ดูข่าว เรื่องการโจรกรรม บัตรเคดิต แล้วน่ากลัวจังคับ

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
hot
Verified User
โพสต์: 6853
ผู้ติดตาม: 0

ดูข่าว เรื่องการโจรกรรม บัตรเคดิต แล้วน่ากลัวจังคับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ใช้การก็อปรหัสจากชุมสาย  เนี่ยเรียกว่า
ไม่มีทางป้องกันได้เอาเสียเลย
แต่เห็นบัตรเครดิต  กรุงเทพ เริ่มเปลี่ยนมาใช้บัตร
มีชิฟกันแล้ว


ส่วนค่ายอื่นเห็นยังเป็นบัครแบบไม่มีชิป

กัน  แบบนี้ไม่เป็นไรกันหรือคับ

ถ้ามีบัตรที่ถูกก๊อปออกมาใช้ในตลาดในปัจจุบัน
MisterK
Verified User
โพสต์: 857
ผู้ติดตาม: 0

ดูข่าว เรื่องการโจรกรรม บัตรเคดิต แล้วน่ากลัวจังคับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

เห็นจากคุณ Hot เลยไปค้นข่าวมา   น่ากลัวจริง ๆ ด้วยแฮะ

ตะลุยข่าว: ไล่ล่า"แก๊งปลอมบัตรเครดิต" ลงมือ3เดือนฟัน700ล้าน
Source - เว็บไซต์คมชัดลึก (Th)

