Money talk@SET26Apr14เส้นทางสู่ความมั่งคั่ง&กระแสโลกกับลงทุน
- i-salmon
- Verified User
- โพสต์: 293
- ผู้ติดตาม: 0
Money talk@SET26Apr14เส้นทางสู่ความมั่งคั่ง&กระแสโลกกับลงทุน
โพสต์ที่ 1
Money talk@SET26Apr14
• ขอบพระคุณอ.ไพบูลย์, ผู้ดำเนินรายการ และแขกรับเชิญทุกท่าน ทีมงานและผู้สนับสนุนการจัดงาน Money talk ครับ
• Money talk ครั้งต่อไป อาทิตย์ที่ 18 พ.ค.
- เปิดจองทาง Facebook เสาร์ 10 พ.ค.
- ผู้อาวุโส 60 ปีขึ้นไม่ต้องจอง มีที่สำรองไว้ให้ 1 แถว
- มี 2 หัวข้อ
1) ตลท.เชิญบริษัทเกี่ยวกับสุขภาพความงาม 4 บริษัท beauty, vibha, mega, amarin(อาจมีเปลี่ยนแปลงได้)
2) สอนลูกให้เดินบนเส้นทางรวย แขกรับเชิญ ดร.สมจินต์, คุณธันวา,คุณtheenuch, ดร.นิเวศน์
ช่วง 0 เวลา 12.45 - 13.15 น. ปาฐกถาพิเศษ “โทรคมนาคมไทยในกระแสโลก”
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกรรมการ กสทช.
• ในปี 2014 ประเทศไทยกำลังจะมีการ ประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 4G จำนวน 2 ครั้ง
1) คลื่นความถี่ 1800 MHz ในเดือนสิงหาคม
2) คลื่นความถี่ 900 MHz ในเดือนพฤศจิกายน
• ในอนาคตมีแผนจะประมูลใบอนุญาต 4G อีก 2 คลื่นความถี่คือ 2300 MHz และ 2600 MHz
• คลื่นความถี่มีคุณสมบัติต่างกัน
- คลื่นความถี่ต่ำไปได้ไกลแต่ทะลุทะลวงไม่ดี
- คลื่นความถี่สูงมากเจาะทะลุทะลวงได้ดี แต่ไปได้ไม่ไกลจึงต้องลงทุนสูงในการสร้างcell site (1 cell site 5-10 ล้านบาท)
• ท่านเศรษฐพงค์ฝากไว้ว่าอยากให้ใช้งานกันอย่างมีสติ มีความพอดี ไปกินข้าวเล่นๆ Upload รูป 1 ครั้ง เหมือนกับมี รถเทรลเลอร์ขึ้นไปทางด่วน 1 คัน ทำให้การสัญจรก็ยากลำบากขึ้น ถ้ามีหลายๆคนทำพร้อมกันก็ลำบาก capacity ของ operator ก็ไม่พอ
• ส่วนในรายละเอียดอื่นๆมีเพื่อนชาว thaivi คุณ amornkowa ได้มาโพสต์แชร์ไว้แล้ว ขอขอบคุณไว้ที่นี่ด้วยครับ -> http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=57418
"คลื่นความถึ่ 4G สามารถใช้กับความถึ่ 1800 / 2300 /2600 MHz เป็นหลัก เพราะผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ส่วนใหญ่ผลิตในย่านความถี่เหล่านี้ ทำให้operation ประมูลไปเพื่อให้บริการคุ้มค่ากับที่ลงทุน ไทยใช้ 4G ในคลื่น 2100 MHz ซึ่งใช้กับ 3Gอยู่
ส่วน 5G มีการพัฒนาที่ Bell Lab ที่ บาเซโลน่า และ จะเริ่มใช้งานในปี 2020 ซึ่ง การติดตั้ง Cell site จะคล้ายกับ Router ของ Wifi ซึ่งต้องติดถี่เหมือนกัน
ความเร็วของ 4G เร็วกว่า 3G 5-7 เท่า
ความเร็วของ 5G เร็วกว่า 4G 20-50 เท่า
จากข้อมูลเมื่อ มกราคม 14 อัตราการเข้าถึงโทรศัพท์เคลื่อนที่ในแต่พื้นที่
North America 72%
Central America 8%
South American 23%
Western Europe 55%
Africa 7%
Middle East 13%
Central Asia 16%
South Asia 4%
Southeast Asia 18% included thai
Oceania 66%
East Asia 28%
การใช้งานเทคโนโลยี LTE ทั่วโลก จะอยู่ที่ North America , South America, Central and East Europe,Ocenia , Southeast Asia รวมไทย
ประชากรไทย 67 ล้านคน
- ใช้งานinternet 17.779 M (26%) ซึ่งยังต่ำกว่าเป้าของกสทชมาก
- เข้าใช้งาน FB 24 M (34%)
- Active Mobile 84M (125%)
Operator แต่ละรายมีค่าใช้จ่ายต่อเบอร์ต่อเดือน คือ 2 บาทจ่ายเป็นค่าธรรมเนียม ให้กสทช เพื่อนำเงินไป พัฒนา และ ตรวจสอบ Operatorแต่ละราย
การประมูลความถี่
คลื่นความถี่ 1800 MHz ของ ทรูมูฟ และ ดิจิตอลโฟน ที่หมดอายุไปแล้วนำมาประมูลในเดือน สค 14
มี 2 ใบอนุญาติ คิดเป็น ความถี่ 25 MHz x 2
1 ใบอนุญาติจะเป็นคลื่นความถึ่ upload 12.5 MHz และ download 12.5 MHz
ราคาประมูลตั้งต้นคิดเป็น 464 ล้านบาท ต่อ 1 MHz ซึ่งถูกกว่า ประมูลคลื่นความถี่ 2100 MHz ประมาณ 3%
ดังนั้นราคาต่อใบอนุญาติ ตั้งต้น 11,600 ล้านบาท
เงื่อนไขการประมูลต้องมีอย่างน้อย 3 รายมาประมูล ถ้าน้อยกว่า จะยกเลิกประมูลทันที ดังนั้น กสทชมีหน้าที่ทำอย่างไรก็ได้ให้มีการประมูลอย่างน้อย 3 ราย
ส่วน คลื่นความถี่ 900 MHz จะมีการประมูลช่วง พย 14
มี 2 ใบอนุญาติ แต่ความถี่ไม่เท่ากัน คือ 10 MHz x 2 และ 7.5 MHz x2 อยู่ในช่วงวิเคราะห์เพื่อกำหนดราคา
ส่วนคลื่นความถี่ 2300 MHz ( TOT ) และ 2600 MHz อสมท อาจเกิดการประมูลเพี่อใช้ 4 G ในอนาคต"
ช่วง 1 เวลา 13.15 – 15.00 น. สัมมนาหัวข้อ "เส้นทางสู่ความมั่งคั่ง จากอดีตสู่อนาคต"
- คุณวสัตน์ เบนซ์ทองหล่อ ประธานกลุ่มทองหล่อ
- คุณศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ เจ้าของศิริวัฒน์แซนวิช
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ ดำเนินรายการ
...................
