เรื่องแรกที่ต้องไล่ออก

[Jeng]

ถ้าใครเคยอ่านคิดแล้วรวย

ในนั้นเป็นปรัชญาแห่งความร่ำรวย ซึ่งนโปเลียน ฮิล เขียนโดยได้รับปรัชญามาจาก แอนดรู คาร์เนกี ซึ่งรวยอันดับหนึ่งของเมกา ในสมัยนั้น

แอนดรู คาร์เนกี ให้หลักในการเลือกพนักงานว่า นิสัยที่ต้องไล่ออกอันดับแรกของพนักงานคือ นิสัยที่ทำให้คนส่วนรวม แตกแยก

ต่อให้คนๆนั้นจะเก่ง และมีประโยชน์กับองค์กรมาก ก็ต้องไล่ออก

อืม คิดถึงทักษิณเลย ต่อให้เก่งเลย แต่ประเทศไทยแตกแยกขนาดนี้ ออกไปเถิด

[CK]

ออกคู่เลยครับ

ทั้งทักษิณ ทั้งสนธิ ทำให้แตกแยกทั้งคู่

[มดง่าม]

พวกเสียผลประโยชน์ พวกขอให้ช่วยเหลือแต่ผิดหวัง พวกขาประจำ พวกจ้องล้มรัฐบาล พวกกุ๊ย พวกจ๊าดง่าว ไม่ใช่หรือครับ  ทำให้แตกแยก

[champ]

[quote="CK"]ออกคู่เลยครับ

ทั้งทักษิณ ทั้งสนธิ ทำให้แตกแยกทั้งคู่[/quote]


เห็นด้วยครับ
ชู 2 มือเลย
เอามาประจันหน้ากันเลยครับ

[ปรัชญา]

8)

[Supra]

 :twisted:

                      นำทั้งคู่ไปภาคใต้สิครับ  เผื่อความสามัคคีจะเกิด...  :twisted:

[ครรชิต ไพศาล]

ไม่ว่าในสมัยผู้นำคนใดในอตีด ก็มีความเตกแยกเป็นก๊กเป็นเหล่า ดำรงอยู่ทั้งนั้น
ยกตัวอย่าง สมัย นายก พลเอกเปรม ที่เรายกย่องท่านว่าเป็นรัฐบุรุษ

ผมยังจำได้ไม่ลืมเลือน
สมัยท่านดำรงตำแหน่ง ท่านถูก ด่าว่าถูกทิ่มแทง ขับไล่
มีการแตกแยกในความคิด ไม่แพ้สมัยนี้ ถึงขนาดยกทัพมาฆ่ากัน
ท่านนายกเปรม ต้องอัญเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เสด็จไปประทับถึง โคราช  เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมือง

ยังดีนะที่เรายังคิดได้ ยกย่องท่านว่าเป็นรัฐบุรุษ ขณะท่านยังมีชีวิตอยู่
ไม่ใช่ปล่อยให้ท่านตายไปร้อยปีพันปี แล้วจึงจะเห็นคุณค่าของท่าน

ในทางการเมือง

คนที่จะมาเป็นผู้นำได้ต้องเป็นคนที่สามารถ
รวบรวมเสียงข้างมากของประชาชนทั้งประเทศ
ให้มาสนับสนุนนโยบายที่จะนำพาประเทศของเรา สู้กับต่างประเทศได้


ถ้าเรามีผู้นำที่ไม่มีความสามารถไม่มีปัญญา
ที่จะรวมรวมเสียงข้างมากของประชาชนทั้งประเทศไว้ได้
บ้านเมืองก็จะยิ่งแตกแยกเป็นก๊กเป็นเหล่ายิ่งกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้
ซึ่งจะทำให้การเมืองก็จะ ยิ่งอ่อนแอกว่านี้ แตกแยกยิ่งกว่านี้
จนไม่มีปัญญา ที่จะสนับสนุนนโยบายที่จะนำพาประเทศของเรา สู้กับต่างประเทศได้

ไม่มีใครไม่มีที่ปกพร่อง เพียงแต่มองสิ่งดีเขามีบ้าง

แล้วลองชั่งน้ำหนักดู ว่าฝ่ายไหน
ที่จะทำประโยชน์ให้ชาติของเรามากกว่า

[คนเรือ VI]

ไม่มีใครไม่มีที่ปกพร่อง เพียงแต่มองสิ่งดีเขามีบ้าง

แล้วลองชั่งน้ำหนักดู ว่าฝ่ายไหน
ที่จะทำประโยชน์ให้ชาติของเรามากกว่า

ขอคารวะคุณอาครรชิตด้วยความจริงใจครับ

[ต.หยวนเปียว]

เห็นด้วยกับพี่ครรชิตครับ  :D  
จำได้เลาๆว่าตอนปลายๆ
ท่านรัฐบุรุษ ก็โดนสื่อเล่นจนไม่ยอมให้สัมภาษณ์
โดนล้อว่าเป็นพระเตมีย์ใบ้  :lol:

[โป้ง]

เห็นด้วยกับพี่ครรชิตครับ

ยิ่งแยกเป็น ก็ก เป็นเหล่ามาก ยิ่งเสียหายมาก

..........................................................................................

ถ้านายกแก้ไขข้อบกพร่องเรื่องที่ถูกวิจารณ์ , สนธิทำหน้าที่ปกป้องประเทศชาติอย่างแท้จริง ไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝง

เรื่องคงจบไปนานแล้ว

[chatchai]

ท่านพุทธทาสก็ยังคงมีคนไม่ชอบ

องค์พระพุทธเจ้าก็ยังมีคนไม่ชอบ

[Jeng]

เออ ผมจำไม่ได้ค่อยได้คงยังเด็กอยู่ ถ้าครรชิตบอกว่าสมัยก่อนก็แตกแยกกัน

ผมก็พอรู้ครับ

อยากถามพี่ครรชิตว่า สมัยก่อนนี่ มีหน่วยงาน องค์กร หรือกลุ่มคน ผู้นำทั้งหลาย มาร่วมกันแตกแยกเท่ากับปัจจุบันหรือไม่ครับ

ในปัจจุบันเท่าที่ผมเห็นนี่ แม้กระทั่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็เริ่มแตกแยกแล้วนะครับ

[ครรชิต ไพศาล]

ทั้งนั้นแหละครับ ทั้งนักวิชาการอาจารย์มหาวิทยาลัย ทั้งนักหนังสือพิมพ์
เขียนด่าทิ่มแทง วิพากษ์วิจารณ์ ประท้วง
แถมต้องคอยระวังทหารฝ่ายครงข้ามอีก

น้อง Jeng ลองไปค้นหา ประวัติช่วงนายกเปรม ครองอำนาจดูสิ
ผมว่าดุเดือดเลือดพล่าน ยิ่งกว่าตอนนี้ตั้งเยอะ

นายกเปรม ต้องพยายามถ่วงดุลอำนาจ ของก๊ก ของเหล่า ต่างๆ
ถ้า นายกเปรม ไม่วางแผนถ่วงดุลทางการเมืองให้ดี
ป่านนี้ นายกเปรม อาจต้องโดนฝ่ายรัฐประหาร จับ
คงจะไม่รอดมาเป็นรัฐบุรุษ เหมือนทุกวันนี้หรอก


นี้แหละคือการเมือง

[ครรชิต ไพศาล]

นายกเปรม ครองอำนาจในฐานะนายกรัฐมนตรี จากปี 2523 ถึง 2531
รวม 8 ปี ยุบสภา 5 ครั้ง

เฉลี่ยแล้วสมัยละ  1.6 ปี แย่มากๆ
ประเทศจะพัฒนาไปได้ดีได้อย่างไร

นี้แสดงให้เห็นว่า บ้านเมื่องสมัย นายกเปรม ระส่ำระสายเพียงใด
เพราะการแตกแยกเป็นก๊กเป็นเหล่า ยิ่งกว่าทุกวันนี้มาก

ทุกวันนี้ พรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลเราเข้มแข็ง ก็ดีอยู่แล้ว
ปล่อยให้แสดงฝีมือกัน ให้ได้แสดงฝีมือให้เต็มที่
แล้วให้ประชาชน ตัดสินผลงานกันครั้งละ 4 ปี
ทำให้เป็นประเพณี การเมืองเราจะได้เข้าร่องเขารอยเสียที

[Jeng]

พี่ครรชิตครับ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่านายกผิดหละ

จะทำไงต่อไป

[ปุย]

