CIVIL
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
CIVIL
โพสต์ที่ 1
CIVIL: บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน)
ประเภทธุรกิจ
บริษัทประกอบธุรกิจหลัก 3 ประเภท ได้แก่ (1) ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานโครงการในแนวราบ เช่น งานทาง งานท่าอากาศยาน งานทางรถไฟ และงานเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ (2) ธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เช่น ชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูปและวัสดุก่อสร้างต่างๆ และ (3) ธุรกิจให้เช่าและบริการอสังหาริมทรัพย์ เครื่องจักรและอุปกรณ์ก่อสร้าง
ตลาดรอง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
กลุ่มอุตสาหกรรม / หมวดธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง / บริการรับเหมาก่อสร้าง
สถานะ Filing
จำนวนหุ้นที่ IPO
จำนวนไม่เกิน 200,000,000 หุ้น คิดเป็น 28.57% ของหุ้นทั้งหมดหลัง IPO
ระยะเวลาเสนอขายหุ้น
n/a
ราคา IPO
n/a
ราคา PAR
1.00 บาท
วันที่เริ่มซื้อขาย n/a
ที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จํากัด (มหาชน)
ข้อมูล Filing
https://www.civilengineering.co.th
ประเภทธุรกิจ
บริษัทประกอบธุรกิจหลัก 3 ประเภท ได้แก่ (1) ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานโครงการในแนวราบ เช่น งานทาง งานท่าอากาศยาน งานทางรถไฟ และงานเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ (2) ธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เช่น ชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูปและวัสดุก่อสร้างต่างๆ และ (3) ธุรกิจให้เช่าและบริการอสังหาริมทรัพย์ เครื่องจักรและอุปกรณ์ก่อสร้าง
ตลาดรอง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
กลุ่มอุตสาหกรรม / หมวดธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง / บริการรับเหมาก่อสร้าง
สถานะ Filing
จำนวนหุ้นที่ IPO
จำนวนไม่เกิน 200,000,000 หุ้น คิดเป็น 28.57% ของหุ้นทั้งหมดหลัง IPO
ระยะเวลาเสนอขายหุ้น
n/a
ราคา IPO
n/a
ราคา PAR
1.00 บาท
วันที่เริ่มซื้อขาย n/a
ที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จํากัด (มหาชน)
ข้อมูล Filing
https://www.civilengineering.co.th
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: CIVIL
โพสต์ที่ 2
https://market.sec.or.th/public/ipos/IP ... sID=319424
หนังสือชี้ชวนตราสารทุน
รายละเอียดตราสาร
ผู้ออกหลักทรัพย์ : บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน)
ผู้เสนอขายหลักทรัพย์ : บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน)
วันที่ยื่น Filing version แรก : 24/12/2563
วันที่แก้ไข Filing ครั้งล่าสุด (วันที่นับ 1 Filing) : -
วันที่ Filing มีผลบังคับใช้ : -
วันที่เริ่มต้นการเสนอขาย : -
วันที่สิ้นสุดการเสนอขาย : -
ประเภทหลักทรัพย์ : หุ้นสามัญ
ประเภทการเสนอขาย : การเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งแรกต่อประชาชน
ที่ปรึกษาทางการเงิน/ผู้ควบคุม : บริษัท หลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) / นางสาว วรางณัฐ วาทยพร
หนังสือชี้ชวนตราสารทุน
รายละเอียดตราสาร
ผู้ออกหลักทรัพย์ : บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน)
ผู้เสนอขายหลักทรัพย์ : บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน)
วันที่ยื่น Filing version แรก : 24/12/2563
วันที่แก้ไข Filing ครั้งล่าสุด (วันที่นับ 1 Filing) : -
วันที่ Filing มีผลบังคับใช้ : -
วันที่เริ่มต้นการเสนอขาย : -
วันที่สิ้นสุดการเสนอขาย : -
ประเภทหลักทรัพย์ : หุ้นสามัญ
ประเภทการเสนอขาย : การเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งแรกต่อประชาชน
ที่ปรึกษาทางการเงิน/ผู้ควบคุม : บริษัท หลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) / นางสาว วรางณัฐ วาทยพร
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: CIVIL
โพสต์ที่ 3
"ซีวิลเอนจีเนียริง" จะนำบริษัทเข้า SET ขาย IPO ไม่เกิน 200 ล้านหุ้น
บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) โดยจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 200 ล้านหุ้นคิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 28.57% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยมีราคาพาร์หุ้นละ 1 บาท ซึงได้แต่งตั้งให้บล.บัวหลวง เป็น
ที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ได้ยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้น IPO ดังกล่าว ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทมีแผนจะนำไปลงทุนเพิ่มเติมในเครื่องจักรและอุปกรณ์, ใช้เป็นเงินทุนสำหรับขยายธุรกิจ, ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
โครงสร้างผู้ถือหุ้น จะมีบริษัทอัศวศิริสุข โฮลดิ้ง ถือหุ้นใหญ่ ในสัดส่วน 90% ภายหลัง IPO สัดส่วนจะลดเหลือ 64.29%
สำหรับผลประกอบการในช่วงปี 2560-2562 กำไรสุทธิ 108.01 ล้านบาท, กำไรสุทธิ 333.24 ล้านบาท และ 140.65 ล้านบาทตามลำดับ
โครงการในอนาคต กลุ่มบริษัทมีกลยุทธ์ในการประกวดราคาโครงการก่อสร้างโดยตรง หรือผ่านการร่วมทุนกับบริษัทอื่นๆ และกระจายรายได้ไปยังธุรกิจขายวัสดุก่อสร้าง รวมถึงการลงทุนเพื่อซื้อเครื่องจักร และอุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและบริหารจัดการต้นทุน นอกเหนือจากโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างแล้วนั้น ณ วันที่ 26 พ.ย.2563 กลุ่มบริษัทได้เข้าทำสัญญาจ้างเหมาโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟสที่ 1 เส้นทางกรุงเทพ-นครราชสีมา สำหรับงานโยธาฉบับที่ 4-7 ช่วงสระบุรี-แก่งคอย ซึ่งเป็นโครงการมูลค่าสูงสุดที่กลุ่มบริษัทเคยดำเนินการมา
รวมถึงกลุ่มบริษัทเป็นผู้ชนะการประกวดราคาสำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน(สายอีสาน) ทั้งสิ้น 2 โครงการจากทั้งหมด 14 โครงการ
ทั้งนี้โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟสที่ 1 เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา สำหรับงานโยธาฉบับที่ 4-7 ช่วงสระบุรี-แก่งคอย มีระยะเวลาดำเนินการ 36 เดือน มูลค่าโครงการ 8,000 ล้านบาท เป็นงานโครงสร้างทางรถไฟยกระดับ งานอาคารสถานีสระบุรี งานดิน งานถนน ระบบระบายน้ำ อาคารประกอบและอื่นๆ
นอกจากนี้ในวันที่ 17 เม.ย.2563 กลุ่มบริษัทยังได้ชนะการประกวดราคาโครงการขยายความกว้างทางวิ่งและเสริมผิวทางวิ่งพร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน ท่าอากาศยานลำปาง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการลงนามในสัญญากับกรมท่าอากาศยาน โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 700 วัน และมีมูลค่าโครงการ 214.82 ล้านบาท ลักษณะงานเป็นการขยายความกว้างทางจากเดิม30 เมตร เป็น 45 เมตร และเสริมผวทางวิ่งเดิมที่เสื่อมสภาพ
บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) โดยจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 200 ล้านหุ้นคิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 28.57% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยมีราคาพาร์หุ้นละ 1 บาท ซึงได้แต่งตั้งให้บล.บัวหลวง เป็น
ที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ได้ยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้น IPO ดังกล่าว ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทมีแผนจะนำไปลงทุนเพิ่มเติมในเครื่องจักรและอุปกรณ์, ใช้เป็นเงินทุนสำหรับขยายธุรกิจ, ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
โครงสร้างผู้ถือหุ้น จะมีบริษัทอัศวศิริสุข โฮลดิ้ง ถือหุ้นใหญ่ ในสัดส่วน 90% ภายหลัง IPO สัดส่วนจะลดเหลือ 64.29%
สำหรับผลประกอบการในช่วงปี 2560-2562 กำไรสุทธิ 108.01 ล้านบาท, กำไรสุทธิ 333.24 ล้านบาท และ 140.65 ล้านบาทตามลำดับ
โครงการในอนาคต กลุ่มบริษัทมีกลยุทธ์ในการประกวดราคาโครงการก่อสร้างโดยตรง หรือผ่านการร่วมทุนกับบริษัทอื่นๆ และกระจายรายได้ไปยังธุรกิจขายวัสดุก่อสร้าง รวมถึงการลงทุนเพื่อซื้อเครื่องจักร และอุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและบริหารจัดการต้นทุน นอกเหนือจากโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างแล้วนั้น ณ วันที่ 26 พ.ย.2563 กลุ่มบริษัทได้เข้าทำสัญญาจ้างเหมาโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟสที่ 1 เส้นทางกรุงเทพ-นครราชสีมา สำหรับงานโยธาฉบับที่ 4-7 ช่วงสระบุรี-แก่งคอย ซึ่งเป็นโครงการมูลค่าสูงสุดที่กลุ่มบริษัทเคยดำเนินการมา
รวมถึงกลุ่มบริษัทเป็นผู้ชนะการประกวดราคาสำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน(สายอีสาน) ทั้งสิ้น 2 โครงการจากทั้งหมด 14 โครงการ
ทั้งนี้โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟสที่ 1 เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา สำหรับงานโยธาฉบับที่ 4-7 ช่วงสระบุรี-แก่งคอย มีระยะเวลาดำเนินการ 36 เดือน มูลค่าโครงการ 8,000 ล้านบาท เป็นงานโครงสร้างทางรถไฟยกระดับ งานอาคารสถานีสระบุรี งานดิน งานถนน ระบบระบายน้ำ อาคารประกอบและอื่นๆ
นอกจากนี้ในวันที่ 17 เม.ย.2563 กลุ่มบริษัทยังได้ชนะการประกวดราคาโครงการขยายความกว้างทางวิ่งและเสริมผิวทางวิ่งพร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน ท่าอากาศยานลำปาง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการลงนามในสัญญากับกรมท่าอากาศยาน โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 700 วัน และมีมูลค่าโครงการ 214.82 ล้านบาท ลักษณะงานเป็นการขยายความกว้างทางจากเดิม30 เมตร เป็น 45 เมตร และเสริมผวทางวิ่งเดิมที่เสื่อมสภาพ
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: CIVIL
โพสต์ที่ 4
*ซีวิลเอนจีเนียริง ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 200 ล้านหุ้นเข้า SET,ขยายลงทุน-คืนหนี้
Source - IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์
Friday, December 25, 2020 10:06
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ธ.ค. 63)
