จับตาปี 49 อุตฯ-เกษตรวิกฤตน้ำของแท้ สงครามชิงน้ำยังระอุ!โคราช-อีสานเจอหนัก-เขื่อนแห้ง
โดย ผู้จัดการรายสัปดาห์ 5 สิงหาคม 2548 11:49 น.
ประเทศขาดแคลนน้ำใครจะรับผิดชอบ... ?!?!
มันเป็นความผิดของใครที่ทำให้ภาคอุตสาหกรรม-เกษตรขาดแคลนน้ำ
จนเกิดสงครามแย่งน้ำระหว่างเกษตรกรกับอุตสาหกรรมในแถบตะวันออก
วงการคาดตั้งแต่ 1 มกราคม 2549 นิคมอุตฯมาบตาพุดขาดน้ำ วิกฤตหนักยิ่งกว่าปีนี้
ขณะที่ โคราช-อีสาน เจอดี น้ำในเขื่อนแห้งขอด
************
สงครามชิงน้ำยังระอุ
ในที่สุดน้ำลดตอก็ผุด...ตามคำพังเพยโบราณ !!!
เมื่อน้ำในเขื่อนและในอ่างเก็บน้ำแต่ละแห่งของประเทศเหลือแต่ตอจริงๆ !?!
วิกฤตน้ำแล้งครั้งนี้ถือว่าร้ายแรงที่สุด เพราะมันลุกลามจากภาคเกษตรไปสู่ภาคอุตสาหกรรมเข้าแล้ว
พลันที่ โรงงานอุตสาหกรรมในนิคมมาบตาพุด จ.ระยอง ผจญวิกฤตขาดแคลนน้ำอย่างหนัก ทำให้ภาครัฐหันมาดูแลอย่างจริงจัง ทั้งที่ก่อนหน้ายังไม่ค่อยจะหันมาดูเท่าไร ว่ากันว่า เป็นเพราะในแถบตะวันนอก มีอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของประเทศอาศัยทำมาหากินอยู่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นโรงกลั่น โรงแยกก๊าซ ของปตท . ปุ๋ยแห่งชาติ (NPC) ทีพีไอ โรงผลิตไฟฟ้า โรงงานปูนซิเมนต์ไทย เป็นต้น
ทั้งที่ทราบกันดีว่า ปัญหาภัยแล้งเกิดขึ้นกับภาคเกษตรมาแล้วตั้งแต่ปี 2547 แต่ก็ยังไม่มีมาตรการแก้ปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด จนกระทั่งมันลุกลามไปสู่ภาคอุตสาหกรรม หัวใจสำคัญของชาติ ถึงทำให้รัฐบาลเต้นผาง เพราะเป็นสัญญาณอันตรายในด้านความเชื่อมั่นจากนักลงทุนไทยและต่างประเทศไปแล้ว
น้ำในอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหลและดอกกรายใกล้หมดลงทุกวัน เพราะมีใช้กันมาก โดยไม่มีการวางแผนถึงภาคการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน และปัจจุบันเป็น สว.กรุงเทพฯ บอก
เขาถูกให้เป็นผุ้รู้เรื่องน้ำในสภาฯสูงดีที่สุดคนหนึ่ง เพราะเคยนั่งควบคุมแผนเรื่องน้ำของประเทศและปัจจุบันก็ยังติดตามสถานการณ์น้ำมาตลอด เขาอธิบายกลไกของในภาคตะวันออก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรม โรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก ให้การส่งเสริมการลงทุน แต่รัฐบาลไม่เคยวางแผนรับมือการเติบโตการลงทุนภาคอุตสาหกรรม