ผมฟังคุณตันให้สัมภาษณ์ แล้วรู้สึกแปลกๆ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
ผมฟังคุณตันให้สัมภาษณ์ แล้วรู้สึกแปลกๆ
โพสต์ที่ 1
ดีลนี้ แปลกๆจัง
ที่ปรึกษา เอเชียพลัส ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการทำดีลซื้อกิจการ แต่แล้วทำไม เวลาแจ้งไปตลาดหลักทรัพย์ถึงมีข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน ไม่แจ้งว่าผู้ซื้อเป็นใคร
คุณตันก็ให้สัมภาษณ์เรื่องขายกิจการว่า การขายกิจการนั้น ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะถ้าเราสามารถเลือกผู้ที่เข้ามาได้ดี ก็จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทเรื่องเทคโนโลยี่ และเป็นการลดคู่แข่งที่เก่งลงด้วย
แต่เมื่อถูกถามเรื่องผู้ซื้อเป็นใคร คุณตันบอกว่าไม่รู้รายละเอียด รู้แต่ว่าเป็น Fund จากฮ่องกง แสดงว่าไม่ได้เลือกจากเหตุผลที่ให้ข้างบนเลยหรือ เหตุผลที่ให้เป็นการอ้างทั่วๆไปหรือเปล่า
เรื่องสัญญาที่คุณตันต้องบริหารอีกนานเท่าไร แกก็ไม่บอก อะไรจะลึกล้ำปานนั้น ดีลนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
ที่ปรึกษา เอเชียพลัส ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการทำดีลซื้อกิจการ แต่แล้วทำไม เวลาแจ้งไปตลาดหลักทรัพย์ถึงมีข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน ไม่แจ้งว่าผู้ซื้อเป็นใคร
คุณตันก็ให้สัมภาษณ์เรื่องขายกิจการว่า การขายกิจการนั้น ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะถ้าเราสามารถเลือกผู้ที่เข้ามาได้ดี ก็จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทเรื่องเทคโนโลยี่ และเป็นการลดคู่แข่งที่เก่งลงด้วย
แต่เมื่อถูกถามเรื่องผู้ซื้อเป็นใคร คุณตันบอกว่าไม่รู้รายละเอียด รู้แต่ว่าเป็น Fund จากฮ่องกง แสดงว่าไม่ได้เลือกจากเหตุผลที่ให้ข้างบนเลยหรือ เหตุผลที่ให้เป็นการอ้างทั่วๆไปหรือเปล่า
เรื่องสัญญาที่คุณตันต้องบริหารอีกนานเท่าไร แกก็ไม่บอก อะไรจะลึกล้ำปานนั้น ดีลนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
ผมฟังคุณตันให้สัมภาษณ์ แล้วรู้สึกแปลกๆ
โพสต์ที่ 2
ที่ สน.096/2548
วันที่ 15 ธันวาคม 2548
เรื่อง แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขายหุ้นของนายตัน ภาสกรนที
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ขอให้ บริษัท
โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขายหุ้นของ
นายตัน ภาสกรนที ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ กับกลุ่มผู้จะซื้อ
ตามรายละเอียดที่แจ้งแล้วนั้น บริษัทฯ ใคร่ขอเรียนชี้แจงว่าบริษัทฯ
และผู้บริหารของบริษัทฯ ไม่ได้เป็นผู้ให้ข้อมูลใดๆ แก่สื่อมวลชนเมื่อวานนี้
แต่ประการใด พร้อมทั้งขอชี้แจงข้อมูลที่ได้รับแจ้งจากนายตัน ภาสกรนที
ประธานกรรมการเพิ่มเติมดังต่อไปนี้
1.จากข้อมูลที่บริษัทฯ ได้รับจากนายตัน ภาสกรนที นั้น ตัวแทนของ
กลุ่มผู้จะซื้อคือ Mr. Ma Wah Yan นั้น ได้ติดต่อผ่านบริษัทหลักทรัพย์
เอเชีย พลัส จำกัด (มหาชน) เพื่อติดต่อขอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ของบริษัทฯ และขอให้ดำเนินการเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นนี้
