ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 1
นี่คือส่วนนึงของคำแนะนำของกูรูหลายๆคน
1. อย่าซื้อหุ้น OEM
2. หุ้นที่ดีต้องมี ROE ROA สูงๆ
3. PE ต่ำ PB ต่ำไม่ใช่หุ้นที่ถูกเสมอไป (ส่วนมากกูรูจะไม่สนใจหุ้นพวกนี้)
4. เป็นบริษัทที่เราสามารถใช้บริการได้ เช่นร้านหน้าปากซอย
5. มีความอดทนในการรอคอย เพื่อให้เกิด panic sale
6. แนะนำให้ใช้จินตนาการคลาดเดาเหตุการณ์ในอนาคต เช่น AEC Megatrend ฯลฯ
7. แนะนำให้ซื้อหุ้นถือยาวไปเลย 10ปี
คำแนะนำเหล่นี้ ดูแล้วก็มีเหตุผลดี น่าทำตาม แทบจะไม่มีอะไรที่เราต้องสงสัย หรือเห็นแย้ง
แต่ ถ้านักลงทุนทุกคนทำตาม อย่างงมงายอะไรจะเกิดขึ้น เมื่อทุกคนมีกรอบความคิดที่เหมือนกัน
จากการขัดเกลาของเหล่ากูรู หุ้นที่เลือกก็จะเป็นหุ้นชุดเดียวกัน เมื่อใครๆก็อยากได้หุ้นชุดนี้
ราคาก็ย่อมแพง และแพงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่กูรูแนะนำให้อดทนรอคอยจนกว่าจะมี MOS ใครเชื่อก็
รอไป อาจจะมีหุ้นบางตัวที่ราคาตกลงมากๆ บางคนคิดว่ามี MOS แต่การลงมากๆอาจจะมาจาก
พื้นฐานมันเปลี่ยน คำแนะนำให้รอคอยจึงไร้ผลในการปฏิบัติจริง
แล้วทำไมส่วนมากกูรูแนะนำคล้ายๆกัน เดิมความเชื่อชุดนี้คนเชื่อยังไม่มาก
คนที่ทำก็ยังไม่มาก คนที่ทำได้รับผลดีมาก คนทำตามก็มากขึ้น ผลดีก็ยิ่งมากขึ้น
ใครเชื่อและทำตามก็ได้รับผลดีกันถ้วนหน้า ถ้าคนเชื่อมากขึ้นเรื่อยๆผลดีจะยิ่งมหาศาล
คือหุ้นชุดนี้จะแพงขึ้นไปเรื่อยๆ แต่มันคงต้องมีวันเลิกลา
1. อย่าซื้อหุ้น OEM
2. หุ้นที่ดีต้องมี ROE ROA สูงๆ
3. PE ต่ำ PB ต่ำไม่ใช่หุ้นที่ถูกเสมอไป (ส่วนมากกูรูจะไม่สนใจหุ้นพวกนี้)
4. เป็นบริษัทที่เราสามารถใช้บริการได้ เช่นร้านหน้าปากซอย
5. มีความอดทนในการรอคอย เพื่อให้เกิด panic sale
6. แนะนำให้ใช้จินตนาการคลาดเดาเหตุการณ์ในอนาคต เช่น AEC Megatrend ฯลฯ
7. แนะนำให้ซื้อหุ้นถือยาวไปเลย 10ปี
คำแนะนำเหล่นี้ ดูแล้วก็มีเหตุผลดี น่าทำตาม แทบจะไม่มีอะไรที่เราต้องสงสัย หรือเห็นแย้ง
แต่ ถ้านักลงทุนทุกคนทำตาม อย่างงมงายอะไรจะเกิดขึ้น เมื่อทุกคนมีกรอบความคิดที่เหมือนกัน
จากการขัดเกลาของเหล่ากูรู หุ้นที่เลือกก็จะเป็นหุ้นชุดเดียวกัน เมื่อใครๆก็อยากได้หุ้นชุดนี้
ราคาก็ย่อมแพง และแพงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่กูรูแนะนำให้อดทนรอคอยจนกว่าจะมี MOS ใครเชื่อก็
รอไป อาจจะมีหุ้นบางตัวที่ราคาตกลงมากๆ บางคนคิดว่ามี MOS แต่การลงมากๆอาจจะมาจาก
พื้นฐานมันเปลี่ยน คำแนะนำให้รอคอยจึงไร้ผลในการปฏิบัติจริง
แล้วทำไมส่วนมากกูรูแนะนำคล้ายๆกัน เดิมความเชื่อชุดนี้คนเชื่อยังไม่มาก
คนที่ทำก็ยังไม่มาก คนที่ทำได้รับผลดีมาก คนทำตามก็มากขึ้น ผลดีก็ยิ่งมากขึ้น
ใครเชื่อและทำตามก็ได้รับผลดีกันถ้วนหน้า ถ้าคนเชื่อมากขึ้นเรื่อยๆผลดีจะยิ่งมหาศาล
คือหุ้นชุดนี้จะแพงขึ้นไปเรื่อยๆ แต่มันคงต้องมีวันเลิกลา
Blueplanet
- PrasertsakK
- Verified User
- โพสต์: 286
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 2
ยกประเด็นได้โดนทุกครั้งจริงๆครับ อยากจะพบตัวจริงเสียแล้ว ^^
http://prasertsakk.blogspot.com/
การลงทุน ความมั่งคั่ง ความสุข มิตรภาพ
การลงทุน ความมั่งคั่ง ความสุข มิตรภาพ
-
- Verified User
- โพสต์: 332
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 3
เตือนสติได้ดี ขอบคุณครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 4
ผมว่า พี่ blue เอาของคนโน้นคนนี้ อย่างละนิด มาพูดเหมา
จะตามเซียน ตามกูรู ต้องรู้ style เค้าสิคับ
ว่า เค้าสายไหน เน้นอะไร
กูรู ไม่ใช่ ratio investor
กูรู น้อยคนจะบอกให้ถือ 10 ปี
บางคนเค้าพอร์ทใหญ่มาก รายได้ จากปันผล เค้าก็ไม่อยาก switch
แต่บางคนเค้า ล่าส่วนต่าง ตลอด
จริงๆ ควรมีหมายเหตุต่อท้าย หรือแยกเป็นรายๆ แล้วไม่ระบุชื่อจะดีกว่า
จะตามเซียน ตามกูรู ต้องรู้ style เค้าสิคับ
ว่า เค้าสายไหน เน้นอะไร
กูรู ไม่ใช่ ratio investor
กูรู น้อยคนจะบอกให้ถือ 10 ปี
บางคนเค้าพอร์ทใหญ่มาก รายได้ จากปันผล เค้าก็ไม่อยาก switch
แต่บางคนเค้า ล่าส่วนต่าง ตลอด
จริงๆ ควรมีหมายเหตุต่อท้าย หรือแยกเป็นรายๆ แล้วไม่ระบุชื่อจะดีกว่า
show me money.
-
- Verified User
- โพสต์: 390
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 5
ขอบคุณมากครับ ถือเป็นทั้งมุมมอง และการเตือนสติเพื่อนนักลงทุนได้เป็นอย่างดีครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2141
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 8
ไม่เข้าใจจุดประสงค์พี่ว่าต้องการสื่ออะไรครับ เหมือนไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน และทำไมต้องหยิบยกประเด็นกูรู vi มา ทั้งหมดที่พี่พูดมามันคือธรรมชาติ วงจรการเป็นไปของ demand ที่เพิ่มขึ้นต่อหุ้นตัวนึง ไม่ว่าจะเกิดจากทางไหน มาจากแนวคิด vi, ตามข่าว, technical etc etc ไม่ว่าจะอะไรมันทำให้ราคาแพงขึ้นไปเรื่อยๆเหมือนกันอยู่แล้ว
เห็นด้วยกับคุณ nut ผมว่าลอยมาเกินไป ยกนำข้อมูล support เท่าที่สนับสนุนประเด็นที่ตัวเองจะเขียนมา โดยไม่คำนึงถึงเรื่องอื่นๆอีกแบบนี้ผมถือว่าเป็น incomplete argument การเขียนอย่างงี้เรียกว่า supporting detail abuse คนอ่านไม่มีวิจารณญาณเยอะนะครับ เราควรคำนึงว่าเราอาจจะเป็น irresponsible writer หรือ messenger
ที่พี่พูดมา ผมมองว่าไอ้ข้อ 1 ถึง 7 ท้ายสุดทุกคนถึงจะรับข้อมูลแบบเดียวกันมาแต่การนำไปตีความก็ไม่เหมือนกัน การนำไปคิดและกระทำต่อก็ไม่เหมือนกัน ไม่ควรสรุปว่าโลกนี้ดำเนินใน perfectly symmetrical manner, ผมสังเกตว่าโพสตพี่บลูส่วนใหญ่เป็นเช่นนั้น............ ถ้าสิ่งที่พี่บลูพูดคือความจริงสำหรับโลก แล้วทำไม หลายคนตามเงื่อนไขที่พี่เขียนมาถึงยังสามารถหาหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเป็นเด้งๆได้ทุกปี
ดังนั้นมันคือความจริงสำหรับบางคนเท่านั้นครับและหนึ่งในนั้นคือตัวพี่รึป่าว ถ้าใช่ ผมว่าพี่กำลังมองที่ปลายเหตุ และไม่มองที่ต้นเหตุคือตัวพี่เองว่าต้องแก้ยังไงถึงจะเข้ากับเงื่อนไขของโลกได้ แค่มาบอกว่าเงื่อนไขของโลกเป็นแบบนี้ผมว่าใครๆก็รู้ว่าถ้าลมพัดมามีกระดาษวางอยู่มันคงปลิว มันคือ stating the obvious......
จุดที่ทำให้ผมพูดแบบนี้ และเป็นสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นตัวคุมโทนการเขียนพี่ทั้งหมดที่แสดงถึงความ bias คือ พี่เขียนว่า
ปล. ก่อนใครมากดลบโพสต์ผม ขอเหตุผลด้วยนะครับ อย่าสักแต่กด เห็นคุณ nut โดนไปดอก ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำถึงต้องกดลบ ผมเป็นคนกดบวกคืนให้เอง
เห็นด้วยกับคุณ nut ผมว่าลอยมาเกินไป ยกนำข้อมูล support เท่าที่สนับสนุนประเด็นที่ตัวเองจะเขียนมา โดยไม่คำนึงถึงเรื่องอื่นๆอีกแบบนี้ผมถือว่าเป็น incomplete argument การเขียนอย่างงี้เรียกว่า supporting detail abuse คนอ่านไม่มีวิจารณญาณเยอะนะครับ เราควรคำนึงว่าเราอาจจะเป็น irresponsible writer หรือ messenger
ที่พี่พูดมา ผมมองว่าไอ้ข้อ 1 ถึง 7 ท้ายสุดทุกคนถึงจะรับข้อมูลแบบเดียวกันมาแต่การนำไปตีความก็ไม่เหมือนกัน การนำไปคิดและกระทำต่อก็ไม่เหมือนกัน ไม่ควรสรุปว่าโลกนี้ดำเนินใน perfectly symmetrical manner, ผมสังเกตว่าโพสตพี่บลูส่วนใหญ่เป็นเช่นนั้น............ ถ้าสิ่งที่พี่บลูพูดคือความจริงสำหรับโลก แล้วทำไม หลายคนตามเงื่อนไขที่พี่เขียนมาถึงยังสามารถหาหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเป็นเด้งๆได้ทุกปี
ดังนั้นมันคือความจริงสำหรับบางคนเท่านั้นครับและหนึ่งในนั้นคือตัวพี่รึป่าว ถ้าใช่ ผมว่าพี่กำลังมองที่ปลายเหตุ และไม่มองที่ต้นเหตุคือตัวพี่เองว่าต้องแก้ยังไงถึงจะเข้ากับเงื่อนไขของโลกได้ แค่มาบอกว่าเงื่อนไขของโลกเป็นแบบนี้ผมว่าใครๆก็รู้ว่าถ้าลมพัดมามีกระดาษวางอยู่มันคงปลิว มันคือ stating the obvious......
จุดที่ทำให้ผมพูดแบบนี้ และเป็นสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นตัวคุมโทนการเขียนพี่ทั้งหมดที่แสดงถึงความ bias คือ พี่เขียนว่า
MOS นั้น subjective สุดๆแล้ว ทำไมกล้าสรุปว่าคำแนะนำให้รอคอยถึงไร้ผลในการทำจริง คำถามน่าจะเป็นทำไมบางคนทำได้และบางคนทำไม่ได้ เพราะ capability to comprehend, mental capacity, thought process และ execution ไม่เท่ากันไง"แต่กูรูแนะนำให้อดทนรอคอยจนกว่าจะมี MOS ใครเชื่อก็ รอไป อาจจะมีหุ้นบางตัวที่ราคาตกลงมากๆ บางคนคิดว่ามี MOS แต่การลงมากๆอาจจะมาจาก พื้นฐานมันเปลี่ยน คำแนะนำให้รอคอยจึงไร้ผลในการปฏิบัติจริง "
ปล. ก่อนใครมากดลบโพสต์ผม ขอเหตุผลด้วยนะครับ อย่าสักแต่กด เห็นคุณ nut โดนไปดอก ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำถึงต้องกดลบ ผมเป็นคนกดบวกคืนให้เอง
M aterial catalyst
A ttitude & Perception
D isclipine
A ttitude & Perception
D isclipine
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 9
multipleceilings เขียน:ไม่เข้าใจจุดประสงค์พี่ว่าต้องการสื่ออะไรครับ เหมือนไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน และทำไมต้องหยิบยกประเด็นกูรู vi มา ทั้งหมดที่พี่พูดมามันคือธรรมชาติ วงจรการเป็นไปของ demand ที่เพิ่มขึ้นต่อหุ้นตัวนึง ไม่ว่าจะเกิดจากทางไหน มาจากแนวคิด vi, ตามข่าว, technical etc etc ไม่ว่าจะอะไรมันทำให้ราคาแพงขึ้นไปเรื่อยๆเหมือนกันอยู่แล้ว
เห็นด้วยกับคุณ nut ผมว่าลอยมาเกินไป ยกนำข้อมูล support เท่าที่สนับสนุนประเด็นที่ตัวเองจะเขียนมา โดยไม่คำนึงถึงเรื่องอื่นๆอีกแบบนี้ผมถือว่าเป็น incomplete argument การเขียนอย่างงี้เรียกว่า supporting detail abuse คนอ่านไม่มีวิจารณญาณเยอะนะครับ เราควรคำนึงว่าเราอาจจะเป็น irresponsible writer หรือ messenger
ที่พี่พูดมา ผมมองว่าไอ้ข้อ 1 ถึง 7 ท้ายสุดทุกคนถึงจะรับข้อมูลแบบเดียวกันมาแต่การนำไปตีความก็ไม่เหมือนกัน การนำไปคิดและกระทำต่อก็ไม่เหมือนกัน ไม่ควรสรุปว่าโลกนี้ดำเนินใน perfectly symmetrical manner, ผมสังเกตว่าโพสตพี่บลูส่วนใหญ่เป็นเช่นนั้น............ ถ้าสิ่งที่พี่บลูพูดคือความจริงสำหรับโลก แล้วทำไม หลายคนตามเงื่อนไขที่พี่เขียนมาถึงยังสามารถหาหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเป็นเด้งๆได้ทุกปี
ดังนั้นมันคือความจริงสำหรับบางคนเท่านั้นครับและหนึ่งในนั้นคือตัวพี่รึป่าว ถ้าใช่ ผมว่าพี่กำลังมองที่ปลายเหตุ และไม่มองที่ต้นเหตุคือตัวพี่เองว่าต้องแก้ยังไงถึงจะเข้ากับเงื่อนไขของโลกได้ แค่มาบอกว่าเงื่อนไขของโลกเป็นแบบนี้ผมว่าใครๆก็รู้ว่าถ้าลมพัดมามีกระดาษวางอยู่มันคงปลิว มันคือ stating the obvious......
จุดที่ทำให้ผมพูดแบบนี้ และเป็นสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นตัวคุมโทนการเขียนพี่ทั้งหมดที่แสดงถึงความ bias คือ พี่เขียนว่า
MOS นั้น subjective สุดๆแล้ว ทำไมกล้าสรุปว่าคำแนะนำให้รอคอยถึงไร้ผลในการทำจริง คำถามน่าจะเป็นทำไมบางคนทำได้และบางคนทำไม่ได้ เพราะ capability to comprehend, mental capacity, thought process และ execution ไม่เท่ากันไง"แต่กูรูแนะนำให้อดทนรอคอยจนกว่าจะมี MOS ใครเชื่อก็ รอไป อาจจะมีหุ้นบางตัวที่ราคาตกลงมากๆ บางคนคิดว่ามี MOS แต่การลงมากๆอาจจะมาจาก พื้นฐานมันเปลี่ยน คำแนะนำให้รอคอยจึงไร้ผลในการปฏิบัติจริง "
ปล. ก่อนใครมากดลบโพสต์ผม ขอเหตุผลด้วยนะครับ อย่าสักแต่กด เห็นคุณ nut โดนไปดอก ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำถึงต้องกดลบ ผมเป็นคนกดบวกคืนให้เอง
อ้าว เหรอคับ ขอบคุณมากเลย
แต่ไม่เป็นไรหรอกคับ
ผมเข้าใจ
ธรรมชาติคนเรา
เลือกที่จะเชื่อ ในสิ่งที่ตัวเอง อยากจะเชื่อ
ขอบคุณมากคับ
show me money.
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 2
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 10
พี่ ส.สลึง แน่ๆ เลย เป็นกูรู...ฮา (ล้อเล่น)ส.สลึง เขียน:ใครคือกูรู ?
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1111
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 11
พี่ multiple นี่ความอดทนสูงนะครับพี่ ผมเลิกแสดงความเห็นในกระทู้ของพี่blueมานานแล้ว
สิ่งที่ผมจะพูด ไม่รู้ว่าจะพูดแรงไปหรือไม่ แต่ผมขอพูดยังงี้... คนเรา หาก"พื้นฐานของตรรกะ"ผิดเพี้ยนตั้งแต่ต้น ความคิดต่อยอดในเรื่องอะไรก็ต้องผิดเพี้ยนไปด้วยเป็นธรรมดา สำหรับพี่blue ผมคิดว่าผมคงไม่biasเกินไปที่จะพูดว่า ตรรกะของพี่ ค่อนข้างแปลกทีเดียว คำพูดของพี่คล้ายกับจะสื่อมาจากตรรกะความคิดของพี่ที่เชื่อว่าในโลกเราต้องมีสูตรสำเร็จ หนทางมีแค่ one way ต้องเหมารวม อะไรเทือกนี้
ในเมื่อcontextของการถกเถียงแต่ละครั้งมันมาจากตรรกะที่ผิดแปลกตั้งแต่ต้น สำหรับผมจึงพบว่า ไม่เกิดประโยชน์เท่าไรที่จะถกกันต่อไป จึงเลิกแสดงความเห็นแต่นั้นมา.... แต่แปลกนะ เห็นก็มีหลายความเห็นที่บอกว่าชอบความเห็นของพี่blue นานาจิตตังกันไป
สิ่งที่ผมจะพูด ไม่รู้ว่าจะพูดแรงไปหรือไม่ แต่ผมขอพูดยังงี้... คนเรา หาก"พื้นฐานของตรรกะ"ผิดเพี้ยนตั้งแต่ต้น ความคิดต่อยอดในเรื่องอะไรก็ต้องผิดเพี้ยนไปด้วยเป็นธรรมดา สำหรับพี่blue ผมคิดว่าผมคงไม่biasเกินไปที่จะพูดว่า ตรรกะของพี่ ค่อนข้างแปลกทีเดียว คำพูดของพี่คล้ายกับจะสื่อมาจากตรรกะความคิดของพี่ที่เชื่อว่าในโลกเราต้องมีสูตรสำเร็จ หนทางมีแค่ one way ต้องเหมารวม อะไรเทือกนี้
ในเมื่อcontextของการถกเถียงแต่ละครั้งมันมาจากตรรกะที่ผิดแปลกตั้งแต่ต้น สำหรับผมจึงพบว่า ไม่เกิดประโยชน์เท่าไรที่จะถกกันต่อไป จึงเลิกแสดงความเห็นแต่นั้นมา.... แต่แปลกนะ เห็นก็มีหลายความเห็นที่บอกว่าชอบความเห็นของพี่blue นานาจิตตังกันไป
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 12
ครับ เวลาที่ผมให้สัมภาษณ์ตามสื่อkongkiti เขียน:พี่ ส.สลึง แน่ๆ เลย เป็นกูรู...ฮา (ล้อเล่น)ส.สลึง เขียน:ใครคือกูรู ?
