วิธีประเมินผลตอบแทนจากการลงทุน

[หมอวิ]

#วิธีประเมินผลตอบแทนจากการลงทุน
.
การประเมินผลตอบแทนก่อนตัดสินใจลงทุน เป็นขั้นตอนที่เราทุกคนทำอยู่เสมอ เพราะแน่นอน เราคงต้องการทราบว่าโอกาสการลงทุนครั้งนี้ “มันคุ้มหรือไม่ที่จะเสี่ยง” และในบรรดาตัวเลือกที่เราเห็น “อันไหนน่าสนใจกว่ากัน”
.
แล้วเวลาดูไลน์ อ่านข่าว หรือบทวิเคราะห์หุ้น เคยเจอคำแนะนำทำนองนี้ไหมครับ
...มูลค่าเหมาะสม 14 บาท มีอัพไซด์จากราคาปัจจุบัน 40% แนะนำ “ซื้อ”
.
ผมขอบอกว่านี่เป็นคำแนะนำที่ควรระวังครับ เพราะคิดถึงแต่ด้านที่จะได้กำไร หรือเข้าทำนองว่า “คิดเอาแต่ได้”
.
แล้ววิธีที่ดีกว่านี้ควรเป็นอย่างไร วันนี้เรามาดูกันครับ
.
ผมขอแจกแจงวิธีการประเมินผลตอบแทนในการลงทุน จากวิธีหยาบที่สุด และค่อย ๆ ละเอียด (รอบคอบ) ขึ้นไปตามลำดับ ดังนี้ คือ
.
1) วิธีที่หยาบที่สุด คือคิดแต่ Upside หรือโอกาสได้กำไรอย่างเดียว
.
2) ดีขึ้นมาหน่อย คือคิด Downside ด้วย
.
3) ดีขึ้นมาอีก คือใส่ความน่าจะเป็นเข้าไป
.
4) ดีกว่านั้น คือคิดว่าต้องคอยนานเท่าไหร่
.
5) ท้ายที่สุด คือประเมินด้วยว่ามั่นใจแค่ไหน
.
ตัวอย่าง : สมมติว่าหุ้น AAA มีราคาปัจจุบัน 10 บาท
ประเมินว่าถ้าทำเรื่องที่โม้ไว้สำเร็จ ราคาที่เหมาะสมคือ 14 บาท
แต่ถ้าทำไม่สำเร็จ เอาไปแค่ 8 บาทก็พอ
โอกาสสำเร็จ 60%, โอกาสไม่สำเร็จ 40%
ระยะเวลารอคอย สมมติว่า 2 ปี
มั่นใจสิ่งที่วิเคราะห์ข้างต้น 70%
.
มาดูกันครับว่า ผลตอบแทนที่ได้จากแต่ละวิธีเป็นอย่างไร
.
วิธีที่ 1 : ผลตอบแทน = (14-10) / 10 = 40%
.
วิธีที่ 2 : ผลตอบแทน = [ (14-10) + (8-10) ] / 10 = 20%
.
วิธีที่ 3 : ผลตอบแทน = [ ( (14-10) x 0.6) + ( (8-10) x 0.4) ] / 10 = 16%
.
วิธีที่ 4 : ผลตอบแทน = 16% ÷ 2 = 8% ต่อปี …หายไปเยอะเลย !!!
.
ส่วนเรื่องความมั่นใจนั้น ควรพิจารณาแยกออกไปต่างหากครับ
โดยควรมีระดับความมั่นใจ “ขั้นต่ำ” ว่า ถ้าน้อยกว่าแค่ไหนเราจะไม่ลงทุน
.
สำหรับคนที่อนุรักษ์นิยม หรือลงทุนแบบมุ่งเน้น ก็น่าจะตั้งไว้สูงหน่อย เช่น อาจจะ 80% ขึ้นไป ถึงจะเข้าข่ายลงทุนได้
.
หากเทียบโอกาสที่ “ผลตอบแทนคาดหวัง” สูง แต่ไม่ค่อยมั่นใจ กับโอกาสที่อาจจะได้น้อยหน่อย แต่ชัวร์กว่ามาก การเลือกอันหลังอาจจะเข้าท่ากว่า
.
ถ้าคิดตามนี้ โอกาสที่ไม่ควรเข้าไปยุ่ง หรือไม่คุ้มที่จะเสี่ยง คือ
.
1) ไม่รู้ upside / downside
ไม่น่าเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อครับ หลายคนแค่ได้ยินข่าวลือ/ข่าววงในก็โดดเข้าไปเล่นแล้ว
.
2) ประเมินความน่าจะเป็นของแต่ละโอกาสไม่ได้
.
3) ไม่รู้ว่าต้องคอยนานแค่ไหน
.
4) กำไรคาดหวัง < ....% ต่อปี (อันนี้แล้วแต่เลยครับ)
.
5) ไม่ผ่านระดับความมั่นใจขั้นต่ำ
.
หวังว่าในครั้งต่อไป ท่านผู้อ่านจะไม่มัวแต่โลกสวย คิดแต่ด้านที่จะกำไร จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของนักเชียร์หรือนักปั่นหุ้นนะครับ
.
by #Dr.Vi. #หมอวิ (20 ตค. 60)
.
https://www.facebook.com/Dr.Vichian/
.
[email protected]

[พ่อน้องเพชร]

ยอดเยี่ยม