HENG

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

HENG

โพสต์ที่ 1

โพสต์

"เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล" จะนำบริษัทเข้า SET ขาย IPO ไม่เกิน 800.84 ล้านหุ้น

บริษัท เฮง ลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด เตรียมนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 800,837,300 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 21.0% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด โดยมี บล.กสิกรไทยเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย



บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล ได้ยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้น IPO ดังกล่าว และนำหุ้นเข้าจดทะเบียนใน SET



ทั้งนี้บริษัทประกอบธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ซึ่งให้บริษัท 6 ส่วนประกอบด้วย สินเชื่อเช่าซื้อ, สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน, สินเชื่อที่มีบ้านและที่ดินเป็นหลักประกัน, สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มิใช่สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน ,สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ และธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยและประกันชีวิต แก่ลูกค้ารายย่อยทั่วไป ภายใต้เครื่องหมายการค้า"เฮงลิสซี่ง"



สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทมีแผนนำไปขยายธุรกิจการให้บริการสินเชื่อ รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ, นำไปชำระคืนเงินกู้บางส่วนจากสถาบันการเงิน และนำไปพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ



โครงสร้างผู้ถือหุ้น จะมีกลุ่มทวีเฮง ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 64.0% ภายหลัง IPO สัดส่วนจะลดเหลือ 50.5% รองลงมาได้แก่ กลุ่มพัฒนสิน ถือหุ้น14.0% ภายหลัง IPO จะลดเหลือ 11.1%, กลุ่มมิตรเอื้ออารีย์ ถือหุ้น 12.4% ภายหลัง IPO สัดส่วนจะลดเหลือ 9.8% และกลุ่มสินปราณีถือหุ้น 9.6% ภายหลัง IPO จะลดเหลือ 7.6%



สำหรับโครงการในอนาคต บริษัทมีแผนขยายธุรกิจให้บริการสินเชื่อ และบริการทางการเงินที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทมีแผนการขยายธุรกิจให้บริการสินเชื่อทั้ที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน โดยเฉพาะสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน และสินเชื่อรายย่อย เพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ (สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์) ให้แก่ลูกค้ารายย่อยทั่่วประเทศ โดยมุ่งเน้นการขยายเครือข่ายสาขาการให้บริการไปยังพื้นที่ใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ รวมถึงนำเสนอบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น นายหน้าประกันวินาศภัยและประกันชีวิต



บริษัทมีแผนการขยายสาขาเพิ่มเติม เพื่อให้มีสาขารวมจำนวนทั้งสิ้น 830 สาขา ภายในปี 2566 ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ โดยบริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนเฉลี่ยประมาณ 250,000 บาทต่อสาขา ซึ่ง ณ วันที่ 31 มี.ค.2564 บริษัทมีสาขาจำนวน 402 สาขา



ขณะที่ ณ วันที่ 31 ธ.ค.2563 บริษัทมีมูลค่าลูกหนี้รวมทั้งสิ้น 8,276.8 ล้านบาท ประกอบด้วย สินเชื่อที่มีหลักประกัน 7,920.3 ล้านบาท และสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน 356.5 ล้านบาท หรือคิดเป็น 95.7% และ 4.3% ชองมูลค่าลูกหนี้รวมของบริษัท ตามลำดับ
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: HENG

โพสต์ที่ 2

โพสต์

phpBB [video]
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: HENG

โพสต์ที่ 3

โพสต์

https://market.sec.or.th/public/ipos/IP ... sID=337582

หนังสือชี้ชวนตราสารทุน
รายละเอียดตราสาร
ผู้ออกหลักทรัพย์ : บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)
ผู้เสนอขายหลักทรัพย์ : บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)
วันที่ยื่น Filing version แรก : -
วันที่แก้ไข Filing ครั้งล่าสุด (วันที่นับ 1 Filing) : -
วันที่ Filing มีผลบังคับใช้ : -
วันที่เริ่มต้นการเสนอขาย : -
วันที่สิ้นสุดการเสนอขาย : -
ประเภทหลักทรัพย์ : หุ้นสามัญ
ประเภทการเสนอขาย : การเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งแรกต่อประชาชน
ที่ปรึกษาทางการเงิน/ผู้ควบคุม : บริษัท หลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) / N.A.
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: HENG

โพสต์ที่ 4

โพสต์

HENG : บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)
ประเภทธุรกิจ
ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงิน ซึ่งเน้นให้บริการสินเชื่อที่มีหลักประกันเป็นหลัก ได้แก่ สินเชื่อเช่าซื้อ สินเชื่อจำนำทะเบียน สินเชื่อที่มีบ้านและที่ดินเป็นหลักประกัน และให้บริการสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันรวมถึงบริการอื่นที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มิใช่สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ นายหน้าประกันชีวิตและวินาศภัย ภายใต้เครื่องหมายบริการ “เฮงลิสซิ่ง”
ตลาดรอง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
กลุ่มอุตสาหกรรม / หมวดธุรกิจ ธุรกิจการเงิน / เงินทุนและหลักทรัพย์
สถานะ Filing
จำนวนหุ้นที่ IPO
จำนวนไม่เกิน 800,837,300 หุ้น คิดเป็น 21.0% ของหุ้นทั้งหมดหลัง IPO
ระยะเวลาเสนอขายหุ้น
n/a
ราคา IPO
n/a
ราคา PAR
1.00 บาท
วันที่เริ่มซื้อขาย n/a
ที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