คุณวสัตน์ เบนซ์ทองหล่อ
o ขายรถเบนซ์ เคยประสบวิกฤติปี 40 ช่วงนั้นมี asset 4 พันล้านบาทถ้าขายของเคลียร์หมดก็ยังเป็นหนี้ 2 พันล้าน
o ช่วงก่อนปี 40 ขายดีมากสั่งเท่าไรก็ขายหมด รถสปอร์ตกำไรคันละ 5 แสน บางคันกำไร 1 ล้านกว่า
o พอเกิดวิกฤติมีรถสปอร์ตค้าง 120 คัน คันละ 6 ล้าน เก็บไว้ 5 ปีก็ขายไม่หมดจนยางเสื่อม มีรถเบนซ์ตาหวานนั่งมองจนตาขุ่น
o ไม่มีเงินใช้หนี้แบงค์พอมาทวงถ้าอยากได้ก็บอกให้เอารถไป ซึ่งทางแบงค์ก็ไม่เอา
o เคยมีมาทรัสต์ไปซื้อหนี้แบงค์ที่เจ๊งเข้ามาฟ้องจะยึดโชว์รูม ก็เจรจาให้เอาตึกไปแต่แต่ขอโชว์รูมให้ทำงาน ลูกน้องจะได้มีงานทำ ลูกน้อง 1 คนก็มีครอบครัวตีว่า 6 คน ดังนั้น ลูกน้อง 500 คน ถ้าไม่มีงานก็กระทบ 3 พันคน
o ตอนที่มีปัญหาก็ตื่นออกมาก่อนภรรยา ไปนั่งดื่มกาแฟคิดคนเดียว ถ้าเค้าเห็นเรามีเครียดจะร้องไห้ทุกครั้ง เวลาหัวเราะหลายคน ร้องไห้คนเดียวดีกว่า
o โชคดีพอรู้สถานการณ์ก่อนบ้างมีคนเตือนว่าแบงค์สภาพคล่องไม่มี เงินหมด
เลยเอาเงินที่กู้ต่างประเทศไปคืน แล้วเครดิตการ์ดที่มีก็รูดทุกใบเลย ถึงได้ช่วยเพื่อนได้หลายคน
o ทำให้มีสภาพคล่องเก็บไว้ได้ 300-400 ล้าน
o ตอนนี้เปลี่ยนนามสกุลเป็น เบนซ์ทองหล่อ ภรรยาก็เปลี่ยนนามสกุลตามด้วย แต่ลูกไม่เปลี่ยน
o สอนพนักงานขายรถ
- เวลาทำงานไม่ใช่ 8.00-17.00 น. แต่คือเวลาไหนก็ได้ที่คนจะซื้อรถก็ขายรถให้ ไม่ต้องเลือกสถานที่
- คนมา 30 คน ขายได้ 5 คัน ดีใจไม่ใช่ ทำไมไม่ขาย 25 คนที่กลับไป
• มุมมองในประเทศจะขลุกขลักอย่างนี้อีกปี เลือกตั้งแล้วก็ล้มเลือกใหม่ จนเริ่มเงินหมดก็จะยอมกันไป ประเทศก็จะดีขึ้น
คุณศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ
o เคยกรรมการผู้จัดการหลักทรัพย์โบรกเกอร์ใหญ่ที่สุดคือหลักทรัพย์เอเชียมีคนเดียว(ปัจจุบันคือเอเชียพลัส)
o ตลาดหลักทรัพย์ช่วงนั้นเคยกำไรวันเดียว 10 กว่าล้าน ขาดทุน 10 กว่าล้าน ปริมาณซื้อขายสูง มีส่วนหนึ่งเป็น value investor ถือ 5-6 ปีก็ได้เป็นหลายเท่า
o ในช่วงวิกฤติ หุ้นก็ตกลง 8 floor(สมัยนั้น floor ละ 10%) ไม่มีใครซื้อหุ้น แล้วก็เป็นคนเดียวที่เข้าไปซื้อหุ้นจนดีดกลับแล้วได้กำไร 200 ล้าน สร้างชื่อเสียงให้มาก
o จากนั้นก็ออกมาลงทุนเองในตลาดหลักทรัพย์มีลูกค้าที่เชื่อมือมาให้ช่วยลงทุนให้
oต่อมาไปลงทุนอสังหาที่เขาใหญ่ โครงการเสร็จปี 40 ก็เกิดวิกฤติ ดอกเบี้ย 17-18% หุ้นก็ตกหนักถูก force sell เพราะใช้ margin เยอะ หุ้นหลายตัวลง floor เป็นหนี้เกือบพันล้านบาท ตอนนั้นก็รู้สึกว่าทำไมต้องเป็นเรา
o พยายามเตือนทุกคน อย่าเล่น margin อย่าหวังรวย รวยจะเจ๊ง ความโลภมี
o ปัจจุบันเป็นเจ้าของศิริวัฒน์แซนด์วิช
o ขายแซนด์วิช ครั้งแรกที่โรงพยาบาลกรุงเทพ แต่ขายไม่ดีเลยไปขายขายข้างถนน
o เคยโดนเทศกิจจับขึ้นรถ 2 ครั้งแล้ว ไม่เคยเสียค่าปรับก็อธิบายด้วยเหตุผล
o สมัยนี้คนไม่ค่อยสู้งาน หาคนขายแซนด์วิชไม่ได้ การันตีรายได้เดือนละ 2 หมื่นยังหาคนไม่ได้
o สินค้าตัวสำคัญป็นอนาคตศิริวัฒน์แซนด์วิช คือน้ำมะเม่าหรือเม่าเบอรรี่เป็นผลไม้ของไทย
- พวงคล้ายองุ่น ทางอีสาน ต้นหนึ่งมีอายุ 150 ปี รับซื้อจากที่พูพานสกลนคร ออกผลปีละครั้ง
- มีธาตุเหล็กสูง มีกรดอะมิโน 18 ชนิด มีสารต้านอนุมูลอิสระ
- ปี 2553 ผลิต 2 หมื่นขวด ปี 55 ผลิต 1 แสนขวด ปี 56 ผลิต 5 แสนขวด
- ราคาขายเพิ่มขึ้นจาก ปี 53 25 บาท/kg เป็นปี 56 40 บาท/kg
- รายใหญ่ไม่ลงมาเล่นเพราะเขาผลิตกันวันละล้านขวด แต่ตัวนี้ปีหนึ่งผลิตได้ปีละ 5 แสนขวด
- ไม่ได้ทำแค่ให้เรารวย แต่ทำให้เกษตรกรรวย ขายได้ราคา โรงงานที่ผลิตให้รวย ให้เอาสัญญาซื้อขายไปกู้ 7 เดือนเคลียร์หนี้ได้แล้ว
o ต่อไปจะเอาบริษัทเข้าตลาด mai
• คุณ theenuch โพสต์ลิงค์ประวัติเกี่ยวกับคุณศิริวัฒน์ ไว้ใน FB Money talk https://www.facebook.com/MoneyTalkTV
• ตอนนี้ก็ยังลงทุนในตลาดหุ้น แต่พอร์ตก็เคลียร์ไปเยอะแล้ว มองสถานการณ์ไม่ดี อาจจะผิดก็ได้
• ต้องระวัง ในธรรมชาติมนุษย์จะเชื่อมั่นตัวเอง ถ้าซื้อหุ้นจะมองว่าดี เวลาหุ้นตกแรงก็จะมี panic sell ขายโดยไม่ต้องมีเหตุผล
• ใครเคยอยู่ตลาดสมัยก่อน หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธรออกมาตรการเก็งกำไรค่าเงินหุ้นลงวันเดียวมากกว่า 100 จุด
• มองเศรษฐกิจชะลอ มอง gdp โต 3-4% ตอนนี้แบงค์ชาติบอก 2% กว่า รัฐบาลก็เก็บภาษีได้น้อยลง
ช่วง 2 เวลา 15.15 - 17.30 น. สัมมนาหัวข้อ “กระแสโลกกับกลยุทธ์ลงทุน”
- นพ.พงษ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารีย์ นักลงทุนเน้นคุณค่า
- ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ ดำเนินรายการ
....................
