สถานะการณ์ตลาดหุ้นบ้านเราตอนนี้ มีวิธีการจัดการเงินสดอย่างไร
-
- Verified User
- โพสต์: 49
- ผู้ติดตาม: 0
สถานะการณ์ตลาดหุ้นบ้านเราตอนนี้ มีวิธีการจัดการเงินสดอย่างไร
โพสต์ที่ 1
สถานะการณ์ ตลาดหุ้นบ้านเราในตอนนี้
ผมเห็นว่า หุ้นหลายตัวราคาเกินพื้นฐานไปมาก สภาพโดยรวมถือว่าค่อนข้างแพง
ผมจึงทำแกน scan หุ้นทั้งตลาดดู แต่สิ่งที่ผมวิเคราะห์ได้ ก็คือยังพอมีหุ้น ที่ยังไม่ถึงมูลค่าพื้นฐานของมันอยู่บ้าง
แต่ว่าราคายังไม่ได้ MOS ของผมที่ได้ตั้งไว้
ซึ่งปัจจุบันผมถือเงินสดอยู่จำนวนหนึ่ง
ในสถานการณ์อย่างนี้ พวกพี่ๆ จะทำอย่างไรกับเงินสดที่ถืออยู่ครับ
ปล. ในเรื่องตลาดหุ้นแพงราคาเกินพื้นฐานเป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
ผมเห็นว่า หุ้นหลายตัวราคาเกินพื้นฐานไปมาก สภาพโดยรวมถือว่าค่อนข้างแพง
ผมจึงทำแกน scan หุ้นทั้งตลาดดู แต่สิ่งที่ผมวิเคราะห์ได้ ก็คือยังพอมีหุ้น ที่ยังไม่ถึงมูลค่าพื้นฐานของมันอยู่บ้าง
แต่ว่าราคายังไม่ได้ MOS ของผมที่ได้ตั้งไว้
ซึ่งปัจจุบันผมถือเงินสดอยู่จำนวนหนึ่ง
ในสถานการณ์อย่างนี้ พวกพี่ๆ จะทำอย่างไรกับเงินสดที่ถืออยู่ครับ
ปล. ในเรื่องตลาดหุ้นแพงราคาเกินพื้นฐานเป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 332
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สถานะการณ์ตลาดหุ้นบ้านเราตอนนี้ มีวิธีการจัดการเงินสดอย่
โพสต์ที่ 4
หาหุ้นไม่ได้ MOSไม่พอ
ก็เก็บเงินในบัญชีหุ้นเรื่อยๆครับ
ก็เก็บเงินในบัญชีหุ้นเรื่อยๆครับ
- nam
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1434
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สถานะการณ์ตลาดหุ้นบ้านเราตอนนี้ มีวิธีการจัดการเงินสดอย่
โพสต์ที่ 7
เผื่อว่าต้องรอนานเวสป้า55 เขียน:ผมฝากธนาคารออมทรัพย์ธรรมดาครับ
มีโอกาสเกิดเมื่อไรพร้อมลงทุนเพิ่ม
ถ้าไม่มีก็รอชิวๆครับ
ลองดู กองทุนรวมตลาดเงิน นะครับ แบงค์ไหนก็ได้ที่สะดวก
ซื้อหุ้นก่อน(t+3) ค่อยโยกเงินจากกองทุนรวมตลาดเงิน (t+1) สบายๆ
ผลตอบแทนสูงกว่าออมทรัพย์ 3-4 เท่าครับ
ตถตา
-
- Verified User
- โพสต์: 411
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สถานะการณ์ตลาดหุ้นบ้านเราตอนนี้ มีวิธีการจัดการเงินสดอย่
โพสต์ที่ 8
nam เขียน:เผื่อว่าต้องรอนานเวสป้า55 เขียน:ผมฝากธนาคารออมทรัพย์ธรรมดาครับ
มีโอกาสเกิดเมื่อไรพร้อมลงทุนเพิ่ม
ถ้าไม่มีก็รอชิวๆครับ
ลองดู กองทุนรวมตลาดเงิน นะครับ แบงค์ไหนก็ได้ที่สะดวก
ซื้อหุ้นก่อน(t+3) ค่อยโยกเงินจากกองทุนรวมตลาดเงิน (t+1) สบายๆ
ผลตอบแทนสูงกว่าออมทรัพย์ 3-4 เท่าครับ
ขอบคุณนะครับ
stay calm stay invest
- newbie_12
- Verified User
- โพสต์: 2904
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สถานะการณ์ตลาดหุ้นบ้านเราตอนนี้ มีวิธีการจัดการเงินสดอย่
โพสต์ที่ 10
เมื่อก่อนเคยใช้ SCBSFF ครับ ได้ดอกเบี้ยมากกว่าออมทรัพย์เยอะอยู่ เวลาขายก็แค่ T+1
ไม่ได้ใช้มานานละครับ เพราะไม่เคยมีเงินสด มีแต่หนีัหัวบาน
ไม่ได้ใช้มานานละครับ เพราะไม่เคยมีเงินสด มีแต่หนีัหัวบาน
.
