VI บ้าน ๆ

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 241

โพสต์

นพพร เขียน:สองคนครับ หญิงทั้งคู่ ที่เห็นเิพิ่มมาจะเป็นหลานๆที่ชอบวิ่่งเล่นไปมาที่บ้าน
ดูแล้วเขามีความสุขมากนะ :wink: เอาตะกร้ามาครอบหัวเล่นบ้าง
ลงไปอยู่ในตะกร้าบ้าง..หรือว่าเด็กๆ ชอบตะกร้านะ
ลูกพี่ตอนเล็กๆ ก็ชอบอยู่ และเคยเห็นหลายบ้าน
ต้องมีอิริยาบทที่ลูกๆ อยู่ในตะกร้าประจำ
นพพร เขียน:เห็นคนหนึ่งมาเล่าเรื่องที่บ้าน เหมือนจะอยู่ราชบุรีเหมือนกัน ผมอยู่อำเภอโพธารามครับ เมืองคนสวย
ใครหนออยู่ราชบุรีเหมือนกัน? พี่ไปเที่ยวราชบุรีบ่อย
ชอบตลาดน้ำดำเนิน และสวนงูที่อยู่ติดกับตลาดน้ำ
เวลามีเพื่อนต่างชาติมาจะพาไปที่นั่นประจำ
และเคยพาลูกไปดูการทำโอ่ง และลองปั้นโอ่งด้วยเครื่องหมุนๆ เละเทะหมดเลย


นพพร เขียน:เรียน ปวช.ปวส. จากนั้นก็ไปสอบแข่งเข้าเรียนระดับปริญญาตรีต่อ ....เราสามารถลดคชจ.ตรงนี้ได้้ด้วยการเรียนให้ติดดาวในรุ่น.... หลังๆยิ่งมาอยู่บ้านด้วยกัน (เพราะประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อมาแชร์กัน) ทำให้้ลดรายจ่ายหลายอย่างลงไปได้เยอะ เรียนจนจบจึงเริ่มออกมาหางานทำ ไว้เดี๋ยวมาโม้ต่อ
pattern เหมือนแฟนพี่หมดทุกอย่างเลย แต่ของเค้าเป็น ME
ต้องเรียนให้ได้ทุนมาตลอดเหมือนกันด้วย
มาโม้ต่อเลย...เพื่อนๆ รอฟังอยู่นะ :B
หวานกับแวว
Verified User
โพสต์: 86
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 242

โพสต์

มีเรื่องมาเล่าเหมือนกันค่ะ

สัปดาห์ก่อนได้เล่าให้ลูกสาวคนโตฟังเรื่องที่แม่ไปอ่านเจอที่คุณนุชโพสต์เรื่อง "เงินทองถ้าไม่งอกเงย ก็อย่าให้ลดลง" (มีคนไปแปะในพันทิปด้วยนะคะ http://pantip.com/topic/31158716 ) แล้วก็ยกตัวอย่างที่ทำได้ในบ้าน เช่น การปิดแอร์สักพักก่อนถึงเวลาที่จะออกจากห้องส่วนตัว ช่วยกันปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น เปิดน้ำล้างจานก็ไม่ต้องแรงมากนัก และถ้าจะซื้อข้าวของอะไรก็ให้มองที่ประโยชน์ใช้สอย ซึ่งเป็นแก่น อย่าไปติดตรงภาพลักษณ์ภายนอก ที่เป็นแค่เปลือก

ปรากฏว่าวันก่อนเค้าไปซื้อของกับน้องสาว แล้วกลับมาเล่าให้แม่ฟัง บอกว่าทีแรกเค้าจะซื้อครีมอาบน้ำของแบรนด์นึง ที่เคยได้ tester มาแล้วชอบมาก ตั้งใจจะไปหาซื้อมาไว้ใช้ ราคาก็ตกขวดหลายร้อยละ แต่เค้านึกถึงที่แม่เล่าให้ฟังเรื่องเงินถ้าไม่งอกเงยก็อย่าให้ลดลง เลยเปลี่ยนใจ ซื้อครีมอาบน้ำยี่ห้อเดิมของเค้าแบบถุง refill เอามาเติมในขวดเก่าดีกว่า ประหยัดได้หลายตังค์ด้วย

แม่ฟังแล้วก็ดีใจ และอยากขอบคุณคุณนุชด้วยค่ะ ที่แบ่งปันสิ่งดีๆให้กับพวกเรา :wink:
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 243

โพสต์

หวานกับแวว เขียน:มีเรื่องมาเล่าเหมือนกันค่ะ

สัปดาห์ก่อนได้เล่าให้ลูกสาวคนโตฟังเรื่องที่แม่ไปอ่านเจอที่คุณนุชโพสต์เรื่อง "เงินทองถ้าไม่งอกเงย ก็อย่าให้ลดลง" (มีคนไปแปะในพันทิปด้วยนะคะ http://pantip.com/topic/31158716 ) แล้วก็ยกตัวอย่างที่ทำได้ในบ้าน เช่น การปิดแอร์สักพักก่อนถึงเวลาที่จะออกจากห้องส่วนตัว ช่วยกันปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น เปิดน้ำล้างจานก็ไม่ต้องแรงมากนัก และถ้าจะซื้อข้าวของอะไรก็ให้มองที่ประโยชน์ใช้สอย ซึ่งเป็นแก่น อย่าไปติดตรงภาพลักษณ์ภายนอก ที่เป็นแค่เปลือก

ปรากฏว่าวันก่อนเค้าไปซื้อของกับน้องสาว แล้วกลับมาเล่าให้แม่ฟัง บอกว่าทีแรกเค้าจะซื้อครีมอาบน้ำของแบรนด์นึง ที่เคยได้ tester มาแล้วชอบมาก ตั้งใจจะไปหาซื้อมาไว้ใช้ ราคาก็ตกขวดหลายร้อยละ แต่เค้านึกถึงที่แม่เล่าให้ฟังเรื่องเงินถ้าไม่งอกเงยก็อย่าให้ลดลง เลยเปลี่ยนใจ ซื้อครีมอาบน้ำยี่ห้อเดิมของเค้าแบบถุง refill เอามาเติมในขวดเก่าดีกว่า ประหยัดได้หลายตังค์ด้วย

แม่ฟังแล้วก็ดีใจ และอยากขอบคุณคุณนุชด้วยค่ะ ที่แบ่งปันสิ่งดีๆให้กับพวกเรา :wink:
ก่อนอื่นขอฝากชมหลานสาวทั้งสองก่อนค่ะ....เยี่ยมมาก
เพราะถ้าเราสอนกันแทบตายแต่เจ้าตัวเค้าไม่ทำซะอย่าง...ก็หมดความหมายค่ะ
ดังนั้นคนที่เยี่ยมที่สุดลำดับแรกก็คือตัวเค้าค่ะ

