สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 391

โพสต์

รูปภาพ

ซีทีเอชชูมิติใหม่ถ่ายสดพรีเมียร์ลีก เดินหน้าแผนลงทุน2หมื่นล.ลุยขยายฐานสมาชิก

นายกฤษณัน งามผาติพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคเบิล ไทย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือซีทีเอช กล่าวว่า การบริหารสิทธิ์กีฬาพรีเมียร์ลีกที่ซีทีเอชได้ประมูลมานั้น อยู่ในระหว่างการวางแนวทางการตลาด ซึ่งลิขสิทธิ์ดังกล่าวเป็นหนึ่งในคอนเทนต์ที่เตรียมไว้รองรับการเปิดช่อง ใหม่ที่ตั้งเป้าไว้ 120 ช่อง เตรียมเปิดตัวในต้นปีหน้า จากปัจจุบันที่มีอยู่ 16 ช่อง แบ่งเป็นช่องระบบไฮเดฟฟิเนชั่น 20-30 ช่อง ซึ่งปัจจุบันมีคอนเทนต์ครบทุกประเภทครบทุกช่องรายการแล้ว เช่น สารคดี ข่าว ภาพยนตร์

อย่างไรก็ตาม รูปแบบของการถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกจะเป็นการสื่อสารสองทางระหว่างผู้ชมกับซี ทีเอช ด้วยการจัดกิจกรรมหรือรูปแบบการทำตลาดใหม่ ๆ เพิ่มเติมเข้ามา เพื่อให้เกิดอินเตอร์แอ็กทีฟ หรือให้การตอบสนองกลับจากผู้ชม ในส่วนของราคาการให้บริการรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลแมตช์ดังกล่าว นายกฤษณันย้ำว่า จะเป็นระดับราคาที่ทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้

"ซีที เอชจะเดินหน้าพัฒนาการให้บริการที่ดีที่สุด เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดประสบการณ์ใหม่ ๆ โดยแนวคิดการพัฒนาของซีทีเอชวันนี้คือ การเอาความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก และตามด้วยเทคโนโลยี"

สำหรับ แผนการลงทุน จากนี้ไปซีทีเอช จะใช้งบฯลงทุนไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาทภายในระยะเวลา 2-3 ปีต่อจากนี้ เพื่อพัฒนาระบบโครงข่ายสู่เทคโนโลยีดิจิทัลบรอดแบนด์ ซึ่งเป็นโครงข่ายที่ทันสมัยที่สุด รวมถึงเดินหน้าสู่การให้บริการทริปเปิล เพลย์ เตรียมเปิดตัวปลายปีหน้า

"ในอนาคตผู้บริโภคของซีทีเอชจะได้ ใช้บริการของทริปเปิล เพลย์ กล้าพูดได้เลยว่า ผู้ใช้ทั่วไปจะสามารถใช้บริการพร้อมกันถึง 3 ประเภท คือ บริการทั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระดับอัลตร้าบรอดแบนด์ ทีวีออนดีมานด์ และบริการโทรศัพท์ไอพีโฟน ซึ่งจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ"

นายก ฤษณันกล่าวต่อว่า จากนี้ไปซีทีเอชจะทยอยเปิดตัวซัพพลายเออร์ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดร่วมกับเอชพีในการพัฒนาและขยายเครือข่ายเมโทรเน็ต ซึ่งเป็นระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ครอบคลุมทั่วประเทศ ให้ซีทีเอชสามารถเชื่อมต่อสัญญาณจากกรุงเทพฯสู่ภูมิภาคต่าง ๆ ซึ่งติดตั้งระบบเครือข่ายเมโทรเน็ต คือคำตอบที่ดีที่สุด เพราะให้แบนด์วิดท์สูงขึ้นถึง 10 จิกะไบต์ต่อวินาที ซึ่งเพียงพอสำหรับการรองรับช่องรายการได้สูงกว่า 500 ช่อง ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการเคเบิลทีวีทั่วไทย หลังจากก่อนหน้านี้ได้ร่วมมือกับซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น วางโครงข่ายการสื่อสารความเร็วสูงทั่วประเทศและภูมิภาคอาเซียน เพื่อให้บริการบรอดแบนด์ความเร็วสูง

ปัจจุบันมีซีทีเอชมีฐานสมาชิก ที่ 3 ล้านครัวเรือน คาดว่าปีหน้าจะเพิ่มเป็น 3.5-4 ล้านครัวเรือน และภายใน 3 ปีนับจากนี้จะมีฐานสมาชิกเพิ่มเป็น 10 ล้านครัวเรือน

รูปภาพ
23 พ.ย. 2555
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 392

โพสต์

รูปภาพ

TMILL เทรดวันแรกเปิดตลาด 6 บาทเหนือจอง 93.5%

กรุงเทพฯ--23 พ.ย.--อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น

ดร.ชาญกฤช เดชวิทักษ์ (ที่สองจากขวา) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีเอสฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน)หรือ TMILL ผู้ผลิตแป้งสาลีคุณภาพของไทยเปิดการซื้อขายหลักทรัพย์วันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอโดยเปิดตลาดที่ราคา 6 บาทต่อหน่วยปรับตัวสูงขึ้น 93.5% จากราคาเสนอขาย 3.10 บาทโดยมีนายจรัมพรโชติกเสถียรประธานที่ปรึกษาตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอและนายชนิตรชาญชัยณรงค์ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอพร้อมด้วยดร.ก้องเกียรติโอภาสวงการประธานกรรมการบริหารบริษัทที่ปรึกษาเอเซียพลัสจำกัดในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนร่วมแสดงความยินดี

ข่าวประชาสัมพันธ์หุ้น การเงิน การธนาคาร วันศุกร์ที่ ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 393

โพสต์

รูปภาพ
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 394

โพสต์

รูปภาพ
ANAN เตรียมขายไอพีโอ 1,333 ล้านหุ้น พร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ร่วมด้วย นายพิเชษฐ์ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวเตรียมความพร้อมและระดมทุนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จำนวน 1,333 ล้านหุ้น โดยถือเป็นบริษัทแรกในรอบ 3 ปีของกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เข้าระดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์ ระบุเงินที่ได้จะนำไปขยายธุรกิจให้เติบโต และชำระหนี้สถาบันการเงิน มั่นใจเกินร้อยเป็นหุ้นน้องใหม่ที่จะได้รับการตอบรับอย่างคึกคักจากนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ


*** "อนันดาฯ" กำหนดราคาขาย IPO 4.2-4.9 บ.

"อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ " กำหนดราคาขาย IPO 4.2-4.9 บาท
ขาย 28-30 พ.ย. เทรด 7 ธ.ค.นี้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 395

โพสต์

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
-- ศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2555 16:37:51 น.

แหล่งข่าวจากบล.บัวหลวง ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทฯได้กำหนดช่วงราคาเสนอขายไว้ที่ 4.2-4.9 บาท/หุ้น คาดว่าจะสรุปราคาเสนอขายได้ในวันที่ 27 พ.ย.นี้ ซึ่งจะเป็นวันเซ็นสัญญาแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นในครั้งนี้(อันเดอร์ไรต์เตอร์)

นอกจากนี้ คาดว่าจะเสนอขายในวันที่ 28-30 พ.ย.นี้
และคาดว่าจะเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 7 ธ.ค. 55

"ราคาที่จะเสนอขาย IPO คาดว่าจะให้ discount แก่นักลงทุนประมาณ 8.5-9.5% เมื่อเทียบกับค่า P/E ของตลาดที่ 10 เท่า"แหล่งข่าว กล่าว

บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ประชาชน จำนวน 1,333 ล้านหุ้น โดยบริษัทฯประกอบธุรกิจด้านการลงทุนโดยการถือหุ้นในบริษัทต่างๆ (Holding Company) โดยถือหุ้นในบริษัทย่อยคือ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ทู จำกัด(AD2)ซึ่งประกอบธุรกิจหลัก คือการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมติดสถานีขนส่งมวลชนระบบรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และเป็นบริษัทที่สร้างรายได้หลักให้แก่บริษัทฯ

อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 396

โพสต์


***หุ้นโค้งสุดท้าย...SET สัปดาห์หน้าสดใส


ดัชนี SET วันนี้ปิดอยู่ที่ระดับ 1,281.70 จุด เพิ่มขึ้น 2.19 จุด หรือ+0.17%
มูลค่าการซื้อขาย 19,705.33 ล้านบาท


- นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ +533.70 ล้านบาท
- บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ -207.17 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ -409.89 ล้านบาท

- นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ +83.36 ล้านบาท


นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการ สายงานวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน บอกในรายการหุ้นโค้งสุดท้ายว่า ภาพรวมในสัปดาห์หน้าในส่วนของปัจจัยต่างประเทศ พบว่า มีปัจจัยบวกเล็กๆ เช่น สหรัฐฯมีเรื่องตัวเลขจีดีพีในไตรมาส 3/55 ที่มีการประมาณการครั้งที่ 2 โดยคาดว่าจะขยายตัว 2.8% จากครั้งแรกที่ 2% ซึ่งดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าก็เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

ขณะที่ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติเริ่มซื้อสุทธิ ซึ่งถ้าไม่นับกรณีบิ๊กล็อต CPALL ต่างชาติก็ยังซื้อสุทธิ ส่วนฝั่งยุโรป ตัวเลขความเชื่อมั่นทางธุรกิจเยอรมนีเดือนพ.ย.ดีดตัวขึ้นตัว และล่าสุดกลุ่มเจ้าหนี้กรีซบรรลุข้อตกลงมาตรการปรับลดหนี้แล้ว แต่กรีซยังคงต้องลดยอดขาดดุล 1.0 หมื่นล้านยูโร

ส่วนปัจจัยภายในประเทศ ติดตามการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ซึ่งมีการคาดการณ์ว่ากนง.อาจจะคงอัตราดอกเบี้ยแต่ก็มีโอกาสที่จะปรับลดดอกเบี้ย หากเศรษฐกิจยังมีความเสี่ยง

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำเลือกหุ้นที่ถูกเข้าคำนวณดัชนี MSCI โดยเลือก BGH น่าสนใจ ,กลุ่มที่คาดการณ์ว่าจะเข้าคำนวนดัชนี SET 50 คือ KK-TTW-JAS ซึ่งเราเลือก KK ,กลุ่มที่ปันผลน่าสนใจ คือ INTUCH และกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จานโยบายรัฐ คือ SCC

ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,270 จุด และแนวต้าน 1,291 จุด



จากการรวบรวมของ Money Channel บริษัทหลักทรัพย์ต่าง ๆ ให้กรอบการลงทุนทางด้านเทคนิคและหุ้นแนะนำในสัปดาห์หน้าดังนี้
บล.คันทรี่ กรุ๊ป ให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ที่ 1,275-1,285 จุด แนะลงทุนหุ้น INTUCH
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย)ให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ที่ 1,270-1,290 จุด แนะลงทุนหุ้น LPN
บล.ไอร่า ให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ที่ 1,260-1,290 จุด
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ที่ 1,270-(1,285-1,290) จุด แนะลงทุนหุ้น PE

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 397

โพสต์

ขยายบีทีเอส-คอนโดฯ บูมดันผู้โดยสารรถไฟใต้ดินพุ่ง

บีเอ็มซีแอลเผยปี 55 ผู้โดยสารรถไฟใต้ดินเติบโต 15% เพิ่มสูงมากจากปีก่อนที่เติบโต 5% เฉลี่ยวันละ 2.5 แสนคน เหตุอสังหาริมทรัพย์ตามแนวรถไฟฟ้าบูมสุดขีด และมีส่วนต่อขยายบีทีเอสช่วยป้อนผู้โดยสาร ตั้งเป้าปีหน้าโต 10%

นายวิฑูรย์ หทัยรัตนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานปฏิบัติการ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล เปิดเผยว่า จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินในปี 2555 มีการเติบโตสูงมาก โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 15% เนื่องจากมีการต่อขยายเส้นทางของรถไฟฟ้าบีทีเอสช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง และช่วงตากสิน-วงเวียนใหญ่ และการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า จึงส่งผลให้เกิดการเดินทางด้วยระบบรถไฟฟ้าเพื่อเชื่อมโยงไปยังสถานที่ต่างๆ มากขึ้น

“หากเปรียบเทียบการเติบโตของผู้โดยสารเมื่อปี 2554 กับปี 2553 เติบโตประมาณ 5% เท่านั้น ดังนั้นคาดว่าการเติบโตจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบีเอ็มซีแอลได้มีการปรับตารางการเดินรถให้สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะช่วงเช้าและเย็นที่มีผู้ใช้บริการมาก” นายวิฑูรย์กล่าว

ด้านนายชาติชาย ประดิษพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์และภาพลักษณ์องค์กร บีเอ็มซีแอล กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้โดยสารเฉลี่ย 2.5 แสนคนต่อวัน สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีประมาณ 1.9 แสนคนต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 6 หมื่นคนต่อวัน โดยในปี 2556 คาดว่าผู้โดยสารจะเติบโตประมาณ 10% ตามการเติบโตของที่อยู่อาศัยแบบคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า และพฤติกรรมของการใช้ชีวิตที่ปรับเปลี่ยนโดยเน้นความสะดวกในการเดินทาง

อย่างไรก็ตาม ภายในปลายปีนี้การทดลองระบบตั๋วร่วมระหว่างบีเอ็มซีแอลกับบีทีเอส เพื่อให้ผู้โดยสารใช้บัตรใบเดียวแต่เข้าบริการได้ทั้งรถไฟฟ้าใต้ดิน และรถไฟฟ้าบีทีเอสนั้นจะแล้วเสร็จ หลังจากนั้นจึงจะพิจารณาปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น ก่อนกำหนดการให้บริการจริงต่อไป

รูปภาพ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
23 พฤศจิกายน 2555
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 398

โพสต์

SET:หุ้นไทยปิดบวก 0.17% แม้ขายหุ้นแบงก์ถ่วง,รอดูสถานการณ์การเมืองสุดสัปดาห์

กรุงเทพฯ--23 พ.ย.--รอยเตอร์


ดัชนีหุ้นไทยปิดบวก 0.17% ด้วยมูลค่าซื้อขายไม่ถึง 2 หมื่นล้านบาท ขณะที่ดัชนี

เคลื่อนไหวในกรอบแคบทั้งแดนบวก และลบ ตลอดการซื้อขายวันนี้ โดยมีแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคาร

ออกมาถ่วงบรรยากาศลงทุน แต่ด้วยแรงซื้อของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และพลังงาน ช่วยประคอง

ให้ดัชนีปิดตัวในแดนบวกได้ ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ

ส่วนหุ้นน้องใหม่ บมจ.ที เอส ฟลาวมิลล์ TMILL ที่เข้าซื้อขายในตลาด

หลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ(mai) ปิดตลาดที่ 5.50 บาท เพิ่มขึ้น 77.42% จากราคาที่เสนอ

ขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก(IPO) ที่หุ้นละ 3.10 บาท

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ มองว่าตลาดเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หลังยังกังวลต่อ

สถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ แต่บรรยากาศการลงทุนของตลาด

ต่างประเทศยังเป็นปัจจัยด้านจิตวิทยาที่ช่วยพยุงตลาด ขณะที่มองหากสถานการณ์ทางการเมือง

ไม่มีเหตุรุนแรงช่วงสุดสัปดาห์ ดัชนีมีโอกาสที่จะดีดตัวขึ้นแรงได้ในวันจันทร์

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปิดบวก 2.19 จุด มาที่ 1,281.70 จุด ระหว่างวันดัชนี

ทำระดับสูงสุดที่ 1,282.23 และต่ำสุดที่ 1,272.98 ด้วยมูลค่าซื้อขาย 19,705.33 ล้านบาท

ขณะที่ SET50 ปิดบวก 2.32 จุด หรือ 0.27% มาที่ 869.72 จุด และ SET100

ปิดบวก 5.04 จุด หรือ 0.26% มาที่ 1,910.94 จุด

ดัชนีกลุ่มแบงก์ ลบ 0.13% ด้วยมูลค่าซื้อขายสูงสุดของตลาดที่ 17.99% นำโดย

หุ้นธ.ไทยพาณิชย์ (SCB) ลบ 1.57%,กลุ่มเทคโนโลยี บวก 0.36% นำโดยหุ้นแอดวานซ์ อินโฟร์

เซอร์วิส (ADVANC) บวก 0.25%

ดัชนีกลุ่มพลังงาน บวก 0.72% นำโดยหุ้นปตท.(PTT) บวก 0.97%, กลุ่มพาณิชย์

บวก 0.76% นำโดยหุ้นซีพีออลล์ (CPALL) บวก 2.56% และกลุ่มขนส่ง บวก 1.56%


"ดัชนีแกว่งกรอบแคบมาก มีทั้งแดนบวกและลบ ตลาดยังคงกังวลในเรื่องการชุมนุม

ประท้วง แต่เมื่อดูเปรียบเทียบกับหลายๆครั้งที่ผ่านมา ถือว่าครั้งนี้นักลงทุนก็กลัวน้อย

หน่อย"



นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) กล่าว

ทั้งนี้ องค์การพิทักษ์สยาม นัดชุมนุมในวันพรุ่งนี้ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมนับ

แสนคน ซึ่งจะทำให้บรรลุเป้าหมายในการต่อต้านการทำงานของรัฐบาล พร้อมย้ำว่าจะไม่มีการ

เคลื่อนมวลชนไปปิดล้อมสถานที่ราชการใดๆ โดยจะยุติอย่างช้าสุด ภายในวันที่ 25 พ.ย.

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ประกาศใช้พ.ร.บ.มั่นคงฯ ในพื้นที่ 3 เขตของกรุงเทพ

มหานคร(กทม.) คือ พระนคร,ดุสิต และป้อมปราบศัตรูพ่าย ระหว่างวันที่ 22-30 พ.ย.

เพื่อดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมดังกล่าว

นายเกียรติก้อง กล่าวว่า การที่ตลาดหุ้นต่างประเทศเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก

ทำให้ช่วยพยุงภาพรวมการลงทุนของตลาดหุ้นไทยได้บ้าง อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์

การชุมนุมในวันพรุ่งนี้ไม่มีเหตุรุนแรง ก็คาดว่าดัชนีมีโอกาสที่จะดีดตัวขึ้นแรงในวัน

จันทร์ โดยดัชนีอาจจะทะลุระดับ 1,300 ได้


หลักทรัพย์ 5 อันดับแรก ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด

CPALL บวก 1.00 บาท มาที่ 40.00 บาท

ADVANC บวก 0.50 บาท มาที่ 198.50 บาท

SCB ลบ 2.50 บาท มาที่ 156.50 บาท

PTT บวก 3.00 บาท มาที่ 312.00 บาท

KTB บวก 0.20 บาท มาที่ 17.30 บาท

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 399

โพสต์

รูปภาพ

หุ้นไทยปิดบวกแกว่งแคบ-นลท.จับตาม็อบ

ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดบวก 2.19 จุด แกว่งแคบรอดูสถานการณ์ทั้งใน-ตปท.ก่อน/สัปดาห์หน้าผันผวน

วันนี้ (23 พ.ย. 55)ตลาดหุ้นไทยปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,281.70 จุด เพิ่มขึ้น 2.19 จุด(+0.17%)มูลค่าการซื้อขาย 19,705.33 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบ รอดูสถานการณ์ต่าง ๆ ก่อนทั้งจากใน-ต่างประเทศ อย่างการชุมนุมการเมือง 24 พ.ย.นี้ และรอดูการพิจารณาช่วยเหลือกรีซ รวมถึงสหรัฐฯก็น่าจะเริ่มคุยกันเรื่อง Fiscal Cliff ส่วนตลาดภูมิภาควันนี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก โดยเฉพาะตลาดไต้หวันที่บวกแรง สัปดาห์หน้าตลาดฯคงผันผวน-อิงขาลง พร้อมให้แนวรับ 1,260 แนวต้าน 1,285 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,281.70 จุด เพิ่มขึ้น 2.19 จุด(+0.17%)มูลค่าการซื้อขาย 19,705.33 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,282.23 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,272.98 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 233 หลักทรัพย์ ลดลง 279 หลักทรัพย์
และไม่เปลี่ยนแปลง 187 หลักทรัพย์
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบ เนื่องจากต่างต้องการรอดูสถานการณ์ต่าง ๆ ก่อน ทั้งเรื่องการชุมนุมทางการเมืองในวันที่ 24 พ.ย.นี้ และในสัปดาห์หน้าก็รอดูการพิจารณาการให้ความช่วยเหลือกรีซ ด้านสหรัฐฯก็คงจะเริ่มมีการคุยกันถึง Fiscal Cliff

ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก อย่างตลาดฯที่ปรับตัวขึ้นได้ดี อาทิ ตลาดจีน และฮ่องกง โดยเฉพาะตลาดไต้หวันที่บวกแรง ซึ่งก็ยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร

แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายเทิดศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะผันผวน และอิงไปในทางขาลงมากกว่า พร้อมให้แนวรับ 1,260 จุด แนวต้าน 1,285 จุด พร้อมแนะนำให้ถือไว้ในพอร์ตแค่ 40% และหากต้องการจะลงทุนควรจะรอให้ดัชนีฯปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 1,260 จุด แล้วค่อยกลับมาซื้อรอบใหม่

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,270.91 ล้านบาท ปิดที่ 40.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 923.85 ล้านบาท ปิดที่ 198.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 824.73 ล้านบาท ปิดที่ 156.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 760.87 ล้านบาท ปิดที่ 312.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 694.53 ล้านบาท ปิดที่ 17.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 400

โพสต์

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 401

โพสต์

รูปภาพ

ผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้มาลีเผยกลยุทธ์เด็ดครองใจลูกค้ากว่า 20 ปี เร่งศึกษาผู้บริโภคอาเซียนและพัฒนาผลิตภัณฑ์เตรียมเปิดตลาด AEC

กรุงเทพฯ--23 พ.ย.--สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้มาลีเปิดกลยุทธ์ที่ครองใจผู้บริโภคยาวนานกว่า 20 ปี เน้นเรื่องพัฒนาคุณภาพและให้ความสำคัญกับการวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภค เผยแนวโน้มความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นทุกปี พร้อมขยายตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ทุกประเทศในเอเชีย เร่งศึกษาลูกค้าในอาเซียนเตรียมบุก AEC

นางสาวรุ่งฉัตร บุญรัตน์ ผู้อำนวยการใหญ่สายธุรกิจ ตราผลิตภัณฑ์ บริษัท มาลี เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด เปิดเผยถึงการดำเนินธุรกิจน้ำผลไม้ ว่า ปัจจุบันตลาดมีการแข่งขันสูงเนื่องจากเป็นสินค้าที่มีการบริโภคในชีวิตประจำวัน และผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองและต้องการความสะดวกสบาย น้ำผลไม้สำเร็จรูปจึงเป็นทางเลือกของผู้บริโภคกลุ่มดังกล่าว อย่างไรก็ตามตลอดระยะเวลา20 ปีที่ผ่านมาธุรกิจน้ำผลไม้มาลีให้ความสำคัญกับการรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์เพื่อให้ถูกใจผู้บริโภค รวมทั้งได้มีการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้มีความทันสมัยเพื่อขยายตลาดไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ เพราะก่อนหน้านี้ลูกค้าเป็นกลุ่มผู้ใหญ่ ซึ่งบริษัทก็ยังคงมีนโยบายในการรักษาฐานลูกค้ากลุ่มนี้ไว้อย่างเหนียวแน่น นอกจากนี้การปรับเปลี่ยนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ความสำคัญกับการทำวิจัย เพื่อให้สินค้าออกมาตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ทำให้ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น น้ำผลไม้ 100 เปอร์เซนต์ น้ำผักผลไม้ น้ำนมข้าวโพด ผลไม้กระป๋อง ผลไม้แห้ง และนมยี่ห้อฟาร์มโชคชัย โดยที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี

ทั้งนี้ ได้ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบที่นำมาทำน้ำผลไม้ หากเป็นวัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศ จะสั่งซื้อน้ำผลไม้ที่มีชื่อเสียงของประเทศนั้น ๆ ส่วนน้ำผลไม้ในประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นน้ำฝรั่ง น้ำสัปประรด น้ำมะเขือเทศฯลฯ บริษัทมีแหล่งซื้อตรงสำหรับผลไม้ประเภทต่าง ๆ และให้ความสำคัญกับการให้ความรู้กับเกษตรกรในการคัดเลือกสายพันธุ์ การเพาะปลูก การดูแลบำรุงรักษา และขั้นตอนต่างๆ เพื่อให้ได้ผลไม้ที่มีคุณภาพดี รวมถึงการให้ความรู้เกษตรกรเรื่องการบริหารจัดการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรายรับ รายจ่าย การรู้ถึงต้นทุนและกำไรเพื่อให้เกษตรกรสามารถอยู่ได้อย่างยั้งยืน

“สำหรับเกษตรกรที่ผลิตวัตถุดิบให้กับบริษัทมาลี เราเรียกว่า “ครอบครัวมาลี” โดยมีทุนการศึกษาให้กับบุตรหลาน รวมทั้งการดูแลด้านอื่น ๆ เพื่อเป็นโครงการส่งเสริมเกษตรกรอย่างยั่งยืน โดยปัจจุบันมีเกษตรกรกว่า 5,000 ครอบครัวที่ร่วมอยู่ในโครงการนี้ ความใส่ใจของผลิตภัณฑ์มาลีนั้นไม่ใช่เฉพาะเรื่องการคัดเลือกสายพันธุ์ผลไม้ต่าง ๆ แต่ยังเน้นเรื่องการผลิต การบรรจุภัณฑ์ รสชาติ รวมทั้งเรื่องคุณค่าในการบริโภค ซึ่งเราต้องการสื่อไปยังผู้บริโภคว่า “มาลีเป็นน้ำผลไม้ที่ห่วงใยคุณที่สุด” เพราะผลไม้ที่ดูแลคุณได้ ก็ต้องถูกดูแลมาอย่างดี เราขับเคลื่อนความห่วงใยไปสู่ผู้บริโภค เนื่องจากมาลีมีจุดยืนในเรื่องการผลิตสินค้าเพื่อสุขภาพด้วยความห่วงใย”และ ใส่ใจทุกขั้นตอนโดยครอบครัวมาลี นางสาวรุ่งฉัตรกล่าวและเปิดเผยเพิ่มเติม ถึงการขยายตลาดในต่างประเทศว่า ปัจจุบันมาลีได้ขยายไปยังประเทศแถบเอเชียครบเกือบหมดทุกประเทศแล้ว เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ไทยที่มีคุณภาพจึงได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค

อย่างไรก็ตาม การขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เป็นโอกาสที่ดีเนื่องจากทำให้กลุ่มผู้บริโภคขยายใหญ่ขึ้น ทั้งนี้มาลีได้ให้ความสำคัญกับการทำวิจัยผู้บริโภคของแต่ละประเทศ เพราะวัฒนธรรมการบริโภคแตกต่างกัน ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายในแต่ละประเทศจึงต้องมีความแตกต่างเช่นกัน ทั้งในเรื่องของรสชาติและบรรจุภัณฑ์ สำหรับการเปิดประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในเร็วๆ นี้บริษัทได้เข้าไปศึกษาตลาดของแต่ละประเทศมากขึ้น โดยให้ความสำคัญกับการศึกษาเรื่องพฤติกรรมของผู้บริโภคในประเทศนั้น ๆ รวมทั้งเรื่องกลยุทธ์ทางการตลาด การสื่อสาร รวมทั้งคู่แข่งฯลฯ เพื่อเราสามารถเข้าถึงตลาดแต่ละประเทศได้ถูกทาง เช่นเดียวกับที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้มาลีประสบความสำเร็จในการทำตลาดต่างประเทศเป็นอย่างดี และมีแนวโน้มความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้นทุกปี

นางสาวรุ่งฉัตร กล่าวถึงการบริหารธุรกิจว่า จำเป็นต้องเรียนรู้งานหลายอย่าง จึงมาเรียนทางด้านการบริหารที่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจฯ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Sasin) ซึ่งทำให้ได้ความรู้เกี่ยวกับการบริหาร การตลาด บัญชี และไฟแนนซ์ เนื่องจากอาจารย์ผู้สอนได้นำประสบการณ์และความรู้ที่ทันสมัยมาสอน นอกจากนี้ยังได้ประสบการณ์จากการทำงานเป็นทีมในห้องเรียน สามารถนำไปใช้กับการทำงานได้จริง ทั้งยังได้เรียนรู้ว่าการเข้ามาทำธุรกิจของครอบครัวจะต้องเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น เข้าใจว่าเราควรปฏิบัติกับผู้อื่นอย่างไร ทั้งเรื่องการให้เกียรติและเปิดใจให้กว้าง ที่สำคัญต้องเรียนรู้จากผู้อื่นทั้งจากระดับบริหาร และระดับพนักงานที่เปี่ยมประสบการณ์ เนื่องจากการบริหารทีมเป็นเรื่องสำคัญและจะทำให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

อนึ่ง ข่าวประชาสัมพันธ์นี้เป็นการสัมภาษณ์ผู้ที่จบการศึกษาจากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มีบทบาทสำคัญต่อการบริหารและพัฒนาองค์กรชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งเป็นกิจกรรมส่วนหนึ่งของฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันบัณฑิตฯ ศศินทร์ กับศิษย์เก่าที่จบการศึกษาจากสาขาวิชาต่าง ๆ และประสบความสำเร็จในการทำงาน เพื่อเผยแพร่เกียรติคุณต่อสาธารณชนให้เป็นแบบอย่างที่ดีสืบต่อไป

สื่อมวลชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์

คุณศิริลักษณ์ สุจริตตานนท์ (แอน) คุณแพรวทิพย์ ด่านวราวิจิตร

Asst. Chief of Public Relations PR& Marketing Coordinator

โทร 02-218- 3853-4 โทร. 02-218-4001-9 ต่อ 188

E-mail: [email protected] E-mail:[email protected]



ข่าวประชาสัมพันธ์ธุรกิจ สินค้าอุปโภคและบริโภค วันศุกร์ที่ ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 402

โพสต์

TOPNEWS:ข่าวเด่นในประเทศวันนี้

กรุงเทพฯ--23 พ.ย.--รอยเตอร์


ข่าวตลาดเงิน-ตลาดทุน


*ตลาดอนุพันธ์ สรุปการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์ส SET50 วันนี้(9577)

*"อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์"กำหนดช่วงราคา IPO ที่ 4.2-4.9 บาท/หุ้น,ขาย 28-30 พ.ย.