หรือให้ความเห็นตามงานสัมมนาต่างๆ
ผมจะต้องตกลงเจ้ากับเจ้าภาพ
หรือเจ้าของงานก่อน
ว่าจะคุยกันในหัวข้อเรื่องอะไร
ซึ่งนอกจากสถานการณ์จะแตกต่างกัน
ตามช่วงเวลาแล้ว กลุ่มคนฟังก็สำคัญครับ
บางเรื่องตั้งใจคุยให้มือใหม่ฟัง
ก็ต้องพูดอย่าง คุยให้มือโปรฟังก็ต้องพูดอย่าง
หัวข้อสัมมนาสักหัวข้อนึง
มันก็จะมีรายละเอียดปลีกย่อยของมันครับ
ถ้าจะอ้างถึง ก็ควรยกหัวข้อมาด้วย
ว่าคุยเนื่องในโอกาสอะไร และเมื่อไหร่
จู่ๆ ยกมาลอยๆ บอกว่าเป็นของกูรู (ใคร?)
ไม่ใช่ความเห็นของกูรูหรอกครับ
แต่เป็นความเห็นของพี่ blue มากกว่า
(ล้อเล่นเหมือนกัน)
- luangrit
- Verified User
- โพสต์: 376
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 13
คนที่เค้าเชื่อ ก็เพราะเขาวิเคราะห์ตามแล้วว่าสิ่งที่กูรูเหล่านี้บอกนั้นมีเหตุมีผลblueplanet เขียน:นี่คือส่วนนึงของคำแนะนำของกูรูหลายๆคน
1. อย่าซื้อหุ้น OEM
2. หุ้นที่ดีต้องมี ROE ROA สูงๆ
3. PE ต่ำ PB ต่ำไม่ใช่หุ้นที่ถูกเสมอไป (ส่วนมากกูรูจะไม่สนใจหุ้นพวกนี้)
4. เป็นบริษัทที่เราสามารถใช้บริการได้ เช่นร้านหน้าปากซอย
5. มีความอดทนในการรอคอย เพื่อให้เกิด panic sale
6. แนะนำให้ใช้จินตนาการคลาดเดาเหตุการณ์ในอนาคต เช่น AEC Megatrend ฯลฯ
7. แนะนำให้ซื้อหุ้นถือยาวไปเลย 10ปี
สามารถเชื่อและวิเคราะห์ในแนวทางเดียวกันนี้ได้
อีกส่วนก็เป็นเพราะ บางคนไม่เชื่อตั้งแต่ต้น พยายามคัดค้าน
โดยลองหาแนวทางตามที่ตนเชื่อ เมื่อเกิดความผิดพลาดในการลงทุน
จึงกลับมามองว่าตนผิดพลาดตรงไหน
ถ้าเปิดใจกว้างพอ ก็จะรู้ว่าตนวิเคราะห์ผิดไปจากคำแนะนำต่างๆเหล่านี้
ผมเองก็เคยเชื่อตัวเองมาก โดยวิเคราะห์ผิดไปจากหลักของ VI
คือดูที่ financial statement ก่อน โดยที่ไม่สนใจว่าธุรกิจที่จะลงทุนนั้นคืออะไร
Bussiness model เป็นอย่างไร
ผลคือ ได้ธุรกิจที่มีลักษณะเป็น OEM ซะส่วนมาก
ซึ่งผลตอบแทนก็ไม่ดีเท่าไหร่นัก
แต่หลังจากที่ยอมเปิดใจให้กว้างขึ้น
เชื่อในสิ่งที่กูรูเหล่านั้นพูดมากขึ้น
โดยทำตามหลัก
1. ดูตัวธุรกิจ
2. ดูกำไรที่ผ่านมา
3. ดูราคาในตลาด
ปรากฏว่าสามารถทำผลตอบแทนได้ดีขึ้น
ไม่ต้องเหนื่อยหรือท้อใจกับการลงทุนเหมือนที่ผ่านมา
ข้อสรุปของผมก็คือ
มันไม่ผิดอะไรหรอกครับ ถ้าเราจะยอมไม่เชื่อกูรูเหล่านั้นตั้งแต่ต้น
ถ้าผลตอนแทนคุณยังดีอยู่ ก็แสดงว่าหลักการคุณถูก
แต่ถ้าเหตุการณ์นั้นกลับข้าง ไม่เป็นดั่งหวัง
คุณก็ควรลดทิฐิของตนลง เปิดใจบ้าง
มันจะทำให้คุณมองการลงทุนได้กว้างขึ้น
เพราะคุณได้ลองผิดลองถูกมาแล้ว ซึ่งนั้นจะเป็นผลดีต่อการลงทุนในระยะยาว
- xavi
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 123
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 14
ผมว่าแก้เข้าใจเขียนเหมือนหนังหักมุมดีล่ะครับ ทำซะผมเคลิ้มเลย แล้วสุดท้ายมาจบที่ "แล้วมันต้องมีวันเลิกรา"
แต่ไหนๆ ถ้าพี่บลูจะเข้ามาไม่ได้แล้ว (ถ้าไม่สมัครสมาชิก) ก็ช่วยเฉลยด้วยได้ไหมครับ ว่าในความคิดพี่นั้นมีหุ้นตัวไหนบ้างที่เข้าข่าย ผมสนใจมากกว่ากูรูเป็นใครครับ
ถ้าเพื่อตรงกับที่ผมถือ จะได้มาดูละเอียดๆว่าผมคิดอะไรผิดไปตรงไหนหรือเปล่า หรือซื้อเพราะคิดตามที่พี่ List มาจริงๆ จะได้ระวังไว้ครับ
แต่ไหนๆ ถ้าพี่บลูจะเข้ามาไม่ได้แล้ว (ถ้าไม่สมัครสมาชิก) ก็ช่วยเฉลยด้วยได้ไหมครับ ว่าในความคิดพี่นั้นมีหุ้นตัวไหนบ้างที่เข้าข่าย ผมสนใจมากกว่ากูรูเป็นใครครับ
ถ้าเพื่อตรงกับที่ผมถือ จะได้มาดูละเอียดๆว่าผมคิดอะไรผิดไปตรงไหนหรือเปล่า หรือซื้อเพราะคิดตามที่พี่ List มาจริงๆ จะได้ระวังไว้ครับ
- Guiman
- Verified User
- โพสต์: 320
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 15
ผมชอบเว็บบอร์ด thaivi กับ pantip
ตรงที่มันมักจะมีอะไรมาเปลี่ยนกระแสความคิด หรือการตามแห่ของคนอยู่เสมอ
(หรือบางทีมันอาจจะเป็นทุกเว็บบอร์ดที่มีคนเล่นเยอะๆ)
เช่น กระทู้ดราม่าทั้งหลายในพันทิปที่มีคนชอบแต่งเรื่องราวให้กับล็อกอินของตัวเอง
บางกระทู้บอกว่าเจ้าตัวเป็นมะเร็งแล้วก็มาตั้งกระทู้ขอกำลังใจ ก็มีคนให้กำลังใจล้นหลาม แต่พอมีคนจับผิดได้สักคนหนึ่ง ก็จะมีคนจับผิดได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กระแสก็จะเปลี่ยนไปทันที กลายเป็นกระทู้ดราม่า
หรืออย่างกระทู้นี้ ที่ตอนแรกพี่ blueplanet เริ่มกระทู้ คนแรกๆจะตามมาเห็นด้วย (บางทีอาจจะชอบโพสท์เก่าๆของพี่ blueplanet หรืออาจจะเห็นว่ามีคนกดบวกเยอะ) แต่พอมีใครคนนึงที่แสดงความคิดเห็นขัดแย้ง ที่มันมีพลังพอจะหยุดกระแสได้ อย่างพี่ nut776 กระแสน้ำก็จะเปลี่ยนไปทันที (แล้วมันก็น่าจะเป็นอย่างนี้เรื่อยไปจนกว่าจะมีใครที่แสดงความคิดเห็นตรงข้ามที่มีพลังพอจะเปลี่ยนกระแสน้ำคืนมา แต่หลังๆอาจจะยากหน่อย เพราะคนคงขี้เกียจอ่านทุกหน้า)
ผมว่าไอระบบกดบวกกดลบนี่ก็คล้ายๆกัน ถ้าคอมเม้นไหนมีคนกดบวกไว้เยอะๆ เราก็มีแนวโน้มที่จะกดบวกตาม ทั้งที่บางทีอาจจะไม่ได้เป็นคอมเม้นที่คมคายอะไร แต่บางทีอาจจะเป็นล็อกอินชื่อดัง หรือ อื่นๆ
ไอรูปแบบการเคลื่อนไหวแบบนี้มันเหมือนกับหุ้นชัดๆ ผมเจอรูปแบบนี้ในกระทู้ร้อยคนร้อยหุ้นด้วย เช่น mcs ตอนตกหนักๆ กระทู้อัพอย่างไว ข่าวร้ายมาเต็ม น่ากลัวชะมัด (ใจผมยังไม่แข็งพอ ก็เหวอไปเหมือนกัน) ตอนนี้ kye พุ่งเอาๆ กระทู้เด้งพึ่บๆๆ แต่ละความเห็นมาดีๆทั้งนั้น บางคนปรับเป้าไป 400 - 500 แต่ตอน 230 กระทู้เงียบจ๋อง (ผ่านมา 2-3 เดือนเอง)
ผมว่ามันคล้ายกับทฤษฏีดาว ของเด็กเทคนิค ที่บอกว่า เวลาหุ้นขึ้น ก็จะขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงจุดหนึ่งที่มันหมดแรง แล้วพอกระแสเปลี่ยนก็จะลงแล้วก็ลงไปจนเกินพื้นฐานจริง เค้าเปรียบว่าเหมือนกับลูกปิงปองที่โยนขึ้นไป จะลอยสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนหมดแรง จากนั้นพอกระแสเปลี่ยนจึงตกและตกไปเรื่อยๆ