โดยในเบื้องต้นทราบว่า กลุ่มผู้จะซื้อประกอบด้วย นักลงทุนไทยและ
นักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ลงทุนในบริษัทต่างๆ ที่ดำเนินธุรกิจหลายๆ
ประเภท รวมทั้งธุรกิจเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่ม ทั้งนี้ บริษัทฯ เข้าใจว่า
กลุ่มผู้จะซื้อได้อยู่ในระหว่างกำหนดและรวบรวมผู้ที่จะลงทุนจึงยัง
ไม่มีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม หากมีการลงนาม
ในสัญญาซื้อขายหุ้นภายในวันที่ 20 มกราคม 2549 แล้ว สัญญาซื้อขายหุ้น
ดังกล่าวจะระบุชื่อและรายละเอียดของกลุ่มผู้จะซื้อ ซึ่งเมื่อบริษัทฯ
ได้รับแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลของกลุ่มผู้จะซื้อเพิ่มเติมแล้ว บริษัทฯ จะรีบแจ้ง
ให้นักลงทุนทราบผ่านทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นการด่วน
โดยเมื่อกลุ่มผู้จะซื้อเข้ามาถือหุ้นในบริษัทฯ แล้ว นายตัน ภาสกรนที
จะยังคงบริหารงานของบริษัทฯ ต่อไป และบริษัทฯ เห็นว่าการเข้ามาร่วมทุน
ของกลุ่มผู้จะซื้อนั้น ไม่น่ามีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนิน
ธุรกิจของบริษัทฯ อย่างไรก็ตามหากกลุ่มผู้จะซื้อเข้าซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่
แล้วจะเป็นผลให้กลุ่มผู้จะซื้อต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์จากผู้ถือหุ้น
ทุกรายตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ
ตลาดหลักทรัพย์
2.สัดส่วนการถือหุ้นของนายตัน ภาสกรนทีและกลุ่ม ในขณะนี้ยังไม่มี
การกำหนดแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่านายตัน ภาสกรนที จะรวบรวมหุ้นจาก
กลุ่มบุคคลที่ใกล้ชิดได้เป็นจำนวนเท่าใด อย่างไรก็ตามคาดว่านายตัน ภาสกรนที
จะยังคงถือหุ้นอยู่ในบริษัทฯ ต่อไปในสัดส่วนประมาณร้อยละ 10
ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ
3.วิธีการรวบรวมหุ้นของบริษัทฯ โดยนายตัน ภาสกรนที นั้น
คาดว่าคงเป็นการรวบรวมจากแหล่งบุคคลที่ใกล้ชิดของนายตัน ภาสกรนที
ขอแสดงความนับถือ
(นายตัน ภาสกรนที)
ประธานกรรมการบริษัท
อะไรกัน ตกลงจะซื้อขายกัน ผู้ซื้อยังไม่รู้เป็นใคร กำลังรวบรวมกันอยู่ ส่วนผู้ขายก็ยังรวบรวมหุ้นอยู่
เวรกรรม แล้วเวลาตกลงซื้อขายกัน คิดตัวเลขกันยังไง แล้วมาแจ้งตลาด ถ้าภายหลังดีลล้ม จะเป็นการปั่นหุ้นด้วยข่าวไหมเนี่ย รายย่อยขาดทุนใครจะรับผิดชอบ
คุณตัน คิดอะไรอยู่ก็น่าจะบอกตรงๆ ผู้ซื้อเป็นใครก็น่าจะบอกตรงๆ ถ้าทำดีคิดดีไม่เห็นต้องกลัวอะไร
วันที่ 15 ธันวาคม 2548
เรื่อง แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขายหุ้นของนายตัน ภาสกรนที
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ขอให้ บริษัท
โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขายหุ้นของ
นายตัน ภาสกรนที ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ กับกลุ่มผู้จะซื้อ
ตามรายละเอียดที่แจ้งแล้วนั้น บริษัทฯ ใคร่ขอเรียนชี้แจงว่าบริษัทฯ
และผู้บริหารของบริษัทฯ ไม่ได้เป็นผู้ให้ข้อมูลใดๆ แก่สื่อมวลชนเมื่อวานนี้
แต่ประการใด พร้อมทั้งขอชี้แจงข้อมูลที่ได้รับแจ้งจากนายตัน ภาสกรนที
ประธานกรรมการเพิ่มเติมดังต่อไปนี้
1.จากข้อมูลที่บริษัทฯ ได้รับจากนายตัน ภาสกรนที นั้น ตัวแทนของ
กลุ่มผู้จะซื้อคือ Mr. Ma Wah Yan นั้น ได้ติดต่อผ่านบริษัทหลักทรัพย์
เอเชีย พลัส จำกัด (มหาชน) เพื่อติดต่อขอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ของบริษัทฯ และขอให้ดำเนินการเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นนี้
โดยในเบื้องต้นทราบว่า กลุ่มผู้จะซื้อประกอบด้วย นักลงทุนไทยและ
นักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ลงทุนในบริษัทต่างๆ ที่ดำเนินธุรกิจหลายๆ
ประเภท รวมทั้งธุรกิจเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่ม ทั้งนี้ บริษัทฯ เข้าใจว่า
กลุ่มผู้จะซื้อได้อยู่ในระหว่างกำหนดและรวบรวมผู้ที่จะลงทุนจึงยัง
ไม่มีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม หากมีการลงนาม
ในสัญญาซื้อขายหุ้นภายในวันที่ 20 มกราคม 2549 แล้ว สัญญาซื้อขายหุ้น
ดังกล่าวจะระบุชื่อและรายละเอียดของกลุ่มผู้จะซื้อ ซึ่งเมื่อบริษัทฯ
ได้รับแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลของกลุ่มผู้จะซื้อเพิ่มเติมแล้ว บริษัทฯ จะรีบแจ้ง
ให้นักลงทุนทราบผ่านทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นการด่วน
โดยเมื่อกลุ่มผู้จะซื้อเข้ามาถือหุ้นในบริษัทฯ แล้ว นายตัน ภาสกรนที
จะยังคงบริหารงานของบริษัทฯ ต่อไป และบริษัทฯ เห็นว่าการเข้ามาร่วมทุน
ของกลุ่มผู้จะซื้อนั้น ไม่น่ามีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนิน
ธุรกิจของบริษัทฯ อย่างไรก็ตามหากกลุ่มผู้จะซื้อเข้าซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่
แล้วจะเป็นผลให้กลุ่มผู้จะซื้อต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์จากผู้ถือหุ้น
ทุกรายตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ
ตลาดหลักทรัพย์
2.สัดส่วนการถือหุ้นของนายตัน ภาสกรนทีและกลุ่ม ในขณะนี้ยังไม่มี
การกำหนดแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่านายตัน ภาสกรนที จะรวบรวมหุ้นจาก
กลุ่มบุคคลที่ใกล้ชิดได้เป็นจำนวนเท่าใด อย่างไรก็ตามคาดว่านายตัน ภาสกรนที
จะยังคงถือหุ้นอยู่ในบริษัทฯ ต่อไปในสัดส่วนประมาณร้อยละ 10
ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ
3.วิธีการรวบรวมหุ้นของบริษัทฯ โดยนายตัน ภาสกรนที นั้น
คาดว่าคงเป็นการรวบรวมจากแหล่งบุคคลที่ใกล้ชิดของนายตัน ภาสกรนที
ขอแสดงความนับถือ
(นายตัน ภาสกรนที)
ประธานกรรมการบริษัท
อะไรกัน ตกลงจะซื้อขายกัน ผู้ซื้อยังไม่รู้เป็นใคร กำลังรวบรวมกันอยู่ ส่วนผู้ขายก็ยังรวบรวมหุ้นอยู่
เวรกรรม แล้วเวลาตกลงซื้อขายกัน คิดตัวเลขกันยังไง แล้วมาแจ้งตลาด ถ้าภายหลังดีลล้ม จะเป็นการปั่นหุ้นด้วยข่าวไหมเนี่ย รายย่อยขาดทุนใครจะรับผิดชอบ
คุณตัน คิดอะไรอยู่ก็น่าจะบอกตรงๆ ผู้ซื้อเป็นใครก็น่าจะบอกตรงๆ ถ้าทำดีคิดดีไม่เห็นต้องกลัวอะไร
-
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
ผมฟังคุณตันให้สัมภาษณ์ แล้วรู้สึกแปลกๆ
โพสต์ที่ 3
อืม ฟังคุณ chatchai พูดก็น่าคิดนะครับ
แต่ที่ผมไม่สบายใจเลย คือที่ราคาหุ้นพุ่งก่อนหน้าออกข่าวหนึ่งวัน แต่ไม่เห็นมีใครบอกเลยว่าจะมีการสืบหาคนใช้ข่าววงใน หรือมันถูกกฏหมายไปแล้วหว่า ???
