เคยโกรธจนควบคุมตัวเองไม่ได้ไหม หลังจากหายโกรธคุณรู้สึก????

[bluesky]

เคยโกรธจนควบคุมตัวเองไม่ได้ไหม  หลังจากหายโกรธคุณรู้สึกอะไรบ้างหรือไม่ แล้วคุณรู้ไหมครับ คนที่ถูกอารมรณ์โกรธของคุณเค้าเป็นอย่างไรกัน
ผมมีบทความดีๆที่ให้ข้อคิดมาแนะนำครับ
บางท่านอาจจะเคยอ่านแล้วก็ต้องขออภัยครับ



เด็กน้อยกับตะปู



มีเด็กน้อยคนหนึ่งมีสีหน้าแสดงอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก พ่อของเขาจึงให้ตะปูกับเขาถุงหนึ่งและบอกว่า
"ทุกครั้งที่เจ้ารู้สึกโมโหหรือโกรธใครสักคน ให้ตอกตะปู 1 ตัว เข้าไปกับรั้วที่หลังบ้าน"

วันแรกผ่านไป..............
เด็กน้อยคนนั้นตอกตะปูเข้าไปที่รั้วหลังบ้านถึง 37 ตัว และค่อยๆลดจำนวนลงเรื่อยๆ ในแต่ละวันที่ผ่านไป
อย่างน้อยที่สุด เขาได้รู้ว่าสิ่งที่พ่อพยายามบอกกับเขา ก็คือการรู้จักควบคุมอารมณ์ของตนเองให้สงบ ซึ่งง่ายกว่าการตอกตะปูตั้งเยอะ
และแล้วหลังจากที่เขาควบคุมตนเองได้ดีขึ้น...ใจเย็นมากขึ้น เขาจึงเข้าไปพบพ่อและบอกกับพ่อว่า....
" ผมสามารถควบคุมตนเองได้แล้ว ไม่มุทะลุเหมือนแต่ก่อนที่เคยเป็น "

พ่อยิ้มและบอกกับลูกชายว่า" ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เจ้าต้องพิสูจน์ให้พ่อรู้ โดยทุกๆครั้งที่เจ้าสามารถควบคุมอารมณ์ฉุนเฉียวของตนเองได้ ให้ถอนตะปูออกจากรั้วหลังบ้าน 1 ตัว"

วันแล้ววันเล่า เด็กน้อยคนนั้นก็ค่อยๆ ถอนตะปูออกทีละตัว จาก 1 เป็น 2 ..... จาก 2 เป็น 3 จนในที่สุดตะปูทั้งหมดก็ถูกถอนออกมา เด็กน้อยดีใจมากรีบวิ่งไปบอกกับพ่อเขาว่า " ผมทำได้แล้ว ในที่สุดผมก็ทำได้สำเร็จ !!!!! "
พ่อไม่ได้พูดอะไรแต่จูงมือลูกชายของเขาออกไปที่รั้วหลังบ้านและบอกกับลูกว่า
" ทำได้ดีมากลูกพ่อ แต่เจ้าลองมองกลับไปที่รั้วเหล่านั้นสิ เห็นไหมว่ามันไม่เหมือนเดิม ไม่เหมือนกับที่มันเคยเป็น จำไว้นะลูก ..... เมื่อใดก็ตามที่เจ้าทำอะไรลงไปโดยใช้อารมณ์ สิ่งนั้นมันจะเกิดเป็นรอยแผล เหมือนกับการเอามีดที่แหลมคมไปแทงใครสักคน
ต่อให้พูดคำขอโทษสักกี่หน ก็ไม่อาจลบความเจ็บปวด ไม่อาจลบรอยแผลที่เกิดขึ้นกับเขาคนนั้นได้"

ฉันใดก็ฉันนั้น..........กับเพื่อน หรือคนที่เรารัก

เปรียบเสมือนอัญมณีอันมีค่าที่หาได้ยาก เป็นคนทำให้เรายิ้ม เป็นคนที่คอยให้กำลังใจ และยินดีเมื่อเราพบกับความสำเร็จ เป็นคนที่คอยปลอบใจเรา ร่วมสุขร่วมทุกข์กับเรา......แสดงให้เขาเห็นว่าเราห่วงใยเขามากแค่ไหน และระวังสิ่งที่เราทำไป ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการกระทำ และจงจำไว้เสมอว่า " คำขอโทษ " ไม่ว่าเขาจะยกโทษให้เราหรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งที่มักเกิดขึ้น คือรอยร้าวที่เขาคงไม่อาจลืมมันได้เลย...........


แม้คนๆนั้นจะให้อภัยคุณ แต่ความรู้สึกที่เค้าได้รับจากคุณ

คงเป็นบาดแผลในใจเค้า อย่าให้อารมณ์ชั่ววูบมาทำร้าย

คนที่เรารัก รวมถึงตัวเราเลยนะครับ

[CK]

ดีครับ ขอบคุณครับ

แต่ผมว่าน่าจะลบได้ครับ แต่เฉพาะบางคนบางกรณีเท่านั้น

To forgive is not to forget....

[ดร.โหน่ง]

     "กระผมจะจดจำบทเรียนที่ล้ำค่าสวยงามนี้ไว้"


       การกล่าวคำว่าขอโทษ จะว่าง่ายก็ง่าย เพราะสั้นดี

จะว่ายากก็แสนลำเค็ญ เพราะความสั้นอีกนั่นแหละ

เรื่องคำพูดจึงต้องตรงเป้ากระชับเป็นพิเศษ

แต่ได้ความหมายที่สร้างสามารถสร้างอารมณ์ร่วม

จนกลายเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจสำหรับคนฟัง

[por_jai]

8) เอาที่ใกล้ๆตัวเลย
    เมื่อก่อนที่เริ่มเล่นแบดใหม่ๆเมื่อสิบกว่าปีก่อน
    เพื่อนก๊วนที่เล่นก็มีมาใหม่บ้าง
    แต่ส่วนใหญ่ก็ถือว่าเป็นก๊วนfounder มาด้วยกัน
    ก็เป็นเพื่อนกันบ้าง รุ่นน้องบ้าง

    ตอนเล่นก็บอกว่ามาเล่นออกกำลังนะ
    แต่ตอนแพ้ในใจก็นึกโทษเพื่อนที่เล่นคู่ด้วยกันว่า
    เป็นเพราะมรึงนะแหละที่ทำให้แพ้เกมนี้
    แล้วบางทีแพ้ออกมาถูกคู่แข่งแซวก็ทนไม่ค่อยได้
    พาลตะโลโปเก กะฝั้งตรงข้ามอีก
    คนนั่งดูเชียร์ฝั่งตรงข้ามก็ไม่ค่อยพอใจ
    มากบ้างน้อยบ้าง
    แต่เพื่อนกันอ่ะนะ มันก็ให้อภัยกันไป
    รู้สึกไม่ค่อยดีเลยที่ทำอย่างนี้
    เมื่อมาคิดได้ภายหลัง
    (ตอนเราเป็นฝ่ายชนะเราก็ได้เห็นเหตุการณ์ตรงกันข้าม
     แล้วก็เห็นไอ้ตัวขาดสติ มันกระโดดไปเกาะฝั้งโน้นบ้าง)
    ใช้เวลาอยู่กะมันนานเลยนะ
    โมหะเนี่ย
    เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็น แต่แค่วูบขึ้นมา ก็พอรู้แล้ว
    ก็กดมันลงไป
    เรียกสติขึ้นมาแทน
    ตีแพ้ก็โทษตัวเองนะแหละที่ช่วยเพื่อนไม่ได้ดีกว่านี้
    เขาเชียร์อีกฝั่ง มานั่งคิดดู คงเป็นเพราะ
    เราเล่นเป็นต่อ เขาจึงเชียร์อีกฝั่ง
    เวลาฝั่งตรงข้ามแซว
    ก็เหมือนลมพัดผ่านเย็นๆ
    เค้าจะพูดเราจะไปห้ามเขาได้ยังไง
    เวลาชนะออกมากินน้ำ
    ก็มักจะบอกเขาว่า เฮ๊ยgood gameว่ะ
    เพื่อนฝูงก็รักใคร่เรามากขึ้นครับ

    ใครปรับได้เร็วชีวิตก็มีความสุข
    ปรับได้ช้าอาจเสียเพื่อนดีๆไปได้
    แล้วจะเหงานะ จะบอกให้..

[Capo]

[quote="por_jai"]

[por_jai]

8) พอดีอิตาลีมาแล้ว
    เด๋วมาคุยกันต่อ

[por_jai]

ขอเรียนถามพี่ ๆ ด้วยครับว่า
ระหว่างการรู้สติ ระงับโกรธ
กับการเก็บกดอารมรณ์นั้น

มันแบ่งแยกแตกต่างกันอย่างไรครับ

เพราะในบางครั้ง ผมเองก็ยังไม่แน่ใจ
ว่าตัวเอง "เก็บกด" หรือ "มีสติ" กันแน่

8) ง่ายนิดเดียวครับที่จะแยก
    เก็บกดคือไม่เต็มใจ
    มีสติคือตรงข้าม
    ไม่มีต่อลูก ปอปอ หรือ -10 , +5 ค่าน้ำให้วุ่นวายใจ
    เท่านั้นเอง....

[drchatri]

เคยอ่านมาแล้วเหมือนกันครับ น้องท้องฟ้าสีคราม คุ้นๆว่าอ่านจากหนังสือเข็มทิศแห่งชีวิต ของคุณฐิตินาถ ณ.พัทลุง.. เรื่องนี้ให้ข้องคิดมากเลยครับ อ่านแล้วต้องย้อนดูตัวเองเหมือนกัน