หุ้นนอกสายตา/ดร.ชาคริต สุวรรณโชติ

บทความต่างๆที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม

โพสต์ โพสต์
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1593
ผู้ติดตาม: 2

หุ้นนอกสายตา/ดร.ชาคริต สุวรรณโชติ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

หุ้นนอกสายตา

ดร.ชาคริต สุวรรณโชติ

สัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสพบปะสังสรรค์กับเพื่อนเก่าที่เคยเรียนอยู่มหาลัยเดียวกันปัจจุบันหลายๆ คนก็มีเส้นทางชีวิตของตัวเองบ้างก็อยู่ในสายงานวิศวกรรมโยธาอย่างที่ได้เรียนมาบ้างออกทำงานในสายการเงิน บ้างก็ไปเป็นผู้จัดการกองทุนและบ้างก็ออกมาลงทุนเต็มเวลาแปลกที่เมื่อก่อนสมัยที่เรียนอยู่มหาลัยหรือจบใหม่ๆเรื่องที่มักจะถูกนำมาพูดคุยกันในโต๊ะอาหารมักจะเป็นเรื่อง แฟนคนนั้นคนนี้ อกหัก ดารา ภาพยนต์ หรือแม้แต่เรื่องเกมส์ออนไลน์แต่วันนั้นที่เจอกันเรื่องที่นำมาคุยกัน 90%จะเกี่ยวกับเรื่องหุ้นและการลงทุน 

กลับมาเรื่องที่ผมอยากจะพูดถึงวันนี้ เรื่อง หุ้นนอกสายตาซึ่งผมได้ไอเดียนี้มาจากเพื่อนคนนึงซึ่งตอนนี้ออกมาลงทุนเต็มตัวแล้วผมคิดว่าน่าสนใจดีเลยนำมาเล่าสู่กันฟังปกติผมก็เป็นคนนึงที่ชอบหาหุ้นนอกสายตาเพื่อเข้าลงทุนโดยหลักๆแล้วหุ้นนอกสายตาอาจแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ 

1. นอกสายตานักลงทุนรายย่อยหุ้นพวกนี้มักจะเป็นหุ้นที่ไม่มีโวลุ่ม และมี Market Cap ค่อนข้างเล็กหรือ น้อยกว่า 1,000 ล้านถ้าลองสังเกตดูจะพบว่ามักมีการซื้อขายต่อวันน้อยกว่า 0.5% ของ Market Capทั้งหมด หรือบางครั้งอาจจะน้อยกว่านั้นมากๆ พูดได้ว่าสภาพคล่องน้อยหุ้นประเภทนี้มักจะยังไม่อยู่ในสายตาของนักลงทุนรายย่อยนักลงทุนที่มีพอร์ตขนาด 10 ล้านบาทขึ้นไปอาจใช้เวลานานในการสะสมหุ้นประเภทนี้ ข้อดีของหุ้นประเภทนี้ คือ มักจะมีMargin of Safety หรือพูดอีกแง่นึงคือ Downside risk ไม่สูงนักส่วนข้อเสียของหุ้นประเภทนี้คือ มักมองเห็น upside ได้ไม่ชัดเจนราคาอาจจะ +-10% มาเป็นช่วงเวลานาน หรือ กำไรอาจโตเพียงตามเงินเฟ้อทุกๆปีแม้ว่าหุ้นบางตัวอาจจะให้ปันผลไม่แย่นักเพราะฉะนั้นจุดสำคัญที่สุดในการเลือกลงทุนในหุ้นประเภทนี้คือ ตัวเร่งที่จะสามารถทำให้หุ้นนอกสายตานักลงทุนรายย่อย กลายเป็น หุ้นเข้าตาไม่ว่าจะเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากวงจรเศรษฐกิจหรือการเปลี่ยนแปลงภายในบริษัทที่เราคาดการว่าจะนำไปสู่งการเปลี่ยนแปลงไปทางที่ดีอย่างถาวรของบริษัทเช่น เปลี่ยนผู้บริหาร ปรับโครงสร้างหนี้ ขายบริษัทย่อย (ตัดเนื้อร้าย)เปลี่ยนวิธีการบันทึกบัญชี เปลี่ยนนโยบายทางการเงินบางอย่าง หรืออื่นๆ 