นพ.พงษ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารีย์
• กระแสหลักคือ
o ประเทศต่างๆจะเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ประเทศที่เป็นกึ่งเผด็จการจะลดลง ประชาชนต้องการเสรีภาพมากขึ้น
o สังคมจะเป็นสังคมเมืองมากขึ้น คนจะชอบอยู่ในเมืองมากขึ้น ชีวิตนออกเมืองจะน้อยลง
o คนจะเริ่มมีอายุมากขึ้น คนเสียชีวิตช้าลง บริการทางสาธารณสุขดีขึ้น เข้าใจเรื่องสุขภาพดีขึ้น สัดส่วนคนเกิดน้อยลงทำให้
สัดส่วนที่เป็นผู้สูงอายุมากขึ้น
o ความเจริญของโลกเริ่มมาทางตะวันออก อย่างทางเอเชียเริ่มพัฒนาเร็วขึ้น ทำให้ gap เริ่มสมดุลขึ้น
o ภูมิอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลง ร้อนบ้างหนาวบ้าง
• เรารู้กระแสก็จะมองเห็นภาพระยะยาวว่าจะเป็นอย่างไร แต่ต้องดูว่า วงจรธุรกิจในกระแสโลกบริษัทไหนได้ประโยชน์จริงๆ อาจไม่มีใครได้ประโยชน์ หรือบางบริษัทได้มากได้น้อย
- ในอเมริกาเคยมีกระแสขุดทอง มีบริษัทที่ไปขุดทองเคยมีบางบริษัทเจอบ้างไม่เจอบ้าง
แต่ถ้าเป็นบริษัทกางเกงยีนส์ขายให้คนใส่ไปขุดทองขายได้แน่นอน
• การลงทุนที่ดีคือต้องลงทุนในบริษัทที่โอกาสชนะแน่ๆเป็นไปได้มากที่สุด
• ต้องดูใน supply chain ว่าตรงจุดไหนจะได้ประโยชน์สุด และราคาที่ลงทุนต้องเหมาะสมด้วย พยายามรอข่าวร้าย
- เช่นในไทยการเมืองตอนนี้อาจเป็นข่าวร้าย แต่ถ้ามองไป 3-5 ปีแล้วตรงนี้อาจเป็นเหตุการณ์ระยะสั้น ซึ่งพอถึงวันนั้นมองมาตรงนี้ก็อาจเป็นข่าวดี(สำหรับการลงทุน) บางครั้งรอเห็นแสงสว่างก็ช้าไป ต้องกล้าซื้อและรอได้ ถ้าไม่สนราคาระยะสั้น เราก็เป็นนักลงทุนที่มีจิตวิทยาที่ดี
• นักลงทุนในตลาดมีหลายประเภท หลายคนเริ่มมองยาวขึ้น เหตุการณ์พวกนี้ชั่วคราว ฝรั่งบางคนเป็น short term ก็ขายหุ้น ขึ้นอยู่ที่กลยุทธของเราเป็นอย่างไร
• ประเทศ TIP ใน 4-5 ปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นเติบโตค่อนข้างดี มีเงินทุนต่างประเทศเข้ามา และเศรษฐกิจโตดี บางครั้งถ้าไหลเข้ามามากไป และราคาหุ้นมากไปก็เป็นจุดเสี่ยง ทุกอย่างต้องไปที่ mean ในระยะยาว บางครั้งก็ต้องไปมองประเทศที่แย่อยู่อาจเป็นการลงทุนที่ดีก็ได้
• มนุษย์จะมีอารมณ์ตอบสนองมากเกินไป เวลาขายหุ้นก็ขายเกินไป อย่างสเปนที่มีปัญหาตอนนี้หุ้นก็กลับขึ้นมาเยอะ ถ้าเป็นนักลงทุนมีเหตุผลก็จะหาโอกาสจากสิ่งที่ผิดเพี้ยนไปได้
o เกณฑ์ที่ใช้ลงทุน มองเทรนด์ระยะยาวและบริษัทที่มีปัญหาข้อด้อยอยู่ทำให้ราคาถูกกดต่ำกว่าความเป็นจริง อย่างถ้าบริษัทมีปัญหา 1 ปีราคาจะถูกกดระยะหนึ่ง แต่ถ้าแย่ 2-3-4 ปีก็ยิ่งถูกกดมาก ถ้าบริษัทมีความแข็งแกร่งพอก็จะกลับมาได้ ไม่ได้หมายถึงว่าเป็นหุ้น turn around ที่ขาดทุนแล้วพลิกฟื้น แต่อันนี้เป็นที่ยังดีมีรายได้มีกำไรแต่ภาพที่ถูกมองในแง่ลบ คนมองข้ามไม่อยากซื้อ แต่ศักยภาพธุรกิจดี ถ้าเราทยอยซื้อ มี time frame ที่ยาวหน่อยก็จะได้ gain ที่ดี
• แนะนำการลงทุนสำหรับคนรุ่นใหม่ ต้องดูว่าโอกาสที่ดีที่สุดคืออะไร ต้องวิเคราะห์ให้ออก และต้องมีความแน่นอนสูงด้วย ถ้ามี upside มากแต่เสี่ยงมากก็ไม่ควรทำ เราไม่ต้องการขาดทุน เราต้องการโอกาสดี โดยความแน่นอนสูง
• การหาไอเดียที่ดี ต้องมองให้กว้าง หุ้นอย่าง super stock ก็ชอบเหมือนกันถ้าถือในราคาที่ยังไม่มีใครรู้จะดีมาก ถ้าเราเห็นก่อนเหมือน modern trade เมื่อ 5 ปีก่อนจะได้ผลตอบแทนที่ดีเยี่ยม ถ้าลงทุนในวันนี้อาจจะได้แค่ผลตอบแทนที่ดี
• ในอเมริกาเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ค้าปลีก บริษัทยา เป็น super stock โตปีละ 10-20% Walmart โตปีละเกือบ 18% ถ้าเราถือ super stock เมื่อถูก relate pe ไปแล้ว เราจะคาดหวังเงินเราโตปีละ 10-20% ซึ่งก็ชนะตลาดที่โต 7%
• ถ้าเราเห็นโอกาสที่ดีกว่าแล้วไม่เสี่ยง เราก็อาจจะใช้เงินส่วนหนึ่งไปลงทุนหุ้นประเภทนั้น โดยต้องวิเคราะห์ให้ดี ต้องไม่เสี่ยง โอกาสพลาดน้อย มันมีไอเดียหลายแบบ หลายโอกาสให้เลือก อยู่ที่ความเข้าใจ การวิเคราะห์เที่ยงตรงแม่นยำหรือเปล่า
• ถ้าไม่แน่ใจก็ลงทุนนิดหน่อย แล้วศึกษาทำความเข้าใจเพิ่ม แล้วค่อยลงทุนเพิ่ม
• บางครั้งบริษัทไม่ได้อยู่ในเทรนด์ก็เป็นโอกาสเหมือนกัน ต้องพิจารณาให้ดี
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
• กระแสหลักคือ
o การพุ่งขึ้นมาด้วย emerging อย่างช่วงหลัง เป็นคนผิวเหลือง โดยเฉพาะจีน 10 ปีที่ผ่านมาโต 7-8% แซงญี่ปุ่น เยอรมันขึ้นมา และจะมีอิทธิพลในโลกมากขึ้นๆ
o การพุ่งขึ้นของคน ประเทศที่มีคนเยอะจะมี power ขึ้น เจริญเร็วขึ้น อย่างอินโดนีเซีย
o การ พุ่งขึ้นของไอทีและโมบาย อุปกรณ์ต่างๆต้องมาไร้สาย
o การ พุ่งขึ้นของเมืองที่เป็นทานผ่าน การไร้พรมแดน เชียงราย อุบล หนองคาย สระแก้ว จะเกิดการล่มสลายของพรมแดน
o การพุ่งขึ้นของการท่องเที่ยว การพุ่งขึ้นของเครื่องบิน รถไฟความเร็วสูง อย่างประเทศเพื่อนบ้านก็เตรียมตัวทำกัน
o การพุ่งขึ้นของการบริโภค การกินการอยู่ของประชากร ความสวยงามการแต่งตัว
o การพุ่งขึ้นของ"กระเบื้อง" "กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยจะถอยจมลง" ความเท่าเทียมคนจะมากขึ้น ประเทศด้อยกว่าก็จะตามมา สมัยก่อนประเทศจนจะยิ่งจน สมัยนี้จะสามารถรับการลงทุนรับความเจริญเข้ามาได้ อย่างในไทยเมืองใหญ่ๆโตช้ากว่าต่างจังหวัด ตามหัวเมือง ชายแดน
o การพุ่งขึ้นของแก๊ส พลังงานตอนนี้กำลังเปลี่ยนสัดส่วนแก๊สเพิ่มเร็ว น้ำมันค่อยๆลดบทบาท ต่อไปแก๊สที่อเมริกาจะใช้เพิ่มกว่าน้ำมัน การดูดอะไรขึ้นมาก็ดีขึ้น ราคาอาจจะถูกลง ต่อไปถึงจุดหนึ่งอเมริกาก็อาจอัดแก๊สขายก็ได้ สัดส่วนขึ้นเร็วมาก
o การพุ่งขึ้นของเงิน เม็ดเงินในตลาดโลกเพิ่ม คนจำนวนมากมีเงินเหลือ เงินก็จะไหลเข้ามาในตลาดหุ้น ปี 56 คนไทยรายย่อยเอาเงินเข้ามา 2 แสนล้านบาทในตลาดหุ้น 10 ปีที่ผ่านมาดอกเบี้ยต่ำมาก ขึ้นก็ไม่ได้เพราะเงินเยอะ
o การ พุ่งขึ้นของไบโอเทคโนโลยี ดูแลสุขภาพ รักษาโรคต่างๆ
• ในการลงทุนไม่ค่อยชอบในการหาหุ้นที่ยังไม่ดีแล้วจะดี ทนไม่ค่อยไหว ไม่ดีซักที ไม่กล้าซื้อเยอ แต่เห็นด้วยว่าโอกาสกำไรมาก ถ้าไม่ทนไม่ไหวระหว่างทางขายทิ้งไปก่อน
• ส่วนตัวหลักง่ายๆเลือกผู้ชนะ ถ้าไม่ชนะมีแนวโน้มไม่เอา ซึ่งก็มีหลายระดับ
o สมมติว่า ดิจิตัลทีวี เป็นกระแส ถามว่าตอนนี้จะซื้อไหม ตอบไม่ซื้อ เพราะไม่รู้ใครเป็นผู้ชนะ ถ้าจะซื้อตอนชนะเรียบร้อยราคาก็ขึ้นไปเยอะแล้ว ต้องดูผู้ชนะว่าใครจะกุม market share ได้มากกว่าคนอื่น และ market share เพิ่มขึ้น ไล่ดูไปเลย 24 ช่อง ดู rating ดูยอดขาย ดีขึ้นหรือไม่ อย่างเช่น
- facebook เข้าตลาด market share มหาศาลแต่ไม่ค่อยมีกำไร พอซักพักมีกำไรราคาก็ขึ้นมาก
- Apple เป็นที่นิยมแต่ Samsung ยังไม่เป็นที่รู้จัก หลังจากนั้น samsung นิยมขึ้นเรื่อยๆราคาก็วิ่ง ยอดขายมา กำไรดี
o หุ้นแบบนี้ถ้าอยู่ในเทรนด์ดีๆ ยอดขายดีๆ ดู market share ว่าใครกินใครด้วย ถ้าเป็นแบบ super stock ต้องชนะแล้วแต่ยังมี room โตอยู่ คู่แข่งไม่สามารถเข้ามาแข่งได้
•สมัยพอร์ตยังไม่ใหญ่ก็ลงทุนคล้ายๆแบบนี้ แต่ตอนนั้นพอดี modern trade, โรงพยาบาล ไม่ได้มีใครสนใจ มันไม่ได้โตแบบพุ่ง แต่โตค่อยๆขึ้น 15-20% ในระยะยาวคือโตมหาศาล บางบริษัทโต 30% แต่อีกปีชะลอ ในระยะยาวก็สู้ไม่ได้
• หลายกระแสเป็นธุรกิจที่หาผู้ชนะยาก เช่น การบิน ในประวัติศาสตร์ไม่มีสายการบินไหนชนะจริงๆ ที่แข่งกันทั่วโลก
•กลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็นกระแสให้ลองศึกษาเพิ่ม
- กลุ่มที่สร้างความยั่งยืน ลูกค้าต้องเลือก ด้วยคุณภาพหรือจำเป็นต้องเลือก สินค้าที่เป็น description เลือกที่จะจ่ายหรือไม่จ่าย? เช่น โรงพยาบาล อาหาร
- อย่างกลุ่มการบินลูกค้าเลือกได้ สนามบินเลือกไม่ได้ เป็นต้น อย่างนี้อยู่ในข่าย
- อย่างกลุ่ม อาหารถ้าเราบอกว่ากินร้านนี้คือเลือกได้ ต้องดูว่าคนเลือกหรือถูกบังคับให้เลือก
• ขอบพระคุณอ.ไพบูลย์, ผู้ดำเนินรายการ และแขกรับเชิญทุกท่าน ทีมงานและผู้สนับสนุนการจัดงาน Money talk ครับ
• Money talk ครั้งต่อไป อาทิตย์ที่ 18 พ.ค.
- เปิดจองทาง Facebook เสาร์ 10 พ.ค.
- ผู้อาวุโส 60 ปีขึ้นไม่ต้องจอง มีที่สำรองไว้ให้ 1 แถว
- มี 2 หัวข้อ
1) ตลท.เชิญบริษัทเกี่ยวกับสุขภาพความงาม 4 บริษัท beauty, vibha, mega, amarin(อาจมีเปลี่ยนแปลงได้)
2) สอนลูกให้เดินบนเส้นทางรวย แขกรับเชิญ ดร.สมจินต์, คุณธันวา,คุณtheenuch, ดร.นิเวศน์
ช่วง 0 เวลา 12.45 - 13.15 น. ปาฐกถาพิเศษ “โทรคมนาคมไทยในกระแสโลก”
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกรรมการ กสทช.
• ในปี 2014 ประเทศไทยกำลังจะมีการ ประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 4G จำนวน 2 ครั้ง
1) คลื่นความถี่ 1800 MHz ในเดือนสิงหาคม
2) คลื่นความถี่ 900 MHz ในเดือนพฤศจิกายน
• ในอนาคตมีแผนจะประมูลใบอนุญาต 4G อีก 2 คลื่นความถี่คือ 2300 MHz และ 2600 MHz
• คลื่นความถี่มีคุณสมบัติต่างกัน
- คลื่นความถี่ต่ำไปได้ไกลแต่ทะลุทะลวงไม่ดี
- คลื่นความถี่สูงมากเจาะทะลุทะลวงได้ดี แต่ไปได้ไม่ไกลจึงต้องลงทุนสูงในการสร้างcell site (1 cell site 5-10 ล้านบาท)
• ท่านเศรษฐพงค์ฝากไว้ว่าอยากให้ใช้งานกันอย่างมีสติ มีความพอดี ไปกินข้าวเล่นๆ Upload รูป 1 ครั้ง เหมือนกับมี รถเทรลเลอร์ขึ้นไปทางด่วน 1 คัน ทำให้การสัญจรก็ยากลำบากขึ้น ถ้ามีหลายๆคนทำพร้อมกันก็ลำบาก capacity ของ operator ก็ไม่พอ
• ส่วนในรายละเอียดอื่นๆมีเพื่อนชาว thaivi คุณ amornkowa ได้มาโพสต์แชร์ไว้แล้ว ขอขอบคุณไว้ที่นี่ด้วยครับ -> http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=57418
"คลื่นความถึ่ 4G สามารถใช้กับความถึ่ 1800 / 2300 /2600 MHz เป็นหลัก เพราะผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ส่วนใหญ่ผลิตในย่านความถี่เหล่านี้ ทำให้operation ประมูลไปเพื่อให้บริการคุ้มค่ากับที่ลงทุน ไทยใช้ 4G ในคลื่น 2100 MHz ซึ่งใช้กับ 3Gอยู่
ส่วน 5G มีการพัฒนาที่ Bell Lab ที่ บาเซโลน่า และ จะเริ่มใช้งานในปี 2020 ซึ่ง การติดตั้ง Cell site จะคล้ายกับ Router ของ Wifi ซึ่งต้องติดถี่เหมือนกัน
ความเร็วของ 4G เร็วกว่า 3G 5-7 เท่า
ความเร็วของ 5G เร็วกว่า 4G 20-50 เท่า
จากข้อมูลเมื่อ มกราคม 14 อัตราการเข้าถึงโทรศัพท์เคลื่อนที่ในแต่พื้นที่
North America 72%
Central America 8%
South American 23%
Western Europe 55%
Africa 7%
Middle East 13%
Central Asia 16%
South Asia 4%
Southeast Asia 18% included thai
Oceania 66%
East Asia 28%
การใช้งานเทคโนโลยี LTE ทั่วโลก จะอยู่ที่ North America , South America, Central and East Europe,Ocenia , Southeast Asia รวมไทย
ประชากรไทย 67 ล้านคน
- ใช้งานinternet 17.779 M (26%) ซึ่งยังต่ำกว่าเป้าของกสทชมาก
- เข้าใช้งาน FB 24 M (34%)
- Active Mobile 84M (125%)
Operator แต่ละรายมีค่าใช้จ่ายต่อเบอร์ต่อเดือน คือ 2 บาทจ่ายเป็นค่าธรรมเนียม ให้กสทช เพื่อนำเงินไป พัฒนา และ ตรวจสอบ Operatorแต่ละราย
การประมูลความถี่
คลื่นความถี่ 1800 MHz ของ ทรูมูฟ และ ดิจิตอลโฟน ที่หมดอายุไปแล้วนำมาประมูลในเดือน สค 14
มี 2 ใบอนุญาติ คิดเป็น ความถี่ 25 MHz x 2
1 ใบอนุญาติจะเป็นคลื่นความถึ่ upload 12.5 MHz และ download 12.5 MHz
ราคาประมูลตั้งต้นคิดเป็น 464 ล้านบาท ต่อ 1 MHz ซึ่งถูกกว่า ประมูลคลื่นความถี่ 2100 MHz ประมาณ 3%
ดังนั้นราคาต่อใบอนุญาติ ตั้งต้น 11,600 ล้านบาท
เงื่อนไขการประมูลต้องมีอย่างน้อย 3 รายมาประมูล ถ้าน้อยกว่า จะยกเลิกประมูลทันที ดังนั้น กสทชมีหน้าที่ทำอย่างไรก็ได้ให้มีการประมูลอย่างน้อย 3 ราย
ส่วน คลื่นความถี่ 900 MHz จะมีการประมูลช่วง พย 14
มี 2 ใบอนุญาติ แต่ความถี่ไม่เท่ากัน คือ 10 MHz x 2 และ 7.5 MHz x2 อยู่ในช่วงวิเคราะห์เพื่อกำหนดราคา
ส่วนคลื่นความถี่ 2300 MHz ( TOT ) และ 2600 MHz อสมท อาจเกิดการประมูลเพี่อใช้ 4 G ในอนาคต"
ช่วง 1 เวลา 13.15 – 15.00 น. สัมมนาหัวข้อ "เส้นทางสู่ความมั่งคั่ง จากอดีตสู่อนาคต"
- คุณวสัตน์ เบนซ์ทองหล่อ ประธานกลุ่มทองหล่อ
- คุณศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ เจ้าของศิริวัฒน์แซนวิช
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ ดำเนินรายการ
...................