หรืออาจจะเหมือนทฤษฏี reflexivity (อันนี้ผมไม่เข้าใจหรอก แต่เห็นเค้าชอบพูดกัน ) ที่พูดประมาณว่าราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น ก็จะทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นอีก จนถึงจุดนึงที่กระแสเปลี่ยน
หรือเหมือนวิชา เศรษฐศาสตร์เชิงพฤติกรรม ที่ออกมาแย้งว่า คนเราไม่ได้มีเหตุผลอย่างที่เราคิด หลายครั้งที่โดนจิตวิทยาเล่นงาน
เอาล่ะ กลับมาที่ปัจจุบัน
พี่ blueplanet ก็เป็นคนนึงที่ชอบตั้งกระทู้สวนกระแส (ชอบสวนหลัก VI) ซึ่งผมว่ามันก็เป็นเรื่องดีที่มีคนเห็นต่าง ถ้ามีแต่คนเห็นด้วยเหมือนกัน ผมว่ามันไม่ไหว
แต่บางที (หรือหลายที) ผมก็อ่านกระทู้พี่ blueplanet ไม่เข้าใจ เช่นกระทู้นี้ และกระทู้ก่อนๆ รวมถึง กระทู้ vi อยู่ใน red ocean (ผมอ่านไม่เข้าใจแต่มือมันก็สั่นกดบวกไปด้วย สงสัยจิตวิทยาตามแห่มันจะเล่นงานผมซะแล้ว) ซึ่งไอเรื่องวีไอ นี่ผมก็คิดมานานแล้วหละ ว่ามันฟองสบู่วีไอชัดๆ ใครๆก็รู้จักวีไอ หนังสือวีไอออกมาเป็นแถว แต่กระนั้นผมก็ต้องยอมรับว่าผมอ่านกระทู้พี่ไม่ค่อยเข้าใจจริงๆ
ส่วนตัวคิดว่า พี่อาจจะไม่เหมาะกับ VI หรือเปล่า บางทีวิธีนึงมันก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน อยากสุขภาพดี ต้องเป็นมังสวิรัติรึเปล่า?? คนกินเนื้อสุขภาพดีมีเยอะแยะไป (ผมก็ว่าแนว VI อาจจะไม่เหมาะกับผมนะ แ่ต่ผมก็ยังเกาะบอร์ดนี้อยู่ ) ถ้าใช่ ก็เอาใจช่วยให้หาแนวตัวเองเจอครับ (ผมก็ยังหาม่ายเจอ )
ปล.ขออภัย แพล่มมั่วไปหน่อย
ตรงที่มันมักจะมีอะไรมาเปลี่ยนกระแสความคิด หรือการตามแห่ของคนอยู่เสมอ
(หรือบางทีมันอาจจะเป็นทุกเว็บบอร์ดที่มีคนเล่นเยอะๆ)
เช่น กระทู้ดราม่าทั้งหลายในพันทิปที่มีคนชอบแต่งเรื่องราวให้กับล็อกอินของตัวเอง
บางกระทู้บอกว่าเจ้าตัวเป็นมะเร็งแล้วก็มาตั้งกระทู้ขอกำลังใจ ก็มีคนให้กำลังใจล้นหลาม แต่พอมีคนจับผิดได้สักคนหนึ่ง ก็จะมีคนจับผิดได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กระแสก็จะเปลี่ยนไปทันที กลายเป็นกระทู้ดราม่า
หรืออย่างกระทู้นี้ ที่ตอนแรกพี่ blueplanet เริ่มกระทู้ คนแรกๆจะตามมาเห็นด้วย (บางทีอาจจะชอบโพสท์เก่าๆของพี่ blueplanet หรืออาจจะเห็นว่ามีคนกดบวกเยอะ) แต่พอมีใครคนนึงที่แสดงความคิดเห็นขัดแย้ง ที่มันมีพลังพอจะหยุดกระแสได้ อย่างพี่ nut776 กระแสน้ำก็จะเปลี่ยนไปทันที (แล้วมันก็น่าจะเป็นอย่างนี้เรื่อยไปจนกว่าจะมีใครที่แสดงความคิดเห็นตรงข้ามที่มีพลังพอจะเปลี่ยนกระแสน้ำคืนมา แต่หลังๆอาจจะยากหน่อย เพราะคนคงขี้เกียจอ่านทุกหน้า)
ผมว่าไอระบบกดบวกกดลบนี่ก็คล้ายๆกัน ถ้าคอมเม้นไหนมีคนกดบวกไว้เยอะๆ เราก็มีแนวโน้มที่จะกดบวกตาม ทั้งที่บางทีอาจจะไม่ได้เป็นคอมเม้นที่คมคายอะไร แต่บางทีอาจจะเป็นล็อกอินชื่อดัง หรือ อื่นๆ
ไอรูปแบบการเคลื่อนไหวแบบนี้มันเหมือนกับหุ้นชัดๆ ผมเจอรูปแบบนี้ในกระทู้ร้อยคนร้อยหุ้นด้วย เช่น mcs ตอนตกหนักๆ กระทู้อัพอย่างไว ข่าวร้ายมาเต็ม น่ากลัวชะมัด (ใจผมยังไม่แข็งพอ ก็เหวอไปเหมือนกัน) ตอนนี้ kye พุ่งเอาๆ กระทู้เด้งพึ่บๆๆ แต่ละความเห็นมาดีๆทั้งนั้น บางคนปรับเป้าไป 400 - 500 แต่ตอน 230 กระทู้เงียบจ๋อง (ผ่านมา 2-3 เดือนเอง)
ผมว่ามันคล้ายกับทฤษฏีดาว ของเด็กเทคนิค ที่บอกว่า เวลาหุ้นขึ้น ก็จะขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงจุดหนึ่งที่มันหมดแรง แล้วพอกระแสเปลี่ยนก็จะลงแล้วก็ลงไปจนเกินพื้นฐานจริง เค้าเปรียบว่าเหมือนกับลูกปิงปองที่โยนขึ้นไป จะลอยสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนหมดแรง จากนั้นพอกระแสเปลี่ยนจึงตกและตกไปเรื่อยๆ
หรืออาจจะเหมือนทฤษฏี reflexivity (อันนี้ผมไม่เข้าใจหรอก แต่เห็นเค้าชอบพูดกัน ) ที่พูดประมาณว่าราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น ก็จะทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นอีก จนถึงจุดนึงที่กระแสเปลี่ยน
หรือเหมือนวิชา เศรษฐศาสตร์เชิงพฤติกรรม ที่ออกมาแย้งว่า คนเราไม่ได้มีเหตุผลอย่างที่เราคิด หลายครั้งที่โดนจิตวิทยาเล่นงาน
เอาล่ะ กลับมาที่ปัจจุบัน
พี่ blueplanet ก็เป็นคนนึงที่ชอบตั้งกระทู้สวนกระแส (ชอบสวนหลัก VI) ซึ่งผมว่ามันก็เป็นเรื่องดีที่มีคนเห็นต่าง ถ้ามีแต่คนเห็นด้วยเหมือนกัน ผมว่ามันไม่ไหว
แต่บางที (หรือหลายที) ผมก็อ่านกระทู้พี่ blueplanet ไม่เข้าใจ เช่นกระทู้นี้ และกระทู้ก่อนๆ รวมถึง กระทู้ vi อยู่ใน red ocean (ผมอ่านไม่เข้าใจแต่มือมันก็สั่นกดบวกไปด้วย สงสัยจิตวิทยาตามแห่มันจะเล่นงานผมซะแล้ว) ซึ่งไอเรื่องวีไอ นี่ผมก็คิดมานานแล้วหละ ว่ามันฟองสบู่วีไอชัดๆ ใครๆก็รู้จักวีไอ หนังสือวีไอออกมาเป็นแถว แต่กระนั้นผมก็ต้องยอมรับว่าผมอ่านกระทู้พี่ไม่ค่อยเข้าใจจริงๆ
ส่วนตัวคิดว่า พี่อาจจะไม่เหมาะกับ VI หรือเปล่า บางทีวิธีนึงมันก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน อยากสุขภาพดี ต้องเป็นมังสวิรัติรึเปล่า?? คนกินเนื้อสุขภาพดีมีเยอะแยะไป (ผมก็ว่าแนว VI อาจจะไม่เหมาะกับผมนะ แ่ต่ผมก็ยังเกาะบอร์ดนี้อยู่ ) ถ้าใช่ ก็เอาใจช่วยให้หาแนวตัวเองเจอครับ (ผมก็ยังหาม่ายเจอ )
ปล.ขออภัย แพล่มมั่วไปหน่อย
http://guimanstock.blogspot.com/
บันทึกการลงทุน & รีวิวหนังสือ
บันทึกการลงทุน & รีวิวหนังสือ
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 16
เรื่อง MOS เป็นเรื่องที่ใครๆก็แนะนำปิดท้าย เพราะเป็นคำแนะนำที่เต็มไปด้วยความปราถนาดี
และถ้าเกิดฟังคำแนะนำข้ออื่นๆแล้ว และซื้อหุ้นถ้าขาดทุนแสดงว่าไม่มี MOS หรือ MOS ไม่พอ
ดังนั้นนักลงทุนต้องไปปรับปรุงตัวโดยการเพิ่ม MOS ให้มากขึ้น
