เพื่อนชาว vi มีใคร cutloss หุ้น เนื่องจากเหตุการทางการเมือง

[nuttagan]

บางอุตสหกรรม การเมืองส่งผลต่อปัจจัยพื้นฐาน ของกิจการในระยะสั้นแล้ว เช่น ท่องเที่ยว รถยนต์ อสังหา และ ถ้าการเมืองรุนแรงมาก และ ยืดเยื้อ หรือ มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอะไรบางอย่าง ซึ่งไม่สามารถ คาดการได้ในมุม ที่เลวร้ายสุดสุด เพื่อนชาว vi จะกล้า cutloss กันหรือไม่ครับ ซึ่งมูลค่าหุ้นลงมามากแล้ว สำหรับผม คงเป็นเรื่องยากในการตัดสินใจมากครับ แต่ยังไงผมก็คิดว่าทุกอย่างเป็นเพียงระยะสั้นและทุกอย่างจะจบลงด้วยดี

[nuttagan]

ผมคิดว่าการลงทุนแบบ vi บางครั้ง การ cut loss อาจจะเจ็บหนัก เพราะเมื่อรู้ว่าพื้นฐานเปลี่ยนราคาก็ลงไปเยอะแล้วกว่านักเก็งกำไรทีมีวินัยตั้งจุด stop loss ไว้

[romee]

ถ้าหุ้นเราอ่อนไหวกับเรื่องการเมืองมากๆ มันก็ถือเป็นพื้นฐานด้วยนะ

แต่สำคัญผมว่าถ้าcutแล้ว แผนต่อไปของเราคืออะไรอ่ะครับ
หรือถ้าไม่cut แผนต่อไปคืออะไร ถ้าราคาลงต่อ

ผมชอบคำนี้นะ Hope Is Not a Strategy

ส่วนตัวตอนนี้ขอ Hope ให้มันอย่าแย่ไปกว่านี้เลย

[picatos]

จากประสบการณ์การลงทุนที่ผ่านมา ทุกครั้งปัญหาเรื่องการเมือง หรือปัจจัยลบระยะสั้นเป็นโอกาสซื้อมากกว่าครับ

ผมมักเจอโอกาสในช่วงแบบนี้เสียมากกว่า

[PLUSLOVE]

ตลาดหุ้นในระยะสั้นเหมือนเครื่องลงคะแนน ถ้าอยู่ในช่วงที่คนกลัวมากๆ ผลที่ได้ก้คือ คนส่วนมากจะกลัวเช่นเดียวกัน ถ้าอยู่ในช่วงที่คนโลภมากๆ คนส่วนมากก้จะโลภ

ราคาหุ้นก้ขึ้นลงตามความกลัวและความโลภ ตามเส้นสายของการมองทางด้านเทคนิค

แต่ตลาดหุ้นระยะยาว เหมือนกิโล ผลตอบแทนของหุ้น จะต้องมาจากผลประกอบการที่ดี ซึ่งก้ตรงกับคำกล่าว ของวอเรนท์ บัฟเฟตที่ว่า

If a business does well, the stock eventually follows. ถ้าผลประกอบไปได้ดี ราคาหุ้นก้จะไปได้สวย

การเมืองก้เป็นแค่ปัจจัยระยะสั้น ตามที่คุณ picatos ได้กล่าวไปแล้ว เค้าไม่ได้ชุมนุม365 วัน ไม่ได้ชุมนุมตลอดไป จงฉกฉวยตักตวงผลประโยชน์จากความกลัวครับ

ผมไม่คิดว่าใครจะ cut loss ถ้าคนๆนั้นวางแผนการรบมาอย่างดี ตรงกันข้าม เค้าอาจจะวางแผนแบบนี้ก้ได้นะครับ


สมัยก่อนในสามก๊ก ขงเบ้งก้ใช้วิธีนี้

[ไตรลักษณ์]

ไม่ cut ครับ ซื้อเพิ่มอีกต่างหาก

[zephyr]

ผม cut ตัวนึง เพื่อไปเข้าอีกตัวนึงที่ผมคิดว่าผมถือแล้วสบายใจกว่าครับ ที่ cut เพราะไม่มีเงินสดเหลือครับ

[Tibular]

ก็เป็นช่วงที่ไม่สบายใจกันทุกฝ่ายนะคับ ไม่เว้นแม้แต่นักลงทุนในตลาดหุ้น
เพราะ นักลงทุนในตลาดหุ้น "รับความเสี่ยงก่อน รับผลตอบแทนหลังสุด"

รับความเสี่ยงก่อน คือ เวลามีอะไรเกิดขึ้นราคาหุ้นมันไหลลงก่อน ความมั่งคั่งหายวับ
ในขณะผู้บริหาร พนักงาน ยังอยู่รอด เงินเดือน-โบนัสยังพอได้บ้าง ถ้าบริษัทไม่แย่จนเกินไป
ถึงแย่ก็ยังมีสัญญาจ้างงาน ได้รับค่าชดเชยตามกฏหมายแรงงาน แต่เราๆเละคับถ้าหนีไม่ทัน

รับผลตอบแทนหลังสุด คือ กว่าจะผ่านมาจนถึงผลกำไรสุทธิ โดนหักค่าโสหุ้ยไป
ผู้บริหาร พนักงาน รับเงินเดือน-โบนัส เจ้าหนี้ขูดดอกเบี้ย
สรรพากรกินภาษีไปอีก พอเหลือเป็นกำไรสุทธิมา ก็แบ่งปันผลได้บ้างไม่ได้บ้าง 55
หรือถ้าบริษัทเจ๊ง กว่าจะชำระบัญชีต่างๆจ่ายให้เจ้าหนี้ และผู้ที่เกี่ยวข้อง สุดท้ายคงเหลือมาถึงเราไม่เท่าไหร่

แต่ก็นะ ถ้าบริษัทดี มูลค่าหุ้นก็เพิ่มขึ้นนะเออ ความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น แต่รอหน่อย 55
นี่เป็นความเสี่ยงที่นักลงทุนในตลาดหุ้นทุกคนต้องยอมรับนะคับ

ช่วงนี้แหละคับเป็นช่วงที่พิสูจน์เรื่อง MoS ได้เป็นอย่างดี และ รวมถึงทักษะการประเมินมูลค่าของเราอีกด้วย

ถ้าจะหนีหรือ Cut Loss ก็ต้องหนีไปก่อนหน้านี้แล้วล่ะคับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับมูลค่าและคุณภาพของหุ้นที่เราซื้อด้วย
ก็คงไม่มีสูตรตายตัวว่าจะทำอย่างไรในสถานะการณ์อย่างนี้

แต่ถ้าหุ้นที่เราซื้อต่ำกว่ามูลค่ามาก ก็คงต้องถือละคับตอนนี้ หรือถ้ามั่นใจในอนาคต บริษัทยังประคองตัว หรือมีโอกาสเติบโต
มีฐานะการเงินที่เข้มแข็ง ก็อาจจะได้ซื้อสะสมของถูกเพิ่มขึ้น หรือ ถ้าไม่มีกระสุนแล้ว ก็คงถือไปก่อนล่ะคับ กลืนเลือดกันไปก่อน

แต่ถ้าหุ้นที่เราซื้อนั้นเกินมูลค่าไปมาก เอ่อ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็เหนื่อยคับ ก็ต้องถือเป็นบทเรียนกันไป
เพราะเราประมาทเอง หรือทักษะเรายังไม่พอในการประเมินมูลค่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของหุ้นที่เราถือด้วย
แม้ว่าเราจะซื้อมาแพง แต่ถ้าทนต่อไป ราคาอาจจะกลับมาเป็นมูลค่ายุติธรรมได้บ้าง เราอาจจะขาดทุนน้อยลง
หรือถ้าถือไปยาวนาน ก็อาจจะกลับมากำไรได้

ก็เป็นคำถามกลับไปว่า ก่อนที่เราจะซื้อหุ้น เราทำการบ้านมามากพอหรือยัง
ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น
นั่นละคับคือความเสี่ยงของจริงเลย

ก็ใจเย็นๆคับค่อยๆคิด สภาพตลาดตอนนี้ถ้าจะ Cut Loss เราอาจจะเสียหายหนัก รอมันเด้งหน่อยไหม?(หวังว่า)

[WHYDOWEFALL]

ส่วนนึงผมว่าด้วยราคาที่หลายๆตัวมันสูง บางครั้งเราอาจจะเคยชินกับมัน ไม่ค่อยรอราคาที่มี MOS จริงๆ แค่ราคาพอสมเหตุสมผลก็รับแล้ว ดีกว่าไม่ได้ซื้อ เดี๋ยวเสียโอกาส

[paokarn]

ถ้าการเมืองไม่ได้กระทบปัจจัยพื้นฐานก็ไม่น่าจะต้อง cut นะครับ และก็เป็นโอกาสซื้อเพิ่มอย่างที่พี่ๆหลายๆคนพูดมา
แต่อย่างบางกรณีที่การเมืองกระทบปัจจัยพื้นฐานก็ควรต้อง cut นะครับ อันนี้เพื่อนเล่าให้ฟัง มันเก็งข่าวลงทุน 2ล้านล้าน กับกลุ่มก่อสร้าง พอรัฐบาลยุบสภาแล้ว นโยบายตรงนี้เริ่มไม่แน่นอนละว่าจะมารึเปล่า มันก็ cut ไปครับ อะไรประมาณนี้ แต่ส่วนตัวแล้วไม่ชอบเล่นหุ้นที่อิงการเมือง อิงว่าใครได้เป็นรัฐบาล หรืออิงกับนโยบายนู่นนี่ของรัฐบาลอะครับ เลือกหุ้นที่ใครเป็นรัฐบาลเราก็สบายใจดีกว่าครับ