คุณวสัตน์ เบนซ์ทองหล่อ
o ขายรถเบนซ์ เคยประสบวิกฤติปี 40 ช่วงนั้นมี asset 4 พันล้านบาทถ้าขายของเคลียร์หมดก็ยังเป็นหนี้ 2 พันล้าน
o ช่วงก่อนปี 40 ขายดีมากสั่งเท่าไรก็ขายหมด รถสปอร์ตกำไรคันละ 5 แสน บางคันกำไร 1 ล้านกว่า
o พอเกิดวิกฤติมีรถสปอร์ตค้าง 120 คัน คันละ 6 ล้าน เก็บไว้ 5 ปีก็ขายไม่หมดจนยางเสื่อม มีรถเบนซ์ตาหวานนั่งมองจนตาขุ่น
o ไม่มีเงินใช้หนี้แบงค์พอมาทวงถ้าอยากได้ก็บอกให้เอารถไป ซึ่งทางแบงค์ก็ไม่เอา
o เคยมีมาทรัสต์ไปซื้อหนี้แบงค์ที่เจ๊งเข้ามาฟ้องจะยึดโชว์รูม ก็เจรจาให้เอาตึกไปแต่แต่ขอโชว์รูมให้ทำงาน ลูกน้องจะได้มีงานทำ ลูกน้อง 1 คนก็มีครอบครัวตีว่า 6 คน ดังนั้น ลูกน้อง 500 คน ถ้าไม่มีงานก็กระทบ 3 พันคน
o ตอนที่มีปัญหาก็ตื่นออกมาก่อนภรรยา ไปนั่งดื่มกาแฟคิดคนเดียว ถ้าเค้าเห็นเรามีเครียดจะร้องไห้ทุกครั้ง เวลาหัวเราะหลายคน ร้องไห้คนเดียวดีกว่า
o โชคดีพอรู้สถานการณ์ก่อนบ้างมีคนเตือนว่าแบงค์สภาพคล่องไม่มี เงินหมด
เลยเอาเงินที่กู้ต่างประเทศไปคืน แล้วเครดิตการ์ดที่มีก็รูดทุกใบเลย ถึงได้ช่วยเพื่อนได้หลายคน
o ทำให้มีสภาพคล่องเก็บไว้ได้ 300-400 ล้าน
o ตอนนี้เปลี่ยนนามสกุลเป็น เบนซ์ทองหล่อ ภรรยาก็เปลี่ยนนามสกุลตามด้วย แต่ลูกไม่เปลี่ยน
o สอนพนักงานขายรถ
- เวลาทำงานไม่ใช่ 8.00-17.00 น. แต่คือเวลาไหนก็ได้ที่คนจะซื้อรถก็ขายรถให้ ไม่ต้องเลือกสถานที่
- คนมา 30 คน ขายได้ 5 คัน ดีใจไม่ใช่ ทำไมไม่ขาย 25 คนที่กลับไป
• มุมมองในประเทศจะขลุกขลักอย่างนี้อีกปี เลือกตั้งแล้วก็ล้มเลือกใหม่ จนเริ่มเงินหมดก็จะยอมกันไป ประเทศก็จะดีขึ้น
คุณศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ
o เคยกรรมการผู้จัดการหลักทรัพย์โบรกเกอร์ใหญ่ที่สุดคือหลักทรัพย์เอเชียมีคนเดียว(ปัจจุบันคือเอเชียพลัส)
o ตลาดหลักทรัพย์ช่วงนั้นเคยกำไรวันเดียว 10 กว่าล้าน ขาดทุน 10 กว่าล้าน ปริมาณซื้อขายสูง มีส่วนหนึ่งเป็น value investor ถือ 5-6 ปีก็ได้เป็นหลายเท่า
o ในช่วงวิกฤติ หุ้นก็ตกลง 8 floor(สมัยนั้น floor ละ 10%) ไม่มีใครซื้อหุ้น แล้วก็เป็นคนเดียวที่เข้าไปซื้อหุ้นจนดีดกลับแล้วได้กำไร 200 ล้าน สร้างชื่อเสียงให้มาก
o จากนั้นก็ออกมาลงทุนเองในตลาดหลักทรัพย์มีลูกค้าที่เชื่อมือมาให้ช่วยลงทุนให้
oต่อมาไปลงทุนอสังหาที่เขาใหญ่ โครงการเสร็จปี 40 ก็เกิดวิกฤติ ดอกเบี้ย 17-18% หุ้นก็ตกหนักถูก force sell เพราะใช้ margin เยอะ หุ้นหลายตัวลง floor เป็นหนี้เกือบพันล้านบาท ตอนนั้นก็รู้สึกว่าทำไมต้องเป็นเรา
o พยายามเตือนทุกคน อย่าเล่น margin อย่าหวังรวย รวยจะเจ๊ง ความโลภมี
o ปัจจุบันเป็นเจ้าของศิริวัฒน์แซนด์วิช
o ขายแซนด์วิช ครั้งแรกที่โรงพยาบาลกรุงเทพ แต่ขายไม่ดีเลยไปขายขายข้างถนน
o เคยโดนเทศกิจจับขึ้นรถ 2 ครั้งแล้ว ไม่เคยเสียค่าปรับก็อธิบายด้วยเหตุผล
o สมัยนี้คนไม่ค่อยสู้งาน หาคนขายแซนด์วิชไม่ได้ การันตีรายได้เดือนละ 2 หมื่นยังหาคนไม่ได้
o สินค้าตัวสำคัญป็นอนาคตศิริวัฒน์แซนด์วิช คือน้ำมะเม่าหรือเม่าเบอรรี่เป็นผลไม้ของไทย
- พวงคล้ายองุ่น ทางอีสาน ต้นหนึ่งมีอายุ 150 ปี รับซื้อจากที่พูพานสกลนคร ออกผลปีละครั้ง
- มีธาตุเหล็กสูง มีกรดอะมิโน 18 ชนิด มีสารต้านอนุมูลอิสระ
- ปี 2553 ผลิต 2 หมื่นขวด ปี 55 ผลิต 1 แสนขวด ปี 56 ผลิต 5 แสนขวด
- ราคาขายเพิ่มขึ้นจาก ปี 53 25 บาท/kg เป็นปี 56 40 บาท/kg
- รายใหญ่ไม่ลงมาเล่นเพราะเขาผลิตกันวันละล้านขวด แต่ตัวนี้ปีหนึ่งผลิตได้ปีละ 5 แสนขวด
- ไม่ได้ทำแค่ให้เรารวย แต่ทำให้เกษตรกรรวย ขายได้ราคา โรงงานที่ผลิตให้รวย ให้เอาสัญญาซื้อขายไปกู้ 7 เดือนเคลียร์หนี้ได้แล้ว
o ต่อไปจะเอาบริษัทเข้าตลาด mai
• คุณ theenuch โพสต์ลิงค์ประวัติเกี่ยวกับคุณศิริวัฒน์ ไว้ใน FB Money talk https://www.facebook.com/MoneyTalkTV
• ตอนนี้ก็ยังลงทุนในตลาดหุ้น แต่พอร์ตก็เคลียร์ไปเยอะแล้ว มองสถานการณ์ไม่ดี อาจจะผิดก็ได้
• ต้องระวัง ในธรรมชาติมนุษย์จะเชื่อมั่นตัวเอง ถ้าซื้อหุ้นจะมองว่าดี เวลาหุ้นตกแรงก็จะมี panic sell ขายโดยไม่ต้องมีเหตุผล
• ใครเคยอยู่ตลาดสมัยก่อน หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธรออกมาตรการเก็งกำไรค่าเงินหุ้นลงวันเดียวมากกว่า 100 จุด
• มองเศรษฐกิจชะลอ มอง gdp โต 3-4% ตอนนี้แบงค์ชาติบอก 2% กว่า รัฐบาลก็เก็บภาษีได้น้อยลง
ช่วง 2 เวลา 15.15 - 17.30 น. สัมมนาหัวข้อ “กระแสโลกกับกลยุทธ์ลงทุน”
- นพ.พงษ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารีย์ นักลงทุนเน้นคุณค่า
- ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ ดำเนินรายการ
....................
นพ.พงษ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารีย์
• กระแสหลักคือ
o ประเทศต่างๆจะเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ประเทศที่เป็นกึ่งเผด็จการจะลดลง ประชาชนต้องการเสรีภาพมากขึ้น
o สังคมจะเป็นสังคมเมืองมากขึ้น คนจะชอบอยู่ในเมืองมากขึ้น ชีวิตนออกเมืองจะน้อยลง
o คนจะเริ่มมีอายุมากขึ้น คนเสียชีวิตช้าลง บริการทางสาธารณสุขดีขึ้น เข้าใจเรื่องสุขภาพดีขึ้น สัดส่วนคนเกิดน้อยลงทำให้
สัดส่วนที่เป็นผู้สูงอายุมากขึ้น
o ความเจริญของโลกเริ่มมาทางตะวันออก อย่างทางเอเชียเริ่มพัฒนาเร็วขึ้น ทำให้ gap เริ่มสมดุลขึ้น
o ภูมิอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลง ร้อนบ้างหนาวบ้าง
• เรารู้กระแสก็จะมองเห็นภาพระยะยาวว่าจะเป็นอย่างไร แต่ต้องดูว่า วงจรธุรกิจในกระแสโลกบริษัทไหนได้ประโยชน์จริงๆ อาจไม่มีใครได้ประโยชน์ หรือบางบริษัทได้มากได้น้อย
- ในอเมริกาเคยมีกระแสขุดทอง มีบริษัทที่ไปขุดทองเคยมีบางบริษัทเจอบ้างไม่เจอบ้าง
แต่ถ้าเป็นบริษัทกางเกงยีนส์ขายให้คนใส่ไปขุดทองขายได้แน่นอน
• การลงทุนที่ดีคือต้องลงทุนในบริษัทที่โอกาสชนะแน่ๆเป็นไปได้มากที่สุด
• ต้องดูใน supply chain ว่าตรงจุดไหนจะได้ประโยชน์สุด และราคาที่ลงทุนต้องเหมาะสมด้วย พยายามรอข่าวร้าย
- เช่นในไทยการเมืองตอนนี้อาจเป็นข่าวร้าย แต่ถ้ามองไป 3-5 ปีแล้วตรงนี้อาจเป็นเหตุการณ์ระยะสั้น ซึ่งพอถึงวันนั้นมองมาตรงนี้ก็อาจเป็นข่าวดี(สำหรับการลงทุน) บางครั้งรอเห็นแสงสว่างก็ช้าไป ต้องกล้าซื้อและรอได้ ถ้าไม่สนราคาระยะสั้น เราก็เป็นนักลงทุนที่มีจิตวิทยาที่ดี
• นักลงทุนในตลาดมีหลายประเภท หลายคนเริ่มมองยาวขึ้น เหตุการณ์พวกนี้ชั่วคราว ฝรั่งบางคนเป็น short term ก็ขายหุ้น ขึ้นอยู่ที่กลยุทธของเราเป็นอย่างไร
• ประเทศ TIP ใน 4-5 ปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นเติบโตค่อนข้างดี มีเงินทุนต่างประเทศเข้ามา และเศรษฐกิจโตดี บางครั้งถ้าไหลเข้ามามากไป และราคาหุ้นมากไปก็เป็นจุดเสี่ยง ทุกอย่างต้องไปที่ mean ในระยะยาว บางครั้งก็ต้องไปมองประเทศที่แย่อยู่อาจเป็นการลงทุนที่ดีก็ได้
• มนุษย์จะมีอารมณ์ตอบสนองมากเกินไป เวลาขายหุ้นก็ขายเกินไป อย่างสเปนที่มีปัญหาตอนนี้หุ้นก็กลับขึ้นมาเยอะ ถ้าเป็นนักลงทุนมีเหตุผลก็จะหาโอกาสจากสิ่งที่ผิดเพี้ยนไปได้
o เกณฑ์ที่ใช้ลงทุน มองเทรนด์ระยะยาวและบริษัทที่มีปัญหาข้อด้อยอยู่ทำให้ราคาถูกกดต่ำกว่าความเป็นจริง อย่างถ้าบริษัทมีปัญหา 1 ปีราคาจะถูกกดระยะหนึ่ง แต่ถ้าแย่ 2-3-4 ปีก็ยิ่งถูกกดมาก ถ้าบริษัทมีความแข็งแกร่งพอก็จะกลับมาได้ ไม่ได้หมายถึงว่าเป็นหุ้น turn around ที่ขาดทุนแล้วพลิกฟื้น แต่อันนี้เป็นที่ยังดีมีรายได้มีกำไรแต่ภาพที่ถูกมองในแง่ลบ คนมองข้ามไม่อยากซื้อ แต่ศักยภาพธุรกิจดี ถ้าเราทยอยซื้อ มี time frame ที่ยาวหน่อยก็จะได้ gain ที่ดี
• แนะนำการลงทุนสำหรับคนรุ่นใหม่ ต้องดูว่าโอกาสที่ดีที่สุดคืออะไร ต้องวิเคราะห์ให้ออก และต้องมีความแน่นอนสูงด้วย ถ้ามี upside มากแต่เสี่ยงมากก็ไม่ควรทำ เราไม่ต้องการขาดทุน เราต้องการโอกาสดี โดยความแน่นอนสูง
• การหาไอเดียที่ดี ต้องมองให้กว้าง หุ้นอย่าง super stock ก็ชอบเหมือนกันถ้าถือในราคาที่ยังไม่มีใครรู้จะดีมาก ถ้าเราเห็นก่อนเหมือน modern trade เมื่อ 5 ปีก่อนจะได้ผลตอบแทนที่ดีเยี่ยม ถ้าลงทุนในวันนี้อาจจะได้แค่ผลตอบแทนที่ดี
• ในอเมริกาเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ค้าปลีก บริษัทยา เป็น super stock โตปีละ 10-20% Walmart โตปีละเกือบ 18% ถ้าเราถือ super stock เมื่อถูก relate pe ไปแล้ว เราจะคาดหวังเงินเราโตปีละ 10-20% ซึ่งก็ชนะตลาดที่โต 7%
• ถ้าเราเห็นโอกาสที่ดีกว่าแล้วไม่เสี่ยง เราก็อาจจะใช้เงินส่วนหนึ่งไปลงทุนหุ้นประเภทนั้น โดยต้องวิเคราะห์ให้ดี ต้องไม่เสี่ยง โอกาสพลาดน้อย มันมีไอเดียหลายแบบ หลายโอกาสให้เลือก อยู่ที่ความเข้าใจ การวิเคราะห์เที่ยงตรงแม่นยำหรือเปล่า
• ถ้าไม่แน่ใจก็ลงทุนนิดหน่อย แล้วศึกษาทำความเข้าใจเพิ่ม แล้วค่อยลงทุนเพิ่ม
• บางครั้งบริษัทไม่ได้อยู่ในเทรนด์ก็เป็นโอกาสเหมือนกัน ต้องพิจารณาให้ดี
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
• กระแสหลักคือ
o การพุ่งขึ้นมาด้วย emerging อย่างช่วงหลัง เป็นคนผิวเหลือง โดยเฉพาะจีน 10 ปีที่ผ่านมาโต 7-8% แซงญี่ปุ่น เยอรมันขึ้นมา และจะมีอิทธิพลในโลกมากขึ้นๆ
o การพุ่งขึ้นของคน ประเทศที่มีคนเยอะจะมี power ขึ้น เจริญเร็วขึ้น อย่างอินโดนีเซีย
o การ พุ่งขึ้นของไอทีและโมบาย อุปกรณ์ต่างๆต้องมาไร้สาย
o การ พุ่งขึ้นของเมืองที่เป็นทานผ่าน การไร้พรมแดน เชียงราย อุบล หนองคาย สระแก้ว จะเกิดการล่มสลายของพรมแดน
o การพุ่งขึ้นของการท่องเที่ยว การพุ่งขึ้นของเครื่องบิน รถไฟความเร็วสูง อย่างประเทศเพื่อนบ้านก็เตรียมตัวทำกัน
o การพุ่งขึ้นของการบริโภค การกินการอยู่ของประชากร ความสวยงามการแต่งตัว
o การพุ่งขึ้นของ"กระเบื้อง" "กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยจะถอยจมลง" ความเท่าเทียมคนจะมากขึ้น ประเทศด้อยกว่าก็จะตามมา สมัยก่อนประเทศจนจะยิ่งจน สมัยนี้จะสามารถรับการลงทุนรับความเจริญเข้ามาได้ อย่างในไทยเมืองใหญ่ๆโตช้ากว่าต่างจังหวัด ตามหัวเมือง ชายแดน
o การพุ่งขึ้นของแก๊ส พลังงานตอนนี้กำลังเปลี่ยนสัดส่วนแก๊สเพิ่มเร็ว น้ำมันค่อยๆลดบทบาท ต่อไปแก๊สที่อเมริกาจะใช้เพิ่มกว่าน้ำมัน การดูดอะไรขึ้นมาก็ดีขึ้น ราคาอาจจะถูกลง ต่อไปถึงจุดหนึ่งอเมริกาก็อาจอัดแก๊สขายก็ได้ สัดส่วนขึ้นเร็วมาก
o การพุ่งขึ้นของเงิน เม็ดเงินในตลาดโลกเพิ่ม คนจำนวนมากมีเงินเหลือ เงินก็จะไหลเข้ามาในตลาดหุ้น ปี 56 คนไทยรายย่อยเอาเงินเข้ามา 2 แสนล้านบาทในตลาดหุ้น 10 ปีที่ผ่านมาดอกเบี้ยต่ำมาก ขึ้นก็ไม่ได้เพราะเงินเยอะ
o การ พุ่งขึ้นของไบโอเทคโนโลยี ดูแลสุขภาพ รักษาโรคต่างๆ
• ในการลงทุนไม่ค่อยชอบในการหาหุ้นที่ยังไม่ดีแล้วจะดี ทนไม่ค่อยไหว ไม่ดีซักที ไม่กล้าซื้อเยอ แต่เห็นด้วยว่าโอกาสกำไรมาก ถ้าไม่ทนไม่ไหวระหว่างทางขายทิ้งไปก่อน
• ส่วนตัวหลักง่ายๆเลือกผู้ชนะ ถ้าไม่ชนะมีแนวโน้มไม่เอา ซึ่งก็มีหลายระดับ
o สมมติว่า ดิจิตัลทีวี เป็นกระแส ถามว่าตอนนี้จะซื้อไหม ตอบไม่ซื้อ เพราะไม่รู้ใครเป็นผู้ชนะ ถ้าจะซื้อตอนชนะเรียบร้อยราคาก็ขึ้นไปเยอะแล้ว ต้องดูผู้ชนะว่าใครจะกุม market share ได้มากกว่าคนอื่น และ market share เพิ่มขึ้น ไล่ดูไปเลย 24 ช่อง ดู rating ดูยอดขาย ดีขึ้นหรือไม่ อย่างเช่น
- facebook เข้าตลาด market share มหาศาลแต่ไม่ค่อยมีกำไร พอซักพักมีกำไรราคาก็ขึ้นมาก
- Apple เป็นที่นิยมแต่ Samsung ยังไม่เป็นที่รู้จัก หลังจากนั้น samsung นิยมขึ้นเรื่อยๆราคาก็วิ่ง ยอดขายมา กำไรดี
o หุ้นแบบนี้ถ้าอยู่ในเทรนด์ดีๆ ยอดขายดีๆ ดู market share ว่าใครกินใครด้วย ถ้าเป็นแบบ super stock ต้องชนะแล้วแต่ยังมี room โตอยู่ คู่แข่งไม่สามารถเข้ามาแข่งได้
•สมัยพอร์ตยังไม่ใหญ่ก็ลงทุนคล้ายๆแบบนี้ แต่ตอนนั้นพอดี modern trade, โรงพยาบาล ไม่ได้มีใครสนใจ มันไม่ได้โตแบบพุ่ง แต่โตค่อยๆขึ้น 15-20% ในระยะยาวคือโตมหาศาล บางบริษัทโต 30% แต่อีกปีชะลอ ในระยะยาวก็สู้ไม่ได้
• หลายกระแสเป็นธุรกิจที่หาผู้ชนะยาก เช่น การบิน ในประวัติศาสตร์ไม่มีสายการบินไหนชนะจริงๆ ที่แข่งกันทั่วโลก
•กลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็นกระแสให้ลองศึกษาเพิ่ม
- กลุ่มที่สร้างความยั่งยืน ลูกค้าต้องเลือก ด้วยคุณภาพหรือจำเป็นต้องเลือก สินค้าที่เป็น description เลือกที่จะจ่ายหรือไม่จ่าย? เช่น โรงพยาบาล อาหาร
- อย่างกลุ่มการบินลูกค้าเลือกได้ สนามบินเลือกไม่ได้ เป็นต้น อย่างนี้อยู่ในข่าย
- อย่างกลุ่ม อาหารถ้าเราบอกว่ากินร้านนี้คือเลือกได้ ต้องดูว่าคนเลือกหรือถูกบังคับให้เลือก
Go against and stay alive.
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Money talk@SET26Apr14เส้นทางสู่ความมั่งคั่ง&กระแสโลกกับล
โพสต์ที่ 9
เชิญชม slide บรรยากาศงานสัมมนา Money Talk@SET ครั้งนี้
ที่ fb money talk ตาม link นี้ค่ะ ^_*
https://www.facebook.com/photo.php?v=64 ... =2&theater
ที่ fb money talk ตาม link นี้ค่ะ ^_*
https://www.facebook.com/photo.php?v=64 ... =2&theater
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Money talk@SET26Apr14เส้นทางสู่ความมั่งคั่ง&กระแสโลกกับล
โพสต์ที่ 11
ขอบคุณค่ะน้อง Samkok ...เขินเลยSamkok เขียน:สุดยอดไปเลยครับ ขอชื่นชมคุณ theenuch ครับ
อยากบอกว่ารูปภาพที่ใช้ถ่ายเองนิดหน่อยค่ะ
หลักๆ นั้นทาง thaivi (น้องแป๋ม) กรุณาส่งไปให้ค่ะ...
ต้องขอขอบคุณทีมงาน thaivi ทุกท่านไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