Moneytalk@SET28Nov15ข้อคิดรุ่นใหญ่พิเศษ&จับMegatrend

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
i-salmon
Verified User
โพสต์: 293
ผู้ติดตาม: 0

Moneytalk@SET28Nov15ข้อคิดรุ่นใหญ่พิเศษ&จับMegatrend

โพสต์ที่ 1

โพสต์

Moneytalk@SET28Nov15ข้อคิดรุ่นใหญ่พิเศษ&จับMegatrend
หัวข้อ1 "ข้อคิดจากประสบการณ์ฝังใจจากรุ่นใหญ่พิเศษ"
1) คุณ สวัสดิ์ หอรุ่งเรือง อดีตผู้บริหารกิจการใหญ่
2) คุณ วสันต์ เบนซ์ทองหล่อ ประธานกลุ่มเบนซ์ทองหล่อ
3) ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอาวุโสด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง
4) ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ ดำเนินรายการ

Intro
อ.ไพบูลย์ รุ่นใหญ่พิเศษคืออะไร?
อ.เสน่ห์ ผ่านร้อน ผ่านหนาว วิกฤติมากมาย ชีวิตโชกโชน จนพิสูจน์ยืนมาถึงวันนี้เพราะมีประสบการณ์ที่แท้จริงแล้ว
อย่างเช่น คุณสวัสดิ์ ไม่มีไม่หนีไม่จ่าย เป็นคนที่พลิกวิกฤติ เป็นคนหนึ่งที่เจ๊งแต่ไม่เครียดด้วยจิตวิทยา(วิธีคิด)
เป็นหนี้ถึง 2700 ล้านเหรียญ จากคูณด้วย 25 บาท เป็น50 บาท ต้องทำธุรกิจข้ามชาติ(กู้ชาตินี้ใช้ชาติหน้า)

คุณสวัสดิ์
เคยเตือนเพื่อนทุกคนว่า เป็นหนี้เรื่องปกติ จะมากหรือน้อย เราไม่ได้แบกหนี้เม็ดเงิน
แต่แบกหน้าตาเกียรติยศ หนี้ไม่มีน้ำหนัก แต่มันหนัก โยนมันทิ้งไป
การล้มละลายไม่ต้องเข้าคุก เป็นคดีแพ่ง
เคยพูดกับสุทธิชัย หยุ่นออกทีวี
ถ้าเพื่อนคนไหนฆ่าตัวตายแบบนี้จะไม่มีพวกหรีดให้ ไม่ไปงานศพ ไม่คิดว่าจะมีเพื่อนที่สิ้นคิดและขี้ขลาดขนาดนี้
ตัวจากไปแต่ทิ้งอะไรไว้ให้กับคนข้างหลัง
ตอนที่เป็นหนี้ 2700 ล้านเหรียญ เรียก CFO ทุกคนในบริษัทมา
เช่น บ. NTS steel มาคุยว่าถ้าลองทำบัญชีดูใหม่ คิดว่าบริษัทไม่มีหนี้เลยจะอยู่ได้นานแค่ไหน
คำตอบคืออยู่ได้ตลอดเท่าที่ต้องการ แสดงว่าไม่เจ๊ง
ตั้งแต่ 1997 ไม่เคย shutdown โรงงาน ผลิตตลอด มีกำไร เพราะไม่มีหนี้เลย
ให้ข้อคิดกับนักธุรกิจทุกคน คุณเป็นคนดีไม่ได้เลย
เช่น ตึกอยู่สาธร 30 ชั้น คุณเป็นลูกค้าดีมาก จ่ายดอกเบี้ยแบงค์ 15% ไม่เคยขาด
กับของผมตึกอยู่สาธรเหมือนกัน ไม่จ่ายเลย ให้เช่า 400 บาท ใครเจ๊งก่อนกัน
It’s very hard to be a good man,
even in a bible god said that all the good die young, only the old bad die hard
คนชั่วนรกก็ไม่ต้องการสวรรค์ก็ไม่ต้องการ ดังนั้นตายยาก

ทำธุรกิจช่วงที่จังหวะดี โชคดีมีกำไร รวยมาก แต่กรณีที่โชคร้าย เราก็จน จนมาก จนที่สุด
สุดท้ายก็คือล้มละลาย ช่วงนั้นถูกแต่งตั้งให้เป็นวุฒิสมาชิก ไปค้นเจอกฏหมายล้มละลาย
ตั้งแต่ 2484 ไม่เคยแก้ไขเลยแม้มาตราเดียว มีควาย 1 ตัว มีเกวียน 1 เล่ม
จึงคุยกับสมาชิกที่เป็นวุฒิด้วยกันแก้ไขทั้งฉบับ
สิ่งที่แก้ไข เอา chapter 11 ของอเมริกา ล้มละลายบุคคลธรรมดาก็เข้าไปยึดทรัพย์สิน
แต่สิ่งที่ห้ามยึด เช่น รถยนต์ สิ่งที่จำเป็นของชีวิตห้ามยึด
Chapter 12-13 ถ้าลูกหนี้เป็นชาวไร่ชาวนา แล้วเอาที่ดินไปจำนำแล้วไม่มีผ่อนส่ง แบงค์สามารถยึดได้
แต่ห้ามขายต้องให้ชาวนาคนนั้นเช่าต่อและชาวนาคนนั้นเป็นลำดับแรกที่ซื้อคืนได้ ไม่งั้นจะเป็นปัญหาสังคม
ต้องขอขอบคุณอ.ไพศาล กุมาลย์วิสัย เป็นอดีตผู้ว่าแบงค์ชาติและเป็นประธานฯ
ได้แก้ไขเรื่องการพ้นล้มละลายที่จาก 1 ปี มาตกลงใหม่เป็น 3 ปี แล้วตัดมาตรา 78,79 ออก
คือถ้าจะล้มละลายต้องถามความเห็นชอบจากเจ้าหนี้ก่อน ,
จะต้องทำความร้องไปถึงศาลให้เราล้มละลายไหม
ดังนั้นหมายความว่าตั้งแต่ ศาลล้มละลายสั่งให้ล้มละลาย นับตั้งแต่วันนั้น จนถึง 3 ปีจบ
ตอนแรกคนก็คิดว่าผมจะได้ใช้คนแรก ที่จริงเพิ่งใช้เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว วันนี้พ้นแล้ว

ธุรกิจไม่ได้ทำเพื่อเงินอย่างเดียว
แต่เพราะพวกเรามีความฝัน จะทำอะไรอีกเยอะแยะ
ตอนที่ขาย hemraj ทิ้งไป คนคิดว่าหยุด ที่จริงไม่ใช่ ได้ซื้อเกาะล้าน เอาไว้
และมีงานใหญ่เริ่มกับคุณสนธยา ได้จดทะเบียนตั้งบริษัทพัฒนาสนามแข่งรถ f1 และ sport complex แถวศรีราชา
รัฐบาลบอกว่าตะวันออกดีที่สุด เป็น gateway เศรษฐกิจ ท่าเรือ in and out และมีสนามบินอีก 2 แห่ง
อู่ตะเภาจะเปิด เมืองจีน จากคุณหมิงมาลาวก็ลงที่แหลมฉบัง

นักธุรกิจทั้งหลาย อยากบอกว่าให้กำลังใจ ธุรกิจจังหวะดีก็รวย
ถ้าผิดพลาดก็ยอมรับ แม้ล้มละลายก็ยอม จะได้เริ่มชีวิตใหม่
สิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ววันนั้นจะต้องไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป

เราไม่ยอมรับการโกง แต่ธุรกิจมันเจ๊งไม่ได้โกง แต่แค่มันเจ๊ง
NTS, NSN เคยโดนตรวจจาก auditor ของ Chicago มาตรวจไม่เจอ footnote เลย
ภาษาไทยแปล ข้อสังเกต ซึ่งมันก็เหมือนคำทั่วไปอย่าง notice
ที่จริงภาษา audit คำนี้มันมีผลกระทบเยอะ (คุณสวัสดิ์แปลมันว่า เครื่องหมายส้นเท้า)
เพราะเราไม่มี foot note เขาโหวตให้เป็นผู้บริหารเจ้าหนี้ 97%
ในกรณีทำธุรกิจผิดพลาดก็ยอมรับมันซะ แต่ต้องไม่โกง

คุณวสันต์
จากเคยมีเงิน 4-5 พันล้านบาท กลายเป็นติดลบ 2 พันล้านบาท
ตอนปี 40 โชว์รูมกำลังจะถูกยึด พึ่งใครก็ไม่ได้ เพื่อนที่เป็น banker ใหญ่ๆ มาขอให้ช่วยก็หายหมด
แบงค์ก็ชอบคิดว่ามีเงินแล้วไม่คืนเพราะเห็นรถยนต์กองเต็มโชว์รูม แต่เราขายไม่ออก
บอกว่าไม่มีเงิน ก็ไม่เชื่อ แต่เราจ่ายหนี้ตลอด จน MD แบงค์ที่จะล้มต้องบอก
ไม่กล้าเจรจาประนอมหนี้กลัวเบนซ์มองว่าไม่มั่นคงไม่ให้เป็นดีลเลอร์
วันนั้นกำลังจะโดนยึดโชว์รูม อยู่ดีๆคุณสวัสดิ์ก็โทรมาหา ถามขาดเงินเท่าไร 100 เอาไปเลย
เบนซ์ทองหล่อที่รอดอยู่ถึงวันนี้เพราะคุณสวัสดิ์
คุณสวัสดิ์เป็นคนไม่ได้พูดอะไรให้ตัวเอง แกไม่ได้ล้มละลายเพราะธุรกิจเอง
แต่ล้มละลายเพราะค้ำประกันเพื่อน แล้วหนีไปต่างประเทศ

