U.K. Stripped of Top Rating by Moody’s Amid Weak Growth Outlook
By Fergal O’Brien - Feb 23, 2013 7:47 AM GMT+0700
Britain lost its top credit rating by Moody’s Investors Service, which cited weakness in the nation’s growth outlook and challenges to the government’s fiscal consolidation program.
The rating on the U.K. was lowered one level to Aa1 from Aaa and the outlook on the nation’s debt changed to stable from negative, Moody’s said in a statement yesterday. With the U.K.’s high and rising debt burden, deterioration in the government’s balance sheet is unlikely to be reversed before 2016, Moody’s said in the statement.
“This has been speculated as inevitable and is most likely largely in the market,” said Charles Diebel, head of market strategy at Lloyds Banking Group Plc in London. “Historically, losing your AAA is actually a bond bullish event.”
Yields on sovereign securities moved in the opposite direction from what ratings suggested in 53 percent of 32 upgrades, downgrades and changes in credit outlook last year, according to data compiled by Bloomberg published in December. Investors ignored 56 percent of Moody’s rating and outlook changes and 50 percent of those by Standard and Poor’s. That’s worse than the longer-term average of 47 percent, based on more than 300 changes since 1974.
The U.S., France and Japan “have not paid up because of downgrades and it is unlikely that the bond market will be where the U.K. feels the most pain,” said Steven Englander, head of G-10 currency strategy at Citigroup Inc. in New York.
Opposition Party
The cut will nevertheless increase political pressure on Chancellor of the Exchequer George Osborne, with the opposition Labour Party calling on him to scale back his fiscal squeeze as the economic recovery struggles to gain traction.
“Tonight we have a stark reminder of the debt problems facing our country -- and the clearest possible warning to anyone who thinks we can run away from dealing with those problems,” Osborne said in a statement in London. “Far from weakening our resolve to deliver our economic recovery plan, this decision redoubles it.”
The pound fell after the downgrade in the last half-hour of trading in New York, dropping 0.6 percent to $1.5163. Sterling has depreciated 5.6 percent this year, the second-worst performer after the yen among 10 developed-market currencies tracked by Bloomberg Correlation-Weighted Indexes.
“Ultimately it’s a fairly minor action and shouldn’t result in a massive bond-market response,” said Eric Lascelles, chief economist for RBC Asset Management in Toronto. “This is an era where developed countries are being downgraded on a regular basis.”
Treasury Rally
U.S. Treasuries rallied after Standard & Poor’s stripped the U.S. of its top ranking on Aug. 5, 2011, with yields touching a record low 1.379 percent in July 2012. U.S. government debt gained 9.8 percent in 2011, the most in three years, according to Bank of America Merrill Lynch index data.
Moody’s cut France’s country’s top rating on Nov. 19 by one level. S&P lowered the rating by one step to AA+ from AAA on Jan. 13, 2012. Yields on the nation’s 10-year bonds have climbed 16 basis points, or 0.16 percentage point, since the Moody’s downgrade. The borrowing cost has declined 84 basis points since the S&P cut. Moody’s also downgraded from Aaa Ireland in 2009 and Spain in 2010.
Britain’s debt as a percentage of gross domestic product will climb to 98 percent next year from 90 percent last year and 95.4 percent in 2013, the European Commission said in its winter forecast yesterday.
Osborne’s austerity policies will squeeze the budget deficit to 6 percent next year from 10.2 percent in 2010, when his Conservatives took over in an unprecedented coalition with the Liberal Democrats, according to the predictions by the commission.
‘Weak Growth’
“Because of the combination of weak growth outlook, substantial fiscal challenges, high and rising debt burden, and the deterioration in shock absorption capacity, we see that the credit worthiness of the U.K. has deteriorated to a level that is more commensurate with Aa1 rating,” Sarah Carlson, a senior credit officer at Moody’s in London, said in a telephone interview.
The U.K. economy shrank 0.3 percent in the fourth quarter of last year from the prior three-month period, leaving the country on the brink of an unprecedented triple-dip recession.
Osborne said in his autumn statement Dec. 5 that he’s no longer likely to meet his target to begin cutting the burden of government debt in 2015-16 after his fiscal watchdog cut its growth forecasts. S&P put the U.K.’s rating on a negative outlook a week later.
Fitch Ratings said on the day of the budget that missing the debt target “weakens the credibility of the U.K.’s fiscal framework.” It will conduct a further formal review of the rating in 2013 incorporating the budget, due March 20. Fitch lowered its outlook on the U.K. to negative from stable in March 2012. Moody’s lowered its outlook the previous month.
To contact the reporter on this story: Fergal O’Brien in London at [email protected]
To contact the editor responsible for this story: Craig Stirling at [email protected]
http://www.bloomberg.com/news/2013-02-2 ... tlook.html
U.K. Stripped of Top Rating by Moody’s Amid Weak Growth Outl
-
- Verified User
- โพสต์: 4241
- ผู้ติดตาม: 0
Re: U.K. Stripped of Top Rating by Moody’s Amid Weak Growth
โพสต์ที่ 2
มูดีส์ปรับลดเรตติ้งอังกฤษจาก AAA ลง 1 ขั้น เหตุเศรษฐกิจชะลอฟื้นตัวช้า
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กุมภาพันธ์ 2556 13:07 น.
รอยเตอร์ - อังกฤษถูกลดความน่าเชื่อถือเป็นครั้งแรกจากบริษัทเครดิตเรตติ้งชั้นนำของโลกในวันศุกร์ (22) เมื่อมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิสประกาศลดอันดับความสามารถในการชำระหนี้ของลอนดอนลง 1 ขั้นจาก AAA ซึ่งเป็นระดับสูงสุด สู่ระดับ Aa1 กลายเป็นปัญหาใหญ่ต่อไปสำหรับจอร์จ ออสบอร์น รัฐมนตรีการคลังของประเทศ
มูดีส์ชี้ว่า โอกาสในการเติบโตทางเศรษฐกิจของอังกฤษที่เป็นไปได้ยาก ทำให้แผนการลดหนี้สาธารณะของรัฐบาลไม่เป็นไปตามเป้าหมายนั้น มีส่วนสำคัญในการตัดสินใจลดอันดับความน่าเชื่อถือในครั้งนี้
มาตรการรัดเข็มขัดอันเป็นประเด็นหลักในนโยบายงบประมาณของออสบอร์น ซึ่งตัวเขาให้คำมั่นว่าจะปกป้องเครดิตเรตติ้งของประเทศให้คงไว้ที่ AAA ทว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างเชื่องช้า เนื่องจากวิกฤตการเงิน กลับยิ่งถดถอยลง โดยเป้าหมายในการลดการขาดดุลงบประมาณจำนวนมหาศาลของรัฐบาลชุดปัจจุบัน
มูดีส์ชี้แจงว่า แม้อังกฤษจะมีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ แต่การเติบโตที่ชะลอตัว เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกอ่อนกำลังลงหลายส่วน โดยเฉพาะในกลุ่มยูโรโซน รวมถึงแรงดึงจากกระบวนการเร่งคืนหนี้สินของทั้งภาครัฐ และเอกชนภายในประเทศ ที่ยังดำเนินต่อไป
อย่างไรก็ตาม มูดีส์ระบุว่า แนวโน้มในอนาคตของอังกฤษขณะนี้ยังคงที่ นั่นหมายถึงว่าไม่น่าที่จะมีการเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตเรตติ้งใดๆ ไปจนถึงปีหน้า หรือนานกว่านั้น
นอกจากนี้ ยังลดระดับธนาคารกลางอังกฤษจาก AAA เหลือ Aa1 เช่นกัน โดยให้เหตุผลว่าแม้อังกฤษจะมีโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง แต่ในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า อัตราการเติบโตของอังกฤษจะยังชะลอตัว ขณะที่มีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ อังกฤษกลายเป็นอีก 1 ประเทศ นอกเหนือจากสหรัฐฯ และฝรั่งเศส ที่ต้องสูญเสียความน่าเชื่อถือระดับสูงสุด จากบริษัทจัดอันดับรายใหญ่ของโลกอย่างน้อย 1 แห่ง หลังจากครองเรตติ้ง AAA จากมูดีส์ และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ มาตั้งแต่ปี 1978 และจากฟิตช์ เรตติงส์ มาตั้งแต่ปี 1994
http://www.manager.co.th/Around/ViewNew ... 0000023136
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กุมภาพันธ์ 2556 13:07 น.
รอยเตอร์ - อังกฤษถูกลดความน่าเชื่อถือเป็นครั้งแรกจากบริษัทเครดิตเรตติ้งชั้นนำของโลกในวันศุกร์ (22) เมื่อมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิสประกาศลดอันดับความสามารถในการชำระหนี้ของลอนดอนลง 1 ขั้นจาก AAA ซึ่งเป็นระดับสูงสุด สู่ระดับ Aa1 กลายเป็นปัญหาใหญ่ต่อไปสำหรับจอร์จ ออสบอร์น รัฐมนตรีการคลังของประเทศ
มูดีส์ชี้ว่า โอกาสในการเติบโตทางเศรษฐกิจของอังกฤษที่เป็นไปได้ยาก ทำให้แผนการลดหนี้สาธารณะของรัฐบาลไม่เป็นไปตามเป้าหมายนั้น มีส่วนสำคัญในการตัดสินใจลดอันดับความน่าเชื่อถือในครั้งนี้
มาตรการรัดเข็มขัดอันเป็นประเด็นหลักในนโยบายงบประมาณของออสบอร์น ซึ่งตัวเขาให้คำมั่นว่าจะปกป้องเครดิตเรตติ้งของประเทศให้คงไว้ที่ AAA ทว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างเชื่องช้า เนื่องจากวิกฤตการเงิน กลับยิ่งถดถอยลง โดยเป้าหมายในการลดการขาดดุลงบประมาณจำนวนมหาศาลของรัฐบาลชุดปัจจุบัน
มูดีส์ชี้แจงว่า แม้อังกฤษจะมีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ แต่การเติบโตที่ชะลอตัว เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกอ่อนกำลังลงหลายส่วน โดยเฉพาะในกลุ่มยูโรโซน รวมถึงแรงดึงจากกระบวนการเร่งคืนหนี้สินของทั้งภาครัฐ และเอกชนภายในประเทศ ที่ยังดำเนินต่อไป
อย่างไรก็ตาม มูดีส์ระบุว่า แนวโน้มในอนาคตของอังกฤษขณะนี้ยังคงที่ นั่นหมายถึงว่าไม่น่าที่จะมีการเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตเรตติ้งใดๆ ไปจนถึงปีหน้า หรือนานกว่านั้น
นอกจากนี้ ยังลดระดับธนาคารกลางอังกฤษจาก AAA เหลือ Aa1 เช่นกัน โดยให้เหตุผลว่าแม้อังกฤษจะมีโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง แต่ในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า อัตราการเติบโตของอังกฤษจะยังชะลอตัว ขณะที่มีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ อังกฤษกลายเป็นอีก 1 ประเทศ นอกเหนือจากสหรัฐฯ และฝรั่งเศส ที่ต้องสูญเสียความน่าเชื่อถือระดับสูงสุด จากบริษัทจัดอันดับรายใหญ่ของโลกอย่างน้อย 1 แห่ง หลังจากครองเรตติ้ง AAA จากมูดีส์ และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ มาตั้งแต่ปี 1978 และจากฟิตช์ เรตติงส์ มาตั้งแต่ปี 1994
http://www.manager.co.th/Around/ViewNew ... 0000023136
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
-
- Verified User
- โพสต์: 4241
- ผู้ติดตาม: 0
Re: U.K. Stripped of Top Rating by Moody’s Amid Weak Growth
โพสต์ที่ 3
สื่อนอกเตือน! จอร์จ โซรอส เตรียมโจมตี “เงินปอนด์” ต่อ หลังเพิ่งฟันกำไรอื้อ จาก “เงินเยน”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 กุมภาพันธ์ 2556 12:07 น.
เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-จอร์จ โซรอส พ่อมดการเงินชื่อก้องโลก วัย 82 ปี ตกเป็นข่าว กำลังวางแผนเตรียมลงมือโจมตีค่าเงินปอนด์ สเตอร์ลิงของอังกฤษเพื่อทำเงินเข้ากระเป๋าตัวเองเพิ่มเติม หลังค่าเงินของเมืองผู้ดีทำสถิติร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในสัปดาห์นี้ เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นการตกต่ำที่สุดของค่าเงินปอนด์นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว
รายงานข่าวซึ่งอ้างข้อมูลจากเว็บไซต์ข่าวสารด้านการลงทุนชื่อดังของอังกฤษ“อินเวสต์เมนต์ วีค”เมื่อคืนวันอังคาร (19) ยืนยันว่า จอร์จ โซรอส พ่อมดการเงินชาวอเมริกัน เชื้อสายฮังการี ซึ่งเพิ่งทำเงินเข้ากระเป๋าตัวเองได้เกือบ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 29,840 ล้านบาท) เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2012 จากการเข้าเก็งกำไรกับค่าเงินเยนของญี่ปุ่น ได้ “ล็อกเป้าใหม่” ในการฟันกำไรเอาไว้ที่เงินสกุลปอนด์ สเตอร์ลิงของสหราชอาณาจักรเรียบร้อยแล้ว หลังค่าเงินปอนด์ร่วงลงอีก 0.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ จนเหลือเพียง 1.5438 ดอลลาร์ในการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ (18) ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน โดยที่ทางธนาคารกลางของอังกฤษ (Bank of England ) ก็ออกมายอมรับว่า มีความเป็นไปได้ที่ค่าเงินปอนด์อาจร่วงลงต่ำกว่านี้ได้อีก
ขณะที่ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ “ไฟแนนเชียล ไทม์ส” ยืนยันว่าบรรดากองทุนเฮดจ์ ฟันด์ขนาดใหญ่ของโลก รวมถึง กองทุน “โซรอส ฟันด์ แมเนจเมนต์” ของจอร์จ โซรอส กำลังจับตาดูสถานการณ์ของค่าเงินปอนด์อย่างใกล้ชิด และพร้อมเปิดการโจมตีเพื่อฟันกำไรในไม่ช้า ซึ่งจะส่งผลให้เงินปอนด์กลายเป็นเงินสกุลหลักสกุลที่ 2 ของโลกต่อจากเงินเยนของญี่ปุ่น ที่ตกเป็นเป้าหมายของการเก็งกำไรภายในระยะเวลาห่างกันเพียงไม่กี่เดือน
ความเคลื่อนไหวล่าสุดมีขึ้นหลังก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานโดยอ้างคนใกล้ชิดของโซรอสว่า พ่อมดการเงินรายนี้ สามารถทำเงินเข้ากระเป๋าตัวเองได้เกือบ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 29,840 ล้านบาท) เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา จากการเข้าเก็งกำไรค่าเงินเยนของญี่ปุ่น หลังจากค่าเงินแดนปลาดิบอ่อนค่าลงกว่า 17 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯนับตั้งแต่ต้นไตรมาสที่ 4 ของปี 2012 ซึ่งถือเป็นวิกฤตการอ่อนค่าของเงินเยนที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 1985 เป็นต้นมา
ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 1992 จอร์จ โซรอส เคยโจมตีค่าเงินปอนด์ของอังกฤษมาแล้วครั้งหนึ่ง จนสามารถทำกำไรได้นับพันล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำให้ธนาคารกลางของอังกฤษ (Bank of England) เกือบประสบภาวะล้มละลาย ขณะเดียวกันโซรอสยังเคยทำกำไรมหาศาลจากการโจมตี “ค่าเงินบาท” ของไทย และสกุลเงินของอีกหลายชาติในเอเชียมาแล้วเมื่อช่วงวิกฤตการเงินในเอเชีย ซึ่งมีจุดเริ่มต้นที่ประเทศไทยในเดือนกรกฎาคม 1997
ทั้งนี้ นอกจากข่าวการทำกำไรของโซรอสจากค่าเงินเยนของญี่ปุ่นแล้ว ยังมีรายงานว่า โซรอสซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินในความครอบครองทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(เกือบ 600,000 ล้านบาท) เพิ่งทุ่มเงินซึ่งไม่เปิดเผยจำนวนที่แน่ชัดเพื่อเข้าซื้อหุ้นของบริษัท “แอปเปิล อิงก์” ยักษ์ใหญ่ไอทีของสหรัฐฯเพิ่มเมื่อช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา ผ่านทางกองทุนโซรอส ฟันด์ แมเนจเมนต์ของเขาในนิวยอร์ก เป็นเหตุให้ขณะนี้โซรอสถือหุ้นกว่า “183,976 หุ้น” ในบริษัทแอปเปิล ผู้ผลิตโทรศัพท์อัจฉริยะ “ไอโฟน” และแท็บเล็ตยอดฮิตอย่าง “ไอแพด” คิดเป็นวงเงินไม่ต่ำกว่า 98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,924 ล้านบาท)
http://www.manager.co.th/Around/ViewNew ... 0000021672
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 กุมภาพันธ์ 2556 12:07 น.
เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-จอร์จ โซรอส พ่อมดการเงินชื่อก้องโลก วัย 82 ปี ตกเป็นข่าว กำลังวางแผนเตรียมลงมือโจมตีค่าเงินปอนด์ สเตอร์ลิงของอังกฤษเพื่อทำเงินเข้ากระเป๋าตัวเองเพิ่มเติม หลังค่าเงินของเมืองผู้ดีทำสถิติร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในสัปดาห์นี้ เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นการตกต่ำที่สุดของค่าเงินปอนด์นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว
รายงานข่าวซึ่งอ้างข้อมูลจากเว็บไซต์ข่าวสารด้านการลงทุนชื่อดังของอังกฤษ“อินเวสต์เมนต์ วีค”เมื่อคืนวันอังคาร (19) ยืนยันว่า จอร์จ โซรอส พ่อมดการเงินชาวอเมริกัน เชื้อสายฮังการี ซึ่งเพิ่งทำเงินเข้ากระเป๋าตัวเองได้เกือบ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 29,840 ล้านบาท) เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2012 จากการเข้าเก็งกำไรกับค่าเงินเยนของญี่ปุ่น ได้ “ล็อกเป้าใหม่” ในการฟันกำไรเอาไว้ที่เงินสกุลปอนด์ สเตอร์ลิงของสหราชอาณาจักรเรียบร้อยแล้ว หลังค่าเงินปอนด์ร่วงลงอีก 0.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ จนเหลือเพียง 1.5438 ดอลลาร์ในการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ (18) ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน โดยที่ทางธนาคารกลางของอังกฤษ (Bank of England ) ก็ออกมายอมรับว่า มีความเป็นไปได้ที่ค่าเงินปอนด์อาจร่วงลงต่ำกว่านี้ได้อีก
ขณะที่ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ “ไฟแนนเชียล ไทม์ส” ยืนยันว่าบรรดากองทุนเฮดจ์ ฟันด์ขนาดใหญ่ของโลก รวมถึง กองทุน “โซรอส ฟันด์ แมเนจเมนต์” ของจอร์จ โซรอส กำลังจับตาดูสถานการณ์ของค่าเงินปอนด์อย่างใกล้ชิด และพร้อมเปิดการโจมตีเพื่อฟันกำไรในไม่ช้า ซึ่งจะส่งผลให้เงินปอนด์กลายเป็นเงินสกุลหลักสกุลที่ 2 ของโลกต่อจากเงินเยนของญี่ปุ่น ที่ตกเป็นเป้าหมายของการเก็งกำไรภายในระยะเวลาห่างกันเพียงไม่กี่เดือน
ความเคลื่อนไหวล่าสุดมีขึ้นหลังก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานโดยอ้างคนใกล้ชิดของโซรอสว่า พ่อมดการเงินรายนี้ สามารถทำเงินเข้ากระเป๋าตัวเองได้เกือบ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 29,840 ล้านบาท) เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา จากการเข้าเก็งกำไรค่าเงินเยนของญี่ปุ่น หลังจากค่าเงินแดนปลาดิบอ่อนค่าลงกว่า 17 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯนับตั้งแต่ต้นไตรมาสที่ 4 ของปี 2012 ซึ่งถือเป็นวิกฤตการอ่อนค่าของเงินเยนที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 1985 เป็นต้นมา
ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 1992 จอร์จ โซรอส เคยโจมตีค่าเงินปอนด์ของอังกฤษมาแล้วครั้งหนึ่ง จนสามารถทำกำไรได้นับพันล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำให้ธนาคารกลางของอังกฤษ (Bank of England) เกือบประสบภาวะล้มละลาย ขณะเดียวกันโซรอสยังเคยทำกำไรมหาศาลจากการโจมตี “ค่าเงินบาท” ของไทย และสกุลเงินของอีกหลายชาติในเอเชียมาแล้วเมื่อช่วงวิกฤตการเงินในเอเชีย ซึ่งมีจุดเริ่มต้นที่ประเทศไทยในเดือนกรกฎาคม 1997
ทั้งนี้ นอกจากข่าวการทำกำไรของโซรอสจากค่าเงินเยนของญี่ปุ่นแล้ว ยังมีรายงานว่า โซรอสซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินในความครอบครองทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(เกือบ 600,000 ล้านบาท) เพิ่งทุ่มเงินซึ่งไม่เปิดเผยจำนวนที่แน่ชัดเพื่อเข้าซื้อหุ้นของบริษัท “แอปเปิล อิงก์” ยักษ์ใหญ่ไอทีของสหรัฐฯเพิ่มเมื่อช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา ผ่านทางกองทุนโซรอส ฟันด์ แมเนจเมนต์ของเขาในนิวยอร์ก เป็นเหตุให้ขณะนี้โซรอสถือหุ้นกว่า “183,976 หุ้น” ในบริษัทแอปเปิล ผู้ผลิตโทรศัพท์อัจฉริยะ “ไอโฟน” และแท็บเล็ตยอดฮิตอย่าง “ไอแพด” คิดเป็นวงเงินไม่ต่ำกว่า 98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,924 ล้านบาท)
http://www.manager.co.th/Around/ViewNew ... 0000021672
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
-
- Verified User
- โพสต์: 4241
- ผู้ติดตาม: 0
Re: U.K. Stripped of Top Rating by Moody’s Amid Weak Growth
โพสต์ที่ 4
การเงิน - การลงทุน : เศรษฐกิจต่างประเทศ
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2556 10:08
อังกฤษหลุด 'AAA' มูดีส์ชี้หนี้รัฐเยอะ
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
มูดี้ส์หั่นอันดับอังกฤษจาก AAA เหลือ Aa1 ระบุหนี้สินภาครัฐเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เศรษฐกิจขยายตัวไม่สูงพอลด
บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำ มูดี้ส์ ปรับลดความน่าเชื่อถือของอังกฤษจาก AAA ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ลงหนึ่งขั้นเหลือ Aa1 ด้วยเหตุผลหลักว่า แม้มีความเข้มแข็งด้านโครงสร้างเศรษฐกิจ แต่การเติบโตของอังกฤษมีแนวโน้มจะซบเซาไปอีก 2-3 ปี เพราะถูกจำกัดด้วยกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอของโลก โดยเฉพาะในยูโรโซน และการที่ภาคธุรกิจกับภาครัฐต้องเร่งลดภาระหนี้
มูดี้ส์ระบุว่าสภาพการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดผลพวงเป็นลูกโซ่ เพราะเศรษฐกิจที่ซบเซา ทำให้รัฐบาลลดการขาดดุลและจัดทำงบสมดุลได้ยากขึ้น ดังนั้นหนี้สินจึงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
นอกจากนั้น มูดี้ส์ยังลดความน่าเชื่อถือของธนาคารกลางอังกฤษจาก AAA เหลือ Aa1
น.ส.ซารา คาร์ลสัน หัวหน้านักวิเคราะห์ด้านอังกฤษของมูดี้ส์ กล่าวว่าการลดอันดับมาจากหลายปัจจัย แต่หลักๆ คือกระบวนการที่ภาครัฐและเอกชนต้องเร่งลดหนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยหนี้สินภาครัฐเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเศรษฐกิจก็ขยายตัวได้ไม่สูงพอจะดึงหนี้ให้ลดลงก่อนปี 2559
ทั้งนี้ มูดี้ส์ระบุว่าอังกฤษหวังว่ารายได้จากการเก็บภาษีที่เพิ่มขึ้นมาก จะช่วยให้ฐานะของประเทศดีขึ้น แต่เศรษฐกิจที่ขยายตัวช้าทำให้การควบคุมการขาดดุลทำได้ยาก และหนี้สินของประเทศก็จะเพิ่มไปจนถึงจุดสูงสุดที่ 96% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ในปี 2559
"แม้โครงการเงินทุนเพื่อการปล่อยกู้ของรัฐบาล มีศักยภาพในการหนุนนำการเติบโต แต่มูดี้ส์เชื่อว่าความเสี่ยงสำหรับแนวโน้มการเติบโตยังอยู่ในขาลง" รายงานระบุ
อย่างไรก็ตาม มูดี้ส์จัดให้แนวโน้มของอังกฤษมีเสถียรภาพ เพราะมั่นใจว่าภาคการเมืองจะสร้างความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างระยะกลางได้ทัน อันจะช่วยบรรเทาการขาดดุล และแก้ปัญหาหนี้ได้ในที่สุด เพราะเศรษฐกิจอังกฤษมีความหลากหลายและมีโครงสร้างสถาบันที่แข็งแกร่งมาก
เงินปอนด์ร่วง
การเคลื่อนไหวนี้ทำให้เงินปอนด์ร่วงลง 0.8% ที่ 1.5131 ต่อดอลลาร์ หลังจากร่วงลงไปแล้ว 6.8% นับจากต้นปี เพราะนักลงทุนไม่มั่นใจนโยบายของรัฐบาล
นายโฮเวิร์ด อาร์เชอร์ นักเศรษฐศาสตร์แห่งไอเอชเอสโกลบอลอินไซต์ กล่าวว่าการลดอันดับของมูดี้ส์เป็นสิ่งที่นักลงทุนคาดหมายมานานแล้ว ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีผลกระทบมากนัก แต่เรื่องนี้ถือเป็นสิ่งน่าอับอายสำหรับรัฐบาล ซึ่งแน่นอนว่าจะถูกวิจารณ์อย่างหนักจากฝ่ายตรงข้าม ทั้งการถูกลดอันดับยังเป็นการตอกย้ำถึงปัญหาอันยืดเยื้อและรุนแรงของเศรษฐกิจ
อังกฤษลั่นไม่หนีปัญหา
นายจอร์จ ออสบอร์น รัฐมนตรีคลังอังกฤษ กล่าวทำนองปกป้องตัวเองว่าการตัดสินใจของมูดี้ส์ทำให้รัฐบาลต้องเพิ่มความพยายาม 2 เท่าในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และรัฐบาลจะไม่วิ่งหนีปัญหา แต่จะเอาชนะให้ได้ พร้อมเสริมว่าการถูกลดอันดับตอกย้ำการท้าทายที่รัฐบาลเผชิญ
"เราได้รับการย้ำเตือนเกี่ยวกับปัญหาหนี้ และสิ่งที่เราต้องทำคือจัดวางแผนลดการขาดดุลรายไตรมาส ดึงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำ และสร้างงานให้มาก" นายออสบอร์นแถลง พร้อมยอมรับว่าอังกฤษเผชิญการท้าทายในประเทศ จากหนี้สินที่พอกพูนมาหลายปี และเศรษฐกิจที่อ่อนแอมากของยุโรปก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ง่ายขึ้นเลย
การลดอันดับอังกฤษมีขึ้น 3 เดือน หลังจากมูดี้ส์ลดอันดับฝรั่งเศสจาก AAA ผลจากวิกฤติยุโรปที่กระทบต่อประเทศที่เคยแข็งแกร่งอันดับต้นๆ ของโลก
แผนการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของฝรั่งเศสกับอังกฤษแตกต่างกันออกไป โดยฝรั่งเศสไม่ยอมลดการใช้จ่ายลงอย่างมากเพื่อให้งบประมาณสมดุล และเน้นที่การขึ้นภาษีคนรวย ขณะที่อังกฤษเลือกใช้มาตรการรัดเข็มขัด
Tags : อังกฤษ • มูดีส์
http://bit.ly/15bTJmz
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2556 10:08
อังกฤษหลุด 'AAA' มูดีส์ชี้หนี้รัฐเยอะ
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
มูดี้ส์หั่นอันดับอังกฤษจาก AAA เหลือ Aa1 ระบุหนี้สินภาครัฐเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เศรษฐกิจขยายตัวไม่สูงพอลด
บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำ มูดี้ส์ ปรับลดความน่าเชื่อถือของอังกฤษจาก AAA ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ลงหนึ่งขั้นเหลือ Aa1 ด้วยเหตุผลหลักว่า แม้มีความเข้มแข็งด้านโครงสร้างเศรษฐกิจ แต่การเติบโตของอังกฤษมีแนวโน้มจะซบเซาไปอีก 2-3 ปี เพราะถูกจำกัดด้วยกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอของโลก โดยเฉพาะในยูโรโซน และการที่ภาคธุรกิจกับภาครัฐต้องเร่งลดภาระหนี้
มูดี้ส์ระบุว่าสภาพการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดผลพวงเป็นลูกโซ่ เพราะเศรษฐกิจที่ซบเซา ทำให้รัฐบาลลดการขาดดุลและจัดทำงบสมดุลได้ยากขึ้น ดังนั้นหนี้สินจึงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
นอกจากนั้น มูดี้ส์ยังลดความน่าเชื่อถือของธนาคารกลางอังกฤษจาก AAA เหลือ Aa1
น.ส.ซารา คาร์ลสัน หัวหน้านักวิเคราะห์ด้านอังกฤษของมูดี้ส์ กล่าวว่าการลดอันดับมาจากหลายปัจจัย แต่หลักๆ คือกระบวนการที่ภาครัฐและเอกชนต้องเร่งลดหนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยหนี้สินภาครัฐเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเศรษฐกิจก็ขยายตัวได้ไม่สูงพอจะดึงหนี้ให้ลดลงก่อนปี 2559
ทั้งนี้ มูดี้ส์ระบุว่าอังกฤษหวังว่ารายได้จากการเก็บภาษีที่เพิ่มขึ้นมาก จะช่วยให้ฐานะของประเทศดีขึ้น แต่เศรษฐกิจที่ขยายตัวช้าทำให้การควบคุมการขาดดุลทำได้ยาก และหนี้สินของประเทศก็จะเพิ่มไปจนถึงจุดสูงสุดที่ 96% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ในปี 2559
"แม้โครงการเงินทุนเพื่อการปล่อยกู้ของรัฐบาล มีศักยภาพในการหนุนนำการเติบโต แต่มูดี้ส์เชื่อว่าความเสี่ยงสำหรับแนวโน้มการเติบโตยังอยู่ในขาลง" รายงานระบุ
อย่างไรก็ตาม มูดี้ส์จัดให้แนวโน้มของอังกฤษมีเสถียรภาพ เพราะมั่นใจว่าภาคการเมืองจะสร้างความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างระยะกลางได้ทัน อันจะช่วยบรรเทาการขาดดุล และแก้ปัญหาหนี้ได้ในที่สุด เพราะเศรษฐกิจอังกฤษมีความหลากหลายและมีโครงสร้างสถาบันที่แข็งแกร่งมาก
เงินปอนด์ร่วง
การเคลื่อนไหวนี้ทำให้เงินปอนด์ร่วงลง 0.8% ที่ 1.5131 ต่อดอลลาร์ หลังจากร่วงลงไปแล้ว 6.8% นับจากต้นปี เพราะนักลงทุนไม่มั่นใจนโยบายของรัฐบาล
นายโฮเวิร์ด อาร์เชอร์ นักเศรษฐศาสตร์แห่งไอเอชเอสโกลบอลอินไซต์ กล่าวว่าการลดอันดับของมูดี้ส์เป็นสิ่งที่นักลงทุนคาดหมายมานานแล้ว ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีผลกระทบมากนัก แต่เรื่องนี้ถือเป็นสิ่งน่าอับอายสำหรับรัฐบาล ซึ่งแน่นอนว่าจะถูกวิจารณ์อย่างหนักจากฝ่ายตรงข้าม ทั้งการถูกลดอันดับยังเป็นการตอกย้ำถึงปัญหาอันยืดเยื้อและรุนแรงของเศรษฐกิจ
อังกฤษลั่นไม่หนีปัญหา
นายจอร์จ ออสบอร์น รัฐมนตรีคลังอังกฤษ กล่าวทำนองปกป้องตัวเองว่าการตัดสินใจของมูดี้ส์ทำให้รัฐบาลต้องเพิ่มความพยายาม 2 เท่าในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และรัฐบาลจะไม่วิ่งหนีปัญหา แต่จะเอาชนะให้ได้ พร้อมเสริมว่าการถูกลดอันดับตอกย้ำการท้าทายที่รัฐบาลเผชิญ
"เราได้รับการย้ำเตือนเกี่ยวกับปัญหาหนี้ และสิ่งที่เราต้องทำคือจัดวางแผนลดการขาดดุลรายไตรมาส ดึงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำ และสร้างงานให้มาก" นายออสบอร์นแถลง พร้อมยอมรับว่าอังกฤษเผชิญการท้าทายในประเทศ จากหนี้สินที่พอกพูนมาหลายปี และเศรษฐกิจที่อ่อนแอมากของยุโรปก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ง่ายขึ้นเลย
การลดอันดับอังกฤษมีขึ้น 3 เดือน หลังจากมูดี้ส์ลดอันดับฝรั่งเศสจาก AAA ผลจากวิกฤติยุโรปที่กระทบต่อประเทศที่เคยแข็งแกร่งอันดับต้นๆ ของโลก
แผนการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของฝรั่งเศสกับอังกฤษแตกต่างกันออกไป โดยฝรั่งเศสไม่ยอมลดการใช้จ่ายลงอย่างมากเพื่อให้งบประมาณสมดุล และเน้นที่การขึ้นภาษีคนรวย ขณะที่อังกฤษเลือกใช้มาตรการรัดเข็มขัด
Tags : อังกฤษ • มูดีส์
http://bit.ly/15bTJmz
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.