(9575)

*ฟิวเจอร์ส SET50 ปิดวันนี้บวกเล็กน้อย, นักลงทุนกังวลปัจจัยการเมือง(9574)

*ตลท.เผยวันนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 409.89 ล้านบาท(9573)

*หุ้นไทยปิดบวก 0.17% แม้ขายหุ้นแบงก์ถ่วง,รอดูสถานการณ์การเมืองสุดสัปดาห์(900)

*SAT คาดยอดขายปี 56 โต 15%,งบลงทุน 700 ลบ.ปรับปรุงโรงงาน-เครื่องจักร

(9571)

*SYMC ตั้งเป้ากำไรสุทธิปี 55-57 โตเฉลี่ยปีละ 10%,รายได้โต 15-20%(9567)

*ระยองเพียวฯ ยังมองลงทุนด้านพลังงานต่อ,ซื้อหุ้น SAMCO โอกาสขยายธุรกิจ(9563)

*ทีอาร์ซีฯ คาดรายได้ปี 56 โตราว 10%, รักษาอัตรากำไรสุทธิใกล้เคียงปีนี้(9547)

*ทริสจัดเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันของ"อินโดรามาฯ ที่ "A+"แนวโน้ม"คงที่"(9535)

*TMILL ราคาวันแรกพุ่งแรงเกินราคาเป้าหมาย โบรกฯ คาดการบริโภคแป้งสาลียังโต

(9534)

*กองทุนอสังหาฯ เทสโก้ โลตัสฯ กำหนดราคาหน่วยลงทุนเพิ่มทุนที่ 13.30 บาท(9533)

*CPALL ปรับลง โบรกฯมองรายการบิ๊กล็อตราคาต่ำกว่าตลาดวานนี้กระทบจิตวิทยา(9532)

*RPC พุ่งแรง 5% หลังเข้าซื้อหุ้น 22% ใน SAMCO และจะซื้อหุ้นเพิ่มทุนอีก(9530)

*หุ้นที เอส ฟลาวมิลล์ เปิดตลาดที่ 6 บาท เพิ่มขึ้น 93.5% จากราคา IPO(9528)

*โทรีเซนไทยฯ เผยเมอร์เมดฯ ได้งาน 3 สัญญา มูลค่ารวมประมาณ 2 หมื่นลบ.(9524)

*ผู้บริหาร ธ.กรุงไทย เผยไม่กังวลภาระหนี้ SSI, ยังตั้งสำรองปกติ(9523)


ข่าวตลาดเงิน-เศรษฐกิจ


*บาท/ดอลลาร์ท้ายภาคบ่ายทรงตัว, ธุรกรรมเบาบางก่อนการชุมนุมพรุ่งนี้(901)

*ทุนสำรองฯ 16 พ.ย.ที่ $180.6 พันล้าน, ฟอร์เวิร์ด $25.0 พันล้าน(9561)

*ส.อ.ท.เผย ยอดขายรถยนต์ ต.ค.เพิ่มขึ้น 233.16%, ยอดผลิตโต 410%(9546)

*"กิตติรัตน์"ระบุ รัฐจะเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนปี 56 เร็วขึ้น ช่วยกระตุ้นศก.(9545)

*ส.อ.ท.เผย ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรม ต.ค.ที่ 93.0 จาก 94.1 ในก.ย.

(9539)

*ทองแท่งในปท.ลงเล็กน้อย แต่มองทิศทางราคาทองโลกยังเป็นบวก(9531)

*ผลประมูลพันธบัตร ธปท. 14 วัน ในวันนี้(9526)


ข่าวทั่วไป


*ศอ.รส.คาดมีผู้ชุมนุม 5 หมื่นคน,ปิดถนนรอบลานพระรูปฯ-ตั้งด่านตรวจเข้ม 13 จุด

(9576)

*โฆษกองค์การพิทักษ์สยาม มั่นใจพรุ่งนี้มีปชช.ร่วมนับแสนคน, ชุมนุมไม่ยืดเยื้อ(9551)

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 403

โพสต์

SYMCคาดปี55-57 รายได้เฉลี่ยโต15-20% ตามอุตฯ
/ ส่วนกำไรโตเฉลี่ย10%ตั้งงบลงทุนปี 56 ไว้ที่ 600 ลบ.ขยายโครงข่าย


นายพงษ์เทพ ธนกิจสุนทร รองกรรมการ ผู้จัดการสายงานการตลาด และสารสนเทศ บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) SYMC กล่าวว่า บริษัทฯ คาดปี 2555-2557 รายได้เฉลี่ยโต 15-20% โดยเป็นไปตามตามอุตสาหกรรมที่เติบโต โดยคาดว่าปีหน้าจะมีแนวโน้มการใช้บริการเครือข่ายเพิ่มขึ้น ส่วนกำไร 3ปีข้างหน้าคาดเติบโตเฉลี่ย 10% โดยสาเหตุที่กำไรโตน้อยกว่า เนื่องจากอยู่ในช่วงการลงทุนร่วมกับบริษัท เคเบิลไทย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)(CTH) ทำให้ในช่วงแรกมีต้นทุนค่าเสื่อมที่ค่อนข้างสูง
อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ประมาณ ม.ค. 2556โดยสัญญาดังกล่าวจะมีมูลค่า 142 ล้านบาท
อนึ่งบริษัทฯ ได้เซ็นรับงานกับบริษัท เคเบิลไทย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)(CTH) โดยเป็นการให้บริการโครงข่ายสื่อสารความเร็วสูงเพื่อเชื่อมต่อความต้องการทางธุรกิจและช่วยให้ CTH ได้ขยายสัญญาณโทรทัศน์เคเบิลทีวีไปครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ
"ในอนาคตถ้าหากผู้ประกอบารได้รับใบอนุญาต3G มองว่า เป็นโอกาสของบริษัทฯ จะช่วยให้รายได้เติบโตแบบก้าวกระโดด" นายพงษ์เทพ กล่าว
นายพงษ์เทพ กล่าวต่อว่า บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนในปี 2556 ไว้ที่ 600 ล้านบาท เพื่อขยายโครงข่าย เชื่อมสายไปยังกลุ่มลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งนี้ ในปีนี้บริษัทขยายโครงข่ายไปยังนิคมอุตสาหกรรมแล้ว 9 แห่ง โดยปัจจุบันได้ให้บริการแล้ว 24 แห่ง


ที่มา: หุ้นอินไซต์
รูปภาพ
วันที่ : 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 404

โพสต์

23/11/55 ตอน ยายลุยม็อบ
สรุปภาวะตลาดเย็นแบบฮาๆ ประจำวันที่ 23/11/55

รูปภาพ

http://www.ibizchannel.com/view.aspx?cid=375
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 405

โพสต์

รูปภาพ

จีนเตรียมสร้างตึกสูงที่สุดในโลกให้แล้วเสร็จใน 90 วัน

ตึก "Sky City" ที่กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมการก่อสร้างในมณฑลหูหนาน ประเทศจีน และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคมปีหน้า คือตึกที่จะขึ้นแท่นตึกที่สูงที่สุดในโลก แทนที่ตึกเบิร์จ คาลิฟาในนครดูไบ ด้วยความสูงกว่า 220 ชั้น โดยบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างอ้างว่า สามารถสร้างตึกนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน

ทางการท้องถิ่นนครฉางชา เมืองเอกของมณฑลหูหนาน ประเทศจีน เตรียมการที่จะก่อสร้างตึกที่มีชื่อว่า "Sky City" ซึ่งเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนมีนาคมปีหน้า ตึกแห่งนี้จะกลายเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูงกว่า 838 เมตร หรือ 220 ชั้น ทำลายสถิติเดิมของตึกเบิร์จ คาลิฟา แห่งนครดูไบ สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่มีความสูงเพียง 828 เมตรเท่านั้น

โครงการก่อสร้างดังกล่าว จะดำเนินการโดยบริษัท Broad Sustainable Building หรือ BSB ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างตึกสูงของจีน ที่ขึ้นชื่อเรื่องความรวดเร็วในการก่อสร้าง ในงบประมาณอันจำกัด ซึ่งแม้ว่าบริษัทดังกล่าว จะไม่เคยก่อสร้างตึกที่สูงกว่า 30 ชั้น แต่ทางผู้บริหารก็แสดงความเชื่อมั่นว่า บริษัท BSB จะสามารถดำเนินการก่อสร้างตึกนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับประกาศชัดเจนว่า ทางบริษัทสามารถเนรมิตตึก 5 ชั้นได้ภายในระยะเวลาเพียง 1 วัน ดังนั้น การก่อสร้างตึกสูง 220 ชั้น อาจจะใช้เวลาทั้งหมดเพียง 90 วันเท่านั้น

สำหรับงานด้านการออกแบบนั้น BSB ได้ว่าจ้าง เอเดรียน สมิธ ชาวอเมริกันผู้เคยรับหน้าที่ออกแบบตึกเบิร์จ คาลิฟา ตึงที่สูงที่สุดในโลกในปัจจุบันมารับหน้าที่ดังกล่าว โดยเขาให้สัมภาษณ์ว่า ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ชาวจีนหันมาอาศัยอยู่บนตึกสูงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนในเมืองใหญ่ ที่ต้องเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัย ขณะเดียวกัน เขาก็มีความเชื่อมั่นว่า บริษัท BSB จะสามารถปฏิวัติวงการก่อสร้างของจีนได้ เพราะบริษัทนี้ เคยประสบความสำเร็จในการก่อสร้างตึก 30 ชั้น โดยใช้เวลาเพียงแค่ 15 วันเท่านั้น

การก่อสร้างตึก "Sky City" นั้นคาดว่าจะเริ่มต้นได้ภายในสิ้นเดือนนี้ เพราะต้องรอการอนุมัติจากรัฐบาลท้องถิ่นของมณฑลหูหนานก่อน ซึ่งหากว่าการอนุมัติเป็นไปอย่างเรียบร้อย ทางบริษัท BSB ก็จะเดินหน้าการก่อสร้างโดยทันที โดยงบประมาณสำหรับการก่อสร้างนั้น เบื้องต้นคาดว่าน่าจะอยู่ที่ 4,000 ล้านหยวน หรือประมาณ 19,700 ล้านบาท ซึ่งพื้นที่ราวร้อยละ 83 ของตัวตึก จะถูกใช้เป็นที่พักอาศัยของประชาชนกว่า 31,400 คน ส่วนพื้นที่ที่เหลือ จะถูกแบ่งเป็นสำนักงาน โรงพยาบาล โรงเรียน ร้านค้า และร้านอาหาร พร้อมกับมีลิฟท์ความเร็วสูงกว่า 104 จุดไว้คอยให้บริการ

นอกจากนี้ บริษัท BSB ยังยืนยันว่า ตึก "Sky City" จะใช้พลังงานเพียงแค่ 1 ใน 5 ของปริมาณการใช้พลังงานทั้งหมดที่ตึกทั่วไปใช้ อีกทั้งยังมีฉนวนกันความร้อน ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อช่วยลดความร้อนสะสมภายในตึกอีกด้วย

by Sutthiporn

คลิป
http://news.voicetv.co.th/global/56753.html
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 406

โพสต์

จีนทุ่มกว่า 4 หมื่นล้าน สร้างตึกสูงที่สุดในโลก

รูปภาพ

บริษัทจากจีนเผยแผนสร้างอาคารสูงที่สุดในโลก ภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน โดยการประกอบชิ้นส่วนต่างๆเข้าด้วยกันโดยใช้วัสดุที่มีการขึ้นโครงล่วงหน้า

บริษัทบรอด ซัสเทเนเบิล บิลดิ้ง คอร์ป จากจีน เคยประสบความสำเร็จในการสาธิตการประกอบชิ้นส่วนเพื่อขึ้นเป็นอาคารได้สำเร็จ

เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอาคารขนาด 30 ชั้น ที่เมืองฉางชา มณฑลหูหนาน โดยใช้เวลาเพียง 15 วัน และมีแผนที่จะสร้างอาคารขนาด 220 ชั้น ให้เสร็จสิ้นภายใน 7 เดือน

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวซึ่งใช้ชื่อว่า "สกาย ซิตี้" ที่เมืองฉางชา หากประสบความสำเร็จ มันจะกลายเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก โดยมีความสูง 838 เมตร เหนืออาคารเบิร์จ คาลิฟา ที่นครดูไบ ที่ครองสถิติสูงที่สุดในโลกที่ 828 เมตร ที่หมายความว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างเฉลี่ย 5 ชั้นต่อวัน และคาดว่าจะเสร็จเร็วกว่าถึง 24 เท่า โดยมีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างเพียง 628 ล้านดอลลาร์

รูปภาพ

อาคารได้รับการออกแบบภายในโครงการจะประกอบด้วยโรงพยาบาล โรงเรียน จุดจอดเฮลิคอปเตอร์ 17 จุด อพาร์ทเมนท์สำหรับผู้อยู่อาศัย 30,000 คน และลิฟท์โดยสารความเร็วสูง 104 ตัว คาดว่าจะเริ่มวางโครงสร้างส่วนฐานรากได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้

นายจาง หยู ประธานและผู้ก่อตั้งบริษัทเผยว่า เขาได้รับแรงบันดาลใจการก่อสร้างครั้งนี้จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่มณฑลเสฉวน เมื่อปี 2008 ที่คร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 68,000 คน เพื่อออกแบบอาคารที่สามารถรองรับแผ่นดินไหวได้ดี

รูปภาพ

รูปภาพ

วิธีก่อสร้างแบบเดิมทำให้เสียทั้งเวลาและเครื่องไม้เครื่องมือ ขณะที่อาคารแบบใหม่นี้ ได้รับการออกแบบให้มีโครงสร้างที่สามารถรองรับน้ำหนักได้ดีขึ้น โดยใช้คอนกรีตและเหล็กเส้นน้อยลง

เพื่อลดน้ำหนักของคานรับน้ำหนักและเพิ่มความยืดหยุ่นขณะเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งคาดว่าจะรองรับได้ถึงขนาด 9.0 ริกเตอร์ ส่วนระบบเครื่องปรับอากาศนั้น คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 37,000 ล้านบาท)

รูปภาพ
23 พ.ย. 55
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 407

โพสต์

CTH เปิด 5 ช่องรายการใหม่

บริษัทเคเบิลไทยโฮลดิ้ง หรือ ซีทีเอช เจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้า เตรียมเปิดช่องรายการใหม่ 5 ช่องรายการ ร่วมกับบริษัทผู้ผลิตรายการ 5 บริษัท หวังดึงดูดผู้บริโภคให้เพิ่มสูงขึ้นจากเนื้อหาสาระที่มีความหลากหลายและเข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย

นายกฤษณัน งามผาติพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเคเบิลไทยโฮลดิ้ง หรือ ซีทีเอช เปิดเผยว่า ซีทีเอชได้ร่วมกับบริษัทผู้ผลิตรายการ 5 บริษัท ประกอบด้วย

- บริษัททีวีบูรพา

- บริษัทสยามเฮาส์โปรดักชั่น

- บริษัทดี.ดอคคิวเมนทารี่

- บริษัทพาโนรามาเวิลด์ไวด์

- บริษัทสินเจริญรับแขก


เตรียมผลิตรายการเปิดตัวช่องรายการใหม่ 5 ช่องรายการ เพื่อนำเสนอรายการที่มีเนื้อหาสาระที่แปลกใหม่และมีคุณภาพ ภายใต้แนวคิด Family Entertainment ที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคคนไทยได้ทุกเพศทุกวัย พร้อมกันนี้อีก 2 สัปดาห์จะมีการเปิดตัวผู้ผลิตรายการรายใหญ่จากต่างประเทศที่จะมาร่วมผลิตรายการให้มีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้น ขณะที่การเปิดให้ประชาชนทั่วไปลงทะเบียนแสดงความจำนงรับกล่องสัญญาณเพื่อรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษฤดูกาลหน้า มีผู้ลงทะเบียนแล้วประมาณ 3 ล้านราย

นายคงกะพัน แสงสุริยะ กรรมการผู้จัดการบริษัท ดี.ดอคคิวเมนทารี่ กล่าวว่า ในส่วนของช่องรายการบางอ้อแชนแนลจะนำเสนอภายใต้แนวคิดช่องอารมณ์ดีมีสาระ ถ่ายทอดเรื่องราวสารคดีที่น่าเชื่อถือด้วยรูปแบบการนำเสนอที่แปลกใหม่ เข้าใจง่าย ทั้งนี้มองว่าเคเบิลทีวีเป็นอีก 1 ช่องทางที่มีจุดเด่นคือเรื่องของเวลา ที่ไม่มีข้อจำกัดเหมือนกับฟรีทีวี ทำให้เป็นโอกาสสำหรับผู้ผลิตรายการที่ต้องการจะผลิตรายการใหม่ๆ ที่มีคุณภาพออกมาให้ได้รับชม

นายคงกะพันกล่าวอีกว่า อีก 1 ปัจจัยที่เลือกผลิตรายการผ่านทางช่องเคเบิลทีวี เนื่องจากแนวโน้มของผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะซีทีเอชเองที่มีฐานสมาชิกมากกว่า 3 ล้านรายทั่วประเทศ ประกอบกับการได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกจะมีส่วนทำให้เกิดการขยายฐานสมาชิก ซึ่งเท่ากับเป็นการส่งผ่านคอนเทนท์ได้เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน

by Assanai

23 พฤศจิกายน 2555
ชมคลิป http://news.voicetv.co.th/business/56836.html
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 408

โพสต์

รูปภาพ

ทาง Rovio ผู้พัฒนาเกม Angry Birds ประกาศในงาน Slush conference
ที่จัดขึ้นที่เมือง Helsinki ว่าน้ำอัดลมตรานกพิโรธจะขายดีกว่าโค้กและเป็ปซี่ซะอีก


รูปภาพ

นี่คือเครื่องดื่มบรรจุกระป๋องในประเทศฟินแลนด์ที่นำ Angry Birds มาทำเป็นตราเครื่องดื่ม
แถมยังได้รับความนิยมจนยอดขายแซงหน้าโค้กและเป็ปซี่ในฟินแลนด์ไปซะแล้ว ซึ่งอันนี้ไม่รู้
เป็นเพราะว่าความคลั่งไคล้ในตัวเกม ,ความแปลกใหม่หรือรสชาติที่ถูกใจคนดื่มกันแน่

น้ำอัดลม Angry Birds รสจะเป็นผลไม้ มีน้ำตาลน้อยจึงทำให้ใกล้เคียงกับรสชาติผลไม้จริงๆ
โดยมีให้เลือก 4 รสคือ
Tropic(ผลไม้รวมโดยมีรสชาติเด่นคือแอปเปิ้ล),
Paradise (ส้มแมนดาริน+สับปะรด),
Lagoon(แอปเปิ้ล+ลูกแพร์)
Comet (โคล่า+ส้ม)

สนนราคาขายอยู่ที่กระป๋องละ 2.79 ยูโรหรือประมาณ 111 บาท
ในอนาคตอันใกล้นี้ทางผู้ผลิตเตรียมจะนำไปขายในประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ด้วย


รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 409

โพสต์

รูปภาพ

รูปภาพ

HotNews:29 พ.ย.นี้ Motor Expo 2012 หึ่ม
กูรูแนะซื้อหุ้นยานยนต์ก่อนงานเริ่ม


งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 “Motor Expo 2012” ดีเดย์ 29 พ.ย.-10 ธ.ค.นี้ กระหึ่มแล้ว กูรู หยิบสถิติก่อนงาน Motor Expo เริ่ม 1 สัปดาห์ ราคาหุ้นกลุ่มยานยนต์พุ่งเฉลี่ยราว 1.1% ดาวเด่น SAT มี Upside สูงสุดในกลุ่มถึง 52% STANLY มี Upside 28% ฟากบิ๊ก SAT กางแผนปีมะเส็งคาดยอดขายโต 15% รักษาระดับ Net Margin ไว้ที่ 9-10% นายใหญ่ STANLY ทำนายกำไรและรายได้ในงวดไตรมาส 3/2555 (ต.ค. - ธ.ค.55) สวยงามกว่าปีก่อน

