แบบนี้จะเป็น hedging อย่างหนึ่งมั้ย?

[สุมาอี้]

สมมติว่ากระทาชายนายหนึ่งจะต้องซื้อคอนโด LPN ปิ่นเกล้าที่จะเปิดขายกลางปีนี้ คือว่ามีความจำเป็นต้องซื้อ ยังไงก็จะซื้อ โดยเตรียมเงินก้อนรอไว้แล้วในธนาคาร

เพราะ hedge ความเสี่ยง กระทาชายจึงเอาเงินก้อนนั้นไปซื้อหุ้น LPN ไว้แทนที่จะฝากธนาคารนับตั้งแต่วันนี้เลย


อีก 6 เดือนข้างหน้า...
1. ถ้าตลาดคอนโดบูมระเบิดเถิดเทิง ราคาคอนโดพุ่งไปสูง หุ้น LPN ก็จะมีกำไร ก็เอากำไรนั้นมาชดเชยราคาคอนโดที่พุ่งขึ้นไป จะได้จ่ายเท่าเดิม
2. ถ้าตลาดคอนโดพังไม่เป็นท่า ราคาคอนโดตกลง กระทาชายจะขาดทุนจากหุ้น LPN แต่เนื่องจากคอนโดราคาต่ำลงจึงซื้อคอนโดได้ถูกลงด้วย จึงมีเงินเหลือพอซื้ออยู่ดี

แบบนี้จะถือว่าเป็นการ hedging ได้ด้วยมั้ย? (แม้ว่าจะไม่มี fully covered position ได้พอดีเป๊ะก็ตามที)

[Boring Stock Lover]

ถ้าผลที่เกิดมันเป็นไปตามนั้น มันก็คงไม่เสี่ยงแล้ว ภายใต้กรอบว่าเกือบ fully hedge อาจกำไรขาดทุนเศษเงินนิดหน่อย ตามที่ท่านว่าไว้

แต่ยังเหลือสถานการณ์หนึ่งที่อาจเกิดขึ้น

1. ถ้าตลาดคอนโดบูมระเบิดเถิดเทิง ราคาคอนโดพุ่งไปสูง หุ้น LPN ก็จะมีกำไร ก็เอากำไรนั้นมาชดเชยราคาคอนโดที่พุ่งขึ้นไป จะได้จ่ายเท่าเดิม

ถ้าตลาดคอนโดบูม แต่หุ้น LPN ไม่ขึ้นละ เพราะเกิดจากความเสี่ยงจากตัวตลาด ฝรั่งขายหุ้นทิ้งหมด นักลงทุนไทยเฉา VI ก็คงเลือกหุ้นที่ดีกว่าในราคาที่ลดลง หุ้น LPN เลยไม่ขึ้น


ถูกไหมเนี่ย  :shock:

[Penguins]

แบบนี้จะถือว่าเป็นการ hedging ได้ด้วยมั้ย? (แม้ว่าจะไม่มี fully covered position ได้พอดีเป๊ะก็ตามที)

ไม่เป็นครับ

 เพราะผมเอาพอร์ทฯ หุ้นไปยื่นกู้ซื้อบ้านกับธนาคารฯ เขาไม่รับครับ  :evil:  555+

อย่าลืมเฉลยด้วยนะครับ

[MarginofSafety]

อีก 6 เดือนข้างหน้า...
1. ถ้าตลาดคอนโดบูมระเบิดเถิดเทิง ราคาคอนโดพุ่งไปสูง หุ้น LPN ก็จะมีกำไร ก็เอากำไรนั้นมาชดเชยราคาคอนโดที่พุ่งขึ้นไป จะได้จ่ายเท่าเดิม
2. ถ้าตลาดคอนโดพังไม่เป็นท่า ราคาคอนโดตกลง กระทาชายจะขาดทุนจากหุ้น LPN แต่เนื่องจากคอนโดราคาต่ำลงจึงซื้อคอนโดได้ถูกลงด้วย จึงมีเงินเหลือพอซื้ออยู่ดี

เข้าใจคิดจังเลยครับ

ผมคิดคล้ายๆกับ คุณ BSL มีช่องโหว่อยู่บางประการ
ระยเวลาเพียง 6 เดือนคงสั้นไปที่จะสรุปว่าตลาดคอนโดจะระเบิดเถิดเทิง หรือ พังไม่เป็นท่า
อีกอย่าง ราคาหุ้น กับผลประกอบการ ณ ช่วงสั้นๆแค่นี้อาจจะไม่สอดคล้องกัน
โดยเฉพาะหาก sentiment ของตลาดอยู่ในภาวะ ที่ไม่ดี

ไม่กล้าฟันธงว่า จะเป็น hedging มั้ย แต่เป็นความคิดที่น่าสนใจครับ

[Rocker]