เรารอดเพราะอึดกว่า ทนกว่า แบงค์เก็บเงินไม่ได้ไปก่อน
ยุบไปเกือบ 10 แบงค์เหลือแข็งๆอยู่ 5 แบงค์ ต้องขายให้ต่างชาติ
สรุป หลุดได้เพราะความอึด จ่ายเงินทุกเดือน แต่ค่าใช้จ่ายต้องให้ลูกน้องก่อน
เหลือเท่าไรให้เท่านั้น แบงค์จะฟ้องหรือจะเอาเงินที่ได้ 10 ปีหลุดได้ เพราะ มีประนีประนอมหนี้
อีกอย่างที่ดินทองหล่อตารางวา 7 หมื่นบาท ก็กลายเป็นล้านห้า
ข้อดีอีกอย่างเหลือเพื่อนอยู่คนเดียว คุยกับคุณสวัสดิ์อยู่ 2 คน
เพราะตอนนั้นเพื่อนที่โทรหาไม่กล้ารับสาย ตอนนี้เขาก็ไม่กล้าโทรหาเรา
สมัยก่อนแต่ละปีต้องลิสต์รายชื่อมาให้ของขวัญปีใหม่ ตอนนี้ไม่ต้องสบายมีแต่ได้
ตอนนี้หนี้มีมียังไม่หมด
คิดว่าเศรษฐกิจปีหน้ายังดีขึ้นอยู่กับทำอะไร รถเบนซ์ถ้าจองตอนนี้ 6 เดือน ถึงจะได้
พวกโซบะของญี่ปุ่น 20 กว่าปีก่อนราคาเท่านี้ ตอนนี้ก็ราคาเท่านี้ จนราคาบ้านเราแพงกว่าบ้านเขาแล้ว
คนญี่ปุ่นมาต้องบินกลับไปกินที่บ้าน
ญี่ปุ่นไม่ได้ขึ้นเงินเดือนมานานแล้ว เมื่อไทยยังขึ้นต่อเนื่องมาตลอด อย่าหวังว่าญี่ปุ่นจะช่วยเราได้ เมืองไทยยังดี

อ.สมชาย
แม้ไม่ได้อยู่ในความล่มสลายของธุรกิจเอง แต่เห็นภาพมาตลอด
ในโลกนี้ทุกอย่างมีสัญญาณแต่ต้องยอมว่าว่าระบบรัฐไม่ดี ในตอนนั้น(ช่วงวิกฤติ) มีสัญญาณพอสมควร
1) มีหนี้ต่างประเทศ เรามีเงินสำรอง 38,000 ล้าน มีหนี้ 1 แสนล้านบาท 80% ของหนี้มาจากเอกชน
เราถูกกระทบจากข้อตกลงรอบอุรุกวัย มีการเปิดเสรีทางการเงิน
แต่ระบบรัฐเราแย่ ยังไม่มีการปรับ ใช้อัตราแลกเปลี่ยนระบบตะกร้า
ทำให้เอกชนคิดว่าไม่ความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน
ตอนนั้น ECB 1% กว่า ตอนนั้นมีหนี้ตปท. 1 แสนล้าน ครึ่งหนึ่ง เกือบ 5 หมื่น ล้าน
เป็นหนี้ระยะสั้น แต่เป็นเงินสำรอง 3.8 หมื่นล้านบาท
2) ตอนนั้นเป็นครั้งแรกใน 14 ปีที่ส่งออกติดลบ ก่อนหน้านั้นส่งออก 20% กว่า
ขาดดุลบัญชีเดินสะพัด 7.9% ในปี 1995 แปลว่าประเทศไทยใช้จ่ายเกินควร
ต้องมาดูว่ามาจากอะไร ถ้ามองจากการลงทุนโดยตรงเยอะใช้ได้ เหมือนตอนปี 1990
แต่ตอนนั้นลงทุนน้อยลง เพราะโลกเปลี่ยน คนหนีไปลงทุน clmv ต่างๆ พอขาดดุล
เราก็ช่วยด้วยวิธีกู้มา ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ก็ดูออกได้เลยว่า เจ๊งแน่นอน
เพราะ ส่งออกติดลบครั้งแรก ในปี 1996 ขณะเศรษฐกิจโลกกำลังเติบโตสมัยคลินตัน
แสดงว่า ประเทศไทยกำลังเสียความสามารถในการแข่งขัน
หนึ่งในนั้นเพราะหลังสงครามเย็น ประเทศใหม่แข่งกับเราที่ใช้แรงงาน
มี afta เราไม่ได้เตรียมอะไร ผลิตสินค้าเดิมมาเจอ clmv
เอาสิ่งเหล่านี้มาวิเคราะห์ไม่มีทางรอด เพียงแต่รอเวลา
ทำให้เกิดวิกฤติ 1997 ภาครัฐไปติดต่อ afta แต่ไม่ป้องกันภัยให้เอกชน
ตอนนั้นอยู่ในวงการ เป็นวุฒิสมาชิกด้วย
ได้บอกบริษัทอสังหาฯแห่งหนึ่งว่าต้องป้องกันความเสี่ยงล่วงหน้า
เขาเชื่อครึ่งหนึ่งและทุกวันนี้ก็รอดมาได้
บางครั้งเราเห็นชัดๆ ก็ไม่กล้าพูด 100%
อย่างประเทศจีนที่ 3 ปีก่อนพูดว่าจะมีปัญหา ทุกวันนี้เหลือโต 6% กว่า
มีคนบอกจีนไม่เกิดวิกฤติ แต่ถึงไม่เกิดวิกฤติโตจาก 10% กว่า เหลือ 7%
ก็กระทบมากแล้วเพราะเราพึ่งพาจีนมาก
มีคนบอกว่าเป็น new normal นั่นคือ abnormal
ทุกอย่างในโลกมีสัญญาณ เพียงแต่ขึ้นกับว่า รัฐส่งสัญญาณให้เราหรือเปล่า
อย่างเช่นในอดีตถ้ารัฐส่งสัญญาณผิดทำให้เราไม่รู้ว่ามีความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน

ตัวเองพ่อแม่ทำการค้า(ธุรกิจตะปู) ต้องจิตใจเข้มแข็ง เราไม่มี gut แบบนักธุรกิจ
เห็นพ่อแม่ทำรู้เลยเจ๊งแน่ แล้วก็ใช่จริงๆ เราก็เครียดเพราะเป็นลูกคนเดียว
มี Heinz Kissinger เป็นไอดอล เป็นนักวิชาการ เป็นที่ปรึกษาภาครัฐภาคเอกชน
วางแผนมานานแล้วว่าก่อนและหลังเกษียณจะมีรายได้ไม่ตก ชื่อเสียงไม่ตก
ไปเรียนยุโรปเพื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านยุโรปและละตินอเมริกา
นึกว่าจะปลอดภัยแล้วถ้าเกิดวิกฤติเพราะเราไม่เป็นเจ้าของกิจการ จะเป็นที่ปรึกษา
คิดว่าถ้า บริษัทเจ๊ง -> อุตสาหกรรมยังอยู่มีหลายอุตสาหกรรม
ถ้าทุกอุตสาหกรรมเจ๊ง -> ยังรอดเป็นอ.มหาวิทยาลัยได้
แต่สุดท้ายก็เคยเจอวิกฤติเหมือนกัน
ในตอนนั้นเป็นที่ปรึกษา 80-90% เป็นบริษัทหลักทรัพย์
รายตอนนั้นได้ก็สูง ซื้อบ้านซื้ออะไรไว้ พอ บ. finance เจ๊งกันหมด
ก็มาคิดต่อว่าจะทำอย่างไรดี?
แต่จะไม่ทำธุรกิจเพราะอยากเป็นนักวิชาการที่ดี และไม่เล่นการเมืองโดยตรงจะทำให้ bias
เมื่อเกิดวิกฤติขึ้นมา วิชาการก็ช่วย หนังสือของ Gary Hamel - COMPETING FOR THE FUTURE
พูดถึงจุดแข็งของคนและบริษัท core competency และ strategic asset
พวกเราแต่ละคนเป็นอัจฉริยะ ทำให้หลายอย่าง ไม่ได้ทำอย่างเดียว
อย่างเ่ช่น คุณศิริวัฒน์ พอเจ๊ง ก็มาทำแซนวิชได้
ดังนั้นเศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์ ก็เอาสินค้ามาเพิ่ม
ไม่ได้เก่งแค่ตลาดหุ้นอย่างเดียว มีอย่างอื่นก็เพิ่ม product line
ผมไม่ได้เป็นแค่ผู้เชี่ยวชาญด้านวิเคราะห์หุ้น จบทางด้านทฤษฎีเกม ไม่ใช่เป็น stock analyst
ทฤษฎีเกมคือเครื่องมือในการทำนาย จบมาและใช้ตลอด
จากนั้นก็เป็นที่ปรึกษา ยางพารา เขาก็ให้ข้อมูล ได้งานเพิ่ม
จึงขยายไลน์ไปธุรกิจด้านอื่นนอกจากการเงิน
อย่างที่สองเป็นเจ้าของทรัพย์สิน คนที่มาเรียนเป็นทรัพย์สิน
สามารถต่อยอด ทำแผนยุทธศาสตร์ เรียนแล้วจ้างทำแผนยุทธศาสตร์ต่อ
อย่างที่สาม มีชื่อในกรุงเทพ ก็ขยายไปสู่ต่างจังหวัด ลูกค้ากรุงเทพหาย
คนเชี่ยวชาญกลยุทธ์ต้องเชี่ยวชาญเรื่องการตลาด
ตอนนั้นก็ทำเพื่อขยายไลน์ ทำให้รายได้เพิ่ม ตลาดเพิ่ม พอร์ตฟอลิโอเพิ่ม
ตัวตนเราคือชำนาญเป็นเศรษฐกิจ การเมืองระหว่างประเทศ
ปรับสินค้าตัวใหม่ให้เหมาะกับเศรษฐกิจดีหรือแย่

ฝากกำลังใจให้ ทุกอย่างมีทางออกในชีวิต
คนเราไม่ได้ทำได้อย่างเดียว Core competency เรามีได้หลายอย่าง
มีเพื่อนเป็นทหารเรือ เกษียณแล้ว แต่เขาชำนาญด้านดอกไม้ เปิดร้านดอกไม้กว่า 30 แห่ง ร่ำรวย
หม่ำ จ๊กม๊ก ไม่ได้เป็นแค่ตลก แต่เป็น entertrainer ไปกำกับภาพยนต์ได้ ไปเป็นพิธีกรได้

การศึกษาไทยสอนให้จับปลามือเดียว เราไม่ได้ทำได้อย่างเดียว แต่อย่าไปจับทุกเรื่อง
ฝากข้อแรก มีกำลังใจ ท่านทำได้มากกว่าที่ท่านมีอยู่ ขอให้รู้จักตัวเอง
ขอความกรุณาอย่ามองแค่อดีตกับปัจจุบัน พยายามมองอนาคตด้วย
อย่าเชื่อใครง่ายๆ แม้อ.สมชาย ฟังแล้วต้องไปวิเคราะห์
ทางการก็อย่าเชื่อ สิ่งที่วิเคราะห์ถูกต้องคืออดีต แต่อนาคตต้อง conservative
ยกตัวอย่างระดับโลก IMF ที่วิเคราะห์สเปน คนที่ทำนายเศรษฐกิจสเปน 2 ปีก่อน IMF วิเคราะห์แย่สุด
ดังนั้นฟังข้อมูลเหล่านี้ต้องฟังหูไว้หู
ถ้าเห็นอนาคตเราจะไม่เป็นแบบนี้ อย่างเราเพิ่งเริ่มรู้ aec 2010 คนอื่นเตรียมตัวตั้งแต่ 1990
ทำไมเขารู้? สงครามเย็นสิ้นสุด 1989 โลกเปลี่ยนจาก คอมมิวนิสต์ เป็นแข่งขันทางการค้า
ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ประเทศเหล่านี้ต้องรวมตัวแบบ eec
เวลาเป็น eec ต้องเริ่มต้นด้วยการค้าเสรี เป็นกำเนิด afta 1993
เราเพิ่งรู้ aec 2015 ยังงงกันเป็นไก่ตาแตก แต่วันนี้ต้องไปถึง 2025 แล้ว

พวกเราแต่ละคนเป็นอัจฉริยะ ขอให้เก่งในแบบของเราเอง ทำในสิ่งที่เราเก่ง
มองอนาคตล่วงหน้า 5,10,20 ปี เพราะโลกเปลี่ยนแปลงเร็ว ไม่เห็นตามไม่ทัน
วันนี้ไม่ใช่แค่ AEC ต้องติดตาม tpp ติดตาม apec สิงคโปร์ เริ่ม tpp 2012 เค้าจบแล้ว เราเพิ่งเริ่มศึกษา

ศาสนาสอน ขอให้ตัวเองเป็นหิน ลมฟ้าอากาศ เราไม่มีทางคุมสิ่งที่คุมไม่ได้ แต่คุมตัวเองได้
ถ้าเราเป็นเพชร คนอื่นอาจดูถูกเรา สร้างสิ่งที่เป็นเพชร สร้างไปเรื่อยๆ วันหนึ่งสถานการณ์เปลี่ยน
เป็นเพชรในสิ่งที่เราชำนาญ อดทนไปเรื่อยๆ


ดร.นิเวศน์
คิดย้อนหลังไป เราก็พยายามทำอย่างที่อ.สมชายพูดถึง
พยายามที่จะเป็นคนเก่ง มีความสามารถทุกด้าน แต่มาลองคิดย้อนเราคิดผิด
เราอยากทำหลายอย่าง ทำธุรกิจ เลี้ยงลูกน้ำ เลี้ยงปลา เราไม่ได้ดูก่อนว่าเราควรทำอะไร
เราเกิดมาไม่มีทุน เป็นคนคิด คนพยายาม คนทำ มีอะไรดีก็ทำ
ตอน hi tech กำลังมา ก็เปิดโรงเรียนคอมพิวเตอร์
ส่วนใหญ่ล้มเหลว ทุนเราน้อยไป ทุนความคิด ทุนเงิน
เก่งก็ระดับหนึ่งไม่เก่งมาก เรียนก็ระดับหนึ่งไม่มาก ไม่พอจะประสบความสำเร็จซักอย่าง มาเป็นพนักงานบริษัทก็ไม่สำเร็จ
คุณวสันต์ ไม่ยอมรับคำว่าไม่มีทุน เข้าไปขอเป็น dealer โตโยต้า แล้วทำอะไรไม่ได้
ทำอะไรได้ เพราะไม่มีทุน ไปติดต่อโตโยต้า ไม่มีทุน แต่มั่นใจว่าขายได้
ดร.นิเวศน์ มองว่า คุณวสันต์ มีทุนในการพูด มีการโน้มน้าวที่สุดยอด
ดร.นิเวศน์ สรุปว่า เพราะพยายามทำเยอะ พยายามจะแข่งกับคนอื่นที่เก่งได้
คิดว่าชีวิตควรต้องเป็นคนธรรมดากินเงินเดือนจนตาย
สิ่งที่เปลี่ยนชีวิต เพราะคนที่มีเจ๊งไปหมด เกิดวิกฤติ
ในยามนั้นเราหาสิ่งที่ง่ายสุดที่จะทำ คือการลงทุน แล้ววิกฤติ เป็นโอกาศ
วิกฤติเป็นโอกาสในการเลื่อนชั้น ไม่งั้นวันนี้ก็เกษียณอยู่บ้าน
อย่างแม้ปี 2008 ผ่านไปแล้วเราก็ดีขึ้นกว่าเดิม มาคิดดูทีหลังแล้ว เราอย่าหาเรื่องยากๆ ทำ
โลกเปลี่ยน ช่วยให้การประสบความสำเร็จไม่ต้องใช้ปัจจัยมาก
แค่รู้ว่าเราอยู่ตรงไหนในเศรษฐกิจในระบบ ตัวเราพยายามเลือกว่าจะอยู่ตรงนั้น
เราอยู่ในที่ถูกต้องก็ไปสบายๆ อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องไปเรื่อยๆ ไม่ต้องทำอะไรมาก ปวดหัวตาย
เราพยายามขึ้นไปเรื่อยๆทุกปี ต้องรู้ว่าเราอยู่ใน position ใน ตำแหน่งไหน
หาตำแหน่งที่เป็นตำแหน่งจุดยืนที่ถูกต้อง คนอื่นเป็น เราก็ไม่เป็นตรงนั้น
อ.สมชาย เสริม อ.นิเวศน์ จบวิศวกรรม ต่อ mba, การเงิน สิ่งที่สำเร็จ ทำอยู่ในสิ่งที่ชำนาญ เป็นสิ่งสำคัญ
ความชำนาญยืดได้ แต่ไม่ได้ทำได้ทุกเรื่อง
ดร.นิเวศน์ เสริม คำว่า position คิดว่าธุรกิจนี้ดี อยู่ยาวนานเราทำแบบเขาไม่ได้ ก็ไปเป็นเจ้าของเขา ไปคิดมากดีไม่ดี
อ.ไพบูลย์เสริมว่า ที่อ.สมชายพูดสำคัญ มันไม่ได้มาจาก 0 ไม่ใช่คิดว่าจะทำก็ทำได้
ต้องสั่งสมความรู้และผ่านประสบการณ์มาก ทุกวันนี้คนกำลังฮิตมากเรื่อง startup
ซึ่งมีคนให้ข้อสังเกตว่าคนที่ทำสำเร็จเป็นคนผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้ว ไม่ใช่จบมหาวิทยาลัยแล้วจะสำเร็จ
นักลงทุน active ลงทุนเอง 2 แสนกว่าคน มันมีการแข่งขับมหาศาล มีกี่คนที่หลุดขึ้นมามีไม่เกิน 50 คน


