กลยุทธ์การลงทุน โดย เอก ธำรง ภาค3

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
amornkowa
Verified User
โพสต์: 2195
ผู้ติดตาม: 0

กลยุทธ์การลงทุน โดย เอก ธำรง ภาค3

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ภาค3
2564

แนะนำอ่านภาคหนึ่งและสองในโพสต์ด้านล่างก่อนครับ เรียงกันมาเลยเป็น 321

หรือจะกดอ่านจากลิงค์ที่แนบให้ก็ได้ครับ

ภาค1
https://www.facebook.com/10224555446661 ... xtid=0&d=n

ภาค2
https://www.facebook.com/10224555446661 ... xtid=0&d=n

อ่านจบแล้วมาต่อกันเลย

หุ้นที่ขึ้นได้เยอะมี2อย่าง

1หุ้นที่ลงมาเยอะจากสถานการณ์ชั่วคราว

ถ้าสถานการณ์เหมือนเดิมทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิมราคาน่าจะกลับไปเหมือนเดิมและเติบโตขึ้นถ้าทุกอย่างดูดีขึ้นรายได้และกำไรมีโอกาสเติบโตขึ้น

2หุ้นที่มีโอกาสเติบโตสูงจากขนาดของตลาดที่ใหญ่มาก

แล้วบริษัทนั้นนั้นมีโอกาสที่จะกินส่วนแบ่งตลาดได้สูงแต่ตอนนี้ยังมีไม่เยอะ เมื่อไหร่ที่มีความชัดเจนระดับหนึ่งว่ามีโอกาสทิ้งห่างคู่แข่งเยอะมาก(เช่นมีเทคโนโลยี ข้อมูล โนว์ฮาวเหนือกว่าเบอร์สองมากๆ)มันจะขึ้นได้เยอะและมีโอกาสขึ้นได้เยอะอีกหลังจากทุกอย่างชัดเจนเรียบร้อย (รถอีวี เทค) แล้วพอมันชัดแบบโอกาสพลาดน้อย หุ้นมีโอกาสที่จะขึ้นล่วงหน้าหลายปี (ตัวอย่างหนึ่งคือช่วงเดือนเมษาปีที่แล้วความเข้าใจคนส่วนใหญ่วัคซีนมาอย่างเร็วคือกลางปีนี้ หลังจากโดนเซอร์กิตเบรคเกอร์สองวันติดเดือนมีนาหลังจากนั้นก็เป็นขาขึ้นชัดเจนแม้ว่าจะเป็นระยะเวลาเกินสามถึงหกเดือนก็ตาม)

ขอขยายความข้อ1

ปีที่แล้ว(ย้ำ)ผมมีคิดถึงธีมการลงทุนตอนช่วงปิดเมือง ว่าใครที่โดนโควิทเล่นงานสูงสุด (และแน่นอนยิ่งลงมาเยอะยิ่งกลับไปเยอะ มีข้อแม้อย่างเดียวคืออย่าตายก่อน)

มุมมองนี้เรียกว่า ท๊อปดาวน์ มองจากภาพใหญ่ลงไปภาพย่อยซึ่งก็คือบริษัท

ซึ่งก็คือภาพของการท่องเที่ยว

ช่วงนั้นผมคิดถึงหุ้นเรือสำราญที่ราคาตอนนั้นลงไปน่าจะ 70%

ธรรมชาตินักท่องเที่ยวที่ล่องเรือสำราญมันคือการท่องเที่ยวและพักผ่อนจริงๆ และใช้เงินไม่น้อย ดังนั้นการที่เศรษฐกิจจะกลับมาดีเหมือนเดิมและให้ความมั่นใจให้ลูกค้ากลับไปใช้บริการใหม่มันน่าจะต้องใช้เวลา

พลันคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นช่วงต้นปีที่แล้ว ที่แต่ละประเทศไม่ยอมให้เรือเทียบถ้าเลยเพราะกลัวจะมีคนติดโควิดแล้วไปติดคนในประเทศ ผู้โดยสารคงไม่น่าจะกลับมาได้ง่ายๆ โดยเฉพาะภาพจำที่เห็น และน่าจะมีความกังวลว่าการไปอยู่ในเรืออย่างน้อยหลายวันถ้ามันจะติด โอกาสก็สูง

มันจะมีอยู่กลุ่มหนึ่งซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่เหมือนกันซะทีเดียวแต่ก็เหมือนกันมากที่สุด

ผมคิดถึงสายการบิน

ซึ่งมีแนวโน้มที่ควรจะกลับมาให้บริการได้เร็วกว่าเรือสำราญ ในประเด็นการใช้เวลาอยู่ในเครื่องบินก็น้อยกว่าในเรืออย่างเห็นได้ชัด(ไม่กี่ชั่วโมง/ครั้ง) ในแง่ค่าใช้จ่ายก็น้อยกว่ามาก แล้วในการเดินทางก็ต้องใส่หน้ากากซึ่งผมคิดว่าคนคุ้นชินกันแล้ว ความปลอดภัยก็มีอยู่สูง แน่นอนผมรู้ข่าววอร์เรนบัฟเฟตขายหุ้นสายการบินทิ้ง แต่เข้าใจว่านั่นเป็นช่วงก่อนที่จะมีความชัดเจนอย่างหนึ่งซึ่งเป็นหัวใจสำคัญเกิดขึ้นตามมา