พี่ครรชิตครับ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่านายกผิดหละ

จะทำไงต่อไป

ถ้า ศาล รธน. ตัดสินว่า นายกผิด
แสดงว่า ศาล ตัดสินผิดครับ

ต้องให้ 1. ศาลตัดสินใหม่
หรือให้ 2. ศาลอื่น มาตัดสิน ว่าคำตัดสิน ไม่ถูกต้องอีกทีครับ

ขำออกมั้ย  

แล้ว ถ้าศาลตัดสิน ว่านายก ไม่ผิดอีกหล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
มันก็วน เหมือน งูกินหาง


ถ้า เราให้ เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ให้ นายกบริหารประเทศไปอีก 3 ปี ครบเทอม แล้ว มาดูกันว่า นายก ดี จริงๆ หรือว่า เลว จริงๆ
ถ้าเป็นอย่างแรก ก็ดีไป ถ้าเป็น อย่างหลัง จะสายเกินแก้ หรือเปล่าครับ

[bsk(มหาชน)]

ปัญหาทางการเมืองที่เกิดจากผลของรัฐธรรมนูญปัจจุบัน เข้าใจว่าฝ่ายบริหารและตำแหน่งผู้นำรัฐบาลมีความเข้มแข็งเกินไป..

เป็นความเข้มแข็งที่ถูกมองว่า ได้มาโดยอำนาจเงินและอำนาจในการให้คุณให้โทษข้าราชการทุกระดับ ทั้งข้าราชการประจำและข้าราชการการเมือง

เป็นความเข้มแข็งที่ครอบงำองค์กรอิสระต่างๆให้ทำหน้าที่ หรือมิอาจทำหน้าที่ได้ตามเจตนารมณ์ของคณะผู้ร่างรัฐธรรมนูญ ตัวอย่างที่เห็นชัดเจน เช่น กกต. ,สตง. ,ปปช.

ระบบการตรวจสอบหยุดชะงัก เหมือนติดล็อคทุกภาคส่วน (สตง.คลายล็อคได้แล้ว ด้วยพระบารมี พระบรมเดชานุภาพ)

กลุ่มคนบางกลุ่มจึงเห็นว่า รัฐบาลขาดความชอบธรรมในการบริหารจัดการประเทศ

กลุ่มคนเหล่านั้นเชื่อว่า รัฐบาลและผู้นำที่ขาดความชอบธรรม ไม่สามารถดำรงอยู่ได้ อย่าว่าแต่ครบเทอมเลย

ความเชื่อที่ว่า 4 ปีค่อยมาตัดสินกันใหม่ ด้วยเวลาที่ไม่ถึง 4 วินาทีในการกาบัตรเลือกตั้ง แล้วรอไปอีก 4 ปีถัดไปนั้น ดูจะฝืนธรรมชาติเกินไปหรือไม่...

การเลือกตั้งเป็นส่วนหนึ่งของระบบเท่านั้น ไม่ใช่คำตอบทั้งหมด
เพราะประเทศลาวหรือเวียดนามก็มีการเลือกตั้งตามวาระเช่นกัน

การที่จะอยู่ครบ 4 ปีได้นั้น รัฐบาลโดยการนำของท่านนายกฯจะต้องจริงใจที่จะแก้ปัญหาความคับข้องคลางแคลงใจทั้งหลายที่สังคมสงสัยดังที่ได้รับรู้รับทราบกันอย่างจริงจังจริงใจ เท่านั้นจริงๆ...ไม่ใช่ประชานิยม 108 พันเก้า...

[WaveRider965]

ปัญหาที่หนักที่สุดของนายกคือการไม่ยอมรับคำวิจารณ์และไม่ยอมให้ตรวจสอบอย่างจริงจัง

หากเทียบกรณีของ CTX กับ กทม

นายก ออกมาปกป้องพวกพ้องตนเอง และไม่ยอมรับคำวิจารณ์
ท่าทีที่แสดงออก เหมือนกันเหมือนกับทุกๆกรณี คือ พวกที่ค้านนั้นไม่มีปัญญา ปล่อยให้ข้าทำเดี๋ยวดีเอง
นี่คือคำตอบสุดท้าย ที่เราต้องฝากความหวังทั้งสิ้นให้กับคนๆหนึ่ง โดยไร้ข้อโต้แย้ง