คุณสวัสดิ์ ฝากทิ้งท้าย
ในอดีตคืออดีต วันนี้ทฤษฎีทุกอย่างใช้ไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น วิทยาศาสตร์/การแพทย์ก็เหมือนกัน
การทำธุรกิจก็เหมือนกัน ผมเรียนรู้น้อยสุด จบม.6 รร.ที่ผมเรียนเจ๊งไปหมดแล้ว
สิ่งสำคัญสุดในชีวิตคือ learning from doing
ระหว่างที่เรียน มหาวิทยาลัย 4 ปี จบมาทุกอย่างเปลี่ยนหมด โดยเฉพาะพฤติกรรมมนุษย์
อย่าเรื่อง GATT รอบอุรุกวัย ผมทำธุรกิจตั้งแต่เด็กต่อสู้เรื่องนี้มาจนผ่านยุคนั้นกลายเป็น WTO
แต่ก็ยังไม่ทันใจประเทศที่คิดว่าเจริญแล้ว ถูกประเทศด้อยพัฒนาตามทัน
อเมริกาก็ทำ NAFTA เมื่อก่อนซื้อยีนส์ ของใช้ประจำวัน เอาสิ่งเหล่านี้ออกไปแถวอเมริกาใต้
จ้างแรงงานถูกๆทำ และตัวเองทำ high technology แทน ผลิตรถยนต์ อาวุธ
จากนั้นก็ทำ AFTA มีเอเชีย ตอนนี้ก็มี AEC และกำลังมี TPP
ทั้งหมดมันหลอกกันหมดเลย
ธุรกิจเหล็กมี GATT รอบอุรุกวัย สั่งเหล็กเข้ามา 30% เพื่อ protect investor และอุตสาหกรรมนี้
เด็กรุ่นใหม่กำลังเผชิญหน้าสิ่งอันตรายในการทำธุรกิจ
อีก 3-5 ปี WTO ทุกๆ item 0% maximum 5%
จากอดีตทำปั๊มน้ำขาย เติบโตมาได้จาก c&d
แต่วันนี้มีโอกาสแล้วมัน lock up ตั้งแต่ต้นทางจดลิขสิทธ์
เด็กรุ่นใหม่บางทีลืมตัว ไม่ใช่ความรู้ดี เหยียบขี้ไก่ไม่ผ่อ
สมัยทำธุรกิจ ขอเปิดโรงกลึง เจ้าหน้าที่นั่งกำกับช่วยกรอก ไม่นานก็ได้เปิดโรงกลึง
วันนี้เด็กจบมาอย่างเป็นผู้ประกอบการ พอเท้าติดดินไปไหนไม่รอด
สิ่งที่รัฐต้องทำคือต้องให้บริการกับประชาชน
เวลานี้ไม่ได้ห่วงตัวเอง แต่ห่วงว่าเด็กรุ่นหลังจะรอดอย่างไร
หลายคนพ่อแม่มีเงิน มีที่ดิน จะพัฒนาที่ดิน ขอใบอนุญาต 2 ปียังไม่ได้ แก้มาใหม่
คนของรัฐต้องเข้าไปดูแลฝ่ายบริการให้ภาคเอกชนเชิงธุรกิจ
สมัยก่อนคู่แข่งขันน้อย สมัยนี้รุ่นใหม่ๆมาก ยิ่งเปิดเขตเสรี ภูมิศาสตร์เศรษฐกิจก็เป็นเหมือนเดิมอย่างนี้มานานแล้ว
แต่ทุกคนต้องการได้ก่อน ทำเหล็กเคยเจอ dump ตลาด ก็ไปร้องเรียนรัฐบาล เขาก็พยายามว่า fta กับประเทศต่างๆ
อีก 5 ปี จะ fully effective ทางอเมริกาก็รู้จึงตั้ง tpp
สิงคโปรณ์ไม่มีทรัยากรอะไร แต่เขาเป็นลูกมือประเทศมหาอำนาจ
ใครๆคิดว่าเป็นประชาธิปไตย เขาเป็นเผด็จการ บ.ที่มาลงทุน
Next generation ต้องทำงานหนักขึ้น รัฐต้องให้บริการเร็วขึ้น
พฤติกรรมมนุษย์เปลี่ยน ภูมิศาสตร์ก็เปลี่ยน น้ำแข็งขั้วโลกละลายก็ท่วมโลก
พฤติกรรมแบงค์ก็เปลี่ยนไปไม่เหมือนเมื่อก่อน มีเพื่อนธุรกิจยังไปดีอยู่
แบงค์ขอบัญชีดี ยอดขายเทียบ 3 เดือนตกมาก็โดนบีบ หรืออสังหาลูกค้าผ่อนลดลงก็โดนบีบ
ธุรกิจวันนี้หนีไปเวียดนามเพื่อค่าแรงต่ำ ผมคิดว่าถ้าธุรกิจอยู่ได้เพราะค่าแรงต่ำอย่างไปทำดีกว่า
เมื่อก่อนดอกเบี้ย 8% คนเกษียณมีเงิน 3 ล้านบาท ได้ 2.4 แสนบาท มี 12 เดือน มีเงิน 2 หมื่นบาทใข้ นี่เป็นกำลังซื้อจริง
สมัยนี้ 0.25% คนมีเงินฝากอยู่ก็ถูกต้ม คนต้องไปหาดอกเบี้ยที่สูงขึ้น รัฐบาลก็ต้องไปสร้างกำลังซื้อเทียม เอื้ออาธร
เป็น Politic policy ไม่ใช่ economic policy
พูดมาหลาย 10 ปี ไทยทำเกษตรจะไม่รอด ชาวนาชาวไร่ ต้องการที่ทำกิน นักการเมืองก็ไปเลี่ยงออกโฉนดโอนไม่ได้
ทำไมไม่ให้เช่าไร่ละไม่กี่บาท ทำเศรษฐกิจแบบนารวม
เช่น ตำบลมีที่ดิน หมื่นไร่ ทุกกระทรวงเข้าไปช่วย กระทรวงเกษตร ช่วยเมล็ดพันธ์ควรปลูกอะไร
พาณิชย์ ช่วย sales&maketing อุตสาหกรรม ช่วย value added, packaging, วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ช่วย r&d
แต่วันนี้ไม่ใช่ ทุกคนขอที่ทำกิน 15 ไร่ 25 ไร่ แบ่งที่กันเอื้ออาธร ซึ่งไม่มีจุดคุ้มทุน
ไปนิวโอลีนมา 30 ปีก่อน เห็นไซโลเขาเก็บได้ 3-5 ปี มี vaccumn ดูดเอาอากาศออก มีกระเช้าโกยขึ้นมา
รัฐไม่ต้อง finance แบงค์ finance ทำให้ชาวนามีอำนาจต่อรองเพราะเก็บได้ไม่เน่าเสีย
เด็กรุ่นหลังมองว่าการศึกษาสูงแต่พอลงสนามแล้วไปไม่รอด ต้องกัดฟันมากกว่านี้
ต้องฝากรัฐมากกว่านี้ เรียนออกมา 4 ปีใช้ไม่ได้แล้ว ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว

ช่วงที่ 2 ทางพี่อมรจะสรุปต่อครับ ขอบคุณครับ


ขอขอบพระคุณอ.ไพบูลย์,พิธีกร,วิทยากร, ทีมงาน money talk และผู้สนับสนุนทุกท่าน
หากขาดตกบกพร่องแก้ไขเสริมได้เลยครับ


Money talk at SET ครั้งต่อไป วันที่ 19/12 เปิดจอง 12/12
หัวข้อ 1 เศรษฐกิจใน-นอก ดร.กอบศักดิ์, ดำเนินรายการ อ.เสน่ห์, อ.นิเวศน์, อ.ไพบูลย์
หัวข้อ 2 จับตาหุ้นไทยปี 59 ดร.ก้องเกียรติ, คุณมนตรี,อ.นิเวศน์ ดำเนินรายการ อ.เสน่ห์, อ.ไพบูลย์

Money talk ปี 2559 ม.ค. วันที่เสาร์ 9 ม.ค. จอง 2 ม.ค.59
หัวข้อ 1 หุ้นเด่นปี 59 ในดวงใจเซียนวิเคราะห์
คุณกวี(ksec), คุณสุกิจ(maybank),ดร.วิศิษฐ์(trinity)
หัวข้อ 2 มองหุ้นไทยกับ super VI
ดร.นิเวศน์, คุณโจ, คุณพีรนาถ,คุณประชา และหมอเค
(ถ้าย้ายไปห้องประชุมที่พระราม 9 จะจุได้ 500 คน แต่น่าจะยังไม่เรียบร้อย)
Go against and stay alive.
amornkowa
Verified User
โพสต์: 2195
ผู้ติดตาม: 0

Re: Moneytalk@SET28Nov15ข้อคิดรุ่นใหญ่พิเศษ&จับMegatrend

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ช่วงที่2 สัมมนาหัวข้อ “จับ Mega Trend เน้นหุ้นลงทุน”

1) คุณ ธันวา เลาหศิริวงศ์
อดีตนายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า คนแรก ก่อตั้งในช่วงบุกเบิก ช่วยชาติที่ TOT เคยเป็น CEO IBM

2) คุณ กวี ชูกิจเกษม
นักกลยุทธ์หุ้น ต้องตามตัวหลายรอบ ได้ตำแหน่ง Top strategist ในฐานะการวางกลยุทธ์เลือกหุ้น ได้คะแนนสูงลิ่วจากนักลงทุน ทำให้ บล กสิกรไทย โด่งดัง

3) ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ เป็นหัวข้อถนัดของอาจารย์
นักวิชาการอาวุโสด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง

4) ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน

ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ อ. เสน่ห์ ศรีสุวรรณ ดำเนินรายการ

วันนี้ เจาะmegatrend เน้นลงทุนหุ้น
ถามอจ เสน่ห์ ก่อนคนแรก ซึ่ง ความหมายของ Mega Trend คือกระแสโลก พูดมาหลายครั้ง หมายถึง การเปลี่ยนแปลงไป ตอนนั้นพูดถึง 3G ตอนนี้ต้องเป็น 4G online
อจ เสน่ห์ เสริม 4G ได้เป็นการประมูลที่สกปรกที่สุด คนร่วมประมูลไม่ได้อาบน้ำอาบท่า ไม่มีเวลากินข้าว 33 ชั่วโมง
พนักงาน AUCT ก็ไปนอนที่นั่นด้วยทำเรื่องการประมูล 555
กระแส 4G เหมือนตอนนั้นพูดถึง 3G แต่อจเสน่ห์พูดถึงGเดียว คือ จีสตริง คราวที่แล้วมีการฟ้องร้องกัน สะดุดแล้วสะดุดอีก คราวนี้ไม่สะดุด ถึงมีการฟ้องและยกฟ้องไปแล้ว
IOT Internet of Thing ชีวิตจะเกี่ยวพันไปหมด ชีวิตของ ดร นิเวศน์ ดีขึ้นมีหุ่นยนต์ มาช่วยกวาดบ้าน และกลับมาcharge ไฟที่ฐานได้ ซื้อมาราคาหมื่นบาท แต่lazada ขายแค่ 3,000 บาท
เครืองล้างจานมีแล้ว หมายถึง เมียสั่งล้างโดยอัตโนมัติ