2. นอกสายตานักลงทุนสถาบันหุ้นพวกนี้จะแตกต่างจากหุ้นประเภทแรก คือเมื่อมองในมุมของนักลงทุนรายย่อยนั้นโวลุ่มเพียงพอที่จะซื้อขายได้ภายในครั้งเดียวโดยไม่กระทบกับการเปลี่ยนแปลงของราคาตลาดในขณะนั้นมากนักโดย Market Cap จะไม่เกิน 10,000ล้านบาทและมีการซื้อขายต่อวันโดยเฉลี่ยไม่เกิน 50 ล้านบาทหุ้นประเภทนี้อาจจะยังอยู่นอกสายตานักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศเนื่องจากมี เงื่อนไขไม่ตรงกับเงื่อนไขที่สามารถลงทุนได้หุ้นประเภทนี้เป็นหุ้นที่น่าสนใจลงทุนอย่างมากสำหรับนักลงทุนที่มีพอร์ตเกิน10 ล้านบาท เนื่องจากปัญหาการซื้อขายของหุ้นจากสภาพคล่องน้อยกว่าประเภทแรกและยังมีโอกาสทำกำไรได้มากเมื่อหุ้นดังกล่าวทำกำไรได้มากและทำให้ Marketcap เข้าเงื่อนไขของนักลงทุนสถาบันหุ้นประเภทนี้สังเกตได้จากการดูรายชื่อผู้ถือหุ้นในปัจจุบันและบางบริษัทอาจจะมีตัวเร่งที่เกี่ยวข้องกับ Free float ในตลาด เช่นบริษัทมีการแตกพาร์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ประกาศลดสัดส่วนการถือหุ้น และอื่นๆ 

หุ้นนอกสายตาทั้งสองประเภทมีโอกาสทำกำไรให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างเป็นกอบเป็นกำเมื่อมันเปลี่ยนสภาพเป็น หุ้นเข้าตาการลงทุนในหุ้นนอกสายตานั้นอาจจะใช้เวลาและความพยายามค่อนข้างมากโดยเฉพาะหุ้นนอกสายตาประเภทแรก เนื่องจากมักจะไม่มีบทวิเคราะห์ ไม่มีOppday และไม่ค่อยมีบทสัมภาษน์จากผู้บริหารบางครั้งก็ต้องใช้ความอดทนรอคอยนักลงทุนรายอื่นหันมาสนใจในหุ้นดังกล่าวซึ่งจะกลายเป็นต้นทุนทางด้านเวลาของเราส่วนหุ้นนอกสายตานักลงทุนสถาบันนั้น แม้ว่าหาข้อมูลได้ไม่ยากนักแต่ก็มีความเสี่ยงทางด้าน Downside risk ที่มากขึ้นกว่าประเภทแแรกเนื่องจากว่าหุ้นอาจจะเข้าตานักลงทุนรายย่อยไปนานแล้ว และนำไปสู่ง Marginof Safety ที่ลดลง ทำให้เราต้องพิจารณาอย่างถ้วนถี่ก่อนการลงทุนสุดท้ายการหาความรู้และฝึกฝนอย่างเป็นประจำโดยเฉพาะการพิจารณาถึงกุญแจ 5ดอกของการลงทุนที่ได้พูดไปในบทความที่ผ่านมาจะช่วยให้เราป้องกันการสูญเสียเงินต้นและสร้างความมั่งคั่งได้อย่างมั่นคงในระยะยาว
[/size]
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: หุ้นนอกสายตา/ดร.ชาคริต สุวรรณโชติ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณ ดร. คาบุ สำหรับบทความดี ๆ ครับ

