VI บ้าน ๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 842
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1021
..
...
แอบมาเผือกที่เที่ยวไว้ก่อนดีกว่า..
เด็กสามสี่ขวบ เที่ยวแบบวีไอ
เขาดิน ดูสัตว์ ถีบเรือเป็ด เอ๊ยหงส์ พิพิธภัณฑ์รถไฟ museumเด็กที่จตุจักร(ปิดไปแล้วยัง?)
นั่งเรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยาไปๆมาๆ นั่งรถไฟฟ้าต่อด้วยรถใต้ดิน แถมด้วยโหนรถเมล์สาย53วนรอบเมือง
ชักว่าว(ยังมีป่าว?)สนามหลวง ขึ้นภูเขาทอง
ถ้าออกนอกเมือง เอาแบบบ้่านนอก เอ๊ย ต่างจังหวัดไม่มี ก็พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ คลองหลวงโน่น
Museumของเล่น(อยุธยา) ขี่ช้างเมืองเก่า
รึmuseumของเก่า รถ(นครปฐม) สวนสามพราน(ขี่ช้าง) หุ่นขี้ผึ้ง(น่าจะดูไม่รู้เรื่อง)
รึเอาแบบสมัยใหม่ พ่อแม่มีกะตังค์ ก็สำเร็จรูปเลย ก็นั่งรถไฟฟ้าเวียนเข้าศูนย์การค้าทีละแห่ง กินฟาสต์ฟู้ด
กินขนมที่แปลกๆแพงๆ ดูหนังสี่มิติ(งั้นๆ) สยามโอเชี่ยนเวิร์ลด์ มาดามทุสโซ่
เดินดูร้านหรูๆของแพงๆ ร้านของเล่น(ระวังติดใจลงไปดิ้นแถกๆกับพื้น)
ไปก่อนดีก่า..สงสัยไปๆมาๆ เด็กมัน เอ๊ยเค้าเล่นแต่มือถือ เดินได้สิบนาทีก็เมื่อยกะร้อน จาหลบ(กลับ)บ้านท่าเดียว..
...
แอบมาเผือกที่เที่ยวไว้ก่อนดีกว่า..
เด็กสามสี่ขวบ เที่ยวแบบวีไอ
เขาดิน ดูสัตว์ ถีบเรือเป็ด เอ๊ยหงส์ พิพิธภัณฑ์รถไฟ museumเด็กที่จตุจักร(ปิดไปแล้วยัง?)
นั่งเรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยาไปๆมาๆ นั่งรถไฟฟ้าต่อด้วยรถใต้ดิน แถมด้วยโหนรถเมล์สาย53วนรอบเมือง
ชักว่าว(ยังมีป่าว?)สนามหลวง ขึ้นภูเขาทอง
ถ้าออกนอกเมือง เอาแบบบ้่านนอก เอ๊ย ต่างจังหวัดไม่มี ก็พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ คลองหลวงโน่น
Museumของเล่น(อยุธยา) ขี่ช้างเมืองเก่า
รึmuseumของเก่า รถ(นครปฐม) สวนสามพราน(ขี่ช้าง) หุ่นขี้ผึ้ง(น่าจะดูไม่รู้เรื่อง)
รึเอาแบบสมัยใหม่ พ่อแม่มีกะตังค์ ก็สำเร็จรูปเลย ก็นั่งรถไฟฟ้าเวียนเข้าศูนย์การค้าทีละแห่ง กินฟาสต์ฟู้ด
กินขนมที่แปลกๆแพงๆ ดูหนังสี่มิติ(งั้นๆ) สยามโอเชี่ยนเวิร์ลด์ มาดามทุสโซ่
เดินดูร้านหรูๆของแพงๆ ร้านของเล่น(ระวังติดใจลงไปดิ้นแถกๆกับพื้น)
ไปก่อนดีก่า..สงสัยไปๆมาๆ เด็กมัน เอ๊ยเค้าเล่นแต่มือถือ เดินได้สิบนาทีก็เมื่อยกะร้อน จาหลบ(กลับ)บ้านท่าเดียว..
samatah
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1022
พี่หมอหนึ่งแนะนำที่เที่ยวครอบคลุมทั่วกรุงเทพ ฯ และปริมณฑล แล้วค่ะ...ดีมากๆdr1 เขียน:..
...
แอบมาเผือกที่เที่ยวไว้ก่อนดีกว่า..
เด็กสามสี่ขวบ เที่ยวแบบวีไอ
เขาดิน ดูสัตว์ ถีบเรือเป็ด เอ๊ยหงส์ พิพิธภัณฑ์รถไฟ museumเด็กที่จตุจักร(ปิดไปแล้วยัง?)
นั่งเรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยาไปๆมาๆ นั่งรถไฟฟ้าต่อด้วยรถใต้ดิน แถมด้วยโหนรถเมล์สาย53วนรอบเมือง
ชักว่าว(ยังมีป่าว?)สนามหลวง ขึ้นภูเขาทอง
ถ้าออกนอกเมือง เอาแบบบ้่านนอก เอ๊ย ต่างจังหวัดไม่มี ก็พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ คลองหลวงโน่น
Museumของเล่น(อยุธยา) ขี่ช้างเมืองเก่า
รึmuseumของเก่า รถ(นครปฐม) สวนสามพราน(ขี่ช้าง) หุ่นขี้ผึ้ง(น่าจะดูไม่รู้เรื่อง)
รึเอาแบบสมัยใหม่ พ่อแม่มีกะตังค์ ก็สำเร็จรูปเลย ก็นั่งรถไฟฟ้าเวียนเข้าศูนย์การค้าทีละแห่ง กินฟาสต์ฟู้ด
กินขนมที่แปลกๆแพงๆ ดูหนังสี่มิติ(งั้นๆ) สยามโอเชี่ยนเวิร์ลด์ มาดามทุสโซ่
เดินดูร้านหรูๆของแพงๆ ร้านของเล่น(ระวังติดใจลงไปดิ้นแถกๆกับพื้น)
ไปก่อนดีก่า..สงสัยไปๆมาๆ เด็กมัน เอ๊ยเค้าเล่นแต่มือถือ เดินได้สิบนาทีก็เมื่อยกะร้อน จาหลบ(กลับ)บ้านท่าเดียว..
เอารูปมาฝากให้พิจารณาดีกว่าค่ะ
ถ้าไป "พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น" ที่อยุธยา ก็นั่งช้างด้วย
ที่ตลาดน้ำอโยธยาลูกแพะเชื่องๆ ให้เราไปป้อนนม ป้อนถั่วฝักยาวได้
เพิ่งพาเพื่อต่างชาติไป ลูกเขา 3 ขวบ ไม่ชอบ "พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น"
ไม่ยอมนั่งช้าง แต่ป้อนกล้วยช้าง และชอบให้อาหารแพะมากๆๆๆๆๆๆ ถ้าไปที่นี่ "สยามโอเชี่ยนเวิร์ลด์_มาดามทุสโซ่_kidzania" กลุ่มเดียวกันค่ะ
http://bangkok.kidzania.com/en-us/activ ... ing-system ที่นี่จะมีกิจกรรม Lab ให้เลือกเข้า...และมีพิพพิธภัณ์จำลองเหตุการณ์ เป็นคนตาบอด ร้านอาหารอร่อยๆ ที่เป็น Mini Zoo ด้วย.....ปัจจุบันงู corn ในภาพตายหมดแล้ว (หมดอายุขัย)
และร้านได้เปลี่ยนไปขายก๋วยเตี๋ยวเป็ด แต่ยังคงมีพวกนกสวยงาม
ลิงปฺิ๊กมี่ นกแก้วมาคอร์ กระตั้ว งูเหลือมบอล (เชื่องจับได้) รร.นายร้อย จปร. นครนายก
ไร่กุสุมา_สระบุรี ที่ชอบพาลูกไปบ่อยมากๆ คือพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์คลองหน้า
ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ (ดูฉายดาว) จะมีอาคารแสดงนิทรรศการแยกต่างหากด้วย
บางช่วงมีผีเสื้อก็มีพวกหนอนหนามมาให้จับได้ น่ารัก
ซาฟารีเวิลร์ด์_บางครั้งก็เลือกเข้าแค่ ซาฟารี ปาร์ค ดูการให้อาหารเสือ
เปิดกระจกรถให้จับอูฐ และนกกระจอกเทศได้
พิพิธภัณฑ์ร่างกาย มีสองที่ คณะทันตจุฬา เป็นแบบแห้ง ใช้แลว๊กเคลือบ และฉีดสารสีเข้าเส้นเลือด
ของศิริราช เป็นแบบดอง แช่อยู่ในน้ำ แบบแห้งก็มีแต่ไม่ค่อยสวยเท่าของทันต จุฬา ค่ะ
ถ้าไปศิริราช นั่งเรือข้ามฟากไปค่ะ...ได้บรรยากาศดีๆ อีกแบบ
สถานเสาวภา สภากาชาดไทย มีพิพิฑภัณฑ์งู โชว์รีดพิษงู (ลูกพี่ชอบที่นี่มากๆ ไปบ่อยๆ)
พิพิธภัณฑ์ ทั้งหมดปิดวันจันทร์ค่ะ
สวนสัตว์ดุสิตก็ดีมาก หลังๆ พัฒนาดีขึ้นมากลูกพี่ยังชอบไปค่ะ
สวนสัตว์พาต้า ปิ่นเกล้า ที่นี่ไปบ่อย เพราะมีมายากลให้ดูด้วย
เด็กๆ นั่งหน้าเวที ตื่นเต้นกันใหญ่ ต่อด้วยละครลิง
และให้เด็กๆ ขึ้นไปจับมือถ่ายรูปกับลิงได้ที่นี่ก็ไปบ่อยค่ะ
save file ไว้ใน Drive เหมทือนจะเสียค่ะ
เด๊่ยวจะลองหารูปให้อีกครั้งนะคะ
น้องสายชล...ดูเท่าที่มีไปก่อนนะคะ
ขอบคุณพี่หมอหนึ่งด้วยค่ะ...ท่าทางพี่หมอหนึ่งน่าจะมีลูกหลายคนนะคะ อิ อิ
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1023
ขอบคุณครับพี่นุชtheenuch เขียน: พี่มาเห็นช้าไปมั้ยเนี่ย...หวังว่ายังทันนะคะ
น้องสายชลจะคุณแม่ และเด็กๆ มาธุระหรือตั้งใจพามาเที่ยวเลย
จะมากันเมื่อไหร่คะ...มาพักที่บ้านพี่ก็ได้นะ
เด๊่ยวพี่อาสาพาเที่ยวให้ทั้งครอบครัวค่ะ
ว่างงานค่ะ...สามารถและยินดี
เดี่ยวไปคิดโปรแกรมก่อนแล้วจะมาตอบนะคะ ^__^
เราวางแผนจะพาเด็กๆไปเที่ยวกทม.ในวันเสาร์และอาทิตย์ สัปดาห์ที่2ของเดือนก.ค.ครับ
ส่วนเรื่องที่พัก ขอไม่รบกวนพี่ดีกว่าครับ (เกรงใจหน่ะครับ)
เอาเป็นว่าถ้าพี่นุชสะดวกในช่วงดังกล่าว เราค่อยนัดทานข้าว
กันแทน(โดยผมขอเป็นเจ้าภาพ)โอเคไม๊ครับ
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1024
ขอบคุณครับท่านdr1dr1 เขียน:..
...
แอบมาเผือกที่เที่ยวไว้ก่อนดีกว่า..
เด็กสามสี่ขวบ เที่ยวแบบวีไอ
เขาดิน ดูสัตว์ ถีบเรือเป็ด เอ๊ยหงส์ พิพิธภัณฑ์รถไฟ museumเด็กที่จตุจักร(ปิดไปแล้วยัง?)
นั่งเรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยาไปๆมาๆ นั่งรถไฟฟ้าต่อด้วยรถใต้ดิน แถมด้วยโหนรถเมล์สาย53วนรอบเมือง
ชักว่าว(ยังมีป่าว?)สนามหลวง ขึ้นภูเขาทอง
ถ้าออกนอกเมือง เอาแบบบ้่านนอก เอ๊ย ต่างจังหวัดไม่มี ก็พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ คลองหลวงโน่น
Museumของเล่น(อยุธยา) ขี่ช้างเมืองเก่า
รึmuseumของเก่า รถ(นครปฐม) สวนสามพราน(ขี่ช้าง) หุ่นขี้ผึ้ง(น่าจะดูไม่รู้เรื่อง)
รึเอาแบบสมัยใหม่ พ่อแม่มีกะตังค์ ก็สำเร็จรูปเลย ก็นั่งรถไฟฟ้าเวียนเข้าศูนย์การค้าทีละแห่ง กินฟาสต์ฟู้ด
กินขนมที่แปลกๆแพงๆ ดูหนังสี่มิติ(งั้นๆ) สยามโอเชี่ยนเวิร์ลด์ มาดามทุสโซ่
เดินดูร้านหรูๆของแพงๆ ร้านของเล่น(ระวังติดใจลงไปดิ้นแถกๆกับพื้น)
ไปก่อนดีก่า..สงสัยไปๆมาๆ เด็กมัน เอ๊ยเค้าเล่นแต่มือถือ เดินได้สิบนาทีก็เมื่อยกะร้อน จาหลบ(กลับ)บ้านท่าเดียว..
คนอะไรเก๊งเก่ง ปรึกษาได้ทุกเรื่องเชียว
ตอนแรกนึกตั้งนานว่ามาเผือกที่ท่านว่าคืออะไร
เพิ่งเข้าใจ...
แบบนี้ไม่เรียกเผือกครับ เค้าเรียกคนมีน้ำใจต่างหากล่ะครับ
เสียดายท่านอยู่หาดใหญ่ ไม่งั้นว่าจะชวนไปทานข้าวด้วยกันที่กทม.ซ๊ะหน่อย
(วันก่อนพี่โจกับพี่จรัญพาไปเลี้ยงอาหารญี่ปุ่นร้านหนึ่ง อร๊อย อร่อย
ว่าจะชวนท่านไปตามรอยหน่อย)
แต่ไม่เป็นไรครับ เอาเป็นว่าผมรอท่านพาไปท่องราตรีที่ญี่ปุ่น ตามที่เคยคุยกันไว้แทนดีกว่า
ท่านพร้อมเมื่อไหร่แจ้งมาได้เลยน๊ะครับ ฮ่า...