Q: Megatrend ช่วยการลงทุนหุ้นจริงไหม
A: ดร นิเวศน์ ตอบว่า แน่นอน เป็นหลักของผม ถ้าหุ้นไม่อยู่ใน Megatrend ก็จะตกต่ำไป ถ้าอยู่ใน Megatrend ความต้องการสินค้ามากขึ้น และ ต้องหาผู้ชนะให้ได้ ใครเข้าไปส่วนใหญ๋จะตาย จะรอดน้อยมาก
ถ้าเจอผู้ชนะ ซื้อหุ้นเก็บไว้สิบปี ได้สบาย เป็นสินค้า หรือ บริการมีการใช้เป็นระยะเวลายาวนาน ในโลกมี 2-3 อย่าง ได้แก่
1. อะไรที่เป็น เทคโนโลยีของโลก พัฒนาเร็วมาก ทำใหเผลิตสินค้าได้ดีขึ้น ตอนนี้เป็นเทคโนโลยีของประชาชน สมัยก่อนสร้างเพื่อผู้ผลิต หรือ ผู้ที่ไปใช้ต่อเท่านั้น
อะไรก็ตามใช้เทคโนโลยีไปพัฒนา ถือว่าเป็น Megatrend
2. ความสูงอายุ อะไรที่คนอายุมากใช้มากขึ้นเรื่อยๆ
3. เรื่องของรายได้ของคนในโลกเติบโตมาตลอดและเติบโตไปตลอด โดยเฉพาะเม็ดเงินที่เพิ่มขึ้น
อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับคนมีโอกาสเผยแพร่เผ่าพันธุ์ ก็จะมีการใช้กันมากขึ้น การเดินทาง การท่องเที่ยวก็เป็น Megatrend คนมีรายได้มากขึ้น อยากท่องเที่ยว สามารถประหยัดเวลามากขึ้น การแพทย์ที่ดีขึ้น
รายละเอียด product อะไร ดูยาก เดี๋ยวค่อยดูอีกที

คุณธันวา ให้ความหมายสำหรับคำว่า Megatrend หมายถึง แนวโน้มใหญ่ของการลงทุน มีผลกระทบต่อกิจการของการลงทุน เราจะทำตามทิศทางลม ไม่สวนกระแสลม มองว่า ธุรกิจที่เราสนใจ ธุรกิจมีแรงส่งตามกระแสลมหรือไม่
ยกตัวอย่าง Megatrend ของโลก
1. Productivity ที่ดีขึ้น หมายถึง ประสิทธิภาพหรือประสิทธิผลของธุรกิจ หาทางให้กระบวนการทำงานให้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น เป็นเทรนใช้ เครื่องมือที่เป็นเทคโนโลยีมาช่วย บริษัทไหนที่ไปลงทุนไม่มีนวัตกรรม เหมือนเดินอยู่กับที่ ก็จะโดนแซงไป
2. ธุรกิจมีบทบาทมีศักยภาพ power มากกว่าภาครัฐ ประเทศไทยเชิญชวนคนมาลงทุนในไทย เช่น ญี่ปุ่น เราต้องพร้อมที่ทำให้ทุกอย่างพร้อมต่อลงทุน รวม infrastructure ความปลอดภัย ค่าแรงต้องไม่แพง กฎระเบียบเอื้อต่อการลงทุน มีสิทธิพิเศษทางภาษีช่วย ผมมาจากบริษัท Global
รัฐบาลนี้พยายามกำหนดนโยบายให้สะดวกต่อการลงทุน ภาคธุรกิจในแต่ละประเทศจะเป็นคนพิจารณาว่าจะลงทุนหรือไม่ในประเทศไทย
3. การเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากรศาสตร์ นอกจาก Aging Population คือ Urbanization คนเราแบ่งออกเป็น3ช่วง

ช่วงที่1 อายุระหว่าง 0-25 ปี เป็นช่วงที่เศรษฐศาสตร์ไม่มี productivity เป็นคนใช้ ไม่ได้สร้าง สุขภาพดีมาก ส่วนใหญ่อยู่ในวัยศึกษา
ช่วงที่ 2 อายุระหว่าง 26-65 ปี ช่วงนี้สุขภาพยังดีอยู่ generate productivity ได้เยอะ มีผลผลิตสูง
ช่วงที่ 3 อายุตั้งแต่ 66ปีขึ้นไป สุขภาพแย่ลง generate productivity น้อยลง

ตอนนี้โลกจะshift ไปสู่อายุสูงวัย มากขึ้น ผู้ประกอบการต้องเตรียมพร้อมรองรับด้วย
ช่วงปี 2010-2050 ยุโรป ประชากรจะเพิ่มแค่ 1% สามารถทำนายและคาดการณ์ได้ การเติบโตจากประเทศพัฒนามีอัตราการเกิดน้อยมาก
เมืองไทย มีลูกเฉลี่ยแค่ 1.7 คน ต่อครอบครัว ถ้าเสมอตัวต้อง 2.1 คน ต่อครอบครัว แต่อจ เสน่ห์บอกว่า .1 จะมาได้อย่างไร ดร นิเวศน์ตอบว่า มาจากคนเสียชีวิตเป็นเศษ 0.1 คน จำนวนประชากรเริ่มลดลง แต่บางพื้นที่มีลูกเยอะจะกินสัดส่วนมากขึ้น
ญี่ปุน ซึ่งไทยจะตามไป ช่วงนี้ประชากรจะลดลง 17% ในช่วงปี 2010 -2050 ดร นิเวศน์ บอกว่า คนลดแต่หุ่นยนต์เพิ่มขึ้นเพื่อมาให้บริการแทนคน
4. Internet of thing ถ้าหาความหมายภาษาไทยที่ใกล้เคียงสุดหมายถึง สิ่งของคุยกัน คือว่าต่อไปนี้สิ่งของจะใช้เทคโนโลยีมาสื่อสารกัน ทำให้ทำงานโดยอัตโนมัติ มาใกล้กว่าคิด ปี 2020 สิ่งของจะคุยกันมากกว่าคนคุยกัน
อจ เสน่ห์ เสริม เป้นโอกาสมาก machine to machine ต่อไปจะทักกัน ทุกวันนี้สั่งโดย siri เพื่อให้ไปหาที่กินข้าวกัน ไปไหนจะมีการทักเราตลอด นัดที่กินข้าวให้เราเลย
ต่อไปบัตรต่างๆเช่น บัตรBTS บัตรมือถือ ไม่ต้องไปขาย ไม่ต้องซื้อ เดินผ่านก็ ปริ้ง หมายถึง ซื้อขายเรียบร้อยแล้ว ต่อไปผู้ชายต้องการผู้หญิงแบบไหน ก็เอาเครื่องมาชนกับเครื่องของผู้หญิง ว่า match หรือเปล่า
ตู้เย็นมีซิม สามารถคุยกับเครื่องได้ว่าไข่หมดอายุหรือยัง จะมีsensorคอยบอกเรา ถ้าพบว่าหมดอายุ หรือ ใช้หมดแล้ว ก็จะสั่งโดยอัตโนมัติ

ดร นิเวศน์ บอกว่า เรื่องเงิน สวีเดน จะเลิกใช้แบงค์ และ อันที่2 ต่อไปรถไฟฟ้าไม่มีคนขับรถแล้ว รถไฟฟ้าสามารถขับเองได้
น่าจะมีเครื่องล้างจานโดยความบันเทิง อยากเล่นต้องจ่ายเงินเหมือนเล่นโบว์ลิ่ง จริงๆโบว์ลิ่งก็อยู่ของมันเฉยๆ เราไปเล่นกับมันให้ล้ม คนเข็นรถเข็นของในsupermarket ก็ไม่ต้องเข็นเองแล้ว รถจะวิ่งตามเรามาเอง

คุณธันวาเสริม เราสามารถเอาเทคโนโลยีมาช่วยได้มากขึ้น productivity สูงขึ้น จะทำให้ลดอัตราการจ้างงานลง คนจะไปทำอะไร

คุณกวี ได้มีโอกาสพูดสักที พูดถึงMegatrend มีเยอะ ผมติดตามประวัติศาสตร์ของตลาดหุ้นจากอเมริกา มายุโรป ญึ่ปุ่น เอเซียจนถึง จะไปอาฟริกา ตลาดหุ้นคือ Megatrend ของมันเอง มันตามด้วยอะไร มันคือในเรื่องโครงสร้างประชากร ตลาดหุ้นไทย จะเป็นMegatrendอยู่ไหม

ทำไม อเมริกา ดัชนี new highตลอดเวลาไปแล้วทั้งที่มีaging ไทยจะไปได้ New high หรือเปล่า
ประเทศที่มีคนสูงอายุมากขึ้น 60-65ปี จะมีคนมีตังค์มากขึ้น อายู50ปีจะมีกิ๊ก เป็น Megatrend สาวๆชอบแบบ ดร นิเวศน์ เพราะเป็นการลงทุนระยะสั้น
ผู้หญิงมักลงทุนเก่งกว่าผู้ชาย เพราะแต่งกับคนอายุสูงกว่า อ้างว่าต้องการความอบอุ่น มีโอกาสใช้สมบัติของผู้ชายนานกว่า

ตลาดหุ้นที่มีคนอายูมากกว่า 60ปีเป็นสัดส่วนมากสุด อายุ 55-65 ปี ช่วงนี้ตลาดหุ้นจะพีค ตอนนี้ประเทศไทยมีสัดส่วนประชากรเยอะสุดในช่วง 30-40 ปี แต่ญี่ปุ่นประชากรถึงวัย60ปีแล้ว ต่อไปมีปัญหา อีก5ปี ประชากร จำนวน 1ใน4 ของประชากรทั้งหมด อายุจะมากกว่า 60ปี ของไทยยังไม่ถึง
หมายถึงพออายุ 60ปี ประเทศกำลังพัฒนา สุดท้ายคนอายุ60ก็รวยกว่าคนอายุ 30อยู่ดี แต่หลังจากอายู60คุณยังไปต่อได้ไหม ประเทศที่ไปต่อได้ คือประเทศที่เปลี่ยนแปลง จากอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เป็นอุตสาหกรรมการบริการ
คนมีเงิน ทำไมอเมริกาสามารถไปต่อได้ เพราะ ไปต่อได้ด้วยธุรกิจบริการที่มีสัดส่วน 70% ของ GDP ธุรกิจบริการได้แก่ นวด สปา ซึ่งเป็นธุรกิจที่ใช้น้ำมันน้อย
แต่ธุรกิจเทคโนโลยี จะเป็นธุรกิจที่ใช้น้ำมันเยอะ
บริการด้านการเงิน ธนาคารต้องพัฒนามากกว่านี้ สำหรับรองรับคนสูงวัย เพื่อแข่งขันกับต่างประเทศ เทคโนโลย๊ต้องไปมากกว่านี้ ญี่ปุ่น เปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้ว นึกออกแค่โตเกียวแบงค์แห่งเดียว เพราะมันเป็นโตเกียว เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ค่อยโดดเด่น
การศึกษา บริการ ท่องเที่ยว โรงพยาบาล เป็นธุรกิจบริการ ประเทศไทยยังมีเวลาคิดอีก 20 ปี ไม่แปลกใจว่าเรามีหนี้ครัวเรื่อนสูงที่สุด เพราะว่า คนไทยอายุเฉลี่ยประมาณ 30-40 ปี กำลังสร้างฐานะ ครอบครัว กู้บ้าน และ ซื้อรถ สามีและภรรยาสามารถกู้ร่วมกันได้ เป็นช่วงวัยสร้างหนี้ อเมริกา มีหนี้ภาคครัวเรือนมากกว่าเราเยอะ เราไม่น่าเป็นห่วงเพราะคนเป็นหนี้ มีความสามารถในการชำระหนี้ได้ ตกงานไม่ถึง1%
ถ้าไปถึงยุคเกษียณ ทุกคนมีเงินมากขึ้น จะทำให้ตลาดหุ้นไปสูงสุด ต่อไปขึ้นกับรัฐบาลแล้วในอีก20ปีข้างหน้า ว่าจะเป็น Megatrend ต่อไปได้อีกไหม
ปี 2017 จะเกิด Cyclical bear ลงชั่วคราว 2ปี แต่ ลงประมาณ 50% แต่ขึ้นขอเป็น new high ในแง่ value investor
ตลาดหุ้นไทย new high แล้ว ตอน 1,650 เทียบกับเมื่อตอนดัชนี 17xx หุ้น finance 52 แห่ง , Bank 5 ที่
ที่หายไป จริงๆแล้ว ถ้านับเข้าไปด้วย ดัชนีได้ทำ new high ใหม่เรียบร้อยแล้ว SCC,BBL ,SCB ,Banpu new high ไปแล้ว อีก 5-10 ปี อาจมี new high
ธุรกิจบริการจะเป็นธุรกิจที่ทำให้เกิดดัชนี new high ที่น่าเป็นห่วงธุรกิจบริการ10ปีที่ผ่านมาไม่ค่อยโต

Q: มึคำถามจากอจ เสน่ห์ ถามคุณกวีว่าจะมี new low หรือไม่
คุณกวีตอบว่า ทุกรอบของ cyclical bear จะมี new low ตลาดหุ้นไทยยังเป็น Megatrend
1 ครั้งที่1 ดัชนีร่วงจาก 17xx ลงมาที่ 204 จุด ตอนช่วงต้มยำกุ้ง
2 ครั้งที่2 ดัชนีร่วงจาก 8xx ลงมาที 380 จุด ตอนช่วงSubprime ซึ่งมากว่าครั้งแรก ประมาณ 2 เท่า
งวดหน้าลองคูณ 2 ดู น่าจะประมาณ 800 จุด ในทุกๆ 10 ปี เคยลงหนักมา 2 ครั้ง ล้อตามtechnical
แต่ดัชนีตลาดหู้นบ้านเรายังเป็น Mega bull อยู่ หุ้นพื้นฐานดีถือได้
อจ เสน่ห์ เสริมว่า อายุขัยเฉลี่ยของคนไทยตอนปี พ.ศ. 2505 ประมาณ 57 ปี พอปี พ.ศ. 2555 เป็น 75 ปี โดดมา18ปี

ถามดร สมชาย ว่า อาจารย์เห็นtrendของโลกทีชัดเจนอย่างไร
ดร. สมชายจะดึงเฉพาะประเด็นเรื่องตลาดหุ้นและการเงินมาพูด
1. IT จะนำไปสู่

1.1 การขยายตัวของการบริการ จีนกำลังปรับตัวอยู่ สิ่งที่อยากจะเรียนคือ ตัวIT มีความเสี่ยงด้านการเงิน ไม่มีphysicalมากขึ้น สถาบันการเงิน อะไรจะเกิดขึ้นกับ EPS กำไรของบริษัท ตอบยากมาก ITทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยของธนาคารเปลี่ยนแปลงไป

1.2 ต้นทุนต้องบริหาร ต้องมีการลดคนด้วย และขณะเดียวกัน ต้องการรายได้ ต้องการคนเก่งมากมาทำ

1.3 เรื่องของความเสี่ยง ธนาคารต้องบริการความเสี่ยงมากขึ้น เช่น ความเสี่ยงจากเรื่องทุจริต ยากมาก

1.4 ความเสี่ยงทางด้านกำกับ Regulation Barzel3 ต้องดำรงกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ต้นทุนต้องบริหาร ดังนั้นแต่ละแห่งจะบริหารต่อ IT อย่างไรบ้าง คนมีข้อได้เปรียบก็ได้เปรียบ

2. พอคนมีมากขึ้น มีสองกลุ่ม คนทางเหนือเส้นศูนย์สูตรขึ้นไป มีคนแก่เยอะ แต่ทางใต้ เช่น อาฟริกา คนหนุ่มเยอะ ประชากรโลก 7,000 ล้านคน ทุก 20 ปีจะเพิ่ม 1,000 ล้านคน ทำให้โลกร้อนขึ้น ประชากรเยอะขึ้น และ ฉลาดขึ้น จีน คอมมิวนิสต์ เปลี่ยนแปลงเป็นทุนนิยม น้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือละลาย เกิดน้ำท่วม เปลือกโลกเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้ มนุษย์ กับ สัตว์ มากขึ้น
ความเสี่ยงในการเล่นหุ้น พอน้ำท่วม มีโรคติดต่อทางหายใจ สร้างความเสี่ยงได้มาก ตายได้พันล้านคนในหนึ่งเดือน อีกด้านบริษัทยา ที่แก้ได้จะมีโอกาสเติบโต

3. โลกเปิดเสรีทางการค้า Nasep หรือ TPP ถ้าผ่านสัตตยาบรรณเรียบร้อย ประเทศไทยจะเป็นประเทศสุดท้ายที่เข้าร่วม สถานการณ์จะบีบเราเอง พอไปถึงอนาคตเห็นทุกชาติเข้าร่วมก็จะเข้า
AEC 10 ประเทศ เกิดจาก อาฟต้า ใครต่อใครก็มาลงทุน ประชากรจาก 60 ล้านคน ไปเป็น 600 ล้านคน
อาฟต้า สิ่งทอเจ๊ง ฟิโตรเลย์มา มันฝรั่งในประเทศก็เจ๊ง แต่เบียร์ เหล้า ขายได้ บางบริษัทไม่เจ็ง เพราะมีความสามารถในการแข่งขัน ลูกค้าเพิ่ม จาก 600 ล้านคนไปเป็น อาเซป รวมจีน อินเดีย 3,000 ล้านคน
บริษัท startup จะถูก take over หรือ M&A นับวันเพิ่มขึ้น เช่น บริษัทของคุณเจริญไป take over F&N หรือ CPAll take over Makrow อย่างละแสนกว่าล้านบาท อีกหน่อยจะเห็น new high อีกหลายรอบ เกิดจาก พอหุ้นเล็กใหญ่ขึ้น capitalization ก็เพิ่มขึ้น ถ้าเราจับมันถูกตัว ยกตัวอย่างในต่างประเทศ เช่น Zara ร้านทำเสื่อผ้า เป็น startup เจ้าของรวยเป็นอันดับ3ของโลกจากประเทศสเปน อันดับหนึ่ง คาลอส สลิม พอสเปนรวมกลุ่มในประชาคมยุโรป ปีค.ศ. 1986 มี ขายใน 12 ประเทศ 40กว่าล้านเป็น 100 กว่าล้าน ถ้าวางถูกรวยมหาศาล