กทม ... คิดว่าคงเห็นอยู่ ถึงการแสดงออก

ในสภาวะที่มีความเน่าเหม็นอยู่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เราต้องการ รถติดแอร์ที่ไม่เปิดหน้าต่าง หรือ เกวียนที่เทียมควาย

ปัญหาของ 4 ปีนั้น เป็นประเด็นใหญ่หรือไม่
การอยู่ครบ 4 ปีนั้น หมายถึงประชาธิปไตยเบ่งบานหรือไม่
... การที่คนสามารถท่องบ่นพระธรรมได้ จะบอกได้หรือไม่ว่าจิตใจสูงส่ง
... หากมีแต่เปลือก แต่ไร้แก่น ต้นประชาธิปไตยนี้ จะมีค่าอะไรอีกหรือ
เรื่องนี้ เป็นอีกเรื่องสำคัญที่สังคมต้องเฉลียว
อะไรบ้างที่ให้ผลอย่างแท้จริง
อะไรบ้างที่ไม่ได้มีแค่เปลือกที่สวยงาม
อะไรบ้างเป็นฝันบนปุยเมฆ
ทำใจให้เที่ยง คิดถึงคนให้รอบด้าน ส่องกระจกให้ครบหก
แล้วจึงตัดสินใจ




เต่าโบราณในกะลา ... ขี่ควายชมจันทร์

[ครรชิต ไพศาล]

ศาลรัฐธรรมนูญ เปรียบเหมือน ศาลฎีกา ของศาลปกติ
เมื่อคดีความสิ้นสุด ทุกคนต้องยอมรับ จะยกเรื่องไปฟ้องร้องต่ออีกมิได้

ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินว่า นายกผิด นายกก็ผิด
ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินว่า นายกถูก นายกก็ถูก
ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญ ได้ตัดสินไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว


ในความเห็นของผม
การส่งเรื่องที่ ศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ ได้ตัดสินไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
เข้าไปให้ ศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินใหม่
ศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ น่าจะพิจารณา ไม่ประทับรับฟ้องมากกว่า

[ShexShy]

http://www.settrade.com/actions/customi ... p&tid=5533

สนุกดีครับ

[ครรชิต ไพศาล]

เหตุที่ผมคิดอย่างนั้น เพราะว่า

ถ้า เกิดศาลธรรมนูญ ประทับรับฟ้อง
แล้วผลตัดสินออกมา ตรงข้าม กับ ที่ตัดสินไว้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว


แสดงว่า ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินผิดเมื่อ 5 ปีผิด
รัฐสภาที่นำชื่อนายก ขึ้นทูลเกล้า ให้ลงพระปรมาภิไธย แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี มา ถึง 2 ครั้ง ก็ผิด
แล้วก็มาถึง ว่า การที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ลงพระปรมาภิไธย เมื่อ 5 ปีที่แล้ว และ ลงซ้ำอีกครั้ง ก็ผิด
แล้วก็มาถึงคำพูดที่มา The King can do no wrong.
เช่นเดียวกับกรณีผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินขึ้นอีก
บ้านเมืองก็จะยิ่งแตกแยกกันใหญ่อีก

แล้วถ้าศาลรัฐธรรมนูญ ปีนี้ บอกว่า ศาลรัฐธรรมนูญ 5 ปีที่ผิด

แล้วถ้าอีก 10 ปีข้างหน้า มาตัดสินว่า ศาลรัฐธรรมนูญปีนี้ผิด

แส้วประเทศนี้คดีความมันสินสุดที่ตรงไหน ไม่วุ่นวายกันใหญ่หรือ

[ShexShy]

ป๋าเปรม โดนด่าเรื่องอะไรบ้างครับ ในยุคนั้น
แล้วท่านทำอย่างไร ในการแก้ปัญหาครับ

[ครรชิต ไพศาล]

เตมีใบ้ คือสมญานาม นายกเปรม
ใครด่า ใครว่า อะไรก็ ช่างเขา เราไม่ตอบ
ถ่วงดุลอำนาจ ของก๊ก ของเหล่า ต่างๆ ไว้ให้ได้
เพื่อจะนำพาประเทศไปให้รอด

ทนจนทนไม่ไหวแล้ว ก็บอก พอแล้ว พอกันที่
ใครอยากโดนด่าต่อจากฉัน ก็มารับไม้ต่อไป

[โป้ง]

ศาลทุกวันนี้เที่ยงธรรม ภาพรวมทั้งหมดดีมากแล้ว ไม่เชื่อ ดูคดีที่หน่วยงานรัฐฟ้องสื่อแบบสนธิซิครับ เด้งมาเท่าไหร่ กฟผ. เข้าศาลปกครองเป็นยังไง

ถ้าไม่เคารพระบบศาล ในระบบประชาธิปไตย ของไทย อย่ามาเป็นคนไทยครับ พูดจากใจจริง

[ครรชิต ไพศาล]

อนึ่ง คำพูดที่ว่า

ความเชื่อที่ว่า 4 ปีค่อยมาตัดสินกันใหม่ ด้วยเวลาที่ไม่ถึง 4 วินาทีในการกาบัตรเลือกตั้ง

นั้นผมว่าไม่จริง เพราะว่าเรามีเวลาถึง 4 ปี
ในการได้ดูได้เห็น ในการพิจารณาผลงาน  ที่รัฐบาลเขาทำงาน
เราชอบหรือไม่ชอบ เราก็คิดไว้แล้ว ตลอด 4 ปี

เมื่อถึงเวลา เราก็เพียงเดินเข้าไปกาเลือก
พรรคที่เราได้พิจารณามาแล้วตลอดเวลา 4 ปีที่ทำงาน

เมื่อผลออกมาว่า เสียงส่วนใหญ่ทั้งแผ่นดิน ไปข้างฝ่ายไหน
ไม่ว่า จะเป็นข้างที่เราชอบหรือไม่ชอบ
เราก็ต้องยอมรับในมติ ของเสียงข้างมาก

[CK]

ขอแจมในประเด็นนี้บ้าง จริงๆ ไม่ค่อยอยากเริ่มเท่าไหร่ กลัวยาว

ขอตอบเฉพาะประเด็นแรกก่อน คือ "ศาลรธน."

โดยปกติ เมื่อศาลตัดสินคดีความไปแล้ว และให้จำเลยไม่ผิด
ศาลจะไม่สามารถประทับรับคำร้องในคดีเดิมอีกครั้ง
"ยกเว้นกรณีเดียว" คือมีหลักฐานใหม่
ซึ่งไม่ปรากฎอยู่ในการพิจาณาคดีครั้งแรก
และต้องเป็นหลักฐานที่มีน้ำหนักชัดเจน ไม่ใช่คำกล่าวหาลอยๆ

ผมไม่แน่ใจว่าผู้กล่าวหาครั้งนี้ ได้หลักฐานอะไรใหม่หรือเปล่า
แต่เท่าที่ทราบ นอกจากเรื่องของ Matheson Trust แล้ว
ยังไม่เห็นประเด็นใหม่อะไรเลย

เรื่องควรอยู่ครบ 4 ปีหรือไม่ ผมมีความคิดเห็นดังนี้

ถ้าเป็นเรื่องของนโยบายที่ประชาชนไม่เห็นด้วย (เช่นแปรรูปการไฟฟ้า)
ผมคิดว่าไม่แฟร์ถ้าจะถอดนายกก่อนครบสี่ปี
เพราะประชาชนส่วนใหญ่เลือกมาแล้ว ต้องให้โอกาสท่าน
ดำเนินนโยบายให้ถึงที่สุด

แต่ถ้าเป็นเรื่องความผิดของนายก ในการใช้อำนาจในทางมิชอบ
ผมคิดว่าควรถอดถอนก่อนครบเทอม เมื่อพิสูจน์ได้ว่าผิดจริง

เหมือนในอเมริกา ที่ปธน. Nixon ต้องตัดสินใจลาออก
เมื่อเกิดคดี Water Gate ที่ให้คนติดเครื่องดักฟังประชุมของฝ่ายตรงข้าม
ถือเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ในฐานะปธน. เพื่อประโยชน์ส่วนตน

ต้องออกสถานเดียว

กรณีจริยธรรม คงขึ้นกับศาลและประชาชนเป็นคนตัดสิน
อย่าง Clinton กับ Lewinsky นั้น เมื่อปธน.ออกมายอมรับผิด
และกล่าวว่า ความผิดในเรื่องนี้ เขาไม่ได้บกพร่องต่อหน้าที่
ไม่ได้ใช้อำนาจปธน.เพื่อประโยชน์ของตัวเอง แต่เป็นเรื่องของปุถุชน

อเมริกันส่วนใหญ่ จึงยอมยกโทษให้

[MisterK]

ผมไม่เห็นด้วยนะว่าถ้าทำให้เกิดความแตกแยกทางความคิดแล้วต้องลาออก   เพราะไม่งั้นคงไม่ต้องมีคนทำงานกันแน่    เพราะกลุ่มที่เสียผลประโยชน์ใครจะนั่งอยู่เฉย ๆ กัน     การทำงานอะไรก็ต้องมีทั้งคนได้ประโยชน์เสียประโยชน์    มันต้องแตกแยกอยู่แล้ว

ผมเห็นด้วยกับพี่ครรชิตว่าเมื่อคนส่วนใหญ่เลือกมาแล้ว   ก็ควรให้โอกาสทำงาน   และใช้เวลาสี่ปีนี้ในการคิด   ดู  ฟัง  ตรึกตรอง    ส่วนเรื่องสี่วินาทีกาบัตร   ผมใช้แค่วินาทีเดียว  :oops:     แต่เป็นสิ่งที่ผมคิดพิจารณาสั่งสมมาตลอดสี่ปีครับ


และเห็นด้วยกัน Ck เหมือนกันว่าถ้าจะถอดถอนต้องเป็นเรื่องของความผิดจริง ๆ    ไม่ใช่เรื่องของการไม่เห็นด้วย    อย่างกฟผ. ผมมองว่ามันเป็นแค่ความเห็นที่แตกต่าง  และปัญหาในทางปฏิบัติที่หลายคนเป็นห่วง  มันอาจจะดีขึ้นหรือแย่ลงใครจะฟันธงได้ร้อยเปอร์เซนต์  ในเมื่อประเทศต่าง ๆ ก็มีทั้งที่สำเร็จและล้มเหลว  แต่ถ้าจะบอกว่ามันเป็นความผิดความชั่ว  มันคนละเรื่องกัน  แต่คนที่ต่อต้านก็พยายามดึงมารวมกันว่าขายกฟผ.นี่มันเป็นความชั่ว  

แต่ขอบอกว่าจะตัดสินความผิดในเมืองไทยผ่านระบบบศาล   รอเลือกอีกสามปีเร็วกว่าม้าง     :lol:

[MisterK]

อีกอย่างผมมองว่า  เรายังไม่คุ้นกับระบบ   เสียงผูกขาด   เพราะอยู่กับระบบ 1-2 ปีเปลี่ยนมานาน    ทั้ง ๆ ที่ตอนอยู่กับระบบหลายพรรคก็เรียกร้องหาระบบพรรคการเมืองพรรคเดียว     พอได้ก็กลับไปเรียกร้องหาระบบพรรคการเมืองที่ไม่ผูกขาดพรรคเดียว    

เราจมอยู่กับการค้านแหลก    มีเรื่องให้อภิปรายไม่ไว้วางใจกันทุกรัฐบาลและแทบทุกปี  (แต่พอเลือกใหม่คนที่ถูกไล่ออกก็กลับมาทุกทีเหมือนกัน)      พอไม่ได้มีอะไรมันส์ ๆ ให้ดูกันมาหลายปีมันก็ไม่ค่อยคุ้นเคยและอึดอัด      

แต่ยังไงเมื่อรัฐธรรมนูญตอนนี้เป็นอย่างนี้ก็ควรต้องยอมรับ    ถ้าคิดว่ามีจุดอ่อนก็หาทางแก้ไขต่อไป     ไม่ใช่ไม่ได้อย่างใจก็จะขอทำให้ได้อย่างที่ต้องการทันทีไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ตาม

[เพื่อน]

กรณีนี้น่าสนใจดีครับ....ถ้าเรารู้ว่านายกผิด(ซึ่งอาจจะเอาผิดทางกฎหมายยากหน่อย..เนื่องจากนายกสั่งได้)ถ้านายกผิด เราควรรอต่ออีก3ปีหรือให้นายกออกจากตำแหน่งดี

ผมว่ามันขึ้นอยู่กับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้ในระยะเวลา3ปีนี้ ว่าคุ้มที่จะรอหรือไม่

ที่ผมห่วงมากก็คือเรื่องเม็กกะโปรเจ็คนี่หละครับ
เค้ามีประสพการณ์จากเรื่องCTXมาแล้วว่าหมิ่นเหม่ที่จะติดคุกเนื่องจากผิดระเบียบราชพัสดุ....เค้าเลยหาวิธีใหม่โดยแก้กฎหมายใม่จำเป็นต้องใช้การประมูลเปรียบเทียบตามระบบ มาใช้วิธีTurn Keyแทน

วันที่เค้าเชิญต่างชาติมาร่วมประชุม คำถามแรกที่ถูกต่างชาติถามก็ตรงกับที่ผมคิดไว้เปะ
เค้าถามว่าทางรัฐบาลจะใช้วิธีอะไรในการตัดสินเปรียบเทียบการนำเสนอของแต่ละราย ในเมื่อไม่มีอะไรเป็นมาตรฐานเดียวกันเลย คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าของใครดีกว่า ของใครถูกกว่า
คำตอบของฝ่ายรัฐก็วนไปวนมาช่วยกันตอบตั้งหลายคน แต่จับประเด็นไม่ได้เลยครับ
พร้อมกับกล้องบังเอิญจับภาพไปที่ฝรั่งคนหนึ่งนั่งหัวเราะและส่ายหัวกับคำตอบ

ผมว่าคำถามของเค้าถือว่ารักษามารยาทแล้วนะครับ ถ้าเค้าถามได้เค้าน่าจะถามว่า โปรเจ๊คใหญ่ขนาดนี้คุณคิดได้ยังไงถึงใชัวิธีTurnKey ทำไมคุณถึงต้องรีบร้อนทั้งๆที่ยังไม่พร้อม แล้วที่ผ่านมาที่คุณลงทุนศึกษาไว้เสียค่าใช้จ่ายไปตั้งมากมายคุณเอาไปทิ้งที่ไหนหมดไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์เลยหรือ คุณไม่คิดที่จะว่าจ้างConsultantมาช่วยให้ความรู้หรือช่วยในการตัดสินใจเลยหรือ ไม่คิดจะวางแผนให้รอบคอบก่อนหรือทั้งในด้านงานออกแบบงานเวณคืน ทำไมถึงรีบสรุปงานประมูลให้เร็วที่สุดทั้งๆที่ยังไม่น่าจะถึงขั้นตอนนั้น

ก็อีกหละ...ผมว่างานนี้คนที่ตรงไปตรงมาคงไม่ขอมายุ่งเกี่ยวด้วยแน่นอน แค่คิดก็ติดปัญหาไปหมด  คงเหลือแต่พวกที่เค้าเตี้ยมๆกันไว้แล้วนั่นแหละครับ

เสียดายความฉลาดและความกล้าคิดกล้าทำของรัฐบาลนี้จริงๆ ที่เอามาใช้แบบผิดๆ  โดยมีเงินภาษีและทรัพย์สินของชาติเป็นเดิมพัน(Use other people's money นี่มันง่ายจริงๆเลย)

แล้วเราควรจะรอต่อกันดีมั้ยหละครับ...นี่เป็นแค่ตัวอย่างเดียวเท่านั้นครับ

[Jeng]

สรุปได้ว่า หลักประชาธิปไตย ก็ควรให้นายกอยู่ครบเทอม ยกเว้นทำผิดกฎหมาย ก็จับไปติดคุก

อืม มีอีกกรณี คือ การเรียกร้องให้ลาออก

ผมก็ว่าดี ถ้ามีเหตุผล

ซึ่งถึงแม้ว่าไม่ออก และตอบคำถามไม่ได้ ก็จะเป็นกระจกสะท้อนให้ การเลือกตั้งคราว หน้า เราจะเลือกหรือไม่

ผมแค่ไม่เห็นด้วย กับการประท้วง ไล่ออก

แต่เห็นด้วยกับการหาเหตุผลมาคุยกัน ว่าควรออกเพราะอะไร

ซึ่งนายกเองก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ออก

ถ้าไม่มีการขุดคุ้ย อะไรขึ้นมาพูดบ้างเลย >>> สุดท้ายก็กลายเปงเผด็จการ