บล.เอเซียพลัส ออกบทวิเคราะห์ระบุว่าเกาะกระแส Motor Expo หนุนหุ้นชิ้นส่วนรถยนต์ แนะสะสมหุ้น STANLY, SAT โดยงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 “Motor Expo 2012” จะจัดขึ้นในวันที่ 29 พ.ย. - 10 ธ.ค. นี้ ช่วยจุดกระแสความต้องการซื้อรถยนต์ป้ายแดง เพื่อรับสิทธิ์ลดหย่อนจากนโยบายรถคันแรกของภาครัฐที่จะหมดลง ณ สิ้นเดือน ธ.ค.2555 เท่านั้น หนุนให้เกิด Sentiment เชิงบวกระยะสั้นต่อหุ้นกลุ่มยานยนต์ก่อนงานมหกรรมจะเริ่มต้นขึ้น จากการศึกษาของนักวิเคราะห์เชิงปริมาณของฝ่ายวิจัย พบว่าช่วง 10 ปีหลังสุด (ไม่นับรวมปี 2551 ซึ่งเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐฯ) ราคาหุ้นกลุ่มยานยนต์ (SETAUTO) มักจะตอบรับเชิงบวกก่อนวันเปิดงาน Motor Expo โดยมักปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยราว 1.1% ก่อนเริ่มงานราว 1 สัปดาห์ ด้วยความน่าจะเป็นที่จะให้ผลตอบแทนเป็นบวกสูงถึง 80% ฝ่ายวิจัยแนะนำกลยุทธ์ ซื้อเก็งกำไรก่อน Motor Expo จะเริ่มต้นขึ้นราว 1 สัปดาห์และขายในวันเริ่มงาน 29 พ.ย. นี้ เลือก Top Pick เป็นหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง มี Upside จาก Fair Value เกิน 20% และมีโอกาส Outperform กลุ่มฯ ได้แก่
•SAT (FV@B 40.6) ผลตอบแทนเฉลี่ย 1.9% ความน่าจะเป็นที่จะให้ผลตอบแทนเป็นบวกราว 67%, PER ณ สิ้นปี 2555 อยู่ที่ราว 10.4 เท่า และมี Upside สูงสุดในกลุ่มถึง 52%
•STANLY (FV@B 268) ผลตอบแทนเฉลี่ย 1.3% ความน่าจะเป็นที่จะให้ผลตอบแทนเป็นบวกราว 60%, PER ณ สิ้นปี 2555 อยู่ที่ราว 10.1 เท่า และมี Upside 28%

นายอภิชาต ลี้อิสสระนุกูล รองประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า ( STANLY) เปิดเผยกับ http://www.HoonInside.com ว่า บริษัทฯ คาดแนวโน้มกำไรของบริษัทงวดปี 55(เม.ย55-มี.ค.56) เติบโตตามรายได้ที่บริษัทได้ปรับเป้าการเติบโตเพิ่มเป็นขยายตัวมากกว่า 30% จากเดิมที่ตั้งเป้าโตที่ 30% จากงวดปีก่อน หลังจากที่บริษัทประกาศผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกมีการเติบโตที่ดี นอกจากนี้ยังประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนหลังยังคงมีทิศทางที่ดี โดยมีโอกาสโตกว่าในช่วงครึ่งปีแรก ทั้งนี้เป็นไปในทิศทางเดียวอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีการเติบอย่างแข็งแกร่ง หลังจากที่สภาอุตหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ได้ปรับเป้าการผลิตรถยนต์ในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยล่าสุดเพิ่มเป็น 2.3 ล้านคันจากเริ่มต้นที่ 1.8 ล้านคัน

เขากล่าวต่อว่า บริษัทฯ คาดทั้งแนวโน้มกำไรและรายได้ในงวดไตรมาส3/2555 (ต.ค.-ธ.ค.55) ของบริษัทออกมาดีกว่า ทั้งจากช่วงเดียวกันปีก่อนและไตรมาสก่อน เนื่องจากได้รับแรงส่งจากนโยบายรถยนต์คันแรกของรัฐบาลที่ต่ออายุให้ผู้ที่จองซื้อภายในปีนี้จะยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี อีกทั้งในงวดไตรมาสนี้ยังมีแรงกระตุ้นเพิ่มจากงานมอเตอร์เอ็กโปรที่กำลังจะจัดขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทต้องเดินเครื่องการผลิตของโรงงานถึง 7 วันต่อสัปดาห์ตามโมเดลใหม่ที่มีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้บริษัทฯ ตั้งบลงทุนในงวดปี55 (เม.ย55-มี.ค.56) นี้ไว้ที่ประมาณ 2 พันล้านบาท โดยแหล่งเงินทุนดังกล่าวมาจากเงินสดของบริษัทเพื่อใช้ก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่และเครื่องจักรใหม่ซึ่งโรงงานดังกล่าวได้เริ่มผลิตตั้งแต่ในช่วงเดือนมิ.ย.ที่ผ่าน โดยงบลงทุนที่ตั้งไว้ดังกล่าวนั้นไม่ได้มีการใช้ลงทุนในครั้งเดียวแต่เป็นลักษณะทยอยลงทุนในส่วนของเครื่องจักรที่จะซื้อเพิ่มขึ้นตามยอดคำสั่งซื้อของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น

นายยงเกียรติ์ กิตะพาณิชย์ รองกรรมการผู้อำนวยการบริหาร บริษัท สมบูรณ์ แอ็ดวานซ์ จำกัด (มหาชน) SAT กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายปี 2556 เติบโต 15% จากปีนี้ ที่คาดเติบโต 48% จากปี 2554 ที่ทำได้ 6,577 ล้านบาท เนื่องจากเติบโตตามอุตสาหกรรมยานยนต์ และเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการเติบโตตาม ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือ GDP ของประเทศ ขณะที่ ในปี 2556 บริษัทฯ จะพยายามรักษาระดับ Net Margin ไว้ที่ 9-10% แต่ในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าปีหน้าจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 18-20% จากปีนี้ที่อยู่ในระดับ 17-19% นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคาดว่าปริมาณยอดขายที่เพิ่มขึ้นในปีหน้าจะทำให้กำไรของบริษัทฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีนี้อีกด้วย

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมองว่ายอดขายปีหน้าจะเติบโตมาจากการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ให้สยามคูโบต้า ที่เพิ่มขึ้นอีก 10% ส่งผลให้อัตราการเติบโตของยอดขายรวมของกลุ่มบริษัทฯ ในปี 2556 มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายของบริษัทฯ เติบโตมากกว่าอุตสาหกรรม

อีกทั้งบริษัทฯ คาดอุตสากรรมยานยนต์ ในปีหน้า เติบโตประมาณ 5-10% เป็น 2.7 ล้านคัน จากปีนี้ที่คาดว่ายอดผลิตรวมทั้งปีจะอยู่ที่ 2.4 ล้านคัน

ขณะที่ในปีนี้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตอยู่ที่เฉลี่ยอยู่ที่ 90-93% ซึ่งสูงกว่าปีหน้า ที่คาดจะมีกำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 70-75% และส่วนหนึ่งมาจากจากโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์แห่งใหม่ทยอยเปิดย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้มีกำลังการผลิตรวมที่มากขึ้น

"ยอดขายปีนี้เติบโตสูงขึ้น รับอานิสงส์จากอุตฯ ที่ดี ผนวกกับอานิสงส์จากนโยบายรถคันแรกที่มีประชาชนสนใจจองกว่า 3.5 แสนคัน โดยมียอดส่งมอบปีนี้ได้เพียง 2 แสนคัน ที่เหลือ 1.5 แสนคัน คาดสามารถส่งมอบในปีหน้า ทำให้เราเชื่อว่าในปีหน้าอุตสาหกรรมยังขยายตัวได้ดี" นายยงเกียรติ์ กล่าว

ทั้งนี้บริษัทฯ คาดกำไรในไตรมาส4/2555 ใกล้เคียงกับไตรมาส 3/2555 ที่ทำได้ 258 ล้านบาท แม้บริษัทฯ จะมีออเดอร์เข้ามาค่อนข้างมาก แต่ได้ส่งงานต่อให้กับซัพพลายเออร์เข้ามาช่วยทำ จึงทำให้มาร์จิ้นลดลงและส่งกระทบให้กำไรในไตรมาสดังกล่าวใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน ส่วนรายได้ในไตรมาส4/2555 บริษัทฯ คาดว่าจะเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและเติบโตจากไตรมาสก่อนเช่นกัน เนื่องจากยอดผลิตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นและเป็นช่วงที่ยอดขายปรับตัวสูงสุดของปีนี้

สำหรับความคืบหน้าการลงทุนในประเทศนั้น บริษัทฯ คาดในไตรมาส 1/2555 จะมีความชัดเจนการเข้าร่วมลงทุนผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ กับประเทศอินเดียและประเทศอินโดนีเซีย โดยบริษัทฯ จะใช้งบลงทุนประมาณ 400-500 ล้านบาท ต่อโครงการ

ปิดการซื้อขาย( 23 พ.ย.) ราคาหุ้น SAT อยู่ที่ 27.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ2.80% มูลค่าการซื้อขาย 35.91ล้านบาท และราคาหุ้น STANLY อยู่ที่ 211.00บาท เพิ่มขึ้น 2.00บาท หรือ 0.96% มูลค่าการซื้อขาย8.96ล้านบาท

วันที่ : 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 410

โพสต์

รูปภาพ

'สีฟ้า'ลาออกซบ'แก้ว'-'อากู๋'ยันร่วมงานได้

"อากู๋" ชี้กรณี "สีฟ้า" นักแต่งเพลงชื่อดังลาออกจากแกรมมี่ ซบค่ายบีบี เรคคอร์ด ของ "แก้ว-เบญจา" ขอให้มองเป็นวัฏจักรของวงการเพลง ยันร่วมกันงานได้เหมือนเดิม

กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตซะแล้ว เมื่อนักแต่งเพลงมือฉมังของค่ายยักษ์ใหญ่แกรมมี่ อย่าง "นิ่ม สีฟ้า" หรือ กัลยารัตน์ วารณะวัฒน์ ตัดสินใจลาออกไปอยู่ค่ายบีบี เรคคอร์ด ของ "แก้ว-เบญจา บารมีย์" ล่าสุดได้มีโอกาสพบกับผู้บริหารของฝั่งแกรมมี่ "อากู๋- ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม" ถามไถ่ได้ความดังนี้

"กับเรื่องที่สีฟ้าเขาลาออก อันนี้ทางเราทราบมาก่อนแล้วระยะหนึ่ง พอล่าสุดที่มีข่าวออกมา ผมก็ไม่นึกว่าจะมีใครรู้ซะอีก แต่เมื่อนักข่าวถาม ผมก็ยินดีตอบถึงเรื่องนี้ ก่อนอื่นต้องชี้แจงว่าเราทราบแค่เรื่องที่เขาจะลาออกเท่านั้น เพราะสำหรับสีฟ้าเองเขาทำงานมานานแล้ว เลยอยากให้ทุกคนมองให้เป็นเรื่องการเกษียณอายุการทำงานของตัวเขาเองมากกว่า อีกเรื่องคือการย้ายค่าย ย้ายที่ทำงานนั้น ผมมองว่ามันเป็นวัฏจักรของวงการเพลงนะ สีฟ้าเขาเป็นคนที่มีฝีมือเป็นที่ยอมรับของทุกคนอยู่แล้ว ใครๆ ก็ต้องอยากร่วมงานเป็นเรื่องธรรมดา" ผู้บริหารแกรมมี่กล่าว

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้ถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างนักแต่งเพลงชื่อดังกับค่ายที่ผูกพันกันมาเนิ่นนานว่า ผู้บริหารแกรมมี่มีการเรียกคุยก่อนหรือไม่ อีกทั้งหลายคนสงสัยว่ามูลเหตุการลาออกของนิ่ม สีฟ้าครั้งนี้ มีเงื่อนงำอะไรหรือไม่ อากู๋ตอบคำถามอย่างเปิดใจและยิ้มแย้ม

"เรียนตามตรงว่า ไม่ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องนี้เลย หลังจากการตัดลินใจของสีฟ้า และส่วนที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับการลาออก ผมว่าไม่มีอะไรหรอก กับสีฟ้าเราทำงานด้วยกันจนคุ้นเคยแล้ว จะกลับมาร่วมงานกันอีกเมื่อไหร่ก็ได้ เรายินดีและเปิดใจ ผมเชื่อว่าสีฟ้าเองก็คิดเช่นเดียวกันกับผม เพราะเราเองผูกพันกันเหมือนพี่เหมือนน้องกันอยู่แล้ว" คุณไพบูลย์กล่าวสรุป


รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 411

โพสต์

ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 412

โพสต์

รูปภาพ

สรุปข่าววันที่ 23-24 พ.ย.2555 เวลา18.00 น.-06.30 น.

http://www.thairath.co.th/content/region/308443


รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 413

โพสต์

รูปภาพ

ไทยคมเปิดตัว AFRICOM by Thaicom -ดาวเทียมแอฟริคอม 1

ไทยคม ขยายตลาดสู่แอฟริกา เปิดตัว AFRICOM by Thaicom และดาวเทียมแอฟริคอม-1 จัดแคมเปญทางการตลาดและการขายล่วงหน้า หวังโกยลูกค้าต่างแดน...

เมื่อวันที่ 23 พ.ย. นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเปิดตัวดาวเทียมแอฟริคอม-1 เป็นกลยุทธ์ของบริษัทฯ ในการขยายการให้บริการไปยังภูมิภาคอื่น นอกเหนือจาก เอเชีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยไทยคมได้เล็งเห็นถึงศักยภาพอันแข็งแกร่งในตลาดดาวเทียมของแอฟริกา ประกอบกับประสบการณ์ในการเป็นผู้นำด้านการให้บริการดาวเทียมของไทยคมมากว่า 20 ปี

ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารไทยคม กล่าวว่า แอฟริคอม-1 เป็นดาวเทียมที่ให้บริการในทวีปแอฟริกา ใช้ช่องสัญญาณบนดาวเทียมไทยคม 6 ที่มีกำหนดยิงขึ้นสู่วงโคจรในปี 2556 แอฟริคอม -1 เตรียมพร้อมให้บริการโทรคมนาคมและดาวเทียมในแอฟริกาที่ครบวงจรด้านการให้บริการสื่อสารผ่านดาวเทียมผ่านทางช่องสัญญาณระบบซี-แบนด์ รวมถึงบริการส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมถึงผู้รับชมตามบ้าน (Direct-to-Home TV) ดิจิตอลทีวี และบริการด้านโทรคมนาคมอื่นๆ

นายปราดีพ อุนนิ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานการตลาดและงานขาย บริษัท ไทยคม กล่าวว่า ในการเปิดตัวแอฟริคอม-1 ไทยคม พร้อมให้บริการแก่ผู้ประกอบการโทรคมนาคม และดาวเทียมในแอฟริกา ด้วยศักยภาพการให้บริการที่ครบวงจรในด้านบริการสื่อสารผ่านดาวเทียมผ่านทางช่องสัญญาณระบบซี-แบนด์ โดยเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทฯ ได้จัดแคมเปญทางการตลาดและการขายล่วงหน้า ในงานแสดงสินค้าด้านเทคโนโลยี แอฟริกาคอม 2012 (AfricaCom 2012) ที่เคปทาวน์ ซึ่งได้รับการตอบรับจากตลาดอย่างดียิ่ง

ทั้งนี้ ไทยคม เป็นผู้ประกอบการดาวเทียมรายแรกของโลก ที่เปิดตัวดาวเทียมบรอดแบนด์ และให้บริการโทรทัศน์ดิจิตอลผ่านดาวเทียมด้วยเทคโนโลยี MPEG-2 รวมถึงบริการส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมถึงผู้รับชมตามบ้าน (Direct-to-Home TV) ปัจจุบัน มีจำนวนช่องรายการโทรทัศน์ที่ออกอากาศมากกว่า 450 ช่อง บนดาวเทียมไทยคม ณ ตำแหน่ง 78.5 องศาตะวันออก ซึ่งเป็นตำแหน่งวงโคจรเดียวกับที่แอฟริคอม-1 จะให้บริการในทวีปแอฟริกา

รูปภาพ
โดย ไทยรัฐออนไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 414

โพสต์

รูปภาพ

กบข.ชงบอร์ดปรับสูตรพอร์ตลงทุน เพิ่มช่องปั๊มผลตอบแทนสูง-แก้จุดอ่อนบอนด์ดบ.ต่ำ

นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ภายในสิ้นปีนี้ กบข.เตรียมเสนอคณะกรรมการพิจารณาการปรับแผนจัดสรรการลงทุนระยะยาว (Strategic Asset Alocation หรือ SAA) ใหม่นี้ เพื่อสร้างผลตอบแทนให้สูงขึ้นกว่าเดิม และกำหนดกรอบความเสี่ยงที่รับได้ เนื่องจากปัจจุบัน กบข.มีพอร์ตลงทุนในตราสารหนี้และพันธบัตรสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 60% ของพอร์ตรวม ขณะที่แนวโน้มผลตอบแทนอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งอาจไม่สามารถชนะเงินเฟ้อ และอาจจะเกิดความเสี่ยงขึ้นได้ รวมทั้งไม่สอดคล้องกับเป้าหมายการออมในระยะยาวทำให้สมาชิกมีเงินออมเพียงพอหลังเกษียณ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2556 โดย กบข.คาดหวังว่าผลตอบแทนที่ดีขึ้นจะเป็นปัจจัยหนึ่งให้สมาชิกใส่เงินออมเพิ่ม

"ในแผนเรายังไม่สามารถระบุสัดส่วนการลงทุนได้อย่างชัดเจน เนื่องจากคณะกรรมการอาจเสนอให้มีการปรับเพิ่มเติมในบางส่วน การปรับพอร์ตนี้ เพราะเราต้องบริหารพอร์ตให้สอดคล้องกับความคาดหวังของสมาชิกให้ดี" นางสาวโสภาวดีกล่าว

นางสาวโสภาวดีกล่าวว่า ขณะเดียวกัน จะปรับหลักคิดในการจัดกลุ่มสินทรัพย์การลงทุน โดยเปลี่ยนเป็นจัดกลุ่มลงทุนในหลักทรัพย์ที่ปรับตัวขึ้นตามวงจรเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มหลักทรัพย์เพื่อการเติบโต (growth group) ประกอบด้วยหุ้นทั้งในและต่างประเทศ รวมถึง private equity ที่สร้างกำไรได้ดีช่วงเศรษฐกิจขาขึ้น หรือกลุ่มหลักทรัพย์ช่วยกระจายความเสี่ยง เช่น ตราสารหนี้รัฐบาลในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ และตราสารหนี้เอกชนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลของประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งทั้งหมดนี้จะต่างจากเดิมที่เน้นจัดสัดส่วนให้ได้ตามประเภทหลักทรัพย์ เช่นหุ้นและตราสารหนี้ให้ได้สัดส่วนที่กำหนดเท่านั้น แผนจัดสรรลงทุนฉบับใหม่จะมีความยืดหยุ่นขึ้น โดยสามารถปรับลดสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ และเพิ่มการลงทุนตราสารทุนแทน พร้อมทั้งกระจายการลงทุนไปในต่างประเทศเพิ่มขึ้นได้ด้วย

พอร์ต กบข. ณ เดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ในส่วนที่เป็นเงินของสมาชิกมีมูลค่า 4.2 แสนล้านบาท แบ่งเป็นลงทุนในตราสารหนี้ราว 62% ตราสารหนี้โลกราว 10% หุ้นไทยราว 8% หุ้นโลกราว 8% การลงทุนทางเลือก 12% คอมโมดิตี้ 1%

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 415

โพสต์

รูปภาพ

ทองคำปิดพุ่ง 23.20 ดอลลาร์
ที่ระดับ 1,751.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2012


ตลาดทองคำต่างประเทศปิดวานนี้ (23 พ.ย. )
ราคาทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 23.20 ดอลลาร์

ทำให้ปิดที่ 1,751.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำสามารถยืนเหนือ 1,750 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ได้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 5 สัปดาห์ หลังดอลลาร์อ่อนค่าลง


รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 416

โพสต์

รูปภาพ

ตร.ปิดถนน 9 สาย รอบลานพระบรมรูปทรงม้า


ตำรวจปิดการจราจรรอบลานพระรูปทรงม้า
เพื่อวางกำลัง และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรแก่ผู้ชุมนุม

พลตำรวจตรีปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บังคับการตำรวจจราจร ระบุในวันนี้มีการปิดการจราจรบริเวณรอบลานพระรูปทรงม้า เนื่องจากคาดว่าจะมีกลุ่มผู้ชุมนุม องค์การพิทักษ์สยาม ทยอยเดินทางมาเป็นจำนวนมาก ตำรวจต้องจำเป็นต้องอำนวยความสะดวกด้านการจราจร รวมทั้งว่ากำลังเจ้าหน้าที่เพื่อรักษาความปลอดภัยแก่ผู้ชุมนุม

โดยจะปิดการจราจรบนถนน 9 สาย คือ

1.ถนนราชดำเนินนอก ตั้งแต่สะพานมัฆวาน ถึง แยกสวนมิสกวัน
2.ถนนลูกหลวง ตั้งแต่สะพานวิศุกรรมนฤมาณ ถึง สะพานเทวกรรม
3.ถนนพิษณุโลก ตั้งแต่แยกวังแดง ถึง แยกพาณิชย์
4.ถนนนครปฐม ตั้งแต่สะพานอรทัย ถึง แยกวัดเบญจมบพิต
5.ถนนพระราม 5 ตั้งแต่แยกพาณิชย์ ถึง ถนนลูกหลวง
6.ถนนลิขิต
7.ถนนราชวิถี ตั้งแต่แยกการเรือน ถึง แยกราชวิถี
8.ถนนพิชัย ตั้งแต่แยกขัตติยานี ถึง ถนนราชวิถี
9.ถนนอู่ทองใน ตั้งแต่แยกอู่ทองใน ถึง ลานพระราชวังดุสิต (ด้านหลังพระบรมรูปทรงม้า)

ซึ่งหลังจากนี้จะมีการประเมินสถานการณ์เป็นระยะว่าจะมีการปิดการจราจรเพิ่มในจุดใดบ้าง
เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์

รูปภาพ

เผื่อจำเป็นต้องออกจากบ้าน จะได้หลีกเลี่ยงเส้นทางเหล่านี้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 417

โพสต์

รูปภาพ

ปิดจราจรรับมือม็อบ - แนะ ปชช. เลี่ยง

ปิดจราจรบริเวณโดยรอบลานพระบรมรูปทรงม้า และรัฐสภา
รับการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม แนะประชาชน หลีกเลี่ยงเส้นทาง


กองบังคับการตำรวจจราจร หรือ บก.จร. ปิดการจราจรเส้นทางโดยรอบรัฐสภา
เส้นทางโดยรอบลานพระบรมรูปทรงม้า และเส้นทางโดยรอบทำเนียบรัฐบาล
อาทิ ถนนพิชัย จากแยกขัตติยานี - แยกอู่ทองใน ทั้ง 2 ฝั่ง,
ถนนราชวิถี จากแยกการเรือน - แยกราชวิถี ทั้ง 2 ฝั่ง,
ถนนอู่ทองใน จาก แยกอู่ทองใน - ลานพระบรมรูปทรงม้า ทั้ง 2 ฝั่ง
ถนนราชดำเนินนอก จาก แยกมัฆวานรังสรรค์ - ลานพระบรมรูปทรงม้า ทั้ง 2 ฝั่ง,
ถนนพิษณุโลก จาก แยกพาณิชย์ - แยกวังแดง ทั้ง 2 ฝั่ง,
ถนนลูกหลวง ฝั่งทำเนียบรัฐบาล


เนื่องจากตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา จนถึงช่วงเช้า กลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.)
ได้เดินทางเข้าร่วมการชุมนุมอย่างต่อเนื่อง จึงประชาสัมพันธ์เพื่อประชาชนหลีกเลี่ยง
เส้นทางดังกล่าว สำหรับถนนศรีอยุธยา บริเวณแยกพระบรมรูปทรงม้า
ห้ามเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาไปถนนอู่ทองใน และถนนราชดำเนินนอก ทั้ง 2 ฝั่ง

รูปภาพ

วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ.2555 7:56น.
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 418

โพสต์

เจาะข่าวตื้น 78 : เจาะ GAT PAT กับสุดารัตน์



ขอต้อนรับเข้าสู่เจาะข่าวตื้นประจำวันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2555 และต่อไปนี้
ขอเชิญกับพบกับพิธีกร รูปหล่อ Who's your Daddy ?
พ่อใครหวาถล่มไก่ไปห้าลูกวันก่อน นายจอห์นวิญญู และพ่อหมอ นะฮ้าฟฟว์
เจาะข่าวตื้นวันนี้ขอพาทุกท่านไปลิ้มกับรสชาดของข้อสอบ GAT PAT
อันขมขื่นที่เด็กไทยได้รับในเวลานี้ ไปหาสาเหตุกันว่าทำไมเด็กไทยสอบตก
กันเกือบทั้งประเทศ และพบกับแขกรับเชิญพิเศษ
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ติดตามได้ในเจาะข่าวตื้นเทปนี้เลยนะฮ้าว์ฟฟ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 419

โพสต์

ธนินท์ เจียรวนนท์ ซีพี รับรางวัล CNBC



นายธนินท์ เจียรวนนท์
ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์
ได้รับรางวัล Lifetime Achievement Award จาก CNBC Asia Pacific
ซึ่งเป็นเครือข่ายโทรทัศน์ธุรกิจชั้นนำระดับโลก
ในงาน The 11th Asia Business Leaders Awards (ABLA)
ซึ่งเครือข่ายโทรทัศน์แห่งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 11
โดยในปีนี้ได้จัดพิธีมอบรางวัลขึ้นที่ประเทศไทย ณ โรงแรม สยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

Re: สรุปข่าว ประจำวัน บันเทิง วาไรตี้

โพสต์ที่ 420

โพสต์

รูปภาพ

วันนี้ ตำรวจได้แถลงปิดการจราจรบางเส้นทาง นัยว่าเพื่อรักษาความปลอดภัยพื้นที่สำคัญของทางราชการ และเป็นที่พักของกำลังพลในการรักษาความสงบเรียบร้อย ต่อกรณีการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม บริเวณพระบรมรูปทรงม้า ในวันเสาร์ที่ 24 พฤศจิการยนนี้

ตำรวจที่ดูแลรับผิดชอบการชุมนุมครั้งนี้ ยังคาดการณ์ว่า หากมีประชาชนจำนวนมากไปร่วมชุมนุม อาจมีการขยายพื้นที่การชุมนุม จากลานพระราชวังดุสิตไปตามถนนราชดำเนินนอก ซึ่งอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อสภาพการจราจรในบริเวณถนนราชดำเนิน จุดทางร่วมทางแยก ถนนสายหลัก ในพื้นที่ต่อเนื่องได้

สำหรับท่านที่เตรียมตัวเดินทางไปร่วมชุมนุมกับองค์การพิทักษ์สยาม หรือสัญจรไปมาบริเวณนั้น กรุณาตรวจสอบเส้นทางเดินรถให้ดีเสียก่อนว่าตำรวจปิดถนนเส้นไหน-สายใดบ้าง เพื่อหลบเลี่ยงปัญหาจราจรติดขัด และสามารถถึงเป้าหมายได้ตามกำหนดเวลา จะได้เดินทางไปยังบริเวณลานพระรูปโดยไม่เสียเวลามากนัก

ถนนและเส้นทางที่ตำรวจปิดการจราจร

1. ถนนพิชัย ตั้งแต่แยก แยกขัตติยานี ไปถึงแยกพิชัย
2. ถนนราชวิถี ตั้งแต่แยกราชวิถี ถึงแยกการเรือน
3. ถนนอู่ทองใน ตั้งแต่แยกอู่ทองใน ถึงบริเวณลานพระราชวังดุสิต
4. ถนนพิษณุโลกตั้งแต่แยกวังแดง ถึงแยกพาณิชย์การ
5. ถนนราชดำเนินนอก ตั้งแต่แยกพระรูปถึงสะพานมัฆวาน
หากประชาชนไม่มีความจำเป็น ขอให้หลีกเลี่ยงเส้นทางการจราจรเพื่อผ่านมาบริเวณถนนราชดำเนินนอก และบริเวณโดยรอบ หากมีความจำเป็น จะมีเส้นทางหลีกเลี่ยง ดังนี้ ผู้ที่เดินทางลงด่วนยมราช และเพชรบุรี ขาเข้า ให้หลีกเลี่ยงถนนพิษณุโลก โดยใช้ถนนหลานหลวงเป็นหลัก หรือเลี้ยวขวาเข้าถนนสวรรค์โลก หากตรงเข้าไปที่ถนนพิษณุโลก สามารถเลี้ยวซ้ายเข้าถนนนครสวรรค์ ในช่องรถประจำทาง

6. ผู้ที่เดินทางมาจากสะพานกรุงธนบุรี ให้เลี่ยงถนนราชวิถี โดยเลี้ยวซ้ายเข้าถนนขาว และตรงเข้าถนนสุโขทัย ขวาเข้าถนนสวรคค์โลก
7. ผู้ที่เดินทางมาจากสะพานพระราม8ยังสามารถใช้ถนนราชสีมา และถนน วิสุทธิกษัติรย์ได้ตามปกติ
8. ผู้ที่แต่จะใช้สะพานพระราม8ไปยังฝั่งธนบุรี ควรมาจากถนน จักรพรรดิ์พงษ์ เข้าแยก จปร.
9. ผู้ที่เดินทางมากจากถนนราชวิธีและถนนศรีอยุธยา ให้เลี่ยงโดยเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสวรรค์โลก เพื่อไปถนนหลานหลวง หรือถนนพระรามที่ 6 เพื่อเลี่ยวซ้ายไปถนนสุโขทัย หรือถนนนครชัยศรีได้

สำหรับถนนสามเสน ถนนราชสีมา ถนน พระรามที่ 5 ยังเปิดการจราจรเป็นปกติ แต่อาจมีปัญหาการจราจรเคลือนตัวช้า