4. ตลาดหุ้นในอนาคตจะรวมกัน เช่น ตลาดหุ้นไทย จีน ฮ่องกง รวมกัน ธนาคารจะมีสาขามาก ตลาดจะมีคนมาเล่นมาเยอะขึ้น จีนมีการลงทุน จะหลั่งไหลมาแข่งกับญี่ปุ่นมหาศาล บริษัทเล็กอาจมีการรวมทุน ตลาดจะมีการconnect ผ่านการรวมกองทุน Asia pacific คนที่มาเล่นหุ้นจะมาจากนอกประเทศ Researchของโบรคจะแตกต่างจากเดิม สมัยนี้ linkกันมากขึ้น ตลาดหุ้นของฟิลิปปินส์มีปัญหาจะกระทบเราด้วย

5. โลกเปิดเสรี APEC จีนจะมีทางแก้ผ่านเขตการค้า จะตามด้วย TPP บริการเกี่ยวข้องกับตลาดการเงิน คนมาเล่นไม่จำเป็นต้องอยู่ในไทย เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของตลาดหุ้น มีกฎเกณฑ์ใหม่ ความเสี่ยงมหาศาล ล้มนิดเดียวกระทบมาก ลาตินอเมริกาแย่มาจากราคาน้ำมัน จีนลดลงเยอะจาก 10% มา 6%กว่า จีนแย่ ทุกตัวหมดเลย ตลาดการเงินกว้างขึ้น เราไม่ได้เล่นหุ้นในไทย จะลึกขึ้น ตราสารใหม่มีสองประเภท 1. ตราสารให้ผลตอบแทนสูงขึ้น จะลดความเสียงน้อยลง 2. จะเป็น Hybrid ตลาดการเงินเปลี่ยน ถ้าเราปรับไม่ทัน จะแย่ มีตวามเสี่ยงมหาศาล

6. เรื่องของ Trend มีอายุ อีกส่วน ภายใต้ AEC จะมี GMS ขยายตัวไปในต่างจังหวัดอย่างไม่เคยมีมาก่อน ซึ่ง GMS หมายถึงประเทศในลุ่มแม่น้ำโขง5 ประเทศบวก 1 จากตอนใต้ของจีน คือยูนานไม่ต้องรอรัฐบาลชุดนี้เลย ซึ่งถูกกำหนดจาก 6 เหลี่ยมเศรษฐกิจ GMS มีสามตัวคือ
1. เหนือใต้ จาก ยูนาน ลงมา ที่ลาว พม่า และ ไปที่เชียงของ
2. พม่าจากแม่สาย ท่าขี้เหล็กลงกรุงเทพไปต่อหัวหินจบที่อินโดนีเซีย เกิดรถไฟความเร็วสูง อสังหาขึ้นมาเลย สิบปีที่ผ่านมา ตัวหัวหิน ที่ดินขึ้นเยอะ
3. เกิดจากทางฝั่งตะวันตก ตะวันออก เบิร์ต ดานัง มุกดาหาร ขอนแก่น พิษณุโลกเหนือ ใต้ แม่สอด เมียวดี จบวินเทค ศรีลังกา
4. เกิดการขยายsouth-south มี 4 เส้น คือ กรุงเทพ เขมร ไป เสียมเรียบ กุยนอง เวียดนาม อีกเส้น กรุงเทพ ผ่านทางตราดไปที่เกาะกง ไม่ต้องรอรัฐบาลนี้ จีนทำหนองคาย กับ มาตพุค ญี่ปุ่นที่เราไปจีบมา ก็เชื่อม High speed กรุงเทพ กับ เชียงใหม่ อีกทาง ก็ ทวาย กับ แหลมฉบัง อีกตัว กาญจนบุรี น้ำพุร้อน ไป กรุงเทพ แหลมฉบัง ไป อรัญประเทศ อีกตัวคือ ด้านตะวันออกและตะวันตก
Urbanization ที่ดินเพิ่มขึ้น ค้าปลีกเกิดที่แม่สอด บางบริษัทอยู่ไม่ได้ก็เจ็ง อยู่ได้ ก็โตหลายเท่า

เส้นทางรถไฟ ปราจีน จีนกำลังแข่งญี่ปุ่นในเรื่องทางรถไฟ แข่งเรื่องอัตราดอกเบี้ย ตอนนี้จีนให้เงินกู้ในอัตราดอกเบี้ย 2.5% ซึ่งสูงเกินไปนิดนึง
อีก20กว่าปี สามารถขับรถ หรือ นั่งรถไฟจากสิงดโปร์ไปยุโรปตะวันออกได้เลย ดูง่ายๆ จากสิงค์โปร์ มาผ่านทางมาเลย์ กรุงเทพ พม่า ลาว ไปยูนนานไปที่ปักกิ่ง จากโครงการของ คุณสีเจิ้นผิงของจีน โครงการ one belt one road สร้างทางรถไฟจากปักกิ่ง ไปทรานไซบีเรีย และไปมอสโค ออกยุโรปตะวันออก ภูมิรัฐศาสตร์ จะเปลี่ยนไป หนัง how the west was run จากตะวันออกไปตะวันตก เกิด Urbanization อัตราการเติบโตของชนบทจะสูงกว่าอดีตที่ผ่านมา

ดร นิเวศน์ บอกว่า ที่เห็นชัดเจน เรื่องการท่องเที่ยว อยู่ในยีนส์ของมนุษย์ ค่าเดินทางลดลง รายได้เพิ่มขึ้น คนใช้บริการเพิ่มขึ้น เกิดการบูมอย่างรุนแรง โบอิ้งคาดการณ์โตมโหฬาร ตัวเครื่องบินเร็วกว่า ยีนส์ชอบความเร็ว ธุรกิจท่องเที่ยว ค้าปลีก โรงแรม ต้องดูเป็นสายว่าใครคือผู้ชนะ
การบินไม่มีใครชนะ ธุรกิจแบบนี้เข้าไปก็ตาย Supply over ต้องดูแต่ละ sector
สนามบินชนะ เป็น monopoly ส่วนสายการบินส่วนใหญ่ในโลกนี้ไม่ค่อยมีใครชนะ มีคนแข่งมากขึ้น
โรงแรม คนที่เข้ามาแข่งแต่ต้องใข้เวลาในการสร้างโรงแรมใหม่ 3-4 ปี ทำให้โรงแรมมี barrier to entry เพราะ supply ใหม่เข้ามาไม่ได้ หรือ หาที่สร้างไม่ได้ เช่นที่พารากอนหายาก ส่วนที่ไกลไปก็ไม่มีคนมาพัก คนใหม่เข้ายาก
Retail หลายบริษัท ได้ประโยชน์ เช่น ห้างพารากอน อาศัยนักท่องเที่ยวเยอะ ส่วนธุรกิจสปาต้องระวัง เปิดง่ายชนะชั่วครู่เท่านั้น
ส่วนเรื่องเกี่ยวกับ คนแก่ ได้แก่ โรงพยาบาล ชัดเจนได้ประโยชน์มาก สร้างใหม่ยาก หาผู้ชนะได้ คนยังไงก็ติดโรงพยาบาลเดิม เปลี่ยนไปใช้โรงพยาบาลใหม่ยาก แต่มีปัญหา คือมีข้อจำกัด กว่าจะขยายจะใช้เวลา และขึ้นกับหมอดังๆของแต่ละโรงพยาบาล กว่าจะไปอยู่ก็ใช้เวลา
โรงพยาบาลของรัฐ สามารถปรับตัวขึ้นมาแข่ง ได้ดีเฉพาะบางแห่ง รอบต่อไป อาจขยายโรงพยาบาลมาแข่ง เพื่อหาเสียง
โรงพยาบาลเอกชน เจอ โรงพยาบาลรัฐน่าเกรงขาม เช่น มหาการุณ จะดังขึ้น
เทคโนโลยี ก้าวหน้า หากิน เป็น Megatrend ผู้ชนะอยู่ต่างประเทศ ไม่ใช่ local เช่น สินค้า apple มาขาย จะหากล้วยมาแข่งก็ยาก
จะเจอเทคโนโลยีใหม่ขายผ่าน E-commerce เช่น มือถือเซี่ยวมี่จะมา ทำให้หาผู้ชนะยาก คนใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี ซึ่งไปลดต้นทุนของการผลิต บริษัทที่ใช้คนเยอะๆ ถ้าใช้เทคโนโลยีจะช่วยได้เยอะ เช่น ร้านอาหาร ทำให้ใช้พนักงานเสริฟน้อยลง
E-commerce อีกหน่อยก็มา เป็นสินค้าเสื้อผ้าใช้เยอะมาก เช่น ชุดผู้หญิง แบบดูดี เหมาะกับ ใส่ทำงานoffice ต้องหาว่าใครเป็นผู้ชนะ
รถไฟจะเปลี่ยนแปลงไป จะเกิดเมืองตามทางที่คนไปเยอะขึ้น เช่น กรุงเทพไป พิษณุโลก
ตัวอย่าง สายการบิน South west airline เร็วเหมือนเครื่องบิน แต่ถูกเหมือนรถไฟ

คุณธันวา มาเพิ่มข้อมูลเรื่องท่องเที่ยว เรื่องตัวเลขผลประกอบการของ AOT นักท่องเที่ยว 107 ล้านคนเติบโต 27% แต่ราคาต้องดูอีกที ยกตัวอย่างเพื่อไปวิเคราะห์ต่อ
ธุรกิจธนาคาร อาจถุกคุกคามจากผู้ประกอบการนอกอุตสาหกรรม จากรายได้ที่เป็น ดอกเบี้ย และ ค่าธรรมเนียมซึ่งธนาคารชอบมาก เพราะมีกำไรสูง ไม่มีความเสี่ยง ต่อไปอาจไม่enjoy กำไรที่เยอะ Telco หรือ เจ้าอื่นเริ่มเข้ามา ทำให้ผลประกอบการของผู้ชนะในอดีต จะชนะต่อไปหรือไม่
อุตสาหกรรมโทรคมนาคม อาจเปลี่ยน footprint ต้องวิเคราะห์ดู
เดินทางระบบราง รางเชื่อมเมือง ในแง่ Business model ใครเป็นผู้ได้ประโยชน์ ที่ผ่านมาenjoy material ต่อไปจะได้หรือเปล่า
นักลงทุนรายย่อยสนใจการลงทุนมากขึ้น บัญชีหุ้นที่ active ประมาณ 200,000 กว่าราย แต่ประสบความสำเร็จไม่มาก คาดหวังว่าได้หลายเด้งในอนาคตยาก ยกเว้นมีวิกฤต หรือ miss price มีความยากและซับซ้อน ต้องระมัดระวังมากขึ้น

คุณกวี พูดถึง mega trend 2 รูปแบบ
1 แบบสามัญ ปัจจัยสี่ เช่น อาหาร ไทยเป็นประเทศที่เหมาะกับการผลิตอาหาร ในอนาคตอาจมีผลิตอาหารเม็ด ทานเม็ดเดียวอิ่มเลย เพื่อประหยัดเวลา
ค้าปลีก เปิดพลาซ่า ร้านขายของน้อยลง ร้านอาหารเพิ่มขึ้น เช่น M
ที่อยู่อาศัย อสังหา ที่ดิน จำกัด น้อยลงเรื่อยๆเมื่อเทียบกับ ประชากร แต่ผันผวนที่สุด
ยารักษาโรค บ้านเราไม่ค่อยมี มีแต่ โรงพยาบาล
ธุรกิจโรงแรม ที่ดีได้แก่ MINT,CENTEL ตอนนี้ new high ไปแล้ว ในอนาคตยังมีโอกาส new high อีก
สายการบิน ไม่ควรลงทุน ต้องแข่งกับต่างประเทศ ที่รอดมาคือสนามบิน AOT ได้ประโยชน์ในระยะยาว มีการขยาย สนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ
Aging บริการใครบ้าง ค้าปลีก AEC มี CPN,CPALL แต่ cpall แพงไป ซื้อตรงนี้ต้นทุนร้อยเท่าเมื่อเทียบกับดรนิเวศน์ ถ้าเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ดูหุ้นพวกนี้ไว้ ตอน subprime ส่งออก การบริโภค โดนกระทบ แต่ BH , cpall กำไรเพิ่ม แต่หุ้นราคาลง เราควรเข้าไปตอนนั้น
Technology ไม่ชอบ เช่น สื่อสาร เพราะเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก เริ่มจาก สมัยก่อนต้องเดินทางมาบอก ต่อมามีPager ตอนนี้หายไป ส่วนมือถือ 3G ,4 G อาจเปลี่ยนแปลงได้ หาผู้นำได้ลำบาก เช่น เมื่อก่อนมียี่ห้อNokia,BB แต่เจ็งไป ตอนนี้มี I phone ไม่รู้จะอยู่รอดในอนาคตหรือเปล่า
ใครคิดว่า Facebook เมื่อห้าปีจะมี และ อีกห้าปีจะอยู่หรือเปล่า
ยารักษาโรค ได้แก่ โรงพยาบาล BDMS, BH ซึ่งBDMS น่าจะใช้กลยุทธ์เทคโอเวอร์คนอื่น ส่วน BH กำลังขยายพื้นที่ที่สุขุมวิท ใช้กลยุทธ์ ที่เดียว เปิดคลีนิคเล็กๆในเมืองนอก เพื่อนำคนไข้มาที่ประเทศไทย ค่ารักษาต่ำกว่าในประเทศของเขา มาทั้งครอบครัว มีบริการทัวร์พาไปเที่ยวด้วยครบวงจร
ธุรกิจการบริการ ประกัน เป็นสถาบันการเงิน หุ้นกลุ่มประกันภัยและชีวิต เงินลงทุนมาหารจำนวนหุ้น Portการลงทุนเป็นตราสารหนี้เป็นจำนวนเยอะ ซื้อหัุนดูที่เงินลงทุนแต่ธุรกิจได้ฟรี ตราสารหนี้ เกรด BBB plus อย่างน้อย ประกันภัย หลายประเทศทำไม่ได้ ได้กำไรจากการทำประกัน จ่ายค่าสินไหมน้อยกว่าที่รับมาก ต่างประเทศเจอภัยเยอะ แต่มีปัญหาสภาพคล่องน้อย ต้อง take over อย่างเดียว หั้นในกลุ่มนี้ BLA , BKI
ธนาคารเป็นธุรกิจอยู่ local จริงๆต้องแข่งระดับโลก ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง จากเดิมปล่อยสินเชื่อมาเป็น การหาค่า fee ต่อไปมีคนมาแข่ง ATM เป็นที่ปรึกษาของคนหรือธุรกิจ ใครปรับตัวได้ก็รอด ธนาคารที่แนะนำ เป็นธนาคารที่บริษัทแม่ของบริษัทผมซึ่งแนะนำไม่ได้
2. รูปแบบใหม่ เช่น รถไฟ หรือ infrastructure
ส่วนหุ้นตัวเล็ก ต้องไปหาจากสัมมนา กลยุทธ์การลงทุนอีกเวที

อจ เสน่ห์ กล่าวปิดการสัมมนา

สุดท้ายขอขอบคุณ ดร ไพบูลย์ อจ เสน่ห์ และ วิทยากรทุกท่านมาณ โอกาสนี้ด้วยครับ
CARPENTER
Verified User
โพสต์: 423
ผู้ติดตาม: 0

Re: Moneytalk@SET28Nov15ข้อคิดรุ่นใหญ่พิเศษ&จับMegatrend

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอบคุณมากครับ จขกท เขียนได้สุดยอดจริงๆ
จขกท เก่งมาก จับประเด็นเก่ง อ่านกระทู้นี้ใช้เวลาสิบกว่านาที
แต่ได้ความรู้เต็มๆ
ผมยืนอ่านหนังสือสมัยนี้ ในร้านหนังสือส่วนมากมีแต่น้ำกว่าจะได้เนื้อ
ใช้เวลาหลาย ชม
RnD-VI
Verified User
โพสต์: 2187
ผู้ติดตาม: 0

Re: Moneytalk@SET28Nov15ข้อคิดรุ่นใหญ่พิเศษ&จับMegatrend

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอบพระคุณพี่บิ๊ก และพี่อมร มากครับ
เราลงรายละเอียดระดับไหน + แผนการ + วินัยในการแบ่งและใช้เวลาในแต่ละวัน
Ragunar
Verified User
โพสต์: 57
ผู้ติดตาม: 0

Re: Moneytalk@SET28Nov15ข้อคิดรุ่นใหญ่พิเศษ&จับMegatrend

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
AnieLee
Verified User
โพสต์: 1436
ผู้ติดตาม: 0

Re: Moneytalk@SET28Nov15ข้อคิดรุ่นใหญ่พิเศษ&จับMegatrend

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ขอบคุณมากครับ

ยอดเยี่ยมมากครับ
####################################################
ความสำเร็จจากการลงทุน ไม่ได้เกิดจาก "การซื้อของดี" แต่มาจาก "การซื้อของได้ดี" ต่างหาก
ภาพประจำตัวสมาชิก
vim
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2748
ผู้ติดตาม: 0

Re: Moneytalk@SET28Nov15ข้อคิดรุ่นใหญ่พิเศษ&จับMegatrend

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ขอบคุณครับ
Vi IMrovised
Zippoice
Verified User
โพสต์: 87
ผู้ติดตาม: 0

Re: Moneytalk@SET28Nov15ข้อคิดรุ่นใหญ่พิเศษ&จับMegatrend

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ขอบคุณครับพี่บิ๊ก :D
ไม่ยึดติดสิ่งใดใด
C05
Verified User
โพสต์: 2
ผู้ติดตาม: 0

Re: Moneytalk@SET28Nov15ข้อคิดรุ่นใหญ่พิเศษ&จับMegatrend

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ขอบคุณครับ
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: Moneytalk@SET28Nov15ข้อคิดรุ่นใหญ่พิเศษ&จับMegatrend

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ขอบคุณมากๆ ทั้งสองท่านเลยค่ะ :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
kongkiti
Verified User
โพสต์: 5830
ผู้ติดตาม: 2

Re: Moneytalk@SET28Nov15ข้อคิดรุ่นใหญ่พิเศษ&จับMegatrend

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ขอบคุณครับ
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee

FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
ลูกหิน
Verified User
โพสต์: 1217
ผู้ติดตาม: 0

Re: Moneytalk@SET28Nov15ข้อคิดรุ่นใหญ่พิเศษ&จับMegatrend

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ขอบคุณมากๆนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Lastpun
Verified User
โพสต์: 819
ผู้ติดตาม: 0

Re: Moneytalk@SET28Nov15ข้อคิดรุ่นใหญ่พิเศษ&จับMegatrend

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ผมแอบรู้สึก technology มาเร็วกว่าที่เราคาดมาก แต่รถไฟบนดินใต้ดินรางคู่ ทำไมดูมันช้าๆจังกว่าจะสร้างเสร็จผมจะเข้า aging society กับเขาพอดี หวังว่าจะมีเทคโนโลยีช่วยให้ สร้าง infra เร็วขึ้นด้วยเถอะ
moo779
Verified User
โพสต์: 18
ผู้ติดตาม: 0

Re: Moneytalk@SET28Nov15ข้อคิดรุ่นใหญ่พิเศษ&จับMegatrend

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ขอบคุณมากครับ. สรุปใด้ดีมาก
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: Moneytalk@SET28Nov15ข้อคิดรุ่นใหญ่พิเศษ&จับMegatrend

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ ^^
โพสต์โพสต์