ถัดมาคือคุณแม่ค่ะ ที่พยายามสอนลูกอย่างดี
และชักชวนให้อ่านสิ่งที่เป็นประโยชน์

ส่วนนุชก็รู้สึกดีใจ ที่มีส่วนช่วยสร้างสรรค์ทัศนคติที่ดีให้กับผู้คน
โดยเฉพาะเยาวชนซึ่งเป็นกลุ่มที่อยากจะเน้นมากที่สุดค่ะ
ที่จริงอยากเป็นครูนะคะ เคยขอโอนไป แต่ไม่เห็น สพฐ. เรียกซักทีค่ะ
ตอนนี้เลิกหวังแล้ว รู้สึกว่าถ้าเราขยันสอนเรื่องคุณธรรม จริยธรรม
และปลูกฝังค่านิยมที่ดีเสียตั้งแต่ในวัยที่ยังเป็นต้นกล้า
เด็กๆ จะเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ที่งดงาม
สามารถแผ่ร่มเงาแห่งความดีให้สังคมได้ด้วยค่ะ :wink:

ส่วนท่านอาจารย์ ดร.ไพบูลย์ และคุณโจ_ลูกอิสาน
ถ้าทั้งสองท่านแวะมาเยี่ยมบ้านเรา และอ่านเจอ
ที่พี่หมออ้อเล่ามา...ทั้งสองท่านคงยินดีด้วยแน่นอนค่ะ

นุชเองก็ได้รับรายงานค่ะจากคนรู้จักเยอะเลย
มีท่านนึงเป็น ผอ.ตอนอยู่เทศบาลรังสิตค่ะ
นุชเคยย้ายไปทำงานที่นั่นแว๊บนึงค่ะ (ชอบย้ายงาน 555)
โทรมาชมมากๆๆๆๆๆ เลยค่ะ บอกว่าทั้งบ้าน
คุณแม่ 1 ลูกสาว 3 คน สนุกสนานกับการนำไปใช้ เรื่องเดียวกันนี้แหละค่ะ
แล้วเอามาเล่าแข่งกันว่าใครทำอะไรกันมาบ้าง ประหยัดได้เท่าไหร่

ตอนอยู่เทศบาลนุชก็ทำตาราง refinance บ้านให้ ผอ. ค่ะ
ทำเทียบกับการไม่ re และ ของที่ re ก็เทียบอัตราดอกเบี้ยของหลายแบงค์
ตลกดีค่ะเชิญ ผอ.มานั่งข้างๆ เพื่อดูตารางที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยกัน
ผอ. ไป refinance ทันทีเลยค่ะ (ผอ.เป็นคุณแม่ลูกสามค่ะ)
ที่จริงท่านก็เงินเดือนเยอะค่ะ แต่ก็ใช้เยอะ และผ่อนบ้านตามที่แบงค์กำหนด
ท่านบอกว่าตอนนี้เหลืออีกแค่ สองแสนเองจะผ่อนบ้านหมดแล้ว
เร็วขึ้นอีกหลายปี (นุชทำแบบผ่อนต่อเดือนเยอะๆ ให้ ค่ะ)

ขอบคุณพี่หมออ้อที่กรุณามาเล่าให้ฟังนะคะ :wink:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul VI
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 10538
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 244

โพสต์

เอามาฝากครับ :D
เด็กกลัวความมืด ! จะเด็กเฮี้ยว เด็กซน เด็กกล้าแค่ไหนแต่พอไฟดับ ความมืดมาเยือนเป็นได้ต้องวิ่งหาพ่อ หาแม่ หรือหาเพื่อนเกาะกันไว้แน่น หรือหากหาใครไม่เจอก็หาผ้าห่มมุดคลุมโปงกัน จะบอกว่าเด็กกลัวผีก็ไม่ใช่ เพราะเด็กบางคนเกิดมายังไม่เคยได้ยินเรื่องผีเลย จะว่าไปเด็กบางคนอาจนึกว่าผี (ถ้ามีและเจอ) เป็นเพื่อนหรือตุ๊กตาแสนน่ารักด้วยซ้ำ

“ถ้าเด็กยังกลัวผีไม่เป็น แล้วทำไมเด็กต้องกลัวความมืด?” คำตอบคือเด็กกลัวความ “ไม่รู้” ครับเขาเพิ่งเกิดมาทุกสิ่งบนโลกล้วนเป็นของใหม่ เขาต้องค่อยๆ สะสมความรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ค่อยๆ เรียนรู้ว่าอะไรปลอดภัย อะไรอันตราย เขายังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะบอกได้ว่าเหตุการณ์ต่อไปอะไรจะเกิด ดังนั้นเมื่อมืดมิดหมดแสง ความกลัวที่มาจากความไม่รู้นี้จึงเกิดขึ้น ขณะที่ผู้ใหญ่ผ่านมืด ผ่านสว่างมามากจนรู้แล้วว่าในความมืดก็ไม่มีอะไร เพียงเปิดไฟมีแสงมาทุกอย่างก็กลับสู่ภาวะปกติ หรืออาจพูดได้ว่าที่ผู้ใหญ่ไม่กลัวมืดก็เพราะ “รู้” แล้ว

แต่แม้ผู้ใหญ่ไม่กลัวความมืด ผู้ใหญ่ก็ยังมีความกลัวที่ไม่ต่างจากเด็กคือผู้ใหญ่ยังคงกลัวความ “ไม่รู้” อยู่นั่นเอง ที่เด่นชัดที่สุดเห็นจะไม่มีอะไรเกินความกลัว “ชีวิตหลังความตาย” จึงไม่แปลกที่บั้นปลายชีวิตของคนเกือบทั้งหมดมุ่งมาให้น้ำหนักกับความสบายใจของตนในช่วงก่อนจะตายมุ่งหาหลักประกันในชาติต่อไปผ่านพิธีกรรมทางศาสนา ผ่านการทำบุญทำทานแต่อย่างไรความกลัวนี้ก็ยังไม่หายขาด เพราะยังไม่ได้แก้ถึงต้นตอของความกลัว คือเมื่อกลัวเพราะไม่รู้จะแก้ก็ต้องทำให้ “รู้” ดังนั้นวิธีการแก้ความกลัวชนิดถึงรากก็ต้องมาศึกษา หาข้อมูลให้ชัดว่าตายแล้วจะเป็นอย่างไร จะไปไหน อะไรเป็นเหตุให้ไปดี อะไรเป็นเหตุให้ไปร้าย

เมื่อใดที่มีความรู้เหล่านี้ เมื่อนั้นถึงจะไม่มีความกลัวชีวิตหลังความตายอีก เพราะเหมือนได้เปิด “ไฟฉาย” ที่ส่องทะลุเข้าไปในทางที่มืดมิดนั้นจนกระจ่างแล้ว เห็นแล้วว่าข้างหน้าเป็นอย่างไร หุบเหวอยู่ทางไหน สัตว์ร้ายที่คอยจ้องเขมือบเราซุ่มอยู่พุ่มไม้ไหน โจรที่คอยดักฉกของเราหลบอยู่มุมตึกใด ที่เหลือคืออาจจะมีความหวาดอยู่บ้างตรงไม่แน่ใจว่าจะจัดการกับมันได้ไหม