บมจ.ซีวิลเอนจีเนียริง ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและหนังสือชี้ชวน (Filling) ฉบับแรกต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 200,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 28.57% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง โดยมี บล.บัวหลวง เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
กลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจหลัก 3 ประเภท ได้แก่ (1) ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง (2) ธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ซึ่งเป็นการจำหน่ายชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูป (Segment) และการจำหน่ายไปวัสดุก่อสร้างต่าง ๆ และ (3) ธุรกิจให้เช่า ซึ่งโดยหลักจะเป็นการให้เช่าและบริการอสังหาริมทรัพย์ และเช่าเครื่องจักรและอุปกรณ์ก่อสร้าง
วัตถุประสงค์การใช้เงินจากการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อลงทุนเพิ่มเติมในเครื่องจักรและอุปกรณ์, ขยายธุรกิจ, ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 40.00% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังหักสำรองต่างๆ ทุกประเภทที่กฎหมายและบริษัทกำหนดไว้ในแต่ละปี
Source - IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์
Friday, December 25, 2020 10:06
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ธ.ค. 63)
บมจ.ซีวิลเอนจีเนียริง ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและหนังสือชี้ชวน (Filling) ฉบับแรกต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 200,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 28.57% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง โดยมี บล.บัวหลวง เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
กลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจหลัก 3 ประเภท ได้แก่ (1) ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง (2) ธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ซึ่งเป็นการจำหน่ายชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูป (Segment) และการจำหน่ายไปวัสดุก่อสร้างต่าง ๆ และ (3) ธุรกิจให้เช่า ซึ่งโดยหลักจะเป็นการให้เช่าและบริการอสังหาริมทรัพย์ และเช่าเครื่องจักรและอุปกรณ์ก่อสร้าง
วัตถุประสงค์การใช้เงินจากการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อลงทุนเพิ่มเติมในเครื่องจักรและอุปกรณ์, ขยายธุรกิจ, ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 40.00% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังหักสำรองต่างๆ ทุกประเภทที่กฎหมายและบริษัทกำหนดไว้ในแต่ละปี
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: CIVIL
โพสต์ที่ 5
*(เพิ่มเติม) ซีวิลเอนจีเนียริง ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 200 ล้านหุ้นเข้า SET,ขยายลงทุน-คืนหนี้
Source - IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์
Friday, December 25, 2020 10:56
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ธ.ค. 63)
บมจ.ซีวิลเอนจีเนียริง ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและหนังสือชี้ชวน (Filling) ฉบับแรกต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 200,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 28.57% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง โดยมี บล.บัวหลวง เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
กลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจหลัก 3 ประเภท ได้แก่ (1) ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง (2) ธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ซึ่งเป็นการจำหน่ายชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูป (Segment) และการจำหน่ายไปวัสดุก่อสร้างต่าง ๆ และ (3) ธุรกิจให้เช่า ซึ่งโดยหลักจะเป็นการให้เช่าและบริการอสังหาริมทรัพย์ และเช่าเครื่องจักรและอุปกรณ์ก่อสร้าง
วัตถุประสงค์การใช้เงินจากการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อลงทุนเพิ่มเติมในเครื่องจักรและอุปกรณ์, ขยายธุรกิจ, ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
กลุ่มบริษัทมีกลยุทธ์ในการประกวดราคาโครงการก่อสร้างโดยตรง หรือผ่านการร่วมทุนกับบริษัทอื่น ๆ และกระจายรายได้ไปยังธุรกิจขายวัสดุก่อสร้าง รวมถึงการลงทุนเพื่อซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและบริหารจัดการต้นทุน
นอกเหนือจากโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างแล้วนั้น ณ วันที่ 26 พ.ย.63 กลุ่มบริษัทได้เข้าทำสัญญาจ้างเหมาโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟสที่ 1 เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา สำหรับงานโยธาฉบับที่ 4-7 ช่วงสระบุรี-แก่งคอย มูลค่าโครงการ 8,000 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งเป็นโครงการมูลค่าสูงสุดที่เคยดำเนินการมา รวมถึงกลุ่มบริษัทเป็นผู้ชนะการประกวดราคาโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน (สายอีสาน) ทั้งสิ้น 2 โครงการจากทั้งหมด 14 โครงการ
นอกจากนี้ ในวันที่ 17 เม.ย.63 กลุ่มบริษัทยังได้ชนะการประกวดราคาโครงการขยายความกว้างทางวิ่งและเสริมผิวทางวิ่งพร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน ท่าอากาศยานลำปาง มูลค่าโครงการ 214.82 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการลงนามในสัญญากับกรมท่าอากาศยาน
ณ วันที่ 30 ก.ย.63 บริษัทมีทุนจดทะเบียนจำนวน 700,000,000 บาท โดยเป็นทุนที่เรียกชำระแล้วจำนวน 500,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 500,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท โดยภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแล้ว บริษัทจะมีทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วต็มจำนวน
โครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทมีบริษัท อัศวศิริสุข โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้นจำนวน 450,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 90.00% หลังการเสนอขายหุ้น IPO จะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 64.29% ส่วนที่เหลือถือหุ้นโดยครอบอัศวศิริสุข, นางพิชชาพร สุขสถาพรพงศ์ และ ครอบครัววัฒนาโสภณ ซึ่งจะลดสัดส่วนหุ้นลงภายหลัง IPO เช่นกัน
สำหรับผลประกอบการปี 60-62 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการรับเหมาก่อสร้าง 3,227.32 ล้านบาท 3,292.69 ล้านบาท 2,950.23 ล้านบาท 2,453.24 ล้านบาท ตามลำดับ รายได้จากการจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง 71.43 ล้านบาท 668.80 ล้านบาท 174.38 ล้านบาท 126.16 ล้านบาท ตามลำดับ และ รายได้ค่าเช่า 27.84 ล้านบาท 17.10 ล้านบาท 15.70 ล้านบาท 11.81 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 108.01 ล้านบาท 333.24 ล้านบาท และ 140.65 ล้านบาท ตามลำดับ หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 3.21%, 8.31% และ 4.38%
ส่วนงวด 9 เดือนแรกของปี 63 บริษัทมีรายได้จากการรับเหมาก่อสร้าง 2,719.19 ล้านบาท รายได้จากการจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง 236.28 ล้านบาท และ รายได้ค่าเช่า 11.19 ล้านบาท กำไรสุทธิ 65.44 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนบริษัทมีรายได้จากการรับเหมาก่อสร้าง 2,453.24 ล้านบาท รายได้จากการจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง 126.16 ล้านบาท และ รายได้ค่าเช่า 11.81 ล้านบาท กำไรสุทธิ 135.02 ล้านบาท
ณ วันที่ 30 ก.ย.63 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 4,973.76 ล้านบาท หนี้สินรวม 3,935.78 ล้านบาท และส่วนผู้ถือหุ้นรวม 1,037.98 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 40.00% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังหักสำรองต่างๆ ทุกประเภทที่กฎหมายและบริษัทกำหนดไว้ในแต่ละปี
Source - IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์
Friday, December 25, 2020 10:56
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ธ.ค. 63)
บมจ.ซีวิลเอนจีเนียริง ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและหนังสือชี้ชวน (Filling) ฉบับแรกต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 200,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 28.57% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง โดยมี บล.บัวหลวง เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
กลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจหลัก 3 ประเภท ได้แก่ (1) ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง (2) ธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ซึ่งเป็นการจำหน่ายชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูป (Segment) และการจำหน่ายไปวัสดุก่อสร้างต่าง ๆ และ (3) ธุรกิจให้เช่า ซึ่งโดยหลักจะเป็นการให้เช่าและบริการอสังหาริมทรัพย์ และเช่าเครื่องจักรและอุปกรณ์ก่อสร้าง
วัตถุประสงค์การใช้เงินจากการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อลงทุนเพิ่มเติมในเครื่องจักรและอุปกรณ์, ขยายธุรกิจ, ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
กลุ่มบริษัทมีกลยุทธ์ในการประกวดราคาโครงการก่อสร้างโดยตรง หรือผ่านการร่วมทุนกับบริษัทอื่น ๆ และกระจายรายได้ไปยังธุรกิจขายวัสดุก่อสร้าง รวมถึงการลงทุนเพื่อซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและบริหารจัดการต้นทุน
นอกเหนือจากโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างแล้วนั้น ณ วันที่ 26 พ.ย.63 กลุ่มบริษัทได้เข้าทำสัญญาจ้างเหมาโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟสที่ 1 เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา สำหรับงานโยธาฉบับที่ 4-7 ช่วงสระบุรี-แก่งคอย มูลค่าโครงการ 8,000 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งเป็นโครงการมูลค่าสูงสุดที่เคยดำเนินการมา รวมถึงกลุ่มบริษัทเป็นผู้ชนะการประกวดราคาโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน (สายอีสาน) ทั้งสิ้น 2 โครงการจากทั้งหมด 14 โครงการ
