คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 391
ขอบคุณทั้งพี่ปรัชญาและคุณTKครับ
รู้ไหมครับ ผมชอบลงทุนในหุ้นตรงไหน
ก็ตรงที่
ให้คนสิบคนมาดูธุรกิจเดียวกัน
มุมมองต่อธุรกิจจะเป็นสิบแบบครับ
แถมได้มูลค่ากิจการอีกสิบค่า
มันสนุกไหมละครับ
ผมไม่ได้บอกว่ามุมมองธุรกิจของผมถูกนะครับ
ที่คุณ TK เล่ามาก็มีเหตุผล
และผมก็ไม่คิดว่าคุณ TK คิดผิดด้วย
ต้องขอบคุณคุณ TK ครับ
ที่ให้มุมมองอีกด้านของธุรกิจ
อย่างที่ผมเคยบอกไว้ว่า
ผมไม่ชอบบอกหุ้นใคร
ก็เพราะมุมมองต่อธุรกิจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
มูลค่ากิจการที่หาได้ก็จะต่างกันแน่นอน
ผมว่าดี ท่านอื่นอาจจะบอกว่าไม่ดีก็ได้
ดังนั้น ผมก็จะสรุปเหมือนเดิมอยู่ดีว่า
เราจะลงทุนในธุรกิจอะไร
เราต้องเข้าใจในธุรกิจนั้นจริงๆครับ
อ้อ.....วันนี้ไปแถวสระบุรีมา
แวะปั๊มเจ๊ท
เพื่อนผมที่ชอบอุดหนุนบ้านไร่ไปด้วยครับ
พอทำธุระเสร็จ
ผมก็ถามว่า "วันนี้ไม่ทานกาแฟบ้านไร่เหรอ"
เขาตอบว่า "ไม่ล่ะ เดี๋ยวนี้แพงเกินไป แก้วละ 80 แน่ะ ไม่กินแล้ว"
ผมก็อมยิ้ม นึกถึงพี่ปรัชญาขึ้นมาทันที
ฮิ ฮิ
ส่วนตัวผมมองว่า
คนเข้าปั๊มเจ๊ทเพราะห้องน้ำและมินิมาร์ทครับ
ส่วนกาแฟเป็นของแถม
ผมสมมุติเล่นๆแล้วกันครับ
ว่าสัญญาระหว่างบ้านไร่กับเจ๊ทหมดลงวันนี้
พรุ่งนี้ไม่มีบ้านไร่ในปั๊มเจ๊ทอีกต่อไป
ถามว่าคนจะยังเข้าเจ๊ทอยู่หรือไม่
ผมบอกได้เลยว่าเจ๊ทก็ยังมีลูกค้าอยู่
แต่คนที่เสียหายคือบ้านไร่ครับ
เพราะเหลือสาขาเดียว ที่เอกมัย
ผมมองว่าอำนาจต่อรองอยู่ที่เจ๊ทครับ ไม่ได้อยู่ที่บ้านไร่
ลองสังเกตุดูนะครับ
เจ๊ทบางปั๊มที่ไม่มีบ้านไร่
แถมเปิดใกล้ปั๊มยี่ห้ออื่นๆ
คนก็ยังเข้าเจ๊ทตรึม
ไม่ได้มีอคตินะครับ
ผมอธิบายบริษัทนี้ได้ครับ
เพราะผมพอเข้าใจในธุรกิจเกี่ยวกับปั๊มน้ำมัน
ถ้าเป็นบริษัทอื่น ผมอาจจะบอกไม่ได้ก็ได้ครับ
แต่ทั้งหมดนี่เป็นมุมมองของผมคนเดียวครับ
อย่าเชื่อใครนอกจากตัวท่านเองนะครับ
โชคดีในการลงทุนครับ
รู้ไหมครับ ผมชอบลงทุนในหุ้นตรงไหน
ก็ตรงที่
ให้คนสิบคนมาดูธุรกิจเดียวกัน
มุมมองต่อธุรกิจจะเป็นสิบแบบครับ
แถมได้มูลค่ากิจการอีกสิบค่า
มันสนุกไหมละครับ
ผมไม่ได้บอกว่ามุมมองธุรกิจของผมถูกนะครับ
ที่คุณ TK เล่ามาก็มีเหตุผล
และผมก็ไม่คิดว่าคุณ TK คิดผิดด้วย
ต้องขอบคุณคุณ TK ครับ
ที่ให้มุมมองอีกด้านของธุรกิจ
อย่างที่ผมเคยบอกไว้ว่า
ผมไม่ชอบบอกหุ้นใคร
ก็เพราะมุมมองต่อธุรกิจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
มูลค่ากิจการที่หาได้ก็จะต่างกันแน่นอน
ผมว่าดี ท่านอื่นอาจจะบอกว่าไม่ดีก็ได้
ดังนั้น ผมก็จะสรุปเหมือนเดิมอยู่ดีว่า
เราจะลงทุนในธุรกิจอะไร
เราต้องเข้าใจในธุรกิจนั้นจริงๆครับ
อ้อ.....วันนี้ไปแถวสระบุรีมา
แวะปั๊มเจ๊ท
เพื่อนผมที่ชอบอุดหนุนบ้านไร่ไปด้วยครับ
พอทำธุระเสร็จ
ผมก็ถามว่า "วันนี้ไม่ทานกาแฟบ้านไร่เหรอ"
เขาตอบว่า "ไม่ล่ะ เดี๋ยวนี้แพงเกินไป แก้วละ 80 แน่ะ ไม่กินแล้ว"
ผมก็อมยิ้ม นึกถึงพี่ปรัชญาขึ้นมาทันที
ฮิ ฮิ
ส่วนตัวผมมองว่า
คนเข้าปั๊มเจ๊ทเพราะห้องน้ำและมินิมาร์ทครับ
ส่วนกาแฟเป็นของแถม
ผมสมมุติเล่นๆแล้วกันครับ
ว่าสัญญาระหว่างบ้านไร่กับเจ๊ทหมดลงวันนี้
พรุ่งนี้ไม่มีบ้านไร่ในปั๊มเจ๊ทอีกต่อไป
ถามว่าคนจะยังเข้าเจ๊ทอยู่หรือไม่
ผมบอกได้เลยว่าเจ๊ทก็ยังมีลูกค้าอยู่
แต่คนที่เสียหายคือบ้านไร่ครับ
เพราะเหลือสาขาเดียว ที่เอกมัย
ผมมองว่าอำนาจต่อรองอยู่ที่เจ๊ทครับ ไม่ได้อยู่ที่บ้านไร่
ลองสังเกตุดูนะครับ
เจ๊ทบางปั๊มที่ไม่มีบ้านไร่
แถมเปิดใกล้ปั๊มยี่ห้ออื่นๆ
คนก็ยังเข้าเจ๊ทตรึม
ไม่ได้มีอคตินะครับ
ผมอธิบายบริษัทนี้ได้ครับ
เพราะผมพอเข้าใจในธุรกิจเกี่ยวกับปั๊มน้ำมัน
ถ้าเป็นบริษัทอื่น ผมอาจจะบอกไม่ได้ก็ได้ครับ
แต่ทั้งหมดนี่เป็นมุมมองของผมคนเดียวครับ
อย่าเชื่อใครนอกจากตัวท่านเองนะครับ
โชคดีในการลงทุนครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 392
พี่Chatchaiครับ
สงสัย FCF ที่ผมใช้คงมีข้อผิดพลาดเยอะ
คราวนี้ต้องรบกวนพี่ตอบคำถามของคุณมน
เป็นวิทยาทานแล้วละครับ
เพื่อแสดงให้เห็นว่า
FCF ตามแบบฉบับของพี่มาจากไหน
ผมแปลคำถามของคุณมนกับพี่เจ๋งแบบนี้แล้วกันครับ
พี่Chatchai ช่วยแสดงให้เห็นด้วยครับ
ว่าการคำนวณ FCF ของ APRINT
ในรอบบัญชีปี 2002 ทำอย่างไร
รบกวนด้วยครับ
สงสัย FCF ที่ผมใช้คงมีข้อผิดพลาดเยอะ
คราวนี้ต้องรบกวนพี่ตอบคำถามของคุณมน
เป็นวิทยาทานแล้วละครับ
เพื่อแสดงให้เห็นว่า
FCF ตามแบบฉบับของพี่มาจากไหน
ผมแปลคำถามของคุณมนกับพี่เจ๋งแบบนี้แล้วกันครับ
พี่Chatchai ช่วยแสดงให้เห็นด้วยครับ
ว่าการคำนวณ FCF ของ APRINT
ในรอบบัญชีปี 2002 ทำอย่างไร
รบกวนด้วยครับ
- ปรัชญา1
- Verified User
- โพสต์: 1092
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 396

ผมว่าปั๊มเจ็ท เขามาตรฐานเดียวกันหมดนะครับ
ผมขับรถเดินทางทุกอาทิตย์
เอาที่ใกล้ๆตัวจะดีกว่า
ปั๊มเจ็ทขอนแก่น มี4สาขา
มีปั๊มเจ็ทสาขาเดียวที่มีบ้านไร่กาแฟใกล้ๆบ้านผม
ชีวิตกรรมกรอย่างรายได้วันละ125บาทหมดสิทธิ์กินครับ
ชีวิตผมก็ไม่ได้กินเหมือนกัน
กินแบรนด์ กินคาราบาวล่ะพอไหวครับ
มีสารอาหารและประโยชน์ กาแฟไม่กล้ากินครับกลัวอัลไซเมอร์
เลิกคิดดีกว่า มันไม่เหมาะกับชีวิตเราเลย
แต่มีปั๊มหนึ่งที่น่าแนะนำคือ ปั๊ม PTT ที่อำเภอบ้านไผ่
มีร้านเซฟเว่นด้วย มีห้องน้ำที่ให้คนพิการเข็นรถเข้าโดยเฉพาะ
ถ้าห้องน้ำปกติของปั๊ม ไม่ว่าชายหรือหญิงจะเข้า
ต้องเปลี่ยนรองเท้าของทางปั๊มถึงให้เข้าครับ
มีแม่บ้าน3คนนั่งเฝ้าตลอด ถ้าใครมีโอกาสผ่านมาลองพิสูจน์ได้ครับ
ส่วนผมก็ไปมาเกือบครึ่งประเทศแล้วภาคอีสาน17จังหวัดและภาคเหนือและไทางพัทยาถึงตราด สายใต้ก็ไปถึงจังหวัดประจวบฯ
ก็ยังไม่เคยเห็นปั๊มอย่างนี้นี่เป็นการขับรถไปเองครับ
ส่วนไปนำเที่ยวกับทัวร์ก็ไม่เล่าล่ะมันจะไปถึงภูเก็ต
แต่ก็ยังติดใจตะหงิดๆว่า บ้านไร่กาแฟจะเป็นรอยเน็ท2ไหมน้อ
ขอออกตัวก่อนว่า....ไม่ได้มีเจตนาหรืออคติต่อหุ้นเขานะครับ
เพียงเสนอแค่ความคิดเห็นที่ได้เจอมา เคยเข้าที่ปั๊มเจ็ทหน้าหมู่บ้าน
แถวบางใหญ่อยู่ และที่พัทยา โคราช สระบุรี
ถ้านับจริงคงกว่า15สาขาครับ
ซึ่งท่านอื่นเห็นอย่างไรก็เล่ากันไปครับ
ฝันถึง วัน ฟ้าสวย...... อยากร่ำรวย-ด้วยเล่นหุ้น
ฝัน เป็น นักลงทุน..... ลุ้นความหวัง-ความตั้งใจ
ฝัน เป็น นักลงทุน..... ลุ้นความหวัง-ความตั้งใจ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1011
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 397
มาแสดงความดีใจด้วยคนครับ
ถึงแม้ว่าไม่ได้ contribute มากในกระทู้
แต่ก็ดีใจในฐานะผู้ตั้งกระทู้ครับ
เห็นด้วยกะคุณเจ๋งว่า
การอ่านมากกว่า 10,000 ครั้งในหนึ่งกระทู้ ไม่ธรรมดา
ต้องให้เครดิตหลายๆ ท่านโดยเฉพาะ คุณวิบูลย์ คุณมน คุณเจ๋ง คุณchatchai
พี่ปรัชญา คุณPP และอีกหลายท่านในห้องนี้
เชื่อว่าหลายคนคงได้ประโยชน์การกระทู้นี้
รวมทั้งตัวผมเองด้วย... ขอให้เป็นเป็นกระทู้ยอดฮิตตลอดกาลครับ

ถึงแม้ว่าไม่ได้ contribute มากในกระทู้
แต่ก็ดีใจในฐานะผู้ตั้งกระทู้ครับ
เห็นด้วยกะคุณเจ๋งว่า
การอ่านมากกว่า 10,000 ครั้งในหนึ่งกระทู้ ไม่ธรรมดา
ต้องให้เครดิตหลายๆ ท่านโดยเฉพาะ คุณวิบูลย์ คุณมน คุณเจ๋ง คุณchatchai
พี่ปรัชญา คุณPP และอีกหลายท่านในห้องนี้
เชื่อว่าหลายคนคงได้ประโยชน์การกระทู้นี้
รวมทั้งตัวผมเองด้วย... ขอให้เป็นเป็นกระทู้ยอดฮิตตลอดกาลครับ


-
- Verified User
- โพสต์: 53
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 399
มาแสดงความยินดีด้วยคนค่ะ แม้จะไม่ได้ตั้ง ไม่ได้ตอบ ( เพราะ ภูมิ และ ปัญญา มีไม่ถึง ) แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มาถึงยอด 10,000 เพราะเปิดอ่านทุกวัน บางวันมากกว่า 1 ครั้ง
ยินดีด้วยค่ะ

ยินดีด้วยค่ะ
Tough Time Never Last
But
Tough People Do
But
Tough People Do
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 400
คุณฉัตรชัยย้ายมาอยู่ใกล้ๆกันอย่างนี้ได้คุยกันสนุกแน่ๆเลย ตอนเย็นๆค่ำๆผมจะเหงามาก ไม่มีคนให้ผมคุยด้วยเลย พอภรรยากลับมาก็ไปบ้านแม่ยายที่อยู่ใกล้ๆกัน แม่ลูกเขาคุยกัน เราไม่รู้จะคุยกับใคร เพราะคุยก็ไม่มีใครรู้เรื่อง อยู่ใกล้ๆกันอย่างนี้ก็จะได้ไม่เหงาครับ หาโอกาสคุยกันได้บ่อยๆ
--------------------------------------------------------------------------------------
สำหรับเรื่องFCF บางครั้งหากมีเวลาผมจะพยายามทำอย่างละเอียด แต่บางครั้งผมทำแบบง่ายๆ โดยใช้หลักการของ Owner's Earning คือ Net Income + Drepre& Amort. - Capex ครับ ง่ายดี ถึงจะไม่ถูกต้องซะทีเดียวแต่ก็ไม่ผิดอย่างมากมายครับ
--------------------------------------------------------------------------------------
ผมกลับมานึกได้ว่าEPV เราควรต้องใช้ Distributable Earning หรือกำไรที่สามารถกระจายสู่เจ้าของได้จริงๆในการหา ค่าEPVใช่ไหมครับคุณวิบูลย์ ถ้าใช่ผมจะลองหาของWGมาคำนวณดูนะครับ เพราะผมไม่มีส่วนได้เสีย และให้คุณฉัตรชัยหาFCFของAPRINTดีไหมครับ
--------------------------------------------------------------------------------------
สำหรับเรื่องFCF บางครั้งหากมีเวลาผมจะพยายามทำอย่างละเอียด แต่บางครั้งผมทำแบบง่ายๆ โดยใช้หลักการของ Owner's Earning คือ Net Income + Drepre& Amort. - Capex ครับ ง่ายดี ถึงจะไม่ถูกต้องซะทีเดียวแต่ก็ไม่ผิดอย่างมากมายครับ
--------------------------------------------------------------------------------------
ผมกลับมานึกได้ว่าEPV เราควรต้องใช้ Distributable Earning หรือกำไรที่สามารถกระจายสู่เจ้าของได้จริงๆในการหา ค่าEPVใช่ไหมครับคุณวิบูลย์ ถ้าใช่ผมจะลองหาของWGมาคำนวณดูนะครับ เพราะผมไม่มีส่วนได้เสีย และให้คุณฉัตรชัยหาFCFของAPRINTดีไหมครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 401
ขอบคุณทุกท่านครับที่ให้กำลังใจ
พี่ลินดา
ไม่ต้องกลัวนะครับ
คิดเห็นอย่างไร โพสเข้ามาได้เลยครับ
ที่นี่ต้อนรับทุกคนอยู่แล้ว
ยิ่งเห็นค้านๆกัน ผมยิ่งชอบครับ
เพราะโลกนี้เจริญได้ก็เพราะความแตกต่างนี่หละครับ
ไม่งั้นคงไม่มีคนบ้าสร้างรถยนต์ เครื่องบินให้เราได้ใช้
ไม่งั้นป่านนี้เราก็คงต้องใช้"เกวียน"กันอยู่แน่ๆเลย
โพสเข้ามาเลยนะครับ
ขอบคุณคุณธันวา "เจ้าของกระทู้" ตัวจริงเสียงจริง
บอกตรงๆว่า ถ้าคุณธันวาไม่เอาชื่อผมเป็นกระทู้
ผมก็คงไม่โพสอะไรในเวปแน่นอน(เพราะขี้อายครับ)
ตอนนี้รู้สึกว่าคุณธันวาจะเอาภาระหนักมาให้ผม
เพราะผมต้องขวนขวายหาความรู้
มานำเสนอให้ทุกท่าน (จริงๆกลัวหมดภูมิ)
แต่อยากบอกว่า ผมก็จะอยู่ทีนี่
จนกว่าจะเบื่อกันไปข้างนึงละครับ
ส่วนเรื่องที่พี่ปรัชญาถามเรื่องปั๊มน้ำมัน
ผมแนะนำปั๊มเชลล์ที่สาขาจอหอครับ
จากโคราชมาขอนแก่น หลังบายพาส
เป็นรูปลักษณ์ใหม่ มีห้องน้ำคนพิการด้วยครับ
ทางชลบุรีก็มีหลายตัวครับ
ลองดูหน่อยก็ดีนะครับ ไม่รู้ว่าแข่งกับเจ๊ทได้หรือเปล่า?
ส่วนเรื่องรายละเอียดของ FCF และ DCF
ผมต้องหลบให้พี่ Chatchai ครับ
เอางี้ไหมครับ
ก็ให้คุณMon หา FCF ของ Aprint
และพี่Chatchai ก็หา FCF ของ Aprint
ส่วนผมและพี่เจ๋งก็หา FCF ของ Aprint
เพื่อมาดูว่าจะต่างกันตรงไหนบ้าง
ที่เป็น Aprint เพราะผมชอบอ่านหนังสือในเครืออมรินทร์นะครับ
ไม่มีอะไรมากกว่านั้น
และอีกอย่าง...อยากหามูลค่าที่แท้จริงของAprintน่ะ
ไม่ว่ากันนะครับ คุณมน
การหา FCF ของผมใช้สูตร
FCF=Operating Cashflow-Capital Employed ครับ
ถึงแม้จะมีปัญหาเรื่อง Working Capital
แต่ถ้าหาค่านี้หลายๆปีย้อนหลังจะช่วยลดปัญหาตรงนี้ได้ครับ
หลังจากนั้นค่อยลุย DCF ครับ
ถ้ายังหา FCF ยังไม่ได้
DCFก็ไม่มีความหมายครับ
เอ้า.....ต่างคนต่างทำการบ้านแล้วมาว่ากันใหม่ครับ
ท่านอื่นลองดูด้วยก็ดีนะครับ
ใครได้เท่าไหร่เอามาคุยกันเลยครับ
พี่ลินดา
ไม่ต้องกลัวนะครับ
คิดเห็นอย่างไร โพสเข้ามาได้เลยครับ
ที่นี่ต้อนรับทุกคนอยู่แล้ว
ยิ่งเห็นค้านๆกัน ผมยิ่งชอบครับ
เพราะโลกนี้เจริญได้ก็เพราะความแตกต่างนี่หละครับ
ไม่งั้นคงไม่มีคนบ้าสร้างรถยนต์ เครื่องบินให้เราได้ใช้
ไม่งั้นป่านนี้เราก็คงต้องใช้"เกวียน"กันอยู่แน่ๆเลย
โพสเข้ามาเลยนะครับ
ขอบคุณคุณธันวา "เจ้าของกระทู้" ตัวจริงเสียงจริง
บอกตรงๆว่า ถ้าคุณธันวาไม่เอาชื่อผมเป็นกระทู้
ผมก็คงไม่โพสอะไรในเวปแน่นอน(เพราะขี้อายครับ)
ตอนนี้รู้สึกว่าคุณธันวาจะเอาภาระหนักมาให้ผม
เพราะผมต้องขวนขวายหาความรู้
มานำเสนอให้ทุกท่าน (จริงๆกลัวหมดภูมิ)
แต่อยากบอกว่า ผมก็จะอยู่ทีนี่
จนกว่าจะเบื่อกันไปข้างนึงละครับ
ส่วนเรื่องที่พี่ปรัชญาถามเรื่องปั๊มน้ำมัน
ผมแนะนำปั๊มเชลล์ที่สาขาจอหอครับ
จากโคราชมาขอนแก่น หลังบายพาส
เป็นรูปลักษณ์ใหม่ มีห้องน้ำคนพิการด้วยครับ
ทางชลบุรีก็มีหลายตัวครับ
ลองดูหน่อยก็ดีนะครับ ไม่รู้ว่าแข่งกับเจ๊ทได้หรือเปล่า?
ส่วนเรื่องรายละเอียดของ FCF และ DCF
ผมต้องหลบให้พี่ Chatchai ครับ
เอางี้ไหมครับ
ก็ให้คุณMon หา FCF ของ Aprint
และพี่Chatchai ก็หา FCF ของ Aprint
ส่วนผมและพี่เจ๋งก็หา FCF ของ Aprint
เพื่อมาดูว่าจะต่างกันตรงไหนบ้าง
ที่เป็น Aprint เพราะผมชอบอ่านหนังสือในเครืออมรินทร์นะครับ
ไม่มีอะไรมากกว่านั้น
และอีกอย่าง...อยากหามูลค่าที่แท้จริงของAprintน่ะ
ไม่ว่ากันนะครับ คุณมน
การหา FCF ของผมใช้สูตร
FCF=Operating Cashflow-Capital Employed ครับ
ถึงแม้จะมีปัญหาเรื่อง Working Capital
แต่ถ้าหาค่านี้หลายๆปีย้อนหลังจะช่วยลดปัญหาตรงนี้ได้ครับ
หลังจากนั้นค่อยลุย DCF ครับ
ถ้ายังหา FCF ยังไม่ได้
DCFก็ไม่มีความหมายครับ
เอ้า.....ต่างคนต่างทำการบ้านแล้วมาว่ากันใหม่ครับ
ท่านอื่นลองดูด้วยก็ดีนะครับ
ใครได้เท่าไหร่เอามาคุยกันเลยครับ
- tk
- Verified User
- โพสต์: 343
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 402
สงสัยผมต้องใส่ชื่อคุณวิบูลย์ไว่ทุกกระทู้แล้วสิ จะได้หมดสิทธิ ปฏิเสธVIB007 เขียน:ขอบคุณทุกท่านครับที่ให้กำลังใจ
ขอบคุณคุณธันวา "เจ้าของกระทู้" ตัวจริงเสียงจริง
บอกตรงๆว่า ถ้าคุณธันวาไม่เอาชื่อผมเป็นกระทู้
ผมก็คงไม่โพสอะไรในเวปแน่นอน(เพราะขี้อายครับ)
ตอนนี้รู้สึกว่าคุณธันวาจะเอาภาระหนักมาให้ผม
เพราะผมต้องขวนขวายหาความรู้
มานำเสนอให้ทุกท่าน (จริงๆกลัวหมดภูมิ)
แต่อยากบอกว่า ผมก็จะอยู่ทีนี่
จนกว่าจะเบื่อกันไปข้างนึงละครับ
ใครได้เท่าไหร่เอามาคุยกันเลยครับ

-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 403
เออ.....ผมหมายถึงตอนเริ่มต้นแรกๆนะครับ
ผมมาอ่านใน TVI แต่ไม่เคยคิดจะโพสเลย
จนคุณธันวาถามมา
แต่ตอนนี้ คุณTK อย่าทรมาณผมเลยครับ
แค่กระทู้เดียวผมก็จะแย่แล้ว
อย่าเอาชื่อผมไปตั้งอีกเลย
มีอะไรก็มาคุยกันในกระทู้นี้เถอะครับ
พี่ๆน้องๆจะได้อ่านที่เดียวให้เข้าใจ
แต่...ถามนิดนึง
คุณ TK ยังทานกาแฟบ้านไร่อยู่หรือเปล่าครับ
อิจฉาบ้านไร่ที่มีลูกค้าดีๆแบบนี้นะครับ
ฮิ ฮิ
ผมมาอ่านใน TVI แต่ไม่เคยคิดจะโพสเลย
จนคุณธันวาถามมา
แต่ตอนนี้ คุณTK อย่าทรมาณผมเลยครับ
แค่กระทู้เดียวผมก็จะแย่แล้ว
อย่าเอาชื่อผมไปตั้งอีกเลย
มีอะไรก็มาคุยกันในกระทู้นี้เถอะครับ
พี่ๆน้องๆจะได้อ่านที่เดียวให้เข้าใจ
แต่...ถามนิดนึง
คุณ TK ยังทานกาแฟบ้านไร่อยู่หรือเปล่าครับ
อิจฉาบ้านไร่ที่มีลูกค้าดีๆแบบนี้นะครับ
ฮิ ฮิ
- tk
- Verified User
- โพสต์: 343
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 404
คุณวิบูลย์ลองแวะไปที่เอกมัยสิครับ ถือว่าเป็นไซท์เซอร์เวย์ได้ ขนาดตอนดึกๆ คนยังเยอะเลย สามารถจะเป็นที่มีตติ้งเล็กๆได้นะ
ผมเคยเลิกคบเขาตอนที่ขึ้นราคาใหม่ๆ อย่างที่บอก หาอะไรแทนไม่ได้ก็เลยต้องหันกลับไปคบใหม่ ผมขับรถทางไกลกลางคืนบ่อยก็เลยต้องพึ่งกาแฟ ไม่กล้ากินบาวแดงเหมือนที่ปรัชญา กลัวหัวใจเต้นออกมาข้างนอก
ผมก็เป็นแฟนตัวจริงกระทู้นี้นะ ขอให้กำลังใจทุกท่านที่ช่วยกันสร้างกระทู้คุณภาพครับ
ผมเคยเลิกคบเขาตอนที่ขึ้นราคาใหม่ๆ อย่างที่บอก หาอะไรแทนไม่ได้ก็เลยต้องหันกลับไปคบใหม่ ผมขับรถทางไกลกลางคืนบ่อยก็เลยต้องพึ่งกาแฟ ไม่กล้ากินบาวแดงเหมือนที่ปรัชญา กลัวหัวใจเต้นออกมาข้างนอก
ผมก็เป็นแฟนตัวจริงกระทู้นี้นะ ขอให้กำลังใจทุกท่านที่ช่วยกันสร้างกระทู้คุณภาพครับ
- tk
- Verified User
- โพสต์: 343
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 405
ของฝากถึงคุณวิบูลย์และพี่ปรัชญาครับ
นักวิทยาศาสตร์เมืองกาแฟอ้างว่า กาแฟมีคุณประโยชน์ช่วยเพิ่มพลังเพศของบุรุษ ผู้ชายที่เป็นคอกาแฟจะมีพลังเพศเข้มแข็ง เหนือกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มกาแฟ
นักวิจัยมหาวิทยาลัยเซาเปาโลของบราซิล ได้บรรยายสรรพคุณของกาแฟ ในที่ประชุมของแพทย์สมาคมสหรัฐฯว่า การดื่มกาแฟไม่แต่เพียงช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นเท่านั้น หากยังช่วยเพิ่มพลังเพศของบุรุษที่ดื่มกาแฟวันละ 2-3 ถ้วย อยู่ประจำขึ้นได้อีกด้วย ช่วยให้ตัวอสุจิมีความคล่องแคล่วว่องไว มีโอกาสผสมกับไข่ของสตรีให้สูงขึ้น
นักวิจัยเมืองกาแฟกล่าวว่า ได้ความรู้จากการศึกษาวิจัยตัวอย่างน้ำกามของคอกาแฟผู้ชาย ที่มาขอรับทำหมัน ที่สถานพยาบาลของมหาวิทยาลัย จำนวน 750 คน ทราบว่าตัวอสุจิของพวกคอกาแฟมักแข็งแรงกว่าของคนที่ไม่ดื่มกาแฟ ผิดกับพวกคอกัญชาที่เพิ่งพบในการศึกษาไปเมื่อไม่นานมานี้ว่า กัญชามีพิษกับตัวอสุจิ ทำให้มันอ่อนแอลง
พร้อมกันนั้นโฆษกของศูนย์ข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ของกาแฟในสหรัฐฯ ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า "ผลการศึกษาเรื่องนี้ นับว่าน่าตื่นเต้นมาก เพราะหากว่าตัวอสุจิไม่ค่อยได้แหวกว่าย มันก็ชักเกียจคร้านกันมากขึ้น ไปไม่ทันถึงไหนก็เลิกเสียแล้ว แต่ดูเหมือนคาเฟอีนจะมีฤทธิ์ช่วยเร่งมัน ให้รีบแหวกว่ายให้เร็วขึ้นได้".



นักวิทยาศาสตร์เมืองกาแฟอ้างว่า กาแฟมีคุณประโยชน์ช่วยเพิ่มพลังเพศของบุรุษ ผู้ชายที่เป็นคอกาแฟจะมีพลังเพศเข้มแข็ง เหนือกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มกาแฟ
นักวิจัยมหาวิทยาลัยเซาเปาโลของบราซิล ได้บรรยายสรรพคุณของกาแฟ ในที่ประชุมของแพทย์สมาคมสหรัฐฯว่า การดื่มกาแฟไม่แต่เพียงช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นเท่านั้น หากยังช่วยเพิ่มพลังเพศของบุรุษที่ดื่มกาแฟวันละ 2-3 ถ้วย อยู่ประจำขึ้นได้อีกด้วย ช่วยให้ตัวอสุจิมีความคล่องแคล่วว่องไว มีโอกาสผสมกับไข่ของสตรีให้สูงขึ้น
นักวิจัยเมืองกาแฟกล่าวว่า ได้ความรู้จากการศึกษาวิจัยตัวอย่างน้ำกามของคอกาแฟผู้ชาย ที่มาขอรับทำหมัน ที่สถานพยาบาลของมหาวิทยาลัย จำนวน 750 คน ทราบว่าตัวอสุจิของพวกคอกาแฟมักแข็งแรงกว่าของคนที่ไม่ดื่มกาแฟ ผิดกับพวกคอกัญชาที่เพิ่งพบในการศึกษาไปเมื่อไม่นานมานี้ว่า กัญชามีพิษกับตัวอสุจิ ทำให้มันอ่อนแอลง
พร้อมกันนั้นโฆษกของศูนย์ข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ของกาแฟในสหรัฐฯ ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า "ผลการศึกษาเรื่องนี้ นับว่าน่าตื่นเต้นมาก เพราะหากว่าตัวอสุจิไม่ค่อยได้แหวกว่าย มันก็ชักเกียจคร้านกันมากขึ้น ไปไม่ทันถึงไหนก็เลิกเสียแล้ว แต่ดูเหมือนคาเฟอีนจะมีฤทธิ์ช่วยเร่งมัน ให้รีบแหวกว่ายให้เร็วขึ้นได้".
- ปรัชญา1
- Verified User
- โพสต์: 1092
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 406
tk เขียน:ของฝากถึงคุณวิบูลย์และพี่ปรัชญาครับ![]()
![]()
![]()
นักวิทยาศาสตร์เมืองกาแฟอ้างว่า กาแฟมีคุณประโยชน์ช่วยเพิ่มพลังเพศของบุรุษ ผู้ชายที่เป็นคอกาแฟจะมีพลังเพศเข้มแข็ง เหนือกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มกาแฟ
นักวิจัยมหาวิทยาลัยเซาเปาโลของบราซิล ได้บรรยายสรรพคุณของกาแฟ ในที่ประชุมของแพทย์สมาคมสหรัฐฯว่า การดื่มกาแฟไม่แต่เพียงช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นเท่านั้น หากยังช่วยเพิ่มพลังเพศของบุรุษที่ดื่มกาแฟวันละ 2-3 ถ้วย อยู่ประจำขึ้นได้อีกด้วย ช่วยให้ตัวอสุจิมีความคล่องแคล่วว่องไว มีโอกาสผสมกับไข่ของสตรีให้สูงขึ้น
นักวิจัยเมืองกาแฟกล่าวว่า ได้ความรู้จากการศึกษาวิจัยตัวอย่างน้ำกามของคอกาแฟผู้ชาย ที่มาขอรับทำหมัน ที่สถานพยาบาลของมหาวิทยาลัย จำนวน 750 คน ทราบว่าตัวอสุจิของพวกคอกาแฟมักแข็งแรงกว่าของคนที่ไม่ดื่มกาแฟ ผิดกับพวกคอกัญชาที่เพิ่งพบในการศึกษาไปเมื่อไม่นานมานี้ว่า กัญชามีพิษกับตัวอสุจิ ทำให้มันอ่อนแอลง
พร้อมกันนั้นโฆษกของศูนย์ข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ของกาแฟในสหรัฐฯ ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า "ผลการศึกษาเรื่องนี้ นับว่าน่าตื่นเต้นมาก เพราะหากว่าตัวอสุจิไม่ค่อยได้แหวกว่าย มันก็ชักเกียจคร้านกันมากขึ้น ไปไม่ทันถึงไหนก็เลิกเสียแล้ว แต่ดูเหมือนคาเฟอีนจะมีฤทธิ์ช่วยเร่งมัน ให้รีบแหวกว่ายให้เร็วขึ้นได้".

แต่คาเฟอีน ในกาแฟมากกว่าเครื่องดื่มชูกำลังนะครับ
ฝันถึง วัน ฟ้าสวย...... อยากร่ำรวย-ด้วยเล่นหุ้น
ฝัน เป็น นักลงทุน..... ลุ้นความหวัง-ความตั้งใจ
ฝัน เป็น นักลงทุน..... ลุ้นความหวัง-ความตั้งใจ
-
- Verified User
- โพสต์: 435
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 407
คุณ tk ผมขอแจมนอกเรื่อง...เรื่องกาแฟด้วยคนเพื่อว่าจะได้บรรเทาความตรึงเครียดจากการอ่านข้อมูลของบรรดาเซียนหุ้นกำลังปะหมัดให้ชมกันในกระทู้นี้ เอ๊ะ..ต้องในเรื่องซินะ...เพราะคุยกันเรื่องกาแฟบ้านไร่จะเข้าตลาดหุ้น โทษทีtk เขียน: >>> ผมเคยเลิกคบเขาตอนที่ขึ้นราคาใหม่ๆ อย่างที่บอก หาอะไรแทนไม่ได้ก็เลยต้องหันกลับไปคบใหม่ ผมขับรถทางไกลกลางคืนบ่อยก็เลยต้องพึ่งกาแฟ <<<
ผมอยากแนะนำให้คุณ tk ลองชิมกาแฟของ The Coffee Maker หากหาอะไรแทนไม่ได้ และคิดว่าราคากาแฟบ้านไร่แพงเกินคุณค่า ซึ่งเขาก็มี franchise อยู่หลายแห่งในกทม. เช่นที่เซ็นทรัลลาดพร้าว และเห็นเขาขาย franchise กระจายไปตามหัวเมือง แต่ไม่ได้เข้าตามปั๊มเหมือนกาแฟบ้านไร่ รสชาดเป็นอย่างไงบ้าง หากชิมแล้วติชมหน่อยก็แล้วกันนะครับว่าสู้กาแฟบ้านไร่ได้หรือเปล่า
ที่เชียร์เพราะผู้บริหารและหุ้นใหญ่เป็นน้องสาวของภรรยาผมเอง จบวิทยาศาสตร์การอาหารที่มหา'ลัยเกษตร ราว 20 ปีก่อน และมีประสบการณ์ด้านธุรกิจกาแฟตั้งแต่จบโดยทำงานอยู่กับ Ucc ควบคุมคุณภาพการผลิตกาแฟสด รับการอบรมและดูงานที่ญี่ปุ่น แล้วออกมาตั้งบริษัทดังกล่าว นอกจากนี้ก็เพิ่งจบ executive MBA จากจุฬา เมื่อ 2-3 ปีนี้เอง เรียนมาเพื่อมาบริหารธุรกิจ franchise ของ The Coffee Maker โดยเฉพาะ ที่บรรยายเสียยืดยาวเพราะต้องการท้าวความให้รู้พื้นฐาน จะได้มีความน่าเชื่อถือ ผมยังยุให้เขาแต่งตัวบริษัทให้ดีเพื่อเขาคลาดหลักทรัพย์ แต่ยังไม่ยอมเชื่อตามแรงยุ
ผมชิมของเขาอยู่บ่อยๆก็เห็นเข้าท่าดี ผมว่าพอฟัดพอเหวี่ยงกับ Starbuck แต่ราตาไม่แพงอย่างเขา ไม่ทราบจะคอเดียวกับคุณ tk หรือเปล่า หากเป็นที่ยอมรับในวงกว้างผมจะได้เอาหลักฐานจากกระทู้นี้ไปยุยงส่งเสริมให้เขาเข่นบริษัทเข้าตลาดหุ้นปะกบกับกาแฟบ้านไร่ให้รู้แล้วรู้รอด และชักชวนชาวสมาชิก TVI ไปจองซื้อหุ้นด้วยกัน เผื่อจะได้รวยด้วยกันไงล่ะครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 408
ขอบคุณคุณ TK ครับ
ที่ช่วยให้ผมได้รู้ประโยชน์
ของกาแฟเพิ่มมาอีกอย่าง
เห็นทีต้องไปปรึกษาที่บ้านว่า
จะอนุญาตให้ผมทานกาแฟหรือเปล่า ฮิ ฮิ
แต่เอ...ผมสงสัยอยู่อย่างนึงนะครับ
ประเทศบราซิลนี่ รู้สึกจะส่งออกกาแฟ
มากที่สุดในโลก ใช่มั๊ยครับ
ถ้าใช่ ผมว่าการวิจัยนี่อาจจะมี Bias นะครับ
เขาจะได้ขายกาแฟให้หนุ่มๆที่ไม่ดื่มกาแฟ
อย่างพี่ปรัชญาให้มากขึ้นไงครับ
.....เป็นไปได้หรือเปล่า อิ อิ
วันนี้ผมจะเลิกพูดถึงเรื่องเครียดๆสักหนึ่งวัน
ตามคำขอของพี่พีพี
ส่วนร้าน The Coffe Maker ของญาติพี่พีพีนี่
ผมเคยไปลองมาแล้วครับ
อยู่ที่ปั๊ม ปตท สระบุรี ขาเข้ากรุงเทพ แถวๆ กม.95
อยู่ในร้านขายของของปั๊ม
ผมไม่ได้ลองกาแฟครับ
สั่งแต่ชามะนาว
รู้สึกว่าราคาของเขาไม่แพง
กาแฟแก้วละ 35 บาทนะครับ
ถ้าจำไม่ผิด
แต่ที่ต่างจาก Starbuck แน่ๆก็คือ
คนขายครับ
ถ้าไปStarbuck จะพบคนขายหน้าตาจิ้มลิ้ม
ใส่เอี้ยมสีเขียวชงกาแฟ ทอนเงินอย่างรวดเร็ว
แต่ที่The Coffe Maker ที่ผมไปแวะมา
ผมไม่เห็นคนขายครับ
หันซ้ายหันขวา
ไปเจอน้องลูกหมูใส่เสื้อยืดตัวโคร่งๆ
ยืนเม้ากับแคชเชียร์ของร้านมินิมาร์ตอยู่
ดูแล้วท่าทางน่ากลัว
ผมไม่รู้จะทำอย่างไรดี
จะเรียกก็ไม่กล้า กลัวน้องเขาจะดุเอา
เลยทำเป็นด้อมๆมองๆดูเครื่องทำกาแฟอยู่หน้าเคาเตอร์
สักพักน้องลูกหมูก็เดินมาที่ร้าน
ผมเห็นส่งยิ้มมา ก็เลยกล้าสั่งออเดอร์
ไม่งั้น ถ้าเห็นท่าไม่ดี ผมก็ต้องเผ่นละครับ
ที่เล่ามานี่เป็นเรื่องจริงครับ....ขอบอก
ถ้าจะเอาเข้าตลาดจริง
ผมแนะนำให้ดูว่า
บริษัทเรามีอะไรที่แตกต่างจากคนอื่นครับ
อาจารย์ Porter เรียกว่า Differentiation ครับ
ถ้าพูดกันอย่างไม่สุภาพก็จะพูดกันว่า
"Differentiate, or Die" ครับ
ในโลกธุรกิจที่การแข่งขันรุนแรงในปัจจุบัน
ถ้าทำตัวแตกต่างไม่ได้ ไปไม่รอดครับ
ไม่ได้แช่งนะครับ เล่าให้ฟังเฉยๆ
ก็หวังว่าธุรกิจของญาติพี่พีพี
คงไปได้ได้ดีนะครับ
ถ้าจะเอาเข้าตลาดเมื่อไหร่
บอกผมด้วยแล้วกันครับ
จะได้มีหุ้น IPO กับเขาบ้างสักที
จะได้ทันสมัยหน่อย
เพราะช่วงนี้หุ้นจะพาเหรดเข้าตลาด
เยอะจริงๆ
สมกับภาวะตลาดกระทิงดุครับ
สุดท้ายครับ
พี่Chatchai คุณมน พี่เจ๋ง
อย่าลืมทำการบ้านเรื่องหา FCF ของ APRINT นะครับ
ได้เท่าไหร่บอกผมด้วย......อย่าลืมทำเน้อ
ตอนนี้ผมขอตัวไปดื่มกาแฟก่อน อิ อิ
ที่ช่วยให้ผมได้รู้ประโยชน์
ของกาแฟเพิ่มมาอีกอย่าง
เห็นทีต้องไปปรึกษาที่บ้านว่า
จะอนุญาตให้ผมทานกาแฟหรือเปล่า ฮิ ฮิ
แต่เอ...ผมสงสัยอยู่อย่างนึงนะครับ
ประเทศบราซิลนี่ รู้สึกจะส่งออกกาแฟ
มากที่สุดในโลก ใช่มั๊ยครับ
ถ้าใช่ ผมว่าการวิจัยนี่อาจจะมี Bias นะครับ
เขาจะได้ขายกาแฟให้หนุ่มๆที่ไม่ดื่มกาแฟ
อย่างพี่ปรัชญาให้มากขึ้นไงครับ
.....เป็นไปได้หรือเปล่า อิ อิ
วันนี้ผมจะเลิกพูดถึงเรื่องเครียดๆสักหนึ่งวัน
ตามคำขอของพี่พีพี
ส่วนร้าน The Coffe Maker ของญาติพี่พีพีนี่
ผมเคยไปลองมาแล้วครับ
อยู่ที่ปั๊ม ปตท สระบุรี ขาเข้ากรุงเทพ แถวๆ กม.95
อยู่ในร้านขายของของปั๊ม
ผมไม่ได้ลองกาแฟครับ
สั่งแต่ชามะนาว
รู้สึกว่าราคาของเขาไม่แพง
กาแฟแก้วละ 35 บาทนะครับ
ถ้าจำไม่ผิด
แต่ที่ต่างจาก Starbuck แน่ๆก็คือ
คนขายครับ
ถ้าไปStarbuck จะพบคนขายหน้าตาจิ้มลิ้ม
ใส่เอี้ยมสีเขียวชงกาแฟ ทอนเงินอย่างรวดเร็ว
แต่ที่The Coffe Maker ที่ผมไปแวะมา
ผมไม่เห็นคนขายครับ
หันซ้ายหันขวา
ไปเจอน้องลูกหมูใส่เสื้อยืดตัวโคร่งๆ
ยืนเม้ากับแคชเชียร์ของร้านมินิมาร์ตอยู่
ดูแล้วท่าทางน่ากลัว
ผมไม่รู้จะทำอย่างไรดี
จะเรียกก็ไม่กล้า กลัวน้องเขาจะดุเอา
เลยทำเป็นด้อมๆมองๆดูเครื่องทำกาแฟอยู่หน้าเคาเตอร์
สักพักน้องลูกหมูก็เดินมาที่ร้าน
ผมเห็นส่งยิ้มมา ก็เลยกล้าสั่งออเดอร์
ไม่งั้น ถ้าเห็นท่าไม่ดี ผมก็ต้องเผ่นละครับ
ที่เล่ามานี่เป็นเรื่องจริงครับ....ขอบอก
ถ้าจะเอาเข้าตลาดจริง
ผมแนะนำให้ดูว่า
บริษัทเรามีอะไรที่แตกต่างจากคนอื่นครับ
อาจารย์ Porter เรียกว่า Differentiation ครับ
ถ้าพูดกันอย่างไม่สุภาพก็จะพูดกันว่า
"Differentiate, or Die" ครับ
ในโลกธุรกิจที่การแข่งขันรุนแรงในปัจจุบัน
ถ้าทำตัวแตกต่างไม่ได้ ไปไม่รอดครับ
ไม่ได้แช่งนะครับ เล่าให้ฟังเฉยๆ
ก็หวังว่าธุรกิจของญาติพี่พีพี
คงไปได้ได้ดีนะครับ
ถ้าจะเอาเข้าตลาดเมื่อไหร่
บอกผมด้วยแล้วกันครับ
จะได้มีหุ้น IPO กับเขาบ้างสักที
จะได้ทันสมัยหน่อย
เพราะช่วงนี้หุ้นจะพาเหรดเข้าตลาด
เยอะจริงๆ
สมกับภาวะตลาดกระทิงดุครับ
สุดท้ายครับ
พี่Chatchai คุณมน พี่เจ๋ง
อย่าลืมทำการบ้านเรื่องหา FCF ของ APRINT นะครับ
ได้เท่าไหร่บอกผมด้วย......อย่าลืมทำเน้อ
ตอนนี้ผมขอตัวไปดื่มกาแฟก่อน อิ อิ
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 410
ผมก็รออยู่เด้อ เดี๋ยวผมจะทำของWGมาแลกกันนะครับ
คุณวิบูลย์ คุณฉัตรชัย คุณPP คุณ KOTARO คุณTHINK และท่านอื่นๆไม่ไปลองเขียนบทความร่วมสนุกกันบ้างหรือ .....อ๊ะๆๆ อย่าปฏิเสธเลย เอาสนุกๆนะครับ ไม่ซีเรียสๆ
คุณวิบูลย์ คุณฉัตรชัย คุณPP คุณ KOTARO คุณTHINK และท่านอื่นๆไม่ไปลองเขียนบทความร่วมสนุกกันบ้างหรือ .....อ๊ะๆๆ อย่าปฏิเสธเลย เอาสนุกๆนะครับ ไม่ซีเรียสๆ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 411
คุณมน
ผมยังไม่มีไอเดียอะไรเลยครับตอนนี้
ไว้สมองแจ่มใส อารมณ์ดีดี
จะเข้าไปร่วมวงครับ
ช่วงนี้มึนๆ งงๆเวลาขับรถในกรุงนะครับ
เขาปิดถนนจนผมไปไหนไม่ถูกแล้ว
แต่ก็ดีอย่างนะครับ
ถนนบางสายรถว่างเลย
ปรับตัวไม่ถูกครับ
ไว้พวกท่าน ปธน กลับไป
ถนนก็คงติดทุกสายเหมือนเดิม
เฮ้อ......
อิจฉาคนอยู่ต่างจังหวัด
อย่างพี่ปรัชญาและท่านอื่นๆจัง
ไม่ต้องเจอรถติดเป็นชีวิตประจำวัน
เหมือนพวกผม
วันก่อนมีญาติคนนึงมาที่บ้าน
ไม่ได้เจอกันนาน
แต่ก่อนอยู่กรุงเทพ
มีอาชีพเล่นหุ้นตอนที่ทุกคนกำเงินเข้าตลาด
ดัชนีประมาณ 1700 จุด
สุดท้ายขาดทุนแทบจะหมดตัว
เลยไปทำงานเป็นมือปืนรับจ้าง
ที่ต่างจังหวัด
ตอนนี้ลาออกแล้วครับ
กำเงินเข้าตลาดหุ้นใหม่
แต่ยังอยู่ที่ต่างจังหวัดเหมือนเดิม
ผมคุยกับเขา
แต่ผมไม่ได้บอกว่าผมเล่นหุ้นอย่างไร
กลัวเขาจะหัวเราะเยาะเอา
ส่วนใหญ่จะฟังมากกว่า
พบว่า
จากประสบการณ์คราวที่แล้ว
เขาเก่งมากขึ้น
ผมยอมรับว่า
เขาเข้าถึงปรัชญาการเก็งกำไรอย่างแท้จริง
แต่ก่อนเขาบอกว่า
เขาขาดทุนย่อยยับเพราะ
ไม่ Cutloss
แถมไม่ยอมเลิก
เวลาที่งานเลี้ยงเลิกรา
ตอนนี้เขาบอกผมว่า
เขาเข้าใจในการ"เล่น"หุ้นมากขึ้น
Cut Loss ทุกครั้งที่ขาดทุน
เก็บหุ้นที่กำลังวิ่ง
ถ้าเล่นเสียให้เลิก แล้วถอยออกมาก่อน
ไม่ถือหุ้นที่ขาดทุน
เขาทำกำไรมากจากรอบนี้ครับ
ผมจะไม่บอกว่าเขาได้เท่าไหร่
กลัวผู้คนในเวปนี้จะหนีไปเก็งกำไรหมด
อีกอย่างเขาบอกผมว่า
หุ้นบางตัวมีแมงมุมชักไยแล้ว
จุดไฟล่อแมงเม่าครับ
แต่อยากบอกว่า
ลูกศิษย์อาจารย์ Buffet ใน TVI
ถ้าปฎิบัติตามคำสอนของอาจารย์อย่างเคร่งครัด
จะไม่มีวันตกเป็นเหยื่อของพวกแมงมุมเด็ดขาดครับ
หลังจากที่คุยกับเขาแล้ว
ผมพบว่า
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุน
หรือนักเก็งกำไร
สิ่งที่ทำให้คุณทำเงินจากตลาดหุ้นได้
เหมือนๆกัน คือ
1) คุณต้องมีความรู้
2) คุณต้องมีข้อมูล
3) คุณต้องมีประสบการณ์
4) คุณต้องมีหลักการ
เพียงแต่สิ่งที่ต่างกันก็คือ
1) ความรู้
2) ข้อมูล
3) ประสบการณ์
4) หลักการ
งง!! ไหมครับ
นั่นคือนักลงทุนและนักเก็งกำไร
ต่างใช้สิ่งที่เหมือนกันแต่แตกต่างกัน
เช่น ข้อมูล
นักลงทุนและนักเก็งกำไร
ต่างใช้ข้อมูลในการลงทุน
แต่เป็นข้อมูลที่แตกต่างกัน
เช่นเดียวกับ
ความรู้ ประสบการณ์ และ หลักการ
ที่แตกต่างกัน
แต่สุดท้าย
ก็ทำเงินได้เหมือนกัน
เพียงแต่อยู่ที่ตัวเราว่า
เราจะเลือกที่จะดำเนินชีวิตแบบไหน
หวังว่า
ผมคงไม่เอามะพร้าวห้าวมาขายสวนนะครับ
พอดีที่บ้านมีมะพร้าวอยู่สองสามต้น
ก็เลยเอาลูกมะพร้าวมาแบ่งๆกันนะครับ
แล้วท่านอื่นๆมีมะพร้าวบ้างหรือเปล่าครับ
เอามาขาย (สวน) กันบ้างนะครับ
โชคดีในการลงทุนทุกท่านครับ
ผมยังไม่มีไอเดียอะไรเลยครับตอนนี้
ไว้สมองแจ่มใส อารมณ์ดีดี
จะเข้าไปร่วมวงครับ
ช่วงนี้มึนๆ งงๆเวลาขับรถในกรุงนะครับ
เขาปิดถนนจนผมไปไหนไม่ถูกแล้ว
แต่ก็ดีอย่างนะครับ
ถนนบางสายรถว่างเลย
ปรับตัวไม่ถูกครับ
ไว้พวกท่าน ปธน กลับไป
ถนนก็คงติดทุกสายเหมือนเดิม
เฮ้อ......
อิจฉาคนอยู่ต่างจังหวัด
อย่างพี่ปรัชญาและท่านอื่นๆจัง
ไม่ต้องเจอรถติดเป็นชีวิตประจำวัน
เหมือนพวกผม
วันก่อนมีญาติคนนึงมาที่บ้าน
ไม่ได้เจอกันนาน
แต่ก่อนอยู่กรุงเทพ
มีอาชีพเล่นหุ้นตอนที่ทุกคนกำเงินเข้าตลาด
ดัชนีประมาณ 1700 จุด
สุดท้ายขาดทุนแทบจะหมดตัว
เลยไปทำงานเป็นมือปืนรับจ้าง
ที่ต่างจังหวัด
ตอนนี้ลาออกแล้วครับ
กำเงินเข้าตลาดหุ้นใหม่
แต่ยังอยู่ที่ต่างจังหวัดเหมือนเดิม
ผมคุยกับเขา
แต่ผมไม่ได้บอกว่าผมเล่นหุ้นอย่างไร
กลัวเขาจะหัวเราะเยาะเอา
ส่วนใหญ่จะฟังมากกว่า
พบว่า
จากประสบการณ์คราวที่แล้ว
เขาเก่งมากขึ้น
ผมยอมรับว่า
เขาเข้าถึงปรัชญาการเก็งกำไรอย่างแท้จริง
แต่ก่อนเขาบอกว่า
เขาขาดทุนย่อยยับเพราะ
ไม่ Cutloss
แถมไม่ยอมเลิก
เวลาที่งานเลี้ยงเลิกรา
ตอนนี้เขาบอกผมว่า
เขาเข้าใจในการ"เล่น"หุ้นมากขึ้น
Cut Loss ทุกครั้งที่ขาดทุน
เก็บหุ้นที่กำลังวิ่ง
ถ้าเล่นเสียให้เลิก แล้วถอยออกมาก่อน
ไม่ถือหุ้นที่ขาดทุน
เขาทำกำไรมากจากรอบนี้ครับ
ผมจะไม่บอกว่าเขาได้เท่าไหร่
กลัวผู้คนในเวปนี้จะหนีไปเก็งกำไรหมด
อีกอย่างเขาบอกผมว่า
หุ้นบางตัวมีแมงมุมชักไยแล้ว
จุดไฟล่อแมงเม่าครับ
แต่อยากบอกว่า
ลูกศิษย์อาจารย์ Buffet ใน TVI
ถ้าปฎิบัติตามคำสอนของอาจารย์อย่างเคร่งครัด
จะไม่มีวันตกเป็นเหยื่อของพวกแมงมุมเด็ดขาดครับ
หลังจากที่คุยกับเขาแล้ว
ผมพบว่า
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุน
หรือนักเก็งกำไร
สิ่งที่ทำให้คุณทำเงินจากตลาดหุ้นได้
เหมือนๆกัน คือ
1) คุณต้องมีความรู้
2) คุณต้องมีข้อมูล
3) คุณต้องมีประสบการณ์
4) คุณต้องมีหลักการ
เพียงแต่สิ่งที่ต่างกันก็คือ
1) ความรู้
2) ข้อมูล
3) ประสบการณ์
4) หลักการ
งง!! ไหมครับ
นั่นคือนักลงทุนและนักเก็งกำไร
ต่างใช้สิ่งที่เหมือนกันแต่แตกต่างกัน
เช่น ข้อมูล
นักลงทุนและนักเก็งกำไร
ต่างใช้ข้อมูลในการลงทุน
แต่เป็นข้อมูลที่แตกต่างกัน
เช่นเดียวกับ
ความรู้ ประสบการณ์ และ หลักการ
ที่แตกต่างกัน
แต่สุดท้าย
ก็ทำเงินได้เหมือนกัน
เพียงแต่อยู่ที่ตัวเราว่า
เราจะเลือกที่จะดำเนินชีวิตแบบไหน
หวังว่า
ผมคงไม่เอามะพร้าวห้าวมาขายสวนนะครับ
พอดีที่บ้านมีมะพร้าวอยู่สองสามต้น
ก็เลยเอาลูกมะพร้าวมาแบ่งๆกันนะครับ
แล้วท่านอื่นๆมีมะพร้าวบ้างหรือเปล่าครับ
เอามาขาย (สวน) กันบ้างนะครับ
โชคดีในการลงทุนทุกท่านครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 412

แต่ผมขอยืนหยัด-ยืนยันขอเป็นนักลงทุนที่ใช้ "ปัจจัยพื้นฐาน" ในการซื้อ-ขายหุ้นครับ...เพราะซื้อแล้ว "กินได้นอนหลับ...
แต่ถ้ามีโอกาสเพิ่มผลตอบแทน โดยที่ความเสี่ยงต่ำมากๆ ผมก็ยอมเก็งกำไรนะ แต่ไม่ใช่เวลานี้... :lol:
เข้าเรื่องนะครับ ขอลัดคิวถามเรื่องความสามารถในการแข่งขันที่ยั่งยืน หรือ DCA น่ะครับ ว่าจำเป็นหรือเปล่าที่ต้องเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง เหมือน Coke, Pepsi,Gillete,Wacoal etc.,
หรืออาจอยู่ในรูปแบบ
-ผูกขาด หรือ
-ตลาดเฉพาะกลุ่ม-nich market หรือ
-ผู้นำด้านต้นทุนต่ำ cost leader
เพราะว่าเท่าที่ดูในตลาดหลักทรัพย์ไทย บริษัทที่มีแบรนด์แข็งแกร่ง แทบไม่มีเลยครับ ส่วนใหญ่จะมีแต่ monopoly,หรือมีตลาดเฉพาะ หรือผลิตสินค้าโภคภัณฑ์แต่เป็น cost leader ครับ..

การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 413
ขอบคุณคุณลูกอีสานครับ
ผมก็เหมือนกันครับ ตอนนี้ลงทุนด้วยพื้นฐานอย่างเดียว
เคยเก็งกำไรใช้ความรู้เหมือนกันครับ
แต่ใช้ความรู้(สึก)
เลยเจ็บตัว เสียไปหลายเงิน
ตอนนี้ แมงมุมไม่เคยได้ตังค์ผมเลย อิ อิ
ผมยอมน้ำตาตกใน
เสียดายที่ไม่ได้ไปร่วมวงเก็งกำไรกับชาวบ้านเขา
ผลตอบแทนเลยน้อยจนไม่กล้าบอกใคร
(แต่ผลประกอบการบริษัทของผมดีนะครับ)
แต่ผมถือคติครับที่ว่า
"เสียดายดีกว่าเสียใจครับ"
ทุกวันนี้กินอิ่มนอนหลับ
ไม่เคยกลัวเวลาตลาดหุ้นตก
(เฝ้ารอมันตกทุกวัน แต่ไม่สุดๆสักที)
ผมไม่เคยคิดเลยว่าผมจะกล้าถือหุ้นเป็นปีๆ
อย่างทุกวันนี้
ส่วนคำถามของคุณลูกอีสาน
ผมถนัดมากเลยครับ
เพราะผมชอบวิชา Marketing ที่สุด
แต่ถ้าถามเรื่อง FCF ต้องถามพี่Chatchai ครับ
เอ....ถามว่าอะไรนะครับ
ต้องกลับไปดูก่อน.......
อ้อ เรื่อง DCA กับ Brand
ผมขอแยกแบบนี้แล้วกันครับ
บริษัทที่มีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง (Strong Brand)
อาจจะไม่มี Durable Competitive Advantage (DCA) ก็ได้ครับ
นักลงทุนต้องแยกสองสิ่งนี้ให้ออกครับ
ขอยกตัวอย่างธุรกิจค้าปลีกน้ำมันแล้วกันครับ
บางบริษัทมีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง เช่น
บริษัทตราเสือ บริษัทตราหอย
แต่ถามว่าบริษัทเหล่านี้มี DCA หรือเปล่า
ขอตอบว่าไม่มีครับ
เพราะธุรกิจน้ำมันเป็นธุรกิจแบบ Commodity ครับ
เติมน้ำมันยี่ห้ออะไรรถก็วิ่งได้เหมือนกัน
(ถ้าไม่ใช่ปั๊มโนเนมจริงๆ ที่มีน้ำมันปลอม)
ธุรกิจแบบนี้จะสู้กันด้วยราคาครับ
ดังนั้นในธุรกิจแบบ Commodity
ใครเป็น Cost Leadership คนนั้นชนะครับ
เจ๊ทรู้จุดอ่อนตรงนี้ดี เลยไม่สู้ด้วยน้ำมัน
แต่สู้ด้วยมินิมาร์ตและห้องน้ำแทน
เอาอีกตัวอย่างก็ได้ครับ
ในอเมริกา
GM มีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง
ทุกคนรู้จักหมด
ตั้งแต่ลูกเล็กเด็กแดงถึงคนแก่
แต่ถามว่าบริษัท GM มี DCA หรือเปล่า
ขอตอบว่าไม่มีครับ
เพราะในอเมริกา
ธุรกิจรถยนต์เป็นธุรกิจแบบ Commodity ครับ
สู้กันด้วยราคา
แม้แต่ Mercedes-Benz ในอเมริกา
ยังถูก Lexus ตีกระจุย
ในอเมริกา เขาถือกันว่า
Mercedes-Benz ไม่มี DCA ครับ
(อาจจะต่างจากเมืองไทย)
ดังนั้นผมสรุปเลยว่า
บริษัทที่มีแบรนด์ที่มีชื่อเสียง
อาจจะไม่มีความสามารถทางการแข่งขันที่ทนทานก็ได้ครับ
เราต้องแยกให้ออกครับ
จะแยกออกได้ เราต้องเข้าใจธุรกิจนั้นครับ
ส่วนบริษัทที่ Buffet เลือกลงทุนระยะยาว
อาจจะไม่ใช่บริษัทที่มีแบรนด์ก็ได้ครับ
เช่น
ในธุรกิจประกันซึ่งเป็นธุรกิจแบบ Commodity
Buffet ถือหุ้น GEICO เพราะบริษัทนี้
มีต้นทุนดำเนินงานที่ต่ำที่สุดในอุตสาหกรรมประกัน
และธุรกิจแบบ Monopoly
ถ้าไม่ถูกควบคุมราคาก็น่าสนใจครับ
แต่ Monopoly ส่วนใหญ่จะถูกรัฐบาลควบคุมราคา
เช่น ทางด่วน
เป็น Monopoly ก็จริง
แต่จะขึ้นราคาที ยุ่งยากวุ่นวายมาก
ต้องส่งเรื่องให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติ
แถมหนังสือพิมพ์ก็ประโคมข่าวไปทั่วเมือง
อย่างนี้ อาจารย์ Buffet คงไม่สนใจเท่าไหร่
หวังว่าคงตอบถูกคำถามนะครับ
แล้วพี่ๆเพื่อนๆเข้าใจธุรกิจที่ตัวเองลงทุนอยู่หรือเปล่า
ผมมีเรื่องจะเล่าอีกเรื่องหนึ่ง
อาจารย์ Buffet บอกว่า
เวลาคนเราไปจ่ายตลาด
จะซื้อของสักอย่างในซุปเปอร์มาร์เก็ต
จะดูแล้วดูอีก ว่าสินค้านั้นมีส่วนผสมอะไรบ้าง
มีอะไรกี่เปอร์เซนต์ ใส่สารกันบูดหรือเปล่าครับ ฯลฯ
แถมเทียบราคาแล้วราคาอีก
ว่ายี่ห้อไหนถูกหรือคุ้มค่าที่สุด
ยิ่งถ้ามี SUPER SALE ยิ่งดี
เรียกว่ายิ่งถูกยิ่งดี ใช่ไหมครับ
แต่กับการซื้อหุ้น
เรากลับทำตรงกันข้าม
เราจ่ายเงินเป็นแสนเป็นล้านซื้อหุ้น
แต่กลับทำความเข้าใจในหุ้นของบริษัทนั้น
น้อยกว่าที่เราใช้ซื้อซีอิ้วสักขวดซะอีก
แถมเวลาราคาหุ้นวิ่งสูงขึ้น
เรากลับต้องการซื้อมันมากขึ้น
(กลัวตกรถไฟไปเที่ยวดอยสุเทพ อิ อิ)
เรียกว่าราคายิ่งสูงขึ้น ยิ่งดี ใช่ไหมครับ
ผมจะไม่สรุปเรื่องนี้ละครับ
แต่ให้ไปคิดเอาเอง
ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า
แล้วพี่ๆเพื่อนๆว่า
ที่อาจารย์ Buffet บอกนั้น
เป็นความจริงกับตัวเองหรือเปล่าครับ อิ อิ
ผมก็เหมือนกันครับ ตอนนี้ลงทุนด้วยพื้นฐานอย่างเดียว
เคยเก็งกำไรใช้ความรู้เหมือนกันครับ
แต่ใช้ความรู้(สึก)
เลยเจ็บตัว เสียไปหลายเงิน
ตอนนี้ แมงมุมไม่เคยได้ตังค์ผมเลย อิ อิ
ผมยอมน้ำตาตกใน
เสียดายที่ไม่ได้ไปร่วมวงเก็งกำไรกับชาวบ้านเขา
ผลตอบแทนเลยน้อยจนไม่กล้าบอกใคร
(แต่ผลประกอบการบริษัทของผมดีนะครับ)
แต่ผมถือคติครับที่ว่า
"เสียดายดีกว่าเสียใจครับ"
ทุกวันนี้กินอิ่มนอนหลับ
ไม่เคยกลัวเวลาตลาดหุ้นตก
(เฝ้ารอมันตกทุกวัน แต่ไม่สุดๆสักที)
ผมไม่เคยคิดเลยว่าผมจะกล้าถือหุ้นเป็นปีๆ
อย่างทุกวันนี้
ส่วนคำถามของคุณลูกอีสาน
ผมถนัดมากเลยครับ
เพราะผมชอบวิชา Marketing ที่สุด
แต่ถ้าถามเรื่อง FCF ต้องถามพี่Chatchai ครับ
เอ....ถามว่าอะไรนะครับ
ต้องกลับไปดูก่อน.......
อ้อ เรื่อง DCA กับ Brand
ผมขอแยกแบบนี้แล้วกันครับ
บริษัทที่มีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง (Strong Brand)
อาจจะไม่มี Durable Competitive Advantage (DCA) ก็ได้ครับ
นักลงทุนต้องแยกสองสิ่งนี้ให้ออกครับ
ขอยกตัวอย่างธุรกิจค้าปลีกน้ำมันแล้วกันครับ
บางบริษัทมีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง เช่น
บริษัทตราเสือ บริษัทตราหอย
แต่ถามว่าบริษัทเหล่านี้มี DCA หรือเปล่า
ขอตอบว่าไม่มีครับ
เพราะธุรกิจน้ำมันเป็นธุรกิจแบบ Commodity ครับ
เติมน้ำมันยี่ห้ออะไรรถก็วิ่งได้เหมือนกัน
(ถ้าไม่ใช่ปั๊มโนเนมจริงๆ ที่มีน้ำมันปลอม)
ธุรกิจแบบนี้จะสู้กันด้วยราคาครับ
ดังนั้นในธุรกิจแบบ Commodity
ใครเป็น Cost Leadership คนนั้นชนะครับ
เจ๊ทรู้จุดอ่อนตรงนี้ดี เลยไม่สู้ด้วยน้ำมัน
แต่สู้ด้วยมินิมาร์ตและห้องน้ำแทน
เอาอีกตัวอย่างก็ได้ครับ
ในอเมริกา
GM มีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง
ทุกคนรู้จักหมด
ตั้งแต่ลูกเล็กเด็กแดงถึงคนแก่
แต่ถามว่าบริษัท GM มี DCA หรือเปล่า
ขอตอบว่าไม่มีครับ
เพราะในอเมริกา
ธุรกิจรถยนต์เป็นธุรกิจแบบ Commodity ครับ
สู้กันด้วยราคา
แม้แต่ Mercedes-Benz ในอเมริกา
ยังถูก Lexus ตีกระจุย
ในอเมริกา เขาถือกันว่า
Mercedes-Benz ไม่มี DCA ครับ
(อาจจะต่างจากเมืองไทย)
ดังนั้นผมสรุปเลยว่า
บริษัทที่มีแบรนด์ที่มีชื่อเสียง
อาจจะไม่มีความสามารถทางการแข่งขันที่ทนทานก็ได้ครับ
เราต้องแยกให้ออกครับ
จะแยกออกได้ เราต้องเข้าใจธุรกิจนั้นครับ
ส่วนบริษัทที่ Buffet เลือกลงทุนระยะยาว
อาจจะไม่ใช่บริษัทที่มีแบรนด์ก็ได้ครับ
เช่น
ในธุรกิจประกันซึ่งเป็นธุรกิจแบบ Commodity
Buffet ถือหุ้น GEICO เพราะบริษัทนี้
มีต้นทุนดำเนินงานที่ต่ำที่สุดในอุตสาหกรรมประกัน
และธุรกิจแบบ Monopoly
ถ้าไม่ถูกควบคุมราคาก็น่าสนใจครับ
แต่ Monopoly ส่วนใหญ่จะถูกรัฐบาลควบคุมราคา
เช่น ทางด่วน
เป็น Monopoly ก็จริง
แต่จะขึ้นราคาที ยุ่งยากวุ่นวายมาก
ต้องส่งเรื่องให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติ
แถมหนังสือพิมพ์ก็ประโคมข่าวไปทั่วเมือง
อย่างนี้ อาจารย์ Buffet คงไม่สนใจเท่าไหร่
หวังว่าคงตอบถูกคำถามนะครับ
แล้วพี่ๆเพื่อนๆเข้าใจธุรกิจที่ตัวเองลงทุนอยู่หรือเปล่า
ผมมีเรื่องจะเล่าอีกเรื่องหนึ่ง
อาจารย์ Buffet บอกว่า
เวลาคนเราไปจ่ายตลาด
จะซื้อของสักอย่างในซุปเปอร์มาร์เก็ต
จะดูแล้วดูอีก ว่าสินค้านั้นมีส่วนผสมอะไรบ้าง
มีอะไรกี่เปอร์เซนต์ ใส่สารกันบูดหรือเปล่าครับ ฯลฯ
แถมเทียบราคาแล้วราคาอีก
ว่ายี่ห้อไหนถูกหรือคุ้มค่าที่สุด
ยิ่งถ้ามี SUPER SALE ยิ่งดี
เรียกว่ายิ่งถูกยิ่งดี ใช่ไหมครับ
แต่กับการซื้อหุ้น
เรากลับทำตรงกันข้าม
เราจ่ายเงินเป็นแสนเป็นล้านซื้อหุ้น
แต่กลับทำความเข้าใจในหุ้นของบริษัทนั้น
น้อยกว่าที่เราใช้ซื้อซีอิ้วสักขวดซะอีก
แถมเวลาราคาหุ้นวิ่งสูงขึ้น
เรากลับต้องการซื้อมันมากขึ้น
(กลัวตกรถไฟไปเที่ยวดอยสุเทพ อิ อิ)
เรียกว่าราคายิ่งสูงขึ้น ยิ่งดี ใช่ไหมครับ
ผมจะไม่สรุปเรื่องนี้ละครับ
แต่ให้ไปคิดเอาเอง
ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า
แล้วพี่ๆเพื่อนๆว่า
ที่อาจารย์ Buffet บอกนั้น
เป็นความจริงกับตัวเองหรือเปล่าครับ อิ อิ
แก้ไขล่าสุดโดย VIB007 เมื่อ พฤหัสฯ. ต.ค. 23, 2003 11:14 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- tk
- Verified User
- โพสต์: 343
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 414
ขอบคุณคุณ PP ครับ จะลองชิมแล้วมารายงานให้ทราบครับผมอยากแนะนำให้คุณ tk ลองชิมกาแฟของ The Coffee Maker หากหาอะไรแทนไม่ได้ และคิดว่าราคากาแฟบ้านไร่แพงเกินคุณค่า ซึ่งเขาก็มี franchise อยู่หลายแห่งในกทม. เช่นที่เซ็นทรัลลาดพร้าว และเห็นเขาขาย franchise กระจายไปตามหัวเมือง แต่ไม่ได้เข้าตามปั๊มเหมือนกาแฟบ้านไร่ รสชาดเป็นอย่างไงบ้าง หากชิมแล้วติชมหน่อยก็แล้วกันนะครับว่าสู้กาแฟบ้านไร่ได้หรือเปล่า
- tk
- Verified User
- โพสต์: 343
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 416
คุณวิบูลย์ครับ ลองยกตัวอย่างบริษัทที่มี DCA ในเมืองไทยให้หน่อยครับ ผมนึกไม่ออก อย่าง mk fuji ก็ได้คะแนนน้อยในข้อมีสิ่งอื่นทดแทนได้ อย่างเป็ปซี่ก็เป็นบริษัทที่มีแบรนด์แข็งแกร่งเท่านั้น เท่าที่ผมนึกได้ ในต่างประเทศและในไทยก็มีบ.ผลิตมีดโกนหนวดที่ไม่มีใครมาแข่งเลย และก็ผู้ชายแทบทุกคนต้องใช้ และใช้เรื่อยๆด้วย ยกทรงก็มีให้เลือกหลายยี่ห้ออยู่ ผมว่าบริษัททางด่วนน่าจะเข้าข่ายนะครับ ไม่รู้ถูกหรือเปล่าครับ
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 417
คุณวิบูลย์และเพื่อนๆรู้สึกเหมือนผมไหมครับ ว่าพวกเราเริ่มให้ความสำคัญกับข้อมูลเชิงคุณภาพมากขึ้นโดยลำดับ ผมดูจากข้อมูลทีคุยกันมักจะเป็นเรื่องDCAเรื่องข้อมูลพื้นฐานมากขึ้น ไม่ค่อยเห็นมาขอหุ้นกัน ดีใจมากๆครับที่เกิดอย่างนี้ได้ สมกับที่พวกเราร่วมกันพัฒนามาจริงๆ
ระหว่างรอข้อมูลเรื่องFCF และ DCF มาคุยเรื่องDCA กันพลางๆก่อนก็ดีครับ ผมอยากชวนคุยเรื่องดรงหนังครับ มันน่าจะมีDCAไหม?
หุ้น First Class ของ Buffett มักจะเป็นกิจการที่ สามารถปรับราคาขึ้นได้โดยไม่กลัวว่าลูกค้าจะหนีไปหาเจ้าอื่น กิจการโรงหนังนี่เข้าข่ายไหมครับคุณวิบูลย์และเพื่อนๆครับ
ระหว่างรอข้อมูลเรื่องFCF และ DCF มาคุยเรื่องDCA กันพลางๆก่อนก็ดีครับ ผมอยากชวนคุยเรื่องดรงหนังครับ มันน่าจะมีDCAไหม?
หุ้น First Class ของ Buffett มักจะเป็นกิจการที่ สามารถปรับราคาขึ้นได้โดยไม่กลัวว่าลูกค้าจะหนีไปหาเจ้าอื่น กิจการโรงหนังนี่เข้าข่ายไหมครับคุณวิบูลย์และเพื่อนๆครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 418
สงสัยช่วงนี้จะเป็นช่วงพักยกนะครับ ผมก้อเลยรอดูการแลกหมัดFCFอยู่นะครับ แต่ว่าผมยังไม่ค่อยเข้าใจนะครับ เลยอยากถามคุณพี่chatchaiหน่อยครับ ตามที่พี่ให้ไว้
"FCF = กำไรจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์และหนี้สินหมุนเวียน - Working Cap. - Cap Exp. - Loan Repayment"
รบกวนพี่ chatchai ช่วยอธิบายทีละตัวเลยได้เปล่าครับว่าแต่ละตัวความหมายคืออะไร (กำไรจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์และหนี้สินหมุนเวียน,Working Cap, Cap Exp, Loan Repayment =? ) และมีวิธีหายังไงครับ ผมอยากลองหาได้ด้วยตัวเองบ้างครับในตัวอื่นๆ ขอบคุณครับ
"FCF = กำไรจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์และหนี้สินหมุนเวียน - Working Cap. - Cap Exp. - Loan Repayment"
รบกวนพี่ chatchai ช่วยอธิบายทีละตัวเลยได้เปล่าครับว่าแต่ละตัวความหมายคืออะไร (กำไรจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์และหนี้สินหมุนเวียน,Working Cap, Cap Exp, Loan Repayment =? ) และมีวิธีหายังไงครับ ผมอยากลองหาได้ด้วยตัวเองบ้างครับในตัวอื่นๆ ขอบคุณครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 419
ผมเห็นด้วยกับคุณมนนะ
ที่ว่ามีนักลงทุนรุ่นใหม่คุณภาพมากขึ้น
แทนที่จะเป็น "นักลงทุนประเภท ข"
ก็จะกลายเป็น "นักลงทุนประเภท ก"
(ก หมายถึง เก่งกาจนะครับ ไม่ใช่กุ๊กกิ้ก)
ดีใจครับที่ปัจจัยพื้นฐาน
มีความสำคัญมากขึ้นในการลงทุนในเวปนี้
แทนที่จะเป็น ข่าวลือ หรือ ผีบอก
หรือ พรายกระซิบ อย่างที่รู้กัน
เอาละช่วงนี้ พักFCF ไว้ก่อน
ให้พี่Chatchai หายเหนื่อยจากงานต้อนรับผู้นำ APEC
แล้วค่อยมาว่ากันใหม่ครับ
ที่คุณTK ถามมา
ผมว่าทุกบริษัทต่างก็มี DCA ครับ
เพียงแต่มีมากมีน้อยแค่นั้นเอง
เรียกว่ามี Degree of Competitiveness ที่ต่างกัน
เรื่องบริษัทในเมืองไทยที่มี DCA แบบสุดๆ
ไม่มีสินค้าทดแทน
นั่นหมายความว่าไม่มีคู่แข่งเลย
ก็ต้อง Monopoly แล้วละครับ
พวกรัฐวิสาหกิจเนี่ยละครับตัวอย่างที่ดี
ใครจะมาแข่งกับ ทศท. เรื่องการ Connect กับต่างประเทศ
เพราะทศท. ได้สิทธิการติดต่อสื่อสารกับต่างประเทศ
ทั้งมีสายและไม่มีสายทั้งหมด
ยกเว้นหลังเข้าตลาด
ทศท.จะยอมเลิกผูกขาดสิทธินี้
ซึ่งหมายความว่า รายได้ก็จะหายไปมหาศาลเช่นกัน
ถ้าเป็นบริษัทเอกชนทั่วไปที่ผลิตสินค้า
ที่ไม่มีสินค้าทดแทนได้
ผมก็ยังนึกไม่ออก
ถ้าใครนึกได้ช่วยบอกด้วยนะครับ
ส่วนเรื่องโรงหนังของคุณมน
ถ้าเอาแบบส่วนตั้วส่วนตัว
ผมก็ดูได้ทุกโรงละครับ
ที่ใกล้บ้าน สะดวก แล้วก็สภาพดี
ผมว่าเมเจอร์ อีจีวี ก็เหมือนๆกัน
ยกเว้น United Artist
ผมว่าที่นั่งไม่ดี เวลาดูแล้วบังกัน แย่มากๆ
ก็เลยเจ๊งไป
ผมว่าถ้าไม่ฮั้วกัน โรงหนังก็คงขึ้นราคาลำบาก
เพราะมีการแข่งขันสูง
ผมว่าลูกค้าไม่ได้สนใจว่าเป็นเมเจอร์ หรือ อีจีวี
ขอแค่เป็นหนังที่อยากดู ก็โอเคแล้ว
ถ้าเมื่อไหร่ ผมเห็นโรงหนังพากันขึ้นราคาทุกโรง
ผมก็รู้ได้ทันทีว่ามีการฮั้วแน่นอน
สมมุติผมเป็นอีจีวี
แล้วเมเจอร์ขึ้นราคาสัก 20% จาก 100 เป็น 120 ทุกที่นั่ง
ถ้าผมยืนราคาเดิม แล้วเอาจุดนี้มาเล่น โหมโฆษณา
รับประกัน เมเจอร์ต้องลดราคามาเท่าเดิม
อือม์....น่าลองของจริงสักตั้ง
จะได้รู้ว่าแฟนหนังเรื่อง "แฟนฉัน"
จะยังคงเลือกดูเมเจอร์ที่ราคา 120
ขณะที่อีจีวีใกล้ๆกันขายตั๋วที่ 100 เดียวหรือเปล่า
ยกเว้น อำเภอนั้นมีแต่เมเจอร์ ไม่มีอีจีวี
อย่างนี้ก็เป็น Quasi-Monopoly ของพี่เจ๋งได้
ขึ้นราคาเท่าไหร่ คนก็ต้องดู
แต่ส่วนใหญ่โรงหนังดีๆจะอยู่ในกรุงเทพมากกว่า
นี่เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ
ท่านอื่นอาจจะเห็นแตกต่าง
ผมไม่มีหุ้นโรงหนังครับ
เลยพูดได้เต็มที่ เรียกว่า
ไม่มี Conflict of Interest แต่อย่างใด
อ้อ อย่าลืมไปดูหนังสองเรื่องครับ
"แฟนฉัน" กับ "นีโม"
กำลังฉายอยู่ตอนนี้
คุ้มค่าเงินจริงๆ
เรียกว่า Value Entertaining ก็น่าจะได้นะครับ
ดูแล้วจะได้หายเครียด
เวลาเห็นนักเก็งกำไรโกยเงินมากๆ
ขณะที่หุ้น Value ไม่ขยับไปไหน
อย่างเช่นตอนนี้เป็นต้น
อ้อ เมื่อวันก่อน
ญาติผมนักเก็งกำไรบอกผมว่า
หุ้นไม่ปั่น ราคาไม่วิ่งครับ
และถ้าเจ้าของไม่เล่นด้วย
หุ้นนั้น"ปั่น"ไม่ได้ครับ
ผมก็เลยเอาไปฝันเมื่อคืนนี้
ว่าตอนนี้เจ้าของ(ผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุด)
กำลัง"ปั่น"หุ้น"น้ำมันแห่งชาติ"อยู่
เพื่อดันดัชนีให้ดูน่าเกรงขาม
พอตื่นขึ้นมาตอนเช้า
เปิดหนังสือพิมพ์ดู
ดัชนีพุ่งเกิน 600 จุดแล้วครับ
ไม่รู้ว่าฝันผมจะเป็นจริงหรือเปล่า
ว่าทางการกลายเป็นเจ้ามือเอง
หรือผมคิดมากไปเอง
เอาล่ะ ก่อนจากกันวันนี้
พี่Chatchai อย่าลืมตอบคำถามคุณ Guest
ตามคำถามข้างบนด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ
ที่ว่ามีนักลงทุนรุ่นใหม่คุณภาพมากขึ้น
แทนที่จะเป็น "นักลงทุนประเภท ข"
ก็จะกลายเป็น "นักลงทุนประเภท ก"
(ก หมายถึง เก่งกาจนะครับ ไม่ใช่กุ๊กกิ้ก)
ดีใจครับที่ปัจจัยพื้นฐาน
มีความสำคัญมากขึ้นในการลงทุนในเวปนี้
แทนที่จะเป็น ข่าวลือ หรือ ผีบอก
หรือ พรายกระซิบ อย่างที่รู้กัน
เอาละช่วงนี้ พักFCF ไว้ก่อน
ให้พี่Chatchai หายเหนื่อยจากงานต้อนรับผู้นำ APEC
แล้วค่อยมาว่ากันใหม่ครับ
ที่คุณTK ถามมา
ผมว่าทุกบริษัทต่างก็มี DCA ครับ
เพียงแต่มีมากมีน้อยแค่นั้นเอง
เรียกว่ามี Degree of Competitiveness ที่ต่างกัน
เรื่องบริษัทในเมืองไทยที่มี DCA แบบสุดๆ
ไม่มีสินค้าทดแทน
นั่นหมายความว่าไม่มีคู่แข่งเลย
ก็ต้อง Monopoly แล้วละครับ
พวกรัฐวิสาหกิจเนี่ยละครับตัวอย่างที่ดี
ใครจะมาแข่งกับ ทศท. เรื่องการ Connect กับต่างประเทศ
เพราะทศท. ได้สิทธิการติดต่อสื่อสารกับต่างประเทศ
ทั้งมีสายและไม่มีสายทั้งหมด
ยกเว้นหลังเข้าตลาด
ทศท.จะยอมเลิกผูกขาดสิทธินี้
ซึ่งหมายความว่า รายได้ก็จะหายไปมหาศาลเช่นกัน
ถ้าเป็นบริษัทเอกชนทั่วไปที่ผลิตสินค้า
ที่ไม่มีสินค้าทดแทนได้
ผมก็ยังนึกไม่ออก
ถ้าใครนึกได้ช่วยบอกด้วยนะครับ
ส่วนเรื่องโรงหนังของคุณมน
ถ้าเอาแบบส่วนตั้วส่วนตัว
ผมก็ดูได้ทุกโรงละครับ
ที่ใกล้บ้าน สะดวก แล้วก็สภาพดี
ผมว่าเมเจอร์ อีจีวี ก็เหมือนๆกัน
ยกเว้น United Artist
ผมว่าที่นั่งไม่ดี เวลาดูแล้วบังกัน แย่มากๆ
ก็เลยเจ๊งไป
ผมว่าถ้าไม่ฮั้วกัน โรงหนังก็คงขึ้นราคาลำบาก
เพราะมีการแข่งขันสูง
ผมว่าลูกค้าไม่ได้สนใจว่าเป็นเมเจอร์ หรือ อีจีวี
ขอแค่เป็นหนังที่อยากดู ก็โอเคแล้ว
ถ้าเมื่อไหร่ ผมเห็นโรงหนังพากันขึ้นราคาทุกโรง
ผมก็รู้ได้ทันทีว่ามีการฮั้วแน่นอน
สมมุติผมเป็นอีจีวี
แล้วเมเจอร์ขึ้นราคาสัก 20% จาก 100 เป็น 120 ทุกที่นั่ง
ถ้าผมยืนราคาเดิม แล้วเอาจุดนี้มาเล่น โหมโฆษณา
รับประกัน เมเจอร์ต้องลดราคามาเท่าเดิม
อือม์....น่าลองของจริงสักตั้ง
จะได้รู้ว่าแฟนหนังเรื่อง "แฟนฉัน"
จะยังคงเลือกดูเมเจอร์ที่ราคา 120
ขณะที่อีจีวีใกล้ๆกันขายตั๋วที่ 100 เดียวหรือเปล่า
ยกเว้น อำเภอนั้นมีแต่เมเจอร์ ไม่มีอีจีวี
อย่างนี้ก็เป็น Quasi-Monopoly ของพี่เจ๋งได้
ขึ้นราคาเท่าไหร่ คนก็ต้องดู
แต่ส่วนใหญ่โรงหนังดีๆจะอยู่ในกรุงเทพมากกว่า
นี่เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ
ท่านอื่นอาจจะเห็นแตกต่าง
ผมไม่มีหุ้นโรงหนังครับ
เลยพูดได้เต็มที่ เรียกว่า
ไม่มี Conflict of Interest แต่อย่างใด
อ้อ อย่าลืมไปดูหนังสองเรื่องครับ
"แฟนฉัน" กับ "นีโม"
กำลังฉายอยู่ตอนนี้
คุ้มค่าเงินจริงๆ
เรียกว่า Value Entertaining ก็น่าจะได้นะครับ
ดูแล้วจะได้หายเครียด
เวลาเห็นนักเก็งกำไรโกยเงินมากๆ
ขณะที่หุ้น Value ไม่ขยับไปไหน
อย่างเช่นตอนนี้เป็นต้น
อ้อ เมื่อวันก่อน
ญาติผมนักเก็งกำไรบอกผมว่า
หุ้นไม่ปั่น ราคาไม่วิ่งครับ
และถ้าเจ้าของไม่เล่นด้วย
หุ้นนั้น"ปั่น"ไม่ได้ครับ
ผมก็เลยเอาไปฝันเมื่อคืนนี้
ว่าตอนนี้เจ้าของ(ผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุด)
กำลัง"ปั่น"หุ้น"น้ำมันแห่งชาติ"อยู่
เพื่อดันดัชนีให้ดูน่าเกรงขาม
พอตื่นขึ้นมาตอนเช้า
เปิดหนังสือพิมพ์ดู
ดัชนีพุ่งเกิน 600 จุดแล้วครับ
ไม่รู้ว่าฝันผมจะเป็นจริงหรือเปล่า
ว่าทางการกลายเป็นเจ้ามือเอง
หรือผมคิดมากไปเอง
เอาล่ะ ก่อนจากกันวันนี้
พี่Chatchai อย่าลืมตอบคำถามคุณ Guest
ตามคำถามข้างบนด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 49
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 420
ถามมา
ผมว่าทุกบริษัทต่างก็มี DCA ครับ
เพียงแต่มีมากมีน้อยแค่นั้นเอง
เรียกว่ามี Degree of Competitiveness ที่ต่างกัน
เรื่องบริษัทในเมืองไทยที่มี DCA แบบสุดๆ
ไม่มีสินค้าทดแทน
นั่นหมายความว่าไม่มีคู่แข่งเลย
ก็ต้อง Monopoly แล้วละครับ
เกือบเป็น เหมือนกันครับ โดยส่วนตัวผมว่าหุ้นตัวนี้ครอง market share
เกินกว่า 80% ผนวกกับผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ซึ่งมีความสามารถผลิตชิ้น
ส่วนได้เอง ยังต้องซื้อชิ้นส่วนจากบริษัทนี้ มาใส่ในรถรุ่นเล็กของตัวเองก็น่าจะเริ่มเข้าข่ายแล้วนะครับ....ตรวจสอบด้วย5 forces แล้วยิ่งชัดนะครับ
สมแล้วที่เซียนหุ้น vi พันธุ์แท้ ถือหุ้นตัวนี้ไว้ ............
ขอคารวะ 3 จอกใหญ่
ผมว่าทุกบริษัทต่างก็มี DCA ครับ
เพียงแต่มีมากมีน้อยแค่นั้นเอง
เรียกว่ามี Degree of Competitiveness ที่ต่างกัน
เรื่องบริษัทในเมืองไทยที่มี DCA แบบสุดๆ
ไม่มีสินค้าทดแทน
นั่นหมายความว่าไม่มีคู่แข่งเลย
ก็ต้อง Monopoly แล้วละครับ
เกือบเป็น เหมือนกันครับ โดยส่วนตัวผมว่าหุ้นตัวนี้ครอง market share
เกินกว่า 80% ผนวกกับผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ซึ่งมีความสามารถผลิตชิ้น
ส่วนได้เอง ยังต้องซื้อชิ้นส่วนจากบริษัทนี้ มาใส่ในรถรุ่นเล็กของตัวเองก็น่าจะเริ่มเข้าข่ายแล้วนะครับ....ตรวจสอบด้วย5 forces แล้วยิ่งชัดนะครับ
สมแล้วที่เซียนหุ้น vi พันธุ์แท้ ถือหุ้นตัวนี้ไว้ ............
ขอคารวะ 3 จอกใหญ่
"การลงทุนที่ชาญฉลาดที่สุด จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ เราลงทุนแบบทำธุรกิจ"