เหมือนกับคำแนะนำของเสี่ยคนนึงเมื่อเดือนกว่าๆมานี้ คือให้ถือเงินสดไว้ และรอให้ตลาด
เกิด panic sale ซื้อตอนนั้นถือไว้แล้วกำไรแน่นอน เป็นคำแนะนำที่ไม่มีทางผิด
"ถ้าคนส่วนมากมีวิธีคิดแบบเดียวกัน ก็ต้องเลือกหุ้นชุดเดียวกัน แล้วหุ้นจะมี MOS ได้อย่างไร"
ถ้าเราอยากได้ เราก็จะลด MOS ลง ถ้าเรากลัวเราก็จะไม่ลด คนกลัวก็จะซื้อไม่ได้
ส่วนคนที่ได้ก็เพราะลด MOS ลง หรือมี MOS ต่ำๆ คุณ multipleceilings เห็นด้วยไม๊
ที่เขียนทั้งหมด เหมือนกับว่าผมคร้านอย่างเดียว และทำให้นักลงทุนใหม่ๆสับสน
จริงๆการสับสน มึนงง ไม่เข้าใจ ย่อมดีกว่าเข้าใจอะไรผิดๆ
และถ้าเกิดฟังคำแนะนำข้ออื่นๆแล้ว และซื้อหุ้นถ้าขาดทุนแสดงว่าไม่มี MOS หรือ MOS ไม่พอ
ดังนั้นนักลงทุนต้องไปปรับปรุงตัวโดยการเพิ่ม MOS ให้มากขึ้น
เหมือนกับคำแนะนำของเสี่ยคนนึงเมื่อเดือนกว่าๆมานี้ คือให้ถือเงินสดไว้ และรอให้ตลาด
เกิด panic sale ซื้อตอนนั้นถือไว้แล้วกำไรแน่นอน เป็นคำแนะนำที่ไม่มีทางผิด
"ถ้าคนส่วนมากมีวิธีคิดแบบเดียวกัน ก็ต้องเลือกหุ้นชุดเดียวกัน แล้วหุ้นจะมี MOS ได้อย่างไร"
ถ้าเราอยากได้ เราก็จะลด MOS ลง ถ้าเรากลัวเราก็จะไม่ลด คนกลัวก็จะซื้อไม่ได้
ส่วนคนที่ได้ก็เพราะลด MOS ลง หรือมี MOS ต่ำๆ คุณ multipleceilings เห็นด้วยไม๊
ที่เขียนทั้งหมด เหมือนกับว่าผมคร้านอย่างเดียว และทำให้นักลงทุนใหม่ๆสับสน
จริงๆการสับสน มึนงง ไม่เข้าใจ ย่อมดีกว่าเข้าใจอะไรผิดๆ
Blueplanet
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 17
แนะนำพี่บลู เปลี่ยนคำว่า mos เป็น upside แทนดีกว่าไหมคับ
จะได้สับสนน้อยลง หรือยึดติดกับ ratio น้อยลง
แม้จะ subjective เหมือนกัน
แต่สื่อสารง่ายกว่า หรือถ้าผมสื่อไม่ตรงประเด็น
ผมยกตัวอย่าง เช่น
ถ้าพี่บลูชอบหุ้น pe ต่ำ (ถ้ามันดีใครๆก็ชอบ)
มีหุ้น pe 8 ถามว่าต่อไป ผมซื้อ แล้ว ผมควรได้กำไรเท่าไหร่
ภายในกี่ปี
ในกรณีนี้ mos ในความหมายของพี่คืออะไรคับ
ในเมื่อมันแทบไม่ได้การันตีอะไรเลยว่า ซื้อแล้วไม่ขาดทุน
แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นคำว่า upside ผมคงพอเข้าใจง่ายกว่า
ว่ารู้แล้วว่าราคาที่ผมซื้อ ผมได้กำไรเท่าไหร่
ผมคงพอตอบตัวเองได้ ว่าจะถือ หรือซื้อเฉลี่ย มากน้อยแค่ไหน
ผมเป็นคนโง่ๆ จนป่านนี้
เอาเข้าจริงๆ ผมยังไม่รู้ ว่าอะไรคือ mos เลยคับ
ดังนั้น หุ้นมันจะ pe เท่าไหร่ สำหรับผม
มันสำคัญน้อยกว่า ว่าผมหา upside ได้ไหม และชัวร์แค่ไหน
ดังนั้น จะคนธรรมดา หรือ กูรู หรือ เซียน
ถ้าเค้าไม่ได้สอนเรา ว่าเค้ามีวิธีคิดอย่างไร
ก็ไม่น่าจะด่วนสรุปว่า อย่างนั้นอย่างนี้
แต่ถ้ามีเจตนาจะเตือน ผมว่า
มีวิธีอื่นอีกเป็นร้อยพัน ทีจะเตือน โดยไม่ใส่ความเป็นตัวตนของเรา
เข้าไปมากๆนะคับ
จะได้สับสนน้อยลง หรือยึดติดกับ ratio น้อยลง
แม้จะ subjective เหมือนกัน
แต่สื่อสารง่ายกว่า หรือถ้าผมสื่อไม่ตรงประเด็น
ผมยกตัวอย่าง เช่น
ถ้าพี่บลูชอบหุ้น pe ต่ำ (ถ้ามันดีใครๆก็ชอบ)
มีหุ้น pe 8 ถามว่าต่อไป ผมซื้อ แล้ว ผมควรได้กำไรเท่าไหร่
ภายในกี่ปี
ในกรณีนี้ mos ในความหมายของพี่คืออะไรคับ
ในเมื่อมันแทบไม่ได้การันตีอะไรเลยว่า ซื้อแล้วไม่ขาดทุน
แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นคำว่า upside ผมคงพอเข้าใจง่ายกว่า
ว่ารู้แล้วว่าราคาที่ผมซื้อ ผมได้กำไรเท่าไหร่
ผมคงพอตอบตัวเองได้ ว่าจะถือ หรือซื้อเฉลี่ย มากน้อยแค่ไหน
ผมเป็นคนโง่ๆ จนป่านนี้
เอาเข้าจริงๆ ผมยังไม่รู้ ว่าอะไรคือ mos เลยคับ
ดังนั้น หุ้นมันจะ pe เท่าไหร่ สำหรับผม
มันสำคัญน้อยกว่า ว่าผมหา upside ได้ไหม และชัวร์แค่ไหน
ดังนั้น จะคนธรรมดา หรือ กูรู หรือ เซียน
ถ้าเค้าไม่ได้สอนเรา ว่าเค้ามีวิธีคิดอย่างไร
ก็ไม่น่าจะด่วนสรุปว่า อย่างนั้นอย่างนี้
แต่ถ้ามีเจตนาจะเตือน ผมว่า
มีวิธีอื่นอีกเป็นร้อยพัน ทีจะเตือน โดยไม่ใส่ความเป็นตัวตนของเรา
เข้าไปมากๆนะคับ
show me money.
-
- Verified User
- โพสต์: 2141
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 18
พี่บลูเข้าใจผิดตั้งแต่ชื่อกระทู้แล้วblueplanet เขียน:เรื่อง MOS เป็นเรื่องที่ใครๆก็แนะนำปิดท้าย เพราะเป็นคำแนะนำที่เต็มไปด้วยความปราถนาดี
และถ้าเกิดฟังคำแนะนำข้ออื่นๆแล้ว และซื้อหุ้นถ้าขาดทุนแสดงว่าไม่มี MOS หรือ MOS ไม่พอ
ดังนั้นนักลงทุนต้องไปปรับปรุงตัวโดยการเพิ่ม MOS ให้มากขึ้น
เหมือนกับคำแนะนำของเสี่ยคนนึงเมื่อเดือนกว่าๆมานี้ คือให้ถือเงินสดไว้ และรอให้ตลาด
เกิด panic sale ซื้อตอนนั้นถือไว้แล้วกำไรแน่นอน เป็นคำแนะนำที่ไม่มีทางผิด
"ถ้าคนส่วนมากมีวิธีคิดแบบเดียวกัน ก็ต้องเลือกหุ้นชุดเดียวกัน แล้วหุ้นจะมี MOS ได้อย่างไร"
ถ้าเราอยากได้ เราก็จะลด MOS ลง ถ้าเรากลัวเราก็จะไม่ลด คนกลัวก็จะซื้อไม่ได้
ส่วนคนที่ได้ก็เพราะลด MOS ลง หรือมี MOS ต่ำๆ คุณ multipleceilings เห็นด้วยไม๊
ที่เขียนทั้งหมด เหมือนกับว่าผมคร้านอย่างเดียว และทำให้นักลงทุนใหม่ๆสับสน
จริงๆการสับสน มึนงง ไม่เข้าใจ ย่อมดีกว่าเข้าใจอะไรผิดๆ
"ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป"
1. ความเชื่อผิดๆ ทำไมต้องของ VI และทำไมต้องคำแนะนำกูรู ใครก็ตามไปเชื่อคนอีกคนโดยไม่ได้ไตร่ตรอง เค้าคนนั้นต้องรับ consequence หรือผลที่ตามมาด้วยตัวเอง ไม่เห็นเกี่ยวกับ vi หรือ กูรู
2. ไม่มีหลักสูตร VI ไหนในโลกบอกให้เชื่อกูรู อันนั้นเป็นประเด็นส่วนบุคคลแล้วไม่เกี่ยวกับเป็นหรือไม่เป็น VI
กระทู้น่าจะชื่อว่า
"ความเชื่อผิดๆของผม ว่า VI เชื่อคำแนนำของกูรูมากไป"
ไอ้ที่พี่ตอบผมมาตาม quote ไม่รู้เลยจะเริ่มตรงไหนดี พี่เข้าใจผิดหมดเลยครับ ทั้งหมดเลย ตรรกะพี่ไหวไหมครับ เป็นห่วงนะ
1. ขาดทุนไม่ได้เกิดจาก MOS ไม่พออย่างเดียว มองมิติ MOS มิติเดียวไม่ได้........