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1025
มีให้เลือกเยอะเลยครับtheenuch เขียน:
น้องสายชล...ดูเท่าที่มีไปก่อนนะคะ
ขอบคุณพี่หมอหนึ่งด้วยค่ะ...ท่าทางพี่หมอหนึ่งน่าจะมีลูกหลายคนนะคะ อิ อิ
ขอเอาไปศึกษาและสอบถามสมาชิกก่อนว่าจะไปที่ไหนบ้างน๊ะครับ
ปล.ครั้งนี้เราไปเป็นครั้งที่2แล้วครับ
ครั้งที่ผ่านมาเราไปนั่งรถไฟฟ้า ,ไปซาฟารี เวิล์ล, มอลลี่ แลนด์ที่เมกกะบางนา แล้วก็sea life
(ชื่อเดิมน่าจะสยามโอเชี่ยลเวิล์ลหรือเปล่าไม่แน่ใจ)
เด็กๆชอบทุกที่ครับ โดยเฉพาะการดูโชว์ปลาโลมา
และการแสดงของลิงซิมแปนซี ที่ซาฟารี เวิล์ล รอบนี้เลยวางแผนจะไปกันอีกหน่ะครับ
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1026
11-12 กค ใช่มั้ยคะ...ที่จริงมาพักได้จริงๆ นะsaichon เขียน:ขอบคุณครับพี่นุชtheenuch เขียน: พี่มาเห็นช้าไปมั้ยเนี่ย...หวังว่ายังทันนะคะ
น้องสายชลจะคุณแม่ และเด็กๆ มาธุระหรือตั้งใจพามาเที่ยวเลย
จะมากันเมื่อไหร่คะ...มาพักที่บ้านพี่ก็ได้นะ
เด๊่ยวพี่อาสาพาเที่ยวให้ทั้งครอบครัวค่ะ
ว่างงานค่ะ...สามารถและยินดี
เดี่ยวไปคิดโปรแกรมก่อนแล้วจะมาตอบนะคะ ^__^
เราวางแผนจะพาเด็กๆไปเที่ยวกทม.ในวันเสาร์และอาทิตย์ สัปดาห์ที่2ของเดือนก.ค.ครับ
ส่วนเรื่องที่พัก ขอไม่รบกวนพี่ดีกว่าครับ (เกรงใจหน่ะครับ)
เอาเป็นว่าถ้าพี่นุชสะดวกในช่วงดังกล่าว เราค่อยนัดทานข้าว
กันแทน(โดยผมขอเป็นเจ้าภาพ)โอเคไม๊ครับ
แต่ไม่เป็นไรจ้า เอาที่น้องสายชลสะดวก
......................
น้องสิงโต หน้าเหมือน พี่ไทเกอร์ มากขึ้นเรื่อยๆ แล้วเนอะ
พวกเขาเข้าใจเลือกเหมือนนะคะ เลือกผิวคุณแม่ หน้าและรูปหน้าน่ารักแบบคุณแม่
แต่ตากลมๆ โตๆ เหมือนคุณพ่อ ออกมา perfect เลย
.......................
"สถานเสาวภา" น่าไปดู เพราะสถานที่ให้ความรู้เรื่องงูหาดูไม่ง่าย
และการ "รีดพิษงู" มีที่นี่ที่เดียวเลยค่ะ
http://2g.pantip.com/cafe/gallery/topic ... 31500.html
.......................
จามจุรีแสคว์ อพวช. น้องสายชลลองดูตาม link นี้นะ
http://122.155.162.144/nsm2009/chamchur ... 11&lang=th
http://122.155.162.144/nsm2009/chamchur ... 11&lang=th
เด๊่ยวใกล้วันเราดูตารางอีกครั้งก็ได้ว่าเขาจัดกิจกรรมเรื่องอะไร....เด๊่ยวพี่เอาตารางมาให้เลือก
ถ้าเหมาะกับ ไทเกอร์ และสิงโต ค่อยตัดสินใจ
........................
สวนสัตว์พาต้า
http://pantip.com/topic/31757517
........................
มาดามทุทโซ แอบราคาสูง และถ้าเด็กๆ ยังไม่รู้จักต้นแบบที่นำมาทำหุ่นขี้ผึ้งเขาจะประทับใจน้อยกว่า
รอเขาโตกว่านี้อีกนิด น่าจะดีกว่าค่ะ
.......................
เรื่องนัดนั้นแน่นอนค่ะพี่อยากเจอเด็กๆ มากเห็นแต่รูปเขามานาน
และกว่าคนไกลเดินทางทางให้เจอครบทั้งครอบครัวแบบนี้...พี่ทำตัวว่างรอเลยจ้า
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1027
ขอบคุณอีกครั้งครับพี่นุชtheenuch เขียน: เรื่องนัดนั้นแน่นอนค่ะพี่อยากเจอเด็กๆ มากเห็นแต่รูปเขามานาน
และกว่าคนไกลเดินทางทางให้เจอครบทั้งครอบครัวแบบนี้...พี่ทำตัวว่างรอเลยจ้า
ผมค่อยpmเบอร์โทรและนัดวัน เวลา สถานที่กับพี่อีกครั้งน๊ะครับ
ปล.พี่นุชเผื่อใจไว้ปวดหัวกับความซนและดื้อของพวกเค้าไว้หน่อยก็ดีน๊ะครับ
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1028
ยินดีจ้าsaichon เขียน:ขอบคุณอีกครั้งครับพี่นุชtheenuch เขียน: เรื่องนัดนั้นแน่นอนค่ะพี่อยากเจอเด็กๆ มากเห็นแต่รูปเขามานาน
และกว่าคนไกลเดินทางทางให้เจอครบทั้งครอบครัวแบบนี้...พี่ทำตัวว่างรอเลยจ้า
ผมค่อยpmเบอร์โทรและนัดวัน เวลา สถานที่กับพี่อีกครั้งน๊ะครับ
ปล.พี่นุชเผื่อใจไว้ปวดหัวกับความซนและดื้อของพวกเค้าไว้หน่อยก็ดีน๊ะครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1029
"อิสรภาพ...ของมนุษย์เงินเดือน"...มีจริงหรือ?
(Theenuch_Team Money Talk 4)
..................... ช่วงหลังๆ ของชีวิตราชการ ระบบขึ้นเงินเดือน ขรก.
ยกเลิกระบบซี และขั้น เปลี่ยนเป็นแบบ "แบ่งเค้ก" กัน
งานเราไม่ใช่ภารกิจหลักของหน่วยงาน..ผลคือ"เงินเดือนต่ำ..ซ้ำซาก"
....................
คิดอยู่เสมอว่า...ถ้าไม่สร้างทางเลือกให้ตัวเอง
ก็เหมือน “พายเรืออยู่ในหนองน้ำ” หาทางออกไม่ได้
.
จึงมุ่งมั่นหาความรู้ และลงทุนควบคู่ไปด้วย
เมื่อผลตอบแทนจากการลงทุน...แซงเงินเดือนไปมาก
แม้เงินเดือนขึ้นน้อย...ก็ไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไร
.
ประกอบกับ “ไม่อยากมี ไม่อยากได้ ไม่อยากเป็น”
พบว่าตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด แล้วสันโดษในผลได้จริง
ไม่แข่งขัน...ผลงานที่ทำร่วมกัน ก็ยินดียกให้คนอื่นได้
.
ยังต้องพายเรือ "ขอเก็บดอกบัวไปด้วย ละกัน ! "
อย่าให้ต้องพาย หนีพายุเลย !
.
พออายุราชการครบ 25 ปี.."เลือก" ลาออกรับบำนาญค่ะ
..................
เวลาเจอปัญหาเรื่องงาน เพื่อนๆ มักจะ"ชวนกันบ่น"
ยิ่งเป็นมากขึ้น เมื่อขึ้นเงินเดือนแบบ "แบ่งเค้ก"
.
เคยเจอมั้ยกันคะ.."บ่น / ปรับทุกข์" กัน (เอกชนก็คงมี)
"เห็นอก เห็นใจกัน หายทุกข์กัน" เป็นครั้งๆ กันไป
(บางครั้ง..ไปเลี้ยงปลอบใจกัน..เสียตังค์กัน..อีก!)
แต่..ไม่นานก็วนเข้าวงจรเดิม (วงจร..ทุกข์..ซ้ำซาก)
..................
อยากชวนให้ "เลิกบ่น"..นำ "เวลาอันมีค่า" และ "มีจำกัด"
ไปพัฒนาทักษะใดๆ ที่เกื้อหนุนงานที่ทำให้ดียิ่งขึ้น
จะได้มีโอกาสก้าวหน้า หรือพัฒนาอาชีพเสริมอื่นๆ
เพื่อให้มีรายรับมากขึ้น..ไม่ต้องง้อเงินจากแหล่งเดียว
.
มุ่งมั่นเก็บออม...นำไปลงทุนให้งอกเงยแต่เนิ่นๆ
ถ้าไม่ถนัดลงทุนเอง...ก็ลงทุนผ่านกองทุนรวม
ถ้าถนัดสร้างธุรกิจ หรืออื่นๆ ก็ "เอาที่สบายใจแล้วกัน" แต่ "เริ่มเลย..ดีมั้ย?"
..................
ถึงระดับนึง...จะกลายเป็น "มนุษย์เงินเดือนขั้นเทพ"
ที่สามารถ **ปลดปล่อย "จิตใจ" จากพันธนาการ** ได้
แล้วจะรู้ว่า "อิสรภาพ...ของมนุษย์เงินเดือน" นั้นมีจริง ^__^
...................
หากทำได้ต่อเนื่อง จนมีอิรภาพทางการเงิน
แล้วยังรักงานประจำ...ก็เป็น "มนุษย์เงินเดือนขั้นเทพ" ต่อไป
แต่ถ้าอยากหยุดก็สามารถ...ก็มีทางเลือกแล้วนี่นา
.
หยุดบ่น...แล้ว "ลงมือสร้างทางเลือกให้ตัวเอง" กันเถอะค่ะ
("เลิกพายเรือในหนองน้ำ" มา "โบยบิน" สู่อิรภาพกัน)
..................
มีเพลงมาฝากค่ะ...เมื่อก่อนชอบฟังในวันที่เหนื่อยๆ...ฟังแล้วรู้สึกมีหวัง มีพลัง
(เพลงบ่งบอกวัย เรย ย.. แอบอายนะเนี่ย!...แต่ก็อยากให้ฟังค่ะ ^__* )
https://www.youtube.com/watch?v=_oK-XhJ6dsc
วันนั้น...แม้ไม่เห็นฝั่ง แต่เชื่อว่ามีอยู่จริง...จึงเพียรมุ่งมั่นไป
วันนี้..ผู้เขียนมาถึงฝั่งแล้ว..ผู้อ่านก็ทำได้ถ้าตั้งใจ..สู้ สู้ กัน..นะคะ ^__^
(Theenuch_Team Money Talk 4)
..................... ช่วงหลังๆ ของชีวิตราชการ ระบบขึ้นเงินเดือน ขรก.
ยกเลิกระบบซี และขั้น เปลี่ยนเป็นแบบ "แบ่งเค้ก" กัน
งานเราไม่ใช่ภารกิจหลักของหน่วยงาน..ผลคือ"เงินเดือนต่ำ..ซ้ำซาก"
....................
คิดอยู่เสมอว่า...ถ้าไม่สร้างทางเลือกให้ตัวเอง
ก็เหมือน “พายเรืออยู่ในหนองน้ำ” หาทางออกไม่ได้
.
จึงมุ่งมั่นหาความรู้ และลงทุนควบคู่ไปด้วย
เมื่อผลตอบแทนจากการลงทุน...แซงเงินเดือนไปมาก
แม้เงินเดือนขึ้นน้อย...ก็ไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไร
.
ประกอบกับ “ไม่อยากมี ไม่อยากได้ ไม่อยากเป็น”
พบว่าตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด แล้วสันโดษในผลได้จริง
ไม่แข่งขัน...ผลงานที่ทำร่วมกัน ก็ยินดียกให้คนอื่นได้
.
ยังต้องพายเรือ "ขอเก็บดอกบัวไปด้วย ละกัน ! "
อย่าให้ต้องพาย หนีพายุเลย !
.
พออายุราชการครบ 25 ปี.."เลือก" ลาออกรับบำนาญค่ะ
..................
เวลาเจอปัญหาเรื่องงาน เพื่อนๆ มักจะ"ชวนกันบ่น"
ยิ่งเป็นมากขึ้น เมื่อขึ้นเงินเดือนแบบ "แบ่งเค้ก"
.
เคยเจอมั้ยกันคะ.."บ่น / ปรับทุกข์" กัน (เอกชนก็คงมี)
"เห็นอก เห็นใจกัน หายทุกข์กัน" เป็นครั้งๆ กันไป
(บางครั้ง..ไปเลี้ยงปลอบใจกัน..เสียตังค์กัน..อีก!)
แต่..ไม่นานก็วนเข้าวงจรเดิม (วงจร..ทุกข์..ซ้ำซาก)
..................
อยากชวนให้ "เลิกบ่น"..นำ "เวลาอันมีค่า" และ "มีจำกัด"
ไปพัฒนาทักษะใดๆ ที่เกื้อหนุนงานที่ทำให้ดียิ่งขึ้น
จะได้มีโอกาสก้าวหน้า หรือพัฒนาอาชีพเสริมอื่นๆ
เพื่อให้มีรายรับมากขึ้น..ไม่ต้องง้อเงินจากแหล่งเดียว
.
มุ่งมั่นเก็บออม...นำไปลงทุนให้งอกเงยแต่เนิ่นๆ
ถ้าไม่ถนัดลงทุนเอง...ก็ลงทุนผ่านกองทุนรวม
ถ้าถนัดสร้างธุรกิจ หรืออื่นๆ ก็ "เอาที่สบายใจแล้วกัน" แต่ "เริ่มเลย..ดีมั้ย?"
..................