ผมมีหุ้นนอกสายตาอีกประเภทหนึ่งมานำเสนอ

หุ้นพวกนี้ ผมเรียกว่า เป็น เคน ธีรเดช ก่อนเข้าวงการ หุ้นพวกนี้จะดูจากผลงานที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยมี จะดูจากงบการเงินก็ปานกลาง แย่ ดี หรือ ทรง ๆ แต่พวกเค้ากำลังทำอะไรอยู่สักอย่าง ซึ่งแน่นอนบางครั้งกินเวลาเป็นปี แต่เมื่อมีความสำเร็จเกิดขึ้นและเข้ากระแสจริง ๆ อะไรก็เอาไม่อยู่

เราจะสังเกตุพวกเค้าออกได้อย่างไร?
1 เรื่องการลงทุน นลท. ควรจดว่า บริษัท จะทำอะไรน่าสนใจแค่ไหน แต่อย่าพึ่งเชื่อ จดและวิเคราะห์ ใช้เงินเท่าไร ยาวนานแค่ไหนเมื่อไรจะประสบความสำเร็จ (เชื่อผมเถอะส่วนใหญ่ล้มเหลว)

2 New นี่คือคีย์เวิร์ด ทองคำ ให้จดไว้ว่า บริษัทมีอะไรใหม่ เช่น ผบห.ใหม่ ผถห.ใหม่ สินค้าใหม่ ธุรกิจใหม่ และ ฯลฯ ที่ลงท้ายด้วยคำว่าใหม่ จดไว้และวิเคราะห์ (ซึ่งเชื่อผมเถอะส่วนใหญ่ก็ล้มเหลวเหมือนกัน)

แต่ท่ามกลางความล้มเหลวเหล่านั้น จะมีคนที่เจ๋งจริง ผ่านลอดออกมาได้ และพวกเค้าก็จะเป็นม้านอกสายตาที่จะมาสร้างความงุนงงให้กับตลาดหุ้นและ นลท. ทุกคน
ภาพประจำตัวสมาชิก
kabu
Verified User
โพสต์: 2149
ผู้ติดตาม: 0

Re: หุ้นนอกสายตา/ดร.ชาคริต สุวรรณโชติ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอบคุณครับพี่ N.B
หวังว่าผมจะได้สัมผัสกับ หุ้นเคน ธีรเดช อย่างที่พี่ N.B กล่าวถึงบ้างนะครับ ^^
ภาพประจำตัวสมาชิก
dome@perth
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4740
ผู้ติดตาม: 0

Re: หุ้นนอกสายตา/ดร.ชาคริต สุวรรณโชติ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอบคุณครับสำหรับบทความดีๆ
อยากเจอหุ้นนอกสายตาจัง :D
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง
"
ภาพประจำตัวสมาชิก
kabu
Verified User
โพสต์: 2149
ผู้ติดตาม: 0

Re: หุ้นนอกสายตา/ดร.ชาคริต สุวรรณโชติ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

[quote="dome@perth"]ขอบคุณครับสำหรับบทความดีๆ
อยากเจอหุ้นนอกสายตาจัง :D[/quote]

ผมว่าพี่โดมเจอไปแล้วตั้งแต่ 2-3 ปีก่อน เจอตั้งแต่ "นอกสายตา" ทั้งรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน จนถึงตอนนี้หุ้นตัวนั้นกลายเป็น "หุ้นเข้าตา" ทั้งรายย่อยทั้งนักลงทุนสถาบันแล้ว แถมมี Growth ให้อีก ยกนิ้วให้เลยครับ ^^ หุ้นพวกนี้ผมเรียกว่า "หุ้นเปลี่ยนฐานะ" ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Financeseed
Verified User
โพสต์: 1304
ผู้ติดตาม: 0

Re: หุ้นนอกสายตา/ดร.ชาคริต สุวรรณโชติ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ขอบคุณครับ ^^
โพสต์โพสต์