Friday, July 28, 2006  10:56
59109 XTHAI XGEN XLEGAL XETHIC IKEY V%NETNEWS P%WKC

         พฤติกรรมการ "ขโมยข้อมูลบัตรเครดิต" ของแก๊ง "อาชญากรไซเบอร์" สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับเจ้าหน้าที่มานาน เพราะคนร้ายได้พัฒนาการ "จารกรรมข้อมูล" อยู่ตลอด จนส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นหนึ่งในรายได้หลักของประเทศมาตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา
         ประมาณการกันว่า รายได้จาการท่องเที่ยวมีมูลค่าสูงถึงปีละกว่า 4 แสนล้านบาท และ 80 เปอร์เซ็นต์ของวงเงินดังกล่าวถูกใช้ผ่าน "บัตรเครดิต"
         กระนั้น แม้คนร้ายจะมีวิธีการที่ไฮเทคสักปานใด แต่ตำรวจไทยก็โชว์ฝีมือจับกุมได้เป็นรายแรกของประเทศ และถือเป็นรายที่สามของโลกได้สำเร็จ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2549
         โดย พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว(ผบก.ทท.) และ นายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข ประธานชมรมธุรกิจบัตรเครดิต ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายทศพล เชาวนวุฒิ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 ถนนราษฎร์อุทฺส ซอย 21/1 ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หนึ่งในแก๊งลักลอบขโมยข้อมูลบัตรเครดิต พร้อมของกลางเครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์ 4 เครื่อง ถ่านไฟฉาย 24 ก้อน และเอ็มพี 3 จำนวน 1 เครื่อง
         การจับกุมครั้งนี้ เป็นผลงานการแกะรอยร่วมกันระหว่างชุดสืบสวนของ พ.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ สว.งานสืบสวน กก.1 บก.ทท. กับ พ.ต.ต.บัณฑิต ขาวสุธรรม สว.ส.ทท.2(ภูเก็ต) หลังได้รับแจ้งข้อมูลจาก บริษัท วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ว่า มีการปลอมแปลงข้อมูลบัตรเครดิตในบ้านเลขที่ 103 ถนนพังงา ต.ลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต จึงนำกำลังเข้าจับกุม แต่ผู้ต้องหาไหวตัวทัน และสามารถตามมาจับกุมได้ขณะผู้ต้องหาหลบหนีมากบดานในบ้านเช่าซอยลาดพร้าว 41 (ภาวนา) ถนนลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม.
         นายทศพล สารภาพว่า มีหน้าที่เฝ้าบ้านหลังดังกล่าวและคอยเปลี่ยนถ่ายไฟฉาย รวมทั้งเก็บข้อมูลใส่เครื่องเอ็มพี 3 หากข้อมูลเต็มก็จะนำเครื่องใหม่มาเปลี่ยน เพื่อรอให้หัวหน้าซึ่งเป็นชาวมาเลเซียมารับข้อมูลไป โดยแต่ละเครื่องสามารถเก็บข้อมูลบัตรเครดิตได้ประมาณ 100 รหัส โดยจะได้ค่าจ้างจากหัวหน้าแก๊งในราคาที่ไม่แน่นอน แต่ถ้าหัวหน้าเดินทางมาประเทศไทย ก็จะได้เงินครั้งละ 3,000-4,000 บาท
         ด้าน พ.ต.ต.พันธนะ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากตำรวจมาเลเซียสามารถจับกุมผู้ต้องหามีบัตรเครดิตปลอมได้ที่เกาะปีนัง และตรวจสอบข้อมูลบัตรเครดิตพบว่า เป็นข้อมูลที่ขโมยมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติใน จ.ภูเก็ต จึงสืบสวนแกะรอยร่วมกันนานกว่า 5 เดือน กระทั่งสามารถจับกุมได้ในที่สุด
         พ.ต.ต.พันธนะ อธิบายว่า สาเหตุที่ทำให้การจับกุมเป็นไปอย่างลำบาก เพราะเป็นการกระทำของแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งไม่ได้ลงมือในประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นการเฉพาะ แต่จะลงมือเวียนในหลายประเทศ เช่น ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น รวมทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา เป็นต้น
         นอกจากนี้ ยังมีข้อจำกัดในเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับคนร้าย เช่น ทะเบียนราษฎร หมายเลขบัตรประชาชน ทะเบียนรถยนต์ ฯลฯ เพราะคนร้ายไม่ใช่คนไทย และไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศไทย
         พ.ต.ต.พันธนะ ให้ความรู้อีกว่า แก๊งเหล่านี้น่าจะมีมานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยในระยะแรกจะใช้วิธีการง่ายๆ คือ ขโมยบัตรเครดิตแล้วนำบัตรมาปลอมแปลงลายเซ็น
         ต่อมาก็พัฒนาการขโมยข้อมูลบัตรเครดิต โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า "สกิมเมอร์" เพื่อก็อบปี้ข้อมูล จากนั้นก็จะทำบัตรและปลอมลายเซ็นขึ้นวิธีการนี้จะมีพนักงานของร้านค้าบางแห่ง "รู้เห็นเป็นใจ" ด้วย
         สำหรับวิธีการล่าสุด (เท่าที่พบ) ซึ่งคนร้ายนำมาใช้ คือ การนำเอาอุปกรณ์มาดูดข้อมูลจากชุมสายโทรศัพท์ โดยจะต้องตรวจสอบดูว่า มีข้อมูลรหัสบัตรเครดิตผ่านเข้ามาในชุมสายนั้นๆ หรือไม่
         พ.ต.ต.พันธนะ ขยายความว่า วิธีการนี้ต้องอาศัยช่างเทคนิคที่มีความเชี่ยวชาญสูงเพื่อตรวจสอบดูว่า มีข้อมูลรหัสบัตรเครดิตไหลเข้ามาในชุมสายโทรศัพท์หรือไม่ จากนั้นก็จะทำการ "แท็ป" เพื่อดักจับรหัสบัตรเครดิตที่จะมาพร้อมกับ "ซีเคียวริตี้โค้ด" (รหัสลับ ซึ่งเป็นระบบรักษาความปลอดภัยของธนาคาร)
         ด้วยเหตุนี้ แก๊งขโมยข้อมูลบัตรเครดิตจึงต้องมี "โปรแกรมถอดรหัส" เพื่อหาทางถอดรหัสและสกัดเอารหัสบัตรเครดิตมาใช้ จากนั้นก็จะบันทึกข้อมูลลงในเครื่องเอ็มพี 3 ซึ่งมีคุณสมบัติเด่น คือ สามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่าแผ่นซีดีทั่วไป และน่าจะเก็บข้อมูลบัตรเครดิตได้มากกว่า 100 รหัส ตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง ทั้งนี้ บางธนาคารก็เริ่มหามาตรการ "ป้องกันการแท็ปข้อมูล" ด้วยการเปลี่ยนระบบการส่งข้อมูลผ่านชุมสายโทรศัพท์ มาเป็นทางเคเบิลใยแก้วนำแสง ซึ่งจะฝังลงใต้ดิน แต่ก็ยังไม่ถือว่าปลอดภัย 100% อยู่ดี
         พ.ต.ต.พันธนะ ตั้งข้อสังเกตว่า จากการสอบถามข้อมูลจากทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเชื่อว่า การแท็ปข้อมูลน่าจะทำโดยช่างเทคนิคที่มีความเชี่ยวชาญสูง แต่โดยส่วนตัวเขาเชื่อว่า น่าจะมี "คนใน" รู้เห็นด้วย
         ในส่วนของอุปกรณ์ขโมยบัตรเครดิตก็น่าจะเป็นอุปกรณ์ที่สั่งทำขึ้นเป็นพิเศษ ไม่มีวางขายตามท้องตลาด รวมทั้งโปรแกรมถอดรหัสก็เชื่อว่า น่าจะเป็น "โปรแกรมใต้ดิน" ซึ่งมีการเขียนขึ้นมาเอง
         สารวัตรงาน 1 บก.ทท.ให้ข้อมูลอีกว่า สนนราคาของบัตรเครดิตปลอมจะขึ้นอยู่กับคุณภาพบัตรว่ามีความใกล้เคียงกับของจริงแค่ไหน โดยบัตรปลอมที่เหมือนมากๆ เรียกว่า "บัตรปลอมโซนยุโรป" จะมีราคากว่า 1 แสนบาทต่อใบ แต่มีวงเงินรูดซื้อสินค้าได้เป็นหลักล้าน ส่วนราคาที่ถูกที่สุดเท่าที่พบอยู่ในประเทศไทย สนนราคาประมาณ 6,000 บาทต่อใบ แต่จะสามารถรูดซื้อสินค้าได้เท่าไรก็ต้องไป "วัดดวง" กันเอาเอง
         สารวัตรงาน 1 บก.ทท. ระบุว่า ที่ผ่านมาประเมินกันว่า ความสูญเสียทางเศรษฐกิจในแต่ละปีมีมูลค่าราวหลักร้อยล้านบาท แต่การจับกุมครั้งล่าสุด พบว่า แค่ลงมือเพียง 3 เดือนครึ่ง คนร้ายกลับสร้างความเสียหายได้กว่า 700 ล้านบาท
         เมื่อถามว่า มาตราการรักษาความปลอดภัยของธนาคารถือว่าน่าพอใจแค่ไหน!?
         พ.ต.ต.พันธนะ ตอบว่า ปกติบัตรเครดิตของธนาคารก็มีระบบรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว และในกรณีที่บัตรหาย ทางธนาคารก็จะชดใช้ค่าความเสียหายให้
         นอกจากนี้ กรณีที่พบว่า ลูกค้ามีการใช้วงเงินที่มากผิดปกติ ก็จะมีการแจ้งให้ทราบเพื่อเป็นการป้องกันอีกระดับหนึ่ง ส่วนทางเจ้าหน้าที่ก็มีการประสานข้อมูลกับทางธนาคารเพื่อหาทางป้องกันอยู่ตลอด
         แต่ก็ต้องยอมรับว่า...คนร้ายก็พยายามพัฒนาวิธีการลงมืออยู่เสมอเช่นกัน--จบ--

         ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
hot
Verified User
โพสต์: 6853
ผู้ติดตาม: 0

ดูข่าว เรื่องการโจรกรรม บัตรเคดิต แล้วน่ากลัวจังคับ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

วันนี้ไปเจอคนต่างชาติคนหนึ่งที่ ห้างแห่งหนึ่ง
ซื้อของใช้ในซุปเปอร์ ขนาด30คันรถ  ได้  หมายถึง
คันรถ ซุปเปอร์นะคับ  ทีแรก ก็ไม่ได้คิดอะไร
คิดว่าเขาซื้อไปขายกัน  แต่มานั่งนึงถึงข่าว
เรื่องบัตรเครดิต  แล้ว ทำให้น่าคิดเหมือนกันนะคับ
ถ้า  การซื้อแบบนี้มาจาก  บัตรที่ถูกปลอม

เจ้าของบัตร จะเป็นไง  บ้างคับ
MisterK
Verified User
โพสต์: 857
ผู้ติดตาม: 0

ดูข่าว เรื่องการโจรกรรม บัตรเคดิต แล้วน่ากลัวจังคับ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

เข้าใจว่าตามข้อตกลงการใช้และการรับบัตรเครดิต  ถ้าเจ้าของบัตรปฏิเสธรายการน่าจะได้นะ   ถ้าพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้เป็นคนไปใช้จริง ๆ    คนซวยคือคนขายที่จะไม่ได้ตัง
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

ดูข่าว เรื่องการโจรกรรม บัตรเคดิต แล้วน่ากลัวจังคับ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

รู้สึกว่า ธนาคารที่ออกบัตรเครดิตก็เริ่มปรับตัวแล้วนะครับ
ผมเคยใช้บัตรเครดิตซื้อ Laptop
หลังจากรูดไปไม่นาน ทางธนาคารก็โทรมาถามเลยว่า
เพิ่งใช้บัตรเครดิตไปหรือเปล่า แล้วยอดประมาณเท่าไหร่
สมมติว่าถ้าเราตอบปฏิเสธ ธนาคารคงระงับรายการนั้นทันที
แบบนี้ผมว่าดีครับ ผู้ถือบัตรรู้สึกปลอดภัยดี
ในกรณีที่มีการใช้บัตรซื้อของที่ราคาสูงผิดสังเกต
"Winners never quit, and quitters never win."
Capo
Verified User
โพสต์: 1067
ผู้ติดตาม: 0

ดูข่าว เรื่องการโจรกรรม บัตรเคดิต แล้วน่ากลัวจังคับ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

สงสัยต้องไปลดเงินใน บ/ช บัตรเดบิตซะแล้วล่ะครับ
ขอบคุณมาก ๆ ครับ
... จุดเริ่มต้นของคนเราไม่สำคัญ

มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
ปุย
Verified User
โพสต์: 2032
ผู้ติดตาม: 0

ดูข่าว เรื่องการโจรกรรม บัตรเคดิต แล้วน่ากลัวจังคับ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

:shock: โจรไฮเทค  :shock:  ขนาดเข้ารหัส ไว้แล้วยังถอดรหัสได้

ผมก็ว่า คนถือบัตรไม่น่าต้องรับผิดชอบ(หรือเปล่า) เพราะบัตรไม่ได้หาย
แต่โดนก๊อปปี้ อย่างนี้ ธนาคาร หรือว่า ร้าน น่าจะรับผิดชอบมากกว่า
แต่ก่อนบัตรเครดิตมีติดรูปด้วย แต่อย่างว่า ปลอมบัตรได้ ก็เปลี่ยนรูปได้

บัตรเครดิตที่ผมใช้ที่นี่ เวลารูดปุ๊บไม่ว่ามาก-น้อย ไม่เกิน 2-3 นาที จะมี SMS เข้ามือถือทันที (บริการฟรี) กด ATM ก็เช่นกัน

บางครั้ง ผมก็ตกใจ เพราะมี message มาโดนที่ผมไม่ได้รูดการ์ด ปรากฎว่า แฟนรูดบัตรเสริมอยู่  :oops:
ภาพประจำตัวสมาชิก
โอ@
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4244
ผู้ติดตาม: 0

ดูข่าว เรื่องการโจรกรรม บัตรเคดิต แล้วน่ากลัวจังคับ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ปุย เขียน::shock: โจรไฮเทค  :shock:  ขนาดเข้ารหัส ไว้แล้วยังถอดรหัสได้

ผมก็ว่า คนถือบัตรไม่น่าต้องรับผิดชอบ(หรือเปล่า) เพราะบัตรไม่ได้หาย
แต่โดนก๊อปปี้ อย่างนี้ ธนาคาร หรือว่า ร้าน น่าจะรับผิดชอบมากกว่า
แต่ก่อนบัตรเครดิตมีติดรูปด้วย แต่อย่างว่า ปลอมบัตรได้ ก็เปลี่ยนรูปได้