ข้อมูล Filing
www.hengleasing.com
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 40089
ผู้ติดตาม: 1

Re: HENG

โพสต์ที่ 5

โพสต์

เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 800.84 ล้านหุ้น เข้า SET ใช้ขยายสินเชื่อ-คืนหนี้

May 5, 2021


บมจ.เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) และร่างหนังสือชี้ชวน ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 800,837,300 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1.00 บาท/หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 21.0% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์(SET) โดยมี บล.กสิกรไทยเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

บริษัทมีวัตถุประสงค์การใช้เงินเพื่อขยายธุรกิจการให้บริการสินเชื่อ รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งชำระคืนเงินกู้บางส่วนจากสถาบันการเงิน และพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ

เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงินซึ่งให้บริการ (1) สินเชื่อเช่าซื้อ (2) สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน (3) สินเชื่อที่มีบ้านและที่ดินเป็นหลักประกัน (4) สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มิใช่สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน (5) สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ และ (6) นายหน้าประกันวินาศภัยและประกันชีวิต แก่ลูกค้ารายย่อยทั่วไป ภายใต้เครื่องหมายบริการ “เฮงลิสซิ่ง” ผ่านสาขาของบริษัทฯ จำนวน 402 สาขา ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 ที่ครอบคลุมทุกภูมิภาค

ณ วันที่ 31 ธ.ค.63 บริษัท มีมูลค่าลูกหนี้รวมทั้งสิ้น 8,276.8 ล้านบาท ประกอบด้วย (1) สินเชื่อที่มีหลักประกัน 7,920.3 ล้านบาท และ (2) สินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน 356.5 ล้านบาท หรือคิดเป็น 95.7% และ 4.3% ของมูลค่าลูกหนี้รวมของบริษัทฯ ตามลำดับ

บริษัทมีนโยบายขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อมุ่งสู่การเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการทางการเงินชั้นนำของประเทศไทย โดยมีโครงการในอนาคตที่สำคัญ ดังนี้

1. บริษัทมีแผนการขยายธุรกิจให้บริการสินเชื่อทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน โดยเฉพาะสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน และสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ (สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์) ให้แก่ลูกค้ารายย่อยทั่วประเทศ โดยมุ่งเน้นการขยายเครือข่ายสาขาการให้บริการไปยังพื้นที่ใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ พัฒนาสินเชื่อและการบริการให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

รวมถึงนำเสนอบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น นายหน้าประกันวินาศภัยและประกันชีวิต ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ และบริการต่อ พ.ร.บ. รถยนต์และรถจักรยานยนต์ เป็นต้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย และเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการอย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น

บริษัทมีแผนการขยายสาขาเพิ่มเติมเพื่อให้มีสาขารวมจำนวนทั้งสิ้น 830 สาขา ภายในปี 66 ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนเฉลี่ยประมาณ 250,000 บาทต่อสาขา โดยแหล่งเงินทุนที่ใช้สำหรับการขยายสาขาจะมาจากเงินที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ในครั้งนี้ วงเงินกู้ระยะสั้น และเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ

2. การพัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านทรัพยากรเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อรองรับการขยายตัวของบริษัท โดยมีแผนจะพัฒนา Software และ Mobile Application สำหรับการให้บริการสินเชื่อของบริษัทเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงลูกค้า

ปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนจำนวน 3,810,000,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 3,810,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 3,009,162,700 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 3,009,162,700 หุ้น ภายหลังจากการเสนอขายหุ้น IPO แล้วบริษัทฯ จะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเต็มจำนวน

โครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัท ได้แก่ กลุ่มทวีเฮง ถือหุ้น 64% ภายหลังเสนอขายหุ้น IPO จะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 50.5%, กลุ่มพัฒนสิน ถือหุ้น 14% จะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 11.1%, กลุ่มมิตรเอื้ออารีย์ ถือหุ้น 12.4% จะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 9.8% และกลุ่มสินปราณี ถือหุ้น 9.6% จะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 7.6%

ผลประกอบการปี 61-63 บริษัทมีรายได้ดอกเบี้ยจากสินเชื่อที่มีหลักประกัน ซึ่งเป็นรายได้หลักอยู่ที่ 1,238.8 ล้านบาท, 1,556.2 ล้านบาท และ 1,401.1 ล้านบาทตามลำดับ และรายได้รวม 1,406.9 ล้านบาท ,1,743.4 ล้านบาท และ 1,590.0 ล้านบาทตามลำดับ ขณะที่กำไรสุทธิ เท่ากับ 151.8 ล้านบาท 188.7 ล้านบาท และ 318.1 ล้านบาท ตามลำดับ หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 10.8%, 10.8% และ 20% ตามลำดับ อัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 44.7% ต่อปี

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหักทุนสำรองตามที่กฎหมายกำหนดและตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของบริษัทฯ แต่ในกรณีที่บริษัทฯ มีผลขาดทุนสะสมอยู่ บริษัทฯ จะพิจารณาไม่จ่ายเงินปันผล
โพสต์โพสต์