ถึงระดับนึง...จะกลายเป็น "มนุษย์เงินเดือนขั้นเทพ"
ที่สามารถ **ปลดปล่อย "จิตใจ" จากพันธนาการ** ได้
แล้วจะรู้ว่า "อิสรภาพ...ของมนุษย์เงินเดือน" นั้นมีจริง ^__^
...................
หากทำได้ต่อเนื่อง จนมีอิรภาพทางการเงิน
แล้วยังรักงานประจำ...ก็เป็น "มนุษย์เงินเดือนขั้นเทพ" ต่อไป
แต่ถ้าอยากหยุดก็สามารถ...ก็มีทางเลือกแล้วนี่นา
.
หยุดบ่น...แล้ว "ลงมือสร้างทางเลือกให้ตัวเอง" กันเถอะค่ะ
("เลิกพายเรือในหนองน้ำ" มา "โบยบิน" สู่อิรภาพกัน)
..................
มีเพลงมาฝากค่ะ...เมื่อก่อนชอบฟังในวันที่เหนื่อยๆ...ฟังแล้วรู้สึกมีหวัง มีพลัง
(เพลงบ่งบอกวัย เรย ย.. แอบอายนะเนี่ย!...แต่ก็อยากให้ฟังค่ะ ^__* )
https://www.youtube.com/watch?v=_oK-XhJ6dsc
วันนั้น...แม้ไม่เห็นฝั่ง แต่เชื่อว่ามีอยู่จริง...จึงเพียรมุ่งมั่นไป
วันนี้..ผู้เขียนมาถึงฝั่งแล้ว..ผู้อ่านก็ทำได้ถ้าตั้งใจ..สู้ สู้ กัน..นะคะ ^__^
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
-
- Verified User
- โพสต์: 292
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1032
ขอบคุณครับคุณนุช ยังติดตามอ่านเสมอ
เป็นกำลังใจและแรงผลักดันให้ก้าวเดินต่อไป
ผมได้ดูคลิปนี้เลยเอามาฝาก
........................................................
ตายอย่างดี
https://www.youtube.com/watch?v=cAEJ6wDIMb4
เป็นแบบที่ผมได้รู้เห็นวิถึชีวิตจากอินเดียเลย
แต่หนังที่ทำให้ผมอยากไปอินเดียเป็นหนังชุดนี้ครับ
.........................................................
ตามรอยพระพุทธเจ้า
https://www.youtube.com/watch?v=pEMZmvH ... F863C178D0
...........................................................
หลังจากกลับมาจากอินเดีย ทำให้ผมอยากศึกษาธรรมะมากขึ้น เลยหาที่เรียนสมาธิ
พอดีภรรยาผมได้โบร์ชัวครอสเรียนสมาธิสายวัดป่าหลวงปู่มั่นมา
เลยชวนไปเรียน นึกว่า 4-5 วัน ไม่เกิน 10 .....เราว่างพอดี
หารู้ไม่ หกเดือน ...สมใจ
เป็นครอสทำให้รู้วิธีการ ทั้งทฤษฏี และปฏิบัติ
ตอนนี้ผมเรียนได้ สี่เดือนกว่าแล้ว
เผื่อคุณนุชหรือผู้สนใจ ลองไปดูก่อน หรือสมัครเรียนได้
..............................................
เรียนสมาธิไฮเทค ครอส 6 เดือนเรียนเสาร์-อาทิตย์หรือตอนเย็นวันธรรมดา
http://samathi.com/
รุ่นใหม่จะเป็นสอนเดือนสิงหา นี้ มีสาขาให้เรียนใกล้บ้านนะครับ ค้นหาสาขาเรียนได้
ผมว่าดีมากกับคนสนใจใฝ่ศึกษา หรือจริงจัง
โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เพราะเรียนตอนเย็น หรือเสาร์-อาทิตย์
วิธีการเรียน การสอนก็เหมาะกับวิถีชีวิตเรา วิถึชีวิตคนสมัยนี้
เป็นกำลังใจและแรงผลักดันให้ก้าวเดินต่อไป
ผมได้ดูคลิปนี้เลยเอามาฝาก
........................................................
ตายอย่างดี
https://www.youtube.com/watch?v=cAEJ6wDIMb4
เป็นแบบที่ผมได้รู้เห็นวิถึชีวิตจากอินเดียเลย
แต่หนังที่ทำให้ผมอยากไปอินเดียเป็นหนังชุดนี้ครับ
.........................................................
ตามรอยพระพุทธเจ้า
https://www.youtube.com/watch?v=pEMZmvH ... F863C178D0
...........................................................
หลังจากกลับมาจากอินเดีย ทำให้ผมอยากศึกษาธรรมะมากขึ้น เลยหาที่เรียนสมาธิ
พอดีภรรยาผมได้โบร์ชัวครอสเรียนสมาธิสายวัดป่าหลวงปู่มั่นมา
เลยชวนไปเรียน นึกว่า 4-5 วัน ไม่เกิน 10 .....เราว่างพอดี
หารู้ไม่ หกเดือน ...สมใจ
เป็นครอสทำให้รู้วิธีการ ทั้งทฤษฏี และปฏิบัติ
ตอนนี้ผมเรียนได้ สี่เดือนกว่าแล้ว
เผื่อคุณนุชหรือผู้สนใจ ลองไปดูก่อน หรือสมัครเรียนได้
..............................................
เรียนสมาธิไฮเทค ครอส 6 เดือนเรียนเสาร์-อาทิตย์หรือตอนเย็นวันธรรมดา
http://samathi.com/
รุ่นใหม่จะเป็นสอนเดือนสิงหา นี้ มีสาขาให้เรียนใกล้บ้านนะครับ ค้นหาสาขาเรียนได้
ผมว่าดีมากกับคนสนใจใฝ่ศึกษา หรือจริงจัง
โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เพราะเรียนตอนเย็น หรือเสาร์-อาทิตย์
วิธีการเรียน การสอนก็เหมาะกับวิถีชีวิตเรา วิถึชีวิตคนสมัยนี้
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1033
ดู clip ที่พี่นำมาฝากโดยเฉพาะ clip แรกddoo7 เขียน:ขอบคุณครับคุณนุช ยังติดตามอ่านเสมอ
เป็นกำลังใจและแรงผลักดันให้ก้าวเดินต่อไป
ผมได้ดูคลิปนี้เลยเอามาฝาก
........................................................
ตายอย่างดี
https://www.youtube.com/watch?v=cAEJ6wDIMb4
เป็นแบบที่ผมได้รู้เห็นวิถึชีวิตจากอินเดียเลย
แต่หนังที่ทำให้ผมอยากไปอินเดียเป็นหนังชุดนี้ครับ
.........................................................
ตามรอยพระพุทธเจ้า
https://www.youtube.com/watch?v=pEMZmvH ... F863C178D0
...........................................................
หลังจากกลับมาจากอินเดีย ทำให้ผมอยากศึกษาธรรมะมากขึ้น เลยหาที่เรียนสมาธิ
พอดีภรรยาผมได้โบร์ชัวครอสเรียนสมาธิสายวัดป่าหลวงปู่มั่นมา
เลยชวนไปเรียน นึกว่า 4-5 วัน ไม่เกิน 10 .....เราว่างพอดี
หารู้ไม่ หกเดือน ...สมใจ
เป็นครอสทำให้รู้วิธีการ ทั้งทฤษฏี และปฏิบัติ
ตอนนี้ผมเรียนได้ สี่เดือนกว่าแล้ว
เผื่อคุณนุชหรือผู้สนใจ ลองไปดูก่อน หรือสมัครเรียนได้
..............................................
เรียนสมาธิไฮเทค ครอส 6 เดือนเรียนเสาร์-อาทิตย์หรือตอนเย็นวันธรรมดา
http://samathi.com/
รุ่นใหม่จะเป็นสอนเดือนสิงหา นี้ มีสาขาให้เรียนใกล้บ้านนะครับ ค้นหาสาขาเรียนได้
ผมว่าดีมากกับคนสนใจใฝ่ศึกษา หรือจริงจัง
โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เพราะเรียนตอนเย็น หรือเสาร์-อาทิตย์
วิธีการเรียน การสอนก็เหมาะกับวิถีชีวิตเรา วิถึชีวิตคนสมัยนี้
แล้วคิดว่า...ชีวิตเราทุกวันนี้ช่างโชคดีมากๆ (ให้ลูกดูด้วยค่ะ)
ที่พี่ไปอินเดียมาเจอแบบใน clip นี้ครบเลยมั้ยคะ
อยากไปบ้าง ชวนพ่อลูก ไม่มีใครกล้าไปด้วยเลยค่ะ
ขอบคุณพี่ ddoo7 มากเลยนะคะ
และยินดีด้วยกับชีวิตหลังเกษียณที่มีความสุข
ปล.บ้านไม้หลังน้อยๆ เป็นยังไงบ้างแล้วคะ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1034
เก็บเงิน 10 ล้านคุณทำได้
(Theenuch_Team Money Talk 4)
................... เมื่อ 5 ปี ที่แล้ว ก่อนลงทุน (อายุใกล้ 40)
เจอเล่มนี้ (ตาลุกวาว)..ยืนอ่านในร้าน (แบบหลบๆ ซ่อนๆ)
ดูชื่อหนังสือสิ!...ใครเห็นเข้าจะหาว่าเรา “ฟุ้งซ่าน”
...................
อ่านรวดเดียวจบค่ะ...และซื้อมาไว้อ่านซ้ำๆ ด้วย
ตอบคำถามท้ายเล่ม...ไว้แบบในภาพ
(แต่ในใจพูดว่า “จะพยายาม” ไม่ทันรุ่นนี้...รุ่นลูกก็ยังดี)
.....................
พอเริ่มลงทุน...ก็เปลี่ยนไปอ่านหนังสือการลงทุน
แต่ถ้ามีใครมาถามว่า “ทำยังไง..ถึงจะรวย"
จะแนะนำให้อ่านเล่มนี้ หนังสือชุดพ่อรวยทั้งชุด และ ฯลฯ
เพื่อปรับ mind set เรื่องการบริหารการเงินส่วนบุคคล
....................
แนะนำหลายเล่มน้อยคนที่จะอ่านจบ
และบ่นตรงกัน (อย่างไม่น่าเชื่อ) ว่า......
เขาอยาก "เล่นหุ้น+รวยหุ้น" ไม่ได้อยากบริหารเงิน
(แนวๆ “รวยหุ้นง๊าย ง่าย” “สิบเด้ง...ในพริบตา” ฯลฯ)
......................
“การลงทุน” เป็น sub set ของการบริหารเงินค่ะ
จะรวยด้วยหุ้น หรือ รวยจากอะไร ก็ต้องบริหารเงินทั้งนั้น
.
คนที่มีทัศนคติเรื่องดังกล่าวถูกต้อง
จะศึกษาหาความรู้ "ใส่ใจ_การลงทุน" อย่างที่ควร
เพื่อจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องเสี่ยงๆ แบบเสี่ยงน้อยลง
.
เลือกลงทุนระยะยาวในหุ้นของบริษัท
ที่มีความได้เปรียบในการแข่งขันในระยะยาว
หวังเติบโตไปกับกิจการ (ทำงานไป ลงทุนไปก็ได้)
.
ในทางกลับกัน...อีกกลุ่ม..จะ "เล่นหุ้น" แบบหวังรวยเร็ว
ภาวะการควบคุมอารมณ์ มักจะด้อยลงไปมาก
จบลงที่ซื้อๆ ขายๆ...ถ้า "ซื้อถูก-ขายแพง" ก็ไม่ใช่ปัญหา
แต่ส่วนใหญ่ กลับ "ซื้อแพง..ขายถูก" ซะงั้น !
....................
สำหรับคนอยากรวย...สิ่งที่สำคัญพอๆ กับทัศนคติ คือ
การ “ลงมือทำ" คำว่า "คุณทำได้” จะเป็นจริงได้
ก็ต่อเมื่อ ลงมือ "บริหารการเงินส่วนบุคคล_ทั้งระบบ"
"หาเงิน" "ออมเงิน" "นำไปลงทุนให้งอกเงย"
ก็มีโอกาสรวย (ถึงไม่รวยมาก...ก็ไม่จนแหละน่า!)
......................
ผู้เขียนไม่ได้มีอะไรต่างจากผู้อ่านมากนัก...ยังทำได้
วุฒิการศึกษา ระดับสติปัญญา พอๆ กับผู้อ่าน...ไม่ได้เกิดมารวย
เคยเช่าหอถูกๆ ต้องเลือกแบบพัดลม โหนรถเมล์ไปทำงาน
ต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ...อดหลับอดนอนทำงานพิเศษเพิ่ม ฯลฯ (เหมิอนมั้ยล่ะ)
(แค่มีทัศนคติที่ถูกต้อง...และมีความพยายามมาก กกกกก หน่อย)
แต่บอกไว้ก่อนว่า..."มันต้องเหนื่อย ต้องอดทนมาก...แต่มันคุ้มจริง"
......................
ถ้าผู้เขียนทำได้...ผู้อ่านก็ทำได้ค่ะ (เชียร์ เชียร์)
ไม่จำเป็นต้อง 10 ล้าน...เอาที่เราสบายใจแล้วกัน
ลงมือทำทันที...ยังไงๆ ก็ก้าวหน้าจากจุดเริ่มต้นแน่นอน
.
สุดท้าย..อยากย้ำว่า.. **เก็บเงินให้งอกเงย_คุณทำได้** ค่ะ
.
(Theenuch_Team Money Talk 4)
................... เมื่อ 5 ปี ที่แล้ว ก่อนลงทุน (อายุใกล้ 40)
เจอเล่มนี้ (ตาลุกวาว)..ยืนอ่านในร้าน (แบบหลบๆ ซ่อนๆ)
ดูชื่อหนังสือสิ!...ใครเห็นเข้าจะหาว่าเรา “ฟุ้งซ่าน”
...................
อ่านรวดเดียวจบค่ะ...และซื้อมาไว้อ่านซ้ำๆ ด้วย
ตอบคำถามท้ายเล่ม...ไว้แบบในภาพ
(แต่ในใจพูดว่า “จะพยายาม” ไม่ทันรุ่นนี้...รุ่นลูกก็ยังดี)
.....................
พอเริ่มลงทุน...ก็เปลี่ยนไปอ่านหนังสือการลงทุน
แต่ถ้ามีใครมาถามว่า “ทำยังไง..ถึงจะรวย"
จะแนะนำให้อ่านเล่มนี้ หนังสือชุดพ่อรวยทั้งชุด และ ฯลฯ
เพื่อปรับ mind set เรื่องการบริหารการเงินส่วนบุคคล
....................
แนะนำหลายเล่มน้อยคนที่จะอ่านจบ
และบ่นตรงกัน (อย่างไม่น่าเชื่อ) ว่า......
เขาอยาก "เล่นหุ้น+รวยหุ้น" ไม่ได้อยากบริหารเงิน
(แนวๆ “รวยหุ้นง๊าย ง่าย” “สิบเด้ง...ในพริบตา” ฯลฯ)
......................
“การลงทุน” เป็น sub set ของการบริหารเงินค่ะ
จะรวยด้วยหุ้น หรือ รวยจากอะไร ก็ต้องบริหารเงินทั้งนั้น
.
คนที่มีทัศนคติเรื่องดังกล่าวถูกต้อง
จะศึกษาหาความรู้ "ใส่ใจ_การลงทุน" อย่างที่ควร
เพื่อจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องเสี่ยงๆ แบบเสี่ยงน้อยลง
.
เลือกลงทุนระยะยาวในหุ้นของบริษัท
ที่มีความได้เปรียบในการแข่งขันในระยะยาว
หวังเติบโตไปกับกิจการ (ทำงานไป ลงทุนไปก็ได้)
.
ในทางกลับกัน...อีกกลุ่ม..จะ "เล่นหุ้น" แบบหวังรวยเร็ว
ภาวะการควบคุมอารมณ์ มักจะด้อยลงไปมาก
จบลงที่ซื้อๆ ขายๆ...ถ้า "ซื้อถูก-ขายแพง" ก็ไม่ใช่ปัญหา
แต่ส่วนใหญ่ กลับ "ซื้อแพง..ขายถูก" ซะงั้น !
....................
สำหรับคนอยากรวย...สิ่งที่สำคัญพอๆ กับทัศนคติ คือ
การ “ลงมือทำ" คำว่า "คุณทำได้” จะเป็นจริงได้
ก็ต่อเมื่อ ลงมือ "บริหารการเงินส่วนบุคคล_ทั้งระบบ"
"หาเงิน" "ออมเงิน" "นำไปลงทุนให้งอกเงย"
ก็มีโอกาสรวย (ถึงไม่รวยมาก...ก็ไม่จนแหละน่า!)
......................
ผู้เขียนไม่ได้มีอะไรต่างจากผู้อ่านมากนัก...ยังทำได้
วุฒิการศึกษา ระดับสติปัญญา พอๆ กับผู้อ่าน...ไม่ได้เกิดมารวย
เคยเช่าหอถูกๆ ต้องเลือกแบบพัดลม โหนรถเมล์ไปทำงาน
ต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ...อดหลับอดนอนทำงานพิเศษเพิ่ม ฯลฯ (เหมิอนมั้ยล่ะ)
(แค่มีทัศนคติที่ถูกต้อง...และมีความพยายามมาก กกกกก หน่อย)
แต่บอกไว้ก่อนว่า..."มันต้องเหนื่อย ต้องอดทนมาก...แต่มันคุ้มจริง"
......................
ถ้าผู้เขียนทำได้...ผู้อ่านก็ทำได้ค่ะ (เชียร์ เชียร์)
ไม่จำเป็นต้อง 10 ล้าน...เอาที่เราสบายใจแล้วกัน
ลงมือทำทันที...ยังไงๆ ก็ก้าวหน้าจากจุดเริ่มต้นแน่นอน
.
สุดท้าย..อยากย้ำว่า.. **เก็บเงินให้งอกเงย_คุณทำได้** ค่ะ
.
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1035
เงินทองต้องใส่ใจ
(Theenuch_Team Money Talk 4)
...................
ด้วยใส่ใจเรื่องเงิน...เงินเข้า-ออก ทางใด เท่าไหร่
ทั้งเงินในกระเป๋า ในธนาคาร ตอนที่ยังผ่อนบ้าน
ก็รู้ยอดหนี้เป็นปัจจุบัน ไปรีไฟแนนซ์เมื่อมีโอกาส
ผลคือผ่อนบ้าน 7 ปี จากสัญญา 25 ปี
ใช้บัตรเครดิต ก็บันทึก และจ่ายคืนก่อนใบเรียกเก็บ
.
แต่ก็ยังทำบัญชี เพื่อนำมาทบทวนได้ (ถี่ๆ ค่ะ)
ความใส่ใจ...ทำให้รู้ สถานะการเงินของครอบครัว
ส่งผลให้ ไม่เคยมีภาวะฉุกเฉินทางการเงินเลย
...................
เมื่อมาลงทุน...ก็ติดนิสัยนี้มาด้วย
อยากรู้ “สถานะการเงิน” ของบริษัทที่เราลงทุน
บริษัททำธุรกิจอะไร ขายสินค้าหรือบริการใด
รายได้-ค่าใช้จ่าย เพิ่มขึ้น/ลดลง ในอัตราเท่าไหร่ เพราะเหตุใด
มีสินทรัพย์ / หนี้สิน อะไรบ้าง มีแผนการใช้จ่ายอย่างไร
ใช้เงินทุนจากไหน (เสียดอกหรือไม่) กระแสเงินสดเป็นอย่างไร
คำถามพิ้นฐานที่เกิดขึ้นโดยอัตโนม้ตินี้..แม้ไม่ครอบคลุม
แต่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของศึกษาหาความรู้ในการลงทุนค่ะ
....................
อาจารย์ ดร.ไพบูลย์ ท่านกล่าวบ่อยๆ ว่า
ประหยัดได้ 1 บาท เท่ากับหาเพิ่มได้ 1 บาท
.
การลงทุนก็เช่นกัน รักษาเงินต้นได้ 1 บาท
เท่ากับสร้างผลตอบแทนได้ 1 บาท (ที่จริงมากกว่านั้น)
ต้องระมัดระวัง...ไม่เสี่ยงลงทุนในสิ่งที่เราไม่รู้จัก
....................
บางคนบอก...อ้าว อย่างนี้ก็ไปฝากธนาคารสิ
เอามาลงทุนให้สี่ยงทำไม...ต้องไม่ลืมคำกล่าวคุ้นหูที่ว่า
“การไม่เสี่ยงเลย คือความเสี่ยงอีกรูปแบบหนึ่ง”
....................
เงินที่นอนนิ่งๆ ในธนาคารเสี่ยงที่จะหนีเงินเฟ้อไม่พ้น
แม้ล่าสุดอัตราเงินเฟ้อของไทยที่ติดลบต่อเนื่อง 5 เดือน
ส่งผลให้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน พ.ค 58 เหลือแค่ 0.94
.
นั่นคือ “ภาพรวม” และเป็น “ภาพหลอน” ที่พึงระวัง
เมื่อความจริงที่เกี่ยวข้องกับเงินในกระเป๋าเราเป็นแบบนี้
อาหารจานเดียวขึ้นจาก 30 เป็น 40 (33.33%)
(หลายๆ ที่...ในเมืองหลวง จานละ 50 (66.66%) )
....................
ถึงเวลาหรือยัง...ที่เราต้องให้เงินไปทำงาน
ควรเริ่มจาก "สร้างนิสัยใส่ใจเรื่องเงินทอง” ก่อน
คงเคยได้ยินคำว่า “สติ สตางค์ ไม่อยู่กับเนื้อ กับตัว”
การ “มีสติ” คือการใส่ใจ...นั่นเอง
ทั้งการใช้จ่าย..และการลงทุน....ถ้ามีสติ ก็มีสตางค์ค่ะ
…………….....
ถ้าวางแผนได้ดีแต่ต้น...ตอนเกษียณก้ไม่ต้อง # ร้องไห้หนักมาก # ค่ะ
(Theenuch_Team Money Talk 4)
...................
ด้วยใส่ใจเรื่องเงิน...เงินเข้า-ออก ทางใด เท่าไหร่
ทั้งเงินในกระเป๋า ในธนาคาร ตอนที่ยังผ่อนบ้าน
ก็รู้ยอดหนี้เป็นปัจจุบัน ไปรีไฟแนนซ์เมื่อมีโอกาส
ผลคือผ่อนบ้าน 7 ปี จากสัญญา 25 ปี
ใช้บัตรเครดิต ก็บันทึก และจ่ายคืนก่อนใบเรียกเก็บ
.
แต่ก็ยังทำบัญชี เพื่อนำมาทบทวนได้ (ถี่ๆ ค่ะ)
ความใส่ใจ...ทำให้รู้ สถานะการเงินของครอบครัว
ส่งผลให้ ไม่เคยมีภาวะฉุกเฉินทางการเงินเลย
...................
เมื่อมาลงทุน...ก็ติดนิสัยนี้มาด้วย
อยากรู้ “สถานะการเงิน” ของบริษัทที่เราลงทุน
บริษัททำธุรกิจอะไร ขายสินค้าหรือบริการใด
รายได้-ค่าใช้จ่าย เพิ่มขึ้น/ลดลง ในอัตราเท่าไหร่ เพราะเหตุใด
มีสินทรัพย์ / หนี้สิน อะไรบ้าง มีแผนการใช้จ่ายอย่างไร
ใช้เงินทุนจากไหน (เสียดอกหรือไม่) กระแสเงินสดเป็นอย่างไร
คำถามพิ้นฐานที่เกิดขึ้นโดยอัตโนม้ตินี้..แม้ไม่ครอบคลุม
แต่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของศึกษาหาความรู้ในการลงทุนค่ะ
....................
อาจารย์ ดร.ไพบูลย์ ท่านกล่าวบ่อยๆ ว่า
ประหยัดได้ 1 บาท เท่ากับหาเพิ่มได้ 1 บาท
.
การลงทุนก็เช่นกัน รักษาเงินต้นได้ 1 บาท
เท่ากับสร้างผลตอบแทนได้ 1 บาท (ที่จริงมากกว่านั้น)
ต้องระมัดระวัง...ไม่เสี่ยงลงทุนในสิ่งที่เราไม่รู้จัก
....................
บางคนบอก...อ้าว อย่างนี้ก็ไปฝากธนาคารสิ
เอามาลงทุนให้สี่ยงทำไม...ต้องไม่ลืมคำกล่าวคุ้นหูที่ว่า
“การไม่เสี่ยงเลย คือความเสี่ยงอีกรูปแบบหนึ่ง”
....................
เงินที่นอนนิ่งๆ ในธนาคารเสี่ยงที่จะหนีเงินเฟ้อไม่พ้น
แม้ล่าสุดอัตราเงินเฟ้อของไทยที่ติดลบต่อเนื่อง 5 เดือน
ส่งผลให้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน พ.ค 58 เหลือแค่ 0.94
.
นั่นคือ “ภาพรวม” และเป็น “ภาพหลอน” ที่พึงระวัง
เมื่อความจริงที่เกี่ยวข้องกับเงินในกระเป๋าเราเป็นแบบนี้
อาหารจานเดียวขึ้นจาก 30 เป็น 40 (33.33%)
(หลายๆ ที่...ในเมืองหลวง จานละ 50 (66.66%) )
....................
ถึงเวลาหรือยัง...ที่เราต้องให้เงินไปทำงาน
ควรเริ่มจาก "สร้างนิสัยใส่ใจเรื่องเงินทอง” ก่อน
คงเคยได้ยินคำว่า “สติ สตางค์ ไม่อยู่กับเนื้อ กับตัว”
การ “มีสติ” คือการใส่ใจ...นั่นเอง
ทั้งการใช้จ่าย..และการลงทุน....ถ้ามีสติ ก็มีสตางค์ค่ะ
…………….....
ถ้าวางแผนได้ดีแต่ต้น...ตอนเกษียณก้ไม่ต้อง # ร้องไห้หนักมาก # ค่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 292
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1036
ขอบคุณคุณนุช สำหรับข้อคิดดีๆ
เพราะชักชวนใครในครอบครัว เพื่อน ..น้องที่ทำงานไป..
ไม่มีคนเอาด้วยเลย ภรรยาติดงาน ลูกเรียนหนังสือ
...กลัวไปลำบาก .ไม่มีส้วม อาหารไม่ถูกปาก กินไม่ได้
ไม่มีไรเที่ยว ให้ช้อป ...สารพัดที่จะไม่ไป
ผมเลยไปแบบทอดผ้าป่าครับ
ถามหลวงพ่อวัดใกล้บ้าน เห็นว่าเคยจัดไปทอดผ้าป่า
..ไปทัวร์ก็ดูแพงไปหน่อย.ที่พักน่าจะถูก อาหารก็น่าจะถูก
แต่แบ็คแพ็คก็คงไม่ไหว แก่แล้ว ..ที่ไปดูแต่ละที่ก็ไกลกัน
เดือนที่น่าไปจะราวมกรา -กุมภของทุกปี
เพราะอากาศดี ไม่หนาว รึร้อนเกินไป
อินเดึยหนาวก็หนาวจัดถึงติดลบ ..ร้อนก็ 45 อัพนะครับ
ที่ไปดูหลักก็สังเวชนียสถาน 4 แห่ง ที่เรารู้จักกันดี
เพราะเรียนศีลธรรมกันมาตั้งแต่ ป 1-ม 3
สภาพความเป็นอยู่แบบในหนังได้เห็นชัด...ที่พาราณสี
เพราะจะมีวันนึง..ตื่นแต่เช้าตี 5 ไปดูกันที่ริมฝั่งแม่น้ำคงคา
ได้เห็นอย่างในหนังเลยครับ มีพราหมณ์ ขอทาน
นอนอยู่ข้างถนน ริมตลาดเกลื่อนกราด มากมาย..
มีเทกระจาดแจกทานข้าวกันเห็นๆ…
มีแบกศพ สวดศพ เผาศพ ให้ดู ให้เห็นกันจะจะ ตลอดท่าน้ำ..
สะท้อนให้เห็นถึงสภาพเศรษฐกิจ ความยากจน ความเชื่อ อนิจจัง
ชนชั้นวรรณะ คลุกเคล้ากันจนแยกแยะไม่ถูก
..........................................
...คนจัดทัวร์ผมบอกว่าคนล้มเหลว หมดหวังกับชีวิต อยากฆ่าตัวตาย
ได้มาเห็นอินเดียแล้ว กลับมามีไฟกับชีวิต
กลับมาเมืองไทยทำมาหากิน มีกำลังใจตั้งตัวได้
ผมว่าคงจะจริง..แค่ดูจากหนัง เราก็รู้สึกว่าเราโชคดีที่ได้เกิด ..อยู่เมืองไทย
ที่อื่น คนอื่นลำบากกว่าเราเยอะ ..เยอะมาก
ได้รู้ ได้เห็น กับตามาอย่างนั้น เราก็มาปรับแต่ง
ชีวิตของเราให้ดีขึ้น เจริญขึ้นตามเหตุปัจจัยที่พอจะทำได้
อย่างพอเพียง อย่างไม่ประมาท
อ๋อ.. ผมไปอินเดียคนเดียวครับtheenuch เขียน: ดู clip ที่พี่นำมาฝากโดยเฉพาะ clip แรก
แล้วคิดว่า...ชีวิตเราทุกวันนี้ช่างโชคดีมากๆ (ให้ลูกดูด้วยค่ะ)
ที่พี่ไปอินเดียมาเจอแบบใน clip นี้ครบเลยมั้ยคะ
อยากไปบ้าง ชวนพ่อลูก ไม่มีใครกล้าไปด้วยเลยค่ะ
เพราะชักชวนใครในครอบครัว เพื่อน ..น้องที่ทำงานไป..
ไม่มีคนเอาด้วยเลย ภรรยาติดงาน ลูกเรียนหนังสือ
...กลัวไปลำบาก .ไม่มีส้วม อาหารไม่ถูกปาก กินไม่ได้
ไม่มีไรเที่ยว ให้ช้อป ...สารพัดที่จะไม่ไป
ผมเลยไปแบบทอดผ้าป่าครับ
ถามหลวงพ่อวัดใกล้บ้าน เห็นว่าเคยจัดไปทอดผ้าป่า
..ไปทัวร์ก็ดูแพงไปหน่อย.ที่พักน่าจะถูก อาหารก็น่าจะถูก
แต่แบ็คแพ็คก็คงไม่ไหว แก่แล้ว ..ที่ไปดูแต่ละที่ก็ไกลกัน
เดือนที่น่าไปจะราวมกรา -กุมภของทุกปี
เพราะอากาศดี ไม่หนาว รึร้อนเกินไป
อินเดึยหนาวก็หนาวจัดถึงติดลบ ..ร้อนก็ 45 อัพนะครับ
ที่ไปดูหลักก็สังเวชนียสถาน 4 แห่ง ที่เรารู้จักกันดี
เพราะเรียนศีลธรรมกันมาตั้งแต่ ป 1-ม 3
สภาพความเป็นอยู่แบบในหนังได้เห็นชัด...ที่พาราณสี
เพราะจะมีวันนึง..ตื่นแต่เช้าตี 5 ไปดูกันที่ริมฝั่งแม่น้ำคงคา
ได้เห็นอย่างในหนังเลยครับ มีพราหมณ์ ขอทาน
นอนอยู่ข้างถนน ริมตลาดเกลื่อนกราด มากมาย..
มีเทกระจาดแจกทานข้าวกันเห็นๆ…
มีแบกศพ สวดศพ เผาศพ ให้ดู ให้เห็นกันจะจะ ตลอดท่าน้ำ..
สะท้อนให้เห็นถึงสภาพเศรษฐกิจ ความยากจน ความเชื่อ อนิจจัง
ชนชั้นวรรณะ คลุกเคล้ากันจนแยกแยะไม่ถูก
..........................................
...คนจัดทัวร์ผมบอกว่าคนล้มเหลว หมดหวังกับชีวิต อยากฆ่าตัวตาย
ได้มาเห็นอินเดียแล้ว กลับมามีไฟกับชีวิต
กลับมาเมืองไทยทำมาหากิน มีกำลังใจตั้งตัวได้
ผมว่าคงจะจริง..แค่ดูจากหนัง เราก็รู้สึกว่าเราโชคดีที่ได้เกิด ..อยู่เมืองไทย
ที่อื่น คนอื่นลำบากกว่าเราเยอะ ..เยอะมาก
ได้รู้ ได้เห็น กับตามาอย่างนั้น เราก็มาปรับแต่ง
ชีวิตของเราให้ดีขึ้น เจริญขึ้นตามเหตุปัจจัยที่พอจะทำได้
อย่างพอเพียง อย่างไม่ประมาท
-
- Verified User
- โพสต์: 241
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1037
พี่ ddoo7 ผมก็ชอบอินเดียมากเลยครับ ไปมาสามรอบแล้ว ^.^
แนะนำครับว่า ถ้ายังสนใจเรื่อง พุทธศาสนา แต่ในมุมอื่น มีเมืองชื่อ เลย์ ครับ อยู่แถวๆแคชเมียร์ครับ ชื่อเล่นขอเมืองนี้คือ Little tibet ครับ
แนะนำครับว่า ถ้ายังสนใจเรื่อง พุทธศาสนา แต่ในมุมอื่น มีเมืองชื่อ เลย์ ครับ อยู่แถวๆแคชเมียร์ครับ ชื่อเล่นขอเมืองนี้คือ Little tibet ครับ
ความจนนั้นเกิดได้จากสองสาเหตุ คือ จนเพราะไม่มี กับ จนเพราะไม่พอ
ความรวยก็ประกอบด้วยองค์สอง คือ รวยเพราะมีมาก และ รวยเพราะพอเพียง
ความรวยก็ประกอบด้วยองค์สอง คือ รวยเพราะมีมาก และ รวยเพราะพอเพียง
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1038
เข้ามากราบขอบพระคุณพี่นุชที่ดูแลพวกเราที่กทม.อย่างดีครับtheenuch เขียน: เรื่องนัดนั้นแน่นอนค่ะพี่อยากเจอเด็กๆ มากเห็นแต่รูปเขามานาน
และกว่าคนไกลเดินทางทางให้เจอครบทั้งครอบครัวแบบนี้...พี่ทำตัวว่างรอเลยจ้า
ทุกคนประทับใจมาก
ถ้าพี่นุชลงมาทางใต้เมื่อไหร่อย่าลืมบอกพวกเราด้วยน๊ะครับ
ปล.เอารูปน่ารักๆระหว่างพี่นุชกับเด็กๆมาฝาก1รูปครับ
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1039
ขอบคุณที่แม้จะมีเวลาน้อยๆ ยังให้เวลานัดพบปะกัน
เด็กๆ น่ารักมาก...คิดว่าเพื่อนๆ เราคงเห็นด้วย
เขาเข้าใจดึงรูปหน้า และผิวพรรณมาจากแม้น๊อต
และดึงตาโตๆ จมูกโด่งๆ มาจากพ่อสายชล
(ท่ากราบสวยงามมากๆ...พี่นี่อึ้งเลยค่ะ) เด็กๆ ไม่ซนนะ...พี่ว่าสมวัยเขาแหละ
และทั้งครอบครัว กินอยู่ง่ายๆ สบายๆ
เสีดายภาพสิงโตหลับในรถ ไม่ได้ถ่ายมา...
น่ารักมากๆ นั่งอยู่ที่พื้นรถเอาหน้าพิงเบาะนั่งก็สามารถหลับได้
ได้เลย...ถ้ามีโอกาสไปแถวบ้านน้องสายชล พี่แวะไปรบกวนแน่นอนจ้า
เด็กๆ น่ารักมาก...คิดว่าเพื่อนๆ เราคงเห็นด้วย
เขาเข้าใจดึงรูปหน้า และผิวพรรณมาจากแม้น๊อต
และดึงตาโตๆ จมูกโด่งๆ มาจากพ่อสายชล
(ท่ากราบสวยงามมากๆ...พี่นี่อึ้งเลยค่ะ) เด็กๆ ไม่ซนนะ...พี่ว่าสมวัยเขาแหละ
และทั้งครอบครัว กินอยู่ง่ายๆ สบายๆ
เสีดายภาพสิงโตหลับในรถ ไม่ได้ถ่ายมา...
น่ารักมากๆ นั่งอยู่ที่พื้นรถเอาหน้าพิงเบาะนั่งก็สามารถหลับได้
ได้เลย...ถ้ามีโอกาสไปแถวบ้านน้องสายชล พี่แวะไปรบกวนแน่นอนจ้า
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1040
ใช่ค่ะ...ใครท้อๆ น่าดูคิดว่าจะมีพลังขึ้นอีกมากddoo7 เขียน:ขอบคุณคุณนุช สำหรับข้อคิดดีๆ
อ๋อ.. ผมไปอินเดียคนเดียวครับtheenuch เขียน: ดู clip ที่พี่นำมาฝากโดยเฉพาะ clip แรก
แล้วคิดว่า...ชีวิตเราทุกวันนี้ช่างโชคดีมากๆ (ให้ลูกดูด้วยค่ะ)
ที่พี่ไปอินเดียมาเจอแบบใน clip นี้ครบเลยมั้ยคะ
อยากไปบ้าง ชวนพ่อลูก ไม่มีใครกล้าไปด้วยเลยค่ะ
เพราะชักชวนใครในครอบครัว เพื่อน ..น้องที่ทำงานไป..
ไม่มีคนเอาด้วยเลย ภรรยาติดงาน ลูกเรียนหนังสือ
...กลัวไปลำบาก .ไม่มีส้วม อาหารไม่ถูกปาก กินไม่ได้
ไม่มีไรเที่ยว ให้ช้อป ...สารพัดที่จะไม่ไป
ผมเลยไปแบบทอดผ้าป่าครับ
ถามหลวงพ่อวัดใกล้บ้าน เห็นว่าเคยจัดไปทอดผ้าป่า
..ไปทัวร์ก็ดูแพงไปหน่อย.ที่พักน่าจะถูก อาหารก็น่าจะถูก
แต่แบ็คแพ็คก็คงไม่ไหว แก่แล้ว ..ที่ไปดูแต่ละที่ก็ไกลกัน
เดือนที่น่าไปจะราวมกรา -กุมภของทุกปี
เพราะอากาศดี ไม่หนาว รึร้อนเกินไป
อินเดึยหนาวก็หนาวจัดถึงติดลบ ..ร้อนก็ 45 อัพนะครับ
ที่ไปดูหลักก็สังเวชนียสถาน 4 แห่ง ที่เรารู้จักกันดี
เพราะเรียนศีลธรรมกันมาตั้งแต่ ป 1-ม 3
สภาพความเป็นอยู่แบบในหนังได้เห็นชัด...ที่พาราณสี
เพราะจะมีวันนึง..ตื่นแต่เช้าตี 5 ไปดูกันที่ริมฝั่งแม่น้ำคงคา
ได้เห็นอย่างในหนังเลยครับ มีพราหมณ์ ขอทาน
นอนอยู่ข้างถนน ริมตลาดเกลื่อนกราด มากมาย..
มีเทกระจาดแจกทานข้าวกันเห็นๆ…
มีแบกศพ สวดศพ เผาศพ ให้ดู ให้เห็นกันจะจะ ตลอดท่าน้ำ..
สะท้อนให้เห็นถึงสภาพเศรษฐกิจ ความยากจน ความเชื่อ อนิจจัง
ชนชั้นวรรณะ คลุกเคล้ากันจนแยกแยะไม่ถูก
..........................................
...คนจัดทัวร์ผมบอกว่าคนล้มเหลว หมดหวังกับชีวิต อยากฆ่าตัวตาย
ได้มาเห็นอินเดียแล้ว กลับมามีไฟกับชีวิต
กลับมาเมืองไทยทำมาหากิน มีกำลังใจตั้งตัวได้
ผมว่าคงจะจริง..แค่ดูจากหนัง เราก็รู้สึกว่าเราโชคดีที่ได้เกิด ..อยู่เมืองไทย
ที่อื่น คนอื่นลำบากกว่าเราเยอะ ..เยอะมาก
ได้รู้ ได้เห็น กับตามาอย่างนั้น เราก็มาปรับแต่ง
ชีวิตของเราให้ดีขึ้น เจริญขึ้นตามเหตุปัจจัยที่พอจะทำได้
อย่างพอเพียง อย่างไม่ประมาท
ใช่ๆ นึกได้แล้วน้องนัทก็เคยบอกว่าไปอินเดียและปากีสถานมาด้วยNutth147 เขียน:พี่ ddoo7 ผมก็ชอบอินเดียมากเลยครับ ไปมาสามรอบแล้ว ^.^
แนะนำครับว่า ถ้ายังสนใจเรื่อง พุทธศาสนา แต่ในมุมอื่น มีเมืองชื่อ เลย์ ครับ อยู่แถวๆแคชเมียร์ครับ ชื่อเล่นขอเมืองนี้คือ Little tibet ครับ
..................
ที่บ้านเหมือนกันเลยค่ะ เปิดให้พ่อลูกดู ....ชวนไป ไม่มีใครไปด้วยเลยค่ะ
สงสัยหมดโอกาสไปเห็นด้วยตัวเองแบบพี่ พี่ ddoo7 และน้องนัท
ขอบคุณทั้งนะคะ ที่นำภาพและเรื่องราวดีๆ มากฝากค่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 292
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1041
ขอบคุณครับNutth147 เขียน:พี่ ddoo7 ผมก็ชอบอินเดียมากเลยครับ ไปมาสามรอบแล้ว ^.^
แนะนำครับว่า ถ้ายังสนใจเรื่อง พุทธศาสนา แต่ในมุมอื่น มีเมืองชื่อ เลย์ ครับ อยู่แถวๆแคชเมียร์ครับ ชื่อเล่นขอเมืองนี้คือ Little tibet ครับ
เด่ว ผมจะลองค้นหาข้อมูล little tibet ดูครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 241
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1042
พี่นุชครับ อินเดีย พม่า ศรีลังกา นี้ยังพอไหวครับ ไปมาหมด
....แต่ปากีสถานใจผมยังไม่ถึงครับ แม้จะอ่านมาว่าตอนเหนือสวยยยยยยยมาก -,-" ขอสะสมประสบการณ์การเอาตัวรอด และให้บ้านเมืองเขาสงบกว่านี้หน่อยครับ
ออพี่ dd007 ศรีลังกา ก็สวยครับ และเป็นพุทธศาสนาที่ใกล้กับของไทยมาก เพราะเรารับมาจากที่นั้นเต็มๆ ( เถรวาท สาย ลังกาวงค์ )
....แต่ปากีสถานใจผมยังไม่ถึงครับ แม้จะอ่านมาว่าตอนเหนือสวยยยยยยยมาก -,-" ขอสะสมประสบการณ์การเอาตัวรอด และให้บ้านเมืองเขาสงบกว่านี้หน่อยครับ
ออพี่ dd007 ศรีลังกา ก็สวยครับ และเป็นพุทธศาสนาที่ใกล้กับของไทยมาก เพราะเรารับมาจากที่นั้นเต็มๆ ( เถรวาท สาย ลังกาวงค์ )
ความจนนั้นเกิดได้จากสองสาเหตุ คือ จนเพราะไม่มี กับ จนเพราะไม่พอ
ความรวยก็ประกอบด้วยองค์สอง คือ รวยเพราะมีมาก และ รวยเพราะพอเพียง
ความรวยก็ประกอบด้วยองค์สอง คือ รวยเพราะมีมาก และ รวยเพราะพอเพียง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1043
พี่จำผิดค่ะ....คงจะเป็น "ศรีลังกา" ที่น้องนัทเคยเอาภาพมาฝากในกระทู้เราNutth147 เขียน:พี่นุชครับ อินเดีย พม่า ศรีลังกา นี้ยังพอไหวครับ ไปมาหมด
....แต่ปากีสถานใจผมยังไม่ถึงครับ แม้จะอ่านมาว่าตอนเหนือสวยยยยยยยมาก -,-" ขอสะสมประสบการณ์การเอาตัวรอด และให้บ้านเมืองเขาสงบกว่านี้หน่อยครับ
จะให้น้องไปบุกเบิก "ปากีสถาน" ซะแล้ว
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1044
ดูรูปนี้แล้วพี่ก็ขำอ้ะ "Tiger" กับ "สิงโต" วิ่งเข้าใส่saichon เขียน:เข้ามากราบขอบพระคุณพี่นุชที่ดูแลพวกเราที่กทม.อย่างดีครับtheenuch เขียน: เรื่องนัดนั้นแน่นอนค่ะพี่อยากเจอเด็กๆ มากเห็นแต่รูปเขามานาน
และกว่าคนไกลเดินทางทางให้เจอครบทั้งครอบครัวแบบนี้...พี่ทำตัวว่างรอเลยจ้า
ทุกคนประทับใจมาก
ถ้าพี่นุชลงมาทางใต้เมื่อไหร่อย่าลืมบอกพวกเราด้วยน๊ะครับ ปล.เอารูปน่ารักๆระหว่างพี่นุชกับเด็กๆมาฝาก1รูปครับ
"พ่อสายชล" กับ "แม่น๊อต" หนีกระเจิงเลย 55+
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1045
บทเรียนจาก "กรีซ"...เรียนรู้สู่ระดับ "บ้านๆ"
(Theenuch_Team Money Talk 4)
......................
"การใช้จ่ายเกินตัว" จน "หนี้สินล้นพ้นตัว"
ส่งผลให้ "ประเทศกรีซ" ถึงกับ "ล้มละลาย"
แล้วระดับ "บ้านๆ" อย่างพวกเราล่ะ (จะเหลือรึ?)
.....................
สมัย ปู่ ยา ตา ทวด นั้น..ค่าครองชีพยังไม่สูง
ห่างไกลความเจริญทางวัตถุ...ผู้คนก็ห่างไกลหนี้
.
มารุ่นพ่อ แม่ และรุ่นพวกเรา...เจริญทางวัตถุในอัตราเร่ง
“เข้าถึงแหล่งทุน” ง่าย (“แหล่งทุน” ก็อยากเข้าถึงเรา)
สารพัดสินเชื่อ (for all)...มาเคาะประตูเรียก
ชนิด "หัวกระไดไม่แห้ง" กันเลย! (ชีวิต ดี๊ ดี)
.........................
ณ วันกู้เงิน งานการก็มีทำ ค้าขายก็มือขึ้น
หลายคนลืมคิดเผื่อภาวะฉุกเฉิน เช่น เจ็บป่วย
หรือ เศรษฐกิจซบเซามากๆ เช่นในช่วงนี้
.
หลังเป็นหนี้ (for all)..ก็ "หัวกระไดไม่แห้ง" (กันอีกแระ!)
มีรายได้ ปุ๊บ!...หนี้+ดอกเบี้ย มาเคาะประตูเรียก ปั๊บ!
ไม่เหลือเงินไปใช้จ่าย...กำลังซื้อหดหาย
พ่อค้า แม่ค้า SMEs ไปจนถึงกิจการใหญ่ๆ แย่ไปตามๆ กัน
.
มนุษย์เงินเดือนล่ะ...ถ้าบริษัทมียอดขายลดลง
จนต้องลดการผลิต แม้ไม่ตกงาน OT ก็หดหาย
พนักงานขาย ถ้าขายไม่ค่อยได้...ก็ไม่มีค่าคอม
ทยอยรับผล เป็นทอดๆ...วนเป็นงูกินหาง
.
ถ้าเกิดกับคนในครอบครัวเรา สักคน สองคนล่ะ?
รายได้ลด..หนี้ไม่ลด (น้ำก็ไม่ได้รด..แต่) ดอกเบี้ยบาน
......................
อย่าดูข่าวแค่ผ่านๆ...เราควรเรียนรู้จากข่าวด้วยค่ะ
"หนี้ท่วม" ไม่ว่า "ระดับประเทศ" หรือ "ระดับบ้านๆ" ก็วิกฤตทั้งนั้น
.....................
ฝึกนิสัยการออม กินอยู่ไม่เกินฐานะเสียแต่เนิ่นๆ
มีลูกสอนลูก มีหลานสอนหลาน..อย่ากู้หนี้ ยืมสิน เกินตัว
ไม่ต้องช่วยเพิ่ม “สถิติหนี้ครัวเรือนสูง” ก็ได้ค่ะ
ทุกวันนี้ ประเทศเราหนี้ครัวเรือนต่อ GDP (80+ %) สูงติดอันดับต้นๆ ของโลกอยู่แล้ว!
><><><><><><><><><
หมายเหตุ :
1.หนังสือ "คำคม สำเร็จ" ของคุณบัณฑิต อึ้งรังษี..ดีมากค่ะ
2. นำกระทู้จากที่ต่างๆ มาให้อ่าน ขอขอบคุณเจ้าของกระทู้ทุกท่าน
ที่กรุณาเล่าเรื่องให้พวกเราได้เรียนรู้ด้วยค่ะ
.
แม่เป็นหนี้ลูกต้องชดใช้หรือเปล่าค่ะ ??? เครียดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
http://pantip.com/topic/30388807
.
ทำงานมนุษย์เงินเดือนไม่ถึง 20,000 บาท/เดือน กับหนี้บัตรเครดิตเกือบ 200,000 จะจัดการกับมันยังไงดีครับ
http://pantip.com/topic/31672545
.
เป็นหนี้บัตรเครดิตหลายแสน บ้านกำลังจะถูกไล่ที่
http://pantip.com/topic/30011471
.
ติดหนี้บัตรเครดิตหลายใบเงินไม่พอจ่ายขั้นต่ำทำอย่างไรดีคะ
http://pantip.com/topic/30952553
.
อยากโปะหนี้บัตรเครดิต ทำไงดีค่ะ รู้สึกว่าเงินเดือนออกมาแทบจะไม่ไดใช้เลย จ่ายค่าบัตรก็เกือบหมดละ
http://pantip.com/topic/33685803
.
พ่อของผมเป็นหนี้บัตรเครดิต 1,400,000
http://pantip.com/topic/32476405
(Theenuch_Team Money Talk 4)
......................
"การใช้จ่ายเกินตัว" จน "หนี้สินล้นพ้นตัว"
ส่งผลให้ "ประเทศกรีซ" ถึงกับ "ล้มละลาย"
แล้วระดับ "บ้านๆ" อย่างพวกเราล่ะ (จะเหลือรึ?)
.....................
สมัย ปู่ ยา ตา ทวด นั้น..ค่าครองชีพยังไม่สูง
ห่างไกลความเจริญทางวัตถุ...ผู้คนก็ห่างไกลหนี้
.
มารุ่นพ่อ แม่ และรุ่นพวกเรา...เจริญทางวัตถุในอัตราเร่ง
“เข้าถึงแหล่งทุน” ง่าย (“แหล่งทุน” ก็อยากเข้าถึงเรา)
สารพัดสินเชื่อ (for all)...มาเคาะประตูเรียก
ชนิด "หัวกระไดไม่แห้ง" กันเลย! (ชีวิต ดี๊ ดี)
.........................
ณ วันกู้เงิน งานการก็มีทำ ค้าขายก็มือขึ้น
หลายคนลืมคิดเผื่อภาวะฉุกเฉิน เช่น เจ็บป่วย
หรือ เศรษฐกิจซบเซามากๆ เช่นในช่วงนี้
.
หลังเป็นหนี้ (for all)..ก็ "หัวกระไดไม่แห้ง" (กันอีกแระ!)
มีรายได้ ปุ๊บ!...หนี้+ดอกเบี้ย มาเคาะประตูเรียก ปั๊บ!
ไม่เหลือเงินไปใช้จ่าย...กำลังซื้อหดหาย
พ่อค้า แม่ค้า SMEs ไปจนถึงกิจการใหญ่ๆ แย่ไปตามๆ กัน
.
มนุษย์เงินเดือนล่ะ...ถ้าบริษัทมียอดขายลดลง
จนต้องลดการผลิต แม้ไม่ตกงาน OT ก็หดหาย
พนักงานขาย ถ้าขายไม่ค่อยได้...ก็ไม่มีค่าคอม
ทยอยรับผล เป็นทอดๆ...วนเป็นงูกินหาง
.
ถ้าเกิดกับคนในครอบครัวเรา สักคน สองคนล่ะ?
รายได้ลด..หนี้ไม่ลด (น้ำก็ไม่ได้รด..แต่) ดอกเบี้ยบาน
......................
อย่าดูข่าวแค่ผ่านๆ...เราควรเรียนรู้จากข่าวด้วยค่ะ
"หนี้ท่วม" ไม่ว่า "ระดับประเทศ" หรือ "ระดับบ้านๆ" ก็วิกฤตทั้งนั้น
.....................
ฝึกนิสัยการออม กินอยู่ไม่เกินฐานะเสียแต่เนิ่นๆ
มีลูกสอนลูก มีหลานสอนหลาน..อย่ากู้หนี้ ยืมสิน เกินตัว
ไม่ต้องช่วยเพิ่ม “สถิติหนี้ครัวเรือนสูง” ก็ได้ค่ะ
ทุกวันนี้ ประเทศเราหนี้ครัวเรือนต่อ GDP (80+ %) สูงติดอันดับต้นๆ ของโลกอยู่แล้ว!
><><><><><><><><><
หมายเหตุ :
1.หนังสือ "คำคม สำเร็จ" ของคุณบัณฑิต อึ้งรังษี..ดีมากค่ะ
2. นำกระทู้จากที่ต่างๆ มาให้อ่าน ขอขอบคุณเจ้าของกระทู้ทุกท่าน
ที่กรุณาเล่าเรื่องให้พวกเราได้เรียนรู้ด้วยค่ะ
.
แม่เป็นหนี้ลูกต้องชดใช้หรือเปล่าค่ะ ??? เครียดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
http://pantip.com/topic/30388807
.
ทำงานมนุษย์เงินเดือนไม่ถึง 20,000 บาท/เดือน กับหนี้บัตรเครดิตเกือบ 200,000 จะจัดการกับมันยังไงดีครับ
http://pantip.com/topic/31672545
.
เป็นหนี้บัตรเครดิตหลายแสน บ้านกำลังจะถูกไล่ที่
http://pantip.com/topic/30011471
.
ติดหนี้บัตรเครดิตหลายใบเงินไม่พอจ่ายขั้นต่ำทำอย่างไรดีคะ
http://pantip.com/topic/30952553
.
อยากโปะหนี้บัตรเครดิต ทำไงดีค่ะ รู้สึกว่าเงินเดือนออกมาแทบจะไม่ไดใช้เลย จ่ายค่าบัตรก็เกือบหมดละ
http://pantip.com/topic/33685803
.
พ่อของผมเป็นหนี้บัตรเครดิต 1,400,000
http://pantip.com/topic/32476405
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1046
เงินเพิ่มระยะสั้น / หนี้สินระยะยาว
(Theenuch_Team Money Talk 4)
.................
ติดตามข่าวภัยแล้งและวิกฤตน้ำประปาในช่วงนี้
แล้วนึกถึงภาวะการเงินในครอบครัวค่ะ
.................
ก่อนมีหนี้ระยะยาวควร “คิดลบ” เผื่อไว้บ้าง
หาก "เงินเพิ่มระยะสั้น" (หรือแม้แต่รายได้ประจำ)
ลดลง หรือ หายไป จะทำอย่างไร?
.
เราทุกคน ควรประเมินสภาพเศรษฐกิจเป็นระยะ
ว่ามีผลกระทบต่อเราหรือไม่? แนวโน้มเป็นอย่างไร?
ดีขึ้น หรือแย่ลง...และจะยาวนานแค่ไหน?
...............
ข่าวล่าสุด "พิษส่งออกทรุด! ซัมซุงนิคมฯโคราช
ปิดโรงงาน ปลดกว่าพันคน ทยอยลงทะเบียนว่างงาน"
http://www.matichon.co.th/news_detail.p ... 1437101326
.................
ดูตัวอย่างสมมติในตารางกันดีกว่า
.
คุณ A ใช้เงินเดือนประจำผ่อนบ้าน
แต่อยากหมดหนี้เร็ว...ถ้ามี OT ก็จ่ายเพิ่ม
กรณีนี้...ถ้าไม่มี OT ก็ไม่เดือดร้อนค่ะ
.