แต่ที่ผมไม่สบายใจเลย คือที่ราคาหุ้นพุ่งก่อนหน้าออกข่าวหนึ่งวัน แต่ไม่เห็นมีใครบอกเลยว่าจะมีการสืบหาคนใช้ข่าววงใน หรือมันถูกกฏหมายไปแล้วหว่า ???
I do not sleep. I dream.
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
ผมฟังคุณตันให้สัมภาษณ์ แล้วรู้สึกแปลกๆ
โพสต์ที่ 4

http://www.thannews.th.com/detialNews.p ... issue=2071
คุณตันเป็นคนเก่ง แต่เป็นคนเก่งที่ไม่น่าร่วมหุ้นด้วย.........> ตันทิ้งโออิชิ รุก หรือ ถอย ?
ขณะที่กระแสข่าวของ "ตัน" ยังไม่ทันจางหาย "ตัน" ก็เป็นข่าวอีกครั้งว่าตัดสินใจขายทิ้งหุ้นใน โออิชิ ทิ้งถึง 55 % ซึ่งนัยหนึ่งก็คือการถูกเทคโอเวอร์นั่นเอง โดยไม่ยอมบอกว่า ใครคือเจ้าจของคนใหม่ เพียงแต่ให้เหตุผลว่า ที่ขายหุ้นครั้งนี้ เพราะต้องการปรับตัวเอง และขยายตลาดสูงเอเชียแปซิฟิค และเมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา "ตัน" ได้ลงบันทึกความเข้าใจเบื้องต้นหรือ เอ็มโอยู กับ นายหม่า หว่า เหยน ในฐานะตัวแทนกลุ่มผู้จะซื้อ
ไทยเบรฟฯ-เสริมสุข ใครคือผู้ถือหุ้นรายใหม่
จากกรณีดังกล่าว สื่อบางฉบับฟันธงว่า ผู้อยู่เบื้องหลัง ดีลซื้อ-ขายกิจการ ที่เกิดขึ้นรวดเร็วราวกับฟ้าฝ่า ครั้งนี้น่าจะเป็น บมจ.ไทยบเฟ เวอเรจ ผู้ผลิตน้ำเมารายใหญ่ของ เจริญ สิริวัฒนภักดี ราชันน้ำเมา เหตุผลที่คาดกันเช่นนี้เพราะวิเคราะห์กันว่า เจริญ อาจใช้วิธี แบ๊คดอร์ลิสติ้ง หรือการเข้าตลาดหลักทรัพย์ด้วยการเทคโอเวอร์กิจการที่ซื้อ-ขายหุ้นในตลาดอยู่แล้ว หลังจาก บมจ.ไทยเบฟ เจอคำสั่ง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(กลต.)ว่าจะชะลอการพิจารณาไปจนกว่า ร่าง พระราชบัญญัติ (พรบ.)ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ของกระทรวงสาธารณสุขแล้วเสร็จ ซึ่งคาดกันว่าต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี
อย่างไรก็ดีข้อสรุปดังกล่าวได้รับการปฏิเสธอย่างแข็งขันจาก ดร.อุดมศักดิ์ ชาครียวณิชย์ กรรมการผู้จัดการ บล.เอเซีย พลัส ที่ปรึกษาทางการเงินในการเจรจาซื้อหุ้น บมจ.โออิชิ กับข้อสงสัยดังกล่าวแหล่งข่าวที่รู้เรื่องดียืนยันว่า ตันได้ขายหุ้นส่วนใหญ่ใน โออิชิ ให้กับ บมจ.เสริมสุข ซึ่งเป็นพันธมิตรใหญ่ของ โออิชิ ไปตั้งแต่ก่อนจบแคมเปญ "รวยฟ้าผ่า" เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ตั้งนานแล้ว "จะซื้อในนามส่วนตัว (หมายถึงตระกูลบูลสุขผู้ถือหุ้นใหญ่เสริมสุข) หรือ ในนามบริษัทตนไม่ทราบ"แหล่งข่าวรายเดิมกล่าว
เหตุผลที่ผู้ค้าน้ำดำรายใหญ่ตัดสินใจเทคโอเวอร์โออิชิ ครั้งนี้ เพราะบมจ. เสริมสุขมองเห็นช่องทางการขยายธุรกิจ ซึ่งหากเทียบกับบริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ผู้ผลิตเครื่องดื่ม โค้ก ที่มีการผลิตและจำหน่าย "ชาเขียวชิเซ็น" แต่ไม่ประสบความสำเร็จในตลาดมากนัก การที่ บมจ. เสริมสุข จะได้ "ตัน-โออิชิ" มาเป็นหุ้นส่วนแทนที่จะเป็นแค่พันธมิตรธุรกิจแบบเดิม การขยายตลาดชาเขียวน่าจะสมบูรณ์แบบ เพราะทุกวันนี้ บมจ.เสริมสุข ก็จัดจำหน่ายให้ โออิชิ อยู่แล้ว อีกทั้ง โออิชิคือแบรนด์ผู้นำตลาด การเทคโอเวอร์ครั้งนี้ บมจ.เสริมสุขจึงมีแต่ได้กับได้เท่านั้น
เช่นเดียวกับตันหากเขาต้องการเห็นโออิชิกระจายไปในระดับภูมิภาค เครือข่ายของ เป๊ปซี่-โคล่าพันธมิตรของ บมจ.เสริมสุขซึ่งกระจายอยู่ทั่วโลก น่าจะทำให้บรรลุมากกว่า ด้วยเหตุผลข้างต้นจึงมีความเป็นไปได้มากว่า เจ้าของใหม่ โออิชิ ก็คือ บมจ.เสริมสุข
อย่างไรก็ดี ตัน ปิดปากแน่นว่าใครผู้อยู่เบื้องหลังการเทคโอเวอร์ครั้งนี้ เขาเพียงแต่แย้มว่า ผู้ถือหุ้นใหม่จะสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจให้กับโออิชิทั้งในแลต่างแดน แต่เขายอมรับว่า สาเหตุที่ทำให้เขาตัดสินใจขายหุ้นครั้งนี้วิกฤติต่างๆที่โถมเข้ามาเป็นระลออกเป็นตัวเร่งให้เขาเลือกวิธีการนี้เพื่ออนาคตของ โออิชิ
"ตัน" ตัวแทนนักลงทุน
ส่วนกรณีที่มีคนมองว่า "ตัน-โออิชิ" เป็นมือปืนรับจ้างปั้นแบรนด์เพื่อขายต่อ เรื่องนี้แหล่งข่าวกล่าวว่า ไม่จะเป็นถึงขั้นนั้น แต่คุณตัน เป็นเหมือนตัวแทน(Representative) ให้กับนายทุนจากไต้หวันรายหนึ่งมากกว่า ซึ่งนายทุนคนนี้ เป็นนายทุนใหญ่คนเดียวกับที่เคยลงทุนในธุรกิจถ่ายภาพแต่งงาน ให้กับคุณตันมาแล้ว ซึ่งการที่นักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาลงทุนเองนั้นจะเรื่องของภาษีการลงทุน ดังนั้น การที่ให้คุณตันเป็นตัวแทนลงทุนให้
ทั้งนี้ กลุ่มโออิชิ เริ่มต้นการทำธุรกิจจากร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นเมื่อ พ.ศ. 2542 จากนั้นอีก 2 ปี ได้ขยายมาสู่ร้านอาหารบะหมี่ญี่ปุ่น ซูชิบา ต่อด้วยกิจการเบเกอรี่ ในชื่อ IN&OUT และเข้าสู่ธุรกิจอาหารแบบสุกี้ญี่ปุ่น เมื่อ พ.ศ. 2545
จนถึงทุกวันนี้ โออิชิ ครองความเป็นผู้นำในตลาดอาหารเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น บริษัทฯ จึงหันมาทำตลาดชาเขียวโดยใช้ชื่อแบรนด์ โออิชิ เมื่อปีที่ผ่านมา และเพียงไม่ถึงปีการเติบโตของธุรกิจชาเขียว กลายเป็นกำไรทางธุรกิจมากกว่าธุรกิจอื่น ๆ ที่ทางบริษัทฯ ได้ดำเนินการมา
ทั้งนี้บริษัทฯ เริ่มธุรกิจเครื่องดื่มชาเขียวอย่างจริงจังในไตรมาสสุดท้ายของปี 2546 และสร้างรายได้ถึง 163 ล้านบาท หรือประมาณ 13 % ของรายได้รวม ส่วนไตรมาสแรกของปี 2547 รายได้จากชาเขียวเพิ่มเป็น 299 ล้านบาท หรือ 50 % ของรายได้รวม หรือขยายตัวจากไตรมาสก่อนหน้า 83 % และสร้างกำไรได้ถึง 72 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปีนี้
นับตั้งแต่ "ตัน" ได้หันมาทำธุรกิจน้ำชาเขียวทำให้โครงสร้างรายได้เริ่มเปลี่ยนไปพร้อมกับการผลักดันของผู้บริหาร โออิชิ จึงตัดสินใจระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2547 ด้วยการเสนอหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป ราคาหุ้นละ 19 บาท เพื่อนำเงิน 705 ล้านบาทไปลงทุนขยายโครงการผลิตชาเขียว 30 % อีก 10 % ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการทำธุรกิจและเงินอีก 60 % นำไปชำระเงินกู้จากสถาบันการเงิน
