อยากให้ลูกเป็นVI
-
- Verified User
- โพสต์: 495
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากให้ลูกเป็นVI
โพสต์ที่ 31
ผมว่ามันเป็นวิถีชีวิตนะครับ
คล้ายศาสนาำนึงสำหรับการลงทุนก็ได้นะครับ
ไม่มีสาขาวิชาไหนสอนได้นะ เท่าที่ผมรู้ตอนนี้
ต้องศึกษาและปฏิบัติด้วยตนเองถึงจะเข้าใจด้วยตนเองได้
ในมุมมองของผมแล้วการค้นพบความสามารถของตัวเองและขัดเกลามันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างนึง ไม่จำเป็นต้องเป็นนักลงทุนก็ได้นะครับ
คล้ายศาสนาำนึงสำหรับการลงทุนก็ได้นะครับ
ไม่มีสาขาวิชาไหนสอนได้นะ เท่าที่ผมรู้ตอนนี้
ต้องศึกษาและปฏิบัติด้วยตนเองถึงจะเข้าใจด้วยตนเองได้
ในมุมมองของผมแล้วการค้นพบความสามารถของตัวเองและขัดเกลามันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างนึง ไม่จำเป็นต้องเป็นนักลงทุนก็ได้นะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1822
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากให้ลูกเป็นVI
โพสต์ที่ 32
เท่าที่ทราบ ปูนใหญ่ มีให้ทุนไปเรียน mba ที่โคลัมเบีย
ดังนั้นก็เรียนวิศวะ จุฬา ไปทำงานปูนใหญ่ แล้วก็ไปสอบภาษาและ gmat ให้ได้ แล้วขอทุนปูนใหญ่ไปเรียน แล้วก็ลงเรียนวิชาการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
หรือมีเงินก็ดำเนินการเพื่อให้ได้ไปเรียน mba ที่นู่นเองครับ
ได้เป็นวีไอแน่นอนครับ
ดังนั้นก็เรียนวิศวะ จุฬา ไปทำงานปูนใหญ่ แล้วก็ไปสอบภาษาและ gmat ให้ได้ แล้วขอทุนปูนใหญ่ไปเรียน แล้วก็ลงเรียนวิชาการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
หรือมีเงินก็ดำเนินการเพื่อให้ได้ไปเรียน mba ที่นู่นเองครับ
ได้เป็นวีไอแน่นอนครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 842
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากให้ลูกเป็นVI
โพสต์ที่ 33
นินทาลูกต่อดีกว่า...
วันก่อนมันปิดเทอมมาเยี่ยมบ้าน
พามันไปที่โบรค ออกรายงานให้มันดู
ตามันเป็นประกายเลย ถามโน่นนี่นั่น
เลยเอาหนังสือเอิร์นคอนเสพของอ.เทพให้มันไป
(ที่เคยให้ไปก็มีก่อนพ่อตาย พ่อรวยสอนลูก ตัน โออิชิ
ไอแป๊ก. เหลือโอวาทสี่ท่านเหลี่ยวฝ่านยังไม่ได้ให้)
เมื่อวานแม่ผมบอกผมว่า แม่มันโทรมาฟ้อง
บอกว่า มันจะเอาตังค์ที่มันฝากไว้สองหมื่นมาเล่นหุัน
เลยบอกแม่ไปว่า
ไม่เป็นไร ให้มันเล่นจนเจ๊งไปเลย
คราวหน้ามันจะได้ระวัง
ดีกว่ามันไปอิ๊บอ๋ายตอนเราตายไปแล้ว
พอมาอ่านประวัตินักลงทุนระดับโลกหลายๆคน
สว่นใหญ่จะมีตัวอย่าง(มักเป็นพ่อ)
เจ๊งให้ลูกเห็นก่อน(อ.เนฟอ.ลินช์ๆลๆ)
นี่เราต้องเจ๊งให้มันได้คิดก่อนมั้ยเนี่ย
ขนาดเอารายงานหุ้นเทเลคอมเอเชีย
38เหลือ3.8 ให้มันดูแล้วนะ
"จริง จริง" นะจ๊ะ จะบอกให้
555
วันก่อนมันปิดเทอมมาเยี่ยมบ้าน
พามันไปที่โบรค ออกรายงานให้มันดู
ตามันเป็นประกายเลย ถามโน่นนี่นั่น
เลยเอาหนังสือเอิร์นคอนเสพของอ.เทพให้มันไป
(ที่เคยให้ไปก็มีก่อนพ่อตาย พ่อรวยสอนลูก ตัน โออิชิ
ไอแป๊ก. เหลือโอวาทสี่ท่านเหลี่ยวฝ่านยังไม่ได้ให้)
เมื่อวานแม่ผมบอกผมว่า แม่มันโทรมาฟ้อง
บอกว่า มันจะเอาตังค์ที่มันฝากไว้สองหมื่นมาเล่นหุัน
เลยบอกแม่ไปว่า
ไม่เป็นไร ให้มันเล่นจนเจ๊งไปเลย
คราวหน้ามันจะได้ระวัง
ดีกว่ามันไปอิ๊บอ๋ายตอนเราตายไปแล้ว
พอมาอ่านประวัตินักลงทุนระดับโลกหลายๆคน
สว่นใหญ่จะมีตัวอย่าง(มักเป็นพ่อ)
เจ๊งให้ลูกเห็นก่อน(อ.เนฟอ.ลินช์ๆลๆ)
นี่เราต้องเจ๊งให้มันได้คิดก่อนมั้ยเนี่ย
ขนาดเอารายงานหุ้นเทเลคอมเอเชีย
38เหลือ3.8 ให้มันดูแล้วนะ
"จริง จริง" นะจ๊ะ จะบอกให้
555
samatah
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1575
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากให้ลูกเป็นVI
โพสต์ที่ 34
อีก 2-3 สัปดาห์
รายการ moneytalk ทาง tnn2
จะออกอากาศรายการสัมภาษณ์ แขกอายุ 12-13 ขวบ
น้องเยลหลี ชั้น ม.2
วิเคราะห์หุ้นอย่างแตกฉาน
ไว้คอยดูกันว่าเรียนรู้อย่างไร
เผื่อเอาไว้ให้ลูกเราได้เรียนรู้ด้วย
รายการ moneytalk ทาง tnn2
จะออกอากาศรายการสัมภาษณ์ แขกอายุ 12-13 ขวบ
น้องเยลหลี ชั้น ม.2
วิเคราะห์หุ้นอย่างแตกฉาน
ไว้คอยดูกันว่าเรียนรู้อย่างไร
เผื่อเอาไว้ให้ลูกเราได้เรียนรู้ด้วย
ดู clip รายการ money talk ย้อนหลังได้ที่
http://www.facebook.com/MoneyTalkTV
http://www.facebook.com/MoneyTalkTV
-
- Verified User
- โพสต์: 89
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากให้ลูกเป็นVI
โพสต์ที่ 35
คงต้องเริ่มปลูกฝังแนวคิดตั้งแต่เด็ก (ยังไม่ต้องเกี่ยวกับหุ้น) เช่นอะไรคุ้มหรือไม่คุ้มในการซื้อ สอนให้รู้จักค่าของเงิน ให้เงินเค้าเป็นรายเดือนให้เค้าจัดการตัดสินใจเองว่าจะซื้อหรือไม่ซื้ออะไรเพราะอะไร โดย ผู้ปกครองคอยชี้แนะ และถ้าเค้าตัดสินใจแล้วต้องเคารพการตัดสินใจของเค้าด้วยนะครับ แล้วค่อย ๆ สอนกันไป เริ่มได้เลยตั้งแต่เด็กเริ่มอยากได้โน่นนี่นั่น (ผมเริ่มตั้งแต่ลูก 4-5 ขวบ) พอให้เงินเค้า(แต่เก็บไว้ที่เรานะ) เค้าจะอยากได้โน่นนี่นั่นน้อยลง ใช้เวลาในการตัดสินใจมากขึ้น ตอนนี้เค้าเงินเก็บนิดหน่อยพาไปเปิดบัญชีแล้วด้วย ตื่นเต้นใหญ่เลย
เวลาที่เค้าไปเที่ยวหรือไปกินอะไรก็แล้วแต่อันไหนเป็นสินค้าของบริษัทที่เราถือหุ้นอยู่้ก็บอกเค้าด้วย เค้ายังไม่เข้าใจหรอก แต่ก็เล่าให้ฟังไปเรื่อย ๆ เช่นถ้าพาเค้าเข้าร้านหนังสือ ก็จะบอกเค้าว่าร้านนี้พ่อเป็นเจ้าของอยู่บางส่วน ถ้าเค้าซื้อที่นี่พ่อจะได้เงินคืนนิดหน่อยตอนสิ้นปี อะไรประมาณนี้ เป็นการจุดประกายความคิดไปเรื่อย ๆ
อะไรประมาณนี้
เวลาที่เค้าไปเที่ยวหรือไปกินอะไรก็แล้วแต่อันไหนเป็นสินค้าของบริษัทที่เราถือหุ้นอยู่้ก็บอกเค้าด้วย เค้ายังไม่เข้าใจหรอก แต่ก็เล่าให้ฟังไปเรื่อย ๆ เช่นถ้าพาเค้าเข้าร้านหนังสือ ก็จะบอกเค้าว่าร้านนี้พ่อเป็นเจ้าของอยู่บางส่วน ถ้าเค้าซื้อที่นี่พ่อจะได้เงินคืนนิดหน่อยตอนสิ้นปี อะไรประมาณนี้ เป็นการจุดประกายความคิดไปเรื่อย ๆ
อะไรประมาณนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 42
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากให้ลูกเป็นVI
โพสต์ที่ 36
ผมคิดว่าเรียนคณะอะไรก็ได้ขอเพียงสร้างนิสัยให้เป็น VI ให้ได้ ที่เหลือก็ต้องบ่มเพาะกันไป
ผมมีลูกคนโตเรียนอยู่ชั้น ป.2 พยายามสอนให้เขาเป็นคนดี รู้คุณค่าของเงิน รู้จักการออมเงิน
พยายามอธิบายให้ฟังเรื่องผลตอบแทนจากการฝากเงินเป็นดอกเบี้ย เขาก็พอเข้าใจ แต่พอ
เปลี่ยนเป็นลูกเก็บได้เท่าไรในแต่ละเดือนพ่อให้เพิ่มอีกหนึ่งเท่ารู้สึกว่าเขาจะเข้าใจเรื่องผล
ตอบแทนมากขึ้น
ผมเองก็อยากให้เขาเป็น VI แต่น่าจะต้องสอนกันเองเรียนกันเอง
ผมมีลูกคนโตเรียนอยู่ชั้น ป.2 พยายามสอนให้เขาเป็นคนดี รู้คุณค่าของเงิน รู้จักการออมเงิน
พยายามอธิบายให้ฟังเรื่องผลตอบแทนจากการฝากเงินเป็นดอกเบี้ย เขาก็พอเข้าใจ แต่พอ
เปลี่ยนเป็นลูกเก็บได้เท่าไรในแต่ละเดือนพ่อให้เพิ่มอีกหนึ่งเท่ารู้สึกว่าเขาจะเข้าใจเรื่องผล
ตอบแทนมากขึ้น
ผมเองก็อยากให้เขาเป็น VI แต่น่าจะต้องสอนกันเองเรียนกันเอง
-
- Verified User
- โพสต์: 105
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากให้ลูกเป็นVI
โพสต์ที่ 37
ผมว่าจะเป็น VI หรือไม่น่าจะอยู่ที่นิสัยส่วนตัวในการลงทุนของคนนั้นๆนะครับ วิชาที่เรียนมาไม่น่าจะเกี่ยวเท่าไหร่ เพราะอย่างนั้นผมว่าเรียนในสิ่งที่ชอบน่าจะทำให้มีโอกาสมีชีวิตที่มีความสุขมากที่สุด
-
- Verified User
- โพสต์: 1822
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากให้ลูกเป็นVI
โพสต์ที่ 38
เหมือนยังไม่มีใครทราบว่า หลักการลงทุนแบบวีไอนี้ มีมานานมากแล้ว และสอนกันในมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย โดยอาจารย์เกรแฮม ปัจจุบันเป็นวิชาหนึ่งในหลักสูตร mba สอนโดยอาจารย์กรีนวอลด์ และศิษย์เก่าที่โด่งดังที่เชิญมาบรรยาย
เท่าที่ทราบในอเมริกามีมหาวิทยาลัยอื่นแห่งหนึ่งและที่แคนาดา ที่มีสอนวิชาหรือสาขาด้านนี้ เป็น mba เหมือนกัน
ส่วนถ้าจะปลูกฝังด้านนิสัยจิตใจนั้น ผมว่ามันแล้วแต่สภาวะของแต่ละครอบครัวด้วยครับ สังเกตว่าคนที่เก่งๆเหล่านี้เคยมีวัยเด็กที่ยากจนเป็นปัจจัยกดดันและเร่งให้มีความมุ่งมั่นจนสำเร็จได้ บางคนเกิดมาสบายเลยไม่รู้ว่าลำบากเป็นยังงัย แถมมีไม่น้อยที่เสียคนเละเทะก็มี
เท่าที่ทราบในอเมริกามีมหาวิทยาลัยอื่นแห่งหนึ่งและที่แคนาดา ที่มีสอนวิชาหรือสาขาด้านนี้ เป็น mba เหมือนกัน
ส่วนถ้าจะปลูกฝังด้านนิสัยจิตใจนั้น ผมว่ามันแล้วแต่สภาวะของแต่ละครอบครัวด้วยครับ สังเกตว่าคนที่เก่งๆเหล่านี้เคยมีวัยเด็กที่ยากจนเป็นปัจจัยกดดันและเร่งให้มีความมุ่งมั่นจนสำเร็จได้ บางคนเกิดมาสบายเลยไม่รู้ว่าลำบากเป็นยังงัย แถมมีไม่น้อยที่เสียคนเละเทะก็มี