[yoko]

cutก็ดี ไม่cutก็ดี มันไม่แน่

[WHYDOWEFALL]

cut loss ไปบางส่วนคับ ถ้ามันลงต่อก็เอาที่ cut ไปซื้อกลับ ถ้ามันเด้งขึ้นก็ยังเหลือส่วนใหญ่อยู่

[วรันศ์ บัฟเฟต]

ผมว่าบางคนถ้าวิเคราะห์มาดีแล้ว cut hand แทน cut loss อาจจะดีกว่า อิอิอิ ล้อเล่นนะคับ อยู่เฉยๆหรือเคลื่อนไหวถ้าวิเคราะห์มาอย่างดีแล้ว ทำตามระบบและแนวทางที่คิดว่าถูกต้องอย่างเคร่งครัดก็โอเค อย่าซ้ายๆขวาๆจะสับขาหลอกตัวเอง

[PLUSLOVE]

ขอนั่งกระดิก(ทีน) รอช้อนหุ้นแทนละกันครับ กิจการเราถ้ามันไม่กระทบการเมือง การมองภาพใหญ่ๆและtake action น้อยๆ นั่งกระดิก(ทีน)รอเอาเพิ่ม

มันอร่อยยิ่งกว่าการกินเจปังเบอร์ 44 ซะอีกครับ

มันคงรู้สึกดีไม่น้อย ถ้าของที่เราอยากได้ ลดราคาลงมา คงคล้ายกับเราไปมองของในห้างตอนแพงๆ แล้วเราอยากได้ เราอดใจรอตอนมันSALE แล้วเราซื้อ

อื้อส์ ฟินสุดๆไปเลยครับ ผมรู้แล้วหล่ะว่า การนั่งกระดิก(ทีน)มันสนุกแบบนี้ นี่เอง นั่งรอเค้าลดราคานี่ก้เพลินดีนะครับ

http://pantip.com/topic/30537804 ผมเชื่อว่า อาจารย์พูดถูกครับ ณ เวลานี้ คนที่นั่งกระดิก(ทีน)ได้แสดงว่า ต้องตัดขาดแล้วซึ่งอารมณ์และมองแต่กิจการ

ถ้ากิจการมันไปได้ดี ราคาหุ้นก้จะไปได้สวยเองครับ

[Nevercry.boy]

Cut loss

ตั้งแต่เป็นวีไอ ผมลืมคำ ๆ นี้ไปแล้วจริง ๆ ครับ ไม่ได้โกหก

ถามว่ามีขายหุ้นมั๊ย มีครับ ขายเพราะเอาไปซื้อตัวใหม่

มีมั๊ยที่ไม่เป็นดั่งใจคิดมีครับ ด้วยความรู้น้อย ด้วยความโลภ อคติบังตา เชื่อคนอื่น และอื่น ๆ

แต่ Cut loss นี่ผมไม่มีจริง ๆ ครับ

[bing1992]

ตัดขาดทุนไม่เคยเลยครับ

ถ้าจะขาดทุน เหตุผลคือมองบริษัทผิดไป ไม่เคยขายขาดทุนเพราะปัจจัยภายนอก

ปัจจัยด้านการเมืองบริษัทที่ผมมีหุ้นอยู่ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบน้อยมาก

เพราะผมถือว่าถ้าบริษัทยังขายสินค้าได้ ยังได้กำไรที่เราพอใจ จึงถือว่าไม่จำเป็นต้องขายครับ

สิ่งที่ควรทำก็คือเหตุการณ์แบบนี้มักจะมีคนเล่นหุ้นบางคนเข้าใจผิดว่าบริษัททุกบริษัทจะได้รับผลกระทบ

ลองหาโอกาสในวิกฤตกันดูครับ มันไม่ได้มีกันบ่อยๆ

ปล.มองอนาคตยาวๆว่าอะไรที่การเมืองจะมีผลกระทบต่อบริษัท
ปล2.เลือกหุ้นที่แข็งแกร่งพื้นฐานไม่เปลี่ยนตามการเมือง
แนวทางส่วนตัวนะครับใช้วิจารณญาณในการอ่าน

[arica]

มีแต่ สังเกต เห็นว่า หุ้นหลายๆ ตัว โดน SAP ลงมาครับ

[Nevercry.boy]

เหม่ วันนี้มีใครซื้อหุ้นเพราะกลัวการเมืองมั๊ยครัช