นอกจากนี้ เงินทุนอีกส่วนหนึ่งจะถูกนำมาใช้ในการผลิตขวด PET ป้องกันปัญหาขาดแคลนขวด และช่วยเพิ่มกำไรขั้นต้นให้สูงขึ้นเนื่องจากกรผลิตเองจะทำให้บริษัทฯพึ่งพิงการนำเข้าขวด PET น้อยลงทำให้ความสามารถทำกำไรสูงขึ้นตั้งแต่ต้นปีนี้ และเพิ่มโอกาสขึ้นครองเจ้าตลาดแทนเครื่องดื่มชาเขียว UNIF ได้สำเร็จ
ปีหน้า "ตัน" จะหันมาให้ความสำคัญกับการทำตลาด "อะมิโน โอเค" เครื่องดื่มกลิ่มผลไม้แบรนด์ใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวไปได้ประมาณ 2 เดือนให้มากขึ้น และยังมีแผนที่จะสร้างขยายไลน์เครื่องดื่มใหม่ๆ เพิ่ม
แม้สถานจากนี้ไป ตัน จะเปลี่ยนจาก"ผู้ถือหุ้นใหญ่"ไปเป็น "ผู้บริหาร" ที่ถือหุ้นจำนวนหนึ่ง ซึ่งดูเสมือนถอยหลังหนึ่งก้าวเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ แต่หากพิเคราะห์เป้าหมายที่ต้องการเห็น"โออิชิ"ก้าวสู่ตลาดระดับภูมิภาค ดีลฟ้าผ่าครั้งนี้จึงเป็นการถอยของตันเพื่อเปิดทางให้โออิชิรุกโดยแท้.
"ทำไมผมต้องขายหุ้นโออิชิ ?"
ที่ผ่านมาผมรู้ว่า ผมมีจุดอ่อน จุดแข็งในเรื่องอะไร ขณะที่ตลาดทั้งประเทศไทยและทั่วโลกมีการแข่งขันที่รุนแรง เป้าหมายต่อไปของ "โออิชิ" ไม่ใช่เป็นเพลย์เยอร์ เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่จะเป็น "รีจินอล เพลย์เยอร์" ของเอเซียแปซิฟิค
การมีผู้ถือหุ้นรายใหม่เข้ามาและเป็นผู้ถือหุ้นหลัก ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของบริษัท เพื่อที่จะเดินหน้าแข่งขันในทั่วโลก โดยเฉพาะหลังจากที่เปิดการค้าเสรี ซึ่งบริษัทมีโอกาสที่จะเติบโต 2-3 เท่านับจากนี้ไป เพราะพันธมิตรที่จะเข้าควบรวมกิจการครั้งนี้ จะนำทั้งโนฮาว เงินทุน และเครือข่ายเข้ามาเสริมให้โออิชิ มีความแข็งแกร่ง และความพร้อมรองรับการเปิดการค้าเสรี เพราะกลุ่มไฟแนนเชียล อินเวสเตอร์กลุ่มนี้ทำธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม อยู่แล้ว
ที่ผ่านมาการเติบโตของโออิชิ กรีนทีถือว่าโตรวดเร็วเกินคาด เมื่อเทียบกับธุรกิจอาหารที่โตเร็วไม่ได้ต้องใช้เวลา แต่เราก็พัฒนาควบคู่กันไป และผมจะยังคงบริหารโออิชิต่อไป ซึ่งต่อจากนี้ผมจะไม่มีจุดอ่อนอีกแล้ว โออิชิจะมีแต่จุดแข็งในการที่จะวิ่งไปข้างหน้าได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันโออิชิมีวางจำหน่ายแล้วใน 12 ประเทศ เช่น ลาว เขมร มีวางจำหน่ายกว่า 80% ในตลาด นอกจากนั้นมีเยอรมัน อังกฤษ ออสเตรเลีย เป็นต้น โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 5% ของยอดขายทั้งหมด แต่ในอนาคตตลาดต่างประเทศเราจะขยายได้อีกหลายเท่าตัว
ส่วนเรื่องของปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นกับภาครัฐ ไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ผมต้องตัดสินใจขายหุ้น เรื่องต่างๆนั้นจบไปแล้ว เราชี้แจงให้กับกระทรวงพาณิชย์รับทราบและทำความเข้าใจหมดทุกเรื่องแล้ว ผมยอมรับว่าก่อนหน้านี้ 3 เดือนยอดขายของเราลดลงมากเพราะจากปัญหาต่างๆ แต่เมื่อเคลียร์จบต่อไปสถานการณ์จะกลับมาเหมือนเดิม โดยเฉพาะหลังจากที่ได้พันธมิตรใหม่เราจะกลับมาวิ่งได้เต็มที่ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (16 ธค.) เป็นต้นไป