2. ก่อนจะได้มายัง MOS ต้องมีตัวแปรอื่นๆอีกมากมายที่ต้องรู้ก่อน เช่น fair value เป็นต้น
3. ปัญหาเรื่อง MOS ของพี่จริงๆแล้วเป็นเรื่อง อารมณ์และความพอใจ (อ่านรายละเอียดด้านล่าง)
4. มันไม่เกี่ยวกับสิ่งที่เสี่ยคนนึงบอก พี่มาผูกเรื่องทำให้มันเกี่ยวข้องกันเอง คนละเรื่องเลย เค้าจะพูดอะไรก็เรื่องของเค้า เค้าเป็นคนๆนึงเท่านั้นไม่ได้ represent universe ของแนวคิดหรือการลงทุนใดๆทั้งสิ้น พี่ไปให้น้ำหนักเค้าแล้วเหมารวมเอง
พี่บอกว่า "ถ้าคนส่วนมากมีวิธีคิดแบบเดียวกัน ก็ต้องเลือกหุ้นชุดเดียวกัน แล้วหุ้นจะมี MOS ได้อย่างไร"
- ผมชี้แจงไปแล้วนะ คนส่วนมากคือใคร คิดแบบเดียวกันคืออะไร แบบไหน มันกว้างไป หุ้นชุดเดียวกันคืออะไรกว้างไป หุ้นจะมี MOS หุ้นไหนครับกว้างไป ไม่มีประเด็น หาข้อสรุปไม่ได้สักอย่าง universe ของการลงทุนและหุ้นมันกว้างมาก พี่พูดอะไรของพี่ จับต้นชนปลายมั่วไปหมด ผมไม่รู้เลยด้วยซ้ำจะอธิบายให้พี่ฟังยังไงให้พี่เข้าใจ มันไม่ใช่อะ พี่นึกอะไรออกคิดว่าใช่ก็จับแพะชนแกะมั่วไปหมด
พี่ยังไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าต้องการจะพูดอะไร
ประเด็นที่พี่ว่ามาผมจะแยกให้ดู
a. คนส่วนมากคิดแบบเดียวกัน >>>>> มันมีหลายเรื่องให้คิดนะครับ เรื่องไหนบ้างครับ
b. ถ้ามี set ความคิดแบบนึง ก็มักจะมีการกระทำที่สอดคล้องกับ set ความคิดนั้นแบบนึง >>>>>> การกระทำเป็นตัวตามความคิด ถ้าประเด็นความคิดพี่ยังแจงไม่เคลียเรื่องเลือกหุ้น ไม่ต้องพูดถึง
และผมบอกให้เอาบุญ พี่คิดไปให้จนวันตาย พี่ก็หาข้อสรุปไม่ได้หรอกเพราะมัน varible มันเยอะและ dynamic มากครับ
ทีนี้มาชำแหละต่อ ประเด็นที่พี่จะพูดแต่พี่เองยังไม่เข้าใจนั้นคือเรื่อง demand-supply กระทบ MOS ทำให้ไม่เข้าเงื่อนไขที่ตั้งไว้
จากที่พี่พูดมา ผมแบ่งให้เป็น 4 ตัวแปร
1.คนที่คิดแบบเดียวกัน
2.เลือกหุ้นตัวเดียวกัน
3.ราคาเป้าหมาย อยู่ในช่วงใกล้กัน
4.MOS requirement ใกล้กัน
เงื่อนไขต้องตาม 4 ข้อนี้เท่านั้น (แปลอีกนัยนึงคือมีความต้องการเหมือนหรอใกล้เคียงกัน) ถึงจะเกิดภาวะการกระทำสิ่งเดียวกันทำให้กระทบเงื่อนไขของ demand และกระทบเงื่อนไขของ MOS แต่จะเป็นจริงต่อเมื่อ supply ใน universe นั้นมันมีน้อยมาก
พี่คงไม่เข้าใจเรื่อง availability of supply ในโลกของการลงทุนมันไม่เป็นเช่นนั้น ไม่ได้มี limited supply เสมอไป
ถ้าผมต้องการจะซื้อหุ้น A ที่ 10 บาท อีกคนต้องการเหมือนผม ไม่ได้แปลว่า ผมซื้อแล้วอีกคนจะซื้อไม่ได้ ........ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ supply อย่างที่ผมบอกมัน dynamic มาก นี้ยังไม่รวมกรณี ไม่ 10 บาทเป๊ะ 10.1 10.2 10.3 อะไรว่าไป โห possibility ไม่จบสิ้น ไม่เห็นจะมีปัญหา mos อะไรเลย
และถึงแม้จะมี limited supply เพราะเงิน demand เยอะไปในช่วงนึง นอกจากนักลงทุนจะ flexible ได้และเปลี่ยนเงื่อนไขหากต้องการหุ้นตัวเดิม ก็ยังมีแหล่ง supply แหล่งอื่น หรือ หุ้นตัวอื่นอีก
ปัญหาของพี่คือมองทุกอย่าง static ..... ในโลกความเป็นจริงไม่เป็นเช่นไหน มันไม่ใช่ if - then relationship แบบตายตัว
สิ่งที่พี่ทำเรียกว่า "GENERALIZATION" ซึ่งเป็นแนวคิดที่อันตรายมาก ภาษาบ้านเรียกว่า "เหมารวม" และการเหมารวมของพี่อยู่บนบรรทัดฐานที่ตรรกะเพี้ยนแต่แรก ทำให้ยิ่งไปกันใหญ่
พี่บอกว่า "ถ้าเราอยากได้ เราก็จะลด MOS ลง ถ้าเรากลัวเราก็จะไม่ลด คนกลัวก็จะซื้อไม่ได้
ส่วนคนที่ได้ก็เพราะลด MOS ลง หรือมี MOS ต่ำๆ คุณ multipleceilings เห็นด้วยไม๊"
- พี่พูดอะไรของพี่ครับ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าพี่ไม่เข้าใจสิ่งที่พี่พูดเลย มันไม่เกี่ยวกับ MOS แล้ว มีตัวแปรเพิ่มมาเป็นเรื่องความกลัวกับการกล้าตัดสินใจ มันเหมือนพี่ไปมีปัญหากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ว่า เพราะคิดเหมือนกันจึงแย่งกันซื้อ ชั้นเลยไม่ได้ MOS อย่างที่ต้องการดังใจ เลยต้องจำยอมซื้อแพงขึ้น แบบนี้ก็แปลว่าไม่มี MOS แล้วดิ โถ่ อะไรวะ หลักการใช้ไม่ได้ ไม่ตอบโจทย์ความต้องการเลย โห เรื่องมากนะเนี่ย เรื่องความพอใจ อะไรจะให้มันพอดีเป๊ะขนาดนั้น เสร็จปุ็ปพี่ก็มาโทษหลักการ ทั้งๆที่ไม่เข้าใจจริง
ที่ผมเคยโพสต์ไว้ ผมมองพี่ไม่ผิดเลย พี่ไปทำความเข้าใจประโยคนี้ให้ได้นะครับ จะดีและเป็นศรีแก่ตัวพี่มากเลย
"The pessimist complains about the wind; The optimist expects it to change; The realist adjusts the sails" - William Arthur Ward
"ผู้ที่มองโลกในแง่ร้ายโทษกล่าวว่าแรงและทิศทางลม, ผู้ที่มองโลกในแง่ดีหวังว่าแรงและทิศทางลมจะเปลี่ยนแปลง, ผู้ที่อยู่บนความเป็นจริงปรับผ้าใบเรือให้เข้ากับแรงและทิศทางลม"
ถ้าพี่ตอบโพสตนี้ของผม ผมขอให้พี่อธิบาย ความเข้าใจของหลักการเรื่อง MOS ให้ผมฟังครับ ผมคิดว่าพี่สับสนมาก
ผมว่าพี่อาจต้องทำความเข้าใจทุกอย่างใหม่หมดเลยอะ ผมไม่ว่าๆพี่ผิดเพราะเข้าใจผิด มันดีที่พี่พยายามยกประเด็นขึ้นมาให้เกิดการถกเถียง ถ้าปลายทางพี่ต้องการจะเข้าใจให้ถูกต้องผมยินดีจะช่วย แต่ผมว่าพี่มีปัญหาเรื่องการสื่อสาร พี่เขียนกระทู้ออกมาเชิงเป็นขอความรู้ เป็นแนวคำถาม อะไรดีกว่าครับ ไม่ใช่ยิงชื่อกระทู้มาคนเห็นก็เพลียแล้ว
ทุกกระทู้ที่พี่เขียนมามันส่อออกมาในรูปแบบคนไม่เข้าใจอะไรเลยแล้วมาทำเป็นมั่นใจมาก ผมเคยบอกพี่ไปแล้วว่าผมอ่านสิ่งที่พี่เขียนแล้วเหมือนคนที่เพิ่งค้นพบสิ่งที่เรียกว่าตรรกะ แล้วเพิ่งหัดใช้ เลยเห่อ แต่จริงๆใช้ไม่เป็น
ไม่รู้นะ ปรับวิธีคิดและสื่อสารเถอะครับ เหมือนคุณ sakkaphan บอก ผมก็มีรู้สึกขี้เกียจตอบแล้ว แต่กลัวพี่ลงเหวกับความคิดของพี่จริงๆ พยายามออกมาจากความสับสนให้ได้นะครับ
ขออภัยหากพูดแรงมากหรืออะไร ทั้งหมดคือสิ่งที่ผมคิด ผมพูดออกมาตรงๆเท่านั้น ใครไม่ชอบไม่ต้องอ่านครับ ไม่บังคับ
M aterial catalyst
A ttitude & Perception
D isclipine
A ttitude & Perception
D isclipine
-
- Verified User
- โพสต์: 1254
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 19
สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกใบนี้คือความว่างเปล่า สูงจากว่างเปล่าคือก่อเกิดเปลี่ยนแปลง
http://www.fungdham.com/sound/popup-sou ... up-75.html
http://goo.gl/VjQ4cG
http://www.fungdham.com/sound/popup-sou ... up-75.html
http://goo.gl/VjQ4cG
- tum_H
- Verified User
- โพสต์: 1857
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 20
เฉพาะห้องร้อยคนร้อยหุ้นนะครับ เพราะห้องอื่นๆบุคคลที่ไม่ได้เป็นสมาชิกxavi เขียน: แต่ไหนๆ ถ้าพี่บลูจะเข้ามาไม่ได้แล้ว (ถ้าไม่สมัครสมาชิก)
สามารถโพลส์ได้ตามปรกติครับ
ชาตินี้เป็นที่สุดแล้ว บัดนี้ไม่มีความเกิดอีก
- xavi
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 123
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 21
tum_H เขียน:เฉพาะห้องร้อยคนร้อยหุ้นนะครับ เพราะห้องอื่นๆบุคคลที่ไม่ได้เป็นสมาชิกxavi เขียน: แต่ไหนๆ ถ้าพี่บลูจะเข้ามาไม่ได้แล้ว (ถ้าไม่สมัครสมาชิก)
สามารถโพลส์ได้ตามปรกติครับ