นั่นคือโซเชียล ดิสแทนส์ หรือการนั่งที่นั่งแบบมีระยะห่าง

ไม่ต้องคาดการณ์ประเมินมูลค่าอย่างรอบคอบ ก็เดาได้แล้วว่ารายได้คงหายไป 50% แล้วถ้าเป็นอย่างนี้กลุ่มนี้ก็จะไม่น่าสนใจอีกเลย (อัตรากำไรสุทธิสมมติ 20% ยังไม่น่าสนใจเลยเพราะรายได้ 100 เหลือ 50)

สุดท้ายการเดินทางด้วยเครื่องบินทุกวันนี้นั่งกันเหมือนเดิม กินอาหารได้เหมือนเดิม สิ่งที่แตกต่างอย่างเดียวคือทุกคนใส่หน้ากากเข้าหากัน

ในไทยมีอยู่4ตัว ba aav thai nok ตัวแรกเป็นตัวที่รอดแน่นอนสถานะทางการเงินเข้มแข็งมั่นคงเน้นการบินที่สมุยและเมืองรอง ตัวที่2บินไปทั่วด้วยสัดส่วนการบินช่วงปกติในประเทศ 60-70% ที่เหลือเป็นต่างประเทศ ในแง่การเงินมีความเสียวกว่าตอนแรกมาก สองตัวหลังเหมือนอยู่กลุ่มเดียวกันคือกลุ่มฟื้นฟูกิจการ

สิ่งที่น่าสนุกคือภาพมันชัดแล้วว่าวัคซีนจะมาในปีนี้เยอะมาก มีวัคซีนก็จบ แต่ดันมีโควิดระบาดรอบสอง ตอนนี้มีแต่คนมองแย่ ยอดการบินเดือนมกราไม่ดีแน่นอน(อันนี้น่าจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ ช่วงหลังคนอยู่ในกรุงเทพบางพื้นที่ สมุทรปราการจะบินไปเที่ยวภูเก็ตต้องมีตรวจโควิดก่อนและลงทะเบียนนะครับ) การจราจรไม่ค่อยติดขัด โบรคส่วนใหญ่แนะนำเลี่ยงการลงทุน วันนี้ทุกอย่างดูไม่ดีเลย มันทำให้ผมคิดถึงตอนที่ทองราคาลงไปต่ำกว่าต้นทุนจากการขุดจากที่เหมือง แล้วสุดท้ายทุกอย่างมันก็จะกลับไปที่เดิมที่มันควรจะเป็น

ที่น่าสนุกกว่าเดิมคือคนรอดมีโอกาสสูงที่จะกินส่วนแบ่งการตลาดของคนที่ไม่รอดหรือคนที่ร่อแร่มาเป็นส่วนแบ่งของตัวเองได้ แล้วการเดินทางโดยเครื่องบินมันไม่ใช่การท่องเที่ยวร้อยเปอร์เซ็นต์มันมีเรื่องของการเดินทางไปทำธุระด้วย ดังนั้นโอกาสเหลือที่นั่งว่างมัน <เรือสำราญ

mint centel ก็ไม่เลวตราบใดที่การท่องเที่ยวกลับมาก็กลับมาได้แต่ความน่าสนใจอาจจะน้อยกว่าสายการบินตรงที่ว่าคนจะนอนโรงแรมไหน กินอาหารที่ไหนก็ได้

มีแนบข้อมูลสำคัญๆในรูปเลยครับ มีเพิ่มเติมอีกหน่อยคือผู้บริหารเครือเอราวัณ ดุสิตธานีมีให้สัมภาษณ์เร็วนี้คิดว่าต่างชาติจะเริ่มกลับมาได้ครึ่งปีหลัง

เบื้องหลังจากใจ:สังเกตเลยว่าตั้งแต่ทำ Page นี้มา คอนเทนท์อะไรก็สู้คอนเทนท์สาระความรู้ที่ได้จากการเจอเซียน&วิเคราะห์หุ้นไม่ได้ ตอนแรกว่าจะเขียนสั้นกว่านี้มากแต่ก็เกรงใจคนที่ติดตามอ่าน มีหลังไมค์มาก็ไม่น้อย เลยเขียนยาวขนาดนี้ แต่จริงๆถ้าฟีตแบคมันดีกว่านี้เยอะคงเขียนแบบหมดเปลือก แต่เท่านี้แต่ละภาคก็ใช้เวลาไปเป็นชั่วโมงๆแล้ว

เท่านี้แล้วกันครับตอนหน้าคิดว่าน่าจะกลับมาถึงหุ้นรายตัวเอายอดไลค์&แชร์บ้างละ

# สนใจสั่งซื้อหนังสือตามรูปโปรไฟล์อินบ็อกซ์มาได้ครับราคาปก 250 จ่ายเพียง 200 แถมส่งฟรี ไฮไลท์คือแชร์ประสบการณ์ลงทุนหุ้นเป็นตัวๆทุกปี รวมกัน 10 ปี ไม่ต้องไปโดนเองก่อนในตลาดหุ้น ลิงค์สรุปเนื้อหาหลักๆในหนังสือ

https://www.facebook.com/10224555446661 ... =n&sfns=mo

ชอบกดไลค์ใช่กดแชร์
ข้อมูลดีๆซ่อนอยู่ในคอมเม้นต์อย่าลืมอ่านกัน
ทุกไลค์ทุกแชร์ทุกคอมเม้นต์เป็นกำลังใจและสื่อให้ผมรู้ว่าคอนเทนท์ลักษณะนี้มีคนชอบกันขนาดไหน คอนเทนท์ลักษณะไหนไม่ค่อยนิยมจะค่อยๆหายไปครับ

VI Buffet byเอกธำรง #2564
โพสต์โพสต์