เปรียบก็เหมือนเราจะเดินทางจากบ้านไปยังสถานที่ที่เราไม่เคยไป ถ้าไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเส้นทางและสถานที่นั้นเราก็จะกลัว แต่ถ้าเรารู้ชัดแล้วอาจจากหนังสือแนะนำสถานที่ แผนที่แสดงเส้นทาง หรือรูปถ่ายที่เพื่อนส่งมาให้ เราก็จะไม่กลัวการเดินทางนั้น เพียงแต่หวั่นว่ายามไปจริงถนนนั้นมันจะเป็นตามรูปไหม เมืองนั้นมันจะใช้ชีวิตเป็นไปตามหนังสือไหม จะมีอุปสรรคอะไรที่นึกไม่ถึงไหม ฯลฯ ปัญหาคือ แล้วจะรู้แผนที่การเดินทางของชีวิตหลังความตายได้อย่างไร คำตอบสำหรับชาวพุทธเราก็คือการศึกษาจากคัมภีร์ที่มีบอกเส้นทางการเปลี่ยนสภาพช่วงรอยต่อของการตายไว้หลากหลายซึ่งก็พอจัดเป็นกลุ่มได้ว่าหากขณะตายจิตเป็น โทสะ สิ่งที่จะไปพบเจอก็คือสภาพของ นรก หรือ อสุรกาย หากขณะตายจิตเป็น โลภะ สิ่งที่จะไปพบเจอก็คือสภาพของ เปรต หากขณะตายจิตเป็น โมหะ สิ่งที่จะไปพบเจอก็คือสภาพของสัตว์ เดรัจฉาน

แม้จะมีทางแยกย่อยอีกมาก แต่โดยรวมแล้วก็คือหากก่อนตายจิตเป็นอกุศลสภาพต่อจากนั้นย่อมไม่น่าชื่นใจแน่นอนในทางกลับกันคือ หากขณะตายจิตใจเป็น บุญกุศล สิ่งที่จะไปพบเจอก็คือสภาพที่ดีเช่นกลับมาเป็น มนุษย์ เทวดา พรหม หรือแม้แต่พ้นทุกข์โดยสิ้นเชิง คือ นิพพาน ไปเลย และหากเรารู้คำตอบแล้วก็เหมือนมีแผนที่ ได้อ่านหนังสือแนะนำเส้นทาง แล้วว่าทางไหนพาไปเมืองใด คราวนี้ก็เหลือแต่ยามถึงเวลาจริงต้องเดินให้ถูกทางอย่าไปทางที่เขาก็ติดป้ายเตือนแล้วว่าลงเหว

ซึ่งไม่มีอะไรดีไปกว่าการฝึกซ้อมให้ชำนาญทาง ในเมื่อเรารู้แล้วว่าหากขณะตายจิตเป็นอกุศล คือ โลภะโทสะโมหะ เราย่อมไปไม่ดี ดังนั้นเราจึงต้องหมั่นสังเกตบ่อยๆ ว่าจิตใจเราขณะต่างๆ นั้นเป็นเช่นไร หากเป็นอกุศลดั่งว่าก็รีบกำจัดเสียเหมือนรู้ว่าผิดทางก็กลับรถย้อนมาทางที่ถูก ซึ่งนอกจากจะได้ความชำนาญแล้วยังเป็นความปลอดภัยไม่ต้องเสี่ยงว่า อยู่ดีๆ อาจมีเครื่องบินตกมาทับตายขณะกำลังหลงเพลินกับแมวที่บ้านอยู่ตัวเลยต้องกลายเป็นลูกแมวไปขณะเดียวกันก็ต้องซ้อมเดินทางถูกให้คล่อง หมั่นทำใจให้เป็นกุศล จะด้วยการหมั่นระลึกถึงความดีที่ตนทำไว้ให้บ่อยๆ หมั่นสวดมนต์ ฟังเทศน์ ฟังธรรม ฟังเรื่องดีๆ พยายามให้ใจคุ้นอยู่กับเส้นทางสายนี้ หากนั่งอยู่ในบ้านดีๆ มีรถบรรทุกพุ่งชนตายตอนนั้นอาจได้ขึ้นสวรรค์ ตามสภาพกำลังบุญของจิตขณะนั้นกันเลย

อยากพ้นจากความเป็นเด็กกลัวความมืดกัน ก็มาฝึกสติให้รู้เท่าทันจิตใจและปรับจิตปรับใจให้เป็นบุญกุศลกันนะครับ
หวานกับแวว
Verified User
โพสต์: 86
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 245

โพสต์


Paul VI

แต่แม้ผู้ใหญ่ไม่กลัวความมืด ผู้ใหญ่ก็ยังมีความกลัวที่ไม่ต่างจากเด็กคือผู้ใหญ่ยังคงกลัวความ “ไม่รู้” อยู่นั่นเอง
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ "ความไม่รู้" น่ากลัวจริงๆ ยิ่ง "ไม่รู้" ว่า "ยังไม่รู้" นี่ยิ่งน่ากลัวสุดๆ เพราะเมื่อ "รู้" ว่า "ยังไม่รู้" จะทำให้เราแสวงหาหนทาง เพื่อให้ "รู้" เกิดขึ้น ทำให้ยังมีทางแก้ไข ผ่อนหนักเป็นเบาได้

ขอบคุณ คุณหมอมุขค่ะ :)
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ภาพประจำตัวสมาชิก
Paul VI
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 10538
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 246

โพสต์

หวานกับแวว เขียน:

Paul VI

แต่แม้ผู้ใหญ่ไม่กลัวความมืด ผู้ใหญ่ก็ยังมีความกลัวที่ไม่ต่างจากเด็กคือผู้ใหญ่ยังคงกลัวความ “ไม่รู้” อยู่นั่นเอง
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ "ความไม่รู้" น่ากลัวจริงๆ ยิ่ง "ไม่รู้" ว่า "ยังไม่รู้" นี่ยิ่งน่ากลัวสุดๆ เพราะเมื่อ "รู้" ว่า "ยังไม่รู้" จะทำให้เราแสวงหาหนทาง เพื่อให้ "รู้" เกิดขึ้น ทำให้ยังมีทางแก้ไข ผ่อนหนักเป็นเบาได้

ขอบคุณ คุณหมอมุขค่ะ :)
เห็นด้วยมากๆครับ

ผมบอกลูกเป็นประจำเลยครับว่า รู้ว่าเราไม่รู้อะไร สำคัญมากเพราะนาทีนี้ เราอาจจะยังไม่รู้เป็นบางอย่าง แต่ถ้าเรารู้ว่า เราไม่รู้ ในที่สุดเราจะรู้ครับ
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 247

โพสต์

Paul VI เขียน:
หวานกับแวว เขียน:

Paul VI

แต่แม้ผู้ใหญ่ไม่กลัวความมืด ผู้ใหญ่ก็ยังมีความกลัวที่ไม่ต่างจากเด็กคือผู้ใหญ่ยังคงกลัวความ “ไม่รู้” อยู่นั่นเอง
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ "ความไม่รู้" น่ากลัวจริงๆ ยิ่ง "ไม่รู้" ว่า "ยังไม่รู้" นี่ยิ่งน่ากลัวสุดๆ เพราะเมื่อ "รู้" ว่า "ยังไม่รู้" จะทำให้เราแสวงหาหนทาง เพื่อให้ "รู้" เกิดขึ้น ทำให้ยังมีทางแก้ไข ผ่อนหนักเป็นเบาได้

ขอบคุณ คุณหมอมุขค่ะ :)
เห็นด้วยมากๆครับ

ผมบอกลูกเป็นประจำเลยครับว่า รู้ว่าเราไม่รู้อะไร สำคัญมากเพราะนาทีนี้ เราอาจจะยังไม่รู้เป็นบางอย่าง แต่ถ้าเรารู้ว่า เราไม่รู้ ในที่สุดเราจะรู้ครับ
เห็นด้วยกับทั้งพี่หมออ้อและพี่หมอมุขค่ะ :wink:
ขอบคุณพี่หมอมุขที่กรุณานำบทความดีๆ มาแบ่งปันค่ะ :bow: :bow: :bow:
CONNICHIWA
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 82
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 248

โพสต์

สวัสดีครับพี่นุช
ผมชื่อบอยครับ ได้ตามอ่านบทความที่พี่นุชเขียน
เรื่อง refinance สินเชื่อบ้าน จึงอยากจะขอความรู้จากพี่นุช
ว่ามีข้อดี ข้อเสีย อะไรบ้างครับ
คือแฟนผมได้กู้เงิน สร้างบ้านให้พ่อแม่
ตอนนี้ผ่อนส่งมาได้ประมาณเกือบ 3 ปีแล้วครับ

ขอบคุณครับ
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 249

โพสต์

CONNICHIWA เขียน:สวัสดีครับพี่นุช
ผมชื่อบอยครับ ได้ตามอ่านบทความที่พี่นุชเขียน
เรื่อง refinance สินเชื่อบ้าน จึงอยากจะขอความรู้จากพี่นุช
ว่ามีข้อดี ข้อเสีย อะไรบ้างครับ
คือแฟนผมได้กู้เงิน สร้างบ้านให้พ่อแม่
ตอนนี้ผ่อนส่งมาได้ประมาณเกือบ 3 ปีแล้วครับ

ขอบคุณครับ
ยินดีค่ะ เบื้องต้นพี่นำข้อมูลที่เป็นพื้นฐานมาแปะให้ก่อนจะอธิบายเพิ่มเติมด้านล่างนะคะ

ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์

ควบคู่ไปกับการประหยัดของค่างวดที่ลดลง การรีไฟแนนซ์จะมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ณ วันทำสัญญาด้วย ค่าใช้จ่ายนี้มีส่วนประกอบ 6 ส่วนหลัก คือ (เรียงจากมากไปน้อย):

ประเภท ค่าใช้จ่าย หมายเหตุ
1. . ค่าปรับการคืนเงินกู้ก่อนกำหนดตามสัญญาที่มีอยู่ ประมาณ 0 - 2% ของยอดหนี้ที่รีไฟแนนซ์ จ่ายให้กับผู้ให้กู้เดิม หากรีไฟแนนซ์ทั้งก้อนก่อนครบกำหนด 3 ปี
2. ค่าจัดการสินเชื่อตามสัญญาใหม่ ประมาณ 0 - 1% ของวงเงินกู้ใหม่ จ่ายให้กับผู้ให้กู้ใหม่
3. ค่าธรรมเนียมในการจำนอง 1% ของราคาประเมิน (ไม่เกิน 200,000 บาท) จ่ายให้กับกรมที่ดิน และไม่ต้องจ่ายถ้ารีไฟแนนซ์กับที่เดิม
4. ค่าประเมินราคาหลักประกัน 1,500 บาท - 0.25% ของราคาประเมิน จ่ายให้กับผู้ให้กู้ใหม่ และอาจไม่ต้องจ่ายถ้ารีไฟแนนซ์กับที่เดิม
5. ค่าทำประกันอัคคีภัย ประมาณ 2,000 บาทสำหรับบ้านมูลค่า 1 ล้านบาท จ่ายให้กับผู้ให้กู้ใหม่*
6. ค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของวงเงินกู้ใหม่ จ่ายให้กับผู้ให้กู้ใหม่*


หมายเหตุ: เป็นอัตราเฉลี่ยที่มีคิดอยู่ในปัจจุบัน *ผู้ให้กู้จะเป็นผู้นำส่งกรมสรรพากรและบริษัทประกันเอง
ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์ทั้งหมดเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2.3% โดยเฉลี่ยและอาจสูงได้ถึง 4.3% ของวงเงินที่รีไฟแนนซ์ในบางกรณี
คุณสามารถประหยัดค่าธรรมเนียมในการจำนอง (1%) ได้ถ้ารีไฟแนนซ์กับที่เดิม
ค่าใช้จ่าย 4 ถึง 6 มีมูลค่าน้อยมากเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายตัวอื่นๆ ไม่ควรใช้เป็นปัจจัยในการเปรียบเทียบ

ที่มา : http://www.silkspan.com/silkspan1/article/mbhome6.asp

กรณีที่น้องบอยถามมานั้น พี่มีความเห็นว่า

1. ควรรอให้ครบ 3 ปีก่อน เพื่อไม่ต้องเสียค่าปรับ ตามข้อ 1 ของข้อมูลที่พี่ link มาให้ค่ะ

2. แต่เราควรเริ่มหาข้อมูลอัตราดอกเบี้ยคงที่ของแต่ละ bank ที่เราสนใจไว้ล่วงหน้าประมาณ 2 เดือน
เพื่อนำมาคำนวณเปรียบเทียบกับ
2.1 ถ้าไม่ re
2.2 ถ้า re เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง bank เป้าหมายใหม่ที่เราจะ re ไป

3. การ refinance สินเชื่อบ้าน ปกติแล้วจะทำด้วยวัตถุประสงค์ 2 อย่าง
3.1 เพื่อย้ายวงเงินเดิมไปใช้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าโดยไม่กู้เพิ่ม
3.2 เหมือนข้อ 3.1 และขอกู้เพิ่มเพื่อนำวงเงินไปใช้ทำอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์
- เพราะโดยปกติสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยจะถูกกว่าสินเชื่อประเภทอื่นและมีวิธีคำนวณแบบลดต้นลดดอก
- โดย bank มักจะให้วงเงินไม่เกินวงเงินกู้ครั้งก่อน เช่น กู้ครั้งแรก 8 แสน ผ่อนจนเหลือ 6 แสน
ก็จะสามารถกู้ได้ถึง 8 แสน แต่เฉพาะ 6 แสน ที่เหลือเท่านั้นที่จะได้ใช้อัตราดอกเบี้ยใหม่ที่ถูกลง
ส่วนอีีก 2 แสน จะต้องถูกคิดดอกเบี้ย ตามประกาศของธนาคาร ณ ช่วงเวลานั้นๆ

แต่โดยส่วนตัวไม่แนะนำให้กู้เพิ่ม อยากให้ re เพื่อข้อ 3.1 มากกว่าค่ะ
เพราะจะผ่อนหมดเร็ว (การหมดหนี้เร็วมีผลทางจิตวิทยาที่ทำให้เรา
ไม่ค่อยอยากเป็นหนี้ใหม่ และสามารถประหยัดและออมเงินได้เก่งขึ้น)
แต่ถ้าจำเป็นก็อาจตามข้อ 3.2 ได้ค่ะ