20 มค.49 เผยชื่อผู้ถือหุ้นใหม่
สำหรับการทำ MOU ที่เกิดขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 14 ธค.ที่ผ่านมาหลังจากที่มีการติดต่อพูดคุยกันหลายครั้ง จนเรามั่นใจที่จะเลือกพันธมิตรกลุ่มนี้ ทำให้บิ๊กเซอร์ไพรส์ที่ผมเคยบอกไว้ตั้งแต่กลางปี ออกมาล่าช้าไปหน่อย ซึ่งการขายหุ้นครั้งนี้เป็นการตกลงที่จะขายหุ้นในส่วนที่ผมถืออยู่และรวบรวมหุ้นของบริษัท จากผู้ถือหุ้นอื่นเป็นจำนวนทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 103,125,000 หุ้น หรือเท่ากับร้อยละ 55 ของหุ้นที่จำหน่ายทั้งหมดของบริษัท ซึ่งมีอยู่รวม 187,500,000 ล้านหุ้น เพื่อจะขายให้กับกลุ่มผู้จะซื้อ โดยกำหนดราคาซื้อขายเบื้องต้นที่หุ้นละ 32.50 บาท และราคาซื้อขายดังกล่าวอาจมีการปรับลดลงตามผลการตรวจสอบกิจการของบริษัท แต่ทั้งนี้ไม่ว่ากรณีใดจะไม่ต่ำกว่าหุ้นละ 30 บาท ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นภายในวันที่ 20 มค. ปีหน้า โดยการลงสัญญา มี Mr. Ma Wah Yan เป็นตัวแทนของกลุ่มผู้จะซื้อ
ทำให้เบื้องต้นผมยังไม่สามารถที่จะบอกรายละเอียดของกลุ่มผู้ที่จะซื้อหุ้นได้ว่าเป็นใคร แต่จะมีทั้งนักลงทุนทั้งคนไทยและต่างประเทศ โดยทั้งหมดจะเปิดเผยในวันที่ 20 มค.ที่จะถึง
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
ผมฟังคุณตันให้สัมภาษณ์ แล้วรู้สึกแปลกๆ
โพสต์ที่ 5
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เรื่อง แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขายหุ้นของนายตัน ภาสกรนที
อ้างถึง คำสั่งของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันที่ 16 ธันวาคม 2548
ให้บริษัทฯ ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดของกลุ่มผู้จะซื้อ
ตามหนังสือที่อ้างถึงบริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ขอเรียนว่าบริษัท
จะใช้ความพยายามอย่างยิ่งในการที่จะให้นายตัน ภาสกรนที ในฐานะผู้จะขายหุ้น
ให้แก่กลุ่มผู้จะซื้อขอรายละเอียดจากบริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน)
ซึ่งเป็นผู้แนะนำ Mr. Ma Wah Yan ให้ติดต่อ Mr. Ma Wah Yan ขอชื่อของกลุ่มผู้จะซื้อ
และหากบริษัทฯ ได้รับข้อมูลดังกล่าวจาก บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน)
แล้ว บริษัทฯ จะดำเนินการแจ้งข้อมูลดังกล่าวมายัง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เชื่อว่ากลุ่มผู้จะซื้อเป็นกลุ่มบุคคลที่ลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ
รวมทั้งธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม จึงมีเทคโนโลยีและความรู้ความสามารถ
รวมทั้ง Know ?How ที่จะสามารถนำมาใช้ ในธุรกิจของบริษัทฯได้ ต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายตัน ภาสกรนที)
ประธานกรรมการ
ถ้าเชื่อข่าวที่แจ้งตลาด ก็แสดงว่าคุณตันยังไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ซื้อที่แท้จริง แล้วรู้ได้อย่างไรว่าจะช่วยเสริมจุดแข็งให้แก่บริษัทได้
จริงหรือที่คุณจะขายหุ้นของบริษัทที่คุณสร้างมากับมือ สร้างชื่อเสียงให้คุณมากมาย โดยที่คุณยังถือหุ้นอีก 10% และบริหารต่ออีก 5 ปี โดยที่คุณไม่รู้ว่าคนซื้อเป็นใคร
ใครเชื่อก็คงเพิ่งศึกษาตลาดหลักทรัพย์มั๊งครับ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เรื่อง แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขายหุ้นของนายตัน ภาสกรนที
อ้างถึง คำสั่งของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันที่ 16 ธันวาคม 2548
ให้บริษัทฯ ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดของกลุ่มผู้จะซื้อ
ตามหนังสือที่อ้างถึงบริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ขอเรียนว่าบริษัท
จะใช้ความพยายามอย่างยิ่งในการที่จะให้นายตัน ภาสกรนที ในฐานะผู้จะขายหุ้น
ให้แก่กลุ่มผู้จะซื้อขอรายละเอียดจากบริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน)
ซึ่งเป็นผู้แนะนำ Mr. Ma Wah Yan ให้ติดต่อ Mr. Ma Wah Yan ขอชื่อของกลุ่มผู้จะซื้อ
และหากบริษัทฯ ได้รับข้อมูลดังกล่าวจาก บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน)
แล้ว บริษัทฯ จะดำเนินการแจ้งข้อมูลดังกล่าวมายัง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เชื่อว่ากลุ่มผู้จะซื้อเป็นกลุ่มบุคคลที่ลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ
รวมทั้งธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม จึงมีเทคโนโลยีและความรู้ความสามารถ
รวมทั้ง Know ?How ที่จะสามารถนำมาใช้ ในธุรกิจของบริษัทฯได้ ต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายตัน ภาสกรนที)
ประธานกรรมการ
ถ้าเชื่อข่าวที่แจ้งตลาด ก็แสดงว่าคุณตันยังไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ซื้อที่แท้จริง แล้วรู้ได้อย่างไรว่าจะช่วยเสริมจุดแข็งให้แก่บริษัทได้
จริงหรือที่คุณจะขายหุ้นของบริษัทที่คุณสร้างมากับมือ สร้างชื่อเสียงให้คุณมากมาย โดยที่คุณยังถือหุ้นอีก 10% และบริหารต่ออีก 5 ปี โดยที่คุณไม่รู้ว่าคนซื้อเป็นใคร
ใครเชื่อก็คงเพิ่งศึกษาตลาดหลักทรัพย์มั๊งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
ผมฟังคุณตันให้สัมภาษณ์ แล้วรู้สึกแปลกๆ
โพสต์ที่ 6
ถ้างานนี้เป็นรายการต้มหมู มันก็ออกจะเกินไปหน่อยนะ คนที่มีคนยกย่องเป็น Role-Model ขนาดคุณตันจะคิดสั้นมาปั่นหุ้นด้วยข่าว แล้วสุดท้ายคนก็จะรู้ความจริงกันหมดด้วย Oh Yeah....
ตอนนี้ผมก็เริ่มงงๆ ไม่เข้าใจว่าเกิดขึ้นได้ไง แล้วไหงข้อมูลมันแปลกๆแบบนี้
-__-
เอาไงดีหว่า...
ตอนนี้ผมก็เริ่มงงๆ ไม่เข้าใจว่าเกิดขึ้นได้ไง แล้วไหงข้อมูลมันแปลกๆแบบนี้
-__-
เอาไงดีหว่า...
I do not sleep. I dream.
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ผมฟังคุณตันให้สัมภาษณ์ แล้วรู้สึกแปลกๆ
โพสต์ที่ 9
Why?Zeculu เขียน:Achtung!!

http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