นอกจากนี้ ในวันที่ 17 เม.ย.63 กลุ่มบริษัทยังได้ชนะการประกวดราคาโครงการขยายความกว้างทางวิ่งและเสริมผิวทางวิ่งพร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน ท่าอากาศยานลำปาง มูลค่าโครงการ 214.82 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการลงนามในสัญญากับกรมท่าอากาศยาน
ณ วันที่ 30 ก.ย.63 บริษัทมีทุนจดทะเบียนจำนวน 700,000,000 บาท โดยเป็นทุนที่เรียกชำระแล้วจำนวน 500,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 500,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท โดยภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแล้ว บริษัทจะมีทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วต็มจำนวน
โครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทมีบริษัท อัศวศิริสุข โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้นจำนวน 450,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 90.00% หลังการเสนอขายหุ้น IPO จะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 64.29% ส่วนที่เหลือถือหุ้นโดยครอบอัศวศิริสุข, นางพิชชาพร สุขสถาพรพงศ์ และ ครอบครัววัฒนาโสภณ ซึ่งจะลดสัดส่วนหุ้นลงภายหลัง IPO เช่นกัน
สำหรับผลประกอบการปี 60-62 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการรับเหมาก่อสร้าง 3,227.32 ล้านบาท 3,292.69 ล้านบาท 2,950.23 ล้านบาท 2,453.24 ล้านบาท ตามลำดับ รายได้จากการจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง 71.43 ล้านบาท 668.80 ล้านบาท 174.38 ล้านบาท 126.16 ล้านบาท ตามลำดับ และ รายได้ค่าเช่า 27.84 ล้านบาท 17.10 ล้านบาท 15.70 ล้านบาท 11.81 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 108.01 ล้านบาท 333.24 ล้านบาท และ 140.65 ล้านบาท ตามลำดับ หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 3.21%, 8.31% และ 4.38%
ส่วนงวด 9 เดือนแรกของปี 63 บริษัทมีรายได้จากการรับเหมาก่อสร้าง 2,719.19 ล้านบาท รายได้จากการจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง 236.28 ล้านบาท และ รายได้ค่าเช่า 11.19 ล้านบาท กำไรสุทธิ 65.44 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนบริษัทมีรายได้จากการรับเหมาก่อสร้าง 2,453.24 ล้านบาท รายได้จากการจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง 126.16 ล้านบาท และ รายได้ค่าเช่า 11.81 ล้านบาท กำไรสุทธิ 135.02 ล้านบาท
ณ วันที่ 30 ก.ย.63 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 4,973.76 ล้านบาท หนี้สินรวม 3,935.78 ล้านบาท และส่วนผู้ถือหุ้นรวม 1,037.98 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 40.00% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังหักสำรองต่างๆ ทุกประเภทที่กฎหมายและบริษัทกำหนดไว้ในแต่ละปี
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: CIVIL
โพสต์ที่ 6
‘บมจ.ซีวิลเอนจีเนียริง’ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธาแบบครบวงจร
ยื่นแบบไฟลิ่ง เตรียมเสนอขาย IPO จำนวน 200 ล้านหุ้น
ก้าวสู่การเป็นบริษัทก่อสร้างชั้นนำที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืน
‘บมจ.ซีวิลเอนจีเนียริง’ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธาแบบครบวงจรที่มีประสบการณ์การทำงานกว่า 50 ปี ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 200 ล้านหุ้น ชูจุดแข็งด้านการบริหารจัดการสมัยใหม่ เพื่อจัดสรรทรัพยากรให้เอื้อต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินโครงการ ทั้งด้านต้นทุน ระยะเวลา และความปลอดภัย พร้อมก้าวสู่การเป็นบริษัทก่อสร้างชั้นนำของไทยที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ที่มีประสบการณ์และความชำนาญด้านวิศวกรรมและงานก่อสร้างมายาวนานกว่า 50 ปี ซึ่งได้รับการยอมรับจากหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐ ด้วยวิสัยทัศน์ ‘จะเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านงานก่อสร้างขนาดใหญ่ งานการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ตลอดจนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ โดยจะส่งมอบและรักษาไว้ซึ่งผลงาน ผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุด เพี่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าภาครัฐและภาคเอกชนอย่างมีประสิทธิภาพ’ โดยตลอดระยะเวลาที่ดำเนินธุรกิจ CIVIL ได้นำองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศและระบบสาธารณูปโภคมีมูลค่างานรวมกันกว่า 40,000 ล้านบาท ครอบคลุมตั้งแต่งานทาง งานรถไฟรางคู่และรถไฟความเร็วสูง งานท่าอากาศยาน ระบบเขื่อน อ่างเก็บน้ำ นิคมอุตสาหกรรมและงานอื่นๆ เช่น การก่อสร้างระบบระบายน้ำและระบบบำบัดน้ำเสีย การก่อสร้างท่อบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน เป็นต้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ นำหลักการบริหารสมัยใหม่ที่เน้นสร้างความคล่องตัวและความยืดหยุ่น ช่วยสนับสนุนศักยภาพการดำเนินธุรกิจ ด้วยทีมผู้บริหารคนรุ่นใหม่และบุคลากรที่เชี่ยวชาญงานวิศวกรรมโยธา ตลอดจนความพร้อมด้านเครื่องจักรและเทคโนโลยีทันสมัยช่วยบริหารต้นทุนดำเนินโครงการ รวมถึงมีโรงงานผลิตวัสดุชิ้นส่วนก่อสร้าง เช่น ชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูปสำหรับงานโครงสร้างสะพานและรถไฟความเร็วสูง โรงงานแอสฟัลท์ติกคอนกรีต คอนกรีตผสมเสร็จ ท่อระบายน้ำคอนกรีต ราวเหล็กลูกฟูก เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ช่วยให้ CIVIL ขยายงานก่อสร้างโครงการขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนทางวิศวกรรมที่มากขึ้น และส่งมอบงานที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ได้ในระยะเวลาที่กำหนดตามต้นทุนที่วางไว้ สร้างการยอมรับจากเจ้าของโครงการที่เป็นหน่วยงานภาครัฐและได้รับการขึ้นทะเบียนให้กลุ่ม CIVIL เป็นผู้รับเหมาชั้นพิเศษงานก่อสร้างจากหน่วยงานราชการต่างๆ ช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าประมูลและรับงานจากหน่วยงานภาครัฐได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งสนับสนุนเมกะโปรเจคที่จะเกิดขึ้นจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนขนาดใหญ่ รองรับการเติบโตของเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค
ปัจจุบัน บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.กลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ที่มีความชำนาญงานก่อสร้างที่หลากหลาย ตั้งแต่งานก่อสร้างทาง งานทางรถไฟรางคู่และรถไฟความเร็วสูง งานท่าอากาศยาน งานเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ โดยให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการบริหารจัดการโครงการที่เกิดจากการจัดสรรทรัพยากรต่างๆ เอื้อต่อการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ และการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับซัพพลายเออร์ ช่วยสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขันทางธุรกิจเพื่อดำเนินงานก่อสร้างโครงการโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ทั้งในรูปแบบการดำเนินงานภายใต้กลุ่มบริษัทฯ หรือรับช่วงงานก่อสร้างขนาดใหญ่จากเอกชนรายอื่นๆ 2. กลุ่มธุรกิจการจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง รวมทั้งชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูปและวัสดุก่อสร้างทั่วไป ที่ทำให้บริษัทฯ ได้เปรียบทางด้านต้นทุนในการก่อสร้าง 3.กลุ่มธุรกิจให้เช่าบริการอสังหาริมทรัพย์ และเช่าเครื่องจักรและอุปกรณ์ก่อสร้าง เช่น การให้เช่าและบริการอาคารสำนักงานและให้เช่าเครื่องจักรและอุปกรณ์หลักที่ใช้ในงานก่อสร้างเพื่อเป็นการบริหารทรัพยากรของบริษัทฯ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
“บริษัทฯ มีความมุ่งมั่น ก้าวสู่การเป็นบริษัทก่อสร้างชั้นนำของประเทศไทยที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยกลยุทธ์ต่อยอดความสำเร็จจากงานโครงการของหน่วยงานภาครัฐไปยังเจ้าของโครงการที่เป็นบริษัทภาคเอกชน โดยนำจุดแข็งความเชี่ยวชาญวิศวกรรมงานโยธาของทีมบุคลากรและหลักบริหารจัดการสมัยใหม่ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน สร้างความได้เปรียบเชิงการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทย” นายปิยะดิษฐ์ กล่าว
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนจำนวน 700 ล้านบาท แบ่งเป็น 700 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยเป็นทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 500 ล้านบาท และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 200 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นจำนวนร้อยละ 28.57 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ โดยจะนำเงินที่ได้ไปลงทุนเพิ่มเติมในเครื่องจักรและอุปกรณ์ เป็นเงินทุนสำหรับการขยายกิจการ และชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการต่อไป
ยื่นแบบไฟลิ่ง เตรียมเสนอขาย IPO จำนวน 200 ล้านหุ้น
ก้าวสู่การเป็นบริษัทก่อสร้างชั้นนำที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืน
‘บมจ.ซีวิลเอนจีเนียริง’ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธาแบบครบวงจรที่มีประสบการณ์การทำงานกว่า 50 ปี ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 200 ล้านหุ้น ชูจุดแข็งด้านการบริหารจัดการสมัยใหม่ เพื่อจัดสรรทรัพยากรให้เอื้อต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินโครงการ ทั้งด้านต้นทุน ระยะเวลา และความปลอดภัย พร้อมก้าวสู่การเป็นบริษัทก่อสร้างชั้นนำของไทยที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ที่มีประสบการณ์และความชำนาญด้านวิศวกรรมและงานก่อสร้างมายาวนานกว่า 50 ปี ซึ่งได้รับการยอมรับจากหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐ ด้วยวิสัยทัศน์ ‘จะเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านงานก่อสร้างขนาดใหญ่ งานการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ตลอดจนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ โดยจะส่งมอบและรักษาไว้ซึ่งผลงาน ผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุด เพี่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าภาครัฐและภาคเอกชนอย่างมีประสิทธิภาพ’ โดยตลอดระยะเวลาที่ดำเนินธุรกิจ CIVIL ได้นำองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศและระบบสาธารณูปโภคมีมูลค่างานรวมกันกว่า 40,000 ล้านบาท ครอบคลุมตั้งแต่งานทาง งานรถไฟรางคู่และรถไฟความเร็วสูง งานท่าอากาศยาน ระบบเขื่อน อ่างเก็บน้ำ นิคมอุตสาหกรรมและงานอื่นๆ เช่น การก่อสร้างระบบระบายน้ำและระบบบำบัดน้ำเสีย การก่อสร้างท่อบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน เป็นต้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ นำหลักการบริหารสมัยใหม่ที่เน้นสร้างความคล่องตัวและความยืดหยุ่น ช่วยสนับสนุนศักยภาพการดำเนินธุรกิจ ด้วยทีมผู้บริหารคนรุ่นใหม่และบุคลากรที่เชี่ยวชาญงานวิศวกรรมโยธา ตลอดจนความพร้อมด้านเครื่องจักรและเทคโนโลยีทันสมัยช่วยบริหารต้นทุนดำเนินโครงการ รวมถึงมีโรงงานผลิตวัสดุชิ้นส่วนก่อสร้าง เช่น ชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูปสำหรับงานโครงสร้างสะพานและรถไฟความเร็วสูง โรงงานแอสฟัลท์ติกคอนกรีต คอนกรีตผสมเสร็จ ท่อระบายน้ำคอนกรีต ราวเหล็กลูกฟูก เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ช่วยให้ CIVIL ขยายงานก่อสร้างโครงการขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนทางวิศวกรรมที่มากขึ้น และส่งมอบงานที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ได้ในระยะเวลาที่กำหนดตามต้นทุนที่วางไว้ สร้างการยอมรับจากเจ้าของโครงการที่เป็นหน่วยงานภาครัฐและได้รับการขึ้นทะเบียนให้กลุ่ม CIVIL เป็นผู้รับเหมาชั้นพิเศษงานก่อสร้างจากหน่วยงานราชการต่างๆ ช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าประมูลและรับงานจากหน่วยงานภาครัฐได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งสนับสนุนเมกะโปรเจคที่จะเกิดขึ้นจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนขนาดใหญ่ รองรับการเติบโตของเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค
ปัจจุบัน บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.กลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ที่มีความชำนาญงานก่อสร้างที่หลากหลาย ตั้งแต่งานก่อสร้างทาง งานทางรถไฟรางคู่และรถไฟความเร็วสูง งานท่าอากาศยาน งานเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ โดยให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการบริหารจัดการโครงการที่เกิดจากการจัดสรรทรัพยากรต่างๆ เอื้อต่อการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ และการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับซัพพลายเออร์ ช่วยสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขันทางธุรกิจเพื่อดำเนินงานก่อสร้างโครงการโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ทั้งในรูปแบบการดำเนินงานภายใต้กลุ่มบริษัทฯ หรือรับช่วงงานก่อสร้างขนาดใหญ่จากเอกชนรายอื่นๆ 2. กลุ่มธุรกิจการจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง รวมทั้งชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูปและวัสดุก่อสร้างทั่วไป ที่ทำให้บริษัทฯ ได้เปรียบทางด้านต้นทุนในการก่อสร้าง 3.กลุ่มธุรกิจให้เช่าบริการอสังหาริมทรัพย์ และเช่าเครื่องจักรและอุปกรณ์ก่อสร้าง เช่น การให้เช่าและบริการอาคารสำนักงานและให้เช่าเครื่องจักรและอุปกรณ์หลักที่ใช้ในงานก่อสร้างเพื่อเป็นการบริหารทรัพยากรของบริษัทฯ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
“บริษัทฯ มีความมุ่งมั่น ก้าวสู่การเป็นบริษัทก่อสร้างชั้นนำของประเทศไทยที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยกลยุทธ์ต่อยอดความสำเร็จจากงานโครงการของหน่วยงานภาครัฐไปยังเจ้าของโครงการที่เป็นบริษัทภาคเอกชน โดยนำจุดแข็งความเชี่ยวชาญวิศวกรรมงานโยธาของทีมบุคลากรและหลักบริหารจัดการสมัยใหม่ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน สร้างความได้เปรียบเชิงการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทย” นายปิยะดิษฐ์ กล่าว
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนจำนวน 700 ล้านบาท แบ่งเป็น 700 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยเป็นทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 500 ล้านบาท และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 200 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นจำนวนร้อยละ 28.57 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ โดยจะนำเงินที่ได้ไปลงทุนเพิ่มเติมในเครื่องจักรและอุปกรณ์ เป็นเงินทุนสำหรับการขยายกิจการ และชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการต่อไป
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: CIVIL
โพสต์ที่ 7
CIVIL เดินหน้าตอกเสาเข็ม รถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หนองคาย รวมมูลค่างาน 8.56 พันล.