4. มีค่าใช้จ่ายอีกประเภทนึงที่ไม่อยู่ใน link ที่พี่นำมาให้ แต่เราต้องไม่ลืมคือ ค่าประกันผู้ผ่อนชำระค่าเบี้ย
ซึ่งไม่ว่าจะกู้ใหม่หรือ refinance มักจะต้องมีการให้ทำ ถ้าเป็นการ re กับ bank เดิมไม่ต้องทำใหม่
แต่ถ้าเปลี่ยนแบงค์ ก็คงต้องทำใหม่ แต่ของเดิมเราสามารขอเวนคืนได้ตามตารางที่ระบุอยู่ในกรมธรรม์
วิธีการก็ไม่ยุ่งยากอะไรค่ะ เราแต่ทำหนังสือถึงบริษัทประกันเดิมว่าขอยกเลิกกรมธรรม์เนื่องจาก refinance
และก็รอรับเช็คคืนเงินได้เลยค่ะ ไม่ช้าแต่ก็ไม่เร็วนัก

พี่เห็นด้วยกับประกันประเภทนี้ค่ะ เพราะกรณมีเหตุไม่คาคคิดเกิดขึ้นคนข้างหลังที่อาจไม่ใช่รายได้หลักของครอบครัว
ก็ไม่ต้องผ่อนบ้านต่อแล้วค่ะ(คน proactive จะคิดบวกต่อประกันประเภทนี้ค่ะ) และถ้าทำแบบคุ้มครอง 10 ขึ้นไป
เราสามารถนำวงเงินมาลดหย่อนภาษีในปีแรกได้ด้วย แต่ถ้าเราเหลือวงเงินกู้มากๆ ก็ทำประกันคุ้มครองแบบสั้นๆ
ก็พอเพื่อจ่ายเบี้ยไม่แพง และสามารถขอเวนคืนได้อีก ถ้าครบ 3 ปี แล้วเราจะ refinance อีก


พี่ยินดีแบ่งปันตารางคำนวณที่เป็น excel ที่พี่ทำเอง แบบที่พี่เปิดให้ท่าน ผอ. ดูค่ะ
ถ้าตองการส่ง email address ทาง pm ได้ค่ะ ถ้าน้องบอยนำไปใช้แล้วรู้สึกว่าเป็นประโยชน์
ก็ช่วยแบ่งปันต่อๆ กันให้ญาติหรือเพื่อนๆ และแนะนำให้เค้ารู้จักการ refinance ด้วยก็ยิ่งดีค่ะ

ความรู้ด้านการเงินและกฏหมายพื้นฐานควรมีประโยชน์ในการดำเนินชีวิตมากๆ
ไม่ว่าจะทำนิติกรรมสัญญาใดๆ กับใครเราควรอ่านสัญญาให้ละเอียด รวมทั้ง
พวกกรมธรรม์ประกันชีวิต และสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม
ใส่ใจที่จะอ่าน แรกอาจงง ๆ เพราะมักจะเป็นภาษากฎหมาย แต่อ่านบ่อยๆ จะชินและรู้สึกง่ายไปเองค่ะ
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 250

โพสต์

theenuch เขียน: 1. . ค่าปรับการคืนเงินกู้ก่อนกำหนดตามสัญญาที่มีอยู่ ประมาณ 0 - 2% ของยอดหนี้ที่รีไฟแนนซ์ จ่ายให้กับผู้ให้กู้เดิม
ลืมบอกไปว่า เท่าที่เห็นมักจะ 2.5 - 3 %ของวงเงินกู้เดิมนะคะ
ไม่ใช่ ของวงเงินที่เหลือ
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 251

โพสต์

ตอนนี้ปรับตารางการผ่อนบ้านให้เป็นกลางๆ
ที่ใครๆ ก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้
ให้เกิดประโยชน์ได้เสร็จแล้วค่ะ
(พร้อมตัวอย่างของที่บ้าน)

พร้อมส่งให้ทาง mail แล้วค่ะ
มีเพื่อนบางท่านขอมาหลังไมล์แล้ว
แต่ลืมให้ email address ไว้ค่ะ....แวะมาใหม่นะคะ

แถมตารางต่อไปนี้ให้ด้วยค่ะ

- งบดุลรายปี

- ตัวอย่างการอ่านกรมธรรม์ที่เป็นเชิงพรรณา
แล้วนำมาแปลงเป็นตัวเลข

- รวมทั้งแผนการออมระยะยาวให้ด้วยค่ะ

น่าจะถูกใจคนชอบวางแผนการเงินค่ะ
ใครนำไปประยุกต์ใช้แล้วรู้สึกว่าได้ประโยชน์
ช่วยแวะมาบอกนิดนึงนะคะ :wink:

ที่จริงยังมีตารางที่เป็นประโยชน์ที่ทำไว้ใช้อีกมาก
แต่มันละเอียดยิบ ๆ เกรงจะงงกัน เลยให้แค่นี้พอค่ะ
เดี๋ยวจะมึนงง :ohno: :roll: กันซะก่อน
CONNICHIWA
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 82
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 252

โพสต์

ขอขอบพระคุณพี่นุชเป็นอย่างสูงครับ
ในการแบ่งปันความช่วยเหลือ
และข้อมูลประกอบอันมีค่า
รายละเอียดที่พี่แนะนำผมจะไปศึกษาเพิ่มเติม

ขอบคุณครับ
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 253

โพสต์

ขออธิบายเพิ่มเกี่ยวกับตารางที่ส่งให้เพื่อนๆ ไป

เนื่องจาก
1. ยอดสินเชื่อบ้าน
2. อัตราดอกเบี้ยที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
3. อัตราดอกเบี้ยเป้าหมายที่แต่ละแบงค์เสนอมา ณ ช่วงเวลานั้นๆ
4. ค่าธรรมเนียมที่แต่ละคนจะเสียก็ไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับว่า bank เดิม หรือ เปลี่ยน bank ค่ะ


ในตารางจึงได้ทำเป็นตุ๊กตาไปให้หลาย sheet เลยค่ะ
วิธีการนำไปใช้คือนำตัวเลขตาม 4 ข้อด้านบน
ไปแทนค่าลงในตารางต้องใช้หลาย sheet

จากนั้นต้องต่อยอดโดยการสั่งคำนวณดอกเบี้ยรวมระยะเวลาที่เท่ากัน
ของแต่ละ sheet เช่น ดอกเบี้ย 3 ปี ของ 3 bank
sheet ที่ 1 bank เดิมใส่ค่ารอไว้ได้เพราะเราทราบอยู่แล้ว
sheet ที่ 2 - 4 อีก 3 bank ที่เราหาทาได้
ตัวเปรียบที่ 1 อาจเป็นคงที่ 3 ปี ก็ใส่ดอกเบี้ยไปสังเกตยอดเงินจะเปลี่ยนตามให้ทันที
ตัวเปรียบที่ 2 อาจเป็นขั้นบันได 3 ปี ก็ใส่ดอกเบี้ยไปสังเกตยอดเงินจะเปลี่ยนตามให้ทันที
ตัวเปรียบที่ 3 อาจเป็นคงที่ 2 ปี จากนั้น MLR - 2% เราก็ต้องคาดการณ์ค่ะว่า ณ วันนั้นน่าจะเป็เท่าใด
ก็ใส่ดอกเบี้ยไปสังเกตยอดเงินจะเปลี่ยนตามให้ทันที