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
-
- Verified User
- โพสต์: 36
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สถานะการณ์ตลาดหุ้นบ้านเราตอนนี้ มีวิธีการจัดการเงินสดอย่
โพสต์ที่ 11
ผมเห็นกระทู้ทำนองนี้หลายกระทู้มากตามเว็บบอร์ด ซึ่งรวมถึง thaivi กระทู้ทำนองนี้ก็มีไม่น้อยเช่นกัน
เมื่อใดที่รายย่อยส่วนใหญ่คิดว่าตลาดหุ้นขึ้นมาสูงเกินไปแล้ว หรือคิดว่าตลาดหุ้นจะกลับตัวเป็นขาลง ตลาดมักทำตรงกันข้ามกับรายย่อย หรือคนส่วนใหญ่เสมอครับ ดังคำกล่าวที่ว่าผลตอบแทนมักไหลหนีคนส่วนใหญ่ ซึ่งมันมักจะเป็นอย่างนี้เสมอครับ
ความหวาดกลัวของรายย่อยส่วนใหญ่เริ่มตั้งแต่ตอน set ขึ้นจาก 380 จุด มาแถวๆ 700 - 800 จุด ซึ่งมีรายย่อยส่วนใหญ่ออกมาตั้งกระทู้เตือน หรือทำนายว่าตลาดหุ้นจะกลับเป็นขาลง นอกจากนี้ยังมีการแนะนำให้ขายทิ้งหุ้นทิ้งให้หมด ยืมหุ้นมาชอร์ต หรือให้ชอร์ตทีเฟค แต่ตลาดหุ้นมันก็ขึ้นต่อไปเรื่อยๆ เมื่อขึ้นผ่านจุดใหญ่ๆ ก็จะกระทู้ทำนายกันอีก ซึ่งเป็นอย่างนี้มาตลอดทางจนถึง 1,350 จุด
จุดเปลี่ยนเทรนของตลาด ผมมองว่าต้องเป็นช่วงที่รายย่อยส่วนใหญ่มั่นใจสุดๆ ว่าตลาดหุ้นจะขึ้นต่อไป ไม่ใช่ช่วงที่รายย่อยส่วนใหญ่หวาดกลัวว่าตลาดหุ้นจะกลับตัวเป็นขาลงแรงๆ
เมื่อใดที่รายย่อยส่วนใหญ่คิดว่าตลาดหุ้นขึ้นมาสูงเกินไปแล้ว หรือคิดว่าตลาดหุ้นจะกลับตัวเป็นขาลง ตลาดมักทำตรงกันข้ามกับรายย่อย หรือคนส่วนใหญ่เสมอครับ ดังคำกล่าวที่ว่าผลตอบแทนมักไหลหนีคนส่วนใหญ่ ซึ่งมันมักจะเป็นอย่างนี้เสมอครับ
ความหวาดกลัวของรายย่อยส่วนใหญ่เริ่มตั้งแต่ตอน set ขึ้นจาก 380 จุด มาแถวๆ 700 - 800 จุด ซึ่งมีรายย่อยส่วนใหญ่ออกมาตั้งกระทู้เตือน หรือทำนายว่าตลาดหุ้นจะกลับเป็นขาลง นอกจากนี้ยังมีการแนะนำให้ขายทิ้งหุ้นทิ้งให้หมด ยืมหุ้นมาชอร์ต หรือให้ชอร์ตทีเฟค แต่ตลาดหุ้นมันก็ขึ้นต่อไปเรื่อยๆ เมื่อขึ้นผ่านจุดใหญ่ๆ ก็จะกระทู้ทำนายกันอีก ซึ่งเป็นอย่างนี้มาตลอดทางจนถึง 1,350 จุด
จุดเปลี่ยนเทรนของตลาด ผมมองว่าต้องเป็นช่วงที่รายย่อยส่วนใหญ่มั่นใจสุดๆ ว่าตลาดหุ้นจะขึ้นต่อไป ไม่ใช่ช่วงที่รายย่อยส่วนใหญ่หวาดกลัวว่าตลาดหุ้นจะกลับตัวเป็นขาลงแรงๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 14
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สถานะการณ์ตลาดหุ้นบ้านเราตอนนี้ มีวิธีการจัดการเงินสดอย่
โพสต์ที่ 12
ส่วนตัวผมใช้บริการกองMMFกับกองตราสารหนี้อะครับ เวลามีปันผลมาแต่ไม่รู้จะซื้อตัวไหน
ซึ่งกองMMFจะมีสภาพคล่อง(ส่วนใหญ่เห็นT+1)ดีกว่ากองตราสารหนี้(T+2)เวลาขาย แต่ถ้าเราเห็นโอกาสและจะซื้อหุ้นเพื่อลงทุนในจังหวะที่เราต้องการ ส่วนตัวเห็นว่า +1 กับ +2 ไม่น่าจะต่างกันมาก แต่ผลตอบแทนกองตราสารหนี้จะดีกว่า ดังนั้นถ้าเรามีเงิน1ก้อนสามารถแบ่งให้ตัวเราเองบริหารสภาพคล่องได้ตามต้องการเช่น ถ้าเราชอบสภาพคล่องสูงแต่ไม่อยากให้ผลตอบแทนน้อยแบบMMF(ประมาณว่าอยากได้เพิ่มอีกนิด)ก็จัดไว้MMF70ตราสารหนี้30 หรือ50-50 ก็ได้ไม่ผิดอะไรแล้วแต่ จขกท.ตามความต้องการเรื่องสภาพคล่อง ส่วนอีกเรื่องที่คิดว่าต้องดูและศึกษาหน่อยคือบางกองมีไปลงในต่างประเทศว่ามีการป้องกันความเสี่ยงแบบไหนบ้าง
แต่โดยรวมแล้วผลตอบแทนในกองทุนประเภทเดียวกันจะแตกต่างกันไม่มาก
ปล.กองตราสารหนี้อาจจะต้องดูให้ดีเพราะบางกองลงทุนในต่างประเทศอย่างเดียวก็มี บางส่วนก็มี ในประเทศก็มี ดังนั้นผลตอบแทนเอามาเทียบกันไม่ได้ครับ
เทคนิคการถือเพื่อป้องกันการ Mark to Market แล้วขาดทุน+ความผันผวนระยะสั้น ซึ่งมักจะเกิดกับกองทุนตราสารหนี้โดยเฉพาะถ้าเราถือน้อยกว่า1อาทิตย์ ดังนั้นแนะนําว่าน่าจะถือมากกว่า1อาทิตย์สําหรับกองตราสารหนี้ครับ แต่ถ้าเราบังเอิญเอาไปไว้แป๊ปเดียวแล้วเห็นโอกาสก็สามารถโยกออกมาได้เลย เพราะผมเชื่อว่าอาจจะขาดทุนจากMark to Market และความผันผวนเล็กน้อยแต่น่าจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าในหุ้นเมื่อถึงเวลาครับ
ซึ่งกองMMFจะมีสภาพคล่อง(ส่วนใหญ่เห็นT+1)ดีกว่ากองตราสารหนี้(T+2)เวลาขาย แต่ถ้าเราเห็นโอกาสและจะซื้อหุ้นเพื่อลงทุนในจังหวะที่เราต้องการ ส่วนตัวเห็นว่า +1 กับ +2 ไม่น่าจะต่างกันมาก แต่ผลตอบแทนกองตราสารหนี้จะดีกว่า ดังนั้นถ้าเรามีเงิน1ก้อนสามารถแบ่งให้ตัวเราเองบริหารสภาพคล่องได้ตามต้องการเช่น ถ้าเราชอบสภาพคล่องสูงแต่ไม่อยากให้ผลตอบแทนน้อยแบบMMF(ประมาณว่าอยากได้เพิ่มอีกนิด)ก็จัดไว้MMF70ตราสารหนี้30 หรือ50-50 ก็ได้ไม่ผิดอะไรแล้วแต่ จขกท.ตามความต้องการเรื่องสภาพคล่อง ส่วนอีกเรื่องที่คิดว่าต้องดูและศึกษาหน่อยคือบางกองมีไปลงในต่างประเทศว่ามีการป้องกันความเสี่ยงแบบไหนบ้าง
แต่โดยรวมแล้วผลตอบแทนในกองทุนประเภทเดียวกันจะแตกต่างกันไม่มาก
ปล.กองตราสารหนี้อาจจะต้องดูให้ดีเพราะบางกองลงทุนในต่างประเทศอย่างเดียวก็มี บางส่วนก็มี ในประเทศก็มี ดังนั้นผลตอบแทนเอามาเทียบกันไม่ได้ครับ
เทคนิคการถือเพื่อป้องกันการ Mark to Market แล้วขาดทุน+ความผันผวนระยะสั้น ซึ่งมักจะเกิดกับกองทุนตราสารหนี้โดยเฉพาะถ้าเราถือน้อยกว่า1อาทิตย์ ดังนั้นแนะนําว่าน่าจะถือมากกว่า1อาทิตย์สําหรับกองตราสารหนี้ครับ แต่ถ้าเราบังเอิญเอาไปไว้แป๊ปเดียวแล้วเห็นโอกาสก็สามารถโยกออกมาได้เลย เพราะผมเชื่อว่าอาจจะขาดทุนจากMark to Market และความผันผวนเล็กน้อยแต่น่าจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าในหุ้นเมื่อถึงเวลาครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 5011
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สถานะการณ์ตลาดหุ้นบ้านเราตอนนี้ มีวิธีการจัดการเงินสดอย่
โพสต์ที่ 13
กลยุทธ์ที่คิดว่าหุ้นแพงเกินไป การถือเงินสดถือว่าดี เพราะยามเมื่อตลาดตกต่ำ เงินสดมากจะได้เปรียบ แต่เมื่อไหร่ละตลาดจะตกต่ำ อาจจะต้องรอไปอีกกี่ปี ไม่มีใครรู้
--------------------
กฏ5ข้อของทองคำและเงิน
http://www.thorfun.com/story/view/UMp3fK7rWd8nAAY8
--------------------
กฏ5ข้อของทองคำและเงิน
http://www.thorfun.com/story/view/UMp3fK7rWd8nAAY8
-
- Verified User
- โพสต์: 1426
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สถานะการณ์ตลาดหุ้นบ้านเราตอนนี้ มีวิธีการจัดการเงินสดอย่
โพสต์ที่ 14
ผมมีสมมติฐานง่าย ๆ(เกินไปหรือเปล่า)
สมมติSET สิ้นปีนี้ 1350
ปีหน้า 2556 สมมติ eps ทั้งตลาด โต 15% จะได้ตัวเลขสมมติ SET สิ้นปี56ที่ 1350x1.15=1552.5
ปี 2557 สมมติ eps ทั้งตลาดโตอีก 15% ตัวเลขสมมติ SET สิ้นปี 57 คือ 1552.5x1.15=1785.375
ทั้งนี้ทั้งนั้น สมมติก็คือสมมติ นะครับ
ตัวเลขจริง ๆ คงต้องติดตามกันต่อไป
สมมติSET สิ้นปีนี้ 1350
ปีหน้า 2556 สมมติ eps ทั้งตลาด โต 15% จะได้ตัวเลขสมมติ SET สิ้นปี56ที่ 1350x1.15=1552.5
ปี 2557 สมมติ eps ทั้งตลาดโตอีก 15% ตัวเลขสมมติ SET สิ้นปี 57 คือ 1552.5x1.15=1785.375
ทั้งนี้ทั้งนั้น สมมติก็คือสมมติ นะครับ
ตัวเลขจริง ๆ คงต้องติดตามกันต่อไป
-
- Verified User
- โพสต์: 950
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สถานะการณ์ตลาดหุ้นบ้านเราตอนนี้ มีวิธีการจัดการเงินสดอย่
โพสต์ที่ 15
ตอนกลางปี 55 PE ตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 18 พองบไตรมาส 2 , 3 ออกมาทำให้ PE ถอยกับมาที่ 15
แสดงว่า Profit บริษัทในตลาดหุ้นเติบโตจริง ถ้าเติบโตอย่างนี้ไปอีกสัก 1 ปี โดยราคาไม่ขยับตาม
PE จะอยู่ที่ 10-11 เท่า ซึ่งก็นับว่าไม่แพงเลย
แสดงว่า Profit บริษัทในตลาดหุ้นเติบโตจริง ถ้าเติบโตอย่างนี้ไปอีกสัก 1 ปี โดยราคาไม่ขยับตาม
PE จะอยู่ที่ 10-11 เท่า ซึ่งก็นับว่าไม่แพงเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 2232
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สถานะการณ์ตลาดหุ้นบ้านเราตอนนี้ มีวิธีการจัดการเงินสดอย่
โพสต์ที่ 16
ปีนี้การเติบโตส่วนนึงมาจากการลดภาษีด้วยนะครับ ปีหน้าก็มีช่วยอีกหน่อยnaphas12 เขียน:ตอนกลางปี 55 PE ตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 18 พองบไตรมาส 2 , 3 ออกมาทำให้ PE ถอยกับมาที่ 15
แสดงว่า Profit บริษัทในตลาดหุ้นเติบโตจริง ถ้าเติบโตอย่างนี้ไปอีกสัก 1 ปี โดยราคาไม่ขยับตาม
PE จะอยู่ที่ 10-11 เท่า ซึ่งก็นับว่าไม่แพงเลย
นักเลงคีย์บอร์ด4.0
-
- Verified User
- โพสต์: 2606
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สถานะการณ์ตลาดหุ้นบ้านเราตอนนี้ มีวิธีการจัดการเงินสดอย่
โพสต์ที่ 18
Property Fund Freehold นี้ ก็ดีนะครับ
ที่ดี ถ้าเป็นแบบ ดีที่สุด น่าจะเป็นรูปแบบ
ห้างสรรพสินค้า
รองลงมาก็โรงงาน
รองลงมาก็พวก office service apartment
แต่ก็ต้องเลือก ดีๆ เพราะบางแห่ง เป็น Freehold ที่แปลกๆ เช่นให้เจ้าของเดิมเช่า เอาไปทำธุรกิจเดิม แถมยัง มีที่ดินเจ้าของเดิมตีเอาไว้รอบๆ อีก แบบนี้เป็น Freehold ที่ต้องขายคืนเจ้าของเดิม อย่างเดียว จะเอาไปขายใครได้
ที่ดี ถ้าเป็นแบบ ดีที่สุด น่าจะเป็นรูปแบบ
ห้างสรรพสินค้า
รองลงมาก็โรงงาน
รองลงมาก็พวก office service apartment
แต่ก็ต้องเลือก ดีๆ เพราะบางแห่ง เป็น Freehold ที่แปลกๆ เช่นให้เจ้าของเดิมเช่า เอาไปทำธุรกิจเดิม แถมยัง มีที่ดินเจ้าของเดิมตีเอาไว้รอบๆ อีก แบบนี้เป็น Freehold ที่ต้องขายคืนเจ้าของเดิม อย่างเดียว จะเอาไปขายใครได้