แล้วถ้า หุ้นลง condo ขึ้นราคา จะทําไงครับ
ไม่น่าจะhedge นะครับเพราะว่า มีความเสี่ยงจากตลาดและราคาทีเราไม่รู้

[สุมาอี้]

ไม่น่าจะhedge นะครับเพราะว่า มีความเสี่ยงจากตลาดและราคาทีเราไม่รู้

อึม มันคงไม่ใช่การ hedge จริงๆ คงเป็นเพียง asset ที่มี correlation ติดลบ คือเป็น diversifer ที่ดีแต่ไม่ถึงกับ fully cover risk ได้ มังคับ

แค่คิดขึ้นมาเล่นๆ

[jaychou]

ถ้าอยากเห็ดจริงๆ เอาคอนโดเข้าแบงค์/ไฟแนนซ์แล้วรอซื้อหุ้นกู้เวลาดอกเบี้ยขึ้นแรงๆ(หุ้นกู้ราคาตก..ต่ำกว่าพาร์) เสร็จแล้วเอาหุ้นกู้ไปโปะหนี้แบงค์

[สุมาอี้]

ถ้าอยากเห็ดจริงๆ เอาคอนโดเข้าแบงค์/ไฟแนนซ์แล้วรอซื้อหุ้นกู้เวลาดอกเบี้ยขึ้นแรงๆ(หุ้นกู้ราคาตก..ต่ำกว่าพาร์) เสร็จแล้วเอาหุ้นกู้ไปโปะหนี้แบงค์

ไม่เลว โดยเฉพาะถ้าสามารถหาหุ้นกู้เรตติ้งดีพอสมควรที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าเงินกู้บ้านได้

[Penguins]

ถ้าจำไม่ผิด...เมื่อก่อนมีการฟ้องร้องระหว่างรายย่อย กับบริษัทจดทะเบียนในตลาด
เรื่องการรับประกันเงินต้น ของ หุ้นกู้ (ผมอาจเรียกไม่ค่อยถูก) แต่ไม่ได้ติดตามข่าวอย่างต่อเนื่อง

กล่าวคือ บริษัทไม่ยอมชำระหุ้นกู้นั้นๆ โดยปล่อยให้รายย่อยรวมตัวกันฟ้องร้องกันเอาเอง

..... จากคำถามของ พี่สุมาอี้ และคำตอบจากคุณเจ รู้สึกว่าจะมีตัวอย่างในหนังสือของ ดร. ครับ ในหัวข้อเรื่องการตีแตก หรืออะไรนี่อะครับ    อ่านผ่านมานานแย้วจำมะได้

.....หุ้น มีความเสี่ยง ราคามีความไม่แน่นอน  :arrow:  ทางธนาคารฯ ให้เหตผลนี้ครับ ผมเลยคิดว่าคงไม่สามารถนำมา hedge ได้ แต่หุ้นกู้สามารถทำได้ แต่คงต้องเลือกหุ้นกู้ ที่ดีๆ ครับ

[MarginofSafety]

ไม่เลว โดยเฉพาะถ้าสามารถหาหุ้นกู้เรตติ้งดีพอสมควรที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าเงินกู้บ้านได้

ผมอ่านแล้วงงๆ

กรณี้ที่ดอกเบี้ยขึ้น
- เราต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น
- มูลค่าของหุ้นกู้ลดลง

กลายเป็นเสีย 2 เด้งเลย

กรณีที่ดอกบี้ยลดลง
- เราจ่ายดอกเบี้ยน้อยลง
- มูลค่าของหุ้นกู้เพิ่มขึ้น

กลายเป็นได้ 2 เด้ง

เหมือนกับมี leverage มากกว่าจะเป็นการ Hedge  :?:

อีกประเด็นนึง... เราสามารถโปะหนี้กู้ซื้อบ้านด้วยหุ้นกู้เหรอครับ  :?:

ช่วยชี้แนะด้วยครับ

[jaychou]

จริงๆต้องเรตติ้งต่ำๆครับท่านแม่ทัพ เรตติ้งดีมักจ่ายดอกแย่

วิธีเห็ด

1. ซื้อบ้าน เลือกแบงค์ที่ไม่ใหญ่นัก เป๋ได้ง่ายกว่าแบงค์อื่น... ยังไม่ซื้อหุ้นกู้
2. ศก.ตกกระหน่ำ ดอกพุ่ง หุ้นกู้ตกหนัก (ยิ่งใกล้เจ๊งยิ่งดี) ซื้อหุ้นกู้ ราคาต่ำกว่าพาร์
3. หยุดจ่ายค่างวด (ฟังดูเลวไปนิดนึง ...แต่อาจจะต้องทำอย่างนั้น) เจรจารีไฟแนนซ์ หักกลบลบหนี้บ้าน ด้วยหุ้นกู้