ครอบครัวคุณ B เงินเดือนมาก
ยิ่งกู้ได้มาก...มักเลือกบ้าน/รถ แพงขึ้น
มีลูกอาจใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตมากกว่า
(โรงเรียนเอกชนให้รูดบัตรจ่ายค่าเทอมได้)
ถ้า ศก.ไม่ดี...ภรรยาตกงาน...จะเป็นอย่างไร?
.
คุณ C อาชีพค้าขาย ต้องดูแลแม่ที่ป่วยด้วย
ถ้าขายได้น้อยลง แต่ ค่าเช่าร้าน ค่า ฯลฯ เท่าเดิม
.
หรือ คุณ D เป็นเซล..ถ้าค่าคอมฯ หาย..?
.
แม้แต่ SMEs หรือ ฟรีแลนซ์ ก็ไม่ควรประมาทค่ะ
.................
"รายได้บางอย่าง...เป็นแค่...เงินเพิ่มระยะสั้น
ที่อาจหายไปเมื่อไหร่ก็ได้"
เราควรมีวินัยที่จะคิดแบบนี้...แต่ต้น
โดยเฉพาะ...ก่อนมีหนี้สินระยะยาว
..................
ถ้าทุกบ้านในตัวอย่าง...มีการออมสม่ำเสมอ
กันเงินเย็น ไว้เผื่อภาวะฉุกเฉิน 6 – 12 เดือน
.
คงเปรียบได้กับการขุดบ่อน้ำสำรองไว้ใช้เอง
น้ำประปาไม่ไหล ก็ใช้น้ำในบ่อไปพลางๆ ได้
................
ลองทบทวนกันค่ะ
เราวางแผนการเงิน..เผื่อฉุกเฉินหรือยัง?
และ "คิดยาวๆๆๆๆๆ..ก่อนมีหนี้สินระยะยาว" ค่ะ
><><><><><><
นำกระทู้ที่เกี่ยวข้องมากฝาก
ขอขอบคุณเจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ
.
กู้เงินซื้อบ้านได้อนุมัติแล้วค่ะ แต่กำลังจะโดนให้ออกจากงาน
http://pantip.com/topic/33924787
.
หนี้บัตรเครดิต ช่วยหน่อยค่ะ (กรณีภรรยาตกงาน)
http://pantip.com/topic/33923758
.
กระทู้ระบาย (คนค้าขายในช่วง ศก.ไม่ดี)
http://pantip.com/topic/33922873
.
ปรึกษาครับ : เศรษฐกิจแบบนี้ SME สายป่านไม่ยาวปรับตัวกันอย่างไรบ้างครับ
http://pantip.com/topic/33932368
.
(Theenuch_Team Money Talk 4)
.................
ติดตามข่าวภัยแล้งและวิกฤตน้ำประปาในช่วงนี้
แล้วนึกถึงภาวะการเงินในครอบครัวค่ะ
.................
ก่อนมีหนี้ระยะยาวควร “คิดลบ” เผื่อไว้บ้าง
หาก "เงินเพิ่มระยะสั้น" (หรือแม้แต่รายได้ประจำ)
ลดลง หรือ หายไป จะทำอย่างไร?
.
เราทุกคน ควรประเมินสภาพเศรษฐกิจเป็นระยะ
ว่ามีผลกระทบต่อเราหรือไม่? แนวโน้มเป็นอย่างไร?
ดีขึ้น หรือแย่ลง...และจะยาวนานแค่ไหน?
...............
ข่าวล่าสุด "พิษส่งออกทรุด! ซัมซุงนิคมฯโคราช
ปิดโรงงาน ปลดกว่าพันคน ทยอยลงทะเบียนว่างงาน"
http://www.matichon.co.th/news_detail.p ... 1437101326
.................
ดูตัวอย่างสมมติในตารางกันดีกว่า
.
คุณ A ใช้เงินเดือนประจำผ่อนบ้าน
แต่อยากหมดหนี้เร็ว...ถ้ามี OT ก็จ่ายเพิ่ม
กรณีนี้...ถ้าไม่มี OT ก็ไม่เดือดร้อนค่ะ
.
ครอบครัวคุณ B เงินเดือนมาก
ยิ่งกู้ได้มาก...มักเลือกบ้าน/รถ แพงขึ้น
มีลูกอาจใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตมากกว่า
(โรงเรียนเอกชนให้รูดบัตรจ่ายค่าเทอมได้)
ถ้า ศก.ไม่ดี...ภรรยาตกงาน...จะเป็นอย่างไร?
.
คุณ C อาชีพค้าขาย ต้องดูแลแม่ที่ป่วยด้วย
ถ้าขายได้น้อยลง แต่ ค่าเช่าร้าน ค่า ฯลฯ เท่าเดิม
.
หรือ คุณ D เป็นเซล..ถ้าค่าคอมฯ หาย..?
.
แม้แต่ SMEs หรือ ฟรีแลนซ์ ก็ไม่ควรประมาทค่ะ
.................
"รายได้บางอย่าง...เป็นแค่...เงินเพิ่มระยะสั้น
ที่อาจหายไปเมื่อไหร่ก็ได้"
เราควรมีวินัยที่จะคิดแบบนี้...แต่ต้น
โดยเฉพาะ...ก่อนมีหนี้สินระยะยาว
..................
ถ้าทุกบ้านในตัวอย่าง...มีการออมสม่ำเสมอ
กันเงินเย็น ไว้เผื่อภาวะฉุกเฉิน 6 – 12 เดือน
.
คงเปรียบได้กับการขุดบ่อน้ำสำรองไว้ใช้เอง
น้ำประปาไม่ไหล ก็ใช้น้ำในบ่อไปพลางๆ ได้
................
ลองทบทวนกันค่ะ
เราวางแผนการเงิน..เผื่อฉุกเฉินหรือยัง?
และ "คิดยาวๆๆๆๆๆ..ก่อนมีหนี้สินระยะยาว" ค่ะ
><><><><><><
นำกระทู้ที่เกี่ยวข้องมากฝาก
ขอขอบคุณเจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ
.
กู้เงินซื้อบ้านได้อนุมัติแล้วค่ะ แต่กำลังจะโดนให้ออกจากงาน
http://pantip.com/topic/33924787
.
หนี้บัตรเครดิต ช่วยหน่อยค่ะ (กรณีภรรยาตกงาน)
http://pantip.com/topic/33923758
.
กระทู้ระบาย (คนค้าขายในช่วง ศก.ไม่ดี)
http://pantip.com/topic/33922873
.
ปรึกษาครับ : เศรษฐกิจแบบนี้ SME สายป่านไม่ยาวปรับตัวกันอย่างไรบ้างครับ
http://pantip.com/topic/33932368
.
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1047
555+theenuch เขียน: ดูรูปนี้แล้วพี่ก็ขำอ้ะ "Tiger" กับ "สิงโต" วิ่งเข้าใส่
"พ่อสายชล" กับ "แม่น๊อต" หนีกระเจิงเลย 55+
พี่นุชช่างสังเกตุดีจังครับ
เรื่องอื่นผมพอไหว
แต่กับงูนี่ผมล่ะกลั๊ว กลัวครับ
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1048
ขอสินเชื่อบ้าน...ควรทำประกันหรือไม่?
(Theenuch_Team Money Talk 4)
.................
"ประกันคุ้มครองผู้ผ่อนชำระเงินสินเชื่อบ้าน"
(จ่ายครั้งเดียว_เลือกแบบคุ้มครอง 5 ปี 10 ปี หรือนานกว่านั้นก็ได้
แต่ถ้าเลือกคุ้มครองถึง 10 ปี ขึ้นไป...ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ในปีที่ทำค่ะ)
.
แบงค์มักไม่บังคับ แต่...ถ้าทำจะได้รับสิทธิดอกเบี้ยถูกว่า
ซึ่งสินเชื่อบ้าน...ดอกถูกว่าแค่ 1 % ก็ลดภาระได้มากค่ะ
.
เป็นการป้องกันหนี้เสียของแบงค์ (NPL: Non-Performing Loan)
และยังบริหารความเสี่ยงให้ผู้กู้เองด้วย...อย่างไร?
.
บริษัทประกันจะจ่ายหนี้ที่เหลือแทนผู้กู้ที่เสียชีวิต
คนข้างหลังก็ไม่ต้องผ่อนต่อ...แต่ยังมีบ้านอยู่ค่ะ
...............
ถ้าไม่ได้ทำประกันไว้..แล้วจากไป...
.
คู่ครองที่มีรายได้น้อย...หรือ แม้มีรายได้มาก
แต่มีลูกวัยเรียน...ก็อาจไม่ไหว...ถ้าต้องรับภาระคนเดียว
.
หรือ...กรณีที่ลูกผ่อนบ้านให้พ่อแม่อยู่..แล้วจากไป
พ่อแม่ไม่มีรายรับ...จะเอาเงินที่ไหนมาผ่อนต่อ
.................
ทางออกคือ “ขายบ้านทิ้ง” แต่ต้องไม่ลืมว่า...
"บ้านและที่ดิน" เป็นสินทรัพย์ที่ "สภาพคล่องต่ำมาก..กกก ก ก"
“ขายไม่ง่าย” หาก “ขายไม่ได้” แบงค์จะขายให้
ถ้าได้เงินน้อยกว่าหนี้ที่เหลือ...ต้องจ่ายส่วนต่างอีกด้วย
.
***หลังจากนั้น...คนข้างหลัง..จะไปอยู่ที่ไหน?***
................
ถ้าไม่จากไป แถมมีวินัย..ผ่อนหมดก่อน
ขอเวนคืนเบี้ยประกันได้ (ถ้าไม่ใช้สิทธิลดหย่อนภาษี)
................... ผู้เขียน refinance จาก ธอส. ไป TMB
สัญญา 20 ปี..ผ่อน 3 ปี หมด (ขอเวนคืนเป็นเช็คในภาพค่ะ)
ได้คืนมา 40+% ของที่จ่ายไป (ก็ยังดี)
................... ตอน re จาก ธอส. ไป TMB (1.82 ล้าน ทำประกันคุ้มครอง
แค่ 1.35 ล้าน จะทำมากหรือน้อยกว่านี้ก็ได้...แล้วแต่เราค่ะ )
เบี้ยประกันจะจ่ายเป็นเงินสดก็ได้ หรือจะให้แบงค์
บวกไปกับยอดสินเชื่อทั้งก้อนก็ได้ค่ะ
.
ตอนขายบ้านหลังเดิม 2 หลัง...และขายคอนโด
ก็ขอเวนคืนทุกครั้งค่ะ...ง่ายมาก..ขอบอก ^__^
..................
แค่ download เอกสาร...จากเวปไซต์ของบริษัทประกัน
กรอกข้อมูลให้ครบ..เลือก รับคืนเป็นเช็ค หรือให้นำเข้าบัญชีธนาคาร
แล้วส่งทางไปรษณีย์...พร้อมหลักฐานการปิดบัญชีเงินกู้
สำเนา บัตร ปชช. /ทะเบียนบ้าน และ กรมธรรม์ฉบับจริง...แล้วรอรับเงินคืนได้เลยค่ะ
.................
ผู้ที่กำลังจะขอสินเชื่อบ้าน...อย่าได้ประมาทค่ะ
กัดฟันจ่ายเบี้ยประกันเพิ่มอีกนิด...สบายใจ ตายตาหลับค่ะ
(Theenuch_Team Money Talk 4)
.................
"ประกันคุ้มครองผู้ผ่อนชำระเงินสินเชื่อบ้าน"
(จ่ายครั้งเดียว_เลือกแบบคุ้มครอง 5 ปี 10 ปี หรือนานกว่านั้นก็ได้
แต่ถ้าเลือกคุ้มครองถึง 10 ปี ขึ้นไป...ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ในปีที่ทำค่ะ)
.
แบงค์มักไม่บังคับ แต่...ถ้าทำจะได้รับสิทธิดอกเบี้ยถูกว่า
ซึ่งสินเชื่อบ้าน...ดอกถูกว่าแค่ 1 % ก็ลดภาระได้มากค่ะ
.
เป็นการป้องกันหนี้เสียของแบงค์ (NPL: Non-Performing Loan)
และยังบริหารความเสี่ยงให้ผู้กู้เองด้วย...อย่างไร?
.
บริษัทประกันจะจ่ายหนี้ที่เหลือแทนผู้กู้ที่เสียชีวิต
คนข้างหลังก็ไม่ต้องผ่อนต่อ...แต่ยังมีบ้านอยู่ค่ะ
...............
ถ้าไม่ได้ทำประกันไว้..แล้วจากไป...
.
คู่ครองที่มีรายได้น้อย...หรือ แม้มีรายได้มาก
แต่มีลูกวัยเรียน...ก็อาจไม่ไหว...ถ้าต้องรับภาระคนเดียว
.
หรือ...กรณีที่ลูกผ่อนบ้านให้พ่อแม่อยู่..แล้วจากไป
พ่อแม่ไม่มีรายรับ...จะเอาเงินที่ไหนมาผ่อนต่อ
.................
ทางออกคือ “ขายบ้านทิ้ง” แต่ต้องไม่ลืมว่า...
"บ้านและที่ดิน" เป็นสินทรัพย์ที่ "สภาพคล่องต่ำมาก..กกก ก ก"
“ขายไม่ง่าย” หาก “ขายไม่ได้” แบงค์จะขายให้
ถ้าได้เงินน้อยกว่าหนี้ที่เหลือ...ต้องจ่ายส่วนต่างอีกด้วย
.
***หลังจากนั้น...คนข้างหลัง..จะไปอยู่ที่ไหน?***
................
ถ้าไม่จากไป แถมมีวินัย..ผ่อนหมดก่อน
ขอเวนคืนเบี้ยประกันได้ (ถ้าไม่ใช้สิทธิลดหย่อนภาษี)
................... ผู้เขียน refinance จาก ธอส. ไป TMB
สัญญา 20 ปี..ผ่อน 3 ปี หมด (ขอเวนคืนเป็นเช็คในภาพค่ะ)
ได้คืนมา 40+% ของที่จ่ายไป (ก็ยังดี)
................... ตอน re จาก ธอส. ไป TMB (1.82 ล้าน ทำประกันคุ้มครอง
แค่ 1.35 ล้าน จะทำมากหรือน้อยกว่านี้ก็ได้...แล้วแต่เราค่ะ )
เบี้ยประกันจะจ่ายเป็นเงินสดก็ได้ หรือจะให้แบงค์
บวกไปกับยอดสินเชื่อทั้งก้อนก็ได้ค่ะ
.
ตอนขายบ้านหลังเดิม 2 หลัง...และขายคอนโด
ก็ขอเวนคืนทุกครั้งค่ะ...ง่ายมาก..ขอบอก ^__^
..................
แค่ download เอกสาร...จากเวปไซต์ของบริษัทประกัน
กรอกข้อมูลให้ครบ..เลือก รับคืนเป็นเช็ค หรือให้นำเข้าบัญชีธนาคาร
แล้วส่งทางไปรษณีย์...พร้อมหลักฐานการปิดบัญชีเงินกู้
สำเนา บัตร ปชช. /ทะเบียนบ้าน และ กรมธรรม์ฉบับจริง...แล้วรอรับเงินคืนได้เลยค่ะ
.................
ผู้ที่กำลังจะขอสินเชื่อบ้าน...อย่าได้ประมาทค่ะ
กัดฟันจ่ายเบี้ยประกันเพิ่มอีกนิด...สบายใจ ตายตาหลับค่ะ
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
-
- Verified User
- โพสต์: 2545
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1049
ประสบการณ์ของผมที่เคยกู้บ้าน และคิดว่ามีความเสี่ยงอะไรที่ควรระวังเท่าที่นึกได้ครับ
1. ผมคิดว่า อัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสำคัญ เพราะทำให้เราผ่อนชำระต่อเดือนและจ่ายดอกเบี้ยในระยะยาวลดลงมาก ดอกเบี้ยต่างกัน 1% ต่อเงิน 1 ล้านบาท ก็เท่ากับต้นทุนเราเพิ่มขึ้นถึง ปีละ 10,000 บาทไม่ใช่น้อย
ข้อระวังก็คือ เราต้องพยายามหาดอกเบี้ยคงที่ที่ต่ำในระยะยาวประกอบด้วย เพราะจะมีผลกับดอกเบี้ยจ่ายที่ปรับสูงขึ้นในอนาคต อย่าเพียงมองดอกเบี้ยต่ำระยะสั้นมากนะครับ เพราะในอนาคตเราจะผ่อนเพิ่มขึ้นเมื่อดอกเบี้ยขยับสูงขึ้นมากครับ แต่ปกติธนาคารก็มักจะให้เราผ่อนชำระโดยคำนวนค่าผ่อนเผื่อในอนาคตไว้ระดับหนึ่งเช่นคิดค่่าผ่อนในอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าปกติไว้ 1%-2% เป็นต้น เผื่อดอกเบี้ยในอนาคตจะปรับสูงขึ้นก็จะได้ไม่ต้องเรียกให้ผู้กู้มาผ่อนเพิ่ม เว้นแต่อัตราดอกเบี้ยระยะยาวจะปรับสูงขึ้นมากกว่่าที่คำนวนเผื่อไว้
2. คนอายุน้อย ๆ พยายามกู้ให้มีระยะเวลาผ่อนยาวไว้ก่อน เพื่อลดอัตราการผ่อนชำระต่อเดือนลงมาให้มากสุด แต่ต้องดูเงื่อนไขว่าหากเราจะขอชำระเพิ่มเติมระหว่างงวดต้องไม่มีเบี้ยปรับ หรือชำระปิดบัญชีก่อนกำหนดได้โดยไม่มีเบี้ยปรับ ตรงนี้สำคัญมาก เพราะหากเราบริหารเงินได้ดี จะได้นำเงินมาชำระเพิ่มเติมซึ่งจะไปลดต้นได้เร็วขึ้น และจ่ายดอกเบี้ยน้อยลงโดยเฉพาะช่วงโบนัสออกจะเป็นจังหวะที่ดีในการชำระเพิ่มเติม
3. ต้องทำประกันภัย หากเป็นไปได้ให้ทำประกันอัคคีภัยระยะยาวหน่อยเช่น 5ปี จะทำให้ประหยัดค่าเบี้ยประกัน เพราะจะได้ส่วนลด อย่าลืมสอบถามกับบริษัทที่รับประกันอัคคีภัย นอกจากนี้ควรดูว่าประกันดังกล่าวครอบคลุมภัยอะไรด้วย เช่น น้ำท่วม เฟอร์นิเจอร์เสียหาย ของในบ้านถูกลักขโมย เป็นต้น ถ้าจ่ายเบี้ยเพิ่มไม่แพงมากน่าจะทำ จากประสบการณ์ช่วงที่เข้าอยู่ในหมู่บ้านใหม่ ๆ มักมีการโจรกรรมเกิดขึ้นได้ง่าย เพราะยังมีคนอยู่อาศัยน้อยครับ อย่าประมาทครับ ส่วนประกันขีวิตถ้าทำได้ก็ดี แต่เบี้ยสูงพอควรเพราะเป็นประกันจ่ายครั้งเดียวคุ้มครองไปตลอดจนถึงวันครบสัญญากู้บ้านครับ
4. เราควรพยายามรักษาเครดิตให้ดีที่สุด เพราะในยามที่ธนาคารมีการปรับดอกเบี้ยสูงขึ้น เราจะได้มีเครดิตในการต่อรองลดอัตราดอกเบี้ย หากไม่ลด เราก็สามารถไป refinance กับธนาคารอื่นได้ แต่หากเราไม่รักษาเครดิต จะทำให้เรามีภาระการผ่อนที่สูงขึ้นมากในระยะยาว เพราะการต่อรองธนาคารจะทำได้ยากขึ้นครับ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ครับ
1. ผมคิดว่า อัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสำคัญ เพราะทำให้เราผ่อนชำระต่อเดือนและจ่ายดอกเบี้ยในระยะยาวลดลงมาก ดอกเบี้ยต่างกัน 1% ต่อเงิน 1 ล้านบาท ก็เท่ากับต้นทุนเราเพิ่มขึ้นถึง ปีละ 10,000 บาทไม่ใช่น้อย
ข้อระวังก็คือ เราต้องพยายามหาดอกเบี้ยคงที่ที่ต่ำในระยะยาวประกอบด้วย เพราะจะมีผลกับดอกเบี้ยจ่ายที่ปรับสูงขึ้นในอนาคต อย่าเพียงมองดอกเบี้ยต่ำระยะสั้นมากนะครับ เพราะในอนาคตเราจะผ่อนเพิ่มขึ้นเมื่อดอกเบี้ยขยับสูงขึ้นมากครับ แต่ปกติธนาคารก็มักจะให้เราผ่อนชำระโดยคำนวนค่าผ่อนเผื่อในอนาคตไว้ระดับหนึ่งเช่นคิดค่่าผ่อนในอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าปกติไว้ 1%-2% เป็นต้น เผื่อดอกเบี้ยในอนาคตจะปรับสูงขึ้นก็จะได้ไม่ต้องเรียกให้ผู้กู้มาผ่อนเพิ่ม เว้นแต่อัตราดอกเบี้ยระยะยาวจะปรับสูงขึ้นมากกว่่าที่คำนวนเผื่อไว้
2. คนอายุน้อย ๆ พยายามกู้ให้มีระยะเวลาผ่อนยาวไว้ก่อน เพื่อลดอัตราการผ่อนชำระต่อเดือนลงมาให้มากสุด แต่ต้องดูเงื่อนไขว่าหากเราจะขอชำระเพิ่มเติมระหว่างงวดต้องไม่มีเบี้ยปรับ หรือชำระปิดบัญชีก่อนกำหนดได้โดยไม่มีเบี้ยปรับ ตรงนี้สำคัญมาก เพราะหากเราบริหารเงินได้ดี จะได้นำเงินมาชำระเพิ่มเติมซึ่งจะไปลดต้นได้เร็วขึ้น และจ่ายดอกเบี้ยน้อยลงโดยเฉพาะช่วงโบนัสออกจะเป็นจังหวะที่ดีในการชำระเพิ่มเติม
3. ต้องทำประกันภัย หากเป็นไปได้ให้ทำประกันอัคคีภัยระยะยาวหน่อยเช่น 5ปี จะทำให้ประหยัดค่าเบี้ยประกัน เพราะจะได้ส่วนลด อย่าลืมสอบถามกับบริษัทที่รับประกันอัคคีภัย นอกจากนี้ควรดูว่าประกันดังกล่าวครอบคลุมภัยอะไรด้วย เช่น น้ำท่วม เฟอร์นิเจอร์เสียหาย ของในบ้านถูกลักขโมย เป็นต้น ถ้าจ่ายเบี้ยเพิ่มไม่แพงมากน่าจะทำ จากประสบการณ์ช่วงที่เข้าอยู่ในหมู่บ้านใหม่ ๆ มักมีการโจรกรรมเกิดขึ้นได้ง่าย เพราะยังมีคนอยู่อาศัยน้อยครับ อย่าประมาทครับ ส่วนประกันขีวิตถ้าทำได้ก็ดี แต่เบี้ยสูงพอควรเพราะเป็นประกันจ่ายครั้งเดียวคุ้มครองไปตลอดจนถึงวันครบสัญญากู้บ้านครับ
4. เราควรพยายามรักษาเครดิตให้ดีที่สุด เพราะในยามที่ธนาคารมีการปรับดอกเบี้ยสูงขึ้น เราจะได้มีเครดิตในการต่อรองลดอัตราดอกเบี้ย หากไม่ลด เราก็สามารถไป refinance กับธนาคารอื่นได้ แต่หากเราไม่รักษาเครดิต จะทำให้เรามีภาระการผ่อนที่สูงขึ้นมากในระยะยาว เพราะการต่อรองธนาคารจะทำได้ยากขึ้นครับ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ครับ
Circle of competence
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 1050
คุณสมหวังทันใด อิ อิchaitorn เขียน:ประสบการณ์ของผมที่เคยกู้บ้าน และคิดว่ามีความเสี่ยงอะไรที่ควรระวังเท่าที่นึกได้ครับ
1. ผมคิดว่า อัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสำคัญ เพราะทำให้เราผ่อนชำระต่อเดือนและจ่ายดอกเบี้ยในระยะยาวลดลงมาก ดอกเบี้ยต่างกัน 1% ต่อเงิน 1 ล้านบาท ก็เท่ากับต้นทุนเราเพิ่มขึ้นถึง ปีละ 10,000 บาทไม่ใช่น้อย
ข้อระวังก็คือ เราต้องพยายามหาดอกเบี้ยคงที่ที่ต่ำในระยะยาวประกอบด้วย เพราะจะมีผลกับดอกเบี้ยจ่ายที่ปรับสูงขึ้นในอนาคต อย่าเพียงมองดอกเบี้ยต่ำระยะสั้นมากนะครับ เพราะในอนาคตเราจะผ่อนเพิ่มขึ้นเมื่อดอกเบี้ยขยับสูงขึ้นมากครับ แต่ปกติธนาคารก็มักจะให้เราผ่อนชำระโดยคำนวนค่าผ่อนเผื่อในอนาคตไว้ระดับหนึ่งเช่นคิดค่่าผ่อนในอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าปกติไว้ 1%-2% เป็นต้น เผื่อดอกเบี้ยในอนาคตจะปรับสูงขึ้นก็จะได้ไม่ต้องเรียกให้ผู้กู้มาผ่อนเพิ่ม เว้นแต่อัตราดอกเบี้ยระยะยาวจะปรับสูงขึ้นมากกว่่าที่คำนวนเผื่อไว้
2. คนอายุน้อย ๆ พยายามกู้ให้มีระยะเวลาผ่อนยาวไว้ก่อน เพื่อลดอัตราการผ่อนชำระต่อเดือนลงมาให้มากสุด แต่ต้องดูเงื่อนไขว่าหากเราจะขอชำระเพิ่มเติมระหว่างงวดต้องไม่มีเบี้ยปรับ หรือชำระปิดบัญชีก่อนกำหนดได้โดยไม่มีเบี้ยปรับ ตรงนี้สำคัญมาก เพราะหากเราบริหารเงินได้ดี จะได้นำเงินมาชำระเพิ่มเติมซึ่งจะไปลดต้นได้เร็วขึ้น และจ่ายดอกเบี้ยน้อยลงโดยเฉพาะช่วงโบนัสออกจะเป็นจังหวะที่ดีในการชำระเพิ่มเติม
3. ต้องทำประกันภัย หากเป็นไปได้ให้ทำประกันอัคคีภัยระยะยาวหน่อยเช่น 5ปี จะทำให้ประหยัดค่าเบี้ยประกัน เพราะจะได้ส่วนลด อย่าลืมสอบถามกับบริษัทที่รับประกันอัคคีภัย นอกจากนี้ควรดูว่าประกันดังกล่าวครอบคลุมภัยอะไรด้วย เช่น น้ำท่วม เฟอร์นิเจอร์เสียหาย ของในบ้านถูกลักขโมย เป็นต้น ถ้าจ่ายเบี้ยเพิ่มไม่แพงมากน่าจะทำ จากประสบการณ์ช่วงที่เข้าอยู่ในหมู่บ้านใหม่ ๆ มักมีการโจรกรรมเกิดขึ้นได้ง่าย เพราะยังมีคนอยู่อาศัยน้อยครับ อย่าประมาทครับ ส่วนประกันขีวิตถ้าทำได้ก็ดี แต่เบี้ยสูงพอควรเพราะเป็นประกันจ่ายครั้งเดียวคุ้มครองไปตลอดจนถึงวันครบสัญญากู้บ้านครับ
4. เราควรพยายามรักษาเครดิตให้ดีที่สุด เพราะในยามที่ธนาคารมีการปรับดอกเบี้ยสูงขึ้น เราจะได้มีเครดิตในการต่อรองลดอัตราดอกเบี้ย หากไม่ลด เราก็สามารถไป refinance กับธนาคารอื่นได้ แต่หากเราไม่รักษาเครดิต จะทำให้เรามีภาระการผ่อนที่สูงขึ้นมากในระยะยาว เพราะการต่อรองธนาคารจะทำได้ยากขึ้นครับ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ครับ
เป็นประโยชน์มากๆ ค่ะ...คิดรอบด้านและมองกาารณ์ไกลมาก
เพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่านก็จะได้ประโยชน์ด้วยแน่นอนค่ะ....ขอบคุณที่แวะมาแบ่งปันกันค่ะ