึ้น
แต่เป็นการแข็งขึ้นที่เกิดจาก usมันอ่อนอยู่เจ้าเดียว
คือสรุปว่าไทยน่าจะขายของได้พอๆเดิม เพราะทุกคนที่ไปขายของกับ us
ค่าเงินมันแข็งขึ้นหมด
ไม่รุ้ว่าจะคิดถูกไหมครับ
ผมเข้าใจว่าไม่ใช่เพราะเราแข็งขึ้นมากเป็นปัจจัยหลักอันเดียว
แต่เป็นจากเกือบทุกประเทศที่ค้าขายกับ us ไม่ยอมให้เงินตัวเองแข็ง
(คล้ายๆ ไทย)
usก็เลยขาดดุลต่อเนี่อง ผมเห็นด้วยว่าน่าจะแข็งขึ้น
แต่เป็นการแข็งขึ้นที่เกิดจาก usมันอ่อนอยู่เจ้าเดียว
คือสรุปว่าไทยน่าจะขายของได้พอๆเดิม เพราะทุกคนที่ไปขายของกับ us
ค่าเงินมันแข็งขึ้นหมด
ไม่รุ้ว่าจะคิดถูกไหมครับ
- moo
- Verified User
- โพสต์: 1150
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าค่าเงินบาทเป็น 36 บาทต่อดอลล์ หุ้นตัวไหนจะกระทบบ้างครับ ?
โพสต์ที่ 11
เรียน ลุงขวดครับ
ถ้าเป็น fancy ผมเคยอ่านเจอรายงานของบริษัท แจ้งไว้ครับว่า ราคาสินค้าต่างๆที่ส่งออกในรอบใหม่นี้ คำนวณราคาขายที่ 36 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ นะครับ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง คงไม่มีผลกระทบอะไร
น่าจะจำไม่ผิด ถ้าอย่างไรรบกวนลุงขวดลองสอบถามทางบริษัทดูนะครับ
ถ้าเป็น fancy ผมเคยอ่านเจอรายงานของบริษัท แจ้งไว้ครับว่า ราคาสินค้าต่างๆที่ส่งออกในรอบใหม่นี้ คำนวณราคาขายที่ 36 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ นะครับ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง คงไม่มีผลกระทบอะไร
น่าจะจำไม่ผิด ถ้าอย่างไรรบกวนลุงขวดลองสอบถามทางบริษัทดูนะครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าค่าเงินบาทเป็น 36 บาทต่อดอลล์ หุ้นตัวไหนจะกระทบบ้างครับ ?
โพสต์ที่ 12
fancy ตั้งราคาไว้ที่ 36 บาท/ดอลล่าร์จะช่วยเพิ่ม gross profit
margin ก็จริงครับ แต่ต้องดูว่าจะทำให้ยอดขายตกหรือเปล่า
เพราะสินค้าจะราคาแพงขึ้น (ในสายตาของลูกค้า) ถ้าคุณภาพ
ดีขึ้นด้วย design สวยขึ้นด้วย คิดว่าน่าจะขายได้นะครับ แต่การ
"ขึ้น" ราคาสินค้าอย่างเดียวเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุครับ
ผมอยากเห็นแผนงานที่ solid กว่านี้จาก fancy เช่น การปรับปรุง
สายการผลิตและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าแบบยั่งยืน
ส่วนหุ้นที่ต้นทุนเป็น US Dollar ก็น่าจะได้รับผลดีอย่างมากครับ
โดยเฉพาะหุ้นคุณฉัตรชัย น่าจะได้ประโยชน์ทั้งจาก USD อ่อนลง
และปิโตรเคมีเป็นขาขึ้น ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่าเจ้าของจะยอมให้
ประโยชน์ส่วนนี้ตกถึงมือรายย่อยหรือไม่เท่านั้นเอง เพราะตอนนี้
เรามีตัวแทนรายย่อยที่สามารถอ่านงบการเงินทะลุปรุโปร่งได้ครับ

margin ก็จริงครับ แต่ต้องดูว่าจะทำให้ยอดขายตกหรือเปล่า
เพราะสินค้าจะราคาแพงขึ้น (ในสายตาของลูกค้า) ถ้าคุณภาพ
ดีขึ้นด้วย design สวยขึ้นด้วย คิดว่าน่าจะขายได้นะครับ แต่การ
"ขึ้น" ราคาสินค้าอย่างเดียวเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุครับ
ผมอยากเห็นแผนงานที่ solid กว่านี้จาก fancy เช่น การปรับปรุง
สายการผลิตและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าแบบยั่งยืน
ส่วนหุ้นที่ต้นทุนเป็น US Dollar ก็น่าจะได้รับผลดีอย่างมากครับ
โดยเฉพาะหุ้นคุณฉัตรชัย น่าจะได้ประโยชน์ทั้งจาก USD อ่อนลง
และปิโตรเคมีเป็นขาขึ้น ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่าเจ้าของจะยอมให้
ประโยชน์ส่วนนี้ตกถึงมือรายย่อยหรือไม่เท่านั้นเอง เพราะตอนนี้
เรามีตัวแทนรายย่อยที่สามารถอ่านงบการเงินทะลุปรุโปร่งได้ครับ

- moo
- Verified User
- โพสต์: 1150
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าค่าเงินบาทเป็น 36 บาทต่อดอลล์ หุ้นตัวไหนจะกระทบบ้างครับ ?
โพสต์ที่ 13
ขอบคุณพี่ CK มากครับ
อย่างนี้เราสามารถประมาณมูลค่ากิจการปัจจุบันและอนาคตได้อย่างไรครับ
กรณีที่หลายๆสาเหตุยังไม่ชัดเจน กรณีการปรับสายการผลิตและเพิ่มมูลค่าให้สินค้าแบบยั่งยืน เราจะหาข้อมูลได้จากไหนครับพี่
อย่างนี้เราสามารถประมาณมูลค่ากิจการปัจจุบันและอนาคตได้อย่างไรครับ
กรณีที่หลายๆสาเหตุยังไม่ชัดเจน กรณีการปรับสายการผลิตและเพิ่มมูลค่าให้สินค้าแบบยั่งยืน เราจะหาข้อมูลได้จากไหนครับพี่
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าค่าเงินบาทเป็น 36 บาทต่อดอลล์ หุ้นตัวไหนจะกระทบบ้างครับ ?
โพสต์ที่ 14
เราทำได้เราก็เป็นเศรษฐีไปแล้วครับmoo เขียน:ขอบคุณพี่ CK มากครับ
อย่างนี้เราสามารถประมาณมูลค่ากิจการปัจจุบันและอนาคตได้อย่างไรครับ
กรณีที่หลายๆสาเหตุยังไม่ชัดเจน กรณีการปรับสายการผลิตและเพิ่มมูลค่าให้สินค้าแบบยั่งยืน เราจะหาข้อมูลได้จากไหนครับพี่

ผมเองก็ทำได้ไม่ค่อยดีครับ ส่วนใหญ่ก็อาศัยลูกมั่วบวกลูกเดา แต่ถ้าเป็น
ธุรกิจที่เราพอจะเข้าใจก็จะเห็นภาพได้ดีขึ้นครับ เช่น FANCY เองผมวิ-
เคราะห์ในฐานะผู้บริโภคเอง สินค้าราคาถูกขายได้ดีก็จริง แต่ผู้บริโภคเอง
ก็ไม่มี loyaty คือถ้ามีเจ้าอื่นถูกกว่าก็เปลี่ยนเลยครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าค่าเงินบาทเป็น 36 บาทต่อดอลล์ หุ้นตัวไหนจะกระทบบ้างครับ ?
โพสต์ที่ 15
คิดว่า tt&t น่าจะได้ผลประโยชน์จากการที่ดอกเบี้ยจะลดลงมาก เห็นหุ้นขยับขึ้นรับข่าวดีทุกครั้งที่ค่าเงินบาทแข็ง