อัตราดอกเบี้ย กับการลงทุนแบบ vi

[strip]

ประเด็นคือว่า การลงทุนแบบ vi (ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดนะครับ) คาดหวังจาก เงินปันผลและ( การเติบโตใน dividend yeild ที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับหุ้นที่ถือ)
ถ้าแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยในอนาคตมีการเปลี่ยนแปลง (เพิ่มขึ้น ถ้าปีหน้าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสิ้นปี อยู่ที่ 3.5%)
VI จะปรับ port การลงทุนอย่างไรครับ

[คัดท้าย]

ดอกเบี้ย 3.5% เหรอครับ

อืมม ถ้างั้น Value Investor อย่างนายคัดท้ายก็ถอนเงินไปฝากแบงก์อะซิครับ ถามได้ 5555 ล้อเล่นนครับ

แต่ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆนะครับ ถ้าดอกเบี้ยสูง ตลาดหุ้นน่าจะลดความคึกคักลงเลยแหละ เพราะดอก 3.5% นี่ชัวส์ นะครับ ไม่มีเงินหายไปไหนด้วย นอนรับเน็ตๆ

แต่ผมก็อยากทราบความเห็นพี่ๆ เหมือนกันครับ ถ้าดอกเบี้ยสูง VI จะทำอย่างไรครับ ?

[Jeng]

ถ้าดอกเบี้ยสูงขึ้นเมื่อไหร่ เมื่อนั้นเป็นสัญญาน ว่าเเศรษฐกิจกำลังดีขึ้นครับ

ทุกวันนี้เศรษฐกิจ น่าจะดี แต่ยังไม่ดี ที่หุ้นขึ้นเพราะเงินไม่มีที่ไป

คือดอกเบี้ยลง

พอดอกเบี้ยขึ้น ถ้าขึ้นได้จริงๆแบบว่า ขึ้นแล้วมีคนมากู้นะ ขึ้นแล้วธนาคารมีกำไรนะ

ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมว่าผมลงทุนในหุ้นต่อไป กว่าจะถอนตัวออกจากตลาดหุ้นเพราะดอกเบี้ยสูงจนกระทั่งลงทุนในหุ้นไม่ได้นั้น

น่าจะใกล้ๆฟองสบู่แตกรอบใหม่

เช่นดอกเบี้ยอาจจะค่อยๆขึ้นไปสูงมาก นักเศรษฐศาสตร์ออกมาเตือน เรื่องความร้อนแรงของตลาดหุ้น ว่าขึ้นสูงเกินไปแล้ว

ทุกคนๆ กำไรจากการลงทุนในหุ้น

PE ตลาดสูงมาก

ประเทศชาติ ร่ารวย ทุกๆคนสุขสบาย

ผมจะเลิกเล่น 2-4 ปี

[thanwa]

ถ้าดอกเบี้ยขึ้นเป็น 3.5%
ผมคงลงทุนต่อไปครับ
เนื่องจากผมมีความคิดว่า
เราสามารถเอาชนะผลตอบแทนที่ 3.5% ได้
ผมคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 12% ต่อปีใน 15 ปีข้างหน้าครับ

เพื่อนๆ คาดหวังผลตอบแทนกันเท่าไหร่ครับ

[บุคคลทั่วไป]

ตอนตลาดอยู่แถว 1,700 ดอกเบี้ยฝาก fix 3 เดือนก็อยู่แถว ๆ 15%ดอกเบี้ย OD แถว ๆ 25% ยังมีคนทั้งเอาบ้านไปจำนองเอาเงินมาเล่นหุ้นเลย ตอนนี้fix ยังไม่พ้น 2 เลย ไม่เห็นต้องเอาตรงไหนมากังวล อีกทั้งถ้าดอกเบี้ยขึ้น คิดหรือว่าผลประกอบการจะไม่ดี ปันผลจะไม่สูงกว่าเดิม ถ้ายังถืออยู่ที่ราคาวันนี้

[Mon money]

อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำอยู่ในตอนนี้เกิดจากการที่ธนาคารซึ่งเป็นตัวกลไกที่จะส่งต่อเงินออมของปรเะชาชนไม่สามารถส่งต่อไปยังภาคการผลิตที่แท้จริงได้ครับ ทำให้ปริมาณเงินออมมีมาก แต่ความต้องการน้อย ดอกเบี้ยก็ต่ำลง

เมื่อคนเอาเงินไปลงทุนทางอ้อมแทน(หุ้น กองทุน ฯ ) เงินำนวนนี้จะไปดันให้สินทรัพย์เหล่านี้มีราคาสูงขึ้น คนที่เล่นหุ้นจะมีกำไรมากขึ้น ทำให้เกิดความต้องการปริโภคมากขึ้น กิจการต่างๆต้องการใช้เงินมากขึ้น ก็จะเสนออัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทำให้อัตราดอกเบี้ยก็จะปรับตัวตาม

ในมุมมองของVI ต้องจับตาจุดที่ความต้องการเปลี่ยน จุดนั้นVIต้องระวังครับ

[PRO_BABY]

3.5%หรอครับ ผมว่าไม่สูงหรอกครับ แต่ผมก็ยังจะลงทุน หุ้นเหมือนเดิมครับ ดอกเบี้ยยิ่งสูงแสดงว่าเศรษฐกิจดี ความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น พวกสินค้าพุ่มเพือยรับเละครับ เช่น พวกเทคโนโลยี อุปโภค บริโภค รับเต็มๆๆครับ
ถึงตอนนี้แล้ว กำไรสุทธิแต่ละบริษัทเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าเหมือนใน อดีต มีหวังหุ้นวิ่ง ชนเพดานแหงๆๆครับ
เอาเป็นว่าถือตัวไหนอยู่ก็ดูๆๆเอาครับ
แมคโคร ของพี่เจ๋ง BKI ของเฮียปรัชญา TMD ของลุงขวด หรือแม้แต่
FE METCO p-FCB STANLY TF APRINT c]tอื่นๆๆอีกมากมาย ของทุกๆๆคนครับ
รวยๆๆๆ.... ขอ 7-11 อีกตัวนะ เข้าทุกวันเลยครับ อิอิ..

[KK]

ถ้าอัตราดอกเบี้ย เป็น 3.5 % จิงๆๆ ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเราเท่าไหร่หรอกครับ เคยอ่านเจอ ผลสำรวจของธนาคาร ปรากฏว่า มีเงินค้างในระบบ อยู่ 5ล้านล้านบาทครับ แต่ที่น่าแปลก ก้อคือว่า บัญชีที่มีเงิน ตั้งแต่ 10ล้าน ขึ้นไป มีเพียง 15,000 กว่าบัญชี เท่านั้น (ประมาณการว่าพอเอาทุกบัญชีมารวมกันมีเงินเกือบๆๆ 4ล้านล้านบาท) ส่วนบัญชีของประชาชนมี เป็นแสนๆๆ บัญชีเลยครับ แต่มีเงิน ในบัญชีตั้งแต่ 0-1 ล้านบาท รวมๆๆกันก้อ 1ล้านล้านที่เหลือไงครับ ผมว่าดอกเบี้ยขึ้นไป คนรวยนั้นแหละที่ได้ ประโยชน์

[strip]

ที่ตั้งคำถามเพราะว่า "คาดว่า"ในอีกไม่ช้าอัตราดอกเบี้ยอาจจะขยับตัว แต่ไม่แน่ใจว่า ที่ขยับตัวนั้น เนื่องจาก สภาพเศรษฐกิจภายในประเทศ หรือ การปรับตัวตามอัตราดอกเบี้ยที่มีฐานจากต่างประเทศ
แล้วที่ตั้งไว้ที่ 3.5% เพราะน่าจะเป็นไปได้ใน 3 ปี(เดานะครับไม่มีข้อมูลอะไรมาสนับสนุน :lol: ) เพื่อนๆบางคนอาจใช้

1) อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ เมื่อหักลบภาษีแล้ว
2) อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากธนาคาร (เพราะบางท่านอาจเอาไปปล่อยกู้นอกระบบได้ แม้มีความเสี่ยงสูงกว่าการลงทุนใน ตลท. ไม่นับแบบกู้"ร้อยละยี่สิบ"นะครับ ) ซึ่งตัวเลขน่าจะประมาณ 10.5-11%
3) ความคาดหวังผลตอบแทนใน ตลท. (ตามที่คุณ thanwa ถามทิ้งไว้)

ทั้งสามตัวน่าจะเป็นเกณฑ์เบื้องต้นที่จะใช้ในการตัดสินใจที่จะบริหารหุ้นที่มีอยู่ (ไม่รู้ว่าจะเรียกเป็น benchmark ได้หรือเปล่านะ) แล้วหุ้นที่มีผลตอบแทนจากปันผล ที่น้อยกว่า"เกณฑ์"ที่ตั้งไว้เราก็จะคัดออกไปทีละตัว (เพราะเราสามารถเข้าไปลงทุนใน 1) หรือ 2) ได้แทน)
และถ้าดอกเบี้ยขยับตัวสูงขึ้นอีกเรื่อยๆ "หุ้น"ที่น่าลงทุนก็จะน้อยลงไปเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดไม่มี"หุ้น"ที่น่าลงทุนสำหรับ VI อีกเลย และนั้นอาจจะหมายถึง เวลาที่"งานเลี้ยง"ต้องเลิกลา ถึงเวลาที่เราควร"ออก"ได้แล้ว ***ถ้าเราเชื่อว่าตลาดหุ้นมีไว้เพื่อการลงทุน*** เพราะหลังจากนั้นเป็นเวลาของ VS และความเสี่ยงล้วนๆ

:คุณ Jeng ผมเห็นด้วยครับ และเชื่อว่า คนที่จะรอดได้ต้องรู้ว่า"มันถึงเวลาแล้ว" และหาให้ได้ว่าอะไรคือ สัญญาณ
:คุณ thanwa เรื่องความคาดหวังผลตอบแทน โดยส่วนตัวผมพยายามจะทำให้ได้ที่ 5-7% ต่อเดือนและทบลงในพอรต์ครับ(ไม่รู้จะทำได้หรือเปล่า )
:คุณ Guest ช่วงตลาดอยู่ที่ 1700 ผมยังไม่ได้เข้ามาลงทุนเลยครับ เลยไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร แต่คิดว่าหลายๆคนที่ลงทุนในช่วงนั้น น่าจะลำบาก เพราะตลาดได้ปรับตัวลง
:คุณ pro_baby ผมคิดว่าแม้ว่ากำไรสุทธิจะโตขึ้น 2-3 เท่า แต่สุดท้ายปันผลคือ คำตอบ และ ผมไม่คิดว่าจะมีบริษัทไหนให้ปันผลได้สูงเกิน 25% (ถ้าไม่ผิดเคยเห็น choti ให้เกือบ 20% 3-4ปีที่ผ่านแล้วนะครับ ไม่รู้ว่าเขาทำธุรกิจอย่างไรเหมือนกัน ปัจจุบัน คิดว่าเป็น 0%)
:คุณ kk คนรวยเหล่านั้นอาจกลุ้มใจได้เหมือนกันนะครับ ถ้า อัตราเงินเฟ้อ= 2.5%

[batten]

ผมว่ามันขึ้นกับเป้าหมายของแต่ละคนครับ สำหรับผมแล้วดอกเบี้ย 3.5 % ยังน้อยเกินไปครับเพระผมต้องการมีเงิน พันล้านบาท ดังนั้นผมต้องการผลตอบแทนที่ 15 % ต่อปีครับผมจึงจะโยกเงินกลับไปฝากแบงค์หรือลงทุนอย่างอื่นยิ่งปีนี้ผมทำผลตอบแทนในการลงทุนในหุ้นได้ 200% ผมยิ่งมั่นใจว่าสำหรับผมต้อง 15 % ครับ :lol:

[thanwa]

คุณ strip ครับ 5-7% ต่อเดือนนี่ไม่ใช่น้อยเลยนะครับ
ถ้าคิด 5% ก็ 60% ต่อปี
ในการลงทุนระยะยาวไม่น่าจะทำได้ เพราะราคาหุ้นมีขึ้นมีลง
ขนาดอาจารย์ของคุณวิบูลย์ ยังได้แค่ 23% ตลอดระยะเวลา 3-40 ปีเลย
แต่แค่นี้ก็ทำให้ได้เป็นคนรวยอันดับสองของโลกแล้วครับ

[chatchai]

คณ strip ครับ

ที่บอกว่าปันผลเกิน 25% นั่นคงไม่มีบริษัทไหนจ่าย

ถ้าคิดจากราคาห้นก็จริงครับ ถ้าคิดจากราคาห้น ณ ราคาที่รับเงินปันผลในแต่ละงวด แต่ถ้าคิดจากราคาทนที่เราซื้อก็อาจจะเกินได้นะครับ

(แต่เคยมี MANRIN ราคา 10 บาทวันประกาศจ่ายเงินปันผล แต่จ่ายสงกว่า 4 บาทอีกครับ แต่เป็นเงินกำไรที่ได้จ่ายการขายสินทรัพย์ครับ ไม่ได้จากการดำเนินงาน)

[Mon money]

ดูแนวโน้มดอกเบี้ยดูไม่ยากครับ ไปดูได้ที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ หากมีแนวโน้มขึ้นต่อเนื่องก็เตรียมได้เลย(ราคาซื้อขายตราสารจะลดลง)

หรือมีบริษัทออกหุ้นกู้กันหนาตาละก็นั่นแหละ ดอกเบี้ยจะเริ่มขยับแล้ว

ตอนนี้ยังไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญเลยครับ