ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจครับ

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

ล็อคหัวข้อ
boybbcom
Verified User
โพสต์: 269
ผู้ติดตาม: 0

ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจครับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

คือ อยากขอคำแนะนำเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจครับ คือผมเพิ่งเรียนจบมาได้ 2 ปีแล้วครับ ตอนนี้ช่วยงานธุรกิจของครอบครัวน่ะครับ ทำได้ซัก 1 ปี แล้วครับ แต่อยากพัฒนาธุรกิจให้ดีขึ้น รู้สึกว่าตัวเองยังบริหารไม่ดีและเหมือนยังไม่รู้ว่าต้องเริ่มยังไงน่ะครับ ตอนแรกก็นึกว่าเพราะยังไม่รู้งาน แต่พอทำไป 1 ปี รู้งานมากขึ้นแต่ยังไม่สามารถบริหารให้ดีขึ้นได้ รู้สึกว่ายังไม่สามารถพัฒนาอะไรได้เลย อยากรู้ว่านักบริหารอาชีพเค้าคิดเค้าทำงานกันยังไงน่ะครับ เลยอยากมาขอคำปรึกษาพี่พี่ที่นี่ครับ ว่า มีหนังสืออะไรน่าอ่านไหมครับ หรือ มีบริษัทรับปรึกษาการบริหารธุรกิจ SME แนะนำไหมครับ หรือจะเป็นคำแนะนำจากเพื่อนๆพี่พี่ก็ยินดีนะครับ ขอบคุณครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
worapong
Verified User
โพสต์: 929
ผู้ติดตาม: 0

น้องทำธุรกิจอะไรครับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

แนะนำมากกว่านี้หน่อย แล้วที่บอกว่ายังบริหารได้ไม่ดี เป็นอย่างไร ช่วยขยายความหน่อยครับ ได้ทำอะไรไปแล้วบ้างครับ ผมสนใจเรื่องของชาวบ้านครับ บอกมาแค่นี้ ยากที่จะแนะนำครับ :twisted:  :twisted:  :twisted:
margin of safety
circle of competence
waiting for the perfect pitch
boybbcom
Verified User
โพสต์: 269
ผู้ติดตาม: 0

ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจครับ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอบคุณครับ คุณ worapong ที่ผมบอกว่ายังทำได้ไม่ดีนั้น ความจริงแล้วไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าควรทำอะไรบ้าง ผมขออณุญาต อธิบายคร่าวๆนะครับ
ธุรกิจที่ครอบครัวผมทำนั้น
1) เป็นธุรกิจที่อยู่ในตลาดที่มีโครงสร้างตลาดแบบกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด นั่นคือ สินค้าและบริการต่างกันบ้างแต่ใช้ทดแทนกันได้ คล้ายๆโค้กกับเป๊บซี่ แต่ผู้เล่นในตลาดไม่ได้มีแค่สอง อย่างโค้กกับเป๊ปซี่ แต่ผู้เล่นในตลาดมีเพียบ สินค้าแม้จะมีแบรนด์ดูดีกว่าแต่ราคาก็แพงกว่าด้วย
2) ความต้องการสินค้า(ตลาด)มีแนวโน้มชะลอตัว ผู้บริโภคมีความภักดีน้อยเพราะสินค้าคู่แข่งทดแทนได้ หรือต่อให้มีความภักดีก้น้อยกว่าราคา
3) ส่วนของการทำการตลาดผมว่าธุรกิจที่ผมทำอยู่ค่อนข้างมีข้อจำกัดมาก และมีเครื่องมือน้อย อีกอย่างกำไรน้อย  ทำให้ผมกลัวๆว่าถ้าทำอะไรไปจะคุ้มหรือไม่
4) สรุปผมยังไม่ได้ทำอะไรมากมาย เพราะด้วยสาเหตุต่างๆทำให้ผมต้องระวังว่าที่จะทำไปจะได้ผลหรือไม่
5) คุณ   worapong คิดว่าผมคิดเล็กเกินไปจนไม่ได้ทำอะไรไหมครับ แต่ผมก็พยายามคิดให้รอบคอบที่สุดน่ะครับ ขอบคุณครับ
M149
Verified User
โพสต์: 1477
ผู้ติดตาม: 0

ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจครับ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

1.ถ้าเป็นธุรกิจกึ่งแข็งขันกึ่งผูกขาดทำไมถึงมีคู่แข่งเพียบ โปรดระบุด้วยครับ
2.สินค้ามีแบรนด์แสดงว่าเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคหรือครับ
3.แยกให้ออกก่อนนะครับระหว่างการทำตลาดกับการทำโฆษณา ลองพิจารณาที่พฤติกรรมของผู้บริโภคก่อนนะครับ
4.แยกประเด็นก่อนครับแล้วค่อยสรุป 4Ps เอามาใช้ให้เป็นประโยชน์ครับ
5.คิดเล็กกับคิดรอบคอบคนละเรื่องนะครับ และคิดใหญ่กับบุ่มบ่ามก็คนละเรื่องเช่นกัน

จริงๆถ้าพอบอกได้ว่าสินค้าคืออะไรน่าจะช่วยวิเคราะห์ได้มากกว่านี้  :wink:
ภาพประจำตัวสมาชิก
harry
Verified User
โพสต์: 4200
ผู้ติดตาม: 0

ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจครับ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

แนะนำแบบที่ผมพอจะรู้

คือ ลองคิดว่าตัวเองเป็นลูกค้า แล้วคิดว่าทำไมถึงอยากมาซื้อร้านเราเอง

ถ้าเราขายไม่ดี สินค้าไม่ดี บริการไม่ดี ก็ปรับปรุงต่อไปครับ

แล้วลองถามลูกค้าดูว่า ต้องการอะไรเพิ่มเติม เค้าน่าจะบอกมานะครับ
Expecto Patronum!!!!!!
ภาพประจำตัวสมาชิก
worapong
Verified User
โพสต์: 929
ผู้ติดตาม: 0

ผมถามต่อนะครับ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ความเห็นเบื้องต้นก่อนนะครับ
1. ธุรกิจตกต่ำไม่ได้แปลว่าบริหารไม่เก่ง แล้วก็การที่ตกต่ำทั้งอุตสาหกรรมก็อาจมีบางธุรกิจที่เติบโตได้ เช่น วอลมาร์ตไปที่ไหน โชว์ห่วยเจ๊งที่นั่น แต่พวกฟาร์มาซีก็ยังอยู่ได้ หรือ ภาคตะวันออกขาดน้ำทำให้เจ้าของเหมืองดินที่มีน้ำท่วมสามารถขายน้ำได้ถึงคิวละ 120 บาท สบายใจเฉิบ คุณต้องพยายามมองหาโอกาส ในวิกฤตินะครับ
2. การทำธุรกิจก็คือการทำสงคราม คุณต้องคิดว่ากลุ่มลูกค้าคือใคร ทำอย่างไรจึงจะเป็น first choice ของลูกค้าได้ วอลมาร์ตพยายามเป็นผู้นำโดยเน้นเรื่องราคาและความหลากหลายของสินค้า toy r us พยายามเป็นผู้นำเฉพาะทาง คุณต้องหาทางเป็นผู้นำในสายตาลูกค้าของคุณให้ได้
3. เรื่องการทำอะไรแล้วคุ้มหรือไม่คุ้มนี่พูดยาก คงต้องประเมินทั้ง upside และ downside คือมองว่าถ้าลงทุนทำอะไรไปแล้วสำเร็จจะได้ผลตอบแทนเทียบกับเงินลงทุนเท่าไร ถ้าพลาดไปเราจะเสียหายเท่าไร แล้วคุยกับพ่อแม่ดู ท่านทำมานาน น่าจะมีความเห็นดีๆ แล้วท่านก็จะรู้สึกดีด้วยที่คุณไม่ลืมท่าน และเมื่อคุณทำอะไรลงไปแล้วมันไม่ดีต้องตัดขาดทุนนะครับ อย่าดันทุรัง ให้ดูซีเอ็ดนะครับ เค้าเปิดสาขาใหม่ไป แล้วก็ปิดสาขาที่ไม่กำไรไปพร้อมกัน ใครนินทาก็ไม่ต้องสนใจ เราทำธุรกิจ ไม่ได้ทำข้อสอบ ทำธุรกิจ ผิดแล้วเลิก แล้วพยายามขยายสิ่งที่ถูกออกไปเรื่อยๆ
4. ลองอ่าน marketing warfare กับ positioning ดู ถ้าทำค้าปลีกหาหนังสือเกี่ยวกับวอลมาร์ตมาอ่าน ทั้งหมดนี้มีเล่มแปล อ่านง่าย ซื้อที่ซีเอ็ดนะครับ ช่วยอุดหนุนผมหน่อย อ้อถ้ามีหนังสือเกี่ยวกับธุรกิจที่ล้มเหลวก็เอามาอ่านดูด้วย คุณควรรู้ว่าคุณจะตายที่ไหน เพื่อคุณจะได้ไม่ไปที่นั่น
5. ถ้าคุณทำค้าปลีก ควรปรึกษาพี่ naris ส่งข้อความไปถามได้เลย พี่เค้าทำร้านค้าเฉพาะทาง ว่าแต่ทำไมไม่บอกมาเลยละ ว่าทำอะไรกันแน่ ผมไม่แย่งคุณทำหรอก ผมขี้เกียจ ผมเป็นนักคิด ชอบการซื้อ ถือ ขาย ไม่ชอบลงไปทำ มันไม่เหมาะกับพรสวรรค์ของผม :twisted:  :twisted:  :twisted:

เกือบลืมไป ถ้าคุณเป็น manufacturer ก่อนลงทุนควรคิดให้ดีมากๆๆๆๆ เลย มันผ่านพ้นยุคของผู้ผลิตไปแล้ว นอกจากคุณจะมีbarrier to entry ที่แข็งแรง อันนี้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าคุณเป็นผู้ผลิตธรรมดาแล้วละก็ เอาcashflow ไปทำอย่างอื่นเลย ผมขอร้อง ถ้าwarren buffet ไม่สามารถพลิกฟื้นธุรกิจสิ่งทอของ Berkshire Hathaway ได้แล้วละก็ คุณก็พลิกฟื้นโรงงานของคุณไม่ได้เหมือนกัน

การเป็นผู้บริหารที่ดีไม่ได้มีมิติเดียวคือทำธุรกิจดั้งเดิมให้ดีขึ้น แต่คุณควรมองไปไกลกว่าพ่อแม่ของคุณ พยายามนำทรัพย์สินที่มีไปไว้ในธุรกิจที่ดี มีโอกาสเติบโต และสามารถป้องกันการบุกรุกของคู่แข่งได้ แต่ถ้าธุรกิจดั้งเดิมดีมากๆอยู่แล้ว และมีโอกาสขยายออกไป ก็รีบทำ แล้วเอามาจดทะเบียนในตลาดหุ้น ระดมทุนแล้วรีบขยายก่อนที่คู่แข่งจะมายึดพื้นที่จนคุณไม่มีที่ยืน

ขอพลังจงอยู่กับท่าน
margin of safety
circle of competence
waiting for the perfect pitch
คนเรือ VI
Verified User
โพสต์: 1647
ผู้ติดตาม: 0

ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจครับ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

แนะนำครับ ในฐานะคนที่อยู่สถานการณ์ใกล้เคียงกัน

ผมใช้วิธีนี้ครับ

1. คิดใหญ่ (ทำเล็กหรือใหญ่ ค่อยดูข้อจำกัดทีหลังครับ)
2. คิดบ้าๆ นอกคอก เลียนแบบอุตสาหกรรมอื่นมาประยุกต์ใช้
3. กำหนดทิศทาง มองไกลๆ แล้วค่อยมองใกล้

ผมใช้ได้ดีพอสมควรครับ

สุดท้ายตอนนี้ผมกลับมาอยู่ที่ efficiency ของการทำงานครับ
เราเป็นเจ้าของ / ทายาท ไม่เล็กเกินไปที่จะทำอะไรหรอกครับ

อ้อๆ ข้อสุดท้าย ต้องใช้ diplomacy ทำให้แรงเสียดทานลดลงครับ
ForrestGump
Verified User
โพสต์: 1435
ผู้ติดตาม: 0

ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจครับ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

คุณบอย พบปัญหาเหมือนกับผม ในช่วงอายุเดียวกันเลย
ความรู้สึกตอนนั้นคือ กลัวว่าจะอยู่ไม่ได้ และ จบมารู้งานที่บ้าน แต่รู้สึกว่า มันสู้เค้าไม่ได้ ทำไมเค้าไปเร็ว ทะเลาะกับคนรุ่นเก่า คนละแนวคิด

แต่พอเวลาผ่านมา ต้องยอมรับบางสิ่งบางอย่างที่พ่อแม่เราคิดไว้ คือ ท่านคิดถูก หลายด้าน แล้วเราต้องเอาความรู้ใหม่ประยุกต์เข้าไป เหมือนที่ทุกคนพูด และรู้นั่นแหละ

ผมคิดว่าปัญหานี้ต้องค่อยๆ แก้ อย่าเอะอะก็ขยายโดยใช้เงินกู้นะครับ จะลำบากภายหลัง

1. สร้าง brand ให้แข็งแกร่ง Brand is experience and feeling,not just a logo.

2. Segmentation ,Targeting ,Positioning เลือกกลุ่มเป้าหมายกว้าง และ เจาะจงขึ้น แล้ววาง positioning เราด้านราคา,คุณภาพ , ความทันสมัย , individual
เช่น ของเหมือนกัน แต่ segment ลูกค้าคนรวย ก็ขายได้แพงกว่า ลูกค้ากลางๆ

3. IMC Integreted Marketing Comunication
   คือ เราวางตำแหน่งของ brand เราแล้ว ก็ ทำไปในทางเดียวกันหมด เช่น เราวางตัวเป็น Green technology ก็ต้อง greenตั้งแต่การผลิต สินค้า การจำหน่าย  โฆษณา บางทีตกแต่งร้าน theme ก็เขียวด้วย

4. CRM ใช้ comonsense ให้มาก และ เก็บข้อมูลให้ถูกจุด จะได้ไม่ต้องลงทุนมาก เช่น ลูกค้าคนนี้ชอบ ซื้อตัวนี้ และปกติตัวนี้ขายคู่กับอีกตัว ก็ให้เสนอขายเป็น package พร้อมกัน แล้วลดราคานิดหน่อย, ควรใช้คอมพิวเตอร์ช่วย

5. 4Ps ที่คนใช้ๆ กัน  Product,Price ,Place, Promotion
   คุณภาพ ประโยชน์สินค้า package ดูดี,ราคาที่ลูกค้าซื้อแล้วคุ้ม ไม่ใช่ราคาต้นทุนบวกกำไรที่เราคิดเอง ,ช่องทางจำหน่ายสะดวก ต้นทุนต่ำ, กลเม็ดโปรโมทที่โดนใจ การลด การแถม การพ่วงสินค้า การสมัครสมาชิก

6. มี Marketing เป็นหัวหอก แล้ว ต้องประสานกับการเงิน บัญชี ด้วย เพราะ ทุก actities ต้องมี budget และ การประเมินผล

7. Sam Walton บอกว่า จะเพิ่มยอดขายเยอะขึ้นง่ายที่สุด ก็ยิ้มแย้ม ทักทายลูกค้า และช่วยเหลือแนะนำ คือ ปลูกฝังคนที่บริการลูกค้าให้มี service mind

8. สื่อสารภายนอกดี ภายในต้องดีด้วย คือ ให้ผลตอบแทนกับคนทำงานดีคุ้มค่า และ ยกย่องชมเชยตามเหมาะสม ช่วยเหลือแนะนำคนทำงานใกล้ตัวเรา สำคัญมาก

โดยรวมทั้งหมดคือ ต้องเอา ลูกค้าเป็นตัวตั้งเสมอ ทั้งด้านการกำหนดนโยบาย positioning การแต่งร้าน ราคา ฯลฯ

9. ข้อเก้าเกือบลืม ต้องทำความดี ทำบุญครับ เพราะ จะทำให้ทำอะไรสำเร็จได้ง่ายเข้า และ สบายใจด้วย

ผมไม่ทราบว่า เสนอความคิดเห็นที่คุณบอยอาจรู้แล้ว และ ทำแล้วหรือไม่ แต่ยังไงก็เอาใจช่วยนะครับ
varanchai
Verified User
โพสต์: 30
ผู้ติดตาม: 0

ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจครับ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

คุณ Gump นี่เก่งจริงๆนะครับ ครบรอบด้านเลย
boybbcom
Verified User
โพสต์: 269
ผู้ติดตาม: 0

ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจครับ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ขอบคุณครับสำหรับทุกคำแนะนำครับ ตอบคุณ GENIE นะครับ
1) ตลาดของผมเป็นกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาดเพราะ สินค้าอื่นทดแทนได้แม้แบรนด์ต่างกัน และมีรายใหม่เข้ามาแย่งขายได้ครับ คู่แข่งเลยเพียบครับ ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่ายิ่งมายิ่งแข่งกันเยอะยิ่งกำไรน้อยแต่ก็ยังมีคนเข้ามาทำกันอยู่
2) สินค้าของผมมีแบรนด์ แต่ไม่ใช่สินค้าอุปโภคบริโภคครับ
3)สำหรับ ผู้บริโภค ผมจะเข้าพบลูกค้าบ่อยขึ้นและดูแลลูกค้าเก่าให้ดีขึ้นครับและพยายามหาลูกค้าใหม่ครับ ขอบคุณครับ

ขอบคุณครับ คุณ HARRY ผมคงต้องเอาใจใส่ลูกค้าให้ดีขึ้นครับ
ขอบคุณครับ คุณ WORAPONG สำหรับข้อคิดดีดีและยังอุตส่าห์ช่วยตอบผมตั้ง 2 ครั้ง ที่ผมไม่บอกว่าทำธุรกิจอะไรไม่ใช่กลัวมาแย่งทำนะครับ แต่เพราะผมกลัวว่าจะหาว่าผมโฆษณาครับ
ขอบคุณ คุณ forest Gump ผมรู้สึกเหมือนที่พี่เขียนเลยครับ ขอบคุณครับพี่แล้วจะพยายามต่อไปครับ
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจครับ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ผมคิดว่า การที่คุณออกไปหาลูกค้าบ่อยๆดีแล้วครับ

ช่วงรับกิจการแบบนี้ เป็นช่วงเรียนรู้ครับ เรียนรู้ให้มาก ว่าอะไรเป็นอะไร เมื่อเรียนเสร็จ ก็ให้วางไว้

อิอิ แล้วกลับไปเรียนใหม่ครับ

ผมคิดว่าอย่าเพิ่งทำอะไรเลย บางที ดูเหมือนว่า สิ่งทีเราทำไม่ดี แต่จริงๆอาจจะดีก็ได้ และสิ่งทีเราทำดี แต่จริงๆอาจจะไม่ดีก็ได้

ในระยะยาว

.............................................................................

ยกตัวอย่างผู้จัดการที่ต้องการสร้างผลงาน ก็ตั้งเป้าหมายการทำงานให้กับพนักงานเช่น พนักงานขาย ปีที่แล้วขายได้เท่านี้ ปีนี้ขยันขึ้นนะ ผมต้องการยอดขายโตขึ้น 10 % เงินเดือน โบนัสของนายจะสูงขึ้น

ง่ายดี ปีหน้า ตั้งเป้าใหม่ ต่อกว่าปีนี้อีก 10 %

อิอิ

คือผู้จัดการต้องการสร้างผลงาน ทำกำไรให้สูงขึ้น จะมีอะไร ก็เพิ่มยอดขาย ไม่ก็ลดรายจ่าย

วิธีลดรายจ่าย อย่างเช่น เมื่อเร็วๆนี้ แบงค์กรุงเทพใช้

คือสมัยนานมากแล้ว เวลาใครอยู่ทำงานที่แบงค์ครบรอบ 10 ปี เห็นว่าทางแบงค์จะมีเหรียญ 10 ปี เป็นทอง และมีการจัดพิธี มอบให้ ประมาณนี้

แต่เมื่อเร็วๆนี้ ทางแบงค์ใช้วิธี แจกเน็คไท 1 อัน

อืม ผู้บริหารอาจจะไม่เห็น แต่พนักงานลือกันให้แซท ว่า ให้วิ่งออกไปดู สุนัขใส่เน็คไท วิ่งเล่นอยู่ คนก็วิ่งไปดูกันใหญ่

พนักงาน คงน้อยใจ ที่วัฒนธรรมมีการเปลี่ยนแปลง

อืม เรื่องนี้ อาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ หรือ อาจจะเป็นเรื่องใหญ่ ผมก็มะรู้นะ

การลดรายจ่าย เพื่อสร้างผลงาน ซึ่งจะมีผลดีต่องบดุลในระยะสั้น แต่ในระยะยาวแล้วจะเป็นอย่างไร
nanchan
Verified User
โพสต์: 2938
ผู้ติดตาม: 0

ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจครับ

โพสต์ที่ 12

โพสต์

มีที่ปรึกษาหลายที่นะครับ ค่าใช้จ่ายไม่สูงด้วย
- สำนักพัฒนาอุตสาหกรรม
- สสท
- สถาบันSME
- สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ
- สถาบันยานยนต์
- สมาคมต่างๆ
- สถาบันต่างๆ
nanchan
Verified User
โพสต์: 2938
ผู้ติดตาม: 0

ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจครับ

โพสต์ที่ 13

โพสต์

กรมส่งเสริมส่งออก
nanchan
Verified User
โพสต์: 2938
ผู้ติดตาม: 0

ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจครับ

โพสต์ที่ 14

โพสต์

จากที่อ่านดูคิดว่าคุณเองคงมองไปที่ปัญหาผลิตภัณฑ์คือความต้องการสินค้าน้อยลง แต่อันนี้ใช่แน่รึเปล่า

ถ้าไม่ใช่ น่าจะศึกษาสินค้าของคู่แข่งว่าเป็นยังไง (รู้เขารู้เรา ซะก่อน)

ถ้าใช่ คือ สินค้าคุณ เริ่มกลายเป็นสินค้าที่ไม่มีความต้องการไปเรื่อยๆและมีสินค้าอื่นเข้ามาทดแทนมากขึ้น จนไม่เกิดความคุ้มค่าทางEconomy of scale
นั่นหมายถึงDogsมาเยือนคุณซะแล้ว
Dogs อยู่ในBCG Matrix(Boston Consulting Group Matrix) ซึ่งหมายถึง
ผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราการเติบโตของยอดขายต่ำ ส่วนครองตลาดเปรียบเทียบต่ำ กำไรต่ำหรือขาดทุน กลยุทธที่เค้าแนะนำไว้คือกลยุทธถอนผลิตภัณฑ์หรือการเปลียนธุรกิจหรือเก็บเกี่ยวผลประโยชน์


ผมว่าคุณคงต้องวิเคราะห์สถานะผลิตภัณฑ์ของตัวคุณเองให้แน่ชัดซะก่อนว่าเกิดจากอะไร ทำไมยอดขายถึงลดลงเรื่อยๆ

ผิดพลาดประการใด ก็ขออภัย
boybbcom
Verified User
โพสต์: 269
ผู้ติดตาม: 0

ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจครับ

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ขอบคุณครับ พี่เจ๋ง คุณ nanchan สำหรับข้อดีดี สินค้าที่ผมขาย ความต้องการเริ่มชะลอตัว แต่มันไม่ได้ชะลอเพราะสินค้าไม่ดีครับ แต่ว่าชะลอเพราะ กำลังซื้อของคนเริ่มน้อยลงมากกว่าและสินค้าอื่นสามารถทดแทนได้ประกอบกับมีผู้ขายอยู่มากรายทำให้การแข่งขันสูง ทำให้รู้สึกลำบากใจเพราะตัวผมเองก็กลัวๆว่าถ้าบริหารพัฒนาธุรกิจได้แย่กว่าคู่แข่ง มันก็เหมือนถอยหลังน่ะครับ แต่ตอนนี้มาดูดูแล้ว คงจะใช้วิธี direct sale น่าจะเหมาะมั้งครับ ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นและคำแนะนำนะครับ
ล็อคหัวข้อ