บัตรเครดิตที่ผมใช้ที่นี่ เวลารูดปุ๊บไม่ว่ามาก-น้อย ไม่เกิน 2-3 นาที จะมี SMS เข้ามือถือทันที (บริการฟรี) กด ATM ก็เช่นกัน

บางครั้ง ผมก็ตกใจ เพราะมี message มาโดนที่ผมไม่ได้รูดการ์ด ปรากฎว่า แฟนรูดบัตรเสริมอยู่  :oops:
อันนี้น่าสนใจนะครับ ความคิดเยี่ยมเลย เมืองไทยน่าเอาบ้าง รูดเกิน 10 000 ส่ง sms มาบอกทันทีเลย ถ้าลูกค้าไม่ได้รูดจะได้โทรกลับไปแจ้งธนาคาร ธนาคารจะได้ไม่เสียเงินฟรี

แต่ถึงยังไงลูกค้าก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรอยู่แล้ว
_________
nanchan
Verified User
โพสต์: 2938
ผู้ติดตาม: 0

ดูข่าว เรื่องการโจรกรรม บัตรเคดิต แล้วน่ากลัวจังคับ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ที่มาเล ยิ่งน่ากลัว

ไม่ต้องขโมย แค่เอาบัตรไปรูดเท่านั้น

มันเอารหัสไปได้เลย

พนักงานเป็นใจ

ผมกลัวว่าต่อไป ในไทยจะเป็นแบบนี้รึเปล่า

เวลารูดบัตร ผมจะเดินไปดูเสมอๆ
เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยได้
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
ภาพประจำตัวสมาชิก
สุมาอี้
Verified User
โพสต์: 4576
ผู้ติดตาม: 0

ดูข่าว เรื่องการโจรกรรม บัตรเคดิต แล้วน่ากลัวจังคับ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ปุย เขียน: ผมก็ว่า คนถือบัตรไม่น่าต้องรับผิดชอบ(หรือเปล่า)
มายืนยันครับว่าคนถือบัตรไม่ต้องจ่าย ธนาคารต้องเป็นคนจ่าย  ถ้า Call Center บอกว่าลูกค้าต้องเป็นคนจ่าย อย่าไปเชื่อครับ ผมเคยทวงจนได้เงินคืนมาแล้ว
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ปุย
Verified User
โพสต์: 2032
ผู้ติดตาม: 0

ดูข่าว เรื่องการโจรกรรม บัตรเคดิต แล้วน่ากลัวจังคับ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

[quote="โอ@"][quote="ปุย"]:shock: โจรไฮเทค
ปุย
Verified User
โพสต์: 2032
ผู้ติดตาม: 0

ดูข่าว เรื่องการโจรกรรม บัตรเคดิต แล้วน่ากลัวจังคับ

โพสต์ที่ 12

โพสต์

สุมาอี้ เขียน:
มายืนยันครับว่าคนถือบัตรไม่ต้องจ่าย ธนาคารต้องเป็นคนจ่าย
ภาพประจำตัวสมาชิก
โอ@
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4244
ผู้ติดตาม: 0

ดูข่าว เรื่องการโจรกรรม บัตรเคดิต แล้วน่ากลัวจังคับ

โพสต์ที่ 13

โพสต์

sms มันถูกกว่ามั้งครับ แล้วมันเป็นระบบ Auto
โทรมาถามมันต้อง Manual คงต้องใช้ Call center อีก เปลืองเพิ่มอีกเยอะเลย เวลานึงในเมืองไทยผมว่ามี tranaction เกิน 10 000 เยอะเอาการนะ

ถึงส่ง sms เราก็อ้างว่าไม่ได้อ่าน ยังไงเราก็คงไม่ต้องรับผิดชอบอยู่ดีแหละครับ แต่ทำไมธนาคารไม่ทำเนอะแปลก
_________
ภาพประจำตัวสมาชิก
โอ@
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4244
ผู้ติดตาม: 0

ดูข่าว เรื่องการโจรกรรม บัตรเคดิต แล้วน่ากลัวจังคับ

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ใครถือหุ้นบัตรเครดิตทั้งหลายเวลาประชุมสงสัยต้องลองเสนอไอเดียดีเด่นจากดูไบละ
_________
โพสต์โพสต์