CIVIL เดินหน้าก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา) ภายใต้สัญญา 4-7 รวมมูลค่างาน 8.56 พันล้านบาท
นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการไฟความเร็วสูงไทย-จีน ภายใต้สัญญา 4-7 ช่วงสระบุรี-แก่งคอย รวมมูลค่างาน 8.56 พันล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการมูลค่าสูงที่สุดเท่าที่บริษัทฯ เคยรับงานมา โดย CIVIL จะเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการก่อสร้างงานโครงสร้างทางรถไฟเป็นทางยกระดับระยะทาง 12.99 กิโลเมตร งานสถานีสระบุรี งานซ่อมบำรุงทางจำนวน 1 แห่ง งานอาคารและสิ่งปลูกสร้างรองรับงานระบบรถไฟฟ้า โดยใช้ระยะเวลาดำเนินการทั้งสิ้น 1,080 วัน
ทั้งนี้ CIVIL ได้นำประสบการณ์ความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธา และการบริหารจัดการสมัยใหม่เพื่อเข้ามาบริหารจัดการด้านงานก่อสร้าง ด้วยทีมงานบุคลากรที่มีองค์ความรู้และความสามารถในงานโยธา รวมถึงการนำเทคโนโลยีก่อสร้างที่ทันสมัย และมีโรงงานผลิตวัสดุก่อสร้างที่จังหวัดสระบุรี เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการโครงการนี้ให้ประสบความสำเร็จ ทั้งด้านระยะเวลา ความปลอดภัยและส่งมอบงานที่มีคุณภาพ เพื่อช่วยยกระดับโครงสร้างพื้นฐานระบบรางของไทย และสามารถใช้เส้นทางรถไฟความเร็วสูงดังกล่าว เป็นเส้นทางเชื่อมโยงเครือข่ายระบบรางกับประเทศต่างๆ และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียน
ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเฟส 1ภายใต้สัญญา 2-1 งานโยธาสำหรับช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร เป็นอีกหนึ่งโครงการที่บริษัทฯ ได้เข้าไปมีส่วนร่วมดำเนินงานก่อสร้างโดยได้เริ่มดำเนินโครงการมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2562 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีความคืบหน้าด้านงานก่อสร้างไปแล้วมากกว่า 70%และคาดว่าจะสามารถส่งมอบงานให้ได้ตามกำหนดเช่นกัน
“เรามีความภาคภูมิใจที่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมสร้างความมั่นคงของโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมในระบบรางให้แก่ประเทศไทยในระยะยาว จากการนำศักยภาพของ CIVIL เข้าไปดำเนินงานก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงไทยจีน เฟส 1 จำนวน 2 โครงการ ที่มีมูลค่างานรวมกันมากกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญของไทย ที่จะช่วยให้เกิดการขยายตัวของเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจโดยรอบเส้นทาง รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวและยกระดับคุณภาพชีวิตในการเดินทางของประชาชนที่ดีขึ้น” นายปิยะดิษฐ์ กล่าว
CIVIL เดินหน้าก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา) ภายใต้สัญญา 4-7 รวมมูลค่างาน 8.56 พันล้านบาท
นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการไฟความเร็วสูงไทย-จีน ภายใต้สัญญา 4-7 ช่วงสระบุรี-แก่งคอย รวมมูลค่างาน 8.56 พันล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการมูลค่าสูงที่สุดเท่าที่บริษัทฯ เคยรับงานมา โดย CIVIL จะเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการก่อสร้างงานโครงสร้างทางรถไฟเป็นทางยกระดับระยะทาง 12.99 กิโลเมตร งานสถานีสระบุรี งานซ่อมบำรุงทางจำนวน 1 แห่ง งานอาคารและสิ่งปลูกสร้างรองรับงานระบบรถไฟฟ้า โดยใช้ระยะเวลาดำเนินการทั้งสิ้น 1,080 วัน
ทั้งนี้ CIVIL ได้นำประสบการณ์ความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธา และการบริหารจัดการสมัยใหม่เพื่อเข้ามาบริหารจัดการด้านงานก่อสร้าง ด้วยทีมงานบุคลากรที่มีองค์ความรู้และความสามารถในงานโยธา รวมถึงการนำเทคโนโลยีก่อสร้างที่ทันสมัย และมีโรงงานผลิตวัสดุก่อสร้างที่จังหวัดสระบุรี เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการโครงการนี้ให้ประสบความสำเร็จ ทั้งด้านระยะเวลา ความปลอดภัยและส่งมอบงานที่มีคุณภาพ เพื่อช่วยยกระดับโครงสร้างพื้นฐานระบบรางของไทย และสามารถใช้เส้นทางรถไฟความเร็วสูงดังกล่าว เป็นเส้นทางเชื่อมโยงเครือข่ายระบบรางกับประเทศต่างๆ และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียน
ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเฟส 1ภายใต้สัญญา 2-1 งานโยธาสำหรับช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร เป็นอีกหนึ่งโครงการที่บริษัทฯ ได้เข้าไปมีส่วนร่วมดำเนินงานก่อสร้างโดยได้เริ่มดำเนินโครงการมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2562 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีความคืบหน้าด้านงานก่อสร้างไปแล้วมากกว่า 70%และคาดว่าจะสามารถส่งมอบงานให้ได้ตามกำหนดเช่นกัน
“เรามีความภาคภูมิใจที่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมสร้างความมั่นคงของโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมในระบบรางให้แก่ประเทศไทยในระยะยาว จากการนำศักยภาพของ CIVIL เข้าไปดำเนินงานก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงไทยจีน เฟส 1 จำนวน 2 โครงการ ที่มีมูลค่างานรวมกันมากกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญของไทย ที่จะช่วยให้เกิดการขยายตัวของเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจโดยรอบเส้นทาง รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวและยกระดับคุณภาพชีวิตในการเดินทางของประชาชนที่ดีขึ้น” นายปิยะดิษฐ์ กล่าว