จากนั้นทำแบบนี้กับทุก sheet ที่เราแทนค่าไป
1. รวมดอกเบี้ย 3 ปี ของแต่ละ sheet
2. นำยอดตั้งต้นลบยอดคงเหลือ ณ วันที่ครบ 3 ปี

นำตัวเลขจาก sheet ที่เป็นตัวเปรียบมาเทียบกับอัตราปัจจุบัน
สามารถคำนวณข้าม sheet ได้ค่ะ สั่งด้วยประโยคสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์
ยิ่งเขียนประโยคสัญลักษณ์ได้ละเอียดและครอบคลุมแต่ต้นเท่าไหร่ยิ่งดีค่ะ

เพราะจากนั้นแค่ใส่ตัวเลข excel จะคำนวณให้ตาม ปย.สัญลักษณ์ที่เรากำหนดค่ะ
แม้จะเปลี่ยนตัวเลขแต่ละ sheet กี่ครั้งก็ไม่พลาด


แต่ตรงสีม่วงทั้งหมดนี้ต้องทำเองค่ะ ใครไม่ถนัดให้เพื่อนที่ชอบ excel และ math ช่วยนะคะ

ตอนของ ผอ.นั้นท่านหาข้อมูลตามสีน้ำเงินมาให้ทั้งหมดแล้ว
ก็เลยสามารทำให้ได้และนั่งเปลี่ยนตัวเลขไปมาด้วยกันได้ค่ะ

คิดว่าไม่ยากเกินนะคะ สู้ๆ สนุกดีค่ะ
โดยส่วนตัวชอบทำอะไรแบบนี้มากๆ
ใครถืออะไรมาให้สร้างตารางคำนวณให้นี่จะชอบมาก
นั่งทำไม่กินข้าวกินปลายังได้ค่ะ

หวังว่าคงพอมีประโยชน์บ้างนะคะ ของใครไม่สามารถจริง
บอกตัวเลขสีน้ำเงินหลังไมล์มาก็ได้ค่ะ เดี๋ยวช่วยทำให้ก็ได้ค่ะ :wink:
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 254

โพสต์

theenuch เขียน: แถมตารางต่อไปนี้ให้ด้วยค่ะ

- งบดุลรายปี

- ตัวอย่างการอ่านกรมธรรม์ที่เป็นเชิงพรรณา
แล้วนำมาแปลงเป็นตัวเลข

- รวมทั้งแผนการออมระยะยาวให้ด้วยค่ะ

น่าจะถูกใจคนชอบวางแผนการเงินค่ะ
ใครนำไปประยุกต์ใช้แล้วรู้สึกว่าได้ประโยชน์
ช่วยแวะมาบอกนิดนึงนะคะ :wink:

ที่จริงยังมีตารางที่เป็นประโยชน์ที่ทำไว้ใช้อีกมาก
แต่มันละเอียดยิบ ๆ เกรงจะงงกัน เลยให้แค่นี้พอค่ะ
เดี๋ยวจะมึนงง :ohno: :roll: กันซะก่อน
ทีบอกว่า "แถม" นั้น จริงๆ แล้วมันอยู่ใน
ตารางเดียวกัน แต่คนละ sheet ค่ะ

ตารางนี้ไม่ได้เหมาะกับการ refinance เท่านั้นนะคะ
แต่เหมาะสำหรับคนที่กำลังผ่อนบ้านอยู่ทุกคนค่ะ


โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยเคยสนใจจำนวนยอดคงเหลือเท่าใดนัก
คงผ่อนตามที่ bank กำหนดไปเรื่อยๆ เพราะหน้าที่การงานมั่นคง
ยิ่งกลุ่มที่ให้หักผ่านบัญชีธนาคารนี่ยิ่งไม่ค่อยสนใจดูเลยค่ะ

แต่สิ่งที่หลายคนไม่ทราบคือ....
เมื่อใดที่พ้นจากดอกเบี้ยคงที่ไปแล้ว
และต้องเปลี่ยนไปใช้ดอกเบี้ยลอยตัวซึ่งมันมักจะมากขึ้น
การผ่อนด้วยเงินต้นเท่าเดิมนั้น
อาจจะมีแต่ดอกเบี้ยแทบไม่มีเงินต้นเลย

บางทีแบงค์แจ้งมาขอหักเพิ่มอีก คนผ่อนก็สบายใจว่า
อืม....ผ่อนเพิ่มแล้วสงสัยหมดเร็วที่ไหนได้
ที่แบงค์หักเพิ่มไปนั้นเป็นดอกเบี้ยหมด
ยอดผ่อนต่อเดือนเพิ่มแต่หักต้นเท่าเดิม
เพราะอัตราดอกเบี้ยมันเพิ่มขึ้น
บางทีแค่ 0.25 - 0.50 % ของเงินต้น 2 - 3 ล้านนี่
คิดดีๆ ก็หลายตังค์อยู่นะคะ

ทั้งชีวิตที่ผ่านมา ช่วยคนรอบตัววางแผนการเงิมามาก
มีเยอะจริงๆ ค่ะที่ไม่สนใจ โดยเฉพาะที่หักผ่านบัญชีอย่างที่เล่ามา

ตารางนี้จะช่วยฉายภาพที่ว่า
"ผ่อนเท่าไหร่กลายเป็นดอกเบี้ยหมด" ให้เห็นชัดเจนค่ะ

เท่าที่เคยทำให้เพื่อนๆ และคนรู้จัก
100 % ไปผ่อนชำระรายเดือนเพิ่ม และขยันหาเงินมาจ่ายเพิ่มจริงๆ
บางคนจองทัวร์ ท่องเที่ยวไว้พอเห็นตารางยกเลิกทัวร์
เอาเงินมาจ่ายบ้านก่อนเลยค่ะ "อดเปรี้ยวไว้กินหวาน" ได้ทันที

ในช่อง "จำนวนจ่ายเพิ่ม" นั้น
สามารถใส่ตัวเลขลงไปได้เลยค่ะ
จะวิ่งไปหักจากยอดคงเหลือในเดือนถัดไปให้

จะใช้ในกรณีที่มีโบนัสตอนสิ้นปี (ซึ่งใกล้จะได้รับกันแล้ว)
ได้เงินปันผลจากหุ้น เงินรับคืนจากเครดิตภาษี
หรือเงินก้อนอื่นๆ ที่เราตั้งใจจะนำมาจ่ายเพิ่ม
ใส่ปุ๊บ คำนวณปั๊บ แล้วลองดูดอกเบี้ยที่ลดลง
(ในตาราง sheet แรกที่ชื่อ TMB นั้นคือ
ตารางการผ่อนบ้านของเราเองค่ะที่ re มาที่ TMB
จะมีการจ่ายเงินก้อนเพิ่มในช่อง "จ่ายเพิ่ม" ด้วย
ทั้งที่จ่ายไปแล้วจริง และที่วางแผนจะจ่ายไว้ล่วงหน้าด้วย)