เสียดายเลยครับ กำลังอยากให้พี่บลูใบ้หุ้นแท้ๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 1161
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 22
ผมก็เคยคิดเช่นนี้ครับ มันก็เป็นไปได้ว่าถ้าเราถูกสอนจนเชื่อแบบเดียวกัน เราก็อาจจะทำอะไรคล้ายๆกัน เช่นพ่อแม่สอนการดำเนินชีวิต วิธีกินข้าว อาบน้ำแปรงฟัน สังคมสอนเรื่องจริยธรรมว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำblueplanet เขียน:นี่คือส่วนนึงของคำแนะนำของกูรูหลายๆคน
1. อย่าซื้อหุ้น OEM
2. หุ้นที่ดีต้องมี ROE ROA สูงๆ
3. PE ต่ำ PB ต่ำไม่ใช่หุ้นที่ถูกเสมอไป (ส่วนมากกูรูจะไม่สนใจหุ้นพวกนี้)
4. เป็นบริษัทที่เราสามารถใช้บริการได้ เช่นร้านหน้าปากซอย
5. มีความอดทนในการรอคอย เพื่อให้เกิด panic sale
6. แนะนำให้ใช้จินตนาการคลาดเดาเหตุการณ์ในอนาคต เช่น AEC Megatrend ฯลฯ
7. แนะนำให้ซื้อหุ้นถือยาวไปเลย 10ปี
คำแนะนำเหล่นี้ ดูแล้วก็มีเหตุผลดี น่าทำตาม แทบจะไม่มีอะไรที่เราต้องสงสัย หรือเห็นแย้ง
แต่ ถ้านักลงทุนทุกคนทำตาม อย่างงมงายอะไรจะเกิดขึ้น เมื่อทุกคนมีกรอบความคิดที่เหมือนกัน
จากการขัดเกลาของเหล่ากูรู หุ้นที่เลือกก็จะเป็นหุ้นชุดเดียวกัน เมื่อใครๆก็อยากได้หุ้นชุดนี้
ราคาก็ย่อมแพง และแพงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่กูรูแนะนำให้อดทนรอคอยจนกว่าจะมี MOS ใครเชื่อก็
รอไป อาจจะมีหุ้นบางตัวที่ราคาตกลงมากๆ บางคนคิดว่ามี MOS แต่การลงมากๆอาจจะมาจาก
พื้นฐานมันเปลี่ยน คำแนะนำให้รอคอยจึงไร้ผลในการปฏิบัติจริง
แล้วทำไมส่วนมากกูรูแนะนำคล้ายๆกัน เดิมความเชื่อชุดนี้คนเชื่อยังไม่มาก
คนที่ทำก็ยังไม่มาก คนที่ทำได้รับผลดีมาก คนทำตามก็มากขึ้น ผลดีก็ยิ่งมากขึ้น
ใครเชื่อและทำตามก็ได้รับผลดีกันถ้วนหน้า ถ้าคนเชื่อมากขึ้นเรื่อยๆผลดีจะยิ่งมหาศาล
คือหุ้นชุดนี้จะแพงขึ้นไปเรื่อยๆ แต่มันคงต้องมีวันเลิกลา
การลงทุนก็เช่นกัน การที่เราเห็นกูรูประสบความสำเร็จเราก็อาจจะมีแนวโน้มที่ทำตาม และเป็นไปได้ที่ราคาหุ้นที่ตรงตามที่กูรูบอกนั้นก็อาจจะเป็นที่ต้องการ คือราคาสูงจนเราอาจจะหา MOS ไม่ค่อยได้เลย แต่ในระยะยาวแล้วผมคิดว่ายังไงผลประกอบการที่สะท้อนความคาดหวังของคน จะเป็นตัวกำหนดราคาหุ้นในอนาคตเสมอ
หลายๆอย่างที่กูรูแนะนำ เราก็ควรจะเอามาไตร่ตรองก่อนเสมอ ผมเป็นคนที่เชื่อคนอื่นยากมากๆ พยายามหาและทำตามแนวทางของตัวเองเป็นหลัก โดยใช้หลักบางอย่างของ VI โดยเฉพาะเรื่องการซื้อหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่า (มี MOSมากๆ) และมีความเสี่ยงต่ำ (Downside risk น้อยๆ หรือห้ามขาดทุนนั่นเอง) ปรากฏว่าหุ้นที่ผมเลือกก็ไม่ตรงกับกฏเกณฑ์ข้างต้นของกูรูซักเท่าไหร่เลย หลายๆครั้งลงทุนในบริษัท OEM หรือไม่มีแบรนด์ของตัวเอง ROE หรือ ROA ก็ไม่สูง สิ่งที่ทำตามกฏเกณฑ์มีเพียงอย่างเดียวคือ สามารถอดทนรอคอย การวิเคราะห์ทางธุรกิจที่ไม่เก่งบางครั้งอาจจะถูกชดเชยโดยการควบคุมความโลภและความกลัวของตัวเองได้
ว่าแต่คุณ Blueplanet จะไม่สมัครสมาชิกสมาคมหรือครับ? ผมคิดว่าโพสต์ของคุณ Blueplanet ถึงแม้ว่าจะ challenge ความคิดแบบ VI หลายๆเรื่อง แต่ก็ไม่เคยเห็นว่าจะเป็นกระทู้ที่ไร้สาระเลย กลับเห็นว่าคุณ Blueplanet ต้องศึกษาเรื่อง VI มาเป็นอย่างดี ไม่อย่างนั้นคงตั้งคำถามแบบนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน
ไม่ควรลงทุนอะไร ถ้าไม่รู้สึกสบายใจในสิ่งนั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 1161
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 23
เรื่อง MOS นี่ผมอ่านทุกๆครั้งก็ยังเห็นว่าหลายๆคนเข้าใจแตกต่างกันไปกับคำแนะนำที่ว่า "ต้องซื้อเมื่อมี MOS มากๆ" หลายๆคนพูดว่าที่ต้องทำเช่นนั้นก็เพื่อความปลอดภัย (safety) แต่ผมกลับมองว่า ผมซื้อที่ MOS มากๆเพื่อความคาดหวังกำไรสูงๆ (Upside ที่คุณ nut พูด) ต่างหากblueplanet เขียน:เรื่อง MOS เป็นเรื่องที่ใครๆก็แนะนำปิดท้าย เพราะเป็นคำแนะนำที่เต็มไปด้วยความปราถนาดี
และถ้าเกิดฟังคำแนะนำข้ออื่นๆแล้ว และซื้อหุ้นถ้าขาดทุนแสดงว่าไม่มี MOS หรือ MOS ไม่พอ
ดังนั้นนักลงทุนต้องไปปรับปรุงตัวโดยการเพิ่ม MOS ให้มากขึ้น
เหมือนกับคำแนะนำของเสี่ยคนนึงเมื่อเดือนกว่าๆมานี้ คือให้ถือเงินสดไว้ และรอให้ตลาด
เกิด panic sale ซื้อตอนนั้นถือไว้แล้วกำไรแน่นอน เป็นคำแนะนำที่ไม่มีทางผิด
"ถ้าคนส่วนมากมีวิธีคิดแบบเดียวกัน ก็ต้องเลือกหุ้นชุดเดียวกัน แล้วหุ้นจะมี MOS ได้อย่างไร"
ถ้าเราอยากได้ เราก็จะลด MOS ลง ถ้าเรากลัวเราก็จะไม่ลด คนกลัวก็จะซื้อไม่ได้
ส่วนคนที่ได้ก็เพราะลด MOS ลง หรือมี MOS ต่ำๆ คุณ multipleceilings เห็นด้วยไม๊
ที่เขียนทั้งหมด เหมือนกับว่าผมคร้านอย่างเดียว และทำให้นักลงทุนใหม่ๆสับสน
จริงๆการสับสน มึนงง ไม่เข้าใจ ย่อมดีกว่าเข้าใจอะไรผิดๆ
หากพูดถึงเรื่องความปลอดภัยผมคิดว่าต้องดู Downside risk ต่างหาก คือดูว่า แม้ในสถานการณ์ที่แย่ที่สุด (ไม่ปกติมากๆ) มูลค่าของหุ้นจะเป็นที่เท่าไหร่ การดูความปลอดภัยจะเทียบกับมูลค่าในสภาวะปกติได้เช่นไร จริงไหมครับ? ดังนั้นการใช้ MOS อาจจะทำให้เราพลาดได้หากเกิดวิกฤติ
ก็เป็นแค่ความเห็นส่วนตัว รบกวนวิจารณ์ด้วยครับ
ไม่ควรลงทุนอะไร ถ้าไม่รู้สึกสบายใจในสิ่งนั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 58
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 24
ผมไม่อยากให้มีกระทู้แบบนี้จริงๆนะเหมือนตั้งกระทู้มาแสดงความเป็นห่วง...มาเตือน แต่ก็พาดพิงเหน็บแนมคนอื่นให้เกิดความเสียหาย เกิดประเด็นความคิดขัดแย้ง ถกแก้ความคิดไปมา..ดูมันไม่เกิดประโยชน์ นี่มันหัวข้อ การลงทุนแบบเน้นคุณค่า "Value Investing" ใครชอบในแนวทางนี้ และก็มีบุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจในแนวทางนี้ก็ทำไป...ส่วนท่านที่ไม่เชื่อรึไม่ไว้ใจในแนวทางนี้ก็ต้องไปที่ใหม่ตามความคิดตามแนวทางที่ท่านเชื่อ ท่านชอบ..ไม่ต้องโน้มน้าว หาพรรคพวกให้เชื่อตามแนวทางที่ท่านคิด รึชักจูงผู้อื่นให้เชื่ออย่างที่ท่านเชื่อ เพราะมันไม่เกิดประโยชน์กับคนส่วนรวมที่ใช้เวป thaivi
- Linzhi
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1464
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 25
ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ็ดข้อนี้ หรือกูรูอะไรที่ไหน
ผมก็เห็นเล่นหุ้นตามแห่กัน ไม่ว่าจะเป็น theme อะไรก็ตาม ยาว สั้น dca ไม่ dca upside มาก น้อย วนไปตามอุตสาหกรรมร้อน ๆ ในแต่ละปี
เชื่อใครมากเกินไป ไม่ดีทั้งนั้นครับ ซื้อหุ้นตามใคร ไม่สำคัญ นักลงทุนควรยึดหลักกาลามสูตร 10 ไว้ก็เท่านั้นเองครับ
ผมก็เห็นเล่นหุ้นตามแห่กัน ไม่ว่าจะเป็น theme อะไรก็ตาม ยาว สั้น dca ไม่ dca upside มาก น้อย วนไปตามอุตสาหกรรมร้อน ๆ ในแต่ละปี
เชื่อใครมากเกินไป ไม่ดีทั้งนั้นครับ ซื้อหุ้นตามใคร ไม่สำคัญ นักลงทุนควรยึดหลักกาลามสูตร 10 ไว้ก็เท่านั้นเองครับ
ก้าวช้า ๆ และเชื่อในปาฎิหารย์ของหุ้นเปลี่ยนชีวิต
There is no secret ingredient. It's just you.
There is no secret ingredient. It's just you.