ของที่บ้านตามที่เคยเล่าในกระทู้เดิม
ว่าแบงค์กำหนดให้ผ่อน 17,000 บาท แต่เราผ่อน 50,000 บาท
ซึ่งไม่เห็นในตารางนี้ค่ะ เราผ่อนแบบนั้นมาตอนผ่อนกับ ธอส.
ทำให้ยอดกู้จาก 3.3 ล้านลดวูบเหลือ refinance มา TMB แค่ 1.8 ล้าน
ตามที่เห็นในตารางค่ะ ที่ผ่อนมากเพราะตารางนี้แหละค่ะ
ช่วยจูงใจให้เราขยันผ่อนบ้าน อย่างที่บอกว่า มันมีผลทางจิตวิทยาจริงๆ ค่ะ

หวังว่าตารางนี้จะมีประโยชน์แก่เพื่อนๆ บ้าง
ขอให้สนุกกับการออมและวางแผนการเงินนะคะ :wink:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 255

โพสต์

ฝากรูปให้คุณนุชและก็เพื่อน ๆ ครับ

ระยองหลังจากโดนมรสุมน้ำมันรั่ว ปตท. เข้าไป นักท่องเที่ยวก็ซบเซา บวกกับเป็นหน้าฝนครับ

เที่ยวช่วงโลว์ซีซั่นนั้นก็มีข้อดีครับ นอกจากจะประหยัดแล้ว เราแทบจะเป็นเจ้าของรีสอร์ทกันเลยทีเดียว

รูปภาพ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 256

โพสต์

ขอบคุณค่ะ คุณ NB ในภาพนั้นฝนตกด้วยรึเปล่าคะ (ดูเหมือน)

วันที่นั่งอยู่ตรงนั้น คุณ NB นึกถึงเพลงอะไร
ที่ตรงกับความรู้สึกและเข้ากับบรรยากาศ

พอดีเราจะชอบฟังเพลง ดูภาพนี้แล้วเรานึกถึงหลายเพลงเลย
ดูซิจะตรงกันบ้างรึเปล่า เพื่อนๆ มาช่วยกันคิดก็ได้นะคะ :P
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 257

โพสต์

theenuch เขียน:ขอบคุณค่ะ คุณ NB ในภาพนั้นฝนตกด้วยรึเปล่าคะ (ดูเหมือน)

วันที่นั่งอยู่ตรงนั้น คุณ NB นึกถึงเพลงอะไร
ที่ตรงกับความรู้สึกและเข้ากับบรรยากาศ

พอดีเราจะชอบฟังเพลง ดูภาพนี้แล้วเรานึกถึงหลายเพลงเลย
ดูซิจะตรงกันบ้างรึเปล่า เพื่อนๆ มาช่วยกันคิดก็ได้นะคะ :P
ฝนตกครับวันนั้น

บรรยากาศจริง ๆ ดีครับ แล้วรีสอร์ทก็สวยมาก

แต่ที่สำคัญกว่าสำหรับผมคือคนที่ไปด้วย คือผมไปกับภรรยาและลูกชาย

สามีและพ่อที่ไม่ค่อยได้เรื่องอย่างผม ก็รู้สึกอบอุ่นได้กำลังใจจากครอบครัวครับ

ถ้าคุณนุชถามว่าผมนึกถึงเพลงอะไรตอนนั้นผมไม่ได้นึกนะครับ แต่ถ้าถามตอนนี้ผมนึกถึงเพลงนี้ครับ บ้านครับ ครอบครัวคือบ้านของผม

[youtube]fdIzeHlg3oo[/youtube]
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 258

โพสต์

Nevercry.boy เขียน:
theenuch เขียน:ขอบคุณค่ะ คุณ NB ในภาพนั้นฝนตกด้วยรึเปล่าคะ (ดูเหมือน)

วันที่นั่งอยู่ตรงนั้น คุณ NB นึกถึงเพลงอะไร
ที่ตรงกับความรู้สึกและเข้ากับบรรยากาศ

พอดีเราจะชอบฟังเพลง ดูภาพนี้แล้วเรานึกถึงหลายเพลงเลย
ดูซิจะตรงกันบ้างรึเปล่า เพื่อนๆ มาช่วยกันคิดก็ได้นะคะ :P
ฝนตกครับวันนั้น

บรรยากาศจริง ๆ ดีครับ แล้วรีสอร์ทก็สวยมาก

แต่ที่สำคัญกว่าสำหรับผมคือคนที่ไปด้วย คือผมไปกับภรรยาและลูกชาย

สามีและพ่อที่ไม่ค่อยได้เรื่องอย่างผม ก็รู้สึกอบอุ่นได้กำลังใจจากครอบครัวครับ

ถ้าคุณนุชถามว่าผมนึกถึงเพลงอะไรตอนนั้นผมไม่ได้นึกนะครับ แต่ถ้าถามตอนนี้ผมนึกถึงเพลงนี้ครับ บ้านครับ ครอบครัวคือบ้านของผม

[youtube]fdIzeHlg3oo[/youtube]
เยี่ยมเลย ไปตอนที่เด็กๆ ปิดเทอมที่ผ่านมาใช่มั้ยคะ

ของเรา เรานึกถึง MV เพลงของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ที่มีพี่เบิร์ดโฆษณา แล้วมีเด็กๆ เล่นน้ำทะเลอยู่ด้วย ที่มีพรายน้ำเขียวๆ ระยิบระยับค่ะ

เพราะดีใจที่ทะเลระยองกลับมาเหมือนเดิมแล้ว..แต่หา MV นั้นไม่เจอแล้ว
แต่เพลงนี้ก็ชอบเหมือนกันเลยค่ะ คิดว่าเพลงที่คุณ NB เอามาฝาก
เป็นเพลงประจำครอบครัวของพวกเราหลายครอบครัวเลยหละ ขอบคุณมากค่ะ :wink:
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6447
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 259

โพสต์

Nevercry.boy เขียน: รูปภาพ

รูปนี้ดูแล้วรู้สึกเหงา เดียวดาย
แต่เหมือนยังมีความหวังซุกซ่อนอยู่
ครึ้มๆนึกถึงเพลงนี้ครับ
ผมชอบฟังช่วงที่รู้สึกท้อ

[youtube]UgSlFNp40P0[/youtube]
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 260

โพสต์

ลูกอิสาน เขียน:
รูปนี้ดูแล้วรู้สึกเหงา เดียวดาย
แต่เหมือนยังมีความหวังซุกซ่อนอยู่

ครึ้มๆนึกถึงเพลงนี้ครับ
ผมชอบฟังช่วงที่รู้สึกท้อ
ถ้าไม่นับเรื่องดีใจที่ทะเลระยองกลับมาเหมือนปกติ
ดูภาพนี้แล้วรู้สึกคล้ายคุณโจ...และนึกถึงเพลงนี้ค่ะ

[youtube]tkuqvTTDk7Y[/youtube]

แปลกใจที่คุณโจมีช่วงที่รู้สึกท้อด้วย
คงเป็นสมัยที่ยังลำบาก และที่ทำงานที่ต่างประเทศใช่มั้ยคะ
(บังอาจตั้งคำถาม ถามท่านนายก เลยเรา)

(พอดีคุณโจเป็น Idol คนสำคัญน่ะค่ะ
เลยได้ติดตามชื่นชมประวัติและเส้นทาง
การลงทุนคุณโจมากหน่อยค่ะ :oops: )
ภาพประจำตัวสมาชิก
i-salmon
Verified User
โพสต์: 293
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 261

โพสต์

อิอิ ครึกครื้นกันดีนะครับ :mrgreen:

ผมดูรูปแล้วพยายามนึกเพลงแต่ยังไม่มีเพลงโดนๆครับ
เอาเป็นเพลงเพราะๆความหมายดีๆแทนละกัน
(นั่งตากพัดลมเวลาฟังจะให้บรรยากาศชิวยิ่งขึ้น)

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=IxI_ouX9DHc[/youtube]
Go against and stay alive.
ภาพประจำตัวสมาชิก
i-salmon
Verified User
โพสต์: 293
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 262

โพสต์

[youtube]IxI_ouX9DHc[/youtube]
Go against and stay alive.
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6447
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 263

โพสต์

theenuch เขียน:แปลกใจที่คุณโจมีช่วงที่รู้สึกท้อด้วย
คงเป็นสมัยที่ยังลำบาก และที่ทำงานที่ต่างประเทศใช่มั้ยคะ
(บังอาจตั้งคำถาม ถามท่านนายก เลยเรา)
คงเป็นเรื่องปกติของมนุษย์คนนึงครับ
เมื่ออะไรๆไม่เป็นไปตามที่เราคิด
อะไรๆไม่เป็นไปตามที่เราต้องการ
ความรู้สึกนี้มันก็เกิดขึ้นได้
แต่มักจะเป็นไม่นานครับ
เพราะผมมีศรัทธาต่อชีวิต
มีมุมมองต่อโลกที่เป็นเชิงบวก
คิดว่าตัวเองโชคดีพอสมควร ที่เกิดมามีทัศนคติอย่างนี้
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 264

โพสต์

[quote="i-salmon"]อิอิ ครึกครื้นกันดีนะครับ :mrgreen:

ผมดูรูปแล้วพยายามนึกเพลงแต่ยังไม่มีเพลงโดนๆครับ
เอาเป็นเพลงเพราะๆความหมายดีๆแทนละกัน
(นั่งตากพัดลมเวลาฟังจะให้บรรยากาศชิวยิ่งขึ้น)


"ทะเลใจ" ที่น้องบิ๊กเลือกมาพี่ก็ชอบนะ ความหมายดีมากเลย :wink:
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 265

โพสต์

ลูกอิสาน เขียน:
theenuch เขียน:แปลกใจที่คุณโจมีช่วงที่รู้สึกท้อด้วย
คงเป็นสมัยที่ยังลำบาก และที่ทำงานที่ต่างประเทศใช่มั้ยคะ
(บังอาจตั้งคำถาม ถามท่านนายก เลยเรา)
คงเป็นเรื่องปกติของมนุษย์คนนึงครับ
เมื่ออะไรๆไม่เป็นไปตามที่เราคิด
อะไรๆไม่เป็นไปตามที่เราต้องการ
ความรู้สึกนี้มันก็เกิดขึ้นได้
แต่มักจะเป็นไม่นานครับ
เพราะผมมีศรัทธาต่อชีวิต
มีมุมมองต่อโลกที่เป็นเชิงบวก
คิดว่าตัวเองโชคดีพอสมควร ที่เกิดมามีทัศนคติอย่างนี้
ต้องขออภัยที่ถามคำถามแปลกๆ ไป
แต่คุณโจก็ยังกรุณามาตอบ

จากคำตอบของคุณโจ เมื่อย้อนคิดถึงช่วงหนึ่งของชีวิต
ในวันที่เคยรู้สึกท้อมากเหลือเกิน จนไม่อยากอยู่ต่อแล้วนั้น
แม้จะมีทัศนคติและมุมมองต่อโลกเป็นบวกแล้วก็ยังไม่ไหว

ทีแรกไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกนั้นว่าอย่างไรดี
คำตอบของคุณโจทำให้จำกัดความ
ความรู้สึกในช่วงนั้นได้แล้วว่า "หมดศรัทธาต่อชีวิต" ค่ะ

ขอบพระคุณ คุณโจที่กรุณานำเพลงความหมายดีๆ มาแบ่งปัน
และยังเตือนให้ได้ข้อคิดที่สำคัญสำหรับก้าวต่อๆ ไป
จะขอก้าวด้วยพลังของความศรัทธาต่อชีวิตตามแบบคุณโจด้วยคนนะคะ :wink:
dr1
Verified User
โพสต์: 842
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 266

โพสต์

ดูรูปแล้ว ผมนึกถึงเพลงcrying in the rain แฮะ
สรุปเองเลยว่า ตัวเองคงมองโลกในแง่ร้าย และแก่ ฮ่า..
เพราะเพลงที่นึกถึง พอจะเดาอายุได้

เป็นกำลังใจให้อ.NB นะครับ
เดี๋ยวมันก็จะผ่านไปครับ
แค่เหตุการณ์หรือช่วงเวลานึง ตอนนั้นอาจรู้สึกว่ามันเป็นmidlife "crisis"
แต่พอผ่านไปได้(แบบชิวๆหรือสะบักสะบอมก็แล้วแต่)
มองย้อนกลับมา อาจเห็นภาพอีกแบบครับ

ด้วยรักและกำลังใจ
จากชายวัยตะกั่ว(เลยทอง เงิน และทองแดง ไปพอสมควร ฮ่า...)
samatah
หวานกับแวว
Verified User
โพสต์: 86
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 267

โพสต์

เพลงนี้เอง..

อยากบอกว่าคิดถึงบรรยากาศที่บรรยายเพลงนี้เช่นกันค่ะ แต่นึกไม่ออก พอคุณ Dr1 บอกมา แบบว่า..ใช่เลย..

http://www.youtube.com/watch?v=caO4AO_g83E

ขอบคุณนะคะ

เป็นกำลังใจให้คุณ NB อีกคนค่ะ

ทุกข์ก็ชั่วคราว สุขก็ชั่วคราว ผ่านมา ผ่านไป ตามเหตุและปัจจัย

เช่นนั้นเองค่ะ..
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 268

โพสต์

มาช่วย คุณหมอ dr1 กับ พี่หมออ้อ
ที่ตั้งใจนำเพลงนี้มาฝากเพื่อให้กำลังใจคุณ NB ค่ะ

Crying in the rain
[youtube]caO4AO_g83E[/youtube]

เป็นกำลังใจให้คุณ NB ด้วยนะคะ :wink:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 269

โพสต์

ขอบคุณทุกคนครับ นี่เรากำลังกลับไปเป็นเด็กมัธยมใช่มั๊ยครับ

มีหนังสือมาแนะนำครับ หนังสือของ ดร.วรภัทธ์ ภู่เจริญ ครับ เรื่อง "สำเร็จ...ได้อีก" แนะนำครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 270

โพสต์

ส่วนอันนี้ Face ของแก

https://www.facebook.com/woraphatFC
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/