-
- Verified User
- โพสต์: 957
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 26
ลองอ่านบทความ " VI สายดำ/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร "อีกสักครั้ง
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=7&t=49523
อาจมีคำแนะนำบางส่วนก็ได้ ที่อาจกระตุ้นให้คิดก็ได้ ไม่มีการลงทุนแบบใดที่ชนะได้ทุกๆ ช่วงเวลา (ซึ่งการลงทุนแบบ vi ผมก็ยังไม่เคย หรือเห็นใครแนะนำ หรือสอนว่า เป็นการลงทุนที่ชนะทุกๆช่วงเวลา)
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=7&t=49523
อาจมีคำแนะนำบางส่วนก็ได้ ที่อาจกระตุ้นให้คิดก็ได้ ไม่มีการลงทุนแบบใดที่ชนะได้ทุกๆ ช่วงเวลา (ซึ่งการลงทุนแบบ vi ผมก็ยังไม่เคย หรือเห็นใครแนะนำ หรือสอนว่า เป็นการลงทุนที่ชนะทุกๆช่วงเวลา)
ปรัชญาและหลักการการลงทุนที่สำคัญที่ผมคิดว่า VI จะต้องมุ่งไปให้ถึงก็คือ ข้อแรก เขาควรจะลงทุนเฉพาะในสิ่งที่เขารู้จักดี หรือที่บัฟเฟตต์เรียกว่าลงทุนภายใน Circle Of Competence อะไรที่เราไม่รู้ เราไม่ควรลงทุน โดยนัยนี้ เราควรจะมีหุ้นที่เราจะลงทุนได้ไม่มากนักถ้าเราไม่ใช่ “มืออาชีพ” จริง ๆ ข้อสองก็คือ ถ้าจะได้ “สายดำ” VI จะต้องมี “สไตล์” การลงทุนที่ตนเองยึดถือ การลงทุนแบบ “เล่นได้ทุกรูปแบบ” นั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากทีเดียว เพราะความชำนาญและการฝึกฝนของเรานั้นมีจำกัด ไม่เหมือน ปีเตอร์ ลินช์ ที่บริหารกองทุนขนาดมโหฬารและใช้เวลากับมันสูงมาก ดังนั้น สำหรับ VI ทั่วไปแล้ว เราควรจะเลือกหาสไตล์ที่มีโอกาสชนะสูงแล้วฝึกฝนและปฏิบัติจนเก่งและยึดถือมันเป็นหลักในการลงทุน การมีสไตล์นั้นไม่ได้หมายความว่าจะไม่สามารถลงทุนหุ้นแนวอื่นได้ เพียงแต่พอร์ตส่วนใหญ่นั้น น่าจะเป็นการลงทุนในสไตล์ที่ตนเองใช้อยู่
จงจำไว้ว่าไม่มีแนวทางไหนที่ดีและชนะตลอดเวลา ในบางช่วงเวลานั้น แม้แต่กลยุทธ์หรือวิธีการที่แย่ที่สุดในระยะยาวก็สามารถทำผลงานที่ยอดเยี่ยมกว่าวิธีอื่น ๆ ทั้งหมดได้ โดยนัยยะนี้ VI ที่จะเป็นสายดำได้นั้นจะต้องเรียนรู้และยอมรับว่า บ่อยครั้งหรือบ่อยช่วงเวลา พอร์ตของเราอาจจะแพ้คนอื่นที่อาจจะไม่ได้มีสายรัดสีอะไรเลยก็ได้ แต่ในระยะยาวแล้ว VI สายดำก็จะทำผลตอบแทนได้ดีกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 411
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 27
https://www.youtube.com/watch?v=BxBeSv2 ... r_embedded#!blueplanet เขียน:นี่คือส่วนนึงของคำแนะนำของกูรูหลายๆคน
1. อย่าซื้อหุ้น OEM
2. หุ้นที่ดีต้องมี ROE ROA สูงๆ
3. PE ต่ำ PB ต่ำไม่ใช่หุ้นที่ถูกเสมอไป (ส่วนมากกูรูจะไม่สนใจหุ้นพวกนี้)
4. เป็นบริษัทที่เราสามารถใช้บริการได้ เช่นร้านหน้าปากซอย
5. มีความอดทนในการรอคอย เพื่อให้เกิด panic sale
6. แนะนำให้ใช้จินตนาการคลาดเดาเหตุการณ์ในอนาคต เช่น AEC Megatrend ฯลฯ
7. แนะนำให้ซื้อหุ้นถือยาวไปเลย 10ปี
คำแนะนำเหล่นี้ ดูแล้วก็มีเหตุผลดี น่าทำตาม แทบจะไม่มีอะไรที่เราต้องสงสัย หรือเห็นแย้ง
แต่ ถ้านักลงทุนทุกคนทำตาม อย่างงมงายอะไรจะเกิดขึ้น เมื่อทุกคนมีกรอบความคิดที่เหมือนกัน
จากการขัดเกลาของเหล่ากูรู หุ้นที่เลือกก็จะเป็นหุ้นชุดเดียวกัน เมื่อใครๆก็อยากได้หุ้นชุดนี้
ราคาก็ย่อมแพง และแพงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่กูรูแนะนำให้อดทนรอคอยจนกว่าจะมี MOS ใครเชื่อก็
รอไป อาจจะมีหุ้นบางตัวที่ราคาตกลงมากๆ บางคนคิดว่ามี MOS แต่การลงมากๆอาจจะมาจาก
พื้นฐานมันเปลี่ยน คำแนะนำให้รอคอยจึงไร้ผลในการปฏิบัติจริง
แล้วทำไมส่วนมากกูรูแนะนำคล้ายๆกัน เดิมความเชื่อชุดนี้คนเชื่อยังไม่มาก
คนที่ทำก็ยังไม่มาก คนที่ทำได้รับผลดีมาก คนทำตามก็มากขึ้น ผลดีก็ยิ่งมากขึ้น
ใครเชื่อและทำตามก็ได้รับผลดีกันถ้วนหน้า ถ้าคนเชื่อมากขึ้นเรื่อยๆผลดีจะยิ่งมหาศาล
คือหุ้นชุดนี้จะแพงขึ้นไปเรื่อยๆ แต่มันคงต้องมีวันเลิกลา
http://www.youtube.com/watch?v=jAqoctipLFY
http://www.youtube.com/watch?v=31ENJqEE ... re=g-all-u
ลองกลับสู่พื้นฐานกันดีไหมครับ (อันที่จริงพี่น่าจะเพิ่มความเข้าใจในตัวธุรกิจไปด้วยนะครับ ผมว่าน่าจะสำคัญที่สุดนะครับ^^)
stay calm stay invest
- dino
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1281
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 28
หึหึ
1 ซื้อหุ้นของกิจการที่ดี
2 มีกำไรต่อเนื่องไปในอนาคต
3 ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
4 ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ
5 และถือมันไว้ ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดีอยู่
วอเรนซ์ บัฟเฟตต์
2 มีกำไรต่อเนื่องไปในอนาคต
3 ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
4 ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ
5 และถือมันไว้ ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดีอยู่
วอเรนซ์ บัฟเฟตต์
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 29
3ข้อ ของท่านอาจารย์ ได้ผลเสมอ ครับ
1.ลงทุนด้วยหลักแนวคิด VI และมีสไตล์เป็นของตัวเอง (มีวงสวิงของตัวเอง)
2.จิตใจที่ลงทุนนั้นต้องไม่หวั่นไหวโดยง่าย
3.ใช้ชีวิตในหลักการ พอเพียง ใช้ชีวิตแบบรู้ คุณค่า
ข้อ1นั้น จะยากสุด การค้นพบว่าจะตีลูกด้วยวงสวิงยังไงให้ลูกลอยออนกรีน
มันก้ยากพอๆ กับการหาสไตล์ที่จะต่อยคู่ต่อสู้ให้ลงไปนอนกองนับ10
แต่ ถ้าตีออนกรีน 1 ครั้งแล้ว ครั้งต่อๆไปมันก้จะตามมาเอง
วันสุดท้ายในเวปไทยวีไอแล้ว คงไม่มีอะไรจะบอกนอกจาก สีของสายคาดนั้น
ต้องอาศัยประสบการณ์จากสาย เหลือง เขียว .........ดำ
การเป็น VIสายดำ ก้ต้องผ่าน ด่านทดสอบทั้งหลายให้ได้ก่อน
จึงจะเป็น VI สายดำได้
คำเดิม
ถ้าวอเรนท์ลงทุนแบบเกรแฮมทุกอย่าง ก้เป็นได้แค่เกรแฮม2 แต่วอเรนท์ไม่ใช่
เพราะ วอเรนท์มี สไตล์ ของเค้าเอง
จึงมี วอเรนท์ บัฟเฟต
1.ลงทุนด้วยหลักแนวคิด VI และมีสไตล์เป็นของตัวเอง (มีวงสวิงของตัวเอง)
2.จิตใจที่ลงทุนนั้นต้องไม่หวั่นไหวโดยง่าย
3.ใช้ชีวิตในหลักการ พอเพียง ใช้ชีวิตแบบรู้ คุณค่า
ข้อ1นั้น จะยากสุด การค้นพบว่าจะตีลูกด้วยวงสวิงยังไงให้ลูกลอยออนกรีน
มันก้ยากพอๆ กับการหาสไตล์ที่จะต่อยคู่ต่อสู้ให้ลงไปนอนกองนับ10
แต่ ถ้าตีออนกรีน 1 ครั้งแล้ว ครั้งต่อๆไปมันก้จะตามมาเอง
วันสุดท้ายในเวปไทยวีไอแล้ว คงไม่มีอะไรจะบอกนอกจาก สีของสายคาดนั้น
ต้องอาศัยประสบการณ์จากสาย เหลือง เขียว .........ดำ
การเป็น VIสายดำ ก้ต้องผ่าน ด่านทดสอบทั้งหลายให้ได้ก่อน
จึงจะเป็น VI สายดำได้
คำเดิม
ถ้าวอเรนท์ลงทุนแบบเกรแฮมทุกอย่าง ก้เป็นได้แค่เกรแฮม2 แต่วอเรนท์ไม่ใช่
เพราะ วอเรนท์มี สไตล์ ของเค้าเอง
จึงมี วอเรนท์ บัฟเฟต
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
-
- Verified User
- โพสต์: 732
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ความเชื่อผิด ๆ ของ VI คือเชื่อคำแนะนำของกูรูมากไป
โพสต์ที